ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 2955 ชีวิตต้องการความเป็นพิธีรีตอง + 2956 อาหารเช้าสุดวิเศษ

Now you are reading ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น Chapter 2955 ชีวิตต้องการความเป็นพิธีรีตอง + 2956 อาหารเช้าสุดวิเศษ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2955 ชีวิตต้องการความเป็นพิธีรีตอง

เสี่ยวเป่าเอาเนื้อที่ผ่านการล้างเสร็จไปตุ๋นในหม้อ ข้างในนั้นมีขิงป่าอยู่จำนวนหนึ่ง เมื่อกี้ตอนเขาไปเด็ดผักป่าพบว่ามีขิงป่าอยู่กลุ่มหนึ่งรวมถึงต้นหอมป่าอีกส่วนหนึ่ง เขาเลยเด็ดมาอย่างละนิดละหน่อยใช้เป็นเครื่องปรุงรสได้

ต่อให้อยู่ท่ามกลางหุบเขาใหญ่ก็ต้องรับประกันรสชาติของอาหาร แถมยังทำให้ดูมีความเป็นพิธีรีตองด้วย

นี่เป็นหลักการที่เสี่ยวเป่าใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางหุบเขาใหญ่มานานหลายปี

เจสันมองเสี่ยวเป่ายุ่งวุ่นวายตาแป๋วพลันรู้สึกว่าคนฮวาเซี่ยช่างมหัศจรรย์เสียจริง ไม่มีอะไรที่พวกเขากินไม่ได้ ขุดเอาผักป่าจากพื้นที่ไหนมาก็ทำอาหารรสเลิศได้ทั้งนั้น

คนอื่น ๆก็เดินล้อมเข้ามาอย่างนึกสนใจและแสดงท่าทีว่าสนใจกับอาหารที่เสี่ยวเป่าทำอย่างมาก ดูเป็นพิธีรีตองขนาดนี้คิดว่ารสชาติต้องดีมากแน่ ๆเลย!

เสี่ยวเป่าเติมเครื่องปรุงเครื่องเทศใส่หม้อเป็นระยะ ๆ นี่ล้วนแต่เป็นของที่เขาตามหามาจากละแวกใกล้เคียงนี้ทั้งสิ้น ภูเขาสือว่านมีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์และมียาสมุนไพรมากมายนับไม่ถ้วน ในนั้นมีเครื่องเทศที่สามารถนำมาปรุงอาหารได้แถมรสชาติไม่แย่เลยด้วย

สำหรับเสี่ยวเป่าแล้วภูเขาใหญ่เปรียบดั่งปล่อยเสือกลับเข้าป่า ปล่อยปลาลงน้ำ เขาสามารถใช้ชีวิตอยู่ในป่าได้ตลอดชีวิตโดยไม่ต้องการความช่วยเหลือใด ๆจากโลกภายนอกเลย

เพราะเขาสามารถใช้พืชพรรณหรือสัตว์รอบทิศเพื่อทำอาหารที่อร่อยและมีประโยชน์ได้เสมอ ส่วนเหตุผลที่เขามักออกมาอยู่ประจำ กระทั่งช่วงนี้เขาถึงเข้าใจ–

เพราะคิดถึง…

เขากำลังคิดถึงใครบางคน ใครบางคนที่ชอบตามเขาต้อย ๆอยู่ด้านหลัง

เสี่ยวเป่าหัวเราะเย้ยหยันตัวเองและนึกดูถูกดูแคลนตัวเองมาก ในที่สุดก็รู้ใจตัวเองสักที แต่เขากลับรับปากกับคุณอาเหยียนไปก่อนหน้านี้แล้ว หนำซ้ำยังสาบานด้วย เขาจะทำอย่างไรดีล่ะ?

เขาถอนหายใจแรง ๆทีหนึ่งฝืนใจไม่ให้ตัวเองคิดอะไรอีกพลางคิดว่าจัดการ ‘สมบัติ’ ที่หนิงเฉินเซวียนทิ้งไว้ก่อนแล้วกัน ไหนจะเจ้าพวกน่ารำคาญที่รายล้อม ๆอยู่ที่นี่แต่ละคนอีก

บางทีอนาคตเขาอาจจะลองเกลี้ยกล่อมขอคุณอาเหยียนอนุญาตให้เขากับน้องเล่อเล่อคบกันก็ได้?

เสี่ยวเป่ามองเข้าไปในเต็นท์แวบหนึ่งด้วยแววตารักใคร่โดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ตัวเช่นกัน น้องเล่อเล่อโปรดปรานซือจื่อโถว[1] เขาทำซือจื่อโถวอีกสักหน่อยแล้วกัน

อืม…ใกล้ ๆนี้มีมันเทศป่าอยู่ เขาจะไปขุดเอามาทำเป็นมันเทศย่างอีกหน่อย วันนี้เป็นวันสำคัญมากวันหนึ่ง ฉะนั้นต้องมีอาหารรสเลิศอุดมสมบูรณ์และดูพิเศษไว้ฉลองหน่อย อีกอย่างพิธีรีตองก็เป็นสิ่งที่ต้องมี

เสี่ยวเป่าบอกกับเจสันว่า “ช่วยดูไฟให้หน่อย”

เจสันชะงักไปกึกหนึ่งก็ตอบรับอย่างไว “ไม่มีปัญหา”

เสี่ยวเป่าอมยิ้มน้อย ๆแล้วเดินขึ้นเนินเขาข้าง ๆพร้อมมือที่หิ้วกระสอบไปด้วย เจสันมองเขาอย่างงุนงง ไม่กลัวว่าเขาจะใส่ยาพิษในน้ำซุปหรือ?

หรือว่าเขามีหน้าตาที่ดูปลอดภัยน่าไว้ใจไม่เป็นพิษสงงั้นสิ?

เจสันลูบแก้มตัวเองอย่างนึกสงสัยแล้วยิ้มออกมาอย่างดีใจ ชายชาวฮวาเซี่ยหน้าตาดีคนนี้แววตาใช้ได้ หรือว่าพอได้รูปอาวุธมาแล้วเขาจะลองโน้มน้าวใจปิแอร์ดูว่าให้ไว้ชีวิตสองสามีภรรยาหน้าตาสะสวยคู่นี้ไปเถอะ พวกเขาแค่ทำภารกิจสำเร็จก็พอ ไม่จำเป็นต้องฆ่าคนนี่นา!

ราว ๆครึ่งชั่วโมงต่อมาเสี่ยวเป่าก็หิ้วมันเทศป่าเต็มกระสอบกลับมา มืออีกข้างยังมีสร้อยคอสีแดงฉานพวงใหญ่ที่ความจริงเป็นสร้อยคอที่ใช้สตรอว์เบอร์รีป่าร้อยเข้ากัน ทั้งลูกใหญ่ทั้งแดงเหมือนหินโมราแดงก็ไม่ปาน

เจสันอดกลืนน้ำลายเอือกหนึ่งไม่ได้ เขาชอบสตรอว์เบอร์รีที่สุดเลย ไปเด็ดมาจากไหนเยอะแยะกัน?

สักพักเขาจะลองขึ้นไปดูบนนั้นบ้าง ผู้ชายหน้าตางดงามคนนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเขากำลังเดินเล่นอยู่ในสวนบ้านตัวเองอย่างไรอย่างนั้น อยากทานอะไรก็ไปเดินหาจากสวนผักสักรอบ อยากได้ก็มีหมด

เสี่ยวเป่าวางสตรอว์เบอร์รี่ป่าอย่างดี เล่อเล่อชอบทานอันนี้ เมื่อกี้เขาเห็นว่ามีหลุมงูอยู่ใกล้ ๆ รวมถึงสตอเบอร์รี่ป่าหลายต้นที่ยังไม่ถูกนกน้อยจิกกินจนหมดจึงเด็ดผลมาทั้งต้น ตอนนี้เป็นช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วงคาดว่าบนเขาคงหาสตรอว์เบอร์รี่สดเช่นนี้ได้ยากมากแล้ว

……………………………

ตอนที่ 2956 อาหารเช้าสุดวิเศษ

เสี่ยวเป่าเอามันเทศป่าโยนเข้ากองไฟแล้วแล่เนื้อกระต่ายมาสับจนละเอียด จากนั้นสับหอมป่าจนละเอียดรวมถึงเครื่องเทศอีกจำนวนหนึ่งก่อนจะเทรวมกับเนื้อบดแล้วผสมให้เข้ากัน

เขาเขี่ยเอามันเทศย่างสุกลูกหนึ่งออกจากกองไฟ หลังจากปอกเปลือกมันออกก็เผยให้เห็นเนื้อขาวอมชมพู เสี่ยวเป่ายิ้มอย่างพอใจแล้วบดเนื้อของมันเทศผสมกับเนื้อบด มันเทศมีส่วนผสมหลักคือแป้ง เช่นนี้ก็จะช่วยให้เมนูซือจื่อโถวรสชาตินุ่มละมุนขึ้นอีกนิด

เจสันกับคนอื่น ๆต่างละสายตาจากการแสดงของเสี่ยวเป่าไม่ได้เลย พวกเขาไม่ได้รู้สึกเหมือนอยู่กลางป่ากลางเขาแต่กำลังอยู่หลังครัวร้านอาหารระดับห้าดาวที่มีอุปกรณ์ครบครันคอยรับชมการแสดงของหัวหน้าพ่อครัวอยู่

“นี่ทำอะไรเหรอ?” เจสันกลืนน้ำลายแล้วอดถามไม่ได้

“ซือจื่อโถว”

เสี่ยวเป่าเริ่มปั้นเนื้อเป็นก้อน ๆแล้ววางเรียงบนใบไม้สะอาดทีละลูก ไม่มีหม้อสำหรับนึ่งก็ไม่เป็นไรเพราะไม่ใช่ปัญหาสำหรับเสี่ยวเป่าเลย เขาตัดไม้ไผ่มาท่อนหนึ่งแล้วกรีดออกมาเป็นเส้นบาง ๆก่อนจะนำไปย่างบนไฟสักครู่รอให้ไม้ไผ่อ่อนลงเสี่ยวเป่าก็เริ่มทำการสานไม้ไผ่อย่างคล่องแคล่วคล้ายกำลังถักเสื้อก็ไม่ปาน ทุกคนดูจนตาลายไปหมด ไม่นานตะแกรงไม้ไผ่อันหนึ่งก็สานเสร็จเรียบร้อย

เสี่ยวเป่าเอาลูกชิ้นเนื้อก้อนกลมวางบนตะแกรงแล้ววางซ้อนหม้อเหล็กที่มีไอร้อนพวยพุ่งออกมาไม่ขาดสาย จากนั้นก็หยิบเอาใบไม้ใบใหญ่มาปิดไว้ รอน้ำซุปเคี่ยวเสร็จซือจื่อโถวก็นึ่งสุกพอดี

ใช้เวลาไม่นานรสชาติหอมกรุ่นก็กระจายไปทั่วอากาศกระตุ้นโสตประสาทและการรับกลิ่นของทุกคน พวกเขาต่างลอบกลืนน้ำลายกันโดยไม่รู้ตัวพลางมองเสบียงอาหารกระป๋องกับขนมปังแข็งในมือตัวเองด้วยสายตารังเกียจ

เทียบกับอาหารรสเลิศของเสี่ยวเป่าแล้ว อาหารของพวกเขาสู้ไม่ได้แม้กระทั่งอาหารหมูเลยด้วยซ้ำ

เล่อเล่อถูกปลูกให้ตื่นด้วยกลิ่นหอมของอาหาร เธอขยี้ตาเดินออกมาด้วยท่าทีสะลึมสะลือ เธอสูดกลิ่นอย่างแรงแล้วเอ่ยอย่างดีใจ “เสี่ยวเป่าพี่กำลังนึ่งซือจื่อโถวใช่ไหม? แล้วก็มันเทศเผาด้วย…”

ต่อหน้าอาหารรสเลิศเล่อเล่อก็หลงลืมคำสั่งของเป่ารื่อน่าไปจนหมดสิ้น เธอรีบล้างหน้าล้างตาแปรงฟันอย่างลวก ๆแล้วย่อตัวลงข้างกองไฟข้างเสวี่ยเอ๋อร์แล้วจ้องเสี่ยวเป่าตาแป๋ว

“ยังไม่สุก รออีกหน่อย ทานมันเทศเผาไปก่อนแล้วกัน”

เสี่ยวเป่าเขี่ยเอามันเทศดำปี๋ออกมาจากกองไฟวางตรงหน้าเล่อเล่อพร้อมกำชับเสียงอ่อนโยน “รอให้เย็นค่อยทานนะ ระวังลวกมือด้วย”

“รู้แล้วน่า ฉันไม่ใช่เด็กสามขวบแล้วนะ” เล่อเล่อตอบรับไปทีหนึ่งอย่างไม่พอใจแต่กลับยื่นมือไปโดยไม่รู้ตัว พอแตะโดนมันเทศร้อนจี๋ก็ชักมือกลับเหมือนโดนไฟฟ้าสถิตพร้อมปลายนิ้วแดงเป็นดวง ๆ

เสี่ยวเป่าถอนหายใจอย่างระอา เด็กสามขวบยังเชื่อฟังกว่ายัยเด็กคนนี้เลย ขนาดโดนลวกมือทุกครั้งก็ยังไม่หลาบจำ

“ยื่นมือมา” เสี่ยวเป่าเด็ดใบไม้มาหลายใบแล้วตำจนเละ จากนั้นก็ทาบนปลายนิ้วที่โดนลวกของเล่อเล่อพร้อมเอาใบไม้ใบใหญ่มาพันไว้อย่างดี

“ไม่เจ็บแล้ว ทานมันเทศกัน”

เล่อเล่อสะบัดนิ้วทีหนึ่งแล้วคลี่ยิ้มกว้างให้เสี่ยวเป่า เธอหยิบมันเทศลูกหนึ่งขึ้นมาปอกเปลือกเผยให้เห็นเนื้อมันเทศสีขาวอมชมพูที่ยังมีไอร้อนลอยโขมงแล้วกัดคำหนึ่งอย่างอดใจไม่ไหว “หอมจัง มันเทศป่าหอมจริง ๆ อร่อยมากด้วย”

เธอซัดมันเทศลูกหนึ่งหมดในสองสามคำแล้วปอกอีกลูกมายื่นจ่อปากเสี่ยวเป่า “รีบทาน อร่อยมากเลย”

เสี่ยวเป่าไม่ได้หลบเหมือนแต่ก่อนแต่มองเล่อเล่อด้วยสายตาล้ำลึกแวบหนึ่งก็กัดคำโตพลางยิ้มเอ่ย “อร่อยมากจริง ๆ”

เล่อเล่อชะงักค้างมองเสี่ยวเป่าด้วยท่าทีตกตะลึง ทำไมไม่รับไปทานเองล่ะ ตั้งแต่อายุครบสิบขวบเสี่ยวเป่าก็ไม่ให้เธอป้อนอาหารอีก นี่คงไม่ได้กำลังละเมออยู่หรอกนะ?

เสี่ยวเป่าหัวเราะเสียงเบาแล้วเขี่ยปลายจมูกเล่อเล่อทีหนึ่ง “น้ำลายไหลแล้ว”

เล่อเล่อรีบใช้มือปาด ก็แห้งนี่นา…เธอถึงกลอกตาใส่เสี่ยวเป่าแวบหนึ่งคร้านจะนึกหาเหตุผลแล้วเอามันเทศที่เสี่ยวเป่ากัดไปคำหนึ่งมาทานต่อ ซือจื่อโถวนึ่งเสร็จแล้ว เสี่ยวเป่ายกตะแกรงมาวางบนพื้นซึ่งในนั้นมีซือจื่อโถวกลิ่นหอมกรุ่นอยู่ นอกจากสีจะจางไปสักหน่อยแต่กลิ่นกลับไม่แพ้ร้านอาหารร้านดังเลย

“ไม่ไหวแล้ว ฉันจะไปเด็ดสตวอเบอร์รีข้างบนนั้นบ้าง” ชายหนุ่มจากประเทศญี่ปุ่นคนหนึ่งเอ่ยพึมพำลุกยืนแล้วปีนขึ้นเนินเขาที่เสี่ยวเป่าเพิ่งปีนลงไปเมื่อครู่

เสี่ยวเป่ามองไปยังหมอนั้นแวบหนึ่งพร้อมอมยิ้มน้อย ๆดูมีเลศนัยบางอย่าง

…………………

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 2955 ชีวิตต้องการความเป็นพิธีรีตอง + 2956 อาหารเช้าสุดวิเศษ

Now you are reading ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น Chapter 2955 ชีวิตต้องการความเป็นพิธีรีตอง + 2956 อาหารเช้าสุดวิเศษ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2955 ชีวิตต้องการความเป็นพิธีรีตอง

เสี่ยวเป่าเอาเนื้อที่ผ่านการล้างเสร็จไปตุ๋นในหม้อ ข้างในนั้นมีขิงป่าอยู่จำนวนหนึ่ง เมื่อกี้ตอนเขาไปเด็ดผักป่าพบว่ามีขิงป่าอยู่กลุ่มหนึ่งรวมถึงต้นหอมป่าอีกส่วนหนึ่ง เขาเลยเด็ดมาอย่างละนิดละหน่อยใช้เป็นเครื่องปรุงรสได้

ต่อให้อยู่ท่ามกลางหุบเขาใหญ่ก็ต้องรับประกันรสชาติของอาหาร แถมยังทำให้ดูมีความเป็นพิธีรีตองด้วย

นี่เป็นหลักการที่เสี่ยวเป่าใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางหุบเขาใหญ่มานานหลายปี

เจสันมองเสี่ยวเป่ายุ่งวุ่นวายตาแป๋วพลันรู้สึกว่าคนฮวาเซี่ยช่างมหัศจรรย์เสียจริง ไม่มีอะไรที่พวกเขากินไม่ได้ ขุดเอาผักป่าจากพื้นที่ไหนมาก็ทำอาหารรสเลิศได้ทั้งนั้น

คนอื่น ๆก็เดินล้อมเข้ามาอย่างนึกสนใจและแสดงท่าทีว่าสนใจกับอาหารที่เสี่ยวเป่าทำอย่างมาก ดูเป็นพิธีรีตองขนาดนี้คิดว่ารสชาติต้องดีมากแน่ ๆเลย!

เสี่ยวเป่าเติมเครื่องปรุงเครื่องเทศใส่หม้อเป็นระยะ ๆ นี่ล้วนแต่เป็นของที่เขาตามหามาจากละแวกใกล้เคียงนี้ทั้งสิ้น ภูเขาสือว่านมีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์และมียาสมุนไพรมากมายนับไม่ถ้วน ในนั้นมีเครื่องเทศที่สามารถนำมาปรุงอาหารได้แถมรสชาติไม่แย่เลยด้วย

สำหรับเสี่ยวเป่าแล้วภูเขาใหญ่เปรียบดั่งปล่อยเสือกลับเข้าป่า ปล่อยปลาลงน้ำ เขาสามารถใช้ชีวิตอยู่ในป่าได้ตลอดชีวิตโดยไม่ต้องการความช่วยเหลือใด ๆจากโลกภายนอกเลย

เพราะเขาสามารถใช้พืชพรรณหรือสัตว์รอบทิศเพื่อทำอาหารที่อร่อยและมีประโยชน์ได้เสมอ ส่วนเหตุผลที่เขามักออกมาอยู่ประจำ กระทั่งช่วงนี้เขาถึงเข้าใจ–

เพราะคิดถึง…

เขากำลังคิดถึงใครบางคน ใครบางคนที่ชอบตามเขาต้อย ๆอยู่ด้านหลัง

เสี่ยวเป่าหัวเราะเย้ยหยันตัวเองและนึกดูถูกดูแคลนตัวเองมาก ในที่สุดก็รู้ใจตัวเองสักที แต่เขากลับรับปากกับคุณอาเหยียนไปก่อนหน้านี้แล้ว หนำซ้ำยังสาบานด้วย เขาจะทำอย่างไรดีล่ะ?

เขาถอนหายใจแรง ๆทีหนึ่งฝืนใจไม่ให้ตัวเองคิดอะไรอีกพลางคิดว่าจัดการ ‘สมบัติ’ ที่หนิงเฉินเซวียนทิ้งไว้ก่อนแล้วกัน ไหนจะเจ้าพวกน่ารำคาญที่รายล้อม ๆอยู่ที่นี่แต่ละคนอีก

บางทีอนาคตเขาอาจจะลองเกลี้ยกล่อมขอคุณอาเหยียนอนุญาตให้เขากับน้องเล่อเล่อคบกันก็ได้?

เสี่ยวเป่ามองเข้าไปในเต็นท์แวบหนึ่งด้วยแววตารักใคร่โดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ตัวเช่นกัน น้องเล่อเล่อโปรดปรานซือจื่อโถว[1] เขาทำซือจื่อโถวอีกสักหน่อยแล้วกัน

อืม…ใกล้ ๆนี้มีมันเทศป่าอยู่ เขาจะไปขุดเอามาทำเป็นมันเทศย่างอีกหน่อย วันนี้เป็นวันสำคัญมากวันหนึ่ง ฉะนั้นต้องมีอาหารรสเลิศอุดมสมบูรณ์และดูพิเศษไว้ฉลองหน่อย อีกอย่างพิธีรีตองก็เป็นสิ่งที่ต้องมี

เสี่ยวเป่าบอกกับเจสันว่า “ช่วยดูไฟให้หน่อย”

เจสันชะงักไปกึกหนึ่งก็ตอบรับอย่างไว “ไม่มีปัญหา”

เสี่ยวเป่าอมยิ้มน้อย ๆแล้วเดินขึ้นเนินเขาข้าง ๆพร้อมมือที่หิ้วกระสอบไปด้วย เจสันมองเขาอย่างงุนงง ไม่กลัวว่าเขาจะใส่ยาพิษในน้ำซุปหรือ?

หรือว่าเขามีหน้าตาที่ดูปลอดภัยน่าไว้ใจไม่เป็นพิษสงงั้นสิ?

เจสันลูบแก้มตัวเองอย่างนึกสงสัยแล้วยิ้มออกมาอย่างดีใจ ชายชาวฮวาเซี่ยหน้าตาดีคนนี้แววตาใช้ได้ หรือว่าพอได้รูปอาวุธมาแล้วเขาจะลองโน้มน้าวใจปิแอร์ดูว่าให้ไว้ชีวิตสองสามีภรรยาหน้าตาสะสวยคู่นี้ไปเถอะ พวกเขาแค่ทำภารกิจสำเร็จก็พอ ไม่จำเป็นต้องฆ่าคนนี่นา!

ราว ๆครึ่งชั่วโมงต่อมาเสี่ยวเป่าก็หิ้วมันเทศป่าเต็มกระสอบกลับมา มืออีกข้างยังมีสร้อยคอสีแดงฉานพวงใหญ่ที่ความจริงเป็นสร้อยคอที่ใช้สตรอว์เบอร์รีป่าร้อยเข้ากัน ทั้งลูกใหญ่ทั้งแดงเหมือนหินโมราแดงก็ไม่ปาน

เจสันอดกลืนน้ำลายเอือกหนึ่งไม่ได้ เขาชอบสตรอว์เบอร์รีที่สุดเลย ไปเด็ดมาจากไหนเยอะแยะกัน?

สักพักเขาจะลองขึ้นไปดูบนนั้นบ้าง ผู้ชายหน้าตางดงามคนนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเขากำลังเดินเล่นอยู่ในสวนบ้านตัวเองอย่างไรอย่างนั้น อยากทานอะไรก็ไปเดินหาจากสวนผักสักรอบ อยากได้ก็มีหมด

เสี่ยวเป่าวางสตรอว์เบอร์รี่ป่าอย่างดี เล่อเล่อชอบทานอันนี้ เมื่อกี้เขาเห็นว่ามีหลุมงูอยู่ใกล้ ๆ รวมถึงสตอเบอร์รี่ป่าหลายต้นที่ยังไม่ถูกนกน้อยจิกกินจนหมดจึงเด็ดผลมาทั้งต้น ตอนนี้เป็นช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วงคาดว่าบนเขาคงหาสตรอว์เบอร์รี่สดเช่นนี้ได้ยากมากแล้ว

……………………………

ตอนที่ 2956 อาหารเช้าสุดวิเศษ

เสี่ยวเป่าเอามันเทศป่าโยนเข้ากองไฟแล้วแล่เนื้อกระต่ายมาสับจนละเอียด จากนั้นสับหอมป่าจนละเอียดรวมถึงเครื่องเทศอีกจำนวนหนึ่งก่อนจะเทรวมกับเนื้อบดแล้วผสมให้เข้ากัน

เขาเขี่ยเอามันเทศย่างสุกลูกหนึ่งออกจากกองไฟ หลังจากปอกเปลือกมันออกก็เผยให้เห็นเนื้อขาวอมชมพู เสี่ยวเป่ายิ้มอย่างพอใจแล้วบดเนื้อของมันเทศผสมกับเนื้อบด มันเทศมีส่วนผสมหลักคือแป้ง เช่นนี้ก็จะช่วยให้เมนูซือจื่อโถวรสชาตินุ่มละมุนขึ้นอีกนิด

เจสันกับคนอื่น ๆต่างละสายตาจากการแสดงของเสี่ยวเป่าไม่ได้เลย พวกเขาไม่ได้รู้สึกเหมือนอยู่กลางป่ากลางเขาแต่กำลังอยู่หลังครัวร้านอาหารระดับห้าดาวที่มีอุปกรณ์ครบครันคอยรับชมการแสดงของหัวหน้าพ่อครัวอยู่

“นี่ทำอะไรเหรอ?” เจสันกลืนน้ำลายแล้วอดถามไม่ได้

“ซือจื่อโถว”

เสี่ยวเป่าเริ่มปั้นเนื้อเป็นก้อน ๆแล้ววางเรียงบนใบไม้สะอาดทีละลูก ไม่มีหม้อสำหรับนึ่งก็ไม่เป็นไรเพราะไม่ใช่ปัญหาสำหรับเสี่ยวเป่าเลย เขาตัดไม้ไผ่มาท่อนหนึ่งแล้วกรีดออกมาเป็นเส้นบาง ๆก่อนจะนำไปย่างบนไฟสักครู่รอให้ไม้ไผ่อ่อนลงเสี่ยวเป่าก็เริ่มทำการสานไม้ไผ่อย่างคล่องแคล่วคล้ายกำลังถักเสื้อก็ไม่ปาน ทุกคนดูจนตาลายไปหมด ไม่นานตะแกรงไม้ไผ่อันหนึ่งก็สานเสร็จเรียบร้อย

เสี่ยวเป่าเอาลูกชิ้นเนื้อก้อนกลมวางบนตะแกรงแล้ววางซ้อนหม้อเหล็กที่มีไอร้อนพวยพุ่งออกมาไม่ขาดสาย จากนั้นก็หยิบเอาใบไม้ใบใหญ่มาปิดไว้ รอน้ำซุปเคี่ยวเสร็จซือจื่อโถวก็นึ่งสุกพอดี

ใช้เวลาไม่นานรสชาติหอมกรุ่นก็กระจายไปทั่วอากาศกระตุ้นโสตประสาทและการรับกลิ่นของทุกคน พวกเขาต่างลอบกลืนน้ำลายกันโดยไม่รู้ตัวพลางมองเสบียงอาหารกระป๋องกับขนมปังแข็งในมือตัวเองด้วยสายตารังเกียจ

เทียบกับอาหารรสเลิศของเสี่ยวเป่าแล้ว อาหารของพวกเขาสู้ไม่ได้แม้กระทั่งอาหารหมูเลยด้วยซ้ำ

เล่อเล่อถูกปลูกให้ตื่นด้วยกลิ่นหอมของอาหาร เธอขยี้ตาเดินออกมาด้วยท่าทีสะลึมสะลือ เธอสูดกลิ่นอย่างแรงแล้วเอ่ยอย่างดีใจ “เสี่ยวเป่าพี่กำลังนึ่งซือจื่อโถวใช่ไหม? แล้วก็มันเทศเผาด้วย…”

ต่อหน้าอาหารรสเลิศเล่อเล่อก็หลงลืมคำสั่งของเป่ารื่อน่าไปจนหมดสิ้น เธอรีบล้างหน้าล้างตาแปรงฟันอย่างลวก ๆแล้วย่อตัวลงข้างกองไฟข้างเสวี่ยเอ๋อร์แล้วจ้องเสี่ยวเป่าตาแป๋ว

“ยังไม่สุก รออีกหน่อย ทานมันเทศเผาไปก่อนแล้วกัน”

เสี่ยวเป่าเขี่ยเอามันเทศดำปี๋ออกมาจากกองไฟวางตรงหน้าเล่อเล่อพร้อมกำชับเสียงอ่อนโยน “รอให้เย็นค่อยทานนะ ระวังลวกมือด้วย”

“รู้แล้วน่า ฉันไม่ใช่เด็กสามขวบแล้วนะ” เล่อเล่อตอบรับไปทีหนึ่งอย่างไม่พอใจแต่กลับยื่นมือไปโดยไม่รู้ตัว พอแตะโดนมันเทศร้อนจี๋ก็ชักมือกลับเหมือนโดนไฟฟ้าสถิตพร้อมปลายนิ้วแดงเป็นดวง ๆ

เสี่ยวเป่าถอนหายใจอย่างระอา เด็กสามขวบยังเชื่อฟังกว่ายัยเด็กคนนี้เลย ขนาดโดนลวกมือทุกครั้งก็ยังไม่หลาบจำ

“ยื่นมือมา” เสี่ยวเป่าเด็ดใบไม้มาหลายใบแล้วตำจนเละ จากนั้นก็ทาบนปลายนิ้วที่โดนลวกของเล่อเล่อพร้อมเอาใบไม้ใบใหญ่มาพันไว้อย่างดี

“ไม่เจ็บแล้ว ทานมันเทศกัน”

เล่อเล่อสะบัดนิ้วทีหนึ่งแล้วคลี่ยิ้มกว้างให้เสี่ยวเป่า เธอหยิบมันเทศลูกหนึ่งขึ้นมาปอกเปลือกเผยให้เห็นเนื้อมันเทศสีขาวอมชมพูที่ยังมีไอร้อนลอยโขมงแล้วกัดคำหนึ่งอย่างอดใจไม่ไหว “หอมจัง มันเทศป่าหอมจริง ๆ อร่อยมากด้วย”

เธอซัดมันเทศลูกหนึ่งหมดในสองสามคำแล้วปอกอีกลูกมายื่นจ่อปากเสี่ยวเป่า “รีบทาน อร่อยมากเลย”

เสี่ยวเป่าไม่ได้หลบเหมือนแต่ก่อนแต่มองเล่อเล่อด้วยสายตาล้ำลึกแวบหนึ่งก็กัดคำโตพลางยิ้มเอ่ย “อร่อยมากจริง ๆ”

เล่อเล่อชะงักค้างมองเสี่ยวเป่าด้วยท่าทีตกตะลึง ทำไมไม่รับไปทานเองล่ะ ตั้งแต่อายุครบสิบขวบเสี่ยวเป่าก็ไม่ให้เธอป้อนอาหารอีก นี่คงไม่ได้กำลังละเมออยู่หรอกนะ?

เสี่ยวเป่าหัวเราะเสียงเบาแล้วเขี่ยปลายจมูกเล่อเล่อทีหนึ่ง “น้ำลายไหลแล้ว”

เล่อเล่อรีบใช้มือปาด ก็แห้งนี่นา…เธอถึงกลอกตาใส่เสี่ยวเป่าแวบหนึ่งคร้านจะนึกหาเหตุผลแล้วเอามันเทศที่เสี่ยวเป่ากัดไปคำหนึ่งมาทานต่อ ซือจื่อโถวนึ่งเสร็จแล้ว เสี่ยวเป่ายกตะแกรงมาวางบนพื้นซึ่งในนั้นมีซือจื่อโถวกลิ่นหอมกรุ่นอยู่ นอกจากสีจะจางไปสักหน่อยแต่กลิ่นกลับไม่แพ้ร้านอาหารร้านดังเลย

“ไม่ไหวแล้ว ฉันจะไปเด็ดสตวอเบอร์รีข้างบนนั้นบ้าง” ชายหนุ่มจากประเทศญี่ปุ่นคนหนึ่งเอ่ยพึมพำลุกยืนแล้วปีนขึ้นเนินเขาที่เสี่ยวเป่าเพิ่งปีนลงไปเมื่อครู่

เสี่ยวเป่ามองไปยังหมอนั้นแวบหนึ่งพร้อมอมยิ้มน้อย ๆดูมีเลศนัยบางอย่าง

…………………

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+