ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี 165 ก็แค่เกมไม่ใช่เหรอ

Now you are reading ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี Chapter 165 ก็แค่เกมไม่ใช่เหรอ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่165 ก็แค่เกมไม่ใช่เหรอ

พอบรรยากาศดูคลี่คลายลง จ้าวเฉียนก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาก เขารีบคว้ามือเหลียวเซียวหยุนแล้วยิ้มกล่าวว่า

“ถ้าอยากทุบตีผมขนาดนั้น คืนนี้ก็เปิดห้องด้วยกันเลยไหม ผมจะให้คุณทุบตีได้สมใจอยากไปเลย หลังจากนั้นผมก็จะกินคุณต่อ…”

เหลียวเซียวหยุนบ่นกลับไปทันที

“นายนี่มันหื่นจริงๆ คิดจะใช้ประโยชน์ทำย่ำยี่ฉันงั้นเหรอ? เจ้าบ้า…”

จ้าวเฉียนยิ้มเยาะและตอบกลับไปว่า

“แล้วที่คุณใช้ประโยชน์จากผมล่ะ? ถือซะว่าเท่าเทียมนะ เป็นข้อตกลงที่ดูเหมาะสมดีออก แล้วไม่ไปงานเลี้ยงรุ่นแล้วเหรอ? เดี๋ยวก็สายเอาหรอก?”

“แย่แล้ว!”

เหลียวเซียวหยุนอุทานลั่นทันทีด้วยความตกใจ จากนั้นก็รีบวิ่งขึ้นรถของเธอโดยไว

จ้าวเฉียนระเบิดหัวเราะเสียงดัง แล้วกลับไปสตารท์รถและขับตามเหลียวเซียวหยุนไป

เพื่อนร่วมชั้นม.ปลายของเหลียวเซียวหยุนใช่ว่าทุกคนจะร่ำรวย บ้างก็เป็นลูกจากครอบครัวฐานะปานกลาง ดังนั้นสถานที่จัดงานเลี้ยงจึงไม่ได้หรูหราอะไร เป็นแค่โรงแรมระดับกลางเท่านั้น

ไม่นานทั้งสองก็มาถึงโรงแรมที่มีชื่อว่า เทียนไห่ หลังจากจอดรถเสร็จสรรพ เหลียวเซียวหยุนก็ควงแขนจ้าวเฉียนเดินเข้าไปในตัวโรงแรม

ทั้งสองเดินไปยังห้องอาหารส่วนตัวภายในโรงแรม เคาะประตูสองสามครา ไม่นานก็มีคนมาเปิดประตูให้ พอทุกคนเห็นว่าเป็นเหลียวเซียวหยุน ทุกคนก็รีบลุกขึ้นไปต้อนรับอย่างตื่นอกตื่นเต้น

“เสี่ยวหยุน!เข้ามาเลย เข้ามา!”

“แหม ออกกำลังกายบนเตียงกับแฟนมากไปหน่อยรึไง ถึงมาสายแบบนี้!”

เหลียวเซียวหยุนดึงร่างของจ้าวเฉียนมากอดแน่น และกล่าวตอบไปอย่างภาคภูมิใจว่า

“ไม่มีใครถึกทนไปกว่าเขาแล้ว ฉันโดนไปตั้ง13ครั้งแนะ เลยกว่าจะตื่นทีก็สายแล้ว”

“ฮะ…ฮะ…”

จ้าวเฉียนได้แต่ขำแห้ง หัวข้อการสนทนาของนักเรียนม.ปลายร้อนแรงเกินไปหรือเปล่า?

“เสี่ยวหยุน เธอแนะนำแฟนให้ทุกคนได้รู้จักทีสิ?”

“ใช่!ใช่!เราอยากรู้มากว่าคนที่สามารถจีบเธอติดได้ต้องเป็นคนยังไงกัน!ตอนที่อยู่โรงเรียนมีผู้ชายไล่จีบตั้งมากมาย แต่เธอกลับไม่แลสักคน”

“อยู่อย่างหนุ่มฮออตในตอนนั้นอย่างหวางเจ๋อสิ ยังแห่วเลย ฮ่าฮ่า…”

“ฮ่าฮ่าๆ … ใช่ๆ!”

ชายหนุ่มที่ชื่อหวางเจ๋อมุ่ยหน้าด้วยความไม่พอใจทันที และกล่าวตอบเสียงดังไปว่า

“เจ้าพวกบ้า!ลากฉันเข้าไปทำไม? โชคยังดีนะที่แฟนฉันไปเข้าห้องน้ำ ถ้าเธอได้ยินเข้า มีหวังบ้านแตกแน่นอน!หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะพวกเธอ!”

ทุกคนรีบปิดปากเงียบทันที และกล่าวถึงหัวข้อนี้อีกต่อไป ทักทามเรียกให้เหลียวเซียวหยุนกับจ้าวเฉียนนั่งลงก่อน

ทันทีที่นั่งประจำที่เรียบร้อย เหลียวเซียวหยุนก็พาจ้าวเฉียนมาแนะนำตัวให้ทุกคนรู้จักทันที

“นี่แฟนฉันเอง เขาชื่อจ้าวเฉียน แก่กว่าฉันประมานสองปี เขาทำงานให้กับบริษัทเกมฟางนี่ ที่สร้างเกม”League of Glory” โปรเจคนี้ได้เขานี่แหละเป็นผู้นำทีม”

เมื่อได้ฟังสิ่งที่เหลียวเซียวหยุนเล่ากล่าวออกไป ทุกคนต่างก็เริ่มสนใจในตัวจ้าวเฉียนทันที

“หนุ่มหล่อคนนี้ต้องรวยมากแน่ๆ เกม”League of Glory”โด่งดังอย่างมากในปัจจุบัน คงทำเงินได้มหาศาลหลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน”

จ้าวเฉียนหัวเราะเป็นพิธี กล่าวตอบไปว่า

“ที่จริงแล้ว เป็นบริษัทซิงหยวนครับที่ถือครองลิขสิทธิ์ของเกมนี้ ผมได้ส่วนแบ่งเพียงเล็กน้อยเท่านั้นจากโปรเจคดังกล่าว บริษัทเกมของเรายังไม่ดังถึงขนาดนั้นครับ”

คนอื่นๆ ต่างรู้สึกอิจฉาอย่างมาก แต่ทันใดนั้นกลับมีสายตาหนึ่งไม่เข้าพวก นั้นก็คือหวางเจ๋อที่จับจ้องจ้าวเฉียนด้วยท่าทีเหยียดหยาม แม้ว่าเขาจะมีเงินไม่ค่อยมาก แต่เรียกได้ว่าเป็นเถ้าแก่น้อยเจ้าของกิจการหน้าใหม่ไฟแรงคนหนึ่ง พอได้ยินแบบนั้นจึงเอ่ยถามจ้าวเฉียนขึ้นทันทีว่า

“แล้วทำอยู่ในตำแหน่งอะไรในบริษัทเหรอครับ?”

พอจ้าวเฉียนได้ยินแบบนั้นพลันถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้

“ผมเพิ่งถูกไล่ออกจากบริษัทครับ ตอนนี้ถือว่าว่างงานอยู่ครับ”

พอคำกล่าวออกไปแบบนั้น บรรยากาศทั่วทั้งห้องอาหารพากันเงียบสงัดลงทันที

คนที่ตกใจที่สุดคงเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกเสียจากเหลียวเซียวหยุน เธอเอ่ยถามทันทีว่า

“นายถูกไล่ออก? เกิดอะไรขึ้น? ไม่ใช่ว่านายเพิ่งดิลกับบริษัทฉันได้ แล้วทำไมพวกนั้นต้องไล่นายออกด้วย?”

“เรื่องมันยาว ไว้วันอื่น…”

“ถ้าเรื่องมันยาว นายก็เล่าย่อๆ ให้ฟังก็ได้ ฉันอยากรู้เหตุผลจะได้รีบแก้ไขได้ทันไง”

เหลียวเซียวหยุนทำอะไรไม่ได้นอกจากเอ่ยตอบไปตามตรงว่า

“ก็ครั้งล่าสุดที่ฉันมีปัญหากับฟู่เอ๋อร์ไง ฉันเลยจ้างให้คนที่รู้จักสั่งสอนไปรอบหนึ่ง ก็เลยกลายมาเป็นศัตรูของตระกูลฟู่ แต่บังเอิญว่าบริษัทที่ผู้จัดการผมไปดิลด้วยดันเป็นบริษัทเหล่ยอู่ ทันทีที่พวกนั้นรู้ว่าผมอยู่ในบริษัทฟางนี่ สัญญาเลยถูกยกเลิกทั้งหมดในทันที”

ทันทีที่ได้ยินว่า จ้าวเฉียนกลายมาเป็นคนตกงาน สีหน้าการแสดงออกของบรรดาเพื่อนร่วมชั้นของเหลียวเซียวหยุนก็แปรเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ คำเยินยอก่อนหน้าราวกับไม่เคยเกิดขึ้น

เหลียวเซียวหยุนโมโหอย่างมาก เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาทันที เพื่อต้องการจะโทรไปต่อว่าฟางนี่ แต่จ้าวเฉียนกลับหยุดเธอไว้ได้ทันเวลาและกล่าวว่า

“อย่าไปสร้างปัญหาเลย นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของผม ผมจัดการเองได้”

“ไม่ ฉันต้องการให้เธออธิบายเหตุผลมาว่า ทำไมพวกเธอถึงไล่พนักงานมากความสามารถแบบนายออก พวกงี่เง่าแบบนี้ ฉันไม่อยากร่วมงานด้วยหรอก ฉันจะยกเลิกสัญญา!”

“ใจเย็นก่อน เดี๋ยวผมจัดการเองดีกว่า”

“ก็แค่พนักงานหน้าโง่คนหนึ่งนี่หว่า!ทีแรกก็คิดว่าเก่งมาจากไหน!”

ณ เวลานั้นเอง ไม่อาจทราบได้เลยว่าใครเป็นเจ้าของประโยคนี้ที่เอ่ยดังลั่นออกมา ทุกคนต่างเหลียวมองตามต้นเสียง และคนที่สบประมาทจ้าวเฉียนก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก หวางเจ๋อคนที่เคยตามจีบเหลียวเซียวหยุน สมัยที่เรียนม.ปลาย

“หวางเจ๋อ ทำไมนายต้องพูดแบบนี้ออกมา? เขาไม่ใช่แค่พนักงานธรรมดานะ เขามีความสามารถรอบด้าน ทั้งยังสร้งาโปรเจคที่กวาดกำไรไปไม่รู้กี่ร้อยล้าน แล้วธุรกิจที่นายเพิ่งก่อตั้งทำได้แบบนี้หรือเปล่า?”

หวางเจ๋อรู้ดีอยู่แล้วว่า เขาไม่มีโอกาสชนะใจเหลียวเซียวหยุนได้อีกต่อไป ดังนั้นเขาไม่ยอมเสียหน้าเพราะเธอเป็นอันขาด

“มันก็จริงที่เขาทำได้แบบนั้น แต่ใช่ว่ากำไรทั้งหมดจะเข้ากระเป๋าเขาสักหน่อยจริงไหม? กลับเป็นเจ้านายของเขาต่างหากที่ได้กินกำไรหลักล้านนั้นไป แถมตอนนี้พอหมดประโยคก็โดนถีบส่งออกจากบริษัท สุดท้ายมันก็แค่หมาหัวเน่าล่ะวะ!”

เหลียวเซียวหยุนต้องการจะโต้เถียงกับอีกฝ่ายต่อ ทว่าจ้าวเฉียนกลับหยุดไว้

“เอาล่ะ หยุดเถียงกันได้แล้ว วันนี้เพื่อนๆ ของคุณอุตส่าห์นัดรวมตัวกันไม่ใช่เหรอ? ทำไมต้องทำลายบรรยากาศดีๆ แบบนี้ด้วย? พวกคุณควรจะย้อนวันวานเล่าเรื่องเก่าๆ กัน อย่าโต้เถียงกับเรื่องคนนอกอย่างผมเลยจะดีกว่า”

จ้าวเฉียนไม่ได้โกรธเลยสักนิดที่คนพวกนี้จะดูถูกดูแคลนเขา เพราะอันที่จริง คนพวกนี้ไม่มีคุณสมบัติดังกล่าวเลย ก็แค่เด็กหนุ่มไฟแรงที่เริ่มต้นทำธุรกิจ กับเพื่อนชนชั้นต่ำของเหลียวเซียวหยุน

ณ เวลาเดียวกัน หวังซินซิน แฟนสาวของหวางเจ๋อก็กลับเข้ามาในห้องอาหาร แต่เธอเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเล่นเกมในมือถือ สังเกตจากลักษณะภูมิฐานที่แต่งตัวแบรนด์เนมทั้งตัว ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป

หวังซินซินเดินเข้ามา เพื่อนที่นั่งข้างๆ หวางเจ๋อก็สละตำแหน่งให้เธอได้นั่งข้างแฟนแทน

“Doublekill!Triblekill!Quadrakill!Pentakill!ACE!”

“ฮ่าฮ่า….ฉันฆ่าได้ห้าตัวรวด!!”

หวันซินซินตะโกนเสียงดังลั่นอย่างมีความสุข และกระโดดจุ๊บหวางเจ๋อด้วยความดีใจ

หวางเจ๋อทราบดีว่าเกมที่แฟนสาวของเขากำลังเล่นอยู่ เป็นเกมที่ได้รับการพัฒนามาโดยจ้าวเฉียน เขาจึงรู้สึกไม่พอใจเป็นธรรมดา สีหน้าการแสดงออกของเขาดูไม่มีความสุขเลย

หวังซินซินที่เพิ่งสังเกตเห็นว่าแฟนหนุ่มของเธออารมณ์ไม่ค่อยรับแขก พลางทำให้เธออารมณ์เสียไปด้วยเช่นกันโดยเอ่ยถามขึ้นว่า

“นี่ เป็นอะไรของนาย? ช่วยทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยได้ไหม?”

“มันก็แค่เกม ทำไมต้องตื่นเต้นขนาดนั้นด้วย? ฆ่าได้ห้าคนรวดแล้วมันยังไง? แลกเป็นข้าวได้ไหม?”

หวางเจ๋อแซะตอบพร้อมสีหน้าดูถูก

“นี่นายกำลังพูดบ้าอะไรออกมา? หรือพอเจอเพื่อนเก่าเลยแอคทำเป็นตัวเองอยู่เหนือกว่าฉันขึ้นมา? คิดว่าเท่มากเหรอ?”

หวังซินซินเอ่ยถามเจืออารมณ์หงุดหงิด

“จะเล่นอะไรก็เล่นไปเถอะ ขอให้สนุกกับเกมแล้วกัน”

หวางเจ๋อประชดประชันตอบ

“อะไรของนาย!”

หวังซินซินตะคอกสวนกลับไป

เมื่อเห็นว่าทั้งสองกำลังทะเลาะกัน ทุกคนจึงรีบเกลี้ยกล่อมทันทีและมีคนหนึ่งกล่าวขึ้นว่า

“แฟนของหวางเจ๋อชอบเล่น League of Honor เหรอ? แฟนของเหลียวเซียนหนุนเป็นคนพัฒนาเกมนี้ขึ้นมา เธอสามารถคุยกับเขาได้นะ น่าจะถูกคอกันดี”

เมื่อหวังซินซินได้ยินแบบนั้น เธอก็สงบลงทันทีและเอ่ยถามด้วยสีหน้าชื่นชมว่า

“นาย…นายเป็นคนพัฒนาเกมนี้ขึ้นมาเหรอ? นายเก่งจังเลย ทั้งหล่อทั้งเก่งเลยแหละ!”

หวางเจ๋อระเบิดทันทีที่ได้ยิน แฟนสาวของเธอกำลังชื่นชมจ้าวเฉียนต่อหน้าเขา นี่ไม่ต่างอะไรกับการตบหน้าเขาต่อหน้าฝูงชนเลย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี 165 ก็แค่เกมไม่ใช่เหรอ

Now you are reading ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี Chapter 165 ก็แค่เกมไม่ใช่เหรอ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่165 ก็แค่เกมไม่ใช่เหรอ

พอบรรยากาศดูคลี่คลายลง จ้าวเฉียนก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาก เขารีบคว้ามือเหลียวเซียวหยุนแล้วยิ้มกล่าวว่า

“ถ้าอยากทุบตีผมขนาดนั้น คืนนี้ก็เปิดห้องด้วยกันเลยไหม ผมจะให้คุณทุบตีได้สมใจอยากไปเลย หลังจากนั้นผมก็จะกินคุณต่อ…”

เหลียวเซียวหยุนบ่นกลับไปทันที

“นายนี่มันหื่นจริงๆ คิดจะใช้ประโยชน์ทำย่ำยี่ฉันงั้นเหรอ? เจ้าบ้า…”

จ้าวเฉียนยิ้มเยาะและตอบกลับไปว่า

“แล้วที่คุณใช้ประโยชน์จากผมล่ะ? ถือซะว่าเท่าเทียมนะ เป็นข้อตกลงที่ดูเหมาะสมดีออก แล้วไม่ไปงานเลี้ยงรุ่นแล้วเหรอ? เดี๋ยวก็สายเอาหรอก?”

“แย่แล้ว!”

เหลียวเซียวหยุนอุทานลั่นทันทีด้วยความตกใจ จากนั้นก็รีบวิ่งขึ้นรถของเธอโดยไว

จ้าวเฉียนระเบิดหัวเราะเสียงดัง แล้วกลับไปสตารท์รถและขับตามเหลียวเซียวหยุนไป

เพื่อนร่วมชั้นม.ปลายของเหลียวเซียวหยุนใช่ว่าทุกคนจะร่ำรวย บ้างก็เป็นลูกจากครอบครัวฐานะปานกลาง ดังนั้นสถานที่จัดงานเลี้ยงจึงไม่ได้หรูหราอะไร เป็นแค่โรงแรมระดับกลางเท่านั้น

ไม่นานทั้งสองก็มาถึงโรงแรมที่มีชื่อว่า เทียนไห่ หลังจากจอดรถเสร็จสรรพ เหลียวเซียวหยุนก็ควงแขนจ้าวเฉียนเดินเข้าไปในตัวโรงแรม

ทั้งสองเดินไปยังห้องอาหารส่วนตัวภายในโรงแรม เคาะประตูสองสามครา ไม่นานก็มีคนมาเปิดประตูให้ พอทุกคนเห็นว่าเป็นเหลียวเซียวหยุน ทุกคนก็รีบลุกขึ้นไปต้อนรับอย่างตื่นอกตื่นเต้น

“เสี่ยวหยุน!เข้ามาเลย เข้ามา!”

“แหม ออกกำลังกายบนเตียงกับแฟนมากไปหน่อยรึไง ถึงมาสายแบบนี้!”

เหลียวเซียวหยุนดึงร่างของจ้าวเฉียนมากอดแน่น และกล่าวตอบไปอย่างภาคภูมิใจว่า

“ไม่มีใครถึกทนไปกว่าเขาแล้ว ฉันโดนไปตั้ง13ครั้งแนะ เลยกว่าจะตื่นทีก็สายแล้ว”

“ฮะ…ฮะ…”

จ้าวเฉียนได้แต่ขำแห้ง หัวข้อการสนทนาของนักเรียนม.ปลายร้อนแรงเกินไปหรือเปล่า?

“เสี่ยวหยุน เธอแนะนำแฟนให้ทุกคนได้รู้จักทีสิ?”

“ใช่!ใช่!เราอยากรู้มากว่าคนที่สามารถจีบเธอติดได้ต้องเป็นคนยังไงกัน!ตอนที่อยู่โรงเรียนมีผู้ชายไล่จีบตั้งมากมาย แต่เธอกลับไม่แลสักคน”

“อยู่อย่างหนุ่มฮออตในตอนนั้นอย่างหวางเจ๋อสิ ยังแห่วเลย ฮ่าฮ่า…”

“ฮ่าฮ่าๆ … ใช่ๆ!”

ชายหนุ่มที่ชื่อหวางเจ๋อมุ่ยหน้าด้วยความไม่พอใจทันที และกล่าวตอบเสียงดังไปว่า

“เจ้าพวกบ้า!ลากฉันเข้าไปทำไม? โชคยังดีนะที่แฟนฉันไปเข้าห้องน้ำ ถ้าเธอได้ยินเข้า มีหวังบ้านแตกแน่นอน!หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะพวกเธอ!”

ทุกคนรีบปิดปากเงียบทันที และกล่าวถึงหัวข้อนี้อีกต่อไป ทักทามเรียกให้เหลียวเซียวหยุนกับจ้าวเฉียนนั่งลงก่อน

ทันทีที่นั่งประจำที่เรียบร้อย เหลียวเซียวหยุนก็พาจ้าวเฉียนมาแนะนำตัวให้ทุกคนรู้จักทันที

“นี่แฟนฉันเอง เขาชื่อจ้าวเฉียน แก่กว่าฉันประมานสองปี เขาทำงานให้กับบริษัทเกมฟางนี่ ที่สร้างเกม”League of Glory” โปรเจคนี้ได้เขานี่แหละเป็นผู้นำทีม”

เมื่อได้ฟังสิ่งที่เหลียวเซียวหยุนเล่ากล่าวออกไป ทุกคนต่างก็เริ่มสนใจในตัวจ้าวเฉียนทันที

“หนุ่มหล่อคนนี้ต้องรวยมากแน่ๆ เกม”League of Glory”โด่งดังอย่างมากในปัจจุบัน คงทำเงินได้มหาศาลหลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน”

จ้าวเฉียนหัวเราะเป็นพิธี กล่าวตอบไปว่า

“ที่จริงแล้ว เป็นบริษัทซิงหยวนครับที่ถือครองลิขสิทธิ์ของเกมนี้ ผมได้ส่วนแบ่งเพียงเล็กน้อยเท่านั้นจากโปรเจคดังกล่าว บริษัทเกมของเรายังไม่ดังถึงขนาดนั้นครับ”

คนอื่นๆ ต่างรู้สึกอิจฉาอย่างมาก แต่ทันใดนั้นกลับมีสายตาหนึ่งไม่เข้าพวก นั้นก็คือหวางเจ๋อที่จับจ้องจ้าวเฉียนด้วยท่าทีเหยียดหยาม แม้ว่าเขาจะมีเงินไม่ค่อยมาก แต่เรียกได้ว่าเป็นเถ้าแก่น้อยเจ้าของกิจการหน้าใหม่ไฟแรงคนหนึ่ง พอได้ยินแบบนั้นจึงเอ่ยถามจ้าวเฉียนขึ้นทันทีว่า

“แล้วทำอยู่ในตำแหน่งอะไรในบริษัทเหรอครับ?”

พอจ้าวเฉียนได้ยินแบบนั้นพลันถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้

“ผมเพิ่งถูกไล่ออกจากบริษัทครับ ตอนนี้ถือว่าว่างงานอยู่ครับ”

พอคำกล่าวออกไปแบบนั้น บรรยากาศทั่วทั้งห้องอาหารพากันเงียบสงัดลงทันที

คนที่ตกใจที่สุดคงเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกเสียจากเหลียวเซียวหยุน เธอเอ่ยถามทันทีว่า

“นายถูกไล่ออก? เกิดอะไรขึ้น? ไม่ใช่ว่านายเพิ่งดิลกับบริษัทฉันได้ แล้วทำไมพวกนั้นต้องไล่นายออกด้วย?”

“เรื่องมันยาว ไว้วันอื่น…”

“ถ้าเรื่องมันยาว นายก็เล่าย่อๆ ให้ฟังก็ได้ ฉันอยากรู้เหตุผลจะได้รีบแก้ไขได้ทันไง”

เหลียวเซียวหยุนทำอะไรไม่ได้นอกจากเอ่ยตอบไปตามตรงว่า

“ก็ครั้งล่าสุดที่ฉันมีปัญหากับฟู่เอ๋อร์ไง ฉันเลยจ้างให้คนที่รู้จักสั่งสอนไปรอบหนึ่ง ก็เลยกลายมาเป็นศัตรูของตระกูลฟู่ แต่บังเอิญว่าบริษัทที่ผู้จัดการผมไปดิลด้วยดันเป็นบริษัทเหล่ยอู่ ทันทีที่พวกนั้นรู้ว่าผมอยู่ในบริษัทฟางนี่ สัญญาเลยถูกยกเลิกทั้งหมดในทันที”

ทันทีที่ได้ยินว่า จ้าวเฉียนกลายมาเป็นคนตกงาน สีหน้าการแสดงออกของบรรดาเพื่อนร่วมชั้นของเหลียวเซียวหยุนก็แปรเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ คำเยินยอก่อนหน้าราวกับไม่เคยเกิดขึ้น

เหลียวเซียวหยุนโมโหอย่างมาก เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาทันที เพื่อต้องการจะโทรไปต่อว่าฟางนี่ แต่จ้าวเฉียนกลับหยุดเธอไว้ได้ทันเวลาและกล่าวว่า

“อย่าไปสร้างปัญหาเลย นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของผม ผมจัดการเองได้”

“ไม่ ฉันต้องการให้เธออธิบายเหตุผลมาว่า ทำไมพวกเธอถึงไล่พนักงานมากความสามารถแบบนายออก พวกงี่เง่าแบบนี้ ฉันไม่อยากร่วมงานด้วยหรอก ฉันจะยกเลิกสัญญา!”

“ใจเย็นก่อน เดี๋ยวผมจัดการเองดีกว่า”

“ก็แค่พนักงานหน้าโง่คนหนึ่งนี่หว่า!ทีแรกก็คิดว่าเก่งมาจากไหน!”

ณ เวลานั้นเอง ไม่อาจทราบได้เลยว่าใครเป็นเจ้าของประโยคนี้ที่เอ่ยดังลั่นออกมา ทุกคนต่างเหลียวมองตามต้นเสียง และคนที่สบประมาทจ้าวเฉียนก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก หวางเจ๋อคนที่เคยตามจีบเหลียวเซียวหยุน สมัยที่เรียนม.ปลาย

“หวางเจ๋อ ทำไมนายต้องพูดแบบนี้ออกมา? เขาไม่ใช่แค่พนักงานธรรมดานะ เขามีความสามารถรอบด้าน ทั้งยังสร้งาโปรเจคที่กวาดกำไรไปไม่รู้กี่ร้อยล้าน แล้วธุรกิจที่นายเพิ่งก่อตั้งทำได้แบบนี้หรือเปล่า?”

หวางเจ๋อรู้ดีอยู่แล้วว่า เขาไม่มีโอกาสชนะใจเหลียวเซียวหยุนได้อีกต่อไป ดังนั้นเขาไม่ยอมเสียหน้าเพราะเธอเป็นอันขาด

“มันก็จริงที่เขาทำได้แบบนั้น แต่ใช่ว่ากำไรทั้งหมดจะเข้ากระเป๋าเขาสักหน่อยจริงไหม? กลับเป็นเจ้านายของเขาต่างหากที่ได้กินกำไรหลักล้านนั้นไป แถมตอนนี้พอหมดประโยคก็โดนถีบส่งออกจากบริษัท สุดท้ายมันก็แค่หมาหัวเน่าล่ะวะ!”

เหลียวเซียวหยุนต้องการจะโต้เถียงกับอีกฝ่ายต่อ ทว่าจ้าวเฉียนกลับหยุดไว้

“เอาล่ะ หยุดเถียงกันได้แล้ว วันนี้เพื่อนๆ ของคุณอุตส่าห์นัดรวมตัวกันไม่ใช่เหรอ? ทำไมต้องทำลายบรรยากาศดีๆ แบบนี้ด้วย? พวกคุณควรจะย้อนวันวานเล่าเรื่องเก่าๆ กัน อย่าโต้เถียงกับเรื่องคนนอกอย่างผมเลยจะดีกว่า”

จ้าวเฉียนไม่ได้โกรธเลยสักนิดที่คนพวกนี้จะดูถูกดูแคลนเขา เพราะอันที่จริง คนพวกนี้ไม่มีคุณสมบัติดังกล่าวเลย ก็แค่เด็กหนุ่มไฟแรงที่เริ่มต้นทำธุรกิจ กับเพื่อนชนชั้นต่ำของเหลียวเซียวหยุน

ณ เวลาเดียวกัน หวังซินซิน แฟนสาวของหวางเจ๋อก็กลับเข้ามาในห้องอาหาร แต่เธอเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเล่นเกมในมือถือ สังเกตจากลักษณะภูมิฐานที่แต่งตัวแบรนด์เนมทั้งตัว ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป

หวังซินซินเดินเข้ามา เพื่อนที่นั่งข้างๆ หวางเจ๋อก็สละตำแหน่งให้เธอได้นั่งข้างแฟนแทน

“Doublekill!Triblekill!Quadrakill!Pentakill!ACE!”

“ฮ่าฮ่า….ฉันฆ่าได้ห้าตัวรวด!!”

หวันซินซินตะโกนเสียงดังลั่นอย่างมีความสุข และกระโดดจุ๊บหวางเจ๋อด้วยความดีใจ

หวางเจ๋อทราบดีว่าเกมที่แฟนสาวของเขากำลังเล่นอยู่ เป็นเกมที่ได้รับการพัฒนามาโดยจ้าวเฉียน เขาจึงรู้สึกไม่พอใจเป็นธรรมดา สีหน้าการแสดงออกของเขาดูไม่มีความสุขเลย

หวังซินซินที่เพิ่งสังเกตเห็นว่าแฟนหนุ่มของเธออารมณ์ไม่ค่อยรับแขก พลางทำให้เธออารมณ์เสียไปด้วยเช่นกันโดยเอ่ยถามขึ้นว่า

“นี่ เป็นอะไรของนาย? ช่วยทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยได้ไหม?”

“มันก็แค่เกม ทำไมต้องตื่นเต้นขนาดนั้นด้วย? ฆ่าได้ห้าคนรวดแล้วมันยังไง? แลกเป็นข้าวได้ไหม?”

หวางเจ๋อแซะตอบพร้อมสีหน้าดูถูก

“นี่นายกำลังพูดบ้าอะไรออกมา? หรือพอเจอเพื่อนเก่าเลยแอคทำเป็นตัวเองอยู่เหนือกว่าฉันขึ้นมา? คิดว่าเท่มากเหรอ?”

หวังซินซินเอ่ยถามเจืออารมณ์หงุดหงิด

“จะเล่นอะไรก็เล่นไปเถอะ ขอให้สนุกกับเกมแล้วกัน”

หวางเจ๋อประชดประชันตอบ

“อะไรของนาย!”

หวังซินซินตะคอกสวนกลับไป

เมื่อเห็นว่าทั้งสองกำลังทะเลาะกัน ทุกคนจึงรีบเกลี้ยกล่อมทันทีและมีคนหนึ่งกล่าวขึ้นว่า

“แฟนของหวางเจ๋อชอบเล่น League of Honor เหรอ? แฟนของเหลียวเซียนหนุนเป็นคนพัฒนาเกมนี้ขึ้นมา เธอสามารถคุยกับเขาได้นะ น่าจะถูกคอกันดี”

เมื่อหวังซินซินได้ยินแบบนั้น เธอก็สงบลงทันทีและเอ่ยถามด้วยสีหน้าชื่นชมว่า

“นาย…นายเป็นคนพัฒนาเกมนี้ขึ้นมาเหรอ? นายเก่งจังเลย ทั้งหล่อทั้งเก่งเลยแหละ!”

หวางเจ๋อระเบิดทันทีที่ได้ยิน แฟนสาวของเธอกำลังชื่นชมจ้าวเฉียนต่อหน้าเขา นี่ไม่ต่างอะไรกับการตบหน้าเขาต่อหน้าฝูงชนเลย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+