ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 116 เขาจะให้เธอ แสดงความสามารถออกมาทั้งหมด(2)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 116 เขาจะให้เธอ แสดงความสามารถออกมาทั้งหมด(2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่116 เขาจะให้เธอ แสดงความสามารถออกมาทั้งหมด (2)

จู่ๆมู่หรงดัวหยางก็หยุดพูด แล้วเขาแอบถอนหายใจเบาๆ และทันใดนั้นเขาก็นึกได้ว่าต้องคำถามนึง" ฉิงฉิง บริษัทของไป๋ยี่รุ่ยนั้นชื่อฉิงรุ่ย ฉิงนี้เหมือนฉิงของเธอเลย เธอกับไป๋ยี่รุ่ยรู้จักกันไหม"

ดวงตาเวินลั่วฉิงตะลึงขึ้นในทันที แล้วกำโทรศัพท์ในมือไว้อย่างแน่นหนา และเธอก็ไม่ได้ตอบอะไรทั้งสิ้น

"ฉิงฉิง พวกเธอรู้จักกันจริงไหม ที่เขาจงใจหาเรื่องบริษัทเวินซื่อกรุ้ปก็เพราะเธอเหรอ นี่เกิดอะไรกันขึ้นแน่"มู่หรงดัวหยางไม่ได้ยินคำตอบของเวินลั่วฉิง เขารู้เลยว่าต้องเดาถูกทาง ฉิงฉิงรู้จักไป๋ยี่รุ่ยจริงๆด้วย

"เรื่องนี้ ฉันไม่อยากพูดถึงมันอีก " เวินลั่วฉิงเอ่ยพูด ขัดจังหวะคำพูดมู่หรงดัวหยาง

คนที่รู้เรื่องเธอกับไป๋ยี่รุ่ยนั้นมีเพียงไม่กี่คน เรื่องราวผ่านไปหกปีแล้ว ผ่านไปแล้ว ก็แปลว่าต้องผ่านไป เธอไม่อยากนึกถึงมันอีก

แน่นอน ที่ไป๋ยี่รุ่ยค่อยจ้องจะทำลายบริษัทเวินซื่อกรุ้ปนั้นไม่ใช่เพราะเธอ เรื่องนี้เวินลั่วฉิงไม่ได้อธิบายให้มู่หรงดัวหยางเข้าใจ

บางเรื่องราวอธิบายเพียงสองสามประโยคคงไม่เข้าใจ

อีกด้านของโทรศัพท์มู่หรงดัวหยางถอนหายใจอย่างหนัก นี่เขาพบความลับที่เก็บซ่อนมานานเหรอเนี่ย ฉิงฉิงของเขากับี่ไป๋ยี่รุ่ยมีความสัมพันธ์ยังไงกันแน่

ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้เลยว่าเรื่องนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่

"นั้นเรื่องสถานการณ์บริษัทเวินซื่อกรุ้ปตอนนี้เธอจะสนไม่สน เธอก็รู้ว่าครั้งนี้ถือเป็นโอกาสนึงของบริษัทเวินซื่อกรุ้ปเลย มีบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปร่วมลงทุนกับบริษัทเวินซื่อกรุ้ป ฉิงรุ่ย คิดจะลงมือกับบริษัทเวินซื่อกรุ้ป ก็จำเป็นต้องคิดหนักเหมือนกัน ฉิงฉิง เธอเลือกยังไง"ในขณะที่มู่หรงดัวหยางพูดเรื่องอยู่นั้น ภายในน้ำเสียงเขาได้ซ่อนความตื่นเต้นไว้เล็กน้อย ที่แรกเขาแค่อยากให้เวินลั่วฉิงจัดการเฉียวหยูหนานให้สิ้นซาก และตบหน้าเฉียวหยูหนานให้หนักๆ

ดูจากตอนนี้ เหมือนจะมีละครอีกเรื่องให้ติดตามดูแล้ว

เขารู้สึก ไม่ว่าจะยังไง เขาจะให้ฉิงฉิงของเขายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ได้ มีแค่แบบนี้ ละครฉากนี้ถึงจะดูสนุกยิ่งขึ้น ถึงตอนนั้นก็จะดูเย่ซือเฉินออกว่าคิดยังไงกับฉิงฉิงของเขากันแน่น

"บริษัทเวินซื่อกรุ้ปตอนนี้ไม่มีดีไซเนอร์เลย เธอมาเป็นดีไซเนอร์บริษัทเวินซื่อกรุ้ปไหม "เวินลั่วฉิงฟังน้ำเสียงตื่นเต้นของเขาออก และเธอรู้เลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

แต่ว่าตอนนี้คุณปู่กำลังป่วยอยู่ สถานการณ์บริษัทเวินซื่อกรุ้ปตอนนี้ เธอจะไม่ยุ่งได้ยังไง

ถ้าหากจะยุ่ง เธอก็ควรยุ่งยังไงดี

"ฉันทำไม่ได้ ฉันกำลังจะกลับไปที่บริษัทแล้ว ถ้ากลับบริษัทฉันก็เป็นท่านประธานของบริษัทบริษัทเว้ยคังกรุ้ปกรุ้ป แล้วจะให้ฉันไปเป็นดีไซเนอร์บริษัทเวินซื่อกรุ้ปอีก นี่ไม่เหมาะสมเลยนะ"" ฉิงฉิง เธอทำไมต้องมองการณ์ไกลขนาดนั้น ตอนนี้ความสามารถในการออกแบบของเธอนำฉันอยู่อีกขั้นนะ ถ้าเธอลงมือออกแบบเองละก็จะไม่มีอะไรสามารถเทียบได้อย่างแน่นอน แล้วถ้าตอนนั้นเย่ซือเฉินยังไม่ถูกตาถูกใจอีกละก็ ฉันจะจัดการเขาแทนเธอเอง"มู่หรงดัวหยางแค่คิดอยากให้เธอได้โชว์ความสามารถที่โด่งเด่นออกมา เมื่อถึงตอนนั้นเธอจะได้โชว์ความสามารถทั้งหมดของเธอให้ทุกคนเห็น เพราะแบบนี้ เขาจะไม่ยอมให้เรื่องนี้แย่แน่ๆ

"ฉิงฉิง เรื่องนี้ฉันขอให้เธอคิดดีๆ จากสถานการณ์บริษัทเวินซื่อกรุ้ปตอนนี้นั้นคงประคองไว้ได้ไม่นานแน่นอน เธอก็รู้ว่าบริษัทเวินซื่อกรุ้ปนั้นเป็นแรงแรงใจทั้งชีวิตของคุณปู่เวิน ถ้าหากบริษัทเวินซื่อกรุ้ปล้มละลายละก็ อาจกระทบถึงชีวิตของคุณปู่เวิน จากสภาพร่างกายคุณปู่เวินตอนนี้ เธอคิดว่าเขาจะรับไว้ไหม"

มู่หรงดัวหยางรู้จักเวินลั่วฉิงเป็นอย่างนี้ ถึงได้รู้ว่าเธอแคร์คุณปู่เวินมาก และรู้ว่าเธอมักจะใจอ่อนกับเรื่องหรือคนที่เธอแคร์เอามากๆ เพราะฉะนั้น มู่หรงดัวหยางถึงได้ตั้งใจพูดแบบนี้ไป

" เอาล่ะ ฉันยังมีเรื่องต้องทำอีก วางสายก่อนแล้วนะ" มู่หรงดัวหยางพูดเสร็จ ไม่รอให้เวินลั่วฉิงตอบ ก็รีบจะวางสายไปเลย

ที่มู่หรงดัวหยางต้องรีบวางสายไปแบบนี้ เพราะอยากให้เธอโต้เขาได้สำเร็จ

หลายปีที่ผ่านมานั้น ฉิงฉิงของเขาถูกใส่ร้ายมากเกินไป ครั้งนี้ เขาต้องให้ฉิงฉิงของเขาได้ลืมตาอ้าปากได้สักที

เวินลั่วฉิงมองดูสายที่ถูกตัดไป แล้วกระตุกมุมปากเล็กน้อย มู่หรงดัวหยางช่างดีเยี่ยมอะไรขนาดนี้

เวินลาวฉิงเพิ่งจะเก็บมือถือ แต่ไม่ทันใด ก็มีสายเข้าอีกแล้ว เวินลั่วฉิงเห็นแล้วว่าเป็นสายจากบ้านตระกูลเวินเธอไม่ได้ลังเลอะไรมาก ก็รีบรับสายเลย

"ฉิงฉิง คุณปู่กลับมาแล้ว เธอสามารถกลับมาที่บ้านได้ไหม คุณปู่มีเรื่องอยากคุยกับเธอ" เป็นสายโทรเข้าจากคุณปู่เวิน น้ำเสียงคุณปู่เวินนั้นยังคงอ่อนโยน และรักใคร่เหมือนปกติ จึงฟังไม่ออกถึงความเปลี่ยนแปลงใดๆ

"ได้ค่ะ"เวินลั่วฉิงนึกถึงที่มู่หรงดัวหยางเคยพูดไว้กับเธอเกี่ยวกับสภาพร่างกายของคุณปู่เวิน จึงรีบตอบตกลงไป

หลังจากวางสายเวินลั่วฉิงแล้ว ก็รีบไปที่ตระกูลเวินเลย

และในขณะเดียวกัน การถ่ายทอดสดสำหรับการสัมภาษณ์เฉียวหยูหนานก็ได้จบไปด้วย แต่สำหรับคลิปการสัมภาษณ์ของเฉียวหยูหนานนั้น ก็ถูกสื่อบันเทิงทั้งหลายแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว

ท่านประธาน ในนี้มีคลิปนึง คุณลองเปิดดูซิ " เลขาหลิวเดินเข้าไปในห้องของท่านประธาน ในมือถือโทรศัพท์ไว้ แล้วยื่นให้ท่านประธานที่อยู่ตรงหน้าดูด้วยความสั่นกลัว

นักข่าวพวกนั้นชมคุณเฉียวนั้นไม่เป็นไร แต่ทำไมพวกเขาต้องค่อยใส่ร้ายเยาะเย้ยคุณหญิงเขาด้วย

รนหาที่ตายจริงๆ

"อะไรล่ะ"เย่ซือเฉินเงยหน้าพลางมอง ไปยังเขา และไม่ได้เปิดดูคลิปวีดีโอนั้น สำหรับพวกคลิปบ้าบอในเน็ตนี้ เขาไม่คิดสนใจอะไรอยู่แล้ว

"เป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณหญิงครับ"เลขาหลิวรู้นิสัยท่านประธานของเขาดี หากเป็นคลิปพวกอื่นแล้ว เขาจะไม่กล้านำมาให้ท่านประธานดู แต่นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณหญิง

เย่ซือเฉินชะงักไปสักครู่ แล้วจึงรีบหรี่ตามอง จากนั้นก็รีบเอาโทรศัพท์จากเลขาหลิว แล้วเปิดดูคลิปวิดีโออย่างว่องไว

ความรวดเร็วนั้นทำให้เลขาถึงกับตะลึงอย่างไม่น่าเชื่อ เขาอยู่กับท่านประธานมานานหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นท่านประธานรีบร้อนได้ขนาดนี้

เย่ซือเฉินกดเปิดคลิปดู แล้วเห็นเวินลั่วฉิงได้ถูกพวกนักข่าวทั้งใส่ร้าย ทั้งเยาะเย้ยต่างๆนาๆ เพียงวูบหนึ่งสายตาเขานั้นได้เปลี่ยนไปอย่างเยือกเย็นดังน้ำแข็ง

เลขาหลิวยื่นห่างจาก2เมตร ยังรู้สึกสั่นสยองเลย

"เช็กดูนักข่าวพวกนี้เป็นสื่อจากที่ไหนบ้าง แล้วพรุ่งนี้ ผมไม่อยากเห็นนักข่าวพวกนี้อีก"เย่ซือเฉินเงยขึ้นมองเบาๆ แล้วแต่ละคำที่พูดออกมานั้นช่างเจ็บแสบยิ่งนัก

"ได้ครับ ผมเข้าใจแล้วครับ" เลขาหลิวแอบถอนหายใจเล็กน้อย เขารู้แล้วคนพวกนั้นรนหาที่ตายเสียจริงๆ ช่างกล้ามายุ่งกับคุณหญิงบ้านเขา คงไม่อยากมีชีวิตแล้วจริงๆ

"บริษัทเวินซื่อกรุ้ปได้เข้าร่วมกิจกรรมในการแข่งขันไหม "เลขาหลิวที่กำลังจะออกไปนั้น จู่ๆเย่ซือเฉินก็ถามขึ้นมา

"ยังไม่มีครับ" เลขาหลิวหยุดก้าวเท้าไว้ แล้วหันไปมองท่านประธานอย่างเคารพ "ผมสืบมาได้ว่า ดีไซเนอร์บริษัทคุณหญิงถูกบริษัทอื่นคว้าตัวไปหมดแล้วครับ ตอนนี้ตระกูลเวินไม่มีดีไซน์เนอร์ที่สามารถใช้งานได้ ไม่มีดีไซเนอร์ก็ย่อมไม่มีผลงานออกมา เพราะฉะนั้น……"

"ฉิงรุ่ย"เย่ซือเฉินหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วจู่ๆก็เอ่ยสองคำนึ้ออกมาอย่างเย็นชา

"ใช่แล้วครับ คือฉิงรุ่ย หลายปีที่ผ่านมานี้ฉิงรุ่ยต้องค่อยจะหาเรื่องบริษัทเวินซื่อกรุ้ป แล้วช่วงนี้ก็ได้ลงมืออย่างต่อเนื่องครับ จนสถานการณ์บริษัทเวินซื่อกรุ้ปช่วงนี้ไม่ค่อยดีนัก" เลขาหลิวเป็นคนมีไหวพริบ คำพูดนี้จึงเอ่ยต่อขึ้นมาอย่างว่องไว

"เหตุผลล่ะ" เย่ซือเฉินพูดต่ออีกสองคำ เป็นคำพูดที่ฟังดูง่ายแต่ไม่ง่าย คนส่วนมากจะไม่เข้าใจ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด