ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 1304 มิติถูกเปิดเผย + 1305 ขาดออกซิเจนอย่างรุนแรง

Now you are reading ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น Chapter 1304 มิติถูกเปิดเผย + 1305 ขาดออกซิเจนอย่างรุนแรง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1304 มิติถูกเปิดเผย

เหมยเหมยใจเต้นแรง เธอเพิ่งได้สตินึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เธอคิดว่าตนเองตายแล้ว จึงได้ตำหนิสวรรค์ไปมากมาย เหยียนหมิงซุ่นต้องได้ยินแน่ ๆ

เธอจะทำอย่างไรดี?

หรือว่าเธอสารภาพกับเหยียนหมิงซุ่นไปตรง ๆเลยดี?

แบบนี้เหยียนหมิงซุ่นจะหาว่าเธอเป็นตัวประหลาดไหม?

แต่ถ้าหากไม่สารภาพ เธอจะปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปเช่นไร?

“เอ่อ…เคยทำร้ายฉันมาก่อน…” เหมยเหมยพูดตะกุกตะกัก ใจเต้นโครมคราม

เหยียนหมิงซุ่นถอนหายใจไม่ได้ซักไซ้ถามต่อ ยัยเด็กบื้อไม่รู้วิธีการโกหก พอโกหกก็จะประหม่าพาลทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ซึ่งแบบนี้ไม่ดีแน่เพราะออกซิเจนมีไม่เพียงพอ

รอออกไปได้แล้วเขาค่อย ๆซักไซ้ไล่เรียงเด็กบื้อนี้อีกทีแล้วกัน!

อันที่จริงเขาคาดเดาไว้ในใจอยู่แล้วแต่กลับไม่กล้ายืนยัน แต่เขารู้สึกว่าน่าจะเป็นอย่างที่เขาคิด แบบนี้ก็สามารถอธิบายได้ว่าทำไมเหมยเหมยที่อายุสิบสองปีถึงนิสัยใจคอเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ จากอดีตที่เคยอดทนต่อสิ่งแวดล้อมที่โหดร้ายกลับกลายมาเริ่มต่อต้านตระกูลอู่!

“ไม่ต้องคิดมากแล้ว รักษาระดับการหายใจไว้ พูดให้น้อยหน่อย”

เหมยเหมยพรูลมหายใจ ไม่ถามก็ดีแล้วเธอนึกไม่ออกเลยว่าจะตอบอย่างไรดี!

อาจจะมีสักวันที่เธอบอกเหยียนหมิงซุ่นทุกอย่าง แต่ไม่ใช่ตอนนี้แน่นอน

เวลาผ่านไปช้า ๆ เหมยเหมยรู้สึกว่าอากาศค่อยๆเบาบางลง หายใจได้อย่างยากลำบาก ภาพตรงหน้าพร่ามัว รู้สึกคลื่นไส้ในทรวงอก แต่เธอก็พยายามอดทนไว้ไม่อยากให้เหยียนหมิงซุ่นกังวลเป็นกังวล

เหยียนหมิงซุ่นรู้สึกถึงความผิดปกติของเหมยเหมยที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาได้นานแล้ว แต่เขาก็จนปัญญาที่จะช่วย เขาพยายามใช้ออกซิเจนให้น้อยที่สุด เขาเคยผ่านการฝึกฝนพิเศษซึ่งคล้ายกับวิธีการหายใจของเต่า โดยสามารถบังคับความถี่ของการหายใจได้ เพื่อนำมาใช้ปรับให้เข้ากับสภาพทางภูมิศาสตร์พิเศษ

แต่เหมยเหมยไม่เคยได้รับการฝึกฝนแบบนี้มาก่อน!

เหยียนหมิงซุ่นปรารถนาให้ตนเหมือนนักมายากล เสกถังออกซิเจนออกมาได้

“ฉันไม่เป็นไร… พี่หมิงซุ่นไม่ต้องเป็นห่วง…ฉันยังอยากแต่งงานกับพี่อยู่นะ…”

เหมยเหมยพูดเสียงเบา พยายามให้ตนเองพูดออกมาช้า ๆ เพื่อไม่ให้เหยียนหมิงซุ่นรู้ว่าตอนนี้เธออาการไม่ดีนัก

“ไม่ต้องพูดแล้ว…แล้วก็อย่าหลับตา…ต้องลืมตาเอาไว้นะ…” เหยียนหมิงซุ่นกำชับไม่หยุด กลัวว่าเหมยเหมยจะหลับไป ภายใต้สถานการณ์แบบนี้การนอนหลับหมายถึงความตาย

เหมยเหมยตอบรับเสียงเบาเพราะเธอไม่มีแรงจะพูดแล้ว แต่เธอรับรู้ได้ว่าเหยียยหมิงซุ่นเป็นกังวล จึงยื่นมือไปตบเขาเบา ๆให้เขารู้ว่าตัวเองไม่เป็นอะไร

ท่าเคลื่อนไหวที่ง่ายดายตามปกติของเธอ ตอนนี้กลับดูยากลำบากกว่าการยกก้อนหินเสียอีก เสียเวลานานมากกว่าเหมยเหมยจะแตะถึงแขนของเหยียนหมิงซุ่น แต่กลับลูบเจอของเหลวเหนียวติดมือ

“พี่หมิงซุ่นพี่ได้รับบาดเจ็บเหรอ?”

เหมยเหมยลุกพรวดขึ้นมาอย่างร้อนรน อยากจะตรวจดูอาการของเขา พลันยิ่งโมโหตัวเองที่ลืมนึกไปว่าเหยียนหมิงซุ่นใช้ร่างกายปกป้องเธอโดยเอาตัวเองคุ้มกันไว้ด้านนอก แล้วแบบนี้จะไม่ให้โดนทับได้ไงล่ะ?

ทำไมเธอถึงได้โง่ขนาดนี้!

“ไม่เป็นไร…อย่าขยับ!”

เหยียนหมิงซุ่นส่งเสียงร้อง เหมยเหมยโดนบาดแผลของเขา

เมื่อครู่รีบร้อนไปหน่อย เหมยเหมยยิ่งหายใจถี่และหายใจเข้าออกอย่างยากลำบาก ภาพตรงหน้าก็เริ่มมืดลงเช่นกัน แต่เธอยังคงได้ยินเสียงร้องครวญครางของเหยียนหมิงซุ่น ก็ยิ่งร้อนใจคิดว่าเหยียนหมิงซุ่นได้รับบาดเจ็บสาหัส

เธอนำไฟฉายออกจากมิติเล็กโดยไม่คิดอะไรทั้งนั้น เพื่อเธอแล้วเหยียนหมิงซุ่นถึงยอมเสี่ยงตายเข้ามา ต่อให้เรื่องมิติเล็กจะถูกเปิดเผยแล้วจะทำไม?

เธอจะใจแคบเห็นแก่ตัวขนาดนี้ได้อย่างไร?

แสงที่ฉายขึ้นมาฉับพลันทำให้เหยียนหมิงซุ่นต้องหรี่ตาลง เขามองไปที่ไฟฉายในมือเหมยเหมยด้วยความประหลาดใจและข้อสงสัยมากมาย

เขาจำได้อย่างชัดเจนว่าตอนที่พุ่งเข้ามาช่วย ข้างกายเหมยเหมยไม่มีกระเป๋าเป้และไม่มีกระเป๋าในตัวที่สามารถใส่ไฟฉายได้เลย ถ้าอย่างนั้น ——

ไฟฉายอันนั้นของเธอเอามาจากไหนล่ะ?

…………………………………………..

ตอนที่ 1305 ขาดออกซิเจนอย่างรุนแรง

เหมยเหมยก็ไม่ได้อธิบายต่อ เวลานี้เธอหงุดหงิดมาก หากเธอใส่ถุงออกซิเจนสักสองสามถุงไว้ในมิติเล็กคงไม่ต้องอยู่ในสภาวะลำบากแบบนี้หรอก ถ้าครั้งนี้ออกไปได้เธอจะต้องเตรียมถุงออกซิเจนเอาไว้หน่อยแล้ว

เธอส่องไฟฉายไปที่ตัวของเหยียนหมิงซุ่น เห็นรอยแผลเลือดซึมบนร่างกายของเขาก็อดตาแดงก่ำไม่ได้ แต่เธอพยายามกลั้นไว้อีกครั้ง

เธอไม่สามารถสิ้นเปลืองออกซิเจนได้อีกแล้ว!

“ไม่ต้องกลัว… แค่แผลภายนอกเท่านั้น” เหยียนหมิงซุ่นอธิบายรวบกระชับ และไม่ได้ถามว่าไฟฉายในมือของเหมยเหมยเอามาจากไหน ถ้าหากเหมยเหมยอยากบอก เธอคงเป็นฝ่ายเปิดปากบอกเอง

“ฉันมี… ยารักษา…”

เหมยเหมยหายใจหอบตอบ เธอหยิบยาหยุนหนานไป๋เหยาออกจากมิติฟันที่คอของเธอต่อหน้าเหยียนหมิงซุ่น เธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเมื่อก่อนตอนที่เตรียมของใส่ไว้ในมิติเล็ก เธอเตรียมยาหยุนหนานไป๋เหยาเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉินด้วย

เหยียนหมิงซุ่นเลิกคิ้วมองไปที่คอของเหมยเหมยด้วยความสนใจ ลำคอที่เปื้อนเลือดและฝุ่นเต็มไปหมดไม่ขาวผ่องเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่เขาก็ยังมองออกว่าที่ว่างรอบคอเมื่อครู่กลับปรากฏเชือกเส้นแดงเส้นหนึ่ง น่าจะเป็นเครื่องประดับ ไม่ใช่ไฟฉายและยาหยุนหนานไป๋เหยาอย่างแน่นอน

เจ้าหญิงน้อยของเขามีความลับสำคัญ!

และเธอก็ไม่คิดที่จะปิดบังแล้ว!

จุดนี้ทำให้เขาดีใจมาก บาดแผนบนร่างกายก็ไม่รู้สึกว่าเจ็บอีกต่อไปแล้ว

“พี่ทาเอง…” เหยียนหมิงซุ่นรับยามาสาดลงไปบนแผลไม่น้อย ผลลัพธ์ไม่เลวเพราะเลือดหยุดไหลแล้ว ความเจ็บก็เบาลงไปพอสมควร

เหมยเหมยหยิบยาน้ำออกมาอีก ตัวเองดื่มไปสองสามหยดพลันรู้สึกสบายขึ้นมากแล้วส่งให้เหยียนหมิงซุ่นดื่มต่อ ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถเพิ่มออกซิเจนได้ แต่เพิ่มความทนทานให้ร่างกายได้

“ออกไปฉันค่อยอธิบาย…” เหมยเหมยพูดเสียงเบา

ในเมื่อตัดสินใจเปิดเผยเรื่องมิติเล็กนี่แล้ว แน่นอนว่าเธอจะไม่ปิดบังเหยียนหมิงซุ่นอีกต่อไป เธอคิดได้แล้วหากสามารถออกไปได้อย่างปลอดภัย เธอจะบอกความลับทั้งหมดให้เหยียนหมิงซุ่นรู้ เหยียนหมิงซุ่นยอมตายเพื่อเธอ เธอจึงไม่ต้องการปิดบังมันอีกต่อไป

แม้ว่าจะดื่มยาน้ำไปแล้ว แต่ก็มิอาจต้านทานความเบาบางของอากาศได้ แม้แต่เหยียนหมิงซุ่นก็ยังรู้สึกอึดอัด ไม่ต้องพูดถึงเหมยเหมยเลย เพราะตอนนี้ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีเขียวม่วงแล้ว สติก็พร่าเลือน

เป็นอาการขาดออกซิเจนอย่างรุนแรง ถ้ายังออกไปไม่ได้เหมยเหมยคงอยู่ได้นานไม่เกินห้านาที

“ครืด… คราด…”

เสียงเบาดังลอยมาเหมือนมีคนกำลังเจาะกำแพงด้านนอกและเคลื่อนย้ายอิฐ สีหน้าของเหยียนหมิงซุ่นพลันลิงโลดขึ้นมาทันที พวกพี่เสือเจาะเข้ามา ฟังจากเสียงน่าจะอยู่ไม่ไกลมาก เขาและเหมยเหมยน่าจะสามารถออกไปได้ในไม่ช้า

“เหมยเหมยอย่าหลับ อีกไม่นานพวกเราก็ออกไปกันได้แล้ว อดทนหน่อยนะ…”

เหยียนหมิงซุ่นตบหน้าของเหมยเหมยเบา ๆ เพื่อช่วยเรียกสติ เหมยเหมยปรือตาเล็กน้อยแล้วหันไปส่งยิ้มให้เหยียนหมิงซุ่น พึมพำว่า “พี่หมิงซุ่น…ฉันยังมีความลับอีกเยอะแยะเลย…ที่ยังไม่ได้บอกพี่…ฉันไม่ได้ตั้งใจ…จะปิดบังพี่…นะ พี่…อย่า…โมโหนะ…”

“ไม่ต้องพูดแล้ว เหมยเหมยอดทนหน่อยนะ…พี่รอเธอออกไปก่อนค่อยเล่าให้ฟัง…ต้องอดทนไว้นะ…”

เหยียนหมิงซุ่นสูดหายใจเข้าลึกเอาออกซิเจนที่เขาเก็บไว้ในปอดประกบปากส่งให้เหมยเหมย เหมยเหมยรู้สึกดีขึ้นบ้างแต่สีหน้าของเหยียนหมิงซุ่นกลับดูแย่

“ไม่เอาแล้ว…”

อยู่ดี ๆเหมยเหมยก็มีแรงขึ้นมา เธอปิดปากแน่น ไม่ยอมให้เหยียนหมิงซุ่นส่งออกซิเจนให้เธออีก หากไม่มีเธอเป็นตัวถ่วงเหยียนหมิงซุ่นจะต้องหนีออกไปได้แน่นอน

เธอไม่สามารถทำร้ายเหยียนหมิงซุ่นได้อีกต่อไปแล้ว!

ระหว่างที่ทั้งคู่ไม่มีใครยอมใคร ไฟฉายในมือของเหยียนหมิงซุ่นตกลงพื้น ทันใดนั้นเขาก็คิดอะไรขึ้นมาได้ นึกถึงการทดลองเล็ก ๆที่เมื่อก่อนเคยอ่านเจอในหนังสือ ตอนนี้มีหนึ่งในอุปกรณ์มีอยู่แล้วแล้ว หากมีอีกอุปกรณ์อีกอันเขาก็สามารถช่วยเหมยเหมยได้แล้ว

………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด