ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 308 คุณชายสามเย่ เรายังร้ายกว่านี้อีกได้ไหม(4)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 308 คุณชายสามเย่ เรายังร้ายกว่านี้อีกได้ไหม(4) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่308 คุณชายสามเย่ เรายังร้ายกว่านี้อีกได้ไหม(4)

“ผมจะไปทำธุระนอกสถานที่ ”หลังจากคลอเคลียกับ คุณชายสามเย่ก็สวมกอดเธอ ยิ้มอย่างพอใจ แต่ก็ ยังดีที่คุณชายสามเย่ไม่ได้ทิ้งการงาน เขายังคงคิดเรื่องที่จะหาเงินเลี้ยงภรรยา

“ดี ”เวินลั่วฉิงรู้สึกเศร้าเล็กน้อย ดังนั้นสีหน้าเลยขุ่นนิดหน่อย แต่เมื่อได้ยินเขาพูด อารมณ์เธอของแจ่มใสขึ้นชั่วขณะ

ดีมาก ดีมาก ที่เขาต้องไปทำธุระอีกครั้ง ในที่สุดเธอก็จะได้ไปเจอเด็กทั้งสองคนแล้ว

ครั้งที่แล้ว เขาไปทำธุระแล้ว เธอกะว่าจะไปดูเด็กๆ แต่เพราะเรื่องของเล้งหรงเลยไม่ได้ไป

ในขณะนี้เวินลั่วฉิงนึกถึงเล้งหรง เพิ่งนึกได้ว่า เล้งหรงดูเหมือนจะหายตัวไปอย่างกะทันหันในช่วงนี้ ครั้งที่แล้วยังชวนเธอทานอาหารอยู่เลย แต่สุดท้ายก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ในช่วงนี้เลย?

น่าแปลกมาก

แต่ เวินลั่วฉิงก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ในขณะนี้เธอคิดเพียงว่า เย่ซือเฉินไปทำธุระแล้ว เธอสามารถไปอยู่กับเด็กทั้งสองได้ ดังนั้นตอนนี้เธอเลยมีความสุขมาก อารมณ์สวยงามไปหมด

เย่ซือเฉินคิดอยู่แล้วว่าเธอจะตอบสนองเช่นนี้ เห็นหน้าเธอมีความดีใจที่สอนก็สอนไม่อยู่ จึงจงใจค่อยกล่าวเพิ่มประโยคนึงเข้าไป “ แต่ว่า คุณต้องไปกับผม”

ในทันใดนั้น ความดีใจบนใบหน้าของเวินลั่วฉิง ก็เย็นจนแข็งทื่อเลย เมื่อกี้เธอมีความสุขแค่ไหน ตอนนี้เธอก็มีความโกรธแค่นั้น

“ทำไมฉันต้องไปทำธุระกับคุณ?”เวินลั่วฉิงประท้วงโดยตรง

“เพราะคุณเป็นภรรยาของผมไง”คุณชายสามเย่ให้เหตุผลที่ไม่เกี่ยวข้องเรื่องนี้กับเธอ แต่ก็ทำเอาเธอไม่สามารถโต้เถียงได้อีกเลย

“……”เวินลั่วฉิงโกรธ ทำไม? ทำไม?

ได้ยินมาว่าภรรยาอยู่กินด้วยกัน ดื่มด้วยกัน นอนด้วยกัน แต่ที่ภรรยาต้องไปทำธุระด้วยกันเคยได้ยินแบบนี้ด้วยหรอ?

เธอคิดถึงลูกน้อยของเธอ คิดถึงจริงๆ คิดถึงมาก เธออยากไปเจอลูกน้อย ปกติเขาจับจ้องเธออยู่ตลอดยังไม่ว่า แต่ตอนนี้ยังถูกเขาพาไปทำธุระด้วยกันอีก?

เธอทำไมโชคร้ายขนาดนี้?

เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าชาติที่แล้วเธอขุดหลุมฝังศพบรรพบุรุษของครอบครัวเขาแน่เลย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมชาตินี้จึงโชคร้ายขนาดนี้ ที่ต้องมาเป็นภรรยาของเขา

เวินลั่วฉิงสาบาน ว่าจะรอจนกว่าเขาจะได้รับหุ้นบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป เธอก็จะไม่ยอมเป็นภรรยาของเขาอีก

“ฉันยังต้องจัดการบริษัทตระกูลเวิน ตอนนี้ฉันเป็นประธานของบริษัทตระกูลเวิน” และจู่ๆเวินลั่วฉิงก็จำเหตุผลนี้ได้ เธอคิดว่าเธอเป็นประธานคนใหม่ของบริษัทตระกูลเวิน มันไม่เหมาะสมจริงๆที่จะไม่ไปทำงานทุกวัน

ดังนั้น เวินลั่วฉิงคิดว่าฉันคนนี้ของเธอน่าจะโอเคแหละ

“วางใจได้เลย บริษัทตระกูลเวินเลขาหลิวจะคอยดูแลให้ไม่มีปัญหาแน่นอน เพราะยังไงๆคุณไปทำงานก็ไปทำเรื่องอะไรออกมาไม่ได้อยู่ดี ”แต่ว่า เย่ซือเฉินปฏิเสธเธอโดยตรง เหตุผลแบบนี้ยังไงก็ไม่รอด

ในใจของเวินลั่วฉิงไม่พอใจ แต่ว่า เวินลั่วฉิงก็รู้ดี ว่าเธอไม่สามารถเผชิญหน้ากับเย่ซือเฉิงโดยตรงได้ เธอจำได้ว่าหลายครั้งก่อนหน้านี้ ที่เธอยอมอ่อนโยนต่อเขาแล้ว เย่ซือเฉินก็จะถอยให้เธอ

“คุณสามีคะ คุณไปเองเถอะนะคะ ฉันจะอยู่บ้านรอคุณกลับมาไวๆค่ะ ”เวินลั่วฉิงยื่นมือออกไป จับแขนของเขา พิงเขาอย่างอบอุ่น แล้วเงยหน้าขึ้นมองเขา และรอยยิ้มบนใบหน้า กรุยกราย น้ำเสียงนุ่มนวลราวกับจะหยดเป็นน้ำได้เลย

เวินลั่วฉิงเป็นที่โหดเป็นอ่อนโยนได้ ตอนก้าวร้าว สามารถทำให้ลมและเมฆเปลี่ยนสีได้ เมื่ออ่อนโยนก็เหมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิ

แต่ว่า เมื่อก่อนตอนเธออ่อนโยน นอกจากลูกทั้งสองคนแล้ว ก็ไม่มีใครได้เห็นมุมที่เธออ่อนโยนเลย

เวินลั่วฉิงฟังเสียงของตัวเอง ยังรู้สึกร่างกายขนลุกไปหมด เธอรู้สึกว่าเธอได้พยายามเต็มที่แล้วจริงๆ

ถ้าทำขนาดนี้แล้วเย่ซือเฉินยังไม่ยอม เธอก็พร้อมที่จะสู้กับเย่ซือเฉิน

สายตาคู่หนึ่งของเวินลั่วฉิงจ้องมองไปที่เย่ซือเฉิน และรอการตอบกลับของเย่ซือเฉิน

เวินลั่วฉิงคิดอยู่ แค่เย่ซือเฉินตกลงที่จะไม่ให้เธอไปทำงานนอกสถานที่ เรื่องอื่นเธอสามารถที่จะยอมๆเขาอย่างเหมาะสมได้

เห็นเธอในสภาพนี้ หัวใจของคุณชายสามเย่ก็เต้นช้าลงครึ่งจังหวะ

เขารู้เสมอว่าเธอมีด้านที่น่ารัก แต่เขาไม่เคยคิดเลย ว่าเธอยังมีด้านนั้น

การอ้อนแบบนี้ ช่างสุดๆไปเลย

น้ำเสียงนุ่มนวล หัวใจของเขาจะอ่อนไปหมดแล้ว

มีชั่ววูบหนึ่ง ที่เขาอยากตกลงเธอแล้วจริงๆ

“แต่ผมอยากให้คุณอยู่กับผมทั้งกลางวันและกลางคืนเลย ”แต่ คุณชายสามเย่ก็รู้ตัวดี เขาตกลงเธอไม่ได้ เขาจะถูกล่อลวงโดยอุบายของเธอทำให้ไม่ได้เด็ดขาด

แววตาของเวินลั่วฉิงจมลง ในตอนนี้ เธออยากจะกัดเขาแรงๆ เธอยอมขนาดนี้แล้ว แต่เขายังปฏิเสธเธออย่างไร้ความปรานี

ผู้ชายคนนี้ใจช่างแข็งจริงๆ เธอคิดว่า หัวใจของเขาทำด้วยหินแน่ๆ

หากเป็นเด็กโม่บ้านเธอ ไม่ว่าเธอจะบอกอะไรเด็กโม่ของเธอก็จะเห็นด้วยโดยไม่ลังเล

เธอรู้สึกว่า สิ่งที่เขาต้องการเน้นคือปัญหาของตอนกลางคืน แต่ไม่ใช่ตอนกลางวัน……

แม่ง ทันใดนั้นเวินลั่วฉิงก็คิดได้ว่าคำพูดนี้ยังไงก็มีปัญหา

คุณชายสามเย่ไม่ใช่คุณชายสามเย่ที่เย็นชาและเย่อหยิ่งอีกต่อไป

เวินลั่วฉิงจ้องไปที่เขา จ้องมองเขาอย่างแรง

“ตื่นได้แล้ว ใส่เสื้อผ้าซะ เราต้องไปให้ทันเวลาขึ้นเครื่องบิน ”เย่ซือเฉินเพิกเฉยต่อสายตาของเธอที่กำลังจ้องเขาอย่างแรง แล้วดึงเธอลุกขึ้นจากเตียงจนได้

เวินลั่วฉิงเพียงแค่นั่งอยู่นิ่งๆ ไม่ร่วมมืออะไรเลย เธอต้องการจะต่อต้านเขาอย่างเงียบ ๆ

“คุณอยากให้ผมสวมเสื้อผ้าให้งั้นเหรอ?”เย่ซือเฉินมองไม่รู้ว่าเธอคิดยังไง แอบขำในใจ นึกได้ว่าเธอขี้อายมาตลอด จึงแกล้งเธอ

แต่ว่า ครั้งนี้ เวินลั่วฉิงไม่ตอบสนองอะไรเลย และไม่ได้มองหน้าเขาด้วยซ้ำ ยังคงนั่งอยู่ในท่าที่หลังจากที่เขาช่วยดึงเธอลุกขึ้นมา

แม่ง คุกคามเธอ? เธอเกลียดการถูกคุกคามจากผู้อื่นที่สุด

แต่ก็ เขาไม่รู้ว่ามันจะปัญญาอ่อนเกินไปไหมที่จะคุกคามเธอด้วยเรื่องแบบนี้?

กี่ครั้งแล้วที่เธอนอนกับเขา ในตัวเธอมีอะไรอีกที่เขาไม่เคยเห็น แค่เรื่องที่เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอจะคุกคามเธอได้เหรอ?

เวินลั่วฉิงคิด ทางที่ดีที่สุดคือเลื่อนเวลาออกไป ขึ้นเครื่องบินให้ไม่ทันที่สุด แน่นอนถ้าทำเขาโมโห เขาก็จะไปเองคนเดียว

แน่นอน ต้องบอกว่าความคิดของเวินลั่วฉิงนั้นดีงามจริงๆ

เย่ซือเฉินคิดแล้วก็พลางหัวเราะ แต่เขารู้ว่าตอนนี้เขาไม่สามารถหัวเราะออกมาได้ เขาจึงต้องกลั้นไว้ ที่แท้ ตอนภรรยาของเขาอารมณ์เสียแบบนี้นี่เอง!

อืม ไม่เหมือนใครเลยจริงๆ

“คุณภรรยาครับ คุณอยากให้ผมสวมเสื้อผ้าให้ ผมยินดีมาก แต่ตอนนี้เวลาใกล้จะไม่ทันแล้ว เลขาหลิวรออยู่ที่หน้าประตูแล้ว นั้นเอาแบบนี้ คุณใส่ชุดนอนตัวนี้ก่อน เดี๋ยวไปถึงบนรถ ผมค่อยสวมเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คุณนะครับ “เมื่อเย่ซือเฉินกล่าวเช่นนี้ ก็พลางเอาชุดนอนที่แทบไม่มีผ้ามาด้วยจริงๆ แล้วสวมไว้ในตัวเวินลั่วฉิง

ชุดนอนตัวนี้เป็นตัวที่เย่ซือเฉินเอามาเมื่อวาน เขาให้เธอใส่ไว้ แต่เธอปฏิเสธ ชุดนอนแบบนี้ไม่ใส่ยังดีกว่าใส่อีก เธอปัญญาอ่อนแล้วเท่านั้นที่จะใส่ให้เขาดู

แต่ว่า ตอนนี้เย่ซือเฉินคล้องชุดนอนนี้ให้เธอแล้ว

เขายังพูดอีกว่า? ให้เธอใส่ชุดนอนนี้ก่อน แล้วไปถึงบนรถ ค่อยเปลี่ยนให้เธอ?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด