ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 1201 คุณปู่คุณย่าตระกูลเย่ตกตะลึง สุดยอด(2)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 1201 คุณปู่คุณย่าตระกูลเย่ตกตะลึง สุดยอด(2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ไม่พูดไม่ได้ที่มู่หรงดัวหยางคาดคะเนไว้ไม่มีผิดเพี้ยน!!

“แล้วเขาจะละทิ้งตระกูลเย่ไปได้ยังไง”ดวงตาของคุณย่าเย่เป็นประกาย เห็นได้ชัดว่ามีความสงสัยเล็กน้อย ลองถามใครดูก็ได้ว่ามีใครที่รังเกียจการมีเงินทองมากมาย ? ต่อให้ทรัพย์สินมรดกของเย่ซือเฉินจะมีมากกว่าตระกูลเย่ ธุรกิจของตระกูลเย่ที่มากมายมหาศาลขนาดนี้ เย่ซือเฉินบอกว่าจะสละทิ้งก็สละทิ้งได้เลยงั้นเหรอ ?

ยิ่งไปกว่านั้นธุรกิจของเย่ซือเฉินเองก็ไม่ได้มากมายไปกว่าของตระกูลเย่เลย ?

คุณย่าเย่เองก็ยิ่งไม่เข้าใจเหมือนกัน

“คุณคิดไหมว่าเขาอาจจะแค่อยากจะขู่เราเท่านั้น?” คุณย่าเย่ชำเลืองมองมาเล็กน้อย แล้วจ้องไปยังคุณปู่เย่ เธอในตอนนี้คิดว่าที่เย่ซือเฉินทำก็เพื่อให้พวกเขาเห็น และขู่พวกเขาเท่านั้น

“แน่นอนอยู่แล้ว เขาต้องอยากจะขู่เราแน่ๆ หึ ฉันก็อยากจะดูเหมือนกันว่าเขาจะมาไม้ไหนกันแน่” เมื่อคุณปู่เย่ได้ยินที่คุณย่าเย่พูดก็รู้สึกฮึกเหิมขึ้นมา“ เขาอยากจะขู่เรา หึ เขายังเด็กเกินไป และก็วู่วามเกินไป ”

ในตอนนี้หน้าตึกใหญ่ของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ป การแถลงข่าวยังคงดำเนินการต่อ

“หุ้นมากมายขนาดนี้ คุณชายสามเย่บอกจะโอนคืนก็โอนคืนมันทันทีเหรอ?”

“หากเป็นอย่างที่พูด คุณชายสามเย่จะตัดขาดกับตระกูลเย่จริงๆ และจะไม่ข้องเกี่ยวอะไรกับบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปอีก?”

“คุณชายสามเย่ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป และคนธรรมดาทั่วไปอย่างเราๆก็ไม่เข้าใจจริงๆ เงินทองมากมายขนาดนี้ พูดว่าไม่เอาก็คือไม่เอาจริงๆเหรอ คุณชายสามเย่ช่างเป็นคนเรียบง่ายจริงๆ”

หัวข้อการพูดคุยเริ่มหันเหไปทางเย่ซือเฉิน คนเมื่อครู่ที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าเย่ซือเฉินได้รับหุ้นแล้วจะแยกตัวออกจากตระกูลเย่ในตอนนี้ก็ไม่กล้าปากพล่อยพูดไปเรื่อยอะไรอีก

“ไม่แน่บางทีก็อาจจะแค่แสดงละครตบตาให้คนอื่นเห็นก็ได้ เพราะตอนนี้บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปมีคุณชายสามเย่คอยดูแลบริหารอยู่ หากคุณชายสามเย่ยังบริหารบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปอยู่ ช้าเร็วทุกอย่างของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปก็ต้องเป็นของคุณชายสามเย่ เพราะตระกูลเย่รุ่นนี้ยังไงก็ยังต้องพึ่งพาคุณชายสามเย่ ”

แน่นอนว่าต้องมีคนตั้งคำถาม ณ ที่ตรงนี้มีคนจำนวนมาก เป็นธรรมดาที่ย่อมจะต้องมีเรื่องวุ่นวาย คนที่ต้องการจะมาหาเรื่อง สำหรับนักข่าวหรือสื่อมวลชนแล้วยิ่งเรื่องบานปลายเท่าไร ก็ยิ่งจะดึงดูดความสนใจคนได้มากเท่านั้น

“ผมยังมีคำแถลงการณ์อีกหนึ่งข้อ”เย่ซือเฉินมองไปยังนักข่าวที่เพิ่งพูดไปเมื่อครู่ แล้วหยิบเอกสารอีกฉบับหนึ่งออกมา

เย่ซือเฉินวางเอกสารนั้นไปตรงหน้ากล้อง

“ผมเข้ารับตําแหน่งที่บริษัทตั้งแต่อายุยี่สิบ ถึงตอนนี้ก็ร่วมสิบปีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นผลกำไรของบริษัทหรือเงินเดือนของผม ผมไม่ขอรับไว้แม้แต่บาทเดียว เมื่อก่อนไม่เคยรับ ตอนนี้ก็ไม่รับ อนาคตก็ยิ่งจะไม่มีทางรับเอาไว้แน่นอน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปผมจะไม่เหยียบเข้าไปที่บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปอีกแม้แต่ก้าวเดียว และจะไม่ขอเข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปอีกเป็นอันขาด ทุกอย่างของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปไม่เกี่ยวข้องอะไรกับผมอีก ”

“คำพูดนี้ มีลายลักษณ์อักษร ทุกคนเป็นพยาน ผมเย่ซือเฉินพูดแล้วไม่คืนคำ” ทุกคนต่างรู้ว่าเย่ซือเฉินเป็นพูดน้อยต่อยหนัก แต่ในตอนนี้กลับพูดออกมาเสียมากมาย

คำพูดของเย่ซือเฉิน ทำให้เกิดความชุลมุนขึ้นมาอีกครั้ง ความหมายประโยคนี้ของเย่ซือเฉินก็คือ หุ้นของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปเขาไม่รับ เงินของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปเขาก็ไม่รับ รวมไปถึงเงินเดือนตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ไม่รับ อีกทั้งต่อไปก็จะไม่เข้าไปที่บริษัทอีก และจะไม่วุ่นวายอะไรกับกิจการของบริษัทอีก

เย่ซือเฉินไม่เพียงแค่พูดปากเปล่าเท่านั้น หนำซ้ำยังได้แถลงการณ์ออกมา และมีลายลักษณ์อักษรด้วย ทุกคนเป็นพยาน ยิ่งสร้างความน่าเชื่อถือมากขึ้นไปอีก

ในขณะนี้ที่ตระกูลเย่ คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ก็ยิ่งต้องตกตะลึงอีกครั้ง คราวนี้ทั้งสองคนต่างก็ตะลึงกันจนตาค้าง

“เขา เขาเอาจริงเหรอ ? เขาบอกว่าต่อไปจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับบริษัทอีก ? ” คุณปู่เย่ในตอนนี้ก็เพิ่งจะตระหนักถึงความสำคัญได้ “เขาไม่ดูแลบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปแล้วใครจะดูแล หรือจะให้คนแก่อยากฉันไปดูแลงั้นเหรอ ?”

คุณปู่เย่เองก็รู้ดีว่าบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปตลอดหลายปีที่ผ่านมาเจริญเติบโตมาได้ขนาดนี้ ทุกอย่างเป็นเพราะเย่ซือเฉิน ต่อให้จะเป็นเขาที่มาดูแลบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ป ก็ไม่สามารถดูแลได้ดีเท่านี้ หนำซ้ำตอนนี้เขาเองก็อายุมากแล้ว ยิ่งดูแลบริหารบริษัทไม่ได้แน่

“เขาบอกว่าเขาจะไม่เหยียบเข้าไปที่บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปอีก นี่เขากะจะไม่เอาบริษัทนี้แล้วใช่ไหม ? แล้วยังออกแถลงการณ์อีก ให้ทุกคนเป็นพยาน เห็นอย่างนี้แล้วไม่น่าจะล้อเล่นแล้วล่ะ” คุณย่าเย่ในตอนนี้ก็มึนงงไปด้วย เธอเองไม่เคยคิดมาก่อนว่าเย่ซือเฉินจะทำถึงขั้นนี้ได้

“เป็นไปได้ยังไง ? หรือเขาจะยอมละทิ้งสมบัติของตระกูลเย่อันมากมายนี้ได้ อนาคตทุกอย่างก็ต้องเป็นของเขา เย่ซือฉุนเกียจคร้านและไม่เอาการเอางาน ไม่รู้เรื่องอะไร และไม่เป็นงานอะไร ฉันคงจะฝากบริษัทไว้ให้กับเย่ซือฉุนไม่ได้แน่” สีหน้าของคุณปู่เย่ในตอนนี้ก็ยิ่งเคร่งเครียดมากขึ้น คราวนี้เห็นชัดว่าคุณปู่เย่นั้นเป็นกังวลอย่างมาก แน่นอนว่าเขากังวลกลัวผลประโยชน์ที่จะกระทบกับบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ป

เพราะตลอดหลายปีมานี้ มีเย่ซือเฉินคอยดูแลบริหารถึงได้มีผลกำไรที่ดีแบบนี้ หากเย่ซือเฉินวางมือไม่บริหารต่อ ผลกำไรของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปนั้นได้รับผลกระทบแน่นอน

“นิสัยของเย่ซือเฉินฉันก็พอเข้าใจ เขาทำถึงขั้นนี้ คงเอาจริงแน่แล้ว ตอนนี้เราจะทำยังไงกันดี ? หรือไม่ เราหาวิธีเกลี้ยกล่อมเขาก่อน”คุณย่าเย่ในตอนนี้ก็เป็นกังวลเช่นกัน

“จะเกลี้ยกล่อมยังไง ? ครั้งนี้เห็นชัดว่าเขาจงใจต่อกรกับเรา คงเป็นเพราะโกรธเรื่องงานแต่งงานกับเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ที่เราจัดการเองโดยไม่ได้ขอความเห็นชอบจากเขา หรือจะให้เราต้องล้มเลิกงานแต่งงานกับเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้งั้นเหรอ ? ”คุณปู่เย่กระวนกระวายใจ ดังนั้นน้ำเสียงจึงไม่สู้ดีนัก

ในตอนนี้คุณย่าเย่เองก็ไม่ได้ใส่ใจพฤติกรรมนี้ของเขาเท่าไร หัวคิ้วเธอขมวดเล็กน้อย“งานแต่งงานระหว่างเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้นั้นล้มเลิกไม่ได้เด็ดขาด เราเป็นคนประกาศเอง ตอนนี้จะมาคืนคำ คนนอกต้องหัวเราะเยาะเราแน่ ยิ่งไปกว่านั้นเรากับหัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้ก็ได้ร่างสัญญาการแต่งงานแล้วด้วย เรื่องงานแต่งงานนี้ใช่ว่าเราอยากจะยกเลิกก็ยกเลิกได้ หากเรายกเลิกในตอนนี้ องค์กรโกสต์ซิตี้จะปล่อยเราไว้เหรอ?”คุณย่าเย่ในตอนนี้ ก็ยังคงคิดถึงแต่ตัวเอง และผลประโยชน์ของตัวเอง

“แล้วคุณว่าจะมีวิธีไหนอีก ?”คุณปู่เย่ก็ยิ่งวิตกกังวลมากขึ้น เสียงก็สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

คุณย่าเย่เองไม่ได้ตอบกลับ ในตอนนี้เธอเองก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงเหมือนกัน เธอคิดวิธีที่ดีกว่านี้ไม่ได้

ในขณะนี้ที่ตึกใหญ่บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ป งานแถลงข่าวยังไม่จบ

เย่ซือเฉินหยิบเอกสารอีกฉบับหนึ่งออกมา เปิดเอกสารนั้นอีกครั้ง แล้ววางมันไว้ตรงด้านหน้าของกล้อง

ครั้งนี้ไม่รอให้เย่ซือเฉินได้อธิบาย ทุกคนต่างก็ชะโงกหน้าดู อยากรู้ว่าครั้งนี้เย่ซือเฉินเอาเอกสารอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจออกมาอีก

ทุกคนที่เห็นเอกสารนั้น ต่างก็ต้องตกใจขึ้นมาอีกครั้ง นี่คือใบรับรอง ใบรับรองที่ออกโดยสถานีตำรวจ บนใบรับรองนั้นได้ลงนาม และประทับตราของสถานีตำรวจ นี่ก็ยิ่งสร้างความน่าเชื่อถือกับคำพูดก่อนหน้านั้นของเย่ซือเฉินเข้าไปอีก และมีผลทางด้านกฎหมายด้วย

เนื้อหาในหนังสือรับรองนี้ทุกคนต่างก็เห็นมันอย่างชัดเจน เป็นเอกสารยืนยันของเย่ซือเฉินที่ตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่ เพราะฉะนั้นที่คุณชายสามเย่ตัดขาดกับตระกูลเย่นั้นไม่ใช่เพียงคำพูดปากเปล่าเท่านั้น แต่ไปสถานีตำรวจเพื่อออกหนังสือรับรอง และดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมกับตระกูลเย่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกันอีก” คำพูดประโยคสุดท้ายของเย่ซือเฉินพูดตัดสินใจอย่างเด็ดขาด โดยไม่ลังเล ตรงๆและเรียบง่าย

ด้วยวิธีนี้ ก็จึงไม่มีใครสงสัยถึงความสัมพันธ์ที่ตัดขาดกันระหว่างคุณชายสามเย่กับตระกูลเย่อีก คุณชายสามเย่นั้นเอาจริง และจริงจังมาก

อีกทั้งคุณชายสามเย่ไม่รับส่วนแบ่งใดๆของตระกูลเย่ ไม่รับเงินจากตระกูลเย่แม้แต่แดงเดียว และจะไม่ข้องเกี่ยวกับบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปอีก

ทุกสิ่งทุกอย่างทุกคนต่างได้ยินมันอย่างชัดเจน

“เขา เขาทำอย่างนี้ได้ยังไง? เขาไปออกใบรับรองที่สถานีตำรวจได้ยังไง ? นี่เขาจะตัดขาดกับตระกูลเย่จริงๆเหรอ ?”คุณย่าเย่ในตอนนี้ที่นั่งอยู่บนโซฟา หลังตรง เห็นได้ชัดว่าใบหน้าซีดเซียวเล็กน้อย ในตอนนี้เองคุณย่าเย่ก็ร้อนรนขึ้นมา

“ตอนนี้ทำยังไงดี ? ให้เขาทำอย่างนี้ไม่ได้แน่”คุณปู่เย่ก็ร้อนรน ร้อนรนจนไม่รู้จะทำยังไง

“ให้เย่ซือเฉินกลับมาก่อน ขอแค่เย่ซือเฉินกลับมา ขอแค่เย่ซือเฉินกลับมาที่ตระกูลเย่ ทุกอย่างก็จะไม่มีอะไร”ดวงตาของคุณย่าเย่เบิกกว้าง จู่ๆก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างตื่นเต้น

“แต่เขาในตอนนี้จะกลับมาได้ยังไง อีกทั้งก่อนหน้านั้นเขาก็ไม่รับสายของฉันด้วย ตอนนี้ก็คงยิ่งไม่รับสายของฉันแน่”คุณปู่เย่รู้ดีว่าหากให้เย่ซือเฉินกลับมาในตอนนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นก็จะเหมือนไม่มีอะไร แต่ประเด็นคือเย่ซือเฉินจะกลับมาตอนนี้เหรอ ?

เย่ซือเฉินให้ทางตำรวจออกใบรับรองให้ เพื่อยืนยันการตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่ แล้วเขาจะกลับมาที่ตระกูลเย่อีกได้ยังไง ?

วิธีนี้พูดแล้วก็เหมือนไม่ได้พูด

คุณย่าเย่ตกตะลึง กลอกตาไปมา จู่ๆก็นึกอะไรดีๆขึ้นมาได้ “คุณโทรไปหาฉิงถิงตอนนี้เลย แล้วให้เย่ซือเฉินรับสาย คุณบอกเขาว่าเวินลั่วฉิงกับเด็กหญิงตัวน้อยอยู่ที่บ้านของตระกูลเย่ ให้เขากลับมา ขอแค่เขากลับมา เรื่องนี้ก็จะเปลี่ยนได้ ขอแค่เขากลับมา ที่เขาพูดมาก่อนหน้านั้นก็เท่ากับโมฆะ เรื่องทั้งหมดก็จะเป็นแค่เรื่องล้อเล่นเท่านั้น”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 1201 คุณปู่คุณย่าตระกูลเย่ตกตะลึง สุดยอด(2)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 1201 คุณปู่คุณย่าตระกูลเย่ตกตะลึง สุดยอด(2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ไม่พูดไม่ได้ที่มู่หรงดัวหยางคาดคะเนไว้ไม่มีผิดเพี้ยน!!

“แล้วเขาจะละทิ้งตระกูลเย่ไปได้ยังไง”ดวงตาของคุณย่าเย่เป็นประกาย เห็นได้ชัดว่ามีความสงสัยเล็กน้อย ลองถามใครดูก็ได้ว่ามีใครที่รังเกียจการมีเงินทองมากมาย ? ต่อให้ทรัพย์สินมรดกของเย่ซือเฉินจะมีมากกว่าตระกูลเย่ ธุรกิจของตระกูลเย่ที่มากมายมหาศาลขนาดนี้ เย่ซือเฉินบอกว่าจะสละทิ้งก็สละทิ้งได้เลยงั้นเหรอ ?

ยิ่งไปกว่านั้นธุรกิจของเย่ซือเฉินเองก็ไม่ได้มากมายไปกว่าของตระกูลเย่เลย ?

คุณย่าเย่เองก็ยิ่งไม่เข้าใจเหมือนกัน

“คุณคิดไหมว่าเขาอาจจะแค่อยากจะขู่เราเท่านั้น?” คุณย่าเย่ชำเลืองมองมาเล็กน้อย แล้วจ้องไปยังคุณปู่เย่ เธอในตอนนี้คิดว่าที่เย่ซือเฉินทำก็เพื่อให้พวกเขาเห็น และขู่พวกเขาเท่านั้น

“แน่นอนอยู่แล้ว เขาต้องอยากจะขู่เราแน่ๆ หึ ฉันก็อยากจะดูเหมือนกันว่าเขาจะมาไม้ไหนกันแน่” เมื่อคุณปู่เย่ได้ยินที่คุณย่าเย่พูดก็รู้สึกฮึกเหิมขึ้นมา“ เขาอยากจะขู่เรา หึ เขายังเด็กเกินไป และก็วู่วามเกินไป ”

ในตอนนี้หน้าตึกใหญ่ของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ป การแถลงข่าวยังคงดำเนินการต่อ

“หุ้นมากมายขนาดนี้ คุณชายสามเย่บอกจะโอนคืนก็โอนคืนมันทันทีเหรอ?”

“หากเป็นอย่างที่พูด คุณชายสามเย่จะตัดขาดกับตระกูลเย่จริงๆ และจะไม่ข้องเกี่ยวอะไรกับบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปอีก?”

“คุณชายสามเย่ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป และคนธรรมดาทั่วไปอย่างเราๆก็ไม่เข้าใจจริงๆ เงินทองมากมายขนาดนี้ พูดว่าไม่เอาก็คือไม่เอาจริงๆเหรอ คุณชายสามเย่ช่างเป็นคนเรียบง่ายจริงๆ”

หัวข้อการพูดคุยเริ่มหันเหไปทางเย่ซือเฉิน คนเมื่อครู่ที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าเย่ซือเฉินได้รับหุ้นแล้วจะแยกตัวออกจากตระกูลเย่ในตอนนี้ก็ไม่กล้าปากพล่อยพูดไปเรื่อยอะไรอีก

“ไม่แน่บางทีก็อาจจะแค่แสดงละครตบตาให้คนอื่นเห็นก็ได้ เพราะตอนนี้บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปมีคุณชายสามเย่คอยดูแลบริหารอยู่ หากคุณชายสามเย่ยังบริหารบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปอยู่ ช้าเร็วทุกอย่างของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปก็ต้องเป็นของคุณชายสามเย่ เพราะตระกูลเย่รุ่นนี้ยังไงก็ยังต้องพึ่งพาคุณชายสามเย่ ”

แน่นอนว่าต้องมีคนตั้งคำถาม ณ ที่ตรงนี้มีคนจำนวนมาก เป็นธรรมดาที่ย่อมจะต้องมีเรื่องวุ่นวาย คนที่ต้องการจะมาหาเรื่อง สำหรับนักข่าวหรือสื่อมวลชนแล้วยิ่งเรื่องบานปลายเท่าไร ก็ยิ่งจะดึงดูดความสนใจคนได้มากเท่านั้น

“ผมยังมีคำแถลงการณ์อีกหนึ่งข้อ”เย่ซือเฉินมองไปยังนักข่าวที่เพิ่งพูดไปเมื่อครู่ แล้วหยิบเอกสารอีกฉบับหนึ่งออกมา

เย่ซือเฉินวางเอกสารนั้นไปตรงหน้ากล้อง

“ผมเข้ารับตําแหน่งที่บริษัทตั้งแต่อายุยี่สิบ ถึงตอนนี้ก็ร่วมสิบปีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นผลกำไรของบริษัทหรือเงินเดือนของผม ผมไม่ขอรับไว้แม้แต่บาทเดียว เมื่อก่อนไม่เคยรับ ตอนนี้ก็ไม่รับ อนาคตก็ยิ่งจะไม่มีทางรับเอาไว้แน่นอน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปผมจะไม่เหยียบเข้าไปที่บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปอีกแม้แต่ก้าวเดียว และจะไม่ขอเข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปอีกเป็นอันขาด ทุกอย่างของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปไม่เกี่ยวข้องอะไรกับผมอีก ”

“คำพูดนี้ มีลายลักษณ์อักษร ทุกคนเป็นพยาน ผมเย่ซือเฉินพูดแล้วไม่คืนคำ” ทุกคนต่างรู้ว่าเย่ซือเฉินเป็นพูดน้อยต่อยหนัก แต่ในตอนนี้กลับพูดออกมาเสียมากมาย

คำพูดของเย่ซือเฉิน ทำให้เกิดความชุลมุนขึ้นมาอีกครั้ง ความหมายประโยคนี้ของเย่ซือเฉินก็คือ หุ้นของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปเขาไม่รับ เงินของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปเขาก็ไม่รับ รวมไปถึงเงินเดือนตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ไม่รับ อีกทั้งต่อไปก็จะไม่เข้าไปที่บริษัทอีก และจะไม่วุ่นวายอะไรกับกิจการของบริษัทอีก

เย่ซือเฉินไม่เพียงแค่พูดปากเปล่าเท่านั้น หนำซ้ำยังได้แถลงการณ์ออกมา และมีลายลักษณ์อักษรด้วย ทุกคนเป็นพยาน ยิ่งสร้างความน่าเชื่อถือมากขึ้นไปอีก

ในขณะนี้ที่ตระกูลเย่ คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ก็ยิ่งต้องตกตะลึงอีกครั้ง คราวนี้ทั้งสองคนต่างก็ตะลึงกันจนตาค้าง

“เขา เขาเอาจริงเหรอ ? เขาบอกว่าต่อไปจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับบริษัทอีก ? ” คุณปู่เย่ในตอนนี้ก็เพิ่งจะตระหนักถึงความสำคัญได้ “เขาไม่ดูแลบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปแล้วใครจะดูแล หรือจะให้คนแก่อยากฉันไปดูแลงั้นเหรอ ?”

คุณปู่เย่เองก็รู้ดีว่าบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปตลอดหลายปีที่ผ่านมาเจริญเติบโตมาได้ขนาดนี้ ทุกอย่างเป็นเพราะเย่ซือเฉิน ต่อให้จะเป็นเขาที่มาดูแลบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ป ก็ไม่สามารถดูแลได้ดีเท่านี้ หนำซ้ำตอนนี้เขาเองก็อายุมากแล้ว ยิ่งดูแลบริหารบริษัทไม่ได้แน่

“เขาบอกว่าเขาจะไม่เหยียบเข้าไปที่บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปอีก นี่เขากะจะไม่เอาบริษัทนี้แล้วใช่ไหม ? แล้วยังออกแถลงการณ์อีก ให้ทุกคนเป็นพยาน เห็นอย่างนี้แล้วไม่น่าจะล้อเล่นแล้วล่ะ” คุณย่าเย่ในตอนนี้ก็มึนงงไปด้วย เธอเองไม่เคยคิดมาก่อนว่าเย่ซือเฉินจะทำถึงขั้นนี้ได้

“เป็นไปได้ยังไง ? หรือเขาจะยอมละทิ้งสมบัติของตระกูลเย่อันมากมายนี้ได้ อนาคตทุกอย่างก็ต้องเป็นของเขา เย่ซือฉุนเกียจคร้านและไม่เอาการเอางาน ไม่รู้เรื่องอะไร และไม่เป็นงานอะไร ฉันคงจะฝากบริษัทไว้ให้กับเย่ซือฉุนไม่ได้แน่” สีหน้าของคุณปู่เย่ในตอนนี้ก็ยิ่งเคร่งเครียดมากขึ้น คราวนี้เห็นชัดว่าคุณปู่เย่นั้นเป็นกังวลอย่างมาก แน่นอนว่าเขากังวลกลัวผลประโยชน์ที่จะกระทบกับบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ป

เพราะตลอดหลายปีมานี้ มีเย่ซือเฉินคอยดูแลบริหารถึงได้มีผลกำไรที่ดีแบบนี้ หากเย่ซือเฉินวางมือไม่บริหารต่อ ผลกำไรของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปนั้นได้รับผลกระทบแน่นอน

“นิสัยของเย่ซือเฉินฉันก็พอเข้าใจ เขาทำถึงขั้นนี้ คงเอาจริงแน่แล้ว ตอนนี้เราจะทำยังไงกันดี ? หรือไม่ เราหาวิธีเกลี้ยกล่อมเขาก่อน”คุณย่าเย่ในตอนนี้ก็เป็นกังวลเช่นกัน

“จะเกลี้ยกล่อมยังไง ? ครั้งนี้เห็นชัดว่าเขาจงใจต่อกรกับเรา คงเป็นเพราะโกรธเรื่องงานแต่งงานกับเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ที่เราจัดการเองโดยไม่ได้ขอความเห็นชอบจากเขา หรือจะให้เราต้องล้มเลิกงานแต่งงานกับเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้งั้นเหรอ ? ”คุณปู่เย่กระวนกระวายใจ ดังนั้นน้ำเสียงจึงไม่สู้ดีนัก

ในตอนนี้คุณย่าเย่เองก็ไม่ได้ใส่ใจพฤติกรรมนี้ของเขาเท่าไร หัวคิ้วเธอขมวดเล็กน้อย“งานแต่งงานระหว่างเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้นั้นล้มเลิกไม่ได้เด็ดขาด เราเป็นคนประกาศเอง ตอนนี้จะมาคืนคำ คนนอกต้องหัวเราะเยาะเราแน่ ยิ่งไปกว่านั้นเรากับหัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้ก็ได้ร่างสัญญาการแต่งงานแล้วด้วย เรื่องงานแต่งงานนี้ใช่ว่าเราอยากจะยกเลิกก็ยกเลิกได้ หากเรายกเลิกในตอนนี้ องค์กรโกสต์ซิตี้จะปล่อยเราไว้เหรอ?”คุณย่าเย่ในตอนนี้ ก็ยังคงคิดถึงแต่ตัวเอง และผลประโยชน์ของตัวเอง

“แล้วคุณว่าจะมีวิธีไหนอีก ?”คุณปู่เย่ก็ยิ่งวิตกกังวลมากขึ้น เสียงก็สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

คุณย่าเย่เองไม่ได้ตอบกลับ ในตอนนี้เธอเองก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงเหมือนกัน เธอคิดวิธีที่ดีกว่านี้ไม่ได้

ในขณะนี้ที่ตึกใหญ่บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ป งานแถลงข่าวยังไม่จบ

เย่ซือเฉินหยิบเอกสารอีกฉบับหนึ่งออกมา เปิดเอกสารนั้นอีกครั้ง แล้ววางมันไว้ตรงด้านหน้าของกล้อง

ครั้งนี้ไม่รอให้เย่ซือเฉินได้อธิบาย ทุกคนต่างก็ชะโงกหน้าดู อยากรู้ว่าครั้งนี้เย่ซือเฉินเอาเอกสารอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจออกมาอีก

ทุกคนที่เห็นเอกสารนั้น ต่างก็ต้องตกใจขึ้นมาอีกครั้ง นี่คือใบรับรอง ใบรับรองที่ออกโดยสถานีตำรวจ บนใบรับรองนั้นได้ลงนาม และประทับตราของสถานีตำรวจ นี่ก็ยิ่งสร้างความน่าเชื่อถือกับคำพูดก่อนหน้านั้นของเย่ซือเฉินเข้าไปอีก และมีผลทางด้านกฎหมายด้วย

เนื้อหาในหนังสือรับรองนี้ทุกคนต่างก็เห็นมันอย่างชัดเจน เป็นเอกสารยืนยันของเย่ซือเฉินที่ตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่ เพราะฉะนั้นที่คุณชายสามเย่ตัดขาดกับตระกูลเย่นั้นไม่ใช่เพียงคำพูดปากเปล่าเท่านั้น แต่ไปสถานีตำรวจเพื่อออกหนังสือรับรอง และดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมกับตระกูลเย่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกันอีก” คำพูดประโยคสุดท้ายของเย่ซือเฉินพูดตัดสินใจอย่างเด็ดขาด โดยไม่ลังเล ตรงๆและเรียบง่าย

ด้วยวิธีนี้ ก็จึงไม่มีใครสงสัยถึงความสัมพันธ์ที่ตัดขาดกันระหว่างคุณชายสามเย่กับตระกูลเย่อีก คุณชายสามเย่นั้นเอาจริง และจริงจังมาก

อีกทั้งคุณชายสามเย่ไม่รับส่วนแบ่งใดๆของตระกูลเย่ ไม่รับเงินจากตระกูลเย่แม้แต่แดงเดียว และจะไม่ข้องเกี่ยวกับบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปอีก

ทุกสิ่งทุกอย่างทุกคนต่างได้ยินมันอย่างชัดเจน

“เขา เขาทำอย่างนี้ได้ยังไง? เขาไปออกใบรับรองที่สถานีตำรวจได้ยังไง ? นี่เขาจะตัดขาดกับตระกูลเย่จริงๆเหรอ ?”คุณย่าเย่ในตอนนี้ที่นั่งอยู่บนโซฟา หลังตรง เห็นได้ชัดว่าใบหน้าซีดเซียวเล็กน้อย ในตอนนี้เองคุณย่าเย่ก็ร้อนรนขึ้นมา

“ตอนนี้ทำยังไงดี ? ให้เขาทำอย่างนี้ไม่ได้แน่”คุณปู่เย่ก็ร้อนรน ร้อนรนจนไม่รู้จะทำยังไง

“ให้เย่ซือเฉินกลับมาก่อน ขอแค่เย่ซือเฉินกลับมา ขอแค่เย่ซือเฉินกลับมาที่ตระกูลเย่ ทุกอย่างก็จะไม่มีอะไร”ดวงตาของคุณย่าเย่เบิกกว้าง จู่ๆก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างตื่นเต้น

“แต่เขาในตอนนี้จะกลับมาได้ยังไง อีกทั้งก่อนหน้านั้นเขาก็ไม่รับสายของฉันด้วย ตอนนี้ก็คงยิ่งไม่รับสายของฉันแน่”คุณปู่เย่รู้ดีว่าหากให้เย่ซือเฉินกลับมาในตอนนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นก็จะเหมือนไม่มีอะไร แต่ประเด็นคือเย่ซือเฉินจะกลับมาตอนนี้เหรอ ?

เย่ซือเฉินให้ทางตำรวจออกใบรับรองให้ เพื่อยืนยันการตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่ แล้วเขาจะกลับมาที่ตระกูลเย่อีกได้ยังไง ?

วิธีนี้พูดแล้วก็เหมือนไม่ได้พูด

คุณย่าเย่ตกตะลึง กลอกตาไปมา จู่ๆก็นึกอะไรดีๆขึ้นมาได้ “คุณโทรไปหาฉิงถิงตอนนี้เลย แล้วให้เย่ซือเฉินรับสาย คุณบอกเขาว่าเวินลั่วฉิงกับเด็กหญิงตัวน้อยอยู่ที่บ้านของตระกูลเย่ ให้เขากลับมา ขอแค่เขากลับมา เรื่องนี้ก็จะเปลี่ยนได้ ขอแค่เขากลับมา ที่เขาพูดมาก่อนหน้านั้นก็เท่ากับโมฆะ เรื่องทั้งหมดก็จะเป็นแค่เรื่องล้อเล่นเท่านั้น”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+