ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 1838 ก่วนเสี่ยวอวี้ทำตัวเอง + 1839 เสียวเป่าคือใคร

Now you are reading ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น Chapter 1838 ก่วนเสี่ยวอวี้ทำตัวเอง + 1839 เสียวเป่าคือใคร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1838 ก่วนเสี่ยวอวี้ทำตัวเอง

ความจริงไม่ใช่ก่วนเสี่ยวอวี้เป็นฝ่ายมาหาเฉินเจียก่อน เธอถูกคนของโจวจื่อหัวจับตาดูทุกวันเลยไม่มีทางหนีอออกมาได้ เฉินเจียต่างหากที่ปลอมตัวเป็นแขกไปหาก่วนเสี่ยวอวี้หลังเห็นก่วนเสี่ยวอวี้จากหนังโป๊

ก่วนเสี่ยวอวี้เห็นเขาเปรียบดั่งพ่อพระมาโปรด จึงอ้อนวอนขอร้องให้เฉินเจียช่วยขอร้องโจวซิงเอ๋อร์แทนเธอให้ไว้ชีวิตเธอที ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเธออยู่ต่อไม่ได้แล้วจริง ๆ

เฉินเจียเห็นหญิงสาวที่แต่เดิมน่ารักสดใสและผลการเรียนดี ไม่ได้เจอกันแค่ไม่กี่วันก็กลายเป็นสาวบริการที่อยู่ชนชั้นต่ำสุด เขาย่อมต้องรู้สึกเดือดดาลเป็นธรรมดาเลยโทรหาโจวซิงเอ๋อร์ก่อนจะต่อว่าอีกฝ่ายด้วยถ้อยคำไม่น่าฟังเท่าไร

สยงมู่มู่แค่นเสียงทีหนึ่ง โง่เขลาจริง ๆด้วย!

แต่สิ่งที่เขาสนใจกลับเป็นอีกเรื่องหนึ่งมากกว่า–

“นายดูหนังโป๊เป็นด้วยเหรอ? พัฒนาขึ้นนี่!” สยงมู่มู่พูดล้อเลียน

เฉินเจียหน้าแดงก่ำแล้วพูดแก้ตัว “ฉันไม่ได้ดู เพื่อนฉันต่างหากที่เป็นคนเอามา ฉันสงสัย…ก็…ก็เลยดูแวบหนึ่ง…”

เขามีแค่ความสงสัยจริง ๆ ในเมื่อตอนนี้อายุยี่สิบปีแล้ว เขาเคยฝันเปียกมาก็หลายครั้งย่อมต้องอยากรู้สิ่งที่ชายหญิงชอบทำด้วยกันอยู่แล้ว พอได้ยินว่าเพื่อนได้หนังโป๊ดาวยั่วที่กำลังโด่งดังในช่วงนี้มา แถมยังเชิญชวนให้เขาไปร่วมดูด้วยกันอีก เฉินเจียไม่มีทางปฏิเสธอยู่แล้ว

ตอนแรกเขาจำไม่ได้ว่าผู้หญิงที่แต่งหน้าเข้มในหนังคือก่วนเสี่ยวอวี้ เพียงแต่เห็นว่าหน้าคุ้น ๆเลยถามเพื่อนถึงรู้ชื่อดาวยั่วว่าชื่อก่วนเสี่ยวอวี้ เขาจึงตกใจอย่างมากหลงคิดว่าก่วนเสี่ยวอวี้ถูกคนหลอกเลยคิดวิธีตามหาก่วนเสี่ยวอวี้จนเจอ

ไม่มีใครเชื่อข้อแก้ตัวของเฉินเจีย เด็กผู้ชายดูหนังโป๊เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เด็กผู้หญิงมากมายยังแอบดูด้วยซ้ำ!

“ก่วนเสี่ยวอวี้เป็นแบบนี้เพราะกรรมตามสนองเธอทั้งนั้น เฉินเจียนายเก็บความเห็นใจของนายไว้ดีกว่า เก็บไว้ให้คนขอทานพวกนั้นเถอะ!” สยงมู่มู่พูดประชด

สิ่งที่โจวซิงเอ๋อร์ประสบมาพวกสยงมู่มู่กับเซียวเซ่อรู้กันดีและรู้ว่าก่วนเสี่ยวอวี้นั้นขายเพื่อนตัวเอง ผู้หญิงแบบนี้ทำตัวเองทั้งนั้น

เฉินเจียช่วยอธิบายแทนก่วนเสี่ยวอวี้ “ต่อให้เสี่ยวอวี้ทำอะไรผิดไปจะด่าจะตีก็ช่าง แต่เอาเธอไปขายในที่แบบนั้นได้ไงกัน แล้วยังถ่ายหนังแบบนั้นอีก…มันจะเกินไปแล้ว!”

“งั้นนายรู้ไหมว่าก่วนเสี่ยวอวี้ทำเรื่องชั่ว ๆอะไรกับโจวซิงเอ๋อร์ไปบ้าง? ถ้าไม่ใช่เพราะเธอคุณนายโจวก็จะไม่ตายอย่างอนาถ โจวซิงเอ๋อร์ก็จะไม่ถูกคน…”

เหมยเหมยขัดสยงมู่มู่ไว้ก่อน โจวซิงเอ๋อร์คงไม่อยากให้เฉินเจียรู้เรื่องของเธอ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่ควรให้พวกเขาเป็นฝ่ายบอก

สยงมู่มู่เองก็สำนึกได้ว่าตนพูดผิดไปเลยหุบปากอยู่เงียบ ๆ พลางถลึงตาใส่เฉินเจียอย่างดุดัน

เฉินเจียชะงักไปชั่วขณะ เขาไม่คิดว่าการตายของคุณย่าของโจวซิงเอ๋อร์จะเป็นเพราะก่วนเสี่ยวอวี้ แล้วไหนจะอีกครึ่งประโยคหลังที่สยงมู่มู่ยังพูดไม่จบดีอีก เกิดอะไรขึ้นกับโจวซิงเอ๋อร์กันแน่?

“เฉินเจีย นายอย่าไปฟังคำด้านเดียวของก่วนเสี่ยวอวี้สิ ซิงเอ๋อร์เป็นผู้หญิงที่ดี เมื่อก่อนดีกับก่วนเสี่ยวอวี้จากใจจริง ๆ ช่วยเหลือเธอมากมาย แต่สุดท้ายกลับถูกเพื่อนสนิทคนนี้แทงข้างหลัง คุณย่าที่เธอรักมากที่สุดต้องตาย เธอเองก็มีชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น

แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เอาคืนก่วนเสี่ยวอวี้คนเดียว ไม่ได้ทำอะไรครอบครัวเธอเลย”

เหมยเหมยพูดยาวเหยียดก่อนหยุดพักหายใจ สยงมู่มู่จึงพูดเสริมต่อ “จากความสามารถของคุณปู่โจวซิงเอ๋อร์ เอาครอบครัวก่วนเสี่ยวอวี้ให้ตายมันง่ายยิ่งกว่าฆ่ามดทั้งรังซะอีก จะให้ฉันว่านะโจวซิงเอ๋อร์เมตตาพอแล้ว”

เซียวเซ่อที่ทานไอศกรีมอยู่เงียบ ๆวางช้อนลงแล้วเอ่ยเสียงเย็นชา “ถ้าเปลี่ยนเป็นฉัน คนต่ำช้าอย่างก่วนเสี่ยวอวี้ ฉันคงฆ่าให้ตายไปทั้งครอบครัวแล้ว!”

เฉินเจียตัวสะท้านเฮือก

น่ากลัวจัง!

เซียวเซ่อกลืนไอศกรีมคำโตลงท้องไปแล้วพูดเสริมอีกประโยค “แต่ฉันไม่มีทางให้คนต่ำช้าอย่างก่วนเสี่ยวอวี้มาอยู่ใกล้ ๆได้หรอก โจวซิงเอ๋อร์โง่เกินไป”

………………………………………………

 ตอนที่ 1839 เสียวเป่าคือใคร

แม้ว่าเฉินเจียจะซื่อไปสักหน่อยแต่ดีที่ฟังคำเตือนของคนอื่น พอได้ฟังว่าก่วนเสี่ยวอวี้ทำเรื่องเลวร้ายมามากทั้งยังเป็นคนทรยศแทงข้างหลังคนอื่นอย่างที่เขาเกลียดที่สุด ความสงสารที่มีต่อเธอเลยจางลงไปมาก

“ฉันจะปิดตัวฝึกซ้อมแล้ว ขอบคุณพวกเธอที่เตือนฉัน หลังจากนี้ฉันจะไม่ติดต่อกับก่วนเสี่ยวอวี้อีก” เฉินเจียนึกขอบคุณอย่างมาก เมื่อก่อนคุณปู่เคยพูดประจำว่าหากยอมฟังคำเตือนจากคนรอบข้างก็จะกินอิ่มท้องและช่วยให้ไม่เดินอ้อมมากเกินไป

พวกสยงมู่มู่นึกพอใจกับการที่เฉินเจียเชื่อฟังคำพูดอย่างมาก กลัวก็แค่จะเป็นก้อนหินอย่างเหยียนหมิงต๋าที่ช่างน่าโมโหมากจริง ๆ

“ไปเถอะ ฝึกดี ๆล่ะ ถ้าไม่ได้ลำดับดี ๆมา เวลาออกไปข้างนอกอย่าบอกว่าเป็นเพื่อนฉันล่ะ” สยงมู่มู่ตบบ่าเฉินเจียแรงๆ ทีหนึ่ง

เฉินเจียยิ้มเขินทีหนึ่งแล้วขอตัวกลับ เหมยเหมยพูดย้ำเขาไปอีกประโยค “อย่าลืมโทรหาโจวซิงเอ๋อร์ด้วย นายเข้าใจเธอผิดก็น่าจะพูดขอโทษสักคำนะ!”

“อืม ฉันกลับถึงบ้านก็จะโทรเลย”

ไม่ต้องให้เหมยเหมยบอกเขาก็เตรียมจะโทรหาโจวซิงเอ๋อร์อยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ในสายโทรศัพท์เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่แย่มาก ไม่สง่าเอาเสียเลย

พอเหมยเหมยกลับถึงคฤหาสน์ตระกูลโจวก็เห็นโจวซิงเอ๋อร์ไม่ได้เซื่องซึมอย่างก่อนหน้านี้อีก แต่ดูมีชีวิตชีวาไม่น้อย เธอจึงรู้ทันทีว่าเฉินเจียคงโทรหาเธอแล้ว ยายคนนี้มั่นคงในตัวเฉินเจียมากจริง ๆ!

หลังจากเอาพิษออกจากร่างกายอีกครั้ง โจวจื่อหัวก็สุขภาพดีขึ้นมากทีเดียวจนสามารถลงมาเดินได้แล้ว เขาไม่สนใจที่จะพักผ่อนก่อนจะไปจัดการพวกคนไม่รู้จักสงบเสงี่ยมในแก๊งอย่างรวดเร็ว สวี่ก่วงเซิงถูกคนของเหยียนหมิงซุ่นฆ่าตายไปแล้ว พอไม่มีผู้นำก่อความวุ่นวาย คนตัวเล็ก ๆที่เหลือก็สร้างความปั่นป่วนอะไรมากไม่ได้

เรื่องทางฮ่องกงจัดการได้พอประมาณแล้วและเห็นว่าใกล้จะหมดช่วงปิดเทอมฤดูร้อนเต็มที เดิมทีเหยียนหมิงซุ่นยังคิดจะพาเหมยเหมยไปเที่ยวสักหน่อยแต่เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดทำให้ทุกอย่างต้องล่าช้า

ไหนจะโอหยางซานซานตัวปลอมที่เหยียนหมิงซุ่นรู้สึกแย่เหมือนมีก้างปลาติดคอ หากไม่สืบให้รู้เรื่องคงไม่มีกะจิตกะใจไปเที่ยวที่ใด

“ลูกพี่ ผลการสืบสวนออกมาแล้ว เด็ก ๆสืบสวนไปสามครั้งและคิดว่าอู่เยวี่ยตกเป็นเป้าสงสัยมากที่สุด” เสี่ยวอวิ๋นถือเอกสารหนึ่งปึกเข้ามารายงาน

ผลสืบสวนครั้งแรกออกมาคืออู่เยวี่ยเธอยังเผลอด่าอีกฝ่ายไปยกหนึ่ง แต่พอสืบอีกสองครั้งผลก็ยังคงเป็นอู่เยวี่ยเช่นเดิม ต่อให้เสี่ยวอวิ๋นไม่เชื่อเรื่องฟื้นจากความตายแต่จะไม่เชื่อข้อมูลก็ไม่ได้

เหยียนหมิงซุ่นสีหน้าราบเรียบมาก เป็นดั่งที่เขาคิดไว้ไม่มีผิด เป็นฝีมือของเฮ่อเหลียนเช่อจริง ๆ

“โทรหาพวกพ้องที่อยู่เมืองจินให้สืบดูสิว่าวันที่อู่เยวี่ยตาย มีข้อมูลบันทึกการตายของผู้หญิงอายุรุ่นราวคราวเดียวกันอีกไหม” เหยียนหมิงซุ่นออกคำสั่ง

เสี่ยวอวิ๋นมองเหยียนหมิงซุ่นด้วยความตกใจแวบหนึ่งแล้วก็ถอยออกจากห้องไปโดยไม่ถามอะไร

อีกวันต้องไปจากฮ่องกงแล้วเหมยเหมยเลยค่อนข้างตื่นเต้นนิดหน่อยพลิกตัวไปมานอนไม่หลับสักที เหยียนหมิงซุ่นกลับพิงหัวเตียงครุ่นคิดบางอย่าง ใบหน้าเย็นชาราวกับรูปปั้นสลักภายใต้แสงไฟสลัวของหัวเตียง

“พี่เป็นอะไร? ทุกอย่างก็จัดการเสร็จหมดแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงยังดูมีเรื่องให้คิดมากอีกล่ะ” เหมยเหมยถามด้วยความเป็นห่วง

ต่อหน้าเหมยเหมยเหยียนหมิงซุ่นถึงจะรู้สึกผ่อนคลายได้เต็มที่ เขาเอ่ยขึ้นขณะที่ยังครุ่นคิดอยู่ว่า “ฉันกำลังคิดถึงคำที่ลุงหมิงพูดก่อนตาย ฉันคิดว่าเมื่อก่อนฉันคิดผิดไปแล้ว”

“เฉินหมิงพูดอะไรเหรอ?” เหมยเหมยเริ่มสนใจขึ้นมาเลยฟุบที่ตักของเหยียนหมิงซุ่นก่อนจะแหงนหน้ามองเขา

เหยียนหมิงซุ่นลูบหลังเธอเบา ๆแล้วบอกประโยคขาดห้วงที่เฉินหมิงพูดไว้ก่อนตาย “ลุงหมิงบอกว่าฉันให้ระวัง…เสียวเป่า…”

“ตอนแรกฉันคิดว่าให้ฉันระวังคนที่ชื่อเสียวเป่า แต่ตอนหลังลุงหมิงพูดอีกประโยคหนึ่งว่าเสียวเป่าพ่อมาแล้ว ฉันคิดว่าน่าจะเป็นเพราะลุงหมิงคิดถึงลูกชายก่อนตายเลยพูดว่าเสียวเป่า แต่ตอนนี้ฉันคิดว่าไม่ใช่” เหยียนหมิงซุ่นกล่าว

………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด