ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 493 พวกคุณคือคนเดียวกัน + 494 ลูกสาวที่อยู่ในฝัน

Now you are reading ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น Chapter 493 พวกคุณคือคนเดียวกัน + 494 ลูกสาวที่อยู่ในฝัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
ตอนที่ 493 พวกคุณคือคนเดียวกัน + ตอนที่ 494 ลูกสาวที่อยู่ในฝัน

ตอนที่ 493 พวกคุณคือคนเดียวกัน

จ้าวอิงหนานคิดๆ ไปก็รู้สึกว่าใช่ อย่าพูดเลยว่าลูกชายไม่รู้ชื่อของเหยียนซินหย่า แม้กระทั่งพ่อสยงก็ยังไม่รู้ แต่ไหนแต่ไรมาเธอก็เรียกแต่ ‘พี่สะใภ้เล็ก’ ไม่เคยพูดถึงชื่อที่บ้านมาก่อน

น่าประหลาดใจเสียจริง  ทำไมอู่เหมยถึงได้รู้ชื่อของพี่สะใภ้เล็กของเธอได้ล่ะ?

เหยียนซินหย่าใจเต้นนึกขึ้นมาได้ จึงเอ่ยถามว่า “ชื่อของเด็กอู่เหมยคือตัวหนังสือสองตัวไหน?”

เหยียนหมิงซุ่นพูดยิ้มๆ ว่า “อู่ที่มาจากอู่ซู่ เหมยที่มาจากเหมยเหมาที่แปลว่าคิ้วที่โค้งสวย ปีนี้อายุสิบสองปี วันเกิดคือเดือนหกเป็นตอนที่ร้อนที่สุด”

ร่างกายของเหยียนซินหย่าสั่นเทา พลันนึกถึงเรื่องบนรถไฟตอนกลางวันที่เหยียนหมิงซุ่นได้ถามเธอว่ารู้จักเหอปี้อวิ๋นหรือไม่ ในเวลานั้นเธอยังคิดว่าเหยียนหมิงซุ่นรู้จักกับคนของครอบครัวนั้น จึงปฏิเสธอย่างเด็ดขาด ตอนนี้ดูแล้ว…

สามีของเหอปี้อวิ๋นคืออู่เจิ้งซือ เธอยังจำได้เมื่อยี่สิบปีก่อนเหอปี้อวิ๋นก็กำลังจะคลอดลูก น่าจะช้ากว่าเธอหน่อย เวลานั้นหลังจากที่เธอคลอดเหมยเหมย อู่เจิ้งซือก็บอกว่าเหอปี้อวิ๋นยังต้องรออีกหลายวันถึงจะคลอด หรือว่าเหอปี้อวิ๋นก็คลอดลูกสาวเหมือนกัน?

พูดขึ้นมาเธอยังอยากจะไปขอบคุณอู่เจิ้งซือด้วยตัวเองเลย!

ยี่สิบปีก่อนไม่มีใครสักคนยินดีที่จะช่วยเหลือเธอ มีอู่เจิ้งซือเพียงคนเดียวที่ก้าวออกมาอย่างกล้าหาญ ปล่อยห้องให้เธอเช่า แถมยังติดต่อหมอตำแยให้เธออีก ถึงแม้ว่าลูกสาวที่น่าสงสารของเธอจะไม่ได้ลืมตาดูโลก แต่เธอก็ยังรู้สึกซาบซึ้งใจนึกขอบคุณอู่เจิ้งซืออยู่ดี

ผ่านมาหลายปีแต่กลับไม่ได้ไปขอบคุณต่อหน้า ช่างเสียมารยาทมากจริงๆ!

“คุณน้า คุณไม่รู้สึกแปลกหรอว่าทำไมเหมยเหมยถึงได้รู้จักชื่อของคุณได้? อีกทั้งทำไมเธอถึงได้มีหน้าตาคล้ายกับคุณ?” เหยียนหมิงซุ่นพูดขัดจังหวะการรำลึกความหลังของเหยียนซินหย่า

จ้าวอิงหนานกระวนกระวายใจ รีบไล่บี้ถามไม่หยุดว่า “หมิงซุ่นอย่ามัวแต่อุบไว้ รีบพูดต่อ เหมยเหมยเธอรู้ได้ยังไง!”

อันที่จริงเหยียนซินหย่าก็เดาสาเหตุได้อยู่บ้าง อู่เหมยแซ่อู่ และเหยียนหมิงซุ่นก็ยังถามเธอว่ารู้จักเหอปี้อวิ๋นหรือไม่ บวกกับอายุและวันเกิด ดูแล้วสาวน้อยที่ขื่ออู่เหมยคนนี้น่าจะเป็นไปได้ว่าจะเป็นหลานสาวของเธอ!

เพียงแค่นึกไม่ถึงว่าอู่เจิ้งซือก็จะตั้งชื่อลูกสาวว่าเหมยเหมย!

ยิ่งนึกไม่ถึงว่าโลกจะเล็กแคบขนาดนี้ น้องสาวของสามีจะรับเอาลูกสาวของเหอปี้อวิ๋นมาเป็นลูกบุญธรรม!

นึกถึงเหอปี้อวิ๋น คิ้วของเหยียนซินหย่ากลับขมวดเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว เธอไม่ยินดีที่จะเกี่ยวข้องพัวพันกับครอบครัวใจดำอำมหิตของคุณลุงอีกต่อไปแล้วจริงๆ

แต่ก็ต้องโทษเธอที่แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยพูดเรื่องในบ้านของตัวเองเลย น้องสาวของสามีพวกเขาจึงไม่รู้ถึงที่มาของตัวเธอ เหอปี้อวิ๋นและอู่เจิ้งซือ เพียงแต่ว่าพรหมลิขิตนี่ก็ช่างบังเอิญไปหน่อย

“ฉันเดาว่า เด็กที่ชื่ออู่เหมยคนนั้นพ่อก็คืออู่เจิ่งซือใช่หรือไม่ ส่วนแม่ก็ชื่อเหอปี้อวิ๋น?” เหยียนซินหย่าพูดพลางยิ้มน้อยๆ

จ้าวอิงหนานอ้าปากค้าง  เบิ่งตาโตกระพริบตาถี่ๆ  ผ่านไปนานสติก็ยังไม่กลับมา!

สยงมู่มู่กระทุ้งแม่ของตัวเองอย่างเงียบๆ ถามเสียงเบาว่า “แม่ แม่เป็นคนพูด?”

จ้าวอิงหนานพยักหน้ารัวๆ ด้วยความสัตย์จริง เธอไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว คืนนี้นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทุกคนต่างกลายเป็นเชอร์ล็อคโฮล์มส์กันไปหมดแล้ว?

จ้าวอิงหัวพอได้ยินชื่อเหอปี้อวิ๋น ในใจก็รู้สึกขยะแขยงราวกับกินแมลงวันเข้าไป  พาลรู้สึกไม่ดีกับอู่เหมยไปด้วย ผู้หญิงที่น่ารังเกียจแบบนั้นสั่งสอนลูกสาวออกมา จะดีได้แค่ไหนกันเชียว?

เขามองไปทางจ้าวอิงหนานไม่พูดอะไร รอจนเหยียนหมิงซุ่นไปแล้ว เขาค่อยพูดคุยกับน้องสาว ลูกสาวบุญธรรมคนนี้รับมาแล้วก็ช่างมัน แต่ห้ามพาไปขายขี้หน้าที่เมืองหลวงเด็ดขาด วันหลังจะรับเป็นญาติบุญธรรมอะไร ต้องขัดลูกตาให้สะอาดดีๆ เสียก่อน

เหยียนหมิงซุ่นพยักหน้า “ใช่ครับ อู่เหมยเป็นลูกสาวของลูกพี่ลูกน้องคุณเหอปี้อวิ๋น คุณเป็นคุณป้าของเธอ แต่คุณกับเหมยเหมยหน้าตาเหมือนกันเป็นอย่างกับแกะ ดังนั้นตอนที่ผมอยู่บนรถไฟถึงได้ลืมตัวเสียมารยาทไปเช่นนั้น!”

“เฮ้อ เจอเรื่องวุ่นวายมาครึ่งค่อนวัน คุณป้าของเหมยเหมยก็คือคุณป้าเล็กนี่เอง ผมว่าแล้วทำไมที่ไหนๆ ก็มีแต่คนที่หน้าตาเหมือนยัยเด็กซื่อบื้อนี่!”

สยงมู่มู่ที่เหมือนเพิ่งตื่นจากฝันก็ตะโกนเสียงดัง รู้สึกแค่เพียงว่ามันน่าเหลือเชื่อมาก

…………………………………………..

ตอนที่ 494 ลูกสาวที่อยู่ในฝัน

จ้าวอิงหนานคู่สามีภรรยาก็อ้าปากค้างอย่างอดไม่ได้ ทอดถอนใจว่าโลกใบนี้มันช่างเล็กเสียจริงๆ รับลูกบุญธรรมมาแบบสุ่มๆ นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นญาติที่เกี่ยวดองกันในบ้าน หากเหยียนหมิงซุ่นไม่พูด ก็ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์แบบนี้จะเปิดเผยให้กระจ่างออกมาได้เมื่อไหร่!

พ่อสยงพูดยิ้มๆว่า “พูดถึงเรื่องที่เหมยเหมยหน้าตาเหมือนพี่สะใภ้เล็กถือเป็นเรื่องปกติมากๆ หลานสาวหน้าเหมือนคุณป้ามีถมไป!”

จ้าวเสวียหลินที่เงียบกริบมาตลอดก็เปิดปากพูดว่า “คุณอา คุณอามีรูปของอู่เหมยไหมครับ? ที่จริงแล้วเธอหน้าเหมือนกับแม่ของผมมากขนาดไหนกัน?”

จ้าวอิงหนานตบหน้าผากตัวเอง ตะโกนขึ้นอย่างหงุดหงิดว่า “โอ๊ย ดูสมองหมูของฉันสิ ดีใจขึ้นมาอะไรก็ลืมไปหมด ฉันจะไปหยิบรูปของเหมยเหมยตอนนี้แหละ”

เธอพูดไปวิ่งไปทางห้องนอนอย่างอึกทึกครึกโครม แล้วก็กลับมาอย่างรวดเร็วดุจสายลม ในมือมีอัลบั้มรูปเล่มหนึ่ง เป็นรูปภาพที่ถ่ายเอาไว้ตอนที่อู่เหมยออกไปเที่ยวเล่นกับพวกเขา ยังมีตอนแสดงงานโรงเรียนครั้งที่แล้ว พ่อสยงถ่ายภาพอู่เหมยบนเวทีไว้ ในอัลบั้มรูปเล่มนี้มีแต่รูปเธอทั้งหมด

“รูปนี้ถ่ายเมื่อเดือนที่แล้วพวกเราทั้งครอบครัวไปเดินเล่นกันที่สวนสาธารณะ นี่ คนนี้ก็คือเหมยเหมย พวกคุณดูสิว่าเหมือนพี่สะใภ้เล็กหรือไม่?”

จ้าวอิงหนานพูดพลางชี้ไปที่รูปอู่เหมย คำพูดเต็มไปด้วยความรักที่มีให้กับอู่เหมย เหยียนซินหย่ามองแค่เพียงแวบเดียว คนทั้งหมดต่างก็ชะงักงัน มองสาวน้อยที่ยิ้มอยู่บนรูปภาพอย่างแน่นิ่ง

ระหว่างคิ้วของเธอมีไฝสีแดงชาด!

สาวน้อยคนนี้เหมือนคนเดียวกันกับลูกสาวในฝันของเธอไม่มีผิด ไม่ต่างกันเลยแม้แต่นิดเดียว!

เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?

เธอทำไมถึงได้ฝันถึงลูกสาวของเหอปี้อวิ๋น?

อีกทั้งในฝันยังเรียกเธอว่าแม่อีก?

“ซินหย่าเป็นอะไรไป?” จ้าวอิงหัวนึกว่าอาการป่วยของภรรยาแย่ลงอีก เกิดอาการร้อนใจเป็นอย่างมาก

ผ่านไปครู่ใหญ่เหยียนซินหย่าถึงจะได้สติ รีบจับมือของสามีเอาไว้แน่น พูดอย่างรีบร้อนว่า “อิงหัว ฉันเคยเห็นเธอ ฉันเคยเห็นเด็กสาวคนนี้ ในฝันเป็นเด็กคนนี้ไม่ผิดแน่ เหมือนกับในฝันอย่างกับแกะ…”

เพราะว่ากระวนกระวาย เสียงพูดของเหยียนซินหย่าก็เลยตะกุกตะกัก อีกทั้งเสียงก็เบามาก พวกจ้าวอิงหนานได้ยินแค่เพียงคำสองคำ จับใจความไม่ได้เลยสักอย่าง แต่จ้าวอิงหัวกลับฟังเข้าใจ สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

เขามองพินิจพิจารณารูปของอู่เหมยอีกครั้ง ช่างเหมือนกับภรรยาของเขามากจริงๆ อีกทั้งยังเหมือนลูกสาวที่เขาและภรรยาเคยจินตนาการไว้ ในตอนที่ภรรยาเขาท้องนั้น เขามักจะพูดบรรยายหน้าตาของลูกสาวที่อยู่ในหัวให้กับภรรยาฟัง หน้าตาก็เหมือนกับในรูปภาพเลย

จ้าวอิงหัวรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาบ้างแล้ว ทำให้ความรู้สึกรังเกียจอู่เหมยที่เป็นลูกสาวของเหอปี้อวิ๋นเบาบางลงไป แค่เพียงเห็นหน้าตาแบบนี้ เขาก็รังเกียจไม่ลงแล้ว!

เหยียนหมิงซุ่นประสาทหูตาค่อนข้างไว เขาจับคำสำคัญหลายคำมารวมไว้ด้วยกัน ผสมกับคำพูดที่เหยียนซินหย่าเพิ่งพูดออกมาเมื่อกี้ ก็ยิ่งรู้สึกตกใจอย่างไม่มีอะไรมาเทียบได้

“คุณน้า คุณเคยฝันถึงเหมยเหมยใช่หรือไม่ครับ? คร่าวๆ คือตอนไหน?” เหยียนหมิงซุ่นร้อนใจอยู่บ้าง เขารู้สึกว่าตัวเองเริ่มเข้าใกล้ความจริงแล้ว

ไม่เพียงแต่อู่เหมยที่เคยฝันถึงเหยียนซินหย่า เหยียนซินหย่าก็เคยฝันถึงอู่เหมย นี่จะต้องไม่ใช่สายเลือดอันบางเบาระหว่างคุณป้ากับหลานสาวเป็นแน่ ถึงได้สามารถมีโทรจิตสื่อถึงกันได้!

เหยียนซินหย่าพงกหัวช้าๆ “ใช่แล้ว น่าจะประมาณหนึ่งเดือนก่อนที่ฉันฝันถึงลูกสาวคนเล็ก หน้าตาเหมือนสาวน้อยที่อยู่บนรูปภาพเลย เมื่อกี้ฉันถึงได้ตกใจมากจริง”

ครอบครัวของจ้าวอิงหนานทั้งบ้านต่างก็อ้าปากค้างกันยกใหญ่ บนใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกว่ามันช่างน่าเหลือเชื่อ เหยียนซินหย่ากับอู่เหมยห่างไกลกันเป็นพันเป็นหมื่นลี้ อีกทั้งยังไม่เคยพบเจอกันมาก่อน เหยียนซินหย่าทำไมถึงได้ฝันถึงเธอกันล่ะ?

พ่อสยงสงบสติอารมณ์ลงมา พูดว่า “นี่คงจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญล่ะมั้ง ไม่แน่บางทีอาจจะเป็นอิงหนานพูดเคยพูดเรื่องเหมยเหมยกับพี่สะใภ้เล็ก แถมยังพูดอีกว่าเหมยเหมยหน้าตาเหมือนพี่สะใภ้เล็ก กลางวันพูดถึงนึกถึงกลางคืนถึงได้ฝันถึงไง ตอนกลางคืนพี่สะใภ้เล็กถึงได้ฝันถึงเหมยเหมย”

คนอื่นๆถึงแม้ว่าจะรู้สึกว่าการอธิบายแบบนี้มันจะดูฝืนๆ ไปสักหน่อย แต่ก็พยายามคิดว่าควรจะต้องเป็นแบบนี้แหละ ไม่อย่างนั้นจะอธิบายว่าอย่างไรได้?

เหยียนหมิงซุ่นยังคงพูดให้คนอึ้งต่อไปว่า “ถ้าอย่างนั้นการที่เหมยเหมยฝันถึงคุณน้าล่ะจะอธิบายว่าอย่างไร?”

…………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด