ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 242 เจ้าแม่เวินออกฤทธิ์ สุดยอดจริงๆ(3)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 242 เจ้าแม่เวินออกฤทธิ์ สุดยอดจริงๆ(3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 242 เจ้าแม่เวินออกฤทธิ์ สุดยอดจริงๆ(3)

ในเมื่อเวลานี้ซ้อสามอยู่ตรงนี้ พี่สามก็ทำอะไรเขาไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้น เขาต้องรีบฉวยโอกาสนี้ประชดเสียหน่อย

แต่ว่า คุณชายห้าฉิงเหมือนจะลืมคำพูดไปประโยคหนึ่ง นั้นก็คือบาปที่กระทำโดยฟ้าสวรรค์จะได้รับการอภัยแต่บาปที่กระทำโดยตัวมันเองจะไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้

“……” เวินลั่วฉิงเงยหน้าขึ้นมองอีกครั้ง มองไปที่คุณชายห้าฉิง ผู้ชายคนนี้จงใจก่อเรื่องหรือไง?

ดี ดีมาก!!

ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็จะมาโทษอะไรเธอไม่ได้

อืม ผมก็รู้สึกแปลกใจอยู่เหมือนกัน ตามหลักถ้าเจอเหตุการณ์แบบนั้นยังไงซ้อสามก็ต้องโกรธ หรือหึงหวง แต่ทำไมเมื่อกี้ซ้อสามไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบโต้ใดๆเลย เสี่ยวชีที่ยืนอยู่อีกฝั่งอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น เพราะว่าเสี่ยวชีนั้นไม่รู้เรื่องจริงๆ

เด็กน้อยที่อายุสิบห้าปี โดนคนในครอบครัวปกป้องเป็นอย่างดี แต่เป็นเพราะเสี่ยวชีร่างกายไม่แข็งแรงตั้งแต่เด็ก ไม่ได้พบปะคนและโลกภายนอกเยอะเท่าใดนัก ดังนั้น ถึงวันนี้ก็ยังเป็นคนที่ไร้เดียงสาและมีความโรเเมนติกอยู่

“หนุ่มน้อย หัวใจผู้หญิง เหมือนเข็มในใต้มหาสมุทร นายไม่เข้าใจหรอก ส่วนหัวใจของซ้อสามยิ่งลึกสามารถคาดเดาได้ยาก จี้หซีทนอยากเห็นเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น จึงพูดเสริมออกมาอย่างใจเย็น

เรื่องราวเมื่อกี้โดนขุดขึ้นมาคุยอีกครั้ง เย่ซือเฉินนึกถึงปฏิกิริยาเมื่อกี้ของเวินลั่วฉิงแล้วตอนแรกก็มีความไม่พอใจอยู่แล้ว และคำพูดของจี้หซีตอนนี้เหมือนทิ่มแทงเข้าไปในใจของเย่ซือเฉินตรงๆเลย

หัวใจเธออยู่ตรงไหนเหรอ อยู่ที่ตัวถังไป๋เชียนเหรอ?

สายตาของเย่ซือเฉินเย็นชาลงเล็กน้อย จากนั้นหยิบเหล้าขึ้นมาดื่มคำหนึ่ง เหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่หมิงเจ๋ชงออกมาเป็นพิเศษ เวลาดื่มรสชาติลื่นคอดี แต่ฤทธิ์เหล้าแรงมากหลังดื่ม

ตอนแรกคุณชายสองโจ๋วมีธุระติดพัน พวกเขากำลังรอคุณชายสองโจ๋ว และคุณชายสองโจ๋วก็น่าจะใกล้ถึงแล้ว เหล้านี้เมื่อกี้พนักงานเสิร์ฟเพิ่งเอาออกมา ก็ถูกคุณชายสามเย่หยิบมาดื่มเสียแล้ว

“เวลาเล่นไพ่นกกระจอก ให้ตั้งใจหน่อย” ถังหลิงมองไปดูเย่ซือเฉิน แล้วพูดปรามทุกคนที่อยากเห็นเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น

แต่ว่าคำพูดที่พูดออกมานั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นการปกป้องเวินลั่วฉิงเสียมากกว่า

“หงจง” คุณชายห้าฉิงเห็นพี่สามของตัวเองกำลังดื่มเหล้าด้วยความหดหู่ใจอยู่ จึงไม่กล้าพูดอะไรต่ออีก จับไพ่หงจงขึ้นมาแล้วโยนออกไป โดยไม่รู้สึกถึงภัยอันตรายเลย

“ชนะแล้ว ซับซัมหยิว แปดสิบแปดเท่า คุณชายห้าฉิง นายคำนวณหน่อยสิว่ามีนคือเงินเท่าไร?”เวินลั่วฉิงกำลังรอเขาอยู่ เมื่อเขาโยนไพ่ออกมา เวินลั่วฉิงยิ้มรออยู่แล้ว

“ซ้อสาม ติดไว้ก่อนได้ไหม?” คุณชายห้าฉิงเวลานี้คือเสียใจมากจริงๆ เพราะว่าพวกเขาปรกติเล่นเยอะกันอยู่แล้ว ซับซัมหยิวยิ่งเยอะขึ้นไปอีก

ไม่อยากเชื่อ เขาเล่นไพ่นกกระจอกมาทั้งชีวิต นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เจอซับซัมหยิว“ ไม่ได้ ” เวินลั่วฉิงปฏิเสธออกมา ไม่ให้โอกาสต่อรองใดๆทั้งสิ้น

ทันใดนั้นคุณชายห้าฉิงนึกถึงคำพูดของเวินลั่วฉิงที่พูดออกมาตอนอยู่อีกห้อง คนอย่างเธอไม่เคยเก็บความแค้นไว้ เพราะถ้ามีความแค้นเธอจะแก้แค้นทันทีเลย

คำพูดเหล่านี้มันเป็นความจริงทุกอย่าง และแก้แค้นได้รวดเร็วมากจริงๆ เขาล้อเธอเล่นแค่ไม่กี่คำ เธอต้องโหดร้ายขนาดนี้เลยเหรอ?

เมื่อนับเงินให้เวินลั่วฉิงเสร็จ คุณชายห้าฉิงมองไปด้านหน้าของตัเองที่ตอนนี้เหลือเงินหยวนแค่ไม่กี่ใบ มุมปากกระตุกอย่างแรง

แค่ครั้งเดียวก็แพ้จนหมด ต้นทุนกับเงินที่ชนะมาไม่เหลืออะไรเลย พยายามาทั้งวัน ใช้เวลาไม่นานก็กลับคืนสู่เดิม

ยิ่งไปกว่านั้น เขารู้สึกว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้นเอง เขามีลางสังหรณ์ว่าจะมีเรื่องไม่ค่อยดีเกิดขึ้น เขารู้สึกได้ว่าหลังจากนี้ เขาต้องน่าสังเวชมาก

ความจริงปรากฏให้เห็นแล้วว่า ลางสังหรณ์ของคุณชายห้าฉิงแม่นมากจริงๆ เพราะหลังจากนั้นต่อมา ไม่ว่าเขาจะโยนอะไรออกไปเวินลั่วฉิงกินหมด มันเหมือนมีสิ่งชั่วร้ายแฝงอยู่

“ซ้อสาม ซ้อโกงหรือเปล่า” จี้หซีเริ่มรู้สึกกลัวเล็กน้อย

“ใช่ เพราะฉะนั้น คุณระวังให้ดี” เวินลั่วฉิงมองไปที่จี้หซีด้วยสายตาสบายและใจเย็น แต่กลับทำให้จี้หซีตกใจ นี่หมายความว่าเป็นช่วงจังหว่ะที่จะฆ่าเขาแล้วเหรอ ?

เมื่อกี้เขาก็ได้ล้อเล่นกับซ้อสามตามพี่ห้าด้วยเหมือนกัน ด้วยนิสัยของซ้อสามแล้วคงไม่ยอมปล่อยเขาไปแน่

เวลานี้เขาถือว่ารู้ถึงนิสัยของซ้อสามแล้วว่ามีแค้นต้องชำระ อีกทั้งไม่มีการออมมือเด็ดขาด

จู่ๆเขาก็มีลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมา ลางสังหรณ์ที่ไม่ดีจริงๆ

แน่นอน เมื่อจี้หซีกำลังมีความคิดแบบนี้ โยนไพ่ออกไปใบหนึ่งพอดี ก็โดนเวินลั่วฉิงกินแล้วก็ชนะ นี่ถึงจะเรียกว่าเร็ว

จี้หซีมีความรู้สึกเหมือนอยากร้องไห้แต่น้ำตาไหลไม่ออกมา นี่มันไม่ใช่ตัวเขาเองวิ่งเข้ากระแทกปืนเหรอ?ตอนแรกซ้อสามตั้งใจจะฆ่าแกงคุณชายห้าฉิงเท่านั้น ไม่ได้นึกถึงเขาเลย เขาทำไมต้องไปปากพล่อยด้วย?

“ซ้อสามเก่งจังเลย” เสี่ยวชีอดไม่ได้ที่จะปรบมือออกมา สีหน้าเต็มไปด้วยความนับถือ เหมือนกับที่นับถือพี่สาม

หลังจากนั้น ก็มีแต่เวินลั่วฉิงชนะอยู่คนเดียว คืนนี้เวินลั่วฉิงถือว่าโชคดีมาก เสมือนอยากได้ไพ่ใบไหนก็ได้ไพ่ใบนั้น แต่ทว่า เธอจะกินไพ่และชนะแค่คุณชายห้าฉิงกับจี้หซีเท่านั้น แน่นอนหลักๆแล้วคือชนะคุณชายห้าฉิง อีกทั้งชนะเยอะทุกครั้งด้วย

ถ้าเป็นไพ่ที่ถังหลิงโยนออกมา ถึงแม้ว่าเวินลั่วฉิงสามารถกินแล้วชนะได้แต่เธอก็ไม่ทำ เย่ซือเฉินมองดูแล้วรู้สึกเริ่มไม่เห็นด้วยกับการกระทำนี้แล้ว

ความคิดที่ถังหลิงมีต่อเธอไม่ง่ายเลย ซึ่งจุดนี้ถังหลิงไม่เคยปิดบัง แค่ไม่บอกออกมาให้ทุกคนรับรู้โดยตรงเท่านั้นเอง ดังนั้น เย่ซือเฉินจึงรู้สึกเป็นไม่พอใจ

เมื่อเขาเห็นอีกครั้งว่าเวินลั่วฉิงไม่กินไพ่ของถังหลิง มือของเย่ซือเฉินที่โอบเอวของเธอไว้หยิกลงไปเบาๆหนึ่งครั้ง เห็นได้ชัดว่ามีความหมายของการตักเตือนอยู่ร่างกายของเวินลั่วฉิงเกร็งเล็กน้อย อยากหันกลับไปมองเขา แต่เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อกี้ที่เพิ่งจูบแก้มเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอจึงไม่ทำ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าเธอไปทำอะไรให้เขาโกรธ?

หรือว่าเป็นเพราะว่าเธอชนะเยอะ เกินไปแล้ว ดุเดียจเกินไป ทำให้เขาทนดูไม่ได้?

แต่ก็คงจะไม่ถึงกับเป็นเช่นนั้น?เพราะเธอรู้สึกว่าถ้าเปลี่ยนเป็นเขา เขาน่าจะทำดุเดียจกว่าเธออีก

เวินลั่วฉิงรู้สึกได้ว่ามันต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่ เพียงแต่ว่าเธอยังนึกไม่ออกว่ามันเกิดอะไรขึ้นเท่านั้นเอง

ถังหลิงมองไปที่เวินลั่วฉิง ซึ่งยังคงยิ้ม และยิ้มเหมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิแต่แฝงไว้ด้วยรู้สึกที่ค่อนข้างมีความหมายไว้ในนั้น

คุณชายห้าฉิงหดหู่ใจมาก รู้สึกว่าเสียเงินเยอะขนาดนี้ จะชนะเอาคืนคงเป็นไปไม่ได้ แต่ว่าจะให้เก็บไว้ในใจก็คงไม่ได้ อย่างน้อยได้ระบายออกมาทางปากก็ยังดี

“พี่สามกับซ้อสามความรักหลังแต่งงานดีไหมครับ?”คุณชายห้าฉิงถามออกมาอย่างปากเสีย ตอนที่คุณชายห้าฉิงพูดคำนี้ออกมานั้น เขามองไปที่เย่ซือเฉิน ความจริงแล้วเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ และเมื่อกี้ที่มองผ่านกล้องวงจรปิดนั้น เขาทายได้ไม่ยากว่าชีวิตการแต่งงานของทั้งสองนั้นสถานการณ์เป็นอย่างไร

ดังนั้น คำพูดพวกนี้เขาจงใจถามมันออกมา

เวินลั่วฉิงเงยหน้าขึ้นมา มองไปที่คุณชายห้าฉิง สายตาที่มองไปนั้นดูเรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยความรู้สึกที่น่ากลัวและอยากฆ่าคนอยู่ในนั้น การจะพูดจาล้อเล่นก็ควรจะมีขอบเขตหน่อย วันนี้คุณชายห้าฉิงทำเกินไปแล้ว

เพราะเธอไม่อยากให้พูดหัวข้อนี้ต่อไปอีก

เมื่อสายตาประสบกับเวินลั่วฉิง จู่ๆคุณชายห้าฉิงก็มีอาการสั่นขึ้นมา สายตาแบบนี้ของเธอน่ากลัวกว่าของพี่สามอีก มันมีความรู้สึกแบบหนึ่งที่ทำให้คนเกินอาการหนาวสั่นจากหัวไปถึงปลายเท้าได้ในชั่วพริบตา

คุณชายห้าฉิงรีบเม้มปากแน่น ไม่กล้าพูดอะไรต่ออีก

จี้หซีรู้สึกสงสัยเล็กน้อย จากสไตล์ปรกติของคุณชายห้าฉิงแล้ว ไม่น่าจะจบเรื่องด้วยคำพูดนี้แค่คำเดียว?

ทำไมเขารู้สีกว่าคุณชายห้าฉิงเมื่อกี้จู่ๆเหมือนมีอะไรติดอยู่ในลำคอ เหมือนยังเหลือคำพูดอีกเยอะที่คุณชายห้าฉิงยังไม่ได้พูดมันออกมา

สายตาที่เวินลั่วฉิงมองคุณชายห้าฉิงนั้น จี้หซีไม่เห็น เย่ซือเฉินนั่งอยู่ข้างหลังของเวินลั่วฉิง ก็ไม่เห็นเช่นกัน

แต่ว่าถังหลิงมองเห็น ถังหลิงรู้สึกว่าแผนการที่เขาวางไว้ต้องรีบลงมือทำแล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด