ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 1073 ดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ (1)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 1073 ดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

พวกที่ได้รับข้อความมองมายังเวินลั่วฉิงอีกครั้ง สีหน้าของพวกเขาพลันแปรเปลี่ยน……

สถานที่งานเลี้ยงค่ำคืนนี้กว้างขวางมาก แขกเหรื่อก็มากโข หากทำอะไรลับลมคมในก็ไม่ใช่จะสังเกตพบโดยง่าย

ซึ่งผู้ที่กระจายข่าวฉาว ตอนแรกจะเริ่มจากจุดที่ห่างจากพวกเวินลั่วฉิงก่อน ดังนั้นจึงง่ายต่อการหยุดพ้นจากสายตาพวกเวินลั่วฉิง

ทว่าคนผู้นั้นแพร่ข่าวกระจายเป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ จึงปิดปังยาก แน่นอนเห็นได้ชัดว่าคนนั้นก็ไม่ได้จงใจปิดบังแต่อย่างใด

“ฉิงฉิง ทำไมเหรอ?”ไป๋หยูหนิงเห็นมีคนใช้สายตาแปลกพิกลมองหน้าเวินลั่วฉิงไม่หยุด รู้ว่าต้องมีปัญหาแน่ เพียงแต่ ณ ตอนนี้ไป๋หยูหนิงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

“ตอนแรกฉันคิดว่า การข่มขู่ของพวกเราจะมีผลไม่มากก็น้อย ฉันคิดว่าอย่างน้อยเธอก็จะออมมือบ้าง แต่เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้ทำเช่นนั้น”เวินลั่วฉิงก็สังเกตถึงความผิดปกติของเรื่อง เวินลั่วฉิงเป็นคนสัมผัสไว สายตาแปลกประหลาดของคนพวกนั้นจะพลาดการสังเกตเห็นของเธอได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้น เวินลั่วฉิงยังเห็นคนนั้นเอาของบางอย่างให้ผู้คนดู

ซึ่งคนนั้นเป็นผู้ชายหน้าตาทรุดโทรม มองก็รู้ว่าไม่ใช่คนดีอะไร เวินลั่วฉิงไม่รู้จักเขา แต่เวินลั่วฉิงมั่นใจมากว่าผู้ชายคนนั้นกำลังแพร่ข่าวจะไม่เป็นผลดีกับเธอสุดๆ

“ผู้หญิงคนนั้นทำอะไรกันแน่?”ฉู่หลิงเอ๋อเป็นคนอารมณ์ร้าย“ทุเรศมาก ฉันจะไปสั่งสอน”

“หากฉันเดาไม่ผิด ตอนนี้เธอกำลังให้คนแพร่ข่าวจะที่ไม่เป็นผลดีกับฉัน ตอนนี้องค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ฟังคำพูดของเธอ เธอจึงสามารถใช้อำนาจขององค์กรโกสต์ซิตี้ เธอไม่จำเป็นต้องลงมือเอง เธอก็ไม่จำเป็นต้องสั่งการคนที่แอบกระจายข่าวด้วยตัวเอง”เวินลั่วฉิงมองไป๋หยิงแวบหนึ่ง มุมปากเผยรอยยิ้มเย็นหลายส่วน“คุณไปหาเธอซึ่งๆหน้า เธอคงไม่ยอมรับหรอก……”

เวินลั่วฉิงรู้จุดนี้ตั้งแต่แรกแล้ว

“งั้นทำไงดี?หรือจะปล่อยให้เธอพูดให้ร้ายคุณอยู่อย่างนี้?”ฉู่หลิงเอ๋อทนไม่หวั่นไม่ไหว อยากไปตบหน้าผู้หญิงเลวทรามที่ใช้อุบายลับหลัง มันน่าสะอิดสะเอียนยิ่งนัก

“พวกเขากำลังปล่อยข่าวอะไรอยู่?”ดวงตาของไป๋หยูหนิงหรี่ขึ้น เธอสังเกตมานานแล้ว เธอพบว่ามีสายตาแปลกประหลาดมากมายมองมายังเวินลั่วฉิง

“ยังมีอะไรอีก?ต้องเป็นเรื่องฉิงฉิงกับบ้านตระกูลเย่ก่อนหน้านี้อยู่แล้ว คนชราทั้งสองของตระกูลเย่ก็เกินไปจริงๆ พวกเขาใส่ร้ายป้ายสีฉิงฉิงไม่หยุด”ฉู่หลิงเอ๋อไม่ได้คิดอะไรมาก เธอคิดว่าเรื่องที่สามารถทำลายชื่อเสียงของเวินลั่วฉิงได้ก็คงต้องเป็นเรื่องนั้นอยู่แล้ว เพราะไม่มีใครรู้การเคลื่อนไหวของเวินลั่วฉิงในประเทศM ดังนั้นคงไม่มีใครรู้เรื่องของเด็กๆทั้งสองคนเหรอ

ไป๋หยิงก็คงไม่รู้เรื่องของเด็กๆทั้งสองคน ไม่งั้นไป๋หยิงก็ต้องใช้เด็กๆมาหาเรื่องแล้วล่ะ

เพราะลูกนอกสมรสคือเครื่องมือชั้นดีในการทำลายชื่อเสียงของหญิงสาวคนหนึ่ง!!

“กลัวว่าจะไม่ง่ายอย่างนั้นหน่ะสิ”เวินลั่วฉิงกลับไม่ได้มองโลกในแง่ดีอย่างฉู่หลิงเอ๋อ เมื่อสักครู่เกิดเรื่องชุลมุนที่เกี่ยวข้องเธอและตระกูลเย่แล้ว ใช้เรื่องนี้ในการสร้างกระแสก็คงไม่มีประโยชน์เท่าใดนัก

ยิ่งไปกว่านั้นก่อนหน้านี้มู่หรงดัวหยางประกาศว่าจะส่งจดหมายร้องเรียกเย่ซือเฉินแล้ว ดังนั้นส่วนของเธอกับตระกูลเย่จึงไร้ประโยชน์ในการสร้างข้อครหา

เวินลั่วฉิงก็เห็นแววตาที่แปลกประหลาดมองตนเช่นกัน เพียงแต่เธอไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นกำลังกระจายข่าวด้านไหนกันแน่

“ฉันไปสืบดูว่าพวกเขากำลังแพร่ข่าวอะไรอยู่?”ฉู่หลิงเอ๋อชะงักพลันหันหน้าเดินไปยังสายตาที่เพ็งมองเวินลั่วฉิงพร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์ไม่หยุดหย่อน

ครั้งนี้เวินลั่วฉิงไม่ได้ห้ามฉู่หลิงเอ๋อ เพราะเวินลั่วฉิงรู้ว่าถึงแม้ตอนนี้ฉู่หลิงเอ๋อจะไม่ไปถาม แต่เรื่องนี้ก็ต้องกลายเป็นเรื่องอลหม่านอย่างแน่นอน

เพราะเมื่อกี้คุณนายเหว้ยก็แสดงจุดยืนที่มีต่อเธอแล้ว แต่ยังมีคนกล้ากระจายข่าวของเธอในงานเลี้ยงของตระกูลเหว้ย ซึ่งชี้ให้เห็นว่าคนพวกนั้นไม่ได้ยำเกรงแต่อย่างใด

ฉู่หลิงเอ๋อเดินไปถึง เสียงวิจารณ์เซ็งแซ่ก็หยุดลงทันที ไม่มีใครพูดต่อสักคน

“พวกคุณกำลังคุยอะไรกันอยู่ ทำไมไม่พูดแล้วล่ะ?”ฉู่หลิงเอ๋อมองไปยังบรรดาคุณหนูทั้งหลากแหล่ด้วยแววตาที่เย็นเยียน เมื่อเธอไปถึงคนพวกนี้ก็หยุดคุย แสดงว่าบทสนทนาไม่ได้เรื่องดีงามแต่อย่างใด

“ฉิงฉิง ฉันไปจับผู้ชายคนนั้นมา”ไป๋หยูหนิงก็เห็นนานแล้วว่าคนแพร่ข่าวในกลุ่มคือผู้ชายคนนั้น ไป๋หยูหนิงรู้ว่าผู้ชายคนนั้นคือกุญแจสำคัญ ขอเพียงจับผู้ชายคนนั้นได้ ปัญหาก็คลี่คลายแล้ว

เวินลั่วฉิงหรี่ตาขึ้น เธอก็รู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นคนปล่อยข่าว แต่สิ่งที่เธอรู้ไปกว่านั้นก็คือทุกอย่างเป็นฝีมือของไป๋หยิง ในเมื่อไป๋หยิงให้ผู้ชายคนนั้นปล่อยข่าว เกรงว่าเรื่องนี้จะไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด!

ที่นี่คืองานเลี้ยงของตระกูลเหว้ย เวินลั่วฉิงจึงไม่อยากสร้างความวุ่นวายในงาน ดังนั้นคำแนะนำของไป๋หยูหนิงจึงไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก

“อืม จัดการแบบเงียบๆ อย่าให้เขามีโอกาสสร้างความยุ่งยากขึ้น”เวินลั่วฉิงอยากให้คลี่คลายปัญหาทั้งหมดโดยเร็ว และเธอเชื่อในความสามารถของไป๋หยูหนิง

ไป๋หยูหนิงผงกศีรษะ ซึ่งไป๋หยูหนิงไม่ได้เดินไปยังผู้ชายคนนั้นโดยตรง แต่ทำท่าเดินเข้าหาบริกร จากนั้นก็รีบเดินไปด้านหลังผู้ชายคนนั้น

สถานการณ์อย่างนี้ ด้วยความว่องไวและความสามารถของไป๋หยูหนิง มันไม่ใช่เรื่องยากอะไรในการจัดการผู้ชายคนนั้น

เพียงแต่ตอนที่ไป๋หยูหนิงเข้าใจผู้ชายคนนั้น เด็กผู้หญิงในกลุ่มก็พุ่งเข้าใส่เวินลั่วฉิง ก่อนจะอุ้มขาของเวินลั่วฉิงไว้ แล้วเอ่ยเรียกเวินลั่วฉิงว่าแม่เสียงดังก้อง

ถึงแม้เวลานี้จุดที่เวินลั่วฉิงยืนอยู่จะไม่โจ่งแจ้งเท่าไหร่ ดังนั้นคนจึงมีไม่มาก เมื่อฉู่หลิงเอ๋อกับไป๋หยูหนิงเดินห่างออกไปก็เหลือเพียงเวินลั่วฉิงกับคุณฟู่แล้ว

ดังนั้นเด็กคนนี้กอดเวินลั่วฉิงแล้วร้องเรียกคำว่าคุณแม่ ภาพนี้จึงถูกเปิดเผยสู่สายตาผู้คนทันที

ฉู่หลิงเอ๋อรู้สึกอึ้ง เกิดอะไรขึ้น?!

เด็กคนนี้โผล่มาจากไหนกัน?!

คนนี้ไม่ใช่จื่อซีของเธอนี่ มีสิทธิ์อะไรมาเรียกฉิงฉิงว่าคุณแม่?

ไป๋หยูหนิงที่ตอนแรกอยากจับผู้ชายที่กระจายข่าวก็ต้องอึ้งตามๆกันไป ดังนั้นการกระทำของเธอจึงชะงักค้าง

ในชั่วพริบตาที่ไป๋หยูหนิงหยุดเดิน ผู้ชายคนนั้นก็กระโดดขึ้นพร้อมกับหันมาประชันหน้ากับไป๋หยูหนิง จากนั้นก็ชี้หน้าไป๋หยูหนิงต่อว่าเสียงดัง “คุณจะทำอะไร?คุณคิดจะทำอะไร?คุณจะฆ่าปิดปากใช่ไหม?เวินลั่วฉิงส่งคุณมาฆ่าปิดปากผมใช่ไหม?”

ผู้ชายคนนั้นเสียงดังมาก เห็นได้ชัดว่าเขาจงใจกระทำ ชั่วขณะนี้ทุกคนก็มองมายังผู้ชายคนนี้ แน่นอนยังเห็นไป๋หยูหนิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าผู้ชายคนนี้ด้วยเช่นกัน

ก่อนหน้านี้ไป๋หยูหนิงอยู่กับเวินลั่วฉิงตลอด ใครก็ดูออกว่าไป๋หยูหนิงกับเวินลั่วฉิงมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ตอนนี้ไป๋หยูหนิงมาอยู่ข้างกายผู้ชายคนนั้นกะทันหัน บวกกับข่าวที่ผู้ชายคนนั้นแพร่ออกไปก่อนหน้านี้ ช่วงเวลานี้ทุกคนจึงเชื่อคำพูดของผู้ชายคนนี้

ไป๋หยูหนิงฉายประกายความเคร่งขรึมในแววตา เธอรู้สึกมีลางสังหรณ์กะทันหัน การสะเพร่าของเธอ เกรงว่าจะทำให้เกิดเรื่องแล้ว

ทว่าไป๋หยูหนิงรู้สึกว่าเรื่องนี้บังเอิญเกินไป เธอเพิ่งเดินมาอยู่ด้านหลังผู้ชายคนนี้ เด็กผู้หญิงก็รีบวิ่งไปเรียกเวินลั่วฉิงว่าแม่ทันที และนี่คือจุดที่เธอผิดพลาดนั่นเอง

ไป๋หยูหนิงเกรงว่าคงมีคนวางแผนการเช่นนี้ไว้แล้ว คงคาดเดาว่าพวกเธอต้องสะสางให้เรื่องซาลง คาดการณ์แผนการของเธอได้ ดังนั้นการกระทำของเธอจึงกลายเป็นเครื่องมือของศัตรู

ไป๋หยูหนิงนึกถึงคำพูดของเวินลั่วฉิง บอกว่าให้เธอจัดการเงียบๆ ไม่ต้องให้เขาก่อความวุ่นวายอะไรขึ้น เห็นได้ชัดว่าฉิงฉิงคาดเดาได้แล้ว จึงเน้นย้ำกับเธอเป็นพิเศษ

ฉิงฉิงต้องรู้ว่าการกระทำของเธอนั้นเสี่ยงมาก แต่ฉิงฉิงก็เลือกที่จะเชื่อมั่นในความสามารถของเธอ เพียงแต่เสียดายที่เธอทำให้ฉิงฉิงผิดหวังซะแล้ว

ต้องชมว่าผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังเป็นคนมีสมองเล็กน้อย วางแผนทุกอย่างได้รัดกุมมาก กระทั่งเธอก็ติดกับดักเสียแล้ว

เวินลั่วฉิงหลุบตามองเด็กผู้หญิงที่อุ้มขาของเธอแน่น

เด็กผู้หญิงอายุสี่ถึงห้าปีกำลังเงยหน้ามองเธออยู่!!

ดวงตาของเด็กเล็กมาก เหมือนดวงตาที่เธออำพรางตัวตนไม่มีผิดเพี้ยน ต้องบอกว่าศัตรูตั้งใจสรรหาเด็กมาจริงๆ

เวินลั่วฉิงยกมุมปากโค้งขึ้นเล็กน้อย เดิมทีเธออยากให้จบเรื่องโดยไว ไม่อยากสร้างความวุ่นวายในงานเลี้ยงของตระกูลเหว้ย ทว่าคนพวกนั้นไม่คิดจะปล่อยเธอไป

ตอนนี้กลายเป็นเรื่องเอิกเกริกแล้ว เวินลั่วฉิงก็ไม่ต้องระแวงด้านนี้อีกต่อไป

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด