ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 2851 หลังจากนี้อีกครึ่งปีจัดงานแต่งงาน + 2852 ยอดนักศิลปะในใต้หล้า

Now you are reading ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น Chapter 2851 หลังจากนี้อีกครึ่งปีจัดงานแต่งงาน + 2852 ยอดนักศิลปะในใต้หล้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2851 หลังจากนี้อีกครึ่งปีจัดงานแต่งงาน

“นายคิดดีแล้วจริง ๆเหรอ? วันแต่งงานนายต้องใส่ชุดเจ้าสาวตลอดงานเลยนะ แถมยังต้องแต่งหน้าเป็นเจ้าสาวด้วย…” ท่านเคานต์อาวุโสยืนยันเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง

“คิดดีแล้ว ถึงอย่างไรท่านก็อยากให้ผมแต่งตัวเป็นผู้หญิงอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ตามสบายเลย ผมหน้าตาดีมาตั้งแต่เกิดอยู่แล้วเพราะงั้นเลยเป็นได้ทั้งชายทั้งหญิง ไม่ว่าจะใส่อะไรก็สวย ท่านจัดการได้ตามใจชอบเลย” สยงมู่มู่ทำสีหน้าสื่อว่าอย่างไรก็ได้ ท่านเคานต์อาวุโสโกรธจนฟันคันยุบยิบ ไม่เคยเจอใครหน้าไม่อายขนาดนี้มาก่อนเลย

ฉับพลันเธอก็นึกเสียใจที่เสนอเงื่อนไขนี้ออกมา

“ท่านมีสถานะเป็นถึงท่านเคานต์อาวุโสจะเสียสัจจะไม่ได้ ตอนนี้พวกเรามาปรึกษาเรื่องวันแต่งงานดีกว่า ขอแค่เรื่องทุกอย่างราบรื่นก็พอ ผมว่าอีกสองสามวันนี้ก็จัดงานแต่งงานเลยเถอะ!”

สยงมู่มู่พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสแล้วเสนอวันแต่งงานขึ้นพร้อมมองท่านเคานต์อาวุโสอย่างคาดหวัง

“ฉัน…แน่นอนว่าต้องรักษาสัญญาอยู่แล้ว เซียวเซ่อเป็นทายาทตระกูลฉัน เรื่องงานแต่งงานจะสะเพร่าไม่ได้เลยต้องเตรียมงานนานหน่อย…” ท่านเคานต์อาวุโสคิดอยากจะถ่วงเวลา แต่สยงมู่มู่กลับกัดไม่ปล่อยโดยไม่ให้โอกาสเธอเลย

“ต้องเตรียมงานนานเท่าไหร่? หนึ่งเดือนหรือสองเดือน? ท่านอย่าถ่วงเวลาไปอีกสามปีห้าปีเลย รอถึงตอนนั้นเซียวเซ่อคงเป็นหญิงชราภาพไปแล้ว”

ท่านเคานต์อาวุโสสูดหายใจเข้าลึกแล้วนึกอยากชื่นชมเจ้าหมอนี่จริง ๆเพราะเธออยากจะถ่วงเวลาไปอีกสักสามปีห้าปี แต่ต่อหน้าคนมากมายเธอเลยไม่กล้าถ่วงเวลาไปนานขนาดนั้น เธอจึงทำได้แค่สะกดอารมณ์โกรธไว้ “เรื่องนี้ต้องดูความคืบหน้าของงาน แต่คงปีสองปีแหละ…”

“คนของท่านจัดการไม่ได้เรื่องเลย งั้นเอาอย่างนี้แล้วกันผมจะส่งคนมาจัดการแล้วให้ท่านเป็นคนคุมงานเอง วันแต่งงานคือหลังจากนี้อีกครึ่งปี เอาตามนี้แล้วกันครับ เซียวเซ่อเธอมีปัญหาอะไรไหม?” สยงมู่มู่จัดการปัญหาอย่างรวดเร็วโดยมัดมือชกเรียบร้อย

เซียวเซ่อจุดอมยิ้มพลางส่ายศีรษะ เธอไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว

สยงมู่มู่ขยิบตาให้เธอแล้วหันไปพูดกับท่านเคานต์อาวุโสที่ยังตกตะลึงอยู่ว่า “ท่านดูสิเจ้าบ่าวเจ้าสาวคุยตกลงกันเรียบร้อย ท่านไม่ต้องพูดอะไรมากแล้ว หลังจากนี้อีกครึ่งปีจะจัดงานแต่งงานและต้องเป็นที่น่าจับตามองมากกว่างานแต่งงานของเจ้าชายแน่นอน”

ท่านเคานต์อาวุโสจุกอยู่ในอก เจ้าเด็กนี่ไม่แม้แต่จะให้จังหวะเธอได้พูดอะไรด้วยซ้ำ เธอไม่อยากเห็นด้วยเลยสักนิด

เซียวจิ่งหมิงกระซิบข้างหูเธอเสียงเบาว่า “แม่ครับ อันที่จริงแม่ก็เห็นด้วยแล้ว งั้นก็เอาตามพวกเด็ก ๆว่าเถอะ!”

ท่านเคานต์อาวุโสเหลือบมองลูกชายแวบหนึ่งแล้วก็เห็นคุณหนูใหญ่เฝิงที่อยู่ข้างกายเขาด้วย ชั่วพริบตาเดียวเด็กน้อยทั้งสองในวันวานก็ชราลงไม่น้อย เรื่องวุ่นวายยี่สิบกว่าปีมานี้เธอรู้ดีแต่เธอก็ยังไม่ยอมปล่อยวาง

เธอเป็นคนทำให้ลูกชายต้องอยู่โดดเดี่ยวมาตั้งหลายสิบปี!

บางที…เธออาจจะทำผิดไปแล้วจริง ๆ!

ท่านเคานต์อาวุโสสูดหายใจเข้าลึก ความเจ็บปวดแวบพาดผ่านเข้ามาครู่เดียวแล้วเธอก็เชิดคางขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง แค่นเสียงเบาแต่ไม่ปริปากพูดอะไรสักคำหมุนตัวเดินกลับเข้าห้องไปทิ้งพวกเหมยเหมยไว้ด้านหลัง

ขณะเดินผ่านห้องปลูกดอกไม้ ท่านเคานต์อาวุโสก็เห็นของกระจัดกระจายเต็มพื้น จู่ ๆขมับก็เต้นตุบ ๆพลันปวดกรามไปหมด คำรามขึ้นว่า “ใครเป็นคนทำแตก?”

“ฉันค่ะ…ฉันจะชดใช้ให้…” เหมยเหมยยิ้มเจื่อนอย่างรู้สึกผิด ดูท่าทางดอกไม้พวกนี้จะเป็นของรักของหวงของท่านเคานต์อาวุโส

เซียวเซ่อเดินขึ้นมาข้างหน้ากล่าว “หนูทำเอง ก็แค่แตกไปไม่กี่ใบ เดี๋ยวให้คนสวนปลูกใหม่ก็จบ ไม่ต้องชดใช้หรอก”

ก็แค่กระถางดอกไม้ไม่กี่ใบ จะต้องมาชดใช้อะไรกัน!

สีหน้าของท่านเคานต์อาวุโสดูไม่ดีนักพลางจ้องเซียวเซ่อด้วยแววตาแฝงนัยยะบางอย่างแต่ไม่พูดอะไรก็เดินจากไป

แม่บ้านรีบอธิบายทันทีว่า “ดอกโบตั๋นกระถางนั้นคุณตาของคุณหนูเป็นคนให้ค่ะ”

พอพูดจบเธอก็รีบวิ่งเหยาะตามหลังไปประคองท่านเคานต์อาวุโสกลับไปพักผ่อน

เหมยเหมยชะงักไปพักหนึ่งเพราะดอกโบตั๋นเธอเป็นคนทำมันแตกเอง

ใครจะไปรู้ว่าดอกโบตั๋นกระถางนั้นท่านผู้เฒ่าเซียวจะเป็นคนให้ ไม่แน่อาจเป็นของแทนใจก็ได้!

ดูท่าทางท่านเคานต์อาวุโสจะยังเหลือเยื่อใยให้ท่านผู้เฒ่าเซียวอยู่แฮะ!

………………………………………………..

 ตอนที่ 2852 ยอดนักศิลปะในใต้หล้า

“ไม่เป็นไรหรอก คุณย่าของฉันเกลียดคุณปู่ของฉันจะตาย ทำแตกไปจะได้หายแค้นพอดี” เซียวเซ่อปลอบประโลมและไม่เก็บมาใส่ใจสักนิด

เหมยเหมยมุมปากกระตุก ยัยนี่จิตใจหยาบกระด้างจริง ๆมิน่าถึงคบกับสยงมู่มู่มาได้เป็นสิบปี ต้องรอดื่มเหล้าจนเมาก่อนถึงจะความสัมพันธ์คืบหน้า เพราะแต่ไรมาสองคนนี้ไม่เปิดใจให้กันเลย

“ทั้ง ๆที่คุณย่าของเธอยังมีเยื่อใยให้คุณปู่ของเธอขนาดนั้น ไม่เห็นเหรอว่าเมื่อกี้คุณย่าสีหน้าแย่แค่ไหน” เหมยเหมยเอ่ยเสียงเบา

เซียวเซ่อชะงักไปแล้วถามขึ้นว่า “งั้นทำไมคุณย่าถึงไม่ยอมเจอคุณปู่ล่ะ?”

เหมยเหมยยักไหล่ ใครจะไปรู้ล่ะว่าในใจหญิงชราคิดอะไรอยู่ เดาว่าศักดิ์ศรีคงค้ำคออยู่สิท่า!

เธอยิ้มตาหยีกล่าว “ยินดีด้วยนะ อีกครึ่งปีหลังจากนี้เธอก็จะเป็นพี่สะใภ้ฉันแล้ว!”

เซียวเซ่อหน้าแดงระเรื่อซึ่งนาน ๆทีจะเห็นหล่อนทำตัวเหนียมอาย ส่วนสยงมู่มู่ที่อยู่ข้าง ๆกลับฉีกยิ้มแป้นถึงรูหู “ยินดีด้วยเหมือนกัน พวกเราต่างมีเรื่องให้น่ายินดีทั้งคู่ คาดว่าอีกครึ่งปีหลานตัวน้อยของฉันก็คงออกมาแล้ว”

“งั้นฉันก็ไม่ต้องให้ซองแดงแล้วแหละ หักลบกันได้พอดี!” เหมยเหมยเอ่ยพร้อมหัวเราะคิกคัก

สยงมู่มู่กลอกตาใส่อย่างรังเกียจแวบหนึ่ง “ไม่ได้ เรื่องของฉันเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตเลยนะ จะขาดซองแดงของเธอไม่ได้ แล้วต้องปึกหนาด้วย”

ทุกคนต่างหัวเราะมีความสุข เรื่องดี ๆโผล่มาได้สักที ถือว่าเป็นสายรุ้งอันงดงามหลังพายุหนักสงบลง แต่มีเพียงจ้าวอิงหนานที่กลับไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่นัก

“ถ้าคุณปู่คุณย่ารู้เข้าคงโกรธแย่เลย ลูกอย่าเพิ่งบอกพวกเขาล่ะ คุณปู่สุขภาพไม่ดี ฉะนั้นจะรับรู้เรื่องสะเทือนใจไม่ได้” จ้าวอิงหนานกังวลเรื่องสุขภาพของพ่อสามีพอสมควร

สยงมู่มู่กลับไม่คิดเช่นนั้น “วางใจเถอะ คุณปู่คุณย่าไม่ได้หัวโบราณแบบแม่สักหน่อย พวกเข้าต้องดีใจกับผมแน่นอน”

เขาหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาสองชราที่บ้าน คนที่รับสายก็คือคุณปู่ซึ่งกำลังเล่นไพ่นกกระจอกอยู่ พอคุณปู่ได้ยินว่าหลังจากนี้อีกครึ่งปีสยงมู่มู่จะจัดงานแต่งงาน คุณปู่ก็ดีใจจนแทบรื้อกระดานทิ้ง

อีกทั้งสยงมู่มู่ยังเล่าเรื่องเขาเตรียมจะใส่ชุดเจ้าสาวให้ฟังด้วย จ้าวอิงหนานก็ใจเต้นมาถึงคอหอยเพราะกลัวว่าคุณปู่จะอาการกำเริบ แต่ทว่า——

“หลานใส่ชุดเจ้าสาวต้องดูดีมากแน่ ๆ พอถึงตอนนั้นฉันจะไปร่วมงานแต่งงานด้วยแน่นอน ต่อให้เป็นที่อังกฤษก็ไม่เป็นไร ใช่ว่าฉันจะไม่เคยไปเสียเมื่อไหร่ หลายสิบปีก่อนปู่เคยไปมาแล้ว วงเราเคยไปแสดงที่ประเทศอังกฤษมาก่อนนะ” คุณปู่ทำทีนิ่งเฉยมากราวกับว่าเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป

จ้าวอิงหนานกะพริบตาปริบ ๆพลันนึกว่าคุณปู่ฟังไม่เข้าใจจึงแย่งมือถือมาแล้วพูดว่า “พ่อคะ ถึงตอนนั้นมู่มู่ต้องใส่ชุดเจ้าสาว แถมจะมีรายงานข่าวไปทั่วโลก คุณพ่อไม่อายคนอื่นเหรอ!”

“อายอะไรกัน นี่มันเป็นศิลปะรู้ไหม ตอนนั้นฉันต้องแต่งตัวเป็นผู้หญิงไปแสดงเรื่องม่านประเพณี[1]ที่ประเทศอังกฤษ ฉันต้องแต่งเป็นจู้อิงไถ พวกฝรั่งไม่เชื่อเลยว่าฉันเป็นผู้ชาย พอล้างเครื่องสำอางออกถึงได้เชื่อ…ฮ่า ๆ ตอนนี้ถึงตาหลานชายฉันไปตบตาพวกฝรั่งบ้าง มู่มู่ หลานต้องพยายามเข้าหน่อยล่ะ อย่าทำให้ตระกูลสยงของเราต้องขายหน้านะ!” คุณปู่สยงสดใสมากทีเดียว เสียงดังผ่านลำโพงมาเลยทำให้ทุกคนฟังชัดเต็มสองหู

สยงมู่มู่ขยิบตาให้อย่างได้ใจ แล้วตะโกนตอบกลับไปว่า “คุณปู่วางใจได้ ถึงตอนนั้นถ้าคนอื่นจับได้จะให้คุณปู่ตีก้นผมเลย!”

“ดี ไม่เล่นไพ่นกกระจอกแล้ว ฉันไปบอกพวกเพื่อน ๆดีกว่า พวกหลานจัดงานที่อังกฤษก่อนแล้วค่อยกลับมาจัดที่บ้านเกิด ฉันจ่ายไปตั้งมาก ถึงคราวที่จะต้องเก็บทบยอดเอาคืนกลับมาแล้ว”

คุณปู่วางโทรศัพท์ด้วยความดีใจแล้วเตรียมวางแผนงานแต่งงานหลังจากนี้อีกหกเดือน ต้องเอาให้ใหญ่โตไปเลย อย่างน้อยต้องร้อยโต๊ะหรือมากกว่านั้น

จ้าวอิงหนานสีหน้าตกตะลึง ในที่สุดเธอก็นึกขึ้นได้ว่าตอนนั้นพ่อปู่ของเธอเป็นนักแสดงงิ้วชื่อดังระดับโลก ครั้งสุดท้ายที่ขึ้นเวทีก็อายุ 60 ปีแล้ว แต่แต่งเป็นสาวน้อยก็ดูตัวเล็กกะทัดรัด ดวงหน้าจิ้มลิ้มร่าเริง ดูไม่ออกเลยสักนิดว่าเป็นผู้ชาย

ทำไมเธอถึงลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทได้นะ!

……………………………………..

[1] เป็นหนึ่งตำนานรักพื้นบ้านที่น่าเศร้า หรือเรียกอีกชื่อว่าตำนานรักผีเสื้อ

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 2851 หลังจากนี้อีกครึ่งปีจัดงานแต่งงาน + 2852 ยอดนักศิลปะในใต้หล้า

Now you are reading ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น Chapter 2851 หลังจากนี้อีกครึ่งปีจัดงานแต่งงาน + 2852 ยอดนักศิลปะในใต้หล้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2851 หลังจากนี้อีกครึ่งปีจัดงานแต่งงาน

“นายคิดดีแล้วจริง ๆเหรอ? วันแต่งงานนายต้องใส่ชุดเจ้าสาวตลอดงานเลยนะ แถมยังต้องแต่งหน้าเป็นเจ้าสาวด้วย…” ท่านเคานต์อาวุโสยืนยันเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง

“คิดดีแล้ว ถึงอย่างไรท่านก็อยากให้ผมแต่งตัวเป็นผู้หญิงอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ตามสบายเลย ผมหน้าตาดีมาตั้งแต่เกิดอยู่แล้วเพราะงั้นเลยเป็นได้ทั้งชายทั้งหญิง ไม่ว่าจะใส่อะไรก็สวย ท่านจัดการได้ตามใจชอบเลย” สยงมู่มู่ทำสีหน้าสื่อว่าอย่างไรก็ได้ ท่านเคานต์อาวุโสโกรธจนฟันคันยุบยิบ ไม่เคยเจอใครหน้าไม่อายขนาดนี้มาก่อนเลย

ฉับพลันเธอก็นึกเสียใจที่เสนอเงื่อนไขนี้ออกมา

“ท่านมีสถานะเป็นถึงท่านเคานต์อาวุโสจะเสียสัจจะไม่ได้ ตอนนี้พวกเรามาปรึกษาเรื่องวันแต่งงานดีกว่า ขอแค่เรื่องทุกอย่างราบรื่นก็พอ ผมว่าอีกสองสามวันนี้ก็จัดงานแต่งงานเลยเถอะ!”

สยงมู่มู่พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสแล้วเสนอวันแต่งงานขึ้นพร้อมมองท่านเคานต์อาวุโสอย่างคาดหวัง

“ฉัน…แน่นอนว่าต้องรักษาสัญญาอยู่แล้ว เซียวเซ่อเป็นทายาทตระกูลฉัน เรื่องงานแต่งงานจะสะเพร่าไม่ได้เลยต้องเตรียมงานนานหน่อย…” ท่านเคานต์อาวุโสคิดอยากจะถ่วงเวลา แต่สยงมู่มู่กลับกัดไม่ปล่อยโดยไม่ให้โอกาสเธอเลย

“ต้องเตรียมงานนานเท่าไหร่? หนึ่งเดือนหรือสองเดือน? ท่านอย่าถ่วงเวลาไปอีกสามปีห้าปีเลย รอถึงตอนนั้นเซียวเซ่อคงเป็นหญิงชราภาพไปแล้ว”

ท่านเคานต์อาวุโสสูดหายใจเข้าลึกแล้วนึกอยากชื่นชมเจ้าหมอนี่จริง ๆเพราะเธออยากจะถ่วงเวลาไปอีกสักสามปีห้าปี แต่ต่อหน้าคนมากมายเธอเลยไม่กล้าถ่วงเวลาไปนานขนาดนั้น เธอจึงทำได้แค่สะกดอารมณ์โกรธไว้ “เรื่องนี้ต้องดูความคืบหน้าของงาน แต่คงปีสองปีแหละ…”

“คนของท่านจัดการไม่ได้เรื่องเลย งั้นเอาอย่างนี้แล้วกันผมจะส่งคนมาจัดการแล้วให้ท่านเป็นคนคุมงานเอง วันแต่งงานคือหลังจากนี้อีกครึ่งปี เอาตามนี้แล้วกันครับ เซียวเซ่อเธอมีปัญหาอะไรไหม?” สยงมู่มู่จัดการปัญหาอย่างรวดเร็วโดยมัดมือชกเรียบร้อย

เซียวเซ่อจุดอมยิ้มพลางส่ายศีรษะ เธอไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว

สยงมู่มู่ขยิบตาให้เธอแล้วหันไปพูดกับท่านเคานต์อาวุโสที่ยังตกตะลึงอยู่ว่า “ท่านดูสิเจ้าบ่าวเจ้าสาวคุยตกลงกันเรียบร้อย ท่านไม่ต้องพูดอะไรมากแล้ว หลังจากนี้อีกครึ่งปีจะจัดงานแต่งงานและต้องเป็นที่น่าจับตามองมากกว่างานแต่งงานของเจ้าชายแน่นอน”

ท่านเคานต์อาวุโสจุกอยู่ในอก เจ้าเด็กนี่ไม่แม้แต่จะให้จังหวะเธอได้พูดอะไรด้วยซ้ำ เธอไม่อยากเห็นด้วยเลยสักนิด

เซียวจิ่งหมิงกระซิบข้างหูเธอเสียงเบาว่า “แม่ครับ อันที่จริงแม่ก็เห็นด้วยแล้ว งั้นก็เอาตามพวกเด็ก ๆว่าเถอะ!”

ท่านเคานต์อาวุโสเหลือบมองลูกชายแวบหนึ่งแล้วก็เห็นคุณหนูใหญ่เฝิงที่อยู่ข้างกายเขาด้วย ชั่วพริบตาเดียวเด็กน้อยทั้งสองในวันวานก็ชราลงไม่น้อย เรื่องวุ่นวายยี่สิบกว่าปีมานี้เธอรู้ดีแต่เธอก็ยังไม่ยอมปล่อยวาง

เธอเป็นคนทำให้ลูกชายต้องอยู่โดดเดี่ยวมาตั้งหลายสิบปี!

บางที…เธออาจจะทำผิดไปแล้วจริง ๆ!

ท่านเคานต์อาวุโสสูดหายใจเข้าลึก ความเจ็บปวดแวบพาดผ่านเข้ามาครู่เดียวแล้วเธอก็เชิดคางขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง แค่นเสียงเบาแต่ไม่ปริปากพูดอะไรสักคำหมุนตัวเดินกลับเข้าห้องไปทิ้งพวกเหมยเหมยไว้ด้านหลัง

ขณะเดินผ่านห้องปลูกดอกไม้ ท่านเคานต์อาวุโสก็เห็นของกระจัดกระจายเต็มพื้น จู่ ๆขมับก็เต้นตุบ ๆพลันปวดกรามไปหมด คำรามขึ้นว่า “ใครเป็นคนทำแตก?”

“ฉันค่ะ…ฉันจะชดใช้ให้…” เหมยเหมยยิ้มเจื่อนอย่างรู้สึกผิด ดูท่าทางดอกไม้พวกนี้จะเป็นของรักของหวงของท่านเคานต์อาวุโส

เซียวเซ่อเดินขึ้นมาข้างหน้ากล่าว “หนูทำเอง ก็แค่แตกไปไม่กี่ใบ เดี๋ยวให้คนสวนปลูกใหม่ก็จบ ไม่ต้องชดใช้หรอก”

ก็แค่กระถางดอกไม้ไม่กี่ใบ จะต้องมาชดใช้อะไรกัน!

สีหน้าของท่านเคานต์อาวุโสดูไม่ดีนักพลางจ้องเซียวเซ่อด้วยแววตาแฝงนัยยะบางอย่างแต่ไม่พูดอะไรก็เดินจากไป

แม่บ้านรีบอธิบายทันทีว่า “ดอกโบตั๋นกระถางนั้นคุณตาของคุณหนูเป็นคนให้ค่ะ”

พอพูดจบเธอก็รีบวิ่งเหยาะตามหลังไปประคองท่านเคานต์อาวุโสกลับไปพักผ่อน

เหมยเหมยชะงักไปพักหนึ่งเพราะดอกโบตั๋นเธอเป็นคนทำมันแตกเอง

ใครจะไปรู้ว่าดอกโบตั๋นกระถางนั้นท่านผู้เฒ่าเซียวจะเป็นคนให้ ไม่แน่อาจเป็นของแทนใจก็ได้!

ดูท่าทางท่านเคานต์อาวุโสจะยังเหลือเยื่อใยให้ท่านผู้เฒ่าเซียวอยู่แฮะ!

………………………………………………..

 ตอนที่ 2852 ยอดนักศิลปะในใต้หล้า

“ไม่เป็นไรหรอก คุณย่าของฉันเกลียดคุณปู่ของฉันจะตาย ทำแตกไปจะได้หายแค้นพอดี” เซียวเซ่อปลอบประโลมและไม่เก็บมาใส่ใจสักนิด

เหมยเหมยมุมปากกระตุก ยัยนี่จิตใจหยาบกระด้างจริง ๆมิน่าถึงคบกับสยงมู่มู่มาได้เป็นสิบปี ต้องรอดื่มเหล้าจนเมาก่อนถึงจะความสัมพันธ์คืบหน้า เพราะแต่ไรมาสองคนนี้ไม่เปิดใจให้กันเลย

“ทั้ง ๆที่คุณย่าของเธอยังมีเยื่อใยให้คุณปู่ของเธอขนาดนั้น ไม่เห็นเหรอว่าเมื่อกี้คุณย่าสีหน้าแย่แค่ไหน” เหมยเหมยเอ่ยเสียงเบา

เซียวเซ่อชะงักไปแล้วถามขึ้นว่า “งั้นทำไมคุณย่าถึงไม่ยอมเจอคุณปู่ล่ะ?”

เหมยเหมยยักไหล่ ใครจะไปรู้ล่ะว่าในใจหญิงชราคิดอะไรอยู่ เดาว่าศักดิ์ศรีคงค้ำคออยู่สิท่า!

เธอยิ้มตาหยีกล่าว “ยินดีด้วยนะ อีกครึ่งปีหลังจากนี้เธอก็จะเป็นพี่สะใภ้ฉันแล้ว!”

เซียวเซ่อหน้าแดงระเรื่อซึ่งนาน ๆทีจะเห็นหล่อนทำตัวเหนียมอาย ส่วนสยงมู่มู่ที่อยู่ข้าง ๆกลับฉีกยิ้มแป้นถึงรูหู “ยินดีด้วยเหมือนกัน พวกเราต่างมีเรื่องให้น่ายินดีทั้งคู่ คาดว่าอีกครึ่งปีหลานตัวน้อยของฉันก็คงออกมาแล้ว”

“งั้นฉันก็ไม่ต้องให้ซองแดงแล้วแหละ หักลบกันได้พอดี!” เหมยเหมยเอ่ยพร้อมหัวเราะคิกคัก

สยงมู่มู่กลอกตาใส่อย่างรังเกียจแวบหนึ่ง “ไม่ได้ เรื่องของฉันเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตเลยนะ จะขาดซองแดงของเธอไม่ได้ แล้วต้องปึกหนาด้วย”

ทุกคนต่างหัวเราะมีความสุข เรื่องดี ๆโผล่มาได้สักที ถือว่าเป็นสายรุ้งอันงดงามหลังพายุหนักสงบลง แต่มีเพียงจ้าวอิงหนานที่กลับไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่นัก

“ถ้าคุณปู่คุณย่ารู้เข้าคงโกรธแย่เลย ลูกอย่าเพิ่งบอกพวกเขาล่ะ คุณปู่สุขภาพไม่ดี ฉะนั้นจะรับรู้เรื่องสะเทือนใจไม่ได้” จ้าวอิงหนานกังวลเรื่องสุขภาพของพ่อสามีพอสมควร

สยงมู่มู่กลับไม่คิดเช่นนั้น “วางใจเถอะ คุณปู่คุณย่าไม่ได้หัวโบราณแบบแม่สักหน่อย พวกเข้าต้องดีใจกับผมแน่นอน”

เขาหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาสองชราที่บ้าน คนที่รับสายก็คือคุณปู่ซึ่งกำลังเล่นไพ่นกกระจอกอยู่ พอคุณปู่ได้ยินว่าหลังจากนี้อีกครึ่งปีสยงมู่มู่จะจัดงานแต่งงาน คุณปู่ก็ดีใจจนแทบรื้อกระดานทิ้ง

อีกทั้งสยงมู่มู่ยังเล่าเรื่องเขาเตรียมจะใส่ชุดเจ้าสาวให้ฟังด้วย จ้าวอิงหนานก็ใจเต้นมาถึงคอหอยเพราะกลัวว่าคุณปู่จะอาการกำเริบ แต่ทว่า——

“หลานใส่ชุดเจ้าสาวต้องดูดีมากแน่ ๆ พอถึงตอนนั้นฉันจะไปร่วมงานแต่งงานด้วยแน่นอน ต่อให้เป็นที่อังกฤษก็ไม่เป็นไร ใช่ว่าฉันจะไม่เคยไปเสียเมื่อไหร่ หลายสิบปีก่อนปู่เคยไปมาแล้ว วงเราเคยไปแสดงที่ประเทศอังกฤษมาก่อนนะ” คุณปู่ทำทีนิ่งเฉยมากราวกับว่าเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป

จ้าวอิงหนานกะพริบตาปริบ ๆพลันนึกว่าคุณปู่ฟังไม่เข้าใจจึงแย่งมือถือมาแล้วพูดว่า “พ่อคะ ถึงตอนนั้นมู่มู่ต้องใส่ชุดเจ้าสาว แถมจะมีรายงานข่าวไปทั่วโลก คุณพ่อไม่อายคนอื่นเหรอ!”

“อายอะไรกัน นี่มันเป็นศิลปะรู้ไหม ตอนนั้นฉันต้องแต่งตัวเป็นผู้หญิงไปแสดงเรื่องม่านประเพณี[1]ที่ประเทศอังกฤษ ฉันต้องแต่งเป็นจู้อิงไถ พวกฝรั่งไม่เชื่อเลยว่าฉันเป็นผู้ชาย พอล้างเครื่องสำอางออกถึงได้เชื่อ…ฮ่า ๆ ตอนนี้ถึงตาหลานชายฉันไปตบตาพวกฝรั่งบ้าง มู่มู่ หลานต้องพยายามเข้าหน่อยล่ะ อย่าทำให้ตระกูลสยงของเราต้องขายหน้านะ!” คุณปู่สยงสดใสมากทีเดียว เสียงดังผ่านลำโพงมาเลยทำให้ทุกคนฟังชัดเต็มสองหู

สยงมู่มู่ขยิบตาให้อย่างได้ใจ แล้วตะโกนตอบกลับไปว่า “คุณปู่วางใจได้ ถึงตอนนั้นถ้าคนอื่นจับได้จะให้คุณปู่ตีก้นผมเลย!”

“ดี ไม่เล่นไพ่นกกระจอกแล้ว ฉันไปบอกพวกเพื่อน ๆดีกว่า พวกหลานจัดงานที่อังกฤษก่อนแล้วค่อยกลับมาจัดที่บ้านเกิด ฉันจ่ายไปตั้งมาก ถึงคราวที่จะต้องเก็บทบยอดเอาคืนกลับมาแล้ว”

คุณปู่วางโทรศัพท์ด้วยความดีใจแล้วเตรียมวางแผนงานแต่งงานหลังจากนี้อีกหกเดือน ต้องเอาให้ใหญ่โตไปเลย อย่างน้อยต้องร้อยโต๊ะหรือมากกว่านั้น

จ้าวอิงหนานสีหน้าตกตะลึง ในที่สุดเธอก็นึกขึ้นได้ว่าตอนนั้นพ่อปู่ของเธอเป็นนักแสดงงิ้วชื่อดังระดับโลก ครั้งสุดท้ายที่ขึ้นเวทีก็อายุ 60 ปีแล้ว แต่แต่งเป็นสาวน้อยก็ดูตัวเล็กกะทัดรัด ดวงหน้าจิ้มลิ้มร่าเริง ดูไม่ออกเลยสักนิดว่าเป็นผู้ชาย

ทำไมเธอถึงลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทได้นะ!

……………………………………..

[1] เป็นหนึ่งตำนานรักพื้นบ้านที่น่าเศร้า หรือเรียกอีกชื่อว่าตำนานรักผีเสื้อ

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+