ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 214 คุณชายสามเย่ เก่งกาจ(2)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 214 คุณชายสามเย่ เก่งกาจ(2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 214 คุณชายสามเย่ เก่งกาจ(2)

“ถังหลินพวกเรานับถือเป็นพี่น้องกันมา 29 ปีแล้วนะ”ดวงตาของเย่ซือเฉินหรี่ขึ้น จ้องมองเขาอย่างเย็นชา ฟังผิวเผินอาจจะไม่ใช่คำพูดอะไร แต่กลับซ่อนพลังการข่มขู่ไว้

ถือได้ว่าเขากับถังหลินเติบโตมาจากใต้หลังคาเดียวกัน เพราะทั้งสองตระกูลมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ดังนั้นจึงอยู่ด้วยกันฉันท์พี่น้องมาตั้งแต่เกิด ซึ่งความเป็นจริงแล้วถังหลินโตกว่าเขาแค่ไม่กี่เดือนเอง

“อืม นานพอสมควร” ถังหลินไม่สนใจการข่มขู่ของเย่ซือเฉิน และจงใจจะเปลี่ยนแปลงความหมาย หางคิ้วเขายกขึ้น สีหน้ามีความเคร่งเครียดเล็กน้อย แล้วพูดเสริมอีกหนึ่งประโยคอย่างช้าๆ “เริ่มรู้สึกเบื่อแล้วใช่ไหม?”

เย่ซือเฉิน“……”

“ถังหลิน พี่มีเป้าหมายอะไร?”เย่ซือเฉินรู้ว่าถังหลินไม่ใช่คนแบบนั้น ดังนั้นถังหลินทำอย่างนี้ต้องมีเป้าหมายอื่นแน่นอน

“จะมีเป้าหมายอะไร?พี่ไม่ใช่น้องนะ พี่ก็แค่ชอบฉิงฉิง รอให้ฉิงฉิงกลับเข้ามาแล้ว พี่จะคุยกับเธอดีๆ”ถังหลินหัวเราะอย่างร่าเริง

คำพูดนี้มีความหมายสองแง่สองง่าม……

เย่ซือเฉินจ้องมองเขาอย่างดุดัน จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินออกไป

จะคุยกับเธอดีๆ?ฝันลมๆแล้งๆแล้ว เห็นเขาตายแล้วเหรอ?

เห็นเย่ซือเฉินออกไปอย่างโกรธเคือง หางคิ้วของถังหลินยกขึ้นอย่างชอบใจ

ดูเหมือนว่าขอแค่ดึงเวินลั่วฉิงมาเกี่ยวข้อง เย่ซือเฉินก็จะสูญเสียความใจเย็น

ขอถามหน่อยว่าเย่ซือเฉินที่ใจเย็นสุขุม วางแผนการณ์ไกลไปไหนเสียแล้ว?

เขากับเย่ซือเฉินรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เป็นครั้งแรกที่เห็นเย่ซือเฉินโกรธเคืองอย่างนี้

หรือเวินลั่วฉิงจะเป็นคนที่สวรรค์ส่งมาปราบเย่ซือเฉินกันนะ มันช่างน่าสนใจจริงๆ!!

ถ้าหากเป็นเช่นนี้ เขาคงต้องตั้งตารอดูละครเรื่องนี้ให้ละเอียด เมื่อถึงจุดสำคัญยังสามารถช่วยเติมพริกเติมเกลือได้อีก

หลังจากที่ออกจากห้องวีไอพี เย่ซือเฉินดึงเนคไทแรงๆ แต่กลับรู้สึกอึดอัดกว่าเดิม

ให้ตายเถอะ วันนี้เขาไม่ควรพาเธอมาพบถังหลินเลย

แต่ว่าถังหลินต้องการจะทำอะไรกันแน่?

ไม่ว่าถังหลินกำลังคิดอะไรอยู่ วันหลังคงต้องให้เธออยู่ห่างๆถังหลินจะดีกว่า

เวินลั่วฉิงยังไม่กลับมา ตอนนี้เย่ซือเฉินไม่มีความอดทนจะรอแล้ว จึงได้เดินไปที่ห้องน้ำ

เวินลั่วฉิงเดินออกมาพอดี เขาเดินเข้าไปดึงมือเธอ แล้วพาออกไปข้างนอก“ไป กลับบ้านกัน”

“ไม่บอกพี่ใหญ่สักคำเลยหรือค่ะ?พี่ใหญ่ไปหรือยัง?”เวินลั่วฉิงรู้สึกแปลกใจ จะไปแล้วเหรอ?ไปง่ายๆอย่างนี้เลยหรอ?

“ไม่ต้อง วันหลังอยู่ห่างถังหลินไว้ เขาเป็นสุนัขจิ้งจอกในหนังมนุษย์อย่าให้ภายนอกของเขาหลอกเอาได้”เวลานี้เย่ซือเฉินอารมณ์ไม่ดี ดังนั้นน้ำเสียงจึงหนักหน่อย

บัดนี้เวินลั่วฉิงเรียกว่าพี่ใหญ่สักสนิทปาก ยิ่งทำให้เขาหดหู่ใจ

เวินลั่วฉิงมองเขาอย่างตกตะลึง เธอรู้ดีว่าถังหลินเป็นคนยังไง

แต่ว่าทำไมเขาถึงโมโหกะทันหันอย่างนี้ และพูดมีอคติกับเขามากเลย ถังหลินทำท่าไหนถึงทำให้เขาโมโหมากอย่างนี้นะ?

หรือหลังจากที่เธอออกไป ทั้งสองก็พูดกันไม่ถูกคอ?

ถึงแม้จะคุยไม่ถูกคอ แต่เขาก็ไม่จำเป็นต้องโมโหขนาดนี้เนี้ย?เขาไม่น่าจะเป็นคนที่เก็บอารมณ์ไม่อยู่นะ

เห็นท่าทีของเขาเป็นเช่นนี้ เวินลั่วฉิงก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ มันเป็นเรื่องระหว่างพี่น้องของเขา เธอไม่ควรเข้าไปก้าวก่าย

เพียงแต่เธอนึกถึงถังหลินสั่งอาหารเต็มโต๊ะ มันเป็นของโปรดที่เธอชื่นชอบเกือบทั้งหมดเลย

ถังหลินรู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไรกัน?เห็นได้ชัดว่าถังหลินไปสืบประวัติของเธอมาก่อนแล้ว!

แต่ทว่าทำไมถังหลินจึงต้องสืบหาประวัติของเธอล่ะ?

ระหว่างทางกลับบ้าน เย่ซือเฉินขับรถอย่างเชื่องช้าไม่รู้กำลังคิดอะไรอยู่

เขาใช้เวลาขับรถจากหมิงเจ๋ถึงบ้านมากถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง

เขาไม่พูด เวินลั่วฉิงก็นิ่งเงียบไว้ไม่ไปรบกวนเขา

หลังจากที่กลับถึงคฤหาสน์ เวินลั่วฉิงเพิ่งลงจากรถ มือถือของเย่ซือเฉินก็ดังขึ้น

เย่ซือเฉินมองเบอร์ที่แสดงบนหน้าจอแวบหนึ่ง แล้วมองหลังของเวินลั่วฉิงที่เธอเดินไปไกลพอสมควรแล้ว เขาจึงจะรับสาย

“สืบได้แล้วครับ ตอนนั้นเขาอยู่ที่ชั้น 5 มีหญิงสาวคนหนึ่งถ่ายรูปเขาเก็บไว้ เพราะหญิงสาวคนนี้ยังอยู่ที่ห้างสรรพสินค้า ดังนั้นพวกเราจึงได้รูปถ่ายมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นผมเอารูปถ่ายให้คนที่อยู่สนามบินสืบต่อ แอร์โฮสเตสสาวพูดอย่างมั่นใจว่าเขาชื่อถังไป๋เชียน เขาได้นั่งเครื่องบินมาจากประเทศ MถึงเมืองA

ผู้ชายคนนี้มีหน้าตาที่หล่อเหลาในฉบับของตัวเอง ดึงดูดใจผู้พบเห็นยิ่งนัก ดังนั้นแอร์โฮสเตสสาวจึงจำได้อย่างแม่นยำ น่าจะไม่มีข้อผิดพลาดครับ”

“จุดเด่นทั้งหมดก็เข้าข่ายคุณสมบัติที่ท่านเคยบอกไว้ด้วยครับ ตอนนั้นเขาจ้องมองแต่ที่ชั้น 1 ด้วยท่าทางที่น่ากลัวเหมือนกำลังโกรธอยู่ครับ”อีกฝั่งหนึ่งของสายพูดเสริมขึ้นมาอีกหนึ่งประโยค

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เย่ซือเฉินยิ่งมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าไม่ผิดแน่นอน

หล่อมาก?มีสไตล์เป็นของตัวเอง?ดึงดูดใจ?

หล่อกว่าเขาไหมล่ะ?จะมีสไตล์กว่าเขาเหรอ?จะดึงดูดใจกว่าเขาไหม?

ลูกน้องได้ส่งรูปถ่ายมาให้ดู เมื่อเย่ซือเฉินเปิดออกมาดูแวบหนึ่งดวงตาก็ลุ่มลึก แต่นาทีต่อมามุมปากก็ยกขึ้นเล็กน้อย

เมื่อรู้ว่าเป็นใครแล้ว แถมยังอยู่ที่เมืองจิ๋น งั้นต่อจากนี้ก็……

“ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็หาตัวเขามาให้ผมให้ได้”เย่ซือเฉินจ้องมองดูรูปถ่าย ดวงตาที่เย็นชาก็ค่อยๆหรี่ขึ้น

หน้าตาก็ใช้ได้อยู่ แต่จะมีประโยชน์อะไร ตอนนี้เวินลั่วฉิงเป็นภรรยาของเขา เป็นผู้หญิงของเขา

คิดจะมาแย่งกับเขา ฝันไปเถอะ!

“เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการแปลงตัวและหล่นซ่อน ท่านจะมาดูด้วยตัวเองไหมครับ”อีกฝั่งหนึ่งของสายสามารถประเมินคู่กรณีได้ในเวลาที่สั้น จึงถือว่าเก่งกาจมากๆเลย

เย่ซือเฉินลงจากรถก็ส่งเวินลั่วฉิงเข้าบ้าน แต่ตัวเองกลับไม่เข้าไป“ผมออกไปข้างนอกสักครู่”

“ค่ะ”เวินลั่วฉิงหยุดชะงัก ตอบด้วยน้ำเสียงบางเบาแล้วไม่ได้พูดอะไรมากอีก

เมื่อกี้เธอได้ยินเสียงมือถือของเขาดังขึ้น แต่เธอไม่ได้คิดอะไรมาก และเมื่อกี้เธอยังสังเกตเห็นท่าทีที่มีพิรุธของเย่ซือเฉินอีกด้วย

ถึงแม้เย่ซือเฉินจะปิดบังเก่งขนาดไหน แต่เธอก็สังเกตเห็นแล้ว

เธอรู้สึกว่าเมื่อกี้ที่เย่ซือเฉินรับสายนั้นคุยเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเธอ ดังนั้นตอนนี้เขาออกไปทำธุระก็ต้องเกี่ยวข้องกับเธออย่างแน่นอน

เธอไม่ได้คิดมากไป มันเป็นความสามารถของเธออยู่แล้ว เธอถนัดเรื่องการสังเกตพวกนี้มากอยู่แล้ว

เย่ซือเฉินให้คนไปสืบเรื่องของเธอที่ประเทศ M และให้คนติดตามเธอ จนกระทั่งพาเธอไปพบถังหลินเพื่อจะสืบเธอ เรื่องราวทั้งหมดนี้ล้วนทำให้เวินลั่วฉิงรู้สึกว่ามีอันตราย

และยังเป็นอันตรายที่ร้ายแรงอีกด้วย

เขาสืบเธอ คงต้องสืบไปถึงกลุ่มของพวกเธอคนอื่นๆแน่นอน คนในกลุ่มล้วนมีความลับเก็บซ่อนอยู่ หากถูกเปิดเผยจะเป็นอันตรายได้

และยิ่งไปกว่านั้นสถานะของเย่ซือเฉินก็ไม่ธรรมดาเสียเลย

เธอจะไม่มีวันให้คนอื่นต้องมาเดือดร้อนด้วยเป็นอันขาด

และยังมีลูกๆทั้งสองคนของเธออีก เธอไม่อยากให้สถานะของลูกๆเธอถูกเปิดเผย

ดังนั้น เธอจึงต้องหาวิธีหยุดยั้งไม่ให้เกิดปัญหาใดๆขึ้นมา

อันที่จริงเวินลั่วฉิงรู้ดีว่า ทางที่ดีที่สุดคือพาลูกรักทั้งสองของเธอกลับไปที่ประเทศ Mโดยเร็วที่สุด เย่ซือเฉินจะได้สืบไม่สะดวก

แต่ตอนนี้เธอยังไปไม่ได้ เธอลงนามเซ็นสัญญาด้วยตัวเอง เธอต้องทำตามกฎกติกา

พวกเขาแต่งงานกันในนาม ในสัญญาเขียนไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าระยะเวลามากสุดหนึ่งปี ระหว่างนั้น หากเย่ซือเฉินสามารถได้หุ้นส่วนของบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปมาครองก็ถือเป็นอันสิ้นสุดสัญญา ดังนั้น……

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด