ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 1052 ขอโทษ ผมกลัวเมีย

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 1052 ขอโทษ ผมกลัวเมีย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

กว่าเธอจะวางแผนทุกอย่างได้นั้นไม่ง่ายเลย ไม่มีทางยอมให้แผนพังเด็ดขาด วันนี้เธอต้องทำให้เวินลั่วฉิงชื่อเสียงป่นปี้ให้ได้ เธอต้องทำให้เวินลั่วฉิงเหมือนหนูข้างถนนตัวหนึ่ง ไม่มีหน้าไปสู้ใครได้อีก

ต่อให้คุณนายเหว้ยปกป้องเวินลั่วฉิงก็เปล่าประโยชน์ ขอแค่แผนการของเธอราบรื่น ถึงเวลานั้นใครก็ช่วยเวินลั่วฉิงไม่ได้

แต่ว่าเมื่อนึกถึงเรื่องที่คุณนายเหว้ยปกป้องเวินลั่วฉิง ไป๋หยิงก็ขบกรามด้วยความเกลียดชัง

เดิมทีเธอคิดว่าที่เมืองจิ๋น จะไม่มีใครสามารถช่วยเหลือเวินลั่วฉิงได้ คิดไม่ถึงเลยว่าคุณนายเหว้ยจะปกป้องคุ้มครองเวินลั่วฉิงถึงเพียงนี้

ทำไม? ทำไมทุกคนถึงปกป้องเวินลั่วฉิงขนาดนี้ เวินลั่วฉิงมีอะไรดีงั้นเหรอ?

เฉิงโหรวโหรวรู้สึกกังวลใจขึ้นมา เธอมองไป๋หยิงด้วยท่าทางอึกอักเหมือนมีอะไรจะพูดแต่ไม่กล้าพูดออกมา

“เธอกลัวอะไร? เธอเป็นถึงเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ เธอมีอำนาจขององค์กรโกสต์ซิตี้หนุนหลังอยู่ ต่อให้คุณนายเหว้ยปกป้องหล่อน ต่อให้ตระกูลเหว้ยปกป้องหล่อน ก็ไม่มีทางเอาชนะองค์กรโกสต์ซิตี้ได้หรอก เธอยังต้องกลัวอะไรอีก” ไป๋หยิงจ้องเขม็งเฉิงโหรวโหรว ท่าทางขัดเคืองใจ เฉิงโหรวโหรวนี่ก็เป็นแค่ยัยโง่คนหนึ่งที่ทำอะไรไม่ได้เรื่องสักอย่าง ถ้าไม่ใช่เพราะเธอต้องการหลอกใช้เฉิงโหรวโหรว เธอไม่มีทางมาเสียเวลาพูดกับยัยโง่เฉิงโหรวโหรวหรอก

“คนขององค์กรโกสต์ซิตี้ที่เมืองจิ๋นรับปากแล้วว่าจะช่วยพวกเรา ทุกอย่างฉันเตรียมการไว้เรียบร้อยแล้ว ต่อให้ถึงตอนนั้นตระกูลเหว้ยปกป้องเวินลั่วฉิงก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว” ไป๋หยิงหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วแสยะยิ้มออกมา : “ถึงเวลานั้นไม่แน่พวกเราอาจจะสามารถใช้ประโยชน์จากจุดนี้ได้”

“ใช้ประโยชน์จากจุดนี้? ใช้ประโยชน์ยังไง?” เฉิงโหรวโหรวนิ่งอึ้งไป แล้วมองไป๋หยิงด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ คุณนายเหว้ยปกป้องเวินลั่วฉิงขนาดนั้น พวกเธอจะใช้ประโยชน์อะไรได้?

“พูดกับเธอไปเธอก็ไม่เข้าใจหรอก ถึงตอนนั้นเธอก็จะรู้เองแหละ” ไป๋หยิงกลอกตาใส่เฉิงโหรวโหรว ขี้เกียจอธิบายให้เฉิงโหรวโหรวฟังแล้วจริง ๆ

ตอนนี้ เรื่องของคุณนายเจ้ายังเคลียร์ไม่เรียบร้อย คุณนายเหว้ยไม่มีทีท่าจะยอมอ่อนข้อให้เลยสักนิด ผู้ไกล่เกลี่ยก็จนปัญญาแล้ว สถานการณ์กลับกลายเป็นน่าอึดอัดยิ่งขึ้นไปอีก

สีหน้าของหัวหน้าเจ้าก็บึ้งตึงมากยิ่งขึ้น

เขาเองก็รู้ดี ว่าเรื่องวันนี้เป็นเพราะลูกสาวกับภรรยาของเขาก่อเรื่องขึ้นมา เป็นพวกเขาที่ไม่มีเหตุผล แต่คุณนายเหว้ยยังดึงดันไม่ยอมความขนาดนี้ก็ทำเกินไปจริง ๆ

แน่นอน หัวหน้าเจ้าไม่วู่วามเหมือนอย่างคุณนายเจ้า เบื้องหลังมีเรื่องซับซ้อนอีกมากมาย เขาควบคุมดูแลธุรกิจของเว้ยคังโดยตรงก็จริง แต่ว่า……

หัวหน้าเจ้ารู้ดี ว่าถ้าหากตอนนี้เขาไปทั้งอย่างนี้ ต่อไปความสัมพันธ์กับเว้ยคังคงต้องแย่ถึงขีดสุดแน่ เมื่อเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาก็ไม่มีผลดีอะไรต่อตัวเขาเลย เขาสามารถหาเรื่องลอบกัดเว้ยคังได้ก็จริง แต่ถ้าหากกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปถึงเบื้องบน ถึงเวลานั้นเขาคงต้องรับผิดชอบถึงผลที่ตามมา

เว้ยคังเป็นธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของเมืองจิ๋น ภาษีที่เก็บได้หนึ่งในสามส่วนของเมืองจิ๋นล้วนมาจากเว้ยคังทั้งนั้น เฉพาะเรื่องนี้ ก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรเว้ยคังแล้ว

“ประธานเหว้ย คุณก็พูดอะไรหน่อยสิ จัดการหน่อย” ผู้ไกล่เกลี่ยเห็นว่าโน้มน้าวคุณนายเหว้ยไม่ได้ และเห็นสีหน้าถมึงทึงนิ่งทื่อของหัวหน้าเจ้า จึงได้หันไปทางประธานเหว้ย อยากให้ประธานเหว้ยจัดการคุณนายเหว้ยสักหน่อย

“พวกคุณก็รู้ ผมกลัวเมียมาตลอด” ประธานเหว้ยหันไปมองผู้ไกล่เกลี่ย จากนั้นก็ตอบกลับมาประโยคหนึ่ง ด้วยท่าทางที่เป็นธรรมชาติและสงบนิ่งมาก

ผู้ไกล่เกลี่ยอึ้งไปเลย ผู้ชายอกสามศอกเอาเรื่องกลัวเมียมาพูดได้หน้าตาเฉยแบบนี้มันจะดีเหรอ?

ด้วยตำแหน่งฐานะและทรัพย์สินของประธานเหว้ยทำไมต้องกลัวเมียด้วย? !

ตระกูลเหว้ยไม่ใช่ต้องพึ่งพาครอบครัวพ่อตาสักหน่อย ปกติก็ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยตระกูลมู่หรง

และการกลัวเมียก็ควรจะมีขอบเขตสิ กลัวเมียถึงขนาดนี้ยังเป็นผู้ชายอยู่อีกเหรอ?

ตอนนี้หัวหน้าเจ้ายืนอยู่ข้าง ๆ ประธานเหว้ย จึงได้ยินคำพูดของประธานเหว้ยอยู่แล้ว

เนื้อบนใบหน้าของหัวหน้าเจ้าดูแข็งทื่ออย่างเห็นได้ชัด จากนั้นก็แอบขบกราม ทนไม่ไหวอีกแล้ว และจะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว จากนั้นก็เดินออกไปด้านนอกทันที

“ยังไม่ไปอีก? ยังขายหน้าไม่พอหรือไง?” ขณะที่หัวหน้าเจ้าเดินไปตรงหน้าคุณนายเจ้า เห็นคุณนายเจ้ายืนเหม่อไม่ขยับ ก็จ้องเขม็งใส่เธอ

“คุณคะ พวกเราจะยอมอย่างนี้เหรอ?” คุณนายเจ้ายังคงอึ้งจนทำอะไรไม่ถูก เธอคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้ไปได้ สามีของเธอยืนอยู่ตรงนี้ แต่เว้ยคังกลับกล้าทำกับพวกเขาแบบนี้เหรอ?

“พวกเธอก่อเรื่องขึ้นมา แล้วยังคิดจะเอาอะไรอีก?” ดวงตาของหัวหน้าเจ้าหรี่ลงเล็กน้อย ข่มอารมณ์โกรธไว้จนเต็มอก เว้ยคังไม่ใช่บริษัทที่เขาจะหาเรื่องได้ และเรื่องวันนี้ก็เป็นเพราะลูกสาวกับภรรยาเขาเป็นคนก่อขึ้นมาจริง ๆ

คุณนายเหว้ยเป็นคนมีเหตุผลและไม่ยอมคนอื่นง่าย ๆ ในเมืองจิ๋นใคร ๆ ต่างก็รู้ดีว่าคุณนายเหว้ยนิสัยเป็นแบบนี้ ถ้าคุณนายเหว้ยต้องการปกป้องใคร คนอื่นไม่มีทางโต้แย้งได้เลยสักนิด

และเวินลั่วฉิงคนนี้ก็สำคัญกับคุณนายเหว้ยเป็นอย่างมาก ไม่สิ ทั้งตระกูลเหว้ยต่างก็เห็นเวินลั่วฉิงเป็นคนสำคัญมาก ไม่อย่างนั้นเมื่อครู่นี้ประธานเหว้ยก็คงไม่เพิกเฉยแบบนี้หรอก

ลูกสาวกับภรรยาของเขาพูดจาว่าร้ายเวินลั่วฉิงขนาดนั้น ด้วยนิสัยของคุณนายเหว้ย จะยอมได้เหรอ? !

เกรงว่าเรื่องนี้จะมีเรื่องให้วุ่นวายอีก

คุณนายเจ้าเห็นสีหน้าของสามีตัวเองก็รู้สึกกลัวขึ้นมา และไม่กล้าพูดอะไรอีก ได้แต่ดึงลูกสาวให้ตามสามีออกไป

หลังจากหัวหน้าเจ้าขึ้นรถแล้ว สีหน้าก็ยิ่งดูแย่มากขึ้นไปอีก : “พวกเธอนี่อยู่ดีไม่ว่าดีไปหาเรื่องเวินลั่วฉิงทำไม?”

“พวกเราไม่รู้ความสัมพันธ์ของหล่อนกับตระกูลเหว้ยนี่ค่ะ” คุณนายเจ้ารู้สึกน้อยใจมาก เธอไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลย

“ตอนนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่แบบนี้แล้วจะจัดการยังไง?” หัวหน้าเจ้ามองคุณนายเจ้า สีหน้ายิ่งโมโหมากขึ้นไปอีก

แม้ว่าคุณนายเหว้ยจะขึ้นชื่อเรื่องความดุความแสบ แต่คนมากมายก็รู้ถึงความเก่งกาจของคุณนายเหว้ยดี เวลาจัดการเรื่องอะไรจะเฉียบขาดมาก มีความกล้าหาญและพลังที่ผู้ชายทั่วไปไม่มีด้วยซ้ำ หลายปีที่ผ่านมาเว้ยคังสามารถพัฒนาได้ดีขนาดนี้ ก็เป็นเพราะคุณงามความดีของคุณนายเหว้ยทั้งนั้น

สำหรับประธานเหว้ยไม่ใช่การกลัวเมียหรอก แต่เพราะเคารพคุณนายเหว้ยต่างหาก

ส่วนภรรยาของเขาไม่เพียงแต่ไม่สามารถช่วยเขาได้ แต่ยังคอยสร้างปัญหาให้เขาอีก!!

“คุณกลัวพวกเขาจะทำอะไร ธุรกิจมากมายของเว้ยคังก็เป็นพวกคุณควบคุมโดยตรงทั้งนั้น ถึงเวลานั้นคุณสามารถ……” คุณนายเจ้ายังไม่รู้สภาพของตัวเองอีก ยังคิดจะแก้แค้นเว้ยคัง

“เพ้อเจ้อ” หัวหน้าเจ้าสีหน้าเปลี่ยนทันที แล้วพูดขัดคุณนายเจ้าขึ้นมา : “คำพูดแบบนี้ ต่อไปเธออย่าพูดมันออกมาอีกเด็ดขาด”

คุณนายเจ้าตกตะลึง จนตัวหดทันที : “เว้ยคังของพวกเขาใหญ่คับฟ้าหรือไง?”

“เว้ยคังใหญ่คับฟ้าหรือเปล่าฉันไม่รู้ แต่ฉันรู้ว่าเว้ยคังเป็นแหล่งภาษีเงินได้ที่มากสุดของเมืองจิ๋น เว้ยคังเป็นธุรกิจที่ใหญ่ไม่เป็นสองรองใครในประเทศนี้ เป็นหน้าเป็นตาให้กับเมืองจิ๋นของพวกเรามาก หลายปีมานี้ประธานเหว้ยช่วยเหลือด้านการกุศลมากมาย อย่าว่าแต่ผู้นำของเมืองจิ๋นเลย แม้แต่ผู้นำของเมืองจิงเฉิงยังให้ความสำคัญกับเว้ยคังเป็นอย่างมาก ลอบกัดเว้ยคังงั้นเหรอ? ถ้าฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วฉันถึงจะทำ” หัวหน้าเจ้าเป็นคนฉลาด เขาเข้าใจเรื่องมากมายพวกนี้ดี และนี่ก็เป็นเหตุผลที่เขายอมอดกลั้นตอนอยู่ในงานเลี้ยงเมื่อครู่นี้……

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด