ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 1157 วิธีการของคุณชายสามเย่ มีความระมัดระวังสูง (3)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 1157 วิธีการของคุณชายสามเย่ มีความระมัดระวังสูง (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เจ้าหญิง ผมขอเตือนว่าให้คุณหยุดดีกว่านะครับ” เลขาหลิวทนฟังต่อไปไม่ได้แล้วจริงๆ ท่านประธานของเขาจะเสียใจทีหลังแล้วแล้วมาขอร้องเจ้าหญิงปัญญาอ่อนคนนี้เนี่ยนะ?

เธอไปเอาความมั่นใจมากจากไหนกันแน่?

คิดว่าเธอเป็นเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้อย่างนั้นหรือ?

เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้เก่งมากอย่างนั้นใช่ไหม?

ท่านประธานของเขาไม่ได้สนใจอยู่แล้ว

ในสายตาของท่านประธานเขามีเพียงแค่คุณผู้หญิงเพียงเท่านั้น!!

“ทำไมฉันจะต้องหยุดด้วย ฉันพูดความจริง ฉันเป็นถึงเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้เชียวนะ เย่ซือเฉินไม่แต่งงานกับฉันจะต้องมาเสียใจภายหลังอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นแล้วเย่ซือเฉินจะต้องมาอ้อนวอนฉันแน่ๆ” เวลานี้เฉิงโหรวโหรวรู้สึกว่าตัวเองดีเหลือเกิน จนถึงตอนนี้เธอยังรู้สึกว่าเย่ซือเฉินจะไม่มีทางปฏิเสธได้จริงๆ เพราะถึงอย่างไรเธอก็เป็นถึงเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ มีใครที่สามารถต้านทานการยั่วยวนขนาดนี้จริงๆได้

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าหญิงก็ค่อยๆรอไปแล้วกันนะครับ” เวลานี้เอง เลขาหลิวก็ไม่อยากจะพูดอะไรกับเจ้าหญิงองค์นี้อีกแล้ว เนื่องจากพูดไปก็เปล่าประโยชน์ เจ้าหญิงองค์นี้จมอยู่แต่ในโลกของตัวเองมาตลอด ทำตามแต่ความคิดของตัวเอง คำพูดของคนอื่นเธอไม่เข้าใจอยู่แล้ว

“ส่วนตอนนี้ เจ้าหญิงรีบออกไปจากที่บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปของพวกเราเถอะครับ” เลขาหลิวเป็นเลขาที่มีคุณวุฒิ ในฐานะที่เป็นเลขาที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี แต่ในเวลานี้น้ำเสียงของเลขาหลิวนั้นเต็มไปด้วยความรำคาญ

“คุณกล้าไล่ฉันอย่างนั้นหรือ? ฉันจะบอกคุณให้นะ คุณเองก็จะต้องเสียใจ รอให้ฉันแต่งงานกับเย่ซือเฉินก่อน ฉันก็จะเป็นคุณผู้หญิงของท่านประธานของคุณ ถึงตอนนั้นฉัน…….”เวลานี้เฉิงโหรวโหรวได้รับความคับแค้นใจมาก ในหัวที่กำลังโมโหอยู่นั้นเบลอไปหมด เย่ซือเฉินออกไปแล้ว ไม่คิดว่าเธอจะเริ่มขู่เลขาหลิวขึ้นมาอีก

ช่วงที่เฉิงโหรวโหรวเป็นเจ้าหญิงในช่วงเวลานี้จะไม่พูดก็คงไม่ได้ ว่าเธอไม่ได้เรียนรู้ถึงความสามารถที่แท้จริงแล้ว นับวันยิ่งอารมณ์ร้ายขึ้นทุกทีๆ

“เอาตัวออกไปเลย” เลขาหลิวที่เป็นเลขาที่นิสัยดีคนหนึ่งนั้น เวลานี้อดทนต่อไปไม่ไหวแล้วนั้น เดิมทีเขายังคิดอยากจะไว้หน้าเจ้าหญิงองค์นี้ แต่เห็นได้ชัดว่าเจ้าหญิงองค์นี้ไม่จำเป็นต้องมีหน้ามีตาอะไรอีกแล้ว

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาก็ทำตามความหมายของท่านประธาน เอาตัวคนออกไปเลยก็แล้วกัน

บอร์ดี้การ์ดทั้งสองคนได้ยินคำพูดของเฉิงโหรวโหรวก็รู้สึกทนไม่ไหวแล้วเช่นกัน ตอนนี้ได้ยินคำพูดของเลขาหลิวแล้ว จึงเดินไปทางด้านหน้า ทั้งสองคนจับตัวเฉิงโหรวโหรวขึ้นมาแล้วเดินออกไปทางด้านนอก โดยไม่ได้มีความเกรงใจอีกต่อไปแล้ว กับคนแบบนี้ไม่จำเป็นต้องมีความเกรงใจแล้วจริงๆ

เนื่องจากว่าให้ความเกรงใจ ให้เกียรติเธอแล้วแต่เธอกลับไม่คิดจะสนใจเอง

“เดี๋ยวก่อน รอเดี๋ยว พวกคุณจะมาทำกับเจ้าหญิงของพวกเราแบบนี้ไม่ได้นะ” เจิ้งฉงที่เมื่อครู่รู้สึกตกตะลึงไปกับทฤษฎีของเฉิงโหรวโหรวอยู่นั้น ลืมไปแล้วว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ตอนนี้เห็นบอร์ดี้การ์ดทั้งสองคนจับตัวเฉิงโหรวโหรวเดินออกไปทางด้านนอก หลังจากที่สติเขากลับมาแล้วนั้นก็คิดที่จะขวางเอาไว้

ถ้าหากเฉิงโหรวโหรวถูกจับตัวออกไปแบบนี้ ต่อไปในองค์กรโกสต์ซิตี้ก็สามารถยืนหยัดได้ยาก แล้วก็จะเป็นการสร้างบารมีได้ยากด้วยเช่นกัน

ที่องค์กรโกสต์ซิตี้ ถ้าหากคุณมีความสามารถทำให้คนอื่นศรัทธาและเชื่อถือ ต่อให้คุณมีสถานะที่สูงส่ง ก็ไม่มีประโยชน์เช่นกัน

“ทำไมครับ? คุณก็อยากจะให้ผมเรียกบอร์ดี้การ์ดมาเอาคุณออกไปเหมือนกันใช่ไหม? ผมรู้ว่าพวกคุณคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ล้วนแต่เก่งมากกันทั้งนั้น แต่บอร์ดี้การ์ดของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปก็โหดเหมือนกันนะ คุณจะลองดูไหม?” เลขาหลิวขวางอยู่ตรงหน้าเจิ้งฉง ความเกรงใจที่มีก่อนหน้านี้ไม่หลงเหลืออยู่เลยแม้แต่นิดเดียว เจ้าหญิงขององค์กรพวกเขาก็เอาตัวออกไปแล้ว นับประสาอะไรกับคนนี้กัน?

ถึงอย่างไรหลังจากเรื่องราวในวันนี้ ท่านประธานของเขากับองค์กรโกสต์ซิตี้นับว่าจบลงแล้ว ต่อไปก็กำหนดให้เป็นศัตรูกัน อีกทั้งยังเป็นความสัมพันธ์ทางด้านศัตรูกันอย่างกระจ่างแจ้งอีกด้วย เพราะฉะนั้น เขายังจะกลัวอะไรอีก?

เจิ้งฉงมองไปยังเลขาหลิว แล้วอึ้งไปเล็กน้อย เขาไม่ได้เอ่ยออกมาอีก ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่อยากจะก่อเรื่องให้น่าอับอายเกินไปด้วย อย่างน้อยเขาก็ไม่สามารถทำให้ตัวเองสุดจะทนเกินไปได้!!

“เจิ้งฉง คุณรีบมาช่วยฉันสิ พวกเขาจะจับฉันโยนออกไปจริงๆแล้วนะ” เฉิงโหรวโหรวถูกบอร์ดี้การ์ดสองคนเอาตัวออกไปทางด้านนอกห้องรับรองแขก แล้วถึงได้ดึงสติกลับมา รับรู้ว่าพวกเขาจะจับเธอโยนออกไปข้างนอกจริงๆแล้ว

เวลานี้เธอไม่ได้มีลักษณะที่ขู่เข็ญเย่ซือเฉินและเลขาหลิวเหมือนเมื่อครู่นี้ ตอนนี้เธอรู้สึกตื่นตระหนกไปหมดแล้ว รู้สึกกลัวขึ้นมา

เธอจะมาถูกคนจับโยนออกไปแบบนี้ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด ตอนนี้เธอเป็นถึงเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ ถ้าหากเธอถูกจับโยนออกไป ก็คงขายหน้าน่าดู

เวลานี้เจิ้งฉงถูกเลขาหลิวขวางเอาไว้ เขาได้ยินเสียงร้องให้ช่วยของเฉิงโหรวโหรว ดวงตาคู่นั้นกะพริบอย่างรวดเร็ว : “เลขาหลิว คุณปล่อยเจ้าหญิงของพวกเราก่อนได้ไหม ผมจะพาเธอออกไปเอง เลขาหลิววางใจได้ ผมจะพาเธอออกไปเดี๋ยวนี้แหล่ะ”

เจิ้งฉงไม่อยากให้แผนการทั้งหมดที่เขาตั้งใจเอาไว้ต้องเสียเปล่า

หางคิ้วของเลขาหลิวเลิกขึ้นเล็กน้อย มองเขากึ่งๆหัวเราะ : “จะรีบไปทำไมล่ะครับ?”

“เลขาหลิว ถึงอย่างไรเธอก็เป็นเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ ตอนนี้หัวหน้าของพวกเราอยู่ที่เมืองA เรื่องนี้ถ้าหากให้หัวหน้าของพวกเรารู้เข้า เกรงว่าจะไม่ดีต่อใครทั้งนั้น” เวลานี้เจิ้งฉงทำได้เพียงต้องเอ่ยถึงหัวหน้า แต่ตอนที่เจิ้งฉงพูดออกมานั้น ความจริงแล้วในใจก็รู้สึกใจไม่สู้ดีนัก

เนื่องจากว่าในใจของเขานั้นรู้ดีว่าหัวหน้าไม่ได้ใส่ใจอยู่แล้ว หัวหน้าไม่ได้สนใจเรื่องของเฉิงโหรวโหรวเลยอีกด้วย

“คุณกำลังขู่ผม?” ดวงตาของเลขาหลิวหรี่ตาลงเล็กน้อย : “ขู่ผมก็เท่ากับขู่บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปของเราด้วย แล้วก็เป็นการขู่ท่านประธานของเรา ท่านประธานของพวกเราเกลียดการถูกคนข่มขู่มากที่สุด บัญชีนี้ผมจะจำเอาไว้แทนคุณเอง คุณวางใจได้ ผมจะบอกท่านประธานของผมให้อยู่แล้ว”

“ส่วนหัวหน้าแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ที่คุณพูดมานั้น ไม่ว่าเขาคิดจะทำอะไรก็ให้เขาลงมือได้เลย ท่านประธานของเรากลัวว่าเขาจะทำไม่ได้เสียด้วยซ้ำ?”

ช่วงสองสามวันนี้เลขาหลิวก็ได้ยินเรื่องของหัวหน้าแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้มาไม่น้อยอีกด้วย รู้ความเก่งกาจของหัวหน้าคนนั้น แต่ในตอนนี้ จะต้องเสียอำนาจไปไม่ได้อย่างแน่นอน

“เจิ้งฉง คุณรีบมาช่วยฉันสิ ไม่อย่างนั้นฉันจะถูกพวกเขาโยนออกไปจริงๆแล้วนะ” เวลานี้เฉิงโหรวโหรวถูกพาตัวออกไปไกลแล้ว เพียงแต่เสียงแหลมๆของเธอนั้นยังคงดังขึ้นมาอย่างชัดเจนมากอีกด้วย

“เลขาหลิว คุณว่าเอาแบบนี้ได้ไหม? เรื่องราวในวันนี้ ทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยก็ได้ คุณปล่อยตัวเจ้าหญิงของพวกเราไป แล้วทำเหมือนพวกเราไม่ได้มาที่นี่ ผมรับประกันว่าองค์กรของเราจะไม่มาหาเรื่องใดๆกับบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปอย่างเด็ดขาด” ในสถานการณ์เช่นนี้ เจิ้งฉงทำได้เพียงต้องยอมอ่อนให้

“ทำไมครับ? บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปจะต้องกลัวพวกคุณด้วยอย่างนั้นหรือ?” เลขาหลิวส่งเสียงหัวเราะเยาะออกมา ดวงตาที่มองไปยังเจิ้งฉงนั้นแฝงความเย้ยหยันเอาไว้อย่างชัดเจน สองคนนี้ พวกเขาพูดออกมาแล้วเชื่อได้หรืออย่างไรกัน?

เจิ้งฉงคนนี้ดูแล้วก็เป็นพวกคนเจ้าคิดเจ้าแค้น คนขององค์กรโกสต์ซิตี้เดิมทีแล้วก็คอยแต่หาเรื่องคุณผู้หญิงอยู่ตลอด วันนี้เจิ้งฉงได้รับความโมโหนี้จากตระกูลเย่ไปแล้วจะไม่มาแก้แค้นอย่างนั้นหรือ?

คำพูดนี้ของเจิ้งฉงไปหลอกผี ผีก็ยังไม่เชื่อเลยเสียด้วยซ้ำ

ในเมื่อเรื่องราววันนี้เป็นแบบนี้แล้วนั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่เลขาหลิวจะเชื่อคำพูดโกหกของเจิ้งฉง

บอร์ดี้การ์ดทั้งสองคนคงจะพาเฉิงโหรวโหรวเข้าไปในลิฟต์ เสียงร้องเรียกให้ช่วยเสียงแหลมๆของเธอนั้นถึงได้หายไปในที่สุด

ในใจของเจิ้งฉงนั้นร้อนรนมาก แต่กลับเข้าใจอยู่เช่นกัน เรื่องราวได้ข้อสรุปมาแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้แล้ว

วันนี้เขาไม่ควรพาเฉิงโหรวโหรวมาที่บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปเลยจริงๆ

บอร์ดี้การ์ดทั้งสองคนเอาตัวเฉิงโหรวโหรวลงมาทางด้านล่าง หลังจากนั้นก็ลากเธอไปที่หน้าประตูแล้วโยนออกไป

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 1157 วิธีการของคุณชายสามเย่ มีความระมัดระวังสูง (3)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 1157 วิธีการของคุณชายสามเย่ มีความระมัดระวังสูง (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เจ้าหญิง ผมขอเตือนว่าให้คุณหยุดดีกว่านะครับ” เลขาหลิวทนฟังต่อไปไม่ได้แล้วจริงๆ ท่านประธานของเขาจะเสียใจทีหลังแล้วแล้วมาขอร้องเจ้าหญิงปัญญาอ่อนคนนี้เนี่ยนะ?

เธอไปเอาความมั่นใจมากจากไหนกันแน่?

คิดว่าเธอเป็นเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้อย่างนั้นหรือ?

เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้เก่งมากอย่างนั้นใช่ไหม?

ท่านประธานของเขาไม่ได้สนใจอยู่แล้ว

ในสายตาของท่านประธานเขามีเพียงแค่คุณผู้หญิงเพียงเท่านั้น!!

“ทำไมฉันจะต้องหยุดด้วย ฉันพูดความจริง ฉันเป็นถึงเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้เชียวนะ เย่ซือเฉินไม่แต่งงานกับฉันจะต้องมาเสียใจภายหลังอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นแล้วเย่ซือเฉินจะต้องมาอ้อนวอนฉันแน่ๆ” เวลานี้เฉิงโหรวโหรวรู้สึกว่าตัวเองดีเหลือเกิน จนถึงตอนนี้เธอยังรู้สึกว่าเย่ซือเฉินจะไม่มีทางปฏิเสธได้จริงๆ เพราะถึงอย่างไรเธอก็เป็นถึงเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ มีใครที่สามารถต้านทานการยั่วยวนขนาดนี้จริงๆได้

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าหญิงก็ค่อยๆรอไปแล้วกันนะครับ” เวลานี้เอง เลขาหลิวก็ไม่อยากจะพูดอะไรกับเจ้าหญิงองค์นี้อีกแล้ว เนื่องจากพูดไปก็เปล่าประโยชน์ เจ้าหญิงองค์นี้จมอยู่แต่ในโลกของตัวเองมาตลอด ทำตามแต่ความคิดของตัวเอง คำพูดของคนอื่นเธอไม่เข้าใจอยู่แล้ว

“ส่วนตอนนี้ เจ้าหญิงรีบออกไปจากที่บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปของพวกเราเถอะครับ” เลขาหลิวเป็นเลขาที่มีคุณวุฒิ ในฐานะที่เป็นเลขาที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี แต่ในเวลานี้น้ำเสียงของเลขาหลิวนั้นเต็มไปด้วยความรำคาญ

“คุณกล้าไล่ฉันอย่างนั้นหรือ? ฉันจะบอกคุณให้นะ คุณเองก็จะต้องเสียใจ รอให้ฉันแต่งงานกับเย่ซือเฉินก่อน ฉันก็จะเป็นคุณผู้หญิงของท่านประธานของคุณ ถึงตอนนั้นฉัน…….”เวลานี้เฉิงโหรวโหรวได้รับความคับแค้นใจมาก ในหัวที่กำลังโมโหอยู่นั้นเบลอไปหมด เย่ซือเฉินออกไปแล้ว ไม่คิดว่าเธอจะเริ่มขู่เลขาหลิวขึ้นมาอีก

ช่วงที่เฉิงโหรวโหรวเป็นเจ้าหญิงในช่วงเวลานี้จะไม่พูดก็คงไม่ได้ ว่าเธอไม่ได้เรียนรู้ถึงความสามารถที่แท้จริงแล้ว นับวันยิ่งอารมณ์ร้ายขึ้นทุกทีๆ

“เอาตัวออกไปเลย” เลขาหลิวที่เป็นเลขาที่นิสัยดีคนหนึ่งนั้น เวลานี้อดทนต่อไปไม่ไหวแล้วนั้น เดิมทีเขายังคิดอยากจะไว้หน้าเจ้าหญิงองค์นี้ แต่เห็นได้ชัดว่าเจ้าหญิงองค์นี้ไม่จำเป็นต้องมีหน้ามีตาอะไรอีกแล้ว

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาก็ทำตามความหมายของท่านประธาน เอาตัวคนออกไปเลยก็แล้วกัน

บอร์ดี้การ์ดทั้งสองคนได้ยินคำพูดของเฉิงโหรวโหรวก็รู้สึกทนไม่ไหวแล้วเช่นกัน ตอนนี้ได้ยินคำพูดของเลขาหลิวแล้ว จึงเดินไปทางด้านหน้า ทั้งสองคนจับตัวเฉิงโหรวโหรวขึ้นมาแล้วเดินออกไปทางด้านนอก โดยไม่ได้มีความเกรงใจอีกต่อไปแล้ว กับคนแบบนี้ไม่จำเป็นต้องมีความเกรงใจแล้วจริงๆ

เนื่องจากว่าให้ความเกรงใจ ให้เกียรติเธอแล้วแต่เธอกลับไม่คิดจะสนใจเอง

“เดี๋ยวก่อน รอเดี๋ยว พวกคุณจะมาทำกับเจ้าหญิงของพวกเราแบบนี้ไม่ได้นะ” เจิ้งฉงที่เมื่อครู่รู้สึกตกตะลึงไปกับทฤษฎีของเฉิงโหรวโหรวอยู่นั้น ลืมไปแล้วว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ตอนนี้เห็นบอร์ดี้การ์ดทั้งสองคนจับตัวเฉิงโหรวโหรวเดินออกไปทางด้านนอก หลังจากที่สติเขากลับมาแล้วนั้นก็คิดที่จะขวางเอาไว้

ถ้าหากเฉิงโหรวโหรวถูกจับตัวออกไปแบบนี้ ต่อไปในองค์กรโกสต์ซิตี้ก็สามารถยืนหยัดได้ยาก แล้วก็จะเป็นการสร้างบารมีได้ยากด้วยเช่นกัน

ที่องค์กรโกสต์ซิตี้ ถ้าหากคุณมีความสามารถทำให้คนอื่นศรัทธาและเชื่อถือ ต่อให้คุณมีสถานะที่สูงส่ง ก็ไม่มีประโยชน์เช่นกัน

“ทำไมครับ? คุณก็อยากจะให้ผมเรียกบอร์ดี้การ์ดมาเอาคุณออกไปเหมือนกันใช่ไหม? ผมรู้ว่าพวกคุณคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ล้วนแต่เก่งมากกันทั้งนั้น แต่บอร์ดี้การ์ดของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปก็โหดเหมือนกันนะ คุณจะลองดูไหม?” เลขาหลิวขวางอยู่ตรงหน้าเจิ้งฉง ความเกรงใจที่มีก่อนหน้านี้ไม่หลงเหลืออยู่เลยแม้แต่นิดเดียว เจ้าหญิงขององค์กรพวกเขาก็เอาตัวออกไปแล้ว นับประสาอะไรกับคนนี้กัน?

ถึงอย่างไรหลังจากเรื่องราวในวันนี้ ท่านประธานของเขากับองค์กรโกสต์ซิตี้นับว่าจบลงแล้ว ต่อไปก็กำหนดให้เป็นศัตรูกัน อีกทั้งยังเป็นความสัมพันธ์ทางด้านศัตรูกันอย่างกระจ่างแจ้งอีกด้วย เพราะฉะนั้น เขายังจะกลัวอะไรอีก?

เจิ้งฉงมองไปยังเลขาหลิว แล้วอึ้งไปเล็กน้อย เขาไม่ได้เอ่ยออกมาอีก ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่อยากจะก่อเรื่องให้น่าอับอายเกินไปด้วย อย่างน้อยเขาก็ไม่สามารถทำให้ตัวเองสุดจะทนเกินไปได้!!

“เจิ้งฉง คุณรีบมาช่วยฉันสิ พวกเขาจะจับฉันโยนออกไปจริงๆแล้วนะ” เฉิงโหรวโหรวถูกบอร์ดี้การ์ดสองคนเอาตัวออกไปทางด้านนอกห้องรับรองแขก แล้วถึงได้ดึงสติกลับมา รับรู้ว่าพวกเขาจะจับเธอโยนออกไปข้างนอกจริงๆแล้ว

เวลานี้เธอไม่ได้มีลักษณะที่ขู่เข็ญเย่ซือเฉินและเลขาหลิวเหมือนเมื่อครู่นี้ ตอนนี้เธอรู้สึกตื่นตระหนกไปหมดแล้ว รู้สึกกลัวขึ้นมา

เธอจะมาถูกคนจับโยนออกไปแบบนี้ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด ตอนนี้เธอเป็นถึงเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ ถ้าหากเธอถูกจับโยนออกไป ก็คงขายหน้าน่าดู

เวลานี้เจิ้งฉงถูกเลขาหลิวขวางเอาไว้ เขาได้ยินเสียงร้องให้ช่วยของเฉิงโหรวโหรว ดวงตาคู่นั้นกะพริบอย่างรวดเร็ว : “เลขาหลิว คุณปล่อยเจ้าหญิงของพวกเราก่อนได้ไหม ผมจะพาเธอออกไปเอง เลขาหลิววางใจได้ ผมจะพาเธอออกไปเดี๋ยวนี้แหล่ะ”

เจิ้งฉงไม่อยากให้แผนการทั้งหมดที่เขาตั้งใจเอาไว้ต้องเสียเปล่า

หางคิ้วของเลขาหลิวเลิกขึ้นเล็กน้อย มองเขากึ่งๆหัวเราะ : “จะรีบไปทำไมล่ะครับ?”

“เลขาหลิว ถึงอย่างไรเธอก็เป็นเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ ตอนนี้หัวหน้าของพวกเราอยู่ที่เมืองA เรื่องนี้ถ้าหากให้หัวหน้าของพวกเรารู้เข้า เกรงว่าจะไม่ดีต่อใครทั้งนั้น” เวลานี้เจิ้งฉงทำได้เพียงต้องเอ่ยถึงหัวหน้า แต่ตอนที่เจิ้งฉงพูดออกมานั้น ความจริงแล้วในใจก็รู้สึกใจไม่สู้ดีนัก

เนื่องจากว่าในใจของเขานั้นรู้ดีว่าหัวหน้าไม่ได้ใส่ใจอยู่แล้ว หัวหน้าไม่ได้สนใจเรื่องของเฉิงโหรวโหรวเลยอีกด้วย

“คุณกำลังขู่ผม?” ดวงตาของเลขาหลิวหรี่ตาลงเล็กน้อย : “ขู่ผมก็เท่ากับขู่บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปของเราด้วย แล้วก็เป็นการขู่ท่านประธานของเรา ท่านประธานของพวกเราเกลียดการถูกคนข่มขู่มากที่สุด บัญชีนี้ผมจะจำเอาไว้แทนคุณเอง คุณวางใจได้ ผมจะบอกท่านประธานของผมให้อยู่แล้ว”

“ส่วนหัวหน้าแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ที่คุณพูดมานั้น ไม่ว่าเขาคิดจะทำอะไรก็ให้เขาลงมือได้เลย ท่านประธานของเรากลัวว่าเขาจะทำไม่ได้เสียด้วยซ้ำ?”

ช่วงสองสามวันนี้เลขาหลิวก็ได้ยินเรื่องของหัวหน้าแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้มาไม่น้อยอีกด้วย รู้ความเก่งกาจของหัวหน้าคนนั้น แต่ในตอนนี้ จะต้องเสียอำนาจไปไม่ได้อย่างแน่นอน

“เจิ้งฉง คุณรีบมาช่วยฉันสิ ไม่อย่างนั้นฉันจะถูกพวกเขาโยนออกไปจริงๆแล้วนะ” เวลานี้เฉิงโหรวโหรวถูกพาตัวออกไปไกลแล้ว เพียงแต่เสียงแหลมๆของเธอนั้นยังคงดังขึ้นมาอย่างชัดเจนมากอีกด้วย

“เลขาหลิว คุณว่าเอาแบบนี้ได้ไหม? เรื่องราวในวันนี้ ทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยก็ได้ คุณปล่อยตัวเจ้าหญิงของพวกเราไป แล้วทำเหมือนพวกเราไม่ได้มาที่นี่ ผมรับประกันว่าองค์กรของเราจะไม่มาหาเรื่องใดๆกับบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปอย่างเด็ดขาด” ในสถานการณ์เช่นนี้ เจิ้งฉงทำได้เพียงต้องยอมอ่อนให้

“ทำไมครับ? บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปจะต้องกลัวพวกคุณด้วยอย่างนั้นหรือ?” เลขาหลิวส่งเสียงหัวเราะเยาะออกมา ดวงตาที่มองไปยังเจิ้งฉงนั้นแฝงความเย้ยหยันเอาไว้อย่างชัดเจน สองคนนี้ พวกเขาพูดออกมาแล้วเชื่อได้หรืออย่างไรกัน?

เจิ้งฉงคนนี้ดูแล้วก็เป็นพวกคนเจ้าคิดเจ้าแค้น คนขององค์กรโกสต์ซิตี้เดิมทีแล้วก็คอยแต่หาเรื่องคุณผู้หญิงอยู่ตลอด วันนี้เจิ้งฉงได้รับความโมโหนี้จากตระกูลเย่ไปแล้วจะไม่มาแก้แค้นอย่างนั้นหรือ?

คำพูดนี้ของเจิ้งฉงไปหลอกผี ผีก็ยังไม่เชื่อเลยเสียด้วยซ้ำ

ในเมื่อเรื่องราววันนี้เป็นแบบนี้แล้วนั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่เลขาหลิวจะเชื่อคำพูดโกหกของเจิ้งฉง

บอร์ดี้การ์ดทั้งสองคนคงจะพาเฉิงโหรวโหรวเข้าไปในลิฟต์ เสียงร้องเรียกให้ช่วยเสียงแหลมๆของเธอนั้นถึงได้หายไปในที่สุด

ในใจของเจิ้งฉงนั้นร้อนรนมาก แต่กลับเข้าใจอยู่เช่นกัน เรื่องราวได้ข้อสรุปมาแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้แล้ว

วันนี้เขาไม่ควรพาเฉิงโหรวโหรวมาที่บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปเลยจริงๆ

บอร์ดี้การ์ดทั้งสองคนเอาตัวเฉิงโหรวโหรวลงมาทางด้านล่าง หลังจากนั้นก็ลากเธอไปที่หน้าประตูแล้วโยนออกไป

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+