ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี 323 ภูมิหลังดี

Now you are reading ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี Chapter 323 ภูมิหลังดี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่323 ภูมิหลังดี

จ้าวเฉียนคลี่ยิ้มกว้างกล่าวกับจางเห่อว่า

“พี่ชาย นี่คุณกำลังใช้เงินฟาดหัวอยู่เหรอครับ? ผมนัดหมายกับโค้ชหลิวไว้เรียบร้อยแล้ว แต่การที่คุณมาทำแบบนี้มันหมายความว่ายังไง?”

จางเห่อยังคงแสร้งทำเป็นไร้เดียงสาและยิ้มตอบไปว่า

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ คุณจ้าวกำลังเข้าใจผิดแล้ว ผมว่างแค่วันพรุ่งนี้จริงๆเลยต้องการจองตัวโค้ชหลิวไว้ก่อน ถ้ายังไงเดี๋ยวผมจ่ายค่าเสียเวลาชดเชยให้คุณด้วยว่าไง?”

จางเห่อตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าเขาจะต้องใช้เงินเท่าไหร่ ยังไงจะต้องได้ตัวหลิวเสี่ยวเฟยมาครองให้ได้ จึงเสนอให้เงินจ้าวเฉียนด้วยเช่นกันเพื่อแสดงความจริงใจ

จ้าวเฉียนไม่ต้องการพล่ามไร้สาระกับจางเห่ออีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปจางเห่อไปแชะหนึ่งโดยตรง พร้อมส่งไปให้หัวหน้าพ่อบ้านอย่างหวังเจ๋อทันที

“พ่อบ้านเจ๋อ ชายคนนี้มีชื่อว่าจางเห่อ ส่วนนี่รูปถ่ายของเขา รบกวนตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียดและส่งมาให้ผมโดยเร็วที่สุด”

หวังเจ๋อพิมพ์ข้อความติบกลับสั้นๆได้ใจความเพียงสองคำว่า รับ-ทราบ

มีทั้งรูปทั้งชื่อแบบนี้ อาศัยเครือข่ายข้อมูลที่ตระกูลจ้าวมี ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็สามารถค้นหาข้อมูลทั้งหมดของจางเห่อคนนี้ได้แล้ว นี่มันยุคแห่งเทคโนโลยีไร้พรมแดน ตราบใดที่ได้คีย์เวิร์ดมาเพียงพอก็ไม่ใช่ปัญหา

จางเห่อที่เห็นแบบนั้นพลันรู้สึกสับสนเล็กน้อย เขาเอ่ยถามไปว่า

“นี่คุณกำลังทำอะไรอยู่? ถ่ายรหน้าผมทำไม?”

ทว่าจ้าวเฉียนกลับทำหูทวนลม เดินทิ้งทั้งสองออกจากวงสนทนาและเดินไปเล่นดัมเบลล์อย่างสบายอารมณ์ ทางด้านจางเห่อเองก็กลัวมากว่า การที่จ้าวเฉียนถ่ายรูปตัวเองไปแบบนี้ก็เพื่อนำไปตรวจสอบรายละเอียดส่วนตัวของเขา

จางเห่อรีบเดินติดตามออกไปและคว้าแขนของจ้าวเฉียนอย่างแรง ตวาดถามด้วยความโกรธเคืองว่า

“ฉันถามแกอยู่ว่ากำลังทำอะไร! เมื่อกี้แกถ่ายหน้าฉันส่งให้ใครดู!?”

ในเวลานี้จางเห่อไม่สามารถรักษาบทบาทของชายหนุ่มผู้แสนเป็นมิตรได้อีกต่อไป และเผยธาตถแท้ออกมาให้ทุกคนเห็น

หลิวเสี่ยวเฟยกังวลอย่างมากว่าทั้งคู่จะลงไม้ลงมือกัน เธอจึงรีบก้าวออกไปห้ามปราบทันทีและดึงจางเห่อให้แยกออกมาก่อน พร้อมหันไปถามจ้าวเฉียนว่า

“ใจเย็นก่อนนะคะ คุณจ้าว ตะกี้คุณถ่ายรูปคุณจางทำไมเหรอค่ะ?”

จ้าวเฉียนยังคงไม่ได้สนใจอะไรและเล่นดัมเบลล์ต่อไปทั้งอย่างนั้น ยิ่งปิดปากเงียบไม่ยอมตอบแบบนี้ กลับเป็นฝ่ายจางเห่อที่ยิ่งร้อนใจเข้าไปใหญ่

“กูนะถามมึงเป็นครั้งสุดท้าย! มึงถ่ายหน้ากูส่งให้ใคร! ถ้ายังไม่พูดกูจะไม่สุภาพกับมึงแล้วนะ!”

จางเห่อกล่าวขู่ด้วยวาจาแสนหยาบคาย ถกแขกเสื้อพับขึ้นทันทีเตรียมพร้อมใช้กำลังเต็มที่

หลิวเสี่ยวเฟยไม่สามารถทนดูทั้งสองทะเลาะกันได้อีกต่อไป รีบวิ่งไปเรียกเทรนเนอร์ผู้ชายคนอื่นๆในฟิตจเนสให้มาช่วยดึงจางเห่อออกไป

แต่จางเห่อตอนนี้ไม่สนใครหน้าไหนแล้ว เขาผลักทุกคนที่พยายามลากตัวเองออกไป และกวาดมือชี้หน้าขู่พวกเขาทั้งหมดว่า

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกมึง! อย่าเสือก! ไม่อย่างนั้นกูจะไม่เกรงใจพวกมึงแล้วเหมือนกัน!”

บรรดาเทรนเนอร์คนอื่นๆได้ทำเพียงเหลือบมองหลิวเสี่ยวเฟยอย่างช่วยไม่ได้ คนก่อเหตุเป็นนักเรียนของเธอ ดังนั้นมันจึงอยู่ภายใต้การรับผิดชอบของเธอเช่นกัน

“ที่เงียบแบบนี้คือแสร้งทำเป็นเก่ง? ไอ้หนู มึงไม่รู้แล้วว่ากำลังเล่นกับใคร! มึงเชื่อไหมว่า แค่กูยกหูโทรเรียกตำรวจกริ๊งเดียว พวกเขาสามารถโยนแกเข้าคุกได้ทันที!”

จางเห่อกล่าวข่มขู่ต่อ

ในเวลานี้เองจ้าวเฉียนก็ยอมปริปากพูดในที่สุด

“จริงเหรอครับ? ถ้าอย่างนั้นก็รีบยกหูโทรเลย ผมอยากเห็นจริงๆว่าคุณจางจะมีดีแค่ไหน?”

จางเห่อชี้หน้าด่าจ้าวเฉียนอย่างเดือดดุว่า

“ได้! ได้! มึงคอยดูเลยว่าใครกันที่เป็นของจริง! กูบอกได้เลย มึงเล่นผิดคนแล้วไอ้เด็กเวร!”

สิ้นเสียงกล่าวจบจางเห่อก็หยิบโทรศัพท์เพื่อโทรออกทันที

หลิวเสี่ยวเฟยไม่ต้องการให้นี่กลายมาเป็นเรื่องใหญ่ เพราะถ้าหากเรื่องนี้ส่งผลกระทบในทางลบกับฟิตเนส เธออาจจะโดนไล่ออกได้ ดังนั้นเธอจึงรีบวิ่งไปคว้าแขนของจางเห่อและพยายามโน้มน้าวเขาทันทีว่า

“คุณจางใจเย็นก่อนนะคะ! มองหน้าฉันค่ะ! อย่าเพิ่งหุนหันพลันแล่น นี่ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงเลย อย่าโทรแจ้งตำรวจเลยนะคะ”

เหตุผลที่จางเห่อทำตีวกร่างใส่ขนาดนี้ก็เป็นเพราะ เขาอยากจะโชว์ความแข็งแกร่งต่อหน้าหลิวเสี่ยวเฟย บางทีหลังจากเหตุการณ์นี้เธอคงไม่เรียกร้องเงินจากเขาเลยด้วยซ้ำ และท้ายที่สุดคงเป็นเธอนี่แหละที่ต้องการเปิดโรงแรมนอนกับเขาเอง ไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่อยากมีอนาคตที่ดี และตอนนี้เขาได้แสดงให้เธอเห็นแล้วว่า ตัวเอบคนนี้ทั้งทรงอำนาจและร่ำรวยแค่ไหน

ยิ่งหลิวเสี่ยวเฟยเกลี้ยกล่อมจางเห่อ เขาก็ยิ่งได้ใจมากขึ้นเท่านั้น

หลังจากโทรคุยโทรศัพท์เสร็จสิ้น จางเห่อก็เดินกร่างมาพูดต่อหน้าจ้าวเฉียนอย่างเย่อหยิ่งว่า

“มึงอย่าเพิ่งหนีไปไหนแล้วกัน ถ้าถึงตอนนั้นหวังว่ามึงยังจะปากเก่งแบบนี้อยู่!”

“ตามนั้นเลยครับ ผมปากเก่งเสมอต้นเสมอปลายอยู่แล้ว”

จ้าวเฉียนแสยะยิ้มเยาะราวกับกำลังเย้ยหยันอีกฝ่าย

หลิวเสี่ยวเฟยแทบเสียศูนย์ อนาคตของเธอจบสิ้นแน่ถ้าตำรวจมาถึง ดังนั้นเธอจึงหันไปเกลี้ยกล่อมจ้าวเฉียนแทน และขอให้เขาขอโทษจางเห่อโดยเร็ว เพราะจะอย่างไร จ้าวเฉียนเป็นฝ่ายถ่ายรูปจางเห่อก่อนจึงเป็นต้นเหตุของความวุ่นวายทั้งหมด

ก่อนที่จ้าวเฉียนจะอ้าปากตอบ จางเห่อพูดแทรกขึ้นก่อยด้วยท่าทีแสนเย่อหยิ่งว่า

“มึงไม่ต้องขอโทษกู! ต่อให้ขอโทษตอนนี้มันก็ไม่มีประโยชน์ มันสายเกินไปแล้ว!”

หลิวเสี่ยวเฟยคว้าแขนจ้าวเฉียนกอดแน่น เธอหวังว่าจ้าวเฉียนจะช่วยทำให้เรื่องใหญ่กลายมาเป็นเรื่องเล็กได้

“คุณจ้าว ฉันขอร้อง ฉันเป็นแค่พนักงานธรรมดาคนหนึ่ง ถ้าเกิดตำรวจมาถึงที่นี่มันจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ฟิตเนสแน่นอน ฉันจะต้องโดนเจ้านายไล่ออก อย่าทำร้ายฉันทางอ้อมเลยนะคะ”

ในขณะเดียวกัน เสียงข้อความเข้าจากมือถือจ้าวเฉียนก็ดังขึ้น พอเขาหยิบขึ้นมาดู ปรากฏว่าเป็นข้อความที่ส่งมาจากหวังเจ๋อ

จางหมิง พ่อของจางเห่อเป็นเทศมนตรีเขตซุยอวี้ และแม่ของเขายังเป็นประธานบริษัทเภสัชกรรม เปยหัว จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมไอ้หมอนี่ถึงหยิ่งผยองได้ขนาดนี้ ที่แท้ก็มีภูมิหลังดีนี่เอง

จางเห่อมีพี่ชายขื่อจางโขว มีพรสวรรค์ทั้งด้านการเรียนและการบริหารงานที่โดดเด่น ได้รับการยอมรับจากพ่อและแม่ของเขามาตั้งแต่ยังเด็ก ทั้งนี้ปัจจุบันยังถูกวางให้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งประธานบริษัทเภสัชกรรม เปยหัว คนต่อไป

ส่วนจางเห่อคนนี้เป็นแค่พวกขยะไร้ประโยชน์ มีดีแค่เที่ยวเก่ง และจะเป็นอะไรที่ดีมากถ้าวันไม่เที่ยวก่อเรื่องไปทั่ว เขาอาศัยแต่เงินที่พ่อแม่หามาใช้จ่ายไปเรื่องอบายมุขและหลอกฟันสาว

เคยมีคลิปวีดีโออนาจารมากมายถูกเปิดเผยบนโลกอินเตอร์เน็ต และผู้โพสต์ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากจางเห่อคนนี้ ถึงขนาดที่ว่ามีเคสหนึ่ง ทางฝ่ายหญิงไม่สามารถทนต่อแรงกดดันทางสังคมได้เมื่อคลิปตัวเองโดนประจาน เธอและครอบครัวจึงพร้อมใจกันฆ่าตัวตาย

เนื่องจากมีเวลาจำกัด ทั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ได้พบกับจางเห่อด้วย แต่ถึงแบบนั้น แค่นี้มันก็เพียงพอแล้วสำหรับจ้าวเฉียนที่จะคิดแผนรับมือ แค่ทราบภูมิหลังและประวัติส่วนตัวของอีกฝ่าย ก็มีร้อยปอดวิธีจัดการให้เลือกสรร

จ้าวเฉียนส่งข้อความตอบกลับไปว่า

“ตรวจสอบรายชื่อผู้หญิงทั้งหมดที่เป็นเหยื่อของจางเห่อ และคัดกรองเฉพาะรายที่โดนเขาปล่อย จากนั้นก็ลองหาแฮกเกอร์มีฝีมือสักคนเจาะเข้าคอมพิวเตอร์ของเขา และดูดคลิปทั้งหมดในเครื่องมันมา รีบดำเนินการทุกอย่างโดยเร็วที่สุด”

หวังเจ๋อยังคงพิมพ์ตอบสั้นๆแต่ได้จับความเพียงสองคำดังเดิม รับ-ทราบ

จากนั้นจ้าวเฉียนก็พิมพ์ข้อความต่อพร้อมส่งไปให่หวังเจ๋ออีกรอบ

“พ่อบ้านจาง อีกฝ่ายกำลังส่งตำรวจมาจับกุมผม รบกวนคุณช่วยโทรหาผู้ว่าหลินทีว่า สั่งให้ตำรวจที่กำลังมาถอยกำลังไปให้หมด”

หวังเจ๋อตอบกลับทันที

“รับทราบ”

จ้าวเฉียนเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าอย่างไม่มีท่าทีทุกข์ร้อนใดๆ และหันไปเอ่ยถามจางเห่อว่า

“ไหนล่ะตำรวจ? ยังไม่เห็นมาถึงเลย?”

“ทำไม? อยากรีบไปตายรีบไปเกิดใหม่รึไง?”

จางเห่อแสยะยิ้มสบประมาทใส่

จ้าวเฉียนหัวเราะคิกคักเบาๆ เอ่ยตอบไปว่า

“ก็ใช่น่ะสิครับ อยากโดนช้อนแกงจะแย่แล้ว”

ขณะที่จางเห่อกำลังจะเอ่ยปากด่าจ้าวเฉียน ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายก็บุกเข้ามา พอเห็นแบบนั้นเขารีบวิ่งไปหาตำรวจพวกนั้นโดยไวและกระซิบสองสามคำเป็นสัญญาณให้ตำรวจทราบ ก่อนที่พวกเขาทั้งหมดจะเคลื่อนพลไปหาจ้าวเฉียน

หลิวเสี่ยวเฟยทราบดีแล้วว่า สถานการณ์ตอนนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีกต่อไป ดังนั้นเธอจึงถอนหายบใจกล่าวตำหนิจ้าวเฉียนไปว่า

“คุณจ้าว ทำไมคุณถึงทำแบบนี้ล่ะ อย่างน้อยคุณก็ไม่ควรไปยั่วโมโหคุณจางเขา แล้วตอนนี้คุณจะทำยังไงต่อ?”

จ้าวเฉียนหัวเราะเบาๆกล่าวตอบไปว่า

“โค้ชหลิว คิดว่าผมจบแล้วจริงๆน่ะหรอ?”

หลิวเสี่ยวเฟยถามสวนกลับไปว่า

“จะจริงหรือไม่ก็เห็นๆอยู่! คุณจ้าวเห็นไหมว่า พวกเขารู้จักกัน อย่างดีที่สุดจุดจบของคุณคงอยู่ในคุก”

“คุณหลิวเชื่อหรือไม่ว่า พวกเขาไม่กล้าจับผม”

“ห๊ะ? มันจะเป็นไปได้ยังไง?”

“ถ้าอย่างนั้นคุณหลิวก็ควรมองโลกในแง่ดีหน่อยนะครับ ผมจะแสดงให้คุณเห็นเองว่า ใครกันแน่ที่เป็นของจริง เหนือฟ้ายังคงมีฟ้าเสมอครับ”

หลิวเสี่ยวเฟยเหลือบมองจ้าวเฉียนด้วยสายตาตกตะลึงอย่างมาก พลันคิดสงสัยไปว่า เขาทรงอำนาจอิทธิพลขนาดนั้นเชียว? แต่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเส้นใหญ่มาก มีหรือที่พวกตำรวจจะไม่กล้าจับเขา? หรือเขากลัวจนเสียสติไปแล้ว?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี 323 ภูมิหลังดี

Now you are reading ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี Chapter 323 ภูมิหลังดี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่323 ภูมิหลังดี

จ้าวเฉียนคลี่ยิ้มกว้างกล่าวกับจางเห่อว่า

“พี่ชาย นี่คุณกำลังใช้เงินฟาดหัวอยู่เหรอครับ? ผมนัดหมายกับโค้ชหลิวไว้เรียบร้อยแล้ว แต่การที่คุณมาทำแบบนี้มันหมายความว่ายังไง?”

จางเห่อยังคงแสร้งทำเป็นไร้เดียงสาและยิ้มตอบไปว่า

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ คุณจ้าวกำลังเข้าใจผิดแล้ว ผมว่างแค่วันพรุ่งนี้จริงๆเลยต้องการจองตัวโค้ชหลิวไว้ก่อน ถ้ายังไงเดี๋ยวผมจ่ายค่าเสียเวลาชดเชยให้คุณด้วยว่าไง?”

จางเห่อตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าเขาจะต้องใช้เงินเท่าไหร่ ยังไงจะต้องได้ตัวหลิวเสี่ยวเฟยมาครองให้ได้ จึงเสนอให้เงินจ้าวเฉียนด้วยเช่นกันเพื่อแสดงความจริงใจ

จ้าวเฉียนไม่ต้องการพล่ามไร้สาระกับจางเห่ออีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปจางเห่อไปแชะหนึ่งโดยตรง พร้อมส่งไปให้หัวหน้าพ่อบ้านอย่างหวังเจ๋อทันที

“พ่อบ้านเจ๋อ ชายคนนี้มีชื่อว่าจางเห่อ ส่วนนี่รูปถ่ายของเขา รบกวนตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียดและส่งมาให้ผมโดยเร็วที่สุด”

หวังเจ๋อพิมพ์ข้อความติบกลับสั้นๆได้ใจความเพียงสองคำว่า รับ-ทราบ

มีทั้งรูปทั้งชื่อแบบนี้ อาศัยเครือข่ายข้อมูลที่ตระกูลจ้าวมี ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็สามารถค้นหาข้อมูลทั้งหมดของจางเห่อคนนี้ได้แล้ว นี่มันยุคแห่งเทคโนโลยีไร้พรมแดน ตราบใดที่ได้คีย์เวิร์ดมาเพียงพอก็ไม่ใช่ปัญหา

จางเห่อที่เห็นแบบนั้นพลันรู้สึกสับสนเล็กน้อย เขาเอ่ยถามไปว่า

“นี่คุณกำลังทำอะไรอยู่? ถ่ายรหน้าผมทำไม?”

ทว่าจ้าวเฉียนกลับทำหูทวนลม เดินทิ้งทั้งสองออกจากวงสนทนาและเดินไปเล่นดัมเบลล์อย่างสบายอารมณ์ ทางด้านจางเห่อเองก็กลัวมากว่า การที่จ้าวเฉียนถ่ายรูปตัวเองไปแบบนี้ก็เพื่อนำไปตรวจสอบรายละเอียดส่วนตัวของเขา

จางเห่อรีบเดินติดตามออกไปและคว้าแขนของจ้าวเฉียนอย่างแรง ตวาดถามด้วยความโกรธเคืองว่า

“ฉันถามแกอยู่ว่ากำลังทำอะไร! เมื่อกี้แกถ่ายหน้าฉันส่งให้ใครดู!?”

ในเวลานี้จางเห่อไม่สามารถรักษาบทบาทของชายหนุ่มผู้แสนเป็นมิตรได้อีกต่อไป และเผยธาตถแท้ออกมาให้ทุกคนเห็น

หลิวเสี่ยวเฟยกังวลอย่างมากว่าทั้งคู่จะลงไม้ลงมือกัน เธอจึงรีบก้าวออกไปห้ามปราบทันทีและดึงจางเห่อให้แยกออกมาก่อน พร้อมหันไปถามจ้าวเฉียนว่า

“ใจเย็นก่อนนะคะ คุณจ้าว ตะกี้คุณถ่ายรูปคุณจางทำไมเหรอค่ะ?”

จ้าวเฉียนยังคงไม่ได้สนใจอะไรและเล่นดัมเบลล์ต่อไปทั้งอย่างนั้น ยิ่งปิดปากเงียบไม่ยอมตอบแบบนี้ กลับเป็นฝ่ายจางเห่อที่ยิ่งร้อนใจเข้าไปใหญ่

“กูนะถามมึงเป็นครั้งสุดท้าย! มึงถ่ายหน้ากูส่งให้ใคร! ถ้ายังไม่พูดกูจะไม่สุภาพกับมึงแล้วนะ!”

จางเห่อกล่าวขู่ด้วยวาจาแสนหยาบคาย ถกแขกเสื้อพับขึ้นทันทีเตรียมพร้อมใช้กำลังเต็มที่

หลิวเสี่ยวเฟยไม่สามารถทนดูทั้งสองทะเลาะกันได้อีกต่อไป รีบวิ่งไปเรียกเทรนเนอร์ผู้ชายคนอื่นๆในฟิตจเนสให้มาช่วยดึงจางเห่อออกไป

แต่จางเห่อตอนนี้ไม่สนใครหน้าไหนแล้ว เขาผลักทุกคนที่พยายามลากตัวเองออกไป และกวาดมือชี้หน้าขู่พวกเขาทั้งหมดว่า

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกมึง! อย่าเสือก! ไม่อย่างนั้นกูจะไม่เกรงใจพวกมึงแล้วเหมือนกัน!”

บรรดาเทรนเนอร์คนอื่นๆได้ทำเพียงเหลือบมองหลิวเสี่ยวเฟยอย่างช่วยไม่ได้ คนก่อเหตุเป็นนักเรียนของเธอ ดังนั้นมันจึงอยู่ภายใต้การรับผิดชอบของเธอเช่นกัน

“ที่เงียบแบบนี้คือแสร้งทำเป็นเก่ง? ไอ้หนู มึงไม่รู้แล้วว่ากำลังเล่นกับใคร! มึงเชื่อไหมว่า แค่กูยกหูโทรเรียกตำรวจกริ๊งเดียว พวกเขาสามารถโยนแกเข้าคุกได้ทันที!”

จางเห่อกล่าวข่มขู่ต่อ

ในเวลานี้เองจ้าวเฉียนก็ยอมปริปากพูดในที่สุด

“จริงเหรอครับ? ถ้าอย่างนั้นก็รีบยกหูโทรเลย ผมอยากเห็นจริงๆว่าคุณจางจะมีดีแค่ไหน?”

จางเห่อชี้หน้าด่าจ้าวเฉียนอย่างเดือดดุว่า

“ได้! ได้! มึงคอยดูเลยว่าใครกันที่เป็นของจริง! กูบอกได้เลย มึงเล่นผิดคนแล้วไอ้เด็กเวร!”

สิ้นเสียงกล่าวจบจางเห่อก็หยิบโทรศัพท์เพื่อโทรออกทันที

หลิวเสี่ยวเฟยไม่ต้องการให้นี่กลายมาเป็นเรื่องใหญ่ เพราะถ้าหากเรื่องนี้ส่งผลกระทบในทางลบกับฟิตเนส เธออาจจะโดนไล่ออกได้ ดังนั้นเธอจึงรีบวิ่งไปคว้าแขนของจางเห่อและพยายามโน้มน้าวเขาทันทีว่า

“คุณจางใจเย็นก่อนนะคะ! มองหน้าฉันค่ะ! อย่าเพิ่งหุนหันพลันแล่น นี่ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงเลย อย่าโทรแจ้งตำรวจเลยนะคะ”

เหตุผลที่จางเห่อทำตีวกร่างใส่ขนาดนี้ก็เป็นเพราะ เขาอยากจะโชว์ความแข็งแกร่งต่อหน้าหลิวเสี่ยวเฟย บางทีหลังจากเหตุการณ์นี้เธอคงไม่เรียกร้องเงินจากเขาเลยด้วยซ้ำ และท้ายที่สุดคงเป็นเธอนี่แหละที่ต้องการเปิดโรงแรมนอนกับเขาเอง ไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่อยากมีอนาคตที่ดี และตอนนี้เขาได้แสดงให้เธอเห็นแล้วว่า ตัวเอบคนนี้ทั้งทรงอำนาจและร่ำรวยแค่ไหน

ยิ่งหลิวเสี่ยวเฟยเกลี้ยกล่อมจางเห่อ เขาก็ยิ่งได้ใจมากขึ้นเท่านั้น

หลังจากโทรคุยโทรศัพท์เสร็จสิ้น จางเห่อก็เดินกร่างมาพูดต่อหน้าจ้าวเฉียนอย่างเย่อหยิ่งว่า

“มึงอย่าเพิ่งหนีไปไหนแล้วกัน ถ้าถึงตอนนั้นหวังว่ามึงยังจะปากเก่งแบบนี้อยู่!”

“ตามนั้นเลยครับ ผมปากเก่งเสมอต้นเสมอปลายอยู่แล้ว”

จ้าวเฉียนแสยะยิ้มเยาะราวกับกำลังเย้ยหยันอีกฝ่าย

หลิวเสี่ยวเฟยแทบเสียศูนย์ อนาคตของเธอจบสิ้นแน่ถ้าตำรวจมาถึง ดังนั้นเธอจึงหันไปเกลี้ยกล่อมจ้าวเฉียนแทน และขอให้เขาขอโทษจางเห่อโดยเร็ว เพราะจะอย่างไร จ้าวเฉียนเป็นฝ่ายถ่ายรูปจางเห่อก่อนจึงเป็นต้นเหตุของความวุ่นวายทั้งหมด

ก่อนที่จ้าวเฉียนจะอ้าปากตอบ จางเห่อพูดแทรกขึ้นก่อยด้วยท่าทีแสนเย่อหยิ่งว่า

“มึงไม่ต้องขอโทษกู! ต่อให้ขอโทษตอนนี้มันก็ไม่มีประโยชน์ มันสายเกินไปแล้ว!”

หลิวเสี่ยวเฟยคว้าแขนจ้าวเฉียนกอดแน่น เธอหวังว่าจ้าวเฉียนจะช่วยทำให้เรื่องใหญ่กลายมาเป็นเรื่องเล็กได้

“คุณจ้าว ฉันขอร้อง ฉันเป็นแค่พนักงานธรรมดาคนหนึ่ง ถ้าเกิดตำรวจมาถึงที่นี่มันจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ฟิตเนสแน่นอน ฉันจะต้องโดนเจ้านายไล่ออก อย่าทำร้ายฉันทางอ้อมเลยนะคะ”

ในขณะเดียวกัน เสียงข้อความเข้าจากมือถือจ้าวเฉียนก็ดังขึ้น พอเขาหยิบขึ้นมาดู ปรากฏว่าเป็นข้อความที่ส่งมาจากหวังเจ๋อ

จางหมิง พ่อของจางเห่อเป็นเทศมนตรีเขตซุยอวี้ และแม่ของเขายังเป็นประธานบริษัทเภสัชกรรม เปยหัว จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมไอ้หมอนี่ถึงหยิ่งผยองได้ขนาดนี้ ที่แท้ก็มีภูมิหลังดีนี่เอง

จางเห่อมีพี่ชายขื่อจางโขว มีพรสวรรค์ทั้งด้านการเรียนและการบริหารงานที่โดดเด่น ได้รับการยอมรับจากพ่อและแม่ของเขามาตั้งแต่ยังเด็ก ทั้งนี้ปัจจุบันยังถูกวางให้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งประธานบริษัทเภสัชกรรม เปยหัว คนต่อไป

ส่วนจางเห่อคนนี้เป็นแค่พวกขยะไร้ประโยชน์ มีดีแค่เที่ยวเก่ง และจะเป็นอะไรที่ดีมากถ้าวันไม่เที่ยวก่อเรื่องไปทั่ว เขาอาศัยแต่เงินที่พ่อแม่หามาใช้จ่ายไปเรื่องอบายมุขและหลอกฟันสาว

เคยมีคลิปวีดีโออนาจารมากมายถูกเปิดเผยบนโลกอินเตอร์เน็ต และผู้โพสต์ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากจางเห่อคนนี้ ถึงขนาดที่ว่ามีเคสหนึ่ง ทางฝ่ายหญิงไม่สามารถทนต่อแรงกดดันทางสังคมได้เมื่อคลิปตัวเองโดนประจาน เธอและครอบครัวจึงพร้อมใจกันฆ่าตัวตาย

เนื่องจากมีเวลาจำกัด ทั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ได้พบกับจางเห่อด้วย แต่ถึงแบบนั้น แค่นี้มันก็เพียงพอแล้วสำหรับจ้าวเฉียนที่จะคิดแผนรับมือ แค่ทราบภูมิหลังและประวัติส่วนตัวของอีกฝ่าย ก็มีร้อยปอดวิธีจัดการให้เลือกสรร

จ้าวเฉียนส่งข้อความตอบกลับไปว่า

“ตรวจสอบรายชื่อผู้หญิงทั้งหมดที่เป็นเหยื่อของจางเห่อ และคัดกรองเฉพาะรายที่โดนเขาปล่อย จากนั้นก็ลองหาแฮกเกอร์มีฝีมือสักคนเจาะเข้าคอมพิวเตอร์ของเขา และดูดคลิปทั้งหมดในเครื่องมันมา รีบดำเนินการทุกอย่างโดยเร็วที่สุด”

หวังเจ๋อยังคงพิมพ์ตอบสั้นๆแต่ได้จับความเพียงสองคำดังเดิม รับ-ทราบ

จากนั้นจ้าวเฉียนก็พิมพ์ข้อความต่อพร้อมส่งไปให่หวังเจ๋ออีกรอบ

“พ่อบ้านจาง อีกฝ่ายกำลังส่งตำรวจมาจับกุมผม รบกวนคุณช่วยโทรหาผู้ว่าหลินทีว่า สั่งให้ตำรวจที่กำลังมาถอยกำลังไปให้หมด”

หวังเจ๋อตอบกลับทันที

“รับทราบ”

จ้าวเฉียนเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าอย่างไม่มีท่าทีทุกข์ร้อนใดๆ และหันไปเอ่ยถามจางเห่อว่า

“ไหนล่ะตำรวจ? ยังไม่เห็นมาถึงเลย?”

“ทำไม? อยากรีบไปตายรีบไปเกิดใหม่รึไง?”

จางเห่อแสยะยิ้มสบประมาทใส่

จ้าวเฉียนหัวเราะคิกคักเบาๆ เอ่ยตอบไปว่า

“ก็ใช่น่ะสิครับ อยากโดนช้อนแกงจะแย่แล้ว”

ขณะที่จางเห่อกำลังจะเอ่ยปากด่าจ้าวเฉียน ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายก็บุกเข้ามา พอเห็นแบบนั้นเขารีบวิ่งไปหาตำรวจพวกนั้นโดยไวและกระซิบสองสามคำเป็นสัญญาณให้ตำรวจทราบ ก่อนที่พวกเขาทั้งหมดจะเคลื่อนพลไปหาจ้าวเฉียน

หลิวเสี่ยวเฟยทราบดีแล้วว่า สถานการณ์ตอนนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีกต่อไป ดังนั้นเธอจึงถอนหายบใจกล่าวตำหนิจ้าวเฉียนไปว่า

“คุณจ้าว ทำไมคุณถึงทำแบบนี้ล่ะ อย่างน้อยคุณก็ไม่ควรไปยั่วโมโหคุณจางเขา แล้วตอนนี้คุณจะทำยังไงต่อ?”

จ้าวเฉียนหัวเราะเบาๆกล่าวตอบไปว่า

“โค้ชหลิว คิดว่าผมจบแล้วจริงๆน่ะหรอ?”

หลิวเสี่ยวเฟยถามสวนกลับไปว่า

“จะจริงหรือไม่ก็เห็นๆอยู่! คุณจ้าวเห็นไหมว่า พวกเขารู้จักกัน อย่างดีที่สุดจุดจบของคุณคงอยู่ในคุก”

“คุณหลิวเชื่อหรือไม่ว่า พวกเขาไม่กล้าจับผม”

“ห๊ะ? มันจะเป็นไปได้ยังไง?”

“ถ้าอย่างนั้นคุณหลิวก็ควรมองโลกในแง่ดีหน่อยนะครับ ผมจะแสดงให้คุณเห็นเองว่า ใครกันแน่ที่เป็นของจริง เหนือฟ้ายังคงมีฟ้าเสมอครับ”

หลิวเสี่ยวเฟยเหลือบมองจ้าวเฉียนด้วยสายตาตกตะลึงอย่างมาก พลันคิดสงสัยไปว่า เขาทรงอำนาจอิทธิพลขนาดนั้นเชียว? แต่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเส้นใหญ่มาก มีหรือที่พวกตำรวจจะไม่กล้าจับเขา? หรือเขากลัวจนเสียสติไปแล้ว?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+