ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 579 ความคิดใหม่ต่อห้องใหม่ + 580 เตรียมไปทานข้าว

Now you are reading ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น Chapter 579 ความคิดใหม่ต่อห้องใหม่ + 580 เตรียมไปทานข้าว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 579 ความคิดใหม่ต่อห้องใหม่

ห้องใหม่ของเหมยเหมยอยู่ชั้นสองโดยจ้าวอิงหัวให้เธอเลือกห้องเอง ผลสุดท้ายเธอกลับเลือกห้องนี้อย่างน่าแปลก เพราะ…

ข้างหน้าต่างห้องนี้มีท่อน้ำขนาดใหญ่ ห้องอื่นไม่มี

“เหมยเหมย ห้องนี้แสงไม่ดีเท่าไหร่ เรามาเปลี่ยนกันมั้ย!” จ้าวอิงหัวกลับไม่พอใจเท่าไร

“ไม่ต้องหรอกค่ะห้องนี้แหละ หนูไม่ชอบตากแดด”

เหมยเหมยยืนกรานจะเอาห้องนี้ จ้าวอิวหัวเลยตามใจเธอ คิดว่าวันหน้าจะเปลี่ยนหลอดไฟที่สว่างกว่านี้ให้ห้องของลูกสาว

วันรุ่งขึ้นหลังเข้าพักบ้านหลังใหม่ จ้าวอิงหัวก็ให้เหมยเหมยโทรหาเหยียนหมิงซุ่นให้เขามาทานข้าวที่บ้าน

ระหว่างนี้เหยียนโฮ่วเต๋อมาพักอยู่กับพ่อแม่ ปากบอกเพราะถานซูฟางต้องทำงานทุกวันเขาเลยไม่มีที่ให้ทานข้าว แต่เหยียนหมิงซุ่นแค่ฟังก็รู้แล้วว่าเขากำลังโกหก

ไม่ใช่วันแรกที่ถานซูฟางทำงานสักหน่อย เมื่อก่อนไม่เคยเห็นเหยียนโฮ่วเต๋อจะเคยกลับมาอยู่สักครั้ง

เหยียนหมิงซุ่นรู้ดีว่าเหยียนโฮ่วเต๋อคิดจะทำอะไร!

นับจากวันปีใหม่ที่เหมยเหมยโทรมาสวัสดีปีใหม่กับเขา เหยียนโฮ่วเต๋อก็วิ่งแจ้นมาทุกๆ สามวัน พอจ้าวอิงหัวกลับเมืองจิน เหยียนโฮ่วเต๋อก็ตัดสินใจย้ายมาทันที

“หมิงซุ่น ช่วงนี้ลูกสาวตระกูลจ้าวโทรหาลูกบ้างมั้ย?”

ขณะทานข้าวเหยียนโฮ่วเต๋อก็อดสอดแนมไม่ได้ วันนี้สำนักงานศึกษาธิการจะทำการเปลี่ยนคนภายในครั้งใหญ่ เขาดำรงตำแหน่งรองปลัดมาห้าหกปีแล้ว หวังแค่ว่าจะได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นสักหน่อยก็พอ

เดิมทีเขาไม่คาดหวังอะไรแล้วเพราะผลลัพธ์ในการทำงานของเขาไม่เป็นที่ถูกใจนัก สายสัมพันธ์ของคนรู้จักและเบื้องหลังก็ยิ่งอ่อนด้อยนัก อยู่จนเกษียณมาได้ก็ดีมากแล้ว

แต่ตอนนี้ไฟแห่งความต้องการในเรื่องการงานของเขากลับจุดติดใหม่ พระเจ้ายังดีกับเขาไม่น้อย เมื่อจู่ๆ ก็ส่งมอบโอกาสดีๆ มาให้ ขอแค่เขาคว้าไว้ให้ดี อย่าว่าแต่เลื่อนตำแหน่งขึ้นสักหน่อยเลย อาจได้ย้ายไปอยู่ในสำนักก็เป็นได้!

เหยียนหมิงซุ่นลอบแค่นหัวเราะ พูดเสียงจาง “เปล่า ผมกับเธอไม่ได้เป็นเพื่อนที่ดีขนาดนั้นสักหน่อย”

“เป็นไปได้ยังไง? ไม่งั้นยายหนูคนนั้นจะโทรมาหาลูกแต่เช้าตรู่วันปีใหม่เลยเหรอ? หมิงซุ่นเอ๋ย ลูกเป็นผู้ชายต้องรู้จักเป็นฝ่ายเข้าหาหน่อย วันหยุดสัปดาห์นี้พายายหนูไปเที่ยวข้างนอกสิ ไม่อย่างนั้นพามาทานข้าวที่บ้านก็ได้นี่นา!”

เหยียนโฮ่วเต๋อเสี้ยมสอนวิธีเอาใจผู้หญิงให้ลูกชายอย่างทุ่มเท ทั้งยังล้วงธนบัตรสิบหยวนยับๆ ออกมาอย่างใจป้ำ

“ลูกเอาเงินติดตัวไว้เยอะหน่อยนะ พายายหนูไปดูหนัง เดินเล่นที่สวนสาธารณะสิ เงินนี้ลูกเอาไว้ก่อน ไม่พอค่อยมาขอพ่ออีก!”

เหยียนโฮ่วเต๋อปากพูดเหมือนจะใจกว้างแต่กลับเจ็บใจลึกๆ เงินที่บ้านถูกถานซูฟางคุมไว้ทั้งหมด หนึ่งเดือนเขามีเงินใช้จ่ายแค่ยี่สิบหยวน สิบหยวนนี้เขาจำต้องถอนจากคลังเงินเก็บน้อยๆ ซึ่งในคลังเงินเก็บนั่นก็ไม่ได้มีเงินมากมายอะไรเลย!

“พ่อว่าพามาทานข้าวที่บ้านดีที่สุด ให้คุณยายของลูกทำของอร่อยๆ แม่ว่าอย่างนั้นดีมั้ย?”

สุดท้ายเหยียนโฮ่วเต๋อก็เสียดายเงินเลยคิดหาวิธีที่จะช่วยประหยัดเงิน หมายให้ลูกชายคนโตพาลูกสาวตระกูลจ้าวมาเที่ยวเล่นที่บ้าน ถึงตอนนั้นเขาจะได้คุยกับลูกสาวตระกูลจ้าวด้วย!

ว่ากันว่ารองนายกเทศมนตรีรักลูกสาวดั่งชีวิต ขอแค่ผูกมิตรกับคุณหนูจ้าวให้ดีจะยังต้องกลัวจับจ้าวอิงหัวไม่อยู่อีกหรือ?

เหยียนโฮ่วเต๋อวางแผนไว้ดิบดี เพียงแต่เหยียนหมิงซุ่นกลับไม่ให้เขาได้ใจ รับเงินมาตามนั้น ไม่มีปัญหาที่จะชวนเหมยเหมยไปดูหนัง แต่อย่าคิดจะใช้ชื่อของเขาไปรังควานเหมยเหมย!

“ถึงตอนนั้นค่อยว่าอีกทีแล้วกัน!”

เหยียนหมิงซุ่นรับเงินมาแล้วพูดเรียบๆ ประโยคก้ำกึ่งแบบนี้ทำให้เหยียนโฮ่วเต๋อร้อนใจเป็นอย่างมาก!

แต่เดิมเขาคิดจะออกไปใช้โทรศัพท์สาธารณะโทรหาเหมยเหมยว่าหลังจากนี้เธออย่าโทรมาบ่อย จะได้ไม่ตกเป็นเป้าสายตาของเหยียนโฮ่วเต๋อ แต่โทรศัพท์กลับแผดเสียงดังกะทันหัน

เหยียนหมิงซุ่นชิงรับสายก่อนจะถึงมือเหยียนโฮ่วเต๋อ เหมยเหมยโทรมาจริงๆ ด้วย

…………………

ตอนที่ 580 เตรียมไปทานข้าว

เหยียนหมิงซุ่นคุยกับเหมยเหมยตามปกติแต่เอามือมาป้องหูโทรศัพท์เพื่อไม่ให้เหยียนโฮ่วเต๋อได้ยินเสียงจากสาย

“พี่หมิงซุ่น พรุ่งนี้ตอนค่ำมาทานข้าวบ้านฉันนะ ตอนพี่มาก็โทรมาก่อน ฉันจะไปรับพี่ที่หน้าประตูนะ!” เหมยเหมยพูดเสียงระรื่นใจ

“ได้ ฉันไปแน่ๆ”

เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้พูดมากไปกว่านี้ก่อนจะวางสายไป กลับมานั่งทานข้าวเหมือนเดิม

“หมิงซุ่น ใครโทรมา? ใช่คุณหนูตระกูลจ้าวมั้ย?” เหยียนโฮ่วเต๋อเหมือนสัตว์ป่าที่คอยจ้องเหยื่อ ได้ยินเสียงจากสายเลือนลางฟังดูคล้ายจะเป็นเสียงของผู้หญิง

“เปล่า แค่เพื่อนมาถามผมว่าจะไปทัศนศึกษาประจำฤดูใบไม้ผลิด้วยมั้ย” เหยียนหมิงซุ่นตอบเสียงเรียบ

เหยียนโฮ่วเต๋อเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง มองเหยียนหมิงซุ่นอยู่นานหลายสิบวินาทีแต่กลับไม่พบสิ่งแปลกปลอมเลยคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องทัศนศึกษาประจำฤดูใบไม้ผลิจริงๆ ลอบถอนหายใจอย่างผิดหวังไม่ได้

เหยียนหมิงซุ่นเหยียดยิ้มมุมปากสูงมองเหยียนโฮ่วเต๋ออย่างค่อนแคะ ผู้ชายธรรมดาที่เห็นแก่ตัวคนหนึ่ง รู้สึกอับอายเพราะมีพ่อแบบนี้จริงๆ!

เหยียนหมิงต๋าที่ช่วงนี้ซึมลงไปอย่างมากอยู่ๆ ก็พูดขึ้น “พ่อ พ่อให้เงินผมบ้างสิ เงินผมไม่พอใช้แล้ว!”

“แม่ของลูกเพิ่งให้เงินค่าขนมลูกไม่ใช่เหรอ? ไปไหนหมดแล้วล่ะ?” เหยียนโฮ่วเต๋อถามเสียงเข้ม

สายตาของเหยียนหมิงต๋าฉายแววลุกลน แสร้งตอบอย่างใจเย็น “เพิ่งเปิดเทอมต้องซื้ออุปกรณ์การเรียนเยอะ แล้วยังต้องซื้อหนังสืออีก เงินที่แม่ให้ไม่พอใช้เลย”

แม้เหยียนโฮ่วเต๋อจะทำงานอยู่สำนักงานศึกษาธิการแต่เขาไม่ได้ลงมาศึกษางานระดับล่างตั้งหลายปีแล้วจะไปรู้สถานการณ์ที่โรงเรียนที่ไหนกัน หลงคิดว่าลูกชายคนเล็กเอาเงินไปซื้ออุปกรณ์การเรียนกับหนังสือจริงๆ

“ก็ได้ ให้เงินอีกห้าหยวนนะ ไม่รู้จริงๆ ว่าโรงเรียนพวกลูกนี่มันยังไงถึงต้องซื้อหนังสือมากมายขนาดนี้ ตอนนี้บางโรงเรียนก็เหมือนกัน บอกกี่ครั้งแล้วว่าต้องลดภาระให้นักเรียน แต่ละคนยังทำเป็นหูทวนลมอีก”

เหยียนโฮ่วเต๋อบ่นอุบอย่างไม่พอใจแต่ก็หยิบเงินห้าหยวนออกมา หัวใจหลั่งเลือดอีกครั้ง

“วันหลังขอเงินค่าขนมแม่ให้เยอะกว่านี้นะ” เหยียนโฮ่วเต๋อพูดสั่ง

ล้วงอีกไม่กี่ทีคลังเงินเก็บของเขาก็จะหมดแล้ว

เหยียนหมิงซุ่นมองเหยียนหมิงต๋าอย่างสงสัย เหยียนโฮ่วเต๋อไม่รู้แต่เขารู้ ถานซูฟางให้เงินเหยียนหมิงต๋ามากกว่าห้าหยวนทุกครั้งหรือบางทีให้ถึงสิบหยวน เพิ่งเปิดเทอมไม่กี่วันก็ใช้เงินหมดไปได้อย่างไร?

เหยียนหมิงต๋ารับเงินมาอย่างดีใจ เขากล้าขอถานซูฟางที่ไหนกันล่ะ ยังไม่พ้นหนึ่งสัปดาห์ดีก็ใช้เงินหมดไปสิบหยวนแล้ว แม่ของเขาไม่สงสัยสิถึงจะแปลก

ตกดึกเหยียนหมิงซุ่นไปห้องน้องชายโดยเฉพาะ เหยียนหมิงต๋ากำลังนั่งทำการบ้านซึ่งเหยียนหมิงซุ่นเองก็ไม่ถามเขา แค่เปิดกล่องดินสอของเขา ปากกาด้ามเก่า ดินสอเหลือเพียงครึ่งท่อน ไม่เห็นไม้บรรทัดกับไม้บรรทัดสามเหลี่ยมด้วยซ้ำ

กล่องดินสอเก่าๆ แบบนี้จะเพิ่งซื้อได้อย่างไร?

ทั้งที่เป็นของเหลือใช้จากเทอมก่อน แล้วเงินของเหยียนหมิงต๋าใช้เงินหมดไปกับอะไรกันแน่?

เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้ไล่ถามต่อแค่เดินออกไปเงียบๆ คิดว่าวันหลังค่อยหาโอกาสเดินตามเขา ดูว่าเขากำลังทำอะไร!

หลังเลิกเรียนอีกวันเหยียนหมิงซุ่นเตรียมไปเลือกภาพวาดของปาต้าซานเหรินในคลังของเขาแล้วไปซื้อผลไม้ที่ร้านขายผลไม้สักหน่อย แต่ขาเพิ่งก้าวออกจากประตูโรงเรียนมัธยมอี้จงไม่ทันไร ก็ถูกเหมยซูหานขวางไว้

“หมิงซุ่น บ้านคุณครูอู่เกิดอะไรขึ้น? ทำไมครูประจำชั้นห้องเราถึงเปลี่ยนคน? ไม่เห็นคุณครูอู่มาสอนด้วย บ้านของครูก็มีครอบครัวอื่นมาอยู่ นายรู้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้น?”

เหมยซูหานถามคำถามมาเป็นพรวนอย่างร้อนใจ เขาหาคนที่จะให้คำตอบไม่ได้เลยต้องมาหาเหยียนหมิงซุ่น

………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด