ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 1694 พวกคุณเป็นเพื่อนสนิทหรือ + 1695 โดนใช้เป็นยันต์ป้องกันตัว

Now you are reading ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น Chapter 1694 พวกคุณเป็นเพื่อนสนิทหรือ + 1695 โดนใช้เป็นยันต์ป้องกันตัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1694 พวกคุณเป็นเพื่อนสนิทหรือ

 

หญิงวัยกลางคนอายุราวสี่สิบกว่าปีที่รูปร่างอวบอ้วนผิวขาวตัวไม่สูงนัก องค์ประกอบของใบหน้าก็ไม่สวยมาก คิ้วหนาตาเล็กซึ่งดูท่าทางไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไรนัก

 

แต่หญิงผู้นี้กลับมีท่าทีนอบน้อมต่อเหมยเหมยอย่างมาก ไม่วางท่าถือตัวเลยสักนิด

 

พวกเธอสามคนทานมื้อเที่ยงที่ร้านอาหารหลังมหาวิทยาลัย เจ้าของร้านเพิ่งจะยกเมนูแกงเผ็ดเนื้อเสฉวนมาเสิร์ฟที่โต๊ะ ควันลอยโขมงเหนือถ้วยที่แค่เห็นก็รู้สึกเจริญอาหารขึ้นมาทันทีแต่กลับไม่รู้สึกอยากอาหารเท่าไร ได้แต่มองคุณนายที่มาเยือนตรงหน้าอย่างฉงนใจ

 

สวมใส่เสื้อผ้าแบรนด์หรูทั้งนั้น นี่เห็นชัดว่าไม่ใช่คนที่จะมาทานข้าวในร้านอาหารเล็ก ๆแบบนี้เลย แล้วผู้หญิงคนนี้คือใคร?

 

เหมยเหมยเองก็ไม่รู้จักเธอแต่ไม่ต้องรอให้พวกเธอเดาหญิงวัยกลางคนนี้ก็ได้พูดแนะนำตัวเองอย่างรู้มารยาท “ฉันคือภรรยาของเจียงจื้อหรู่”

 

ทั้งสามต่างเบิกตากว้างและหันมองหน้ากันไปมา ไม่เข้าใจว่าคุณนายเจียงมาหาพวกเธอทำไม?

 

พวกเธอไม่ใช่เมียน้อยสักหน่อย!

 

เหมยเหมยเป็นคนที่ได้สติก่อนเลยเอ่ยถาม “ฉันคือจ้าวเหมย คุณนายเจียงมีธุระอะไรกับฉันเหรอคะ?”

 

คุณนายเจียงกวาดตามองสภาพแวดล้อมร้านอาหารเล็ก ๆที่เสียงดังเซ็งแซ่แวบหนึ่งแล้วเอ่ยยิ้ม ๆ “ต้องขอรบกวนคุณจ้าวด้วยล่ะ เพื่อเป็นการไถ่โทษมื้อเที่ยงฉันเชิญคุณจ้าวกับเพื่อน ๆของคุณไปทานข้าวที่ภัตตาคารจินตูดีไหมคะ?”

 

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนลูกตาแทบถลนออกมา โอ้โหแม่เจ้า ไปทานข้าวที่ภัตตาคารจินตูมื้อหนึ่งราคาไม่ใช่น้อย ๆเลยนะ หากไม่มีเงินจ่ายได้หลักหมื่นก็อย่าไปทำตัวขายหน้าที่นู่นเลย!

 

เธอโตมาขนาดนี้ยังไม่เคยไปทานข้าวที่ภัตตาคารจินตูเลยนะ!

 

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนจ้องเหมยเหมยอย่างอ้อนวอนหวังว่าเธอจะตอบรับไว้ คุณนายเจียงผู้นี้แค่ดูปราดเดียวก็รู้ว่าไม่ขาดแคลนเงิน ให้เธอเลี้ยงสักมื้อก็ไม่เสียหายอะไรนี่นา!

 

เหมยเหมยอมยิ้มกล่าว “จินตูช่างมันเถอะค่ะ ถ้าคุณนายเจียงไม่รังเกียจเราไปหาร้านอาหารเงียบ ๆแถวนี้กันเถอะ”

 

“ฉันจะรังเกียจได้อย่างไรเล่าแต่แค่รู้สึกว่าทำให้คุณจ้าวลำบาก” คุณนายเจียงเองก็เป็นคนที่ตรงไปตรงมาลุกขึ้นยืนเดินตามหลังเหมยเหมยปล่อยให้เธอเป็นฝ่ายตัดสินใจ

 

เหมยเหมยพอจะเดาได้ว่าคุณนายเจียงมาเพื่อถามเรื่องสวีจื่อเซวียน เธอไม่อยากให้ฉีฉีเก๋อกับเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนมาพัวพันกับเรื่องสกปรกโสโครกพวกนี้เท่าไรนัก เพิ่งคิดได้ว่าจะบอกให้พวกเขาสองคนทานข้าวอยู่ตรงนี้แต่สองคนนี้ดันลุกยืนตั้งนานแล้ว แถมประกบหลังเธอไม่ห่าง ทั้งยังส่งเสียงหัวเราะให้เธอเสียงคิกคัก

 

คุณนายเจียงยิ้มกล่าว “คุณจ้าวสบายใจได้ ฉันแค่อยากถามเรื่องบางอย่างให้ชัดเจน เพื่อนของคุณจะไปด้วยก็ไม่เป็นไร ไม่มีเรื่องอะไรหรอก”

 

เหมยเหมยเห็นว่าเธอไม่ได้มาด้วยเจตนาร้ายจริง ๆจึงปล่อยให้พวกเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนตามมาด้วย ฉีฉีเก๋อเสียดายแกงเผ็ดเนื้อเสฉวนชามนั่นไปหน่อยเลยยกขึ้นหมายจะพกติดตัวไปด้วย

 

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนถลึงตาใส่อย่างนึกรังเกียจแล้วแย่งแกงเผ็ดเนื้อเสฉวนมาวางไว้บนโต๊ะข้าง ๆ “ยังไม่ได้กิน ให้พวกเธอกินแล้วกัน”

 

เธอกระชากฉีฉีเก๋อที่ยังทำท่าอาลัยอาวรณ์จากไปโดยพูดกระซิบกระซาบเสียงเบาไปด้วย “อาจารย์แม่เจียงดูก็รู้ว่าไม่ขาดแคลนเงิน เดี๋ยวเธออยากกินเนื้อมากแค่ไหนก็มีมากเท่านั้น จะสั่งขาแกะย่างมาทั้งขาเลยก็ได้!”

 

คุณนายเจียงยกยิ้มมุมปากน้อย ๆ สายตาเปื้อนยิ้ม เหมยเหมยมุมปากกระตุกอยากบอกเหลือเกินว่าเธอไม่รู้จักสองคนนี้!

 

น่าขายหน้าที่สุด!

 

พวกเธอเดินมาไม่ไกลเท่าไรก็หาร้านอาหารที่ตกแต่งค่อนข้างหรูละแวกนั้นได้ก่อนจะให้พนักงานจัดหาห้องส่วนตัวเงียบๆ ให้

 

“พวกคุณสั่งอาหารก่อนเลย ตามสบาย ไม่ต้องเกรงใจฉัน” คุณนายเจียงเองก็ไม่รีบเข้าเรื่อง

 

เหมยเหมยโยนเมนูอาหารให้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนแล้วยิ้มถาม “ไม่ทราบว่าคุณจะถามอะไรฉันเหรอคะ?”

 

คุณนายเจียงหุบยิ้มสีหน้าดูเย็นชาลงแล้วถอนหายใจเบา ๆเฮือกหนึ่ง แล้วถาม “สวีจื่อเซวียนคือเพื่อนของคุณจ้าวสินะ?”

 

“ใช่ เพื่อนห้องเดียวกัน”

 

คุณนายจางเงยหน้ามองเธอแวบหนึ่ง น้ำเสียงของเหมยเหมยเรียบมากไม่เหมือนท่าทางของคนที่ได้ยินชื่อของเพื่อนสนิท หรือว่า…เธอยิ้มร่าในใจแล้วถามอย่างระมัดระวัง “สวีจื่อเซวียนกับคุณจ้าวเป็นเพื่อนสนิทกันหรือเปล่าคะ?”

 

…………………….

 

ตอนที่ 1695 โดนใช้เป็นยันต์ป้องกันตัว

 

เหมยเหมยทำหน้าตกตะลึงอย่างมาก เธอไปเป็นเพื่อนสนิทกับสวีจื่อเซวียนตั้งแต่เมื่อไร?

 

“ไม่ใช่อยู่แล้ว ฉันกับเธอเป็นแค่เพื่อนธรรมดากันค่ะ คุณนายเจียงทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะคะ?” เหมยเหมยปฏิเสธทันควัน

 

คุณนายเจียงพรูลมหายใจยาวแต่สายตากลับฉายแววดุดัน กล้าโกหกเธอ หึ รอดูเถอะ!

 

เธอไม่ได้ตอบคำถามเหมยเหมยไปตรง ๆแต่เลือกจะถามต่อ “คุณจ้าวน่าจะเคยได้ข่าวความสัมพันธ์ของสวีจื่อเซวียนกับเจียงจื้อหรู่มาบ้างแล้วสินะ?”

 

“ฉันไม่ค่อยชอบยุ่งเรื่องคนอื่นเท่าไรโดยเฉพาะเรื่องภายในครอบครัว” เหมยเหมยย่นคิ้วน้อย ๆไม่ค่อยชอบน้ำเสียงลองเชิงของคุณนายเจียงแบบนี้สักเท่าไร

 

คุณนายเจียงสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจของเธอเลยรีบหยุดลองเชิงก่อนจะอธิบายแทน “เจียงจื้อหรู่เป็นคนบอกฉันเอง เขาบอกว่าคุณจ้าวกับสวีจื่อเซวียนเป็นเพื่อนสนิทที่สนิทสนมกันมาก แล้วยังไปช่วยสวีจื่อเซวียนจากคนมีอิทธิพลคนหนึ่งด้วยตัวเอง ฉะนั้นฉันถึงได้ถือวิสาสะมารบกวนคุณจ้าว ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ”

 

หากสวีจื่อเซวียนเป็นเพื่อนสนิทกับจ้าวเหมยจริง ๆละก็ ต่อให้เธอจะโกรธแค้นเพียงใดก็ไม่อาจทำอะไรกับคนแพศยานั่นได้!

 

เธอไม่กล้าหาเรื่องผู้หญิงของคุณชายหมิงหรอกนะ!

 

นอกเสียจากว่าเธอไม่อยากอยู่ในเมืองหลวงต่อไปแล้ว!

 

เหมยเหมยรู้สึกขยะแขยงวูบหนึ่ง ไม่คิดว่าเจียงจื้อหรู่จะใช้เธอเป็นยันต์ป้องกันตัวเขาในการคบชู้ หากไม่ใช่คุณนายเจียงวิ่งแจ้นมาถามเกรงว่าเธอคงไม่รู้ไปตลอดชีวิต

 

ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งรู้สึกโกรธ แน่นอนว่าตัวเธอนั้นไม่มีอิทธิพลอะไรอยู่แล้วแต่เบื้องหลังเธอกลับมีเหยียนหมิงซุ่น ในเมืองหลวงขอแค่คนที่มีสมองลองคิดสักนิดต่างก็ไม่มีใครกล้าล่วงเกินเธอ เจียงจื้อหรู่กลับวางแผนเสียดิบดีแต่เขากลับประเมินผู้หญิงต่ำเกินไป คิดว่าคุณนายเจียงไม่มาหาคำตอบพิสูจน์ด้วยตัวเองหรอก

 

เหอะ คิดว่าตัวเองฉลาดนักหรือไง!

 

“ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมอาจารย์เจียงถึงพูดอย่างนั้น เหตุผลที่ไปช่วยสวีจื่อเซวียนเพราะอาจารย์เจียงโทรมาขอร้องฉันกลางดึก เพราะตอนที่แม่ของฉันจัดนิทรรศการศิลปะอาจารย์เจียงก็ช่วยไว้เยอะฉันจึงติดหนี้บุญคุณเขา ส่วนตัวฉันกับสวีจื่อเซวียนเป็นแค่เพื่อนธรรมดากันทั่วไปค่ะ” เหมยเหมยอธิบายเหตุผลที่ไปช่วยให้ฟัง

 

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเองก็พูดต่อ “ใช่ ปกติเหมยเหมยไม่คุยกับสวีจื่อเซวียนด้วยซ้ำ ไม่ถือว่าเป็นเพื่อนกันด้วยซ้ำ อีกอย่างใครจะอยากเป็นเพื่อนกับคนอย่างหล่อนกัน!”

 

คุณนายเจียงค่อยโล่งใจและเผยยิ้มกว้าง “ขอบคุณคุณจ้าวที่อธิบายให้ฉันฟัง วันนี้รบกวนแล้วจริง ๆ หลังจากนี้ไว้มีโอกาสจะเชิญพวกคุณไปทานข้าวที่ภัตตาคารจินตูนะคะ”

 

เหมยเหมยอมยิ้มอ่อน ๆ ไม่ได้ตอบรับอะไร

 

เรื่องวุ่นวายของตระกูลเจียงเธอไม่อยากเข้าไปยุ่งด้วยหรอก

 

แม้คุณนายเจียงจะรู้สึกเสียดายบ้าง ถ้าถือโอกาสตีสนิทกับคนรักของคุณชายหมิงได้คงมีคุณค่ามากกว่าลงโทษเมียชู้มากนัก แต่เรื่องนี้ฝืนใจไม่ได้ ไปจัดการสองคนนั้นก่อนแล้วกัน!

 

“ฉันเป็นคนดุร้ายอารมณ์รุนแรงอยู่บ้าง ไม่มีวันปรานียายสุนัขจิ้งจอกที่มาทำลายครอบครัวฉันแน่ หวังว่าคุณจ้าวจะเข้าใจ” คุณนายเจียงยังไม่ค่อยสบายใจอยู่บ้างเลยถามหยั่งเชิงไปอีกประโยคหนึ่ง

 

เหมยเหมยหุบยิ้มพูดเสียงเย็นชา “คุณนายเจียงคิดมากไปแล้ว ฉันเคยพูดแล้วว่าไม่สนใจจะยุ่งเรื่องครอบครัวคนอื่น สวีจื่อเซวียนเองก็ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับฉัน คุณจะทำอะไรก็ไม่จำเป็นต้องบอกฉัน”

 

คุณนายเจียงถึงค่อยโล่งใจไปทีแล้วยิ้มจากไป แถมยังให้พวกเหมยเหมยสั่งอาหารเต็มที่โดยเธอจะเป็นคนจ่ายทั้งหมด

 

รถคราวน์คันสีดำค่อย ๆขับออกไปโดยพนักงานได้ยกเมนูแกงเผ็ดเนื้อเสฉวนมาให้หม้อใหญ่ หน้าตาน่าทานกว่าร้านเล็กนั่นมากโข ตามด้วยเมนูราคาแพงอย่างกุ้งมังกร หอยเป๋าฮื้อ ย่างขาแกะที่ล้วนเป็นเมนูราคาแพงที่สุดในร้าน

 

“อาจารย์แม่เราใจกว้างดีนี่นา!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนแทะกุ้งมังกรด้วยสีหน้ามีความสุข

 

ฉีฉีเก๋อกลับเป็นห่วงเล็กน้อย “อาจารย์แม่รู้เรื่องสวีจื่อเซวียนกับอาจารย์เจียงแล้วจะจัดการกับสวีจื่อเซวียนเหรอ?”

 

……………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด