ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี 170 ลงมือ

Now you are reading ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี Chapter 170 ลงมือ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่170 ลงมือ

หวางเจ๋อระเบิดหัวเราะอย่างมีความสุข กอดหวังซินซินในอ้อมแขนและประกบจูบกันแสนดุเดือด

เหล่สายตาจับจ้องไปที่จ้าวเฉียนเชิงยั่วยุ และกล่าวขึ้นว่า

“นายคงไม่รู้ใช่ไหมว่า ในเมืองแห่งนี้มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถจัดการฉันได้ นายก็แค่พวกต้อยต่ำคนหนึ่งที่มั่นใจในตัวเองเกินไป ว่าที่พ่อตาของฉันในอนาคตเป็นถึงประธานหวังแห่งบริษัทอสังหาริมทรัพย์หวัง ทำให้ฉันขุ่นเคืองแบบนี้ อนาคตของนายจบไม่สวยแน่นอน!”

จ้าวเฉียนระเบิดหัวเนาะอย่างภาคภูมิใจและกล่าวตอบไปว่า

“ถูกต้องแล้ว ถ้าไม่ได้พ่อตาของคุณช่วยไว้ โครงการนี้คงพังไม่เป็นท่า สุดท้ายก็ต้องแบมือขอความช่วยเหลือจากคนอื่น ตัวเองแค่ลำพังคงจะไม่รอด แล้วอย่างงี้เวลาที่ผู้ใหญ่ไม่อยู่แล้ว ธุรกิจจะไปรอดได้ยังไง? ก็โตๆ กันหมดแล้วนะเลิกทำตัวเป็นเด็กๆ ได้แล้ว”

เมื่อได้ยินสิ่งที่จ้าวเฉียนกล่าวออกไป หวังซินซินกับหวางเจ๋อซึมซาบไปชั่วขณะหนึ่ง ในกรณีนี้เป็นจริงอย่างที่จ้าวเฉียนกล่าว ถ้าไม่ได้พ่อของหวังซินซินช่วยไว้ โครงการร้อยล้านคงพังไม่เป็นท่า

แต่อย่างไรหวังซินซินก็มั่นใจในตัวของพ่อเธอมาก จึงกล่าวโต้แย้งไปว่า

“ก็ช่วยไม่ได้ที่ฉันเกิดมารวย มีทุกอย่างเพียบพร้อม แล้วนายล่ะ? จะมีดีสักแค่ไหนเชียว?”

จ้าวเฉียนระเบิดหัวเราะลั่นกล่าวตอบไปเพียงว่า

“แล้วผมจะรอฟังครับ”

ทุกคนต่างนั่งรออย่างใจเย็นเพื่อรอฟังข่าวจากพ่อของหวังซินซินล

ประมาณห้านาทีต่อมา โทรศัพท์มือถือของหวังซินซินก็ดังขึ้น ปรากฏว่าเป็นพ่อของเธอที่โทรเข้ามา เห็นแบบนั้น เธอจึงจงใจกดเปิดลำโพงให้ทุกคนได้ยินโดยทั่ว

“ฮาโหลพ่อ ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม? หวางเจ๋อได้ที่ดินประมูลคืนแล้ว?”

หวังซินซินถามด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม

“เอ่อ…พ่อพยายามเจรจากับเขาแล้วนะ แต่ไม่ว่ายังไงทางนั้นก็ไม่ยอมคืนที่ดินประมูลให้ โดยให้เหตุผลว่าโครงการของบริษัทหวางเจ๋อไม่ได้มาตรฐานพอ ถ้าอยากจะได้จริงๆ ต้องปรับโครงสร้างแก้ไขใหม่ตั้งแต่ศูนย์”

“อะไรนะ? มันคิดจะโกงพวกเรารึไง? หรือคิดจะแกล้งกัน?”

พอไม่ได้ดั่งใจ หวังซินซินก็ตะโกนเสียงดังลั่น

“ไม่มีทาง ระดับหยางไห่ไม่มีทางโกงอยู่แล้ว เอาแบบนี้ดีไหม เดี๋ยวพ่อจะช่วยแนะนำที่ดินส่วนอื่นเอาไว้ให้ทำโครงการ พ่อยังมีธุระต่อ แค่นี้นะ อย่ากลับดึก!”

พ่อของหวังซินซินตัดสายทิ้งทันทีที่พูดจบ

ทุกคนต่างจับจ้องจ้าวเฉียนด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อว่านี่เป็นความจริง คนว่างงานมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของบริษัทหยางไห่ขนาดนี้เลยงั้นเหรอ?

หวางเจ๋อยังไม่ตัดใจยอมแพ้ เนื้อเป็ดแสนอร่อยส่งตรงถึงปากแล้วแท้ๆ แล้วเรื่องอะไรถึงต้องปล่อยให้มันจากไปทั้งแบบนั้น?

ตอนนี้เหลือเพียงโอกาสเดียวคือ ขอร้องให้จ้าวเฉียนยกโทษให้ ตราบใดที่จ้าวเฉียนยินดีที่จะออกหน้าช่วย ที่ดินประมูลในส่วนนี้ยังพอมีโอกาสกลับสู่อ้อมกอดเขาได้อยู่

“คุณจ้าว…คุณจ้าวครับ!คุณเองก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่ควรกลั่นแกล้งเด็กนะครับ!ผมขอร้องเถอะ ช่วยผมด้วย!ช่วยสั่งการให้หยางไห่คืนที่ดินประมูลกลับมาให้ผมเถอะครับ!”

หลัวเสี่ยวที่รู้สึกอึดอัดใจแทน เธอจึงกล่าวช่วยจ้าวเฉียนว่า

“พวกเราตั้งใจว่าจะไปร้องคาราโอเกะต่อ ถ้าคุณจ้าวไม่มีเวลาก็สามารถกลับก่อนได้นะคะ แต่ถ้ายังเหลือเวลาอยู่บ้าง พวกเราก็ยินดีไปต่อกับคุณค่ะ”

จ้าวเฉียนแลเหลียวเหลือบมองหวางเจ๋อด้วยหางตา กล่าวน้ำเสียงเรียบตอบไปว่า

“คุณหวางครับ เลิกทำอะไรโง่ๆ จะดีกว่า ผมเองก็ช่วยอะไรคุณไม่ได้เหมือนกัน ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมกับเซียวหยุนขอตัวก่อนนะครับ คุณหลัวเสี่ยวไว้วันสัมภาษณ์ ถ้าว่างผมจะไปเชียร์นะครับ”

จากนั้นจ้าวเฉียนก็เดินกำลังเดินจากไป

ทว่าหวางเจ๋อยังไม่ยอมแพ้ เขาตะโกนขอร้องเหลียวเซียวหยุนให้ช่วยเขาที

“เหลียวเซียวหยุน พวกเราก็เป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียนไม่ใช่เหรอ? เธอต้องช่วยฉันนะ!ถือซะว่าช่วยเพื่อนคนนี้สักครั้งเถอะนะ จำไม่ได้เหรอ แต่ก่อนฉันซื้อของขวัญไล่จีบเธอตั้งเยอะแยะ เห็นแก่ความรักความห่วงใยของฉันในตอนนั้นหน่อย!”

หวางเจ๋อวิตกกังวลจนเกินไป เขางัดทุกสิ่งที่คิดได้ออกมาพูดทั้งหมดเพื่อให้เหลียวเซียวหยุนยอมเหลียวแลเขาบ้าง

แต่เหลียวเซียวหยุนก็ไม่ค่อยชอบขี้หน้าหยางเจ๋อตั้งแต่ตอนที่ตามจีบแล้ว นี่ยังหน้าด้านของให้เธอเห็นใจอีกงั้นเหรอ?

แต่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือ หวังซินซินเองก็พลันได้ยินเรื่องนี้ไปด้วย เธอชี้หน้าด่าทั้งคู่ทันทีว่า

“อ่อ!ที่แท้พวกแกสองคนก็เคยมีอดีตด้วยกันแบบนี้นี่เอง!หวางเจ๋อ!ไหนเคยบอกฉันว่า ตั้งแต่เกิดมาก็ตกหลุมรักฉันเป็นคนแรก!ไหนว่าฉันคือรักแรกของนาย!? ทั้งหมดมันโกหกทั้งเพใช่ไหม!!? นังเหลียวเซียวหยุน อีร่าน!!”

หวางเจ๋อรีบขอโทษหวังซินซินทันที

“ซินซิน เธอเข้าใจผิดแล้ว เรื่องระหว่างผมกับเธอมันไม่มีอะไรเลยจริงๆ ที่พูดออกไปแบบนั้นก็เผื่อให้เธอช่วยเหลือ เธอเป็นรักแรกของฉันจริงๆ นะ ตอนนั้นก็แค่ชอบอีกฝ่ายตามวัยน่ะ!”

“เชื่อกับผีน่ะสิ!หวางเจ๋อ จำใส่กะลาหัวไว้เลยนะ เรา เลิก กัน!!หลังจากนี้เรื่องระหว่างเราจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป!!”

หวังซินซินตวาดเสียงดังลั่นและวิ่งหนีออกไป ทิ้งเขาให้อยู่คนเดียว

หวางเจ๋อรีบวิ่งไล่ตามเธอออกไป ถ้าไม่มีหวังซินซิน บริษัทของเขาเองก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน

“ซินซิน ซินซิน…ฟังผมอธิบายก่อน!”

“ไปให้พ้น!”

หวังซินซินตบหน้าหวางเจ๋ออย่างแรง และวิ่งหนีจากไปโดยไม่แลเหลียวกลับมามองอีกเลย

ระยะห่างระหว้างสวรรค์กับนรกช่างอยู่ไกลแสนไกล แต่สำหรับหวางเจ๋อที่เพิ่งลอยตัวราวกับอยู่บนสวรรค์ ยามนี้ราวกับเพิ่งโดนนรกฉุดดึงไปใต้บาดาล

“บัดซบ!จ้าวเฉียน!ทั้งหมดเป็นเพราะมัน!”

หวางเจ๋อสบถด่ากับตัวเอง เช็ดหน้าเช็ดตาเดินกลับไปในห้องอาหาร

“จ้าวเฉียน นายต้องการอะไรขอให้ว่ามาเลย!ฉันยอมทุกอย่าง ขอ…ขอแค่ได้โครงการนี้กลับมาคืนเถอะนะ!”

หวางเจ๋อขอร้องเสียงออดอ้อน

จ้าวเฉียนหัวเราะเยาะใส่ กล่าวซ้พเติมไปว่า

“ทำไม ถ้าไม่ยอมช่วยจะทำอะไรผมงั้นเหรอ? ที่ทุกอย่างพังพินาศแบบนี้ไม่ใช่เพราะตัวคุณเองหรอกเหรอ?”

“ทั้งเส้นทางด้านอาชีพและความรัก…ทั้งหมดกลับพังพินาศไม่เหลือ ทั้งหมด…ทั้งหมดเป็นเพราะแก!”

หวางเจียงเอ่ยเสียงสาปส่งไม่หยุดหย่อน จ้องจ้าวเฉียนเขม็งด้วยแววตาแสนชั่วร้าย

ก่อนที่จ้าวเฉียนจะเอ่ยกล่าวใดๆ ต่อ คนอื่นๆ ต่างเร่งชักชวนกล่อมให้หวางเจ๋อใจเย็นลงก่อน

“หวางเจ๋อ ใจเย็นก่อนนะ แค่พลาดโครงการเดียวเอง มันไม่เป็นอะไรหรอก”

“ก่อนหน้าที่นายยังไม่ได้โครงการนี้ นายเองก็อยู่ได้ไม่ใช่เหรอ?”

“มีใครบ้างจะทำเงินได้ทีเดียวหลายร้อยล้าน? ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปนั่นแหละ ไม่ต้องรีบร้อนไป”

หวางเจ๋อหัวเราะเยาะกับตัวเอง เอ่ยขึ้นว่า

“หวังซินซินเลิกกับฉันแล้ว หากไม่มีเธอ แล้วบริษัทของฉันจะไปต่อได้ยังไง? ถ้าไม่มีเงินสนับสนุนจากพ่อเธอ แล้วบริษัทจะอยู่รอดต่อยังไงได้? ทั้งหมดก็เพราะมัน…ฉันล้มเหลวทั้งเรื่องการงานและความรัก ตอนนี้ฉันยังทำอะไรได้อีก?”

เหลียวเซียวหยุนยืนขำจนท้องแข็ง เธอกล่าวขึ้นว่า

“ฮ่าฮ่าๆๆ …หวางเจ๋อ นายอยากสบประสาทฉันก่อนเองนะ ใช่แล้ว ไอ้ขี้แพ้อย่างนรายจะไปทำอะไรได้? นี่ฉันไม่ได้ดูถูกนายนะ แค่พูดตามที่เห็นน่ะ ไอ้ ขี้ แพ้!!”

หวางเจ๋อตกสู่สภาวะจนตรอก ยิ่งได้ยินคำดูถูกของเหลียวเซียวหยุนซ้ำเติมเข้าไปอีก ในท้ายที่สุดเขาก็ฟิวส์ขาดจนได้ แทบจะในทันใดมือข้างหนึ่งพุ่งไปคว้าขวดไวน์ขึ้นมา และวิ่งเข้าใส่เหลียวเซียวหยุนสุดกำลัง

“หวางเจ๋อ!อย่า!!”

“เร็วเข้า!รีบจับเขาไว้!!”

“เอาขวดไวน์ออกจากมือเขาก่อน เร็ว!”

บรรดาเพื่อนร่วมชั้นตรงเข้าไปห้ามอย่างรวดเร็ว แต่ตอนนี้เขาคลั่งไปแล้ว โบกขวดไวน์ในมืออัดโต๊ะจนแตกเป็นฟันฉลาม ขู่ใส่ทุกคนที่พยายามเข้ามาใกล้

“อย่ามายุ่ง!ใครกล้าหยุดกู กูตีไม่ยั้งแน่!”

หวางเจ๋อส่งเสียงคำรามดังสนั่น

ทุกคนยังคงพยายามใจดีสู้เสือ พยายามเกลี้ยกล่อมหวางเจ๋อว่าอย่าเพิ่งหุนหันพลันแล่น แต่เขากลับไม่ฟังและเบี่ยงเป้าหมายไปทางจ้าวเฉียนแทน

หลัวเสี่ยวตะโกนลั่น

“หวางเจ๋อ อย่านะ!!”

ตอนนี่ไม่มีประโยชน์อันใดอีกแล้ว ไม่ว่าใครจะตะโกนราวกับว่าเสียงนี้มันส่งผ่านไปไม่ถึงอีกฝ่ายเสียแล้ว หวางเจ๋อกระชับจับขวดไวน์ปากฉลากในมือ เสียบไปที่ศีรษะของจ้าวเฉียนประหนึ่งว่าเสียสติไปโดยสมบูรณ์

พอเห็นหวางเจ๋อวิ่งเข้ามา ปฏิกิริยาของจ้าวเฉียนช่างสงบนิ่งเหลือเกิน พร้อมยกบาทาถีบสวนออกไปทันที ร่างของหวางเจ๋อกระเด็นว่อนกลางอากาศ ขวดไวน์ในมือหล่นแตกกระเด็นเต็มพื้น อีกฝ่ายถูกจัดการได้ภายในกระบวนท่าเดียว

จ้าวเฉียนหวังช่วยให้อีกฝ่ายสงบสติลงหน่อย จึงเดินเข้าไปกระทืบลิ้นปี่ซ้ำ บังคับให้หวางเจ๋อนอนจุกจนดิ้นทุรนทุรายอยู่กับพื้น

ถึงอาการเสียดจุกจะรุนแรงขนาดไหน แต่ด้วยความบ้าดีเดือด หวางเจ๋อก็ยังไม่ยอมแพ้ พยายามกวาดขาใส่จ้าวเฉียนหวังให้ล้มขมำลงกับพื้นเฉกเช่นเขา

จ้าวเฉียนเพียงส่ายหน้าพลางกระโดดหลบอย่างง่ายดาย มือข้างหนึ่งหยิบเก้าอี้ขึ้นมาและทุ่มใส่ร่างหวางเจ๋ออย่างแรง พร้อมเสียงโครมครามดัง ‘ปัง’

ท้ายที่สุดแล้ว หวางเจ๋อนอนสลบมอดคาพื้นอย่างน่าเวทนา

“คงสงบได้บ้างนะครับ”

“หวางเจ๋อ…”

ทุกคนต่างรีบไปมุงดู฿ว่าหวางเจ๋อเป็นอย่างไรบ้างแล้วในขณะนี้

แต่มีจ้าวเฉียนยืนหยัดอยู่เบื้องหน้าแบบนี้ กลับไม่มีใครสักคนที่กล้าเข้าไปช่วยหรือเรียกร้องความยุติธรรมแทนหวางเจ๋อเลยสักคน

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี 170 ลงมือ

Now you are reading ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี Chapter 170 ลงมือ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่170 ลงมือ

หวางเจ๋อระเบิดหัวเราะอย่างมีความสุข กอดหวังซินซินในอ้อมแขนและประกบจูบกันแสนดุเดือด

เหล่สายตาจับจ้องไปที่จ้าวเฉียนเชิงยั่วยุ และกล่าวขึ้นว่า

“นายคงไม่รู้ใช่ไหมว่า ในเมืองแห่งนี้มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถจัดการฉันได้ นายก็แค่พวกต้อยต่ำคนหนึ่งที่มั่นใจในตัวเองเกินไป ว่าที่พ่อตาของฉันในอนาคตเป็นถึงประธานหวังแห่งบริษัทอสังหาริมทรัพย์หวัง ทำให้ฉันขุ่นเคืองแบบนี้ อนาคตของนายจบไม่สวยแน่นอน!”

จ้าวเฉียนระเบิดหัวเนาะอย่างภาคภูมิใจและกล่าวตอบไปว่า

“ถูกต้องแล้ว ถ้าไม่ได้พ่อตาของคุณช่วยไว้ โครงการนี้คงพังไม่เป็นท่า สุดท้ายก็ต้องแบมือขอความช่วยเหลือจากคนอื่น ตัวเองแค่ลำพังคงจะไม่รอด แล้วอย่างงี้เวลาที่ผู้ใหญ่ไม่อยู่แล้ว ธุรกิจจะไปรอดได้ยังไง? ก็โตๆ กันหมดแล้วนะเลิกทำตัวเป็นเด็กๆ ได้แล้ว”

เมื่อได้ยินสิ่งที่จ้าวเฉียนกล่าวออกไป หวังซินซินกับหวางเจ๋อซึมซาบไปชั่วขณะหนึ่ง ในกรณีนี้เป็นจริงอย่างที่จ้าวเฉียนกล่าว ถ้าไม่ได้พ่อของหวังซินซินช่วยไว้ โครงการร้อยล้านคงพังไม่เป็นท่า

แต่อย่างไรหวังซินซินก็มั่นใจในตัวของพ่อเธอมาก จึงกล่าวโต้แย้งไปว่า

“ก็ช่วยไม่ได้ที่ฉันเกิดมารวย มีทุกอย่างเพียบพร้อม แล้วนายล่ะ? จะมีดีสักแค่ไหนเชียว?”

จ้าวเฉียนระเบิดหัวเราะลั่นกล่าวตอบไปเพียงว่า

“แล้วผมจะรอฟังครับ”

ทุกคนต่างนั่งรออย่างใจเย็นเพื่อรอฟังข่าวจากพ่อของหวังซินซินล

ประมาณห้านาทีต่อมา โทรศัพท์มือถือของหวังซินซินก็ดังขึ้น ปรากฏว่าเป็นพ่อของเธอที่โทรเข้ามา เห็นแบบนั้น เธอจึงจงใจกดเปิดลำโพงให้ทุกคนได้ยินโดยทั่ว

“ฮาโหลพ่อ ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม? หวางเจ๋อได้ที่ดินประมูลคืนแล้ว?”

หวังซินซินถามด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม

“เอ่อ…พ่อพยายามเจรจากับเขาแล้วนะ แต่ไม่ว่ายังไงทางนั้นก็ไม่ยอมคืนที่ดินประมูลให้ โดยให้เหตุผลว่าโครงการของบริษัทหวางเจ๋อไม่ได้มาตรฐานพอ ถ้าอยากจะได้จริงๆ ต้องปรับโครงสร้างแก้ไขใหม่ตั้งแต่ศูนย์”

“อะไรนะ? มันคิดจะโกงพวกเรารึไง? หรือคิดจะแกล้งกัน?”

พอไม่ได้ดั่งใจ หวังซินซินก็ตะโกนเสียงดังลั่น

“ไม่มีทาง ระดับหยางไห่ไม่มีทางโกงอยู่แล้ว เอาแบบนี้ดีไหม เดี๋ยวพ่อจะช่วยแนะนำที่ดินส่วนอื่นเอาไว้ให้ทำโครงการ พ่อยังมีธุระต่อ แค่นี้นะ อย่ากลับดึก!”

พ่อของหวังซินซินตัดสายทิ้งทันทีที่พูดจบ

ทุกคนต่างจับจ้องจ้าวเฉียนด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อว่านี่เป็นความจริง คนว่างงานมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของบริษัทหยางไห่ขนาดนี้เลยงั้นเหรอ?

หวางเจ๋อยังไม่ตัดใจยอมแพ้ เนื้อเป็ดแสนอร่อยส่งตรงถึงปากแล้วแท้ๆ แล้วเรื่องอะไรถึงต้องปล่อยให้มันจากไปทั้งแบบนั้น?

ตอนนี้เหลือเพียงโอกาสเดียวคือ ขอร้องให้จ้าวเฉียนยกโทษให้ ตราบใดที่จ้าวเฉียนยินดีที่จะออกหน้าช่วย ที่ดินประมูลในส่วนนี้ยังพอมีโอกาสกลับสู่อ้อมกอดเขาได้อยู่

“คุณจ้าว…คุณจ้าวครับ!คุณเองก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่ควรกลั่นแกล้งเด็กนะครับ!ผมขอร้องเถอะ ช่วยผมด้วย!ช่วยสั่งการให้หยางไห่คืนที่ดินประมูลกลับมาให้ผมเถอะครับ!”

หลัวเสี่ยวที่รู้สึกอึดอัดใจแทน เธอจึงกล่าวช่วยจ้าวเฉียนว่า

“พวกเราตั้งใจว่าจะไปร้องคาราโอเกะต่อ ถ้าคุณจ้าวไม่มีเวลาก็สามารถกลับก่อนได้นะคะ แต่ถ้ายังเหลือเวลาอยู่บ้าง พวกเราก็ยินดีไปต่อกับคุณค่ะ”

จ้าวเฉียนแลเหลียวเหลือบมองหวางเจ๋อด้วยหางตา กล่าวน้ำเสียงเรียบตอบไปว่า

“คุณหวางครับ เลิกทำอะไรโง่ๆ จะดีกว่า ผมเองก็ช่วยอะไรคุณไม่ได้เหมือนกัน ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมกับเซียวหยุนขอตัวก่อนนะครับ คุณหลัวเสี่ยวไว้วันสัมภาษณ์ ถ้าว่างผมจะไปเชียร์นะครับ”

จากนั้นจ้าวเฉียนก็เดินกำลังเดินจากไป

ทว่าหวางเจ๋อยังไม่ยอมแพ้ เขาตะโกนขอร้องเหลียวเซียวหยุนให้ช่วยเขาที

“เหลียวเซียวหยุน พวกเราก็เป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียนไม่ใช่เหรอ? เธอต้องช่วยฉันนะ!ถือซะว่าช่วยเพื่อนคนนี้สักครั้งเถอะนะ จำไม่ได้เหรอ แต่ก่อนฉันซื้อของขวัญไล่จีบเธอตั้งเยอะแยะ เห็นแก่ความรักความห่วงใยของฉันในตอนนั้นหน่อย!”

หวางเจ๋อวิตกกังวลจนเกินไป เขางัดทุกสิ่งที่คิดได้ออกมาพูดทั้งหมดเพื่อให้เหลียวเซียวหยุนยอมเหลียวแลเขาบ้าง

แต่เหลียวเซียวหยุนก็ไม่ค่อยชอบขี้หน้าหยางเจ๋อตั้งแต่ตอนที่ตามจีบแล้ว นี่ยังหน้าด้านของให้เธอเห็นใจอีกงั้นเหรอ?

แต่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือ หวังซินซินเองก็พลันได้ยินเรื่องนี้ไปด้วย เธอชี้หน้าด่าทั้งคู่ทันทีว่า

“อ่อ!ที่แท้พวกแกสองคนก็เคยมีอดีตด้วยกันแบบนี้นี่เอง!หวางเจ๋อ!ไหนเคยบอกฉันว่า ตั้งแต่เกิดมาก็ตกหลุมรักฉันเป็นคนแรก!ไหนว่าฉันคือรักแรกของนาย!? ทั้งหมดมันโกหกทั้งเพใช่ไหม!!? นังเหลียวเซียวหยุน อีร่าน!!”

หวางเจ๋อรีบขอโทษหวังซินซินทันที

“ซินซิน เธอเข้าใจผิดแล้ว เรื่องระหว่างผมกับเธอมันไม่มีอะไรเลยจริงๆ ที่พูดออกไปแบบนั้นก็เผื่อให้เธอช่วยเหลือ เธอเป็นรักแรกของฉันจริงๆ นะ ตอนนั้นก็แค่ชอบอีกฝ่ายตามวัยน่ะ!”

“เชื่อกับผีน่ะสิ!หวางเจ๋อ จำใส่กะลาหัวไว้เลยนะ เรา เลิก กัน!!หลังจากนี้เรื่องระหว่างเราจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป!!”

หวังซินซินตวาดเสียงดังลั่นและวิ่งหนีออกไป ทิ้งเขาให้อยู่คนเดียว

หวางเจ๋อรีบวิ่งไล่ตามเธอออกไป ถ้าไม่มีหวังซินซิน บริษัทของเขาเองก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน

“ซินซิน ซินซิน…ฟังผมอธิบายก่อน!”

“ไปให้พ้น!”

หวังซินซินตบหน้าหวางเจ๋ออย่างแรง และวิ่งหนีจากไปโดยไม่แลเหลียวกลับมามองอีกเลย

ระยะห่างระหว้างสวรรค์กับนรกช่างอยู่ไกลแสนไกล แต่สำหรับหวางเจ๋อที่เพิ่งลอยตัวราวกับอยู่บนสวรรค์ ยามนี้ราวกับเพิ่งโดนนรกฉุดดึงไปใต้บาดาล

“บัดซบ!จ้าวเฉียน!ทั้งหมดเป็นเพราะมัน!”

หวางเจ๋อสบถด่ากับตัวเอง เช็ดหน้าเช็ดตาเดินกลับไปในห้องอาหาร

“จ้าวเฉียน นายต้องการอะไรขอให้ว่ามาเลย!ฉันยอมทุกอย่าง ขอ…ขอแค่ได้โครงการนี้กลับมาคืนเถอะนะ!”

หวางเจ๋อขอร้องเสียงออดอ้อน

จ้าวเฉียนหัวเราะเยาะใส่ กล่าวซ้พเติมไปว่า

“ทำไม ถ้าไม่ยอมช่วยจะทำอะไรผมงั้นเหรอ? ที่ทุกอย่างพังพินาศแบบนี้ไม่ใช่เพราะตัวคุณเองหรอกเหรอ?”

“ทั้งเส้นทางด้านอาชีพและความรัก…ทั้งหมดกลับพังพินาศไม่เหลือ ทั้งหมด…ทั้งหมดเป็นเพราะแก!”

หวางเจียงเอ่ยเสียงสาปส่งไม่หยุดหย่อน จ้องจ้าวเฉียนเขม็งด้วยแววตาแสนชั่วร้าย

ก่อนที่จ้าวเฉียนจะเอ่ยกล่าวใดๆ ต่อ คนอื่นๆ ต่างเร่งชักชวนกล่อมให้หวางเจ๋อใจเย็นลงก่อน

“หวางเจ๋อ ใจเย็นก่อนนะ แค่พลาดโครงการเดียวเอง มันไม่เป็นอะไรหรอก”

“ก่อนหน้าที่นายยังไม่ได้โครงการนี้ นายเองก็อยู่ได้ไม่ใช่เหรอ?”

“มีใครบ้างจะทำเงินได้ทีเดียวหลายร้อยล้าน? ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปนั่นแหละ ไม่ต้องรีบร้อนไป”

หวางเจ๋อหัวเราะเยาะกับตัวเอง เอ่ยขึ้นว่า

“หวังซินซินเลิกกับฉันแล้ว หากไม่มีเธอ แล้วบริษัทของฉันจะไปต่อได้ยังไง? ถ้าไม่มีเงินสนับสนุนจากพ่อเธอ แล้วบริษัทจะอยู่รอดต่อยังไงได้? ทั้งหมดก็เพราะมัน…ฉันล้มเหลวทั้งเรื่องการงานและความรัก ตอนนี้ฉันยังทำอะไรได้อีก?”

เหลียวเซียวหยุนยืนขำจนท้องแข็ง เธอกล่าวขึ้นว่า

“ฮ่าฮ่าๆๆ …หวางเจ๋อ นายอยากสบประสาทฉันก่อนเองนะ ใช่แล้ว ไอ้ขี้แพ้อย่างนรายจะไปทำอะไรได้? นี่ฉันไม่ได้ดูถูกนายนะ แค่พูดตามที่เห็นน่ะ ไอ้ ขี้ แพ้!!”

หวางเจ๋อตกสู่สภาวะจนตรอก ยิ่งได้ยินคำดูถูกของเหลียวเซียวหยุนซ้ำเติมเข้าไปอีก ในท้ายที่สุดเขาก็ฟิวส์ขาดจนได้ แทบจะในทันใดมือข้างหนึ่งพุ่งไปคว้าขวดไวน์ขึ้นมา และวิ่งเข้าใส่เหลียวเซียวหยุนสุดกำลัง

“หวางเจ๋อ!อย่า!!”

“เร็วเข้า!รีบจับเขาไว้!!”

“เอาขวดไวน์ออกจากมือเขาก่อน เร็ว!”

บรรดาเพื่อนร่วมชั้นตรงเข้าไปห้ามอย่างรวดเร็ว แต่ตอนนี้เขาคลั่งไปแล้ว โบกขวดไวน์ในมืออัดโต๊ะจนแตกเป็นฟันฉลาม ขู่ใส่ทุกคนที่พยายามเข้ามาใกล้

“อย่ามายุ่ง!ใครกล้าหยุดกู กูตีไม่ยั้งแน่!”

หวางเจ๋อส่งเสียงคำรามดังสนั่น

ทุกคนยังคงพยายามใจดีสู้เสือ พยายามเกลี้ยกล่อมหวางเจ๋อว่าอย่าเพิ่งหุนหันพลันแล่น แต่เขากลับไม่ฟังและเบี่ยงเป้าหมายไปทางจ้าวเฉียนแทน

หลัวเสี่ยวตะโกนลั่น

“หวางเจ๋อ อย่านะ!!”

ตอนนี่ไม่มีประโยชน์อันใดอีกแล้ว ไม่ว่าใครจะตะโกนราวกับว่าเสียงนี้มันส่งผ่านไปไม่ถึงอีกฝ่ายเสียแล้ว หวางเจ๋อกระชับจับขวดไวน์ปากฉลากในมือ เสียบไปที่ศีรษะของจ้าวเฉียนประหนึ่งว่าเสียสติไปโดยสมบูรณ์

พอเห็นหวางเจ๋อวิ่งเข้ามา ปฏิกิริยาของจ้าวเฉียนช่างสงบนิ่งเหลือเกิน พร้อมยกบาทาถีบสวนออกไปทันที ร่างของหวางเจ๋อกระเด็นว่อนกลางอากาศ ขวดไวน์ในมือหล่นแตกกระเด็นเต็มพื้น อีกฝ่ายถูกจัดการได้ภายในกระบวนท่าเดียว

จ้าวเฉียนหวังช่วยให้อีกฝ่ายสงบสติลงหน่อย จึงเดินเข้าไปกระทืบลิ้นปี่ซ้ำ บังคับให้หวางเจ๋อนอนจุกจนดิ้นทุรนทุรายอยู่กับพื้น

ถึงอาการเสียดจุกจะรุนแรงขนาดไหน แต่ด้วยความบ้าดีเดือด หวางเจ๋อก็ยังไม่ยอมแพ้ พยายามกวาดขาใส่จ้าวเฉียนหวังให้ล้มขมำลงกับพื้นเฉกเช่นเขา

จ้าวเฉียนเพียงส่ายหน้าพลางกระโดดหลบอย่างง่ายดาย มือข้างหนึ่งหยิบเก้าอี้ขึ้นมาและทุ่มใส่ร่างหวางเจ๋ออย่างแรง พร้อมเสียงโครมครามดัง ‘ปัง’

ท้ายที่สุดแล้ว หวางเจ๋อนอนสลบมอดคาพื้นอย่างน่าเวทนา

“คงสงบได้บ้างนะครับ”

“หวางเจ๋อ…”

ทุกคนต่างรีบไปมุงดู฿ว่าหวางเจ๋อเป็นอย่างไรบ้างแล้วในขณะนี้

แต่มีจ้าวเฉียนยืนหยัดอยู่เบื้องหน้าแบบนี้ กลับไม่มีใครสักคนที่กล้าเข้าไปช่วยหรือเรียกร้องความยุติธรรมแทนหวางเจ๋อเลยสักคน

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+