ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 740 วาดตัวอะไรกัน + 741 ก็คือขยะ

Now you are reading ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น Chapter 740 วาดตัวอะไรกัน + 741 ก็คือขยะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

ตอนที่ 740 วาดตัวอะไรกัน

เหมยเหมยไม่ได้ดื่มน้ำอัดลมแช่เย็นเพราะปีที่แล้วประจำเดือนของเธอเริ่มมา ยังคงปวดท้องเหมือนชาติที่แล้ว เหยียนซินหย่าพาเธอไปพบหมอกู้มาแล้ว จะว่าไปหมอกู้เองแม้จะมีนิสัยแปลกประหลาดแต่เขาไม่เคยปฏิเสธที่จะรับตรวจไข้ของเหยียนซินหย่าสักครั้ง เพียงแต่ทุกครั้งก็ยังทำท่าสนใจบ้างไม่สนใจบ้าง

แต่หมอกู้มีความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์สูง หลังตรวจชีพจรให้เหมยเหมยก็รู้เลยว่าเธอได้รับความเย็นเข้าตัวตั้งแต่เด็ก อีกทั้งขาดแคลนสารอาหารจึงทำให้มดลูกเกิดการหดตัวและปวดท้องในที่สุด โชคดีเหมือนกันที่อายุยังน้อย ไว้ค่อยๆ ปรับกันไปก็หายได้ ไม่ต้องคอยปวดท้องเหมือนจะเป็นจะตายอย่างชาติที่แล้ว

หลังเหยียนซินหย่าได้ฟังคำของคุณหมอกู้ก็ยิ่งเกลียดชังอู่เจิ้งซือกับเหอปี้อวิ๋นเข้ากระดูก นึกเสียใจที่จ้าวอิงหัวลงโทษพวกเขาไม่แรงพอ เบาไปสำหรับพวกเขา

ทานยาที่คุณหมอกู้ให้มาไม่ถึงหนึ่งปีอาการปวดท้องประจำเดือนของเหมยเหมยก็ดีขึ้นมาก แต่หมอกู้เองก็บอกแล้วว่าให้เธอพยายามลดเครื่องดื่มเย็นจัดให้น้อยลงก่อนบรรลุนิติภาวะ ต่อให้ฤดูร้อนก็ดื่มมากไม่ได้ เลยทำให้เธอไม่ดื่มเครื่องดื่มแช่เย็นต่อให้ร้อนขนาดไหนก็ตาม หากทนไม่ไหวจริงๆ ค่อยดื่มสักนิด แต่ก็แค่พอจิบเท่านั้น

“เซ่อเซ่อ ดื่มให้น้อยๆ หน่อย ผู้หญิงอย่างเราดื่มของเย็นมากไปไม่ดีต่อสุขภาพ”

เซียวเซ่อที่ดื่มของเย็นไปสามขวดยังไม่พอใจซื้อไอศกรีมมาอีกสองแท่ง แน่นอนว่าไม่ได้ให้เหมยเหมยเพราะเธอรู้ว่าเพื่อนไม่ทานของเย็น ไอศกรีมสองแท่งเป็นของเธอทั้งคู่ ทานสองแท่งทีเดียวถึงจะสะใจไงล่ะ!

“ไม่เป็นไร ห้าธาตุของฉันขาดน้ำแข็ง ทานของเย็นแค่ไหนก็ไม่เป็นไร”

เซียวเซ่อกัดคำหนึ่งอย่างไม่สนใจจนไอศกรีมหายไปครึ่งแท่ง

เหมยเหมยเห็นแล้วรู้สึกเสียวไปทั้งฟัน แต่เด็กผู้หญิงคนนี้กลับทำหน้าเรียบเฉย เคี้ยวน้ำแข็งเหมือนเคี้ยวถั่วลิสง กรุบๆ ไม่กี่คำก็กลืนลงท้องไปแล้ว แล้วสวาปามที่เหลือจนหมดแท่ง

เซียวเซ่อโยนไม้ไอศกรีมลงถังขยะ แล้วค่อย ๆ เลียไอศกรีมที่เหลืออีกแท่ง  รอบๆ มุมปากเปื้อนไปด้วยไอศกรีม ปรับภาพลักษณ์เย็นชาแข็งกระด้างของเธอให้ดูจางลง

เหมยเหมยส่ายศีรษะถอนหายใจ วิธีทานแบบนี้เหลือเกินจริงๆ ไม่ปวดประจำเดือนสิแปลก!

อย่าคิดว่าเธอจะไม่รู้ว่าเซียวเซ่อเองก็มีอาการปวดท้องประจำเดือนเหมือนกัน แต่เด็กผู้หญิงคนนี้ไม่คิดใส่ใจสุขภาพตัวเองเลยสักนิด ประสาทสัมผัสเองก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดได้ช้านัก หากไม่ใช่ว่าครั้งหนึ่งเธอพบเข้าโดยบังเอิญคงไม่มีทางรู้ว่าเด็กผู้หญิงคนนี้มีอาการปวดท้องประจำเดือน

ทั้งคู่เดินขนาบข้างกันเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ มีคนมาไม่น้อยแล้ว  รวมถึงสื่อโทรทัศน์และนักข่าวตามสำนักข่าวต่างๆ ผนังกำแพงห้องโถงใหญ่ล้วนแขวนเต็มไปด้วยภาพวาด มีหลายคนยืนคุยกันอยู่ตรงหน้าผลงานภาพวาด  ต่างเอ่ยปากชื่นชมไม่ขาดสาย

ศิลปะเป็นสิ่งที่เข้าใจตรงกันได้ แต่เหมยเหมยกลับไม่เข้าใจว่าภาพวาดของคุณเซียวดีตรงไหน?

เธอดูแล้วทำหน้ามึน!

นี่ภาพวาดบ้าอะไรกันเนี่ย!

คนไม่เหมือนคน สัตว์ไม่เหมือนสัตว์ สิ่งก่อสร้างไม่เหมือนสิ่งก่อสร้าง ไม่ดูคล้ายอะไรเลย!

เธอรู้อยู่แล้วว่าภาพวาดสไตล์ตะวันตกนี้มีชื่อเรียกดูดีอลังการว่า—ศิลปะนามธรรม อีกทั้งยังมีศิลปินคนสำคัญที่โด่งดังไปทั่วโลกด้วยฝีมือการวาดสไตล์ศิลปะนามธรรม

แต่คำถามคือคุณเซียวไม่ได้มีแนวทางการวาดสไตล์นี้นี่นา เหมยเหมยเคยดูภาพวาดเก่าๆ ของเขามาก่อน ภาพคน ภาพสิ่งของ หรือภาพตามธรรมชาติ ต่างเป็นผลงานภาพวาดที่สมจริงและวาดได้มีความงามเฉพาะตัว

“ช่วงนี้พ่อเธอมีเรื่องสะเทือนใจอะไรมาหรือเปล่า?”

เหมยเหมยกับเซียวเซ่อยืนจ้องตากันอยู่หน้าภาพวาดหลากสีสันภาพหนึ่ง คิดเสียว่าเป็นภาพวาดก่อนแล้วกันแต่เหมยเหมยกลับคิดว่าภาพวาดนี้ต้องเป็นภาพที่เขาเผลอทำถังสีหกใส่ผ้าตอนอารมณ์เสียหลังคุณเซียวทะเลาะกับคุณหนูใหญ่เฝิงแน่ๆ หลังจากนั้นคุณเซียวก็เอาออกมาจัดงานแสดง

คนรวยเอาแต่ใจจริงแหะ!

……………………….

ตอนที่ 741 ก็คือขยะ

เซียวเซ่อยักไหล่ “วันๆ เขาเอาแต่เป็นบ้า เคยเป็นปกติที่ไหนล่ะ!”

เหมยเหมยพยักหน้าตามอย่างเห็นด้วย เมื่อก่อนเซียวเซ่อเอาแต่บอกว่าพ่อของตนสมองไม่ปกติเธอยังไม่ค่อยเชื่อเท่าไร ตอนนี้พอเห็นของประหลาดเต็มห้องก็พอเชื่อบ้างแล้ว

เกรงว่าสมองของคุณเซียวคนนี้น่าจะไม่ปกติเท่าไรจริงๆ!

ยุคนี้ของประเทศจีนจะรู้จักศิลปะนามธรรมที่ไหนกัน อีกอย่างศิลปินส่วนใหญ่ในประเทศยังไม่ยอมรับศิลปะจากต่างชาติย่อมไม่สนใจศิลปะนามธรรมอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าเซียวจิ่งหมิงต้องการทำอะไรถึงได้จัดงานนิทรรศการนี้ขึ้นมา

“ไม่ต้องดูแล้ว ฉันบอกแล้วว่าเป็นขยะ มีอะไรให้น่าดูกัน ไป ไปกินทาร์ตไข่ที่บ้านฉัน ป้าซูซือเพิ่งอบเสร็จหมาดๆ”

เซียวเซ่อมองภาพวาดของพ่อตัวเองอย่างไม่สบอารมณ์ กระชากเหมยเหมยหมายจะกลับบ้าน เหมยเหมยที่นึกผิดหวังในใจก็ไม่รั้นจะดูรูปต่อ ดูไม่เข้าใจแล้วจะดูต่อทำไม!

“เซ่อเซ่อเธออย่าพูดแบบนั้นสิ เราแค่ไม่เข้าใจเอง จะบอกว่าคุณเซียววาดไม่ดีไม่ได้นะ”

เหมยเหมยไม่อยากให้ความสัมพันธ์เพื่อนกับพ่อแท้ๆ แย่ไปกว่านี้อีกแล้วเลยเกลี้ยกล่อมอย่างใจเย็น

เซียวเซ่อทำหน้าระอา “ก็คือขยะ ต่อหน้าเขาฉันยังพูดได้เลยว่าวาดอะไร คนที่ซื้อภาพวาดของเขาตาบอดกันไปหมดแล้ว”

“นักเรียนคนนี้แววตาใช้ได้ แวบเดียวก็ดูออกเลยว่าเป็นภาพขยะ อนาคตก้าวไกลแน่นอน!”

จู่ๆ ก็มีเสียงหัวเราะระลอกใหญ่ดังขึ้นจากด้านหลังแล้วตามด้วยเสียงฝีเท้า

เหมยเหมยกับเซียวเซ่อหันหลังเห็นนักข่าวกลุ่มหนึ่งล้อมเข้าหา คนอีกนับสิบที่ดูไม่เหมือนนักข่าว ส่วนใหญ่เป็นคนสูงวัย  โดยคนนำคือคนสูงวัยรูปร่างซูบผอมหน้ามีเครา ดูท่าทางไม่ใช่คนดี

สองคนในนั้นเป็นคนคุ้นเคยของเหมยเหมย เจิ้งซื่อหลินกับหร่วนหวาไฉ่ ไม่ได้เจอกันสองปีสองคนนี้ยังมีสภาพเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก

คนที่พูดคือผู้สูงวัยร่างซูบผอมที่เดินนำหน้า ตอนนี้เขามองพวกเหมยเหมยด้วยใบหน้ายิ้มร่า ดูท่าทางคนสูงวัยท่านนี้น่าจะเป็นผู้นำคนกลุ่มนี้

เซียวเซ่อหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อยรีบใช้มือบังหน้าไว้พลางตะโกนพูดอย่างไม่พอใจ “ใครให้พวกคุณถ่ายฉัน? หยุดถ่ายเดี๋ยวนี้!”

เหมยเหมยเองก็ไม่ชอบให้คนมารุมถ่ายรูป  แต่เธอรู้ว่าพูดไปตอนนี้ก็เปล่าประโยชน์ไว้กลับไปหาผู้ใหญ่ก็ได้  เพราะไม่ว่าจะคนตระกูลจ้าวหรือคุณหนูใหญ่เฝิงแค่โทรหาสถานีโทรทัศน์กับสำนักพิมพ์เสียหน่อย สื่อเหล่านี้ก็ไม่กล้าปล่อยรูปซี้ซั้ว

คุณตาร่างซูบผอมชะงักราวกับคิดไม่ถึงว่าพวกเหมยเหมยจะมีปฏิกิริยาแบบนี้ เด็กทั่วไปถูกนักข่าวสัมภาษณ์ควรมีท่าทีเขินอายหรือภาคภูมิใจไม่ใช่หรือ?

ทำไมถึงปฏิเสธแบบนี้?

“คุณลุงคุณป้าพวกนี้คือนักข่าว พวกเขาแค่อยากถามคำถามพวกหนูนิดหน่อย อย่าไปกลัว!” คุณตาร่างซูบผอมพยายามฉีกยิ้มอย่างเป็นมิตร

เหมยเหมยไม่สนใจเขาฉุดแขนเซียวเซ่อเตรียมกลับ แต่ไม่รู้ว่าเริ่มมีคนมารายล้อมตั้งแต่เมื่อไร แออัดจนไม่อาจแทรกตัวออกไปได้

“เราไม่อยากตอบคำถามอะไร หยุดถ่ายได้เลย ไม่อย่างนั้นฉันจะฟ้องความผิดฐานละเมิดสิทธิส่วนบุคคล!”

เหมยเหมยตีหน้านิ่งกล่าวด้วยเสียงดุดัน

ทุกคนตกใจจนชะงักนิ่งไปเพราะปฏิกิริยาของพวกเหมยเหมยที่แตกต่างจากคนทั่วไป ยุคนี้ใครเล่าจะสนใจสิทธิส่วนบุคคล มีแต่จะอยากให้สถานีโทรทัศน์มาสัมภาษณ์พวกเขาด้วยซ้ำ!

เจิ้งซื่อหลินกับหร่วนหวาไฉ่จำเหมยเหมยได้แล้วก็มุ่นคิ้วน้อยๆ กระซิบพูดข้างหูคุณตาร่างผอมไม่กี่ประโยค คนตาร่างซูบผอมเองก็ขมวดคิ้วตาม

มิน่าอายุไม่มากแต่กล้าพูดจาเหิมเกริม ที่แท้คือเจ้าหญิงตัวน้อยประจำตระกูลจ้าวนั่นเอง!

คุณตาร่างซูบผอมเปลี่ยนใจเพราะมีความคิดที่ดีกว่านั้น มองไปทางเหมยเหมยด้วยสายตามั่นใจ

เจ้าหญิงตัวน้อยคนนี้ไม่ใช่คนนิสัยดีอะไร เรื่องสองปีก่อนเขาไม่เคยลืม วันนี้ให้เจ้าหญิงตัวน้อยคนนี้เป็นมือปืนสักครั้งแล้วกัน!

………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด