ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 1257 มีคนกระวนกระวายแล้ว (2)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 1257 มีคนกระวนกระวายแล้ว (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ดังนั้นคุณย่าเย่รู้ว่าเรื่องที่คุณปู่เย่ตัดสินใจแล้ว หากพูดตรงๆ ยังไงก็ไม่มีประโยชน์แน่นอน ทว่าตอนนี้สามารถใช่เรื่องงานแต่งขององค์กรโกสต์ซิตี้มาโน้มน้าวคุณปู่เย่ได้แล้ว

คุณปู่เย่ได้ยินคำพูดของคุณย่าเย่แล้ว สีหน้าก็อึมครึมลง ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ตอนนี้เรื่องราววุ่นวายถึงขั้นนี้แล้ว ไม่รู้ว่าทางองค์กรโกสต์ซิตี้จะมีความคิดยังไง?!”

“ทางองค์กรโกสต์ซิตี้ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ องค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ แสดงว่าองค์กรโกสต์ซิตี้ก็ยังอยากแต่งงานกับตระกูลเย่ของเราอยู่ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือให้ซือเฉินกลับบ้านเย่ สำหรับเรื่องของลูกซือเฉิน ห้ามให้คนขององค์กรโกสต์ซิตี้รู้เด็ดขาด” ก่อนหน้านี้ที่คุณย่าเย่สงสัยฐานะของถังจื่อโม่แต่กลับไม่พูดให้กระจ่าง เพราะว่าเหตุผลนี้ เพราะว่าเธอยังคิดถึงเรื่องงานแต่งกับองค์กรโกสต์ซิตี้อยู่

“แต่ว่ายัยเด็กนั้น……” ใบหน้าของคุณปู่เย่มีความลำบากใจเพิ่มขึ้น ยัยเด็กนั่นต้องเป็นคนที่มีความสามารถมากๆ แน่ ในอนาคตจะต้องทำงานใหญ่แน่นอน งั้นหากเป็นลูกของซือเฉิน ก็ต้องกลับบ้านเย่อยู่แล้ว ทำงานให้กับบ้านเย่

เด็กที่ฉลาดไหวพริบดีแบบนี้ก็ไม่ได้เยอะ คุณปู่เย่พอใจในตัวของถังจื่อโม่มากๆ ดังนั้นถึงแม้ว่าถังจื่อโม่จะเปิดโปงการเสแสร้งของเขาแล้ว เขาเองก็ไม่ได้โกรธมาก แต่กลับคิดว่าจะทำยังไงให้ถังจื่อโม่กลับบ้านเย่

คุณปู่เย่สนใจในความสามารถของถังจื่อโม่มากๆ แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญกว่า นั่นก็คือเป็นลูกของซือเฉิน เป็นคนของตระกูลเย่

คนในตระกูลเย่ถึงแม้จะเป็นยังไงก็ต้องคิดเผื่อตระกูลเย่ เหมือนกับซือเฉิน ถึงแม้ว่าจะไม่พอใจในตัวเขามากมาย ถึงขั้นมีความเกลียดแค้นในเรื่องบางอย่างที่ทำกับเขา ทว่าตลอดหลายปีมานี้ซือเฉินก็ยังจัดการบริษัทไว้เป็นอย่างดี เจริญเติบโตอย่างดี

และถึงแม้ว่าตอนนี้ซือเฉินจะตัดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่แล้ว ก็ไม่มีทำเรื่องที่ไม่ดีต่อบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปแน่นอน

นี่ก็คือความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างคนกันเองและคนนอก!

ในด้านนี้ เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าวิสัยทัศน์ของคุณย่าเย่นั้นไกลยิ่งกว่าคุณปู่เย่

“ตอนนี้ซือเฉินสร้างเรื่องวุ่นวายแบบนี้ออกมา ถึงแม้ว่าองค์กรโกสต์ซิตี้จะไม่ทำอะไร แต่ว่าพวกเขาต้องมีความไม่พอใจแน่นอน หากตอนนี้พวกเขารู้เรื่องนี้ที่ซือเฉินมีลูก พอถึงเวลาเกรงว่าจะคุยไม่สำเร็จแล้ว ไม่แน่พวกเราอาจจะสร้างเรื่องบาดหมางกับองค์กรโกสต์ซิตี้ได้ อำนาจขององค์กรโกสต์ซิตี้นายก็รู้ หากองค์กรโกสต์ซิตี้ถือเราเป็นศัตรู ตระกูลเย่ของเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาแน่นอน” คุณย่าเย่แทรกคำพูดของคุณปู่เย่เลย เธอไม่อยากให้เด็กนั้นกลับบ้านเย่ ยิ่งไม่อยากให้เด็กนั้นเข้าบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป

นั่นเป็นลูกของซือเฉิน ทว่าก็เป็นของเวินลั่วฉิง เวินลั่วฉิงเจ้าเล่ห์คดในข้องอในกระดูก หากลูกของเวินลั่วฉิงเข้ามาในบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป พอถึงเวลาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปยังสามารถใช้นามสกุลเย่หรือเปล่า

อีกอย่างคือเธอไม่ชอบเด็กคนนั้นจริงๆ!!

“งั้นเธอมีวิธีอะไร?” คุณปู่เย่ได้ยินคุณย่าเย่พูดจริงจังขนาดนั้น ก็ไม่ได้ยืนหยัดในความคิดเห็นของตัวเอง สำหรับเรื่องงานแต่งขององค์กรโกสต์ซิตี้ แน่นอนว่าเขาเองก็ไม่อยากยอมแพ้แบบนี้ อีกอย่างพวกเขายังเซนต์สัญญางานแต่งอีกด้วย และเปิดเผยกับคนนอกแล้ว ไม่สามารถแล้วไปแบบนี้ได้

“เราจะต้องคิดหาวิธีให้ซือเฉินกลับบ้านเย่ สำหรับเด็กคนนั้น หากนายรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่สามารถพัฒนาให้เก่งได้ พวกเราสามารถส่งเขาไปเรียนที่ต่างประเทศ ไปเรียนรู้ พวกเรายังสามารถหาคนไปสอนเขา อบรมเขา รอเขาเรียนจบประสบความสำเร็จแล้ว ค่อยให้เขากลับมา แล้วให้เขาเข้าบริษัทไป พอถึงเวลานั้น ซือเฉินและองค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ก็เป็นสามีภรรยากันแล้ว ถึงแม้ว่าองค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้จะรู้ฐานะของเด็กแล้ว ก็คงจะไม่มีผลกระทบมากมาย” คุณย่าเย่คือผู้หญิงคนหนึ่ง เข้าใจผู้หญิงด้วยกัน หากก่อนที่ไม่ได้แต่งงาน เรื่องที่ซือเฉินมีลูก อาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตได้

แต่ว่าหากเป็นหลังแต่งงาน โดยเฉพาะหลังแต่งงานหลายปีแล้ว ถึงแม้ว่าองค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้จะรู้เรื่องนี้แล้ว ก็ได้แต่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น

“ฉันอยากจะเก็บเด็กคนนั้นเอาไว้ สอนเขาด้วยตัวเอง เขา……” เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าคุณปู่เย่พอใจในตัวถังจื่อโม่มากๆ อยู่ต่อหน้าผลประโยชน์แบบนี้ ครั้งนี้กลับไม่ได้ตอบตกลงคุณย่าเย่ให้ส่งคนออกไป

“นายน่าจะยังไม่ค่อยชัดเจนในความสามารถขององค์กรโกสต์ซิตี้ หากนายเก็บเด็กไว้ข้างกาย ในไม่ช้าคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ต้องรู้แน่นอน พอถึงเวลาหากทำให้หัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้โมโห งั้นผลที่ตามมาพวกเรารับไม่ไหวจริงๆ ก่อนหน้านี้ที่เกิดเรื่องขึ้นกับถังหลิน เกิดเรื่องขึ้นกับถังหยุนเฉิง ต่างก็มีความเกี่ยวข้องกับองค์กรโกสต์ซิตี้ องค์กรโกสต์ซิตีเข้าร่วมเพียงแค่ส่วนเล็กๆ ส่วนเดียว ก็เกือบจะทำลายถังหลินและถังหยุนเฉิงแล้ว หากไม่ใช่เพราะบ้านถังพึ่งยอมรับคุณหนูใหญ่กลับมาพอดี งั้นบ้านถังคงแย่แน่ บ้านถังตั้งตัวเป็นศัตรูกับองค์กรโกสต์ซิตี้ ก็เหมือนกับเอาไข่มาปาก้อนหิน นายว่าพวกเราบ้านเย่จะสามารถต่อต้านกับองค์กรโกสต์ซิตี้ได้เหรอ?” คำพูดนี้ของคุณย่าเย่ก็ไม่เชิงว่ามีเจตนาพูดให้ผู้อื่นตกใจ มันก็คือความจริง

“เรื่องนี้ฉันเองก็เคยได้ยินมาบ้างแล้ว” สีหน้าของคุณปู่เย่ดูหนักแน่นเพิ่มขึ้น ดูเหมือนว่าจะรู้ถึงความสำคัญของปัญหาแล้ว “ห้ามสร้างเรื่องบาดหมางกับองค์กรโกสต์ซิตี้”

“ถูก เราห้ามสร้างเรื่องบาดหมางกับองค์กรโกสต์ซิตี้เด็ดขาด อีกอย่างพวกเราจะต้องสร้างงานแต่งกับองค์กรโกสต์ซิตี้ รอให้ซือเฉินแต่งงานกับองค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้แล้ว พอถึงเวลาพวกเขาจะต้องมีลูกแน่นอน ซือเฉินฉลาดขนาดนี้ ลูกที่คลอดออกมาแต่ละคนจะต้องฉลาด จะต้องไหวพริบดีแน่นอน นายยังจะกลัวว่าจะไม่มีคนมาสืบสานต่ออีกเหรอ? พอถึงเวลาพวกเราสามารถให้ซือเฉินคลอดหลายๆ คน พอถึงเวลานายก็มาอบรมสั่งสอนด้วยตัวเองเลย” ต้องบอกเลยว่าคุณย่าเย่เข้าใจคุณปู่เย่มากๆ เธอรู้ดีว่าควรจะพูดโน้มน้าวใจคุณปู่เย่ยังไง

“อื้ม คำพูดนี้ของเธอพูดถูกมาก ลูกของซือเฉินแต่ละคนจะต้องเพอร์เฟกต์แน่ๆ รอให้ซือเฉินแต่งงานกับองค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้แล้ว ก็ให้พวกเขาคลอดหลายๆ คน” ในที่สุดคุณปู่เย่ก็โล่งใจ ทำไมเขาถึงต้องมากังวลกับเด็กคนหนึ่งล่ะ ซือเฉินยังสามารถคลอดลูกคนอื่นๆ ได้อีก

“เพื่อที่จะเป็นการป้องกันไว้ก่อน เวินลั่วฉิงและเด็กอีกสองคน พวกเราจะต้องรีบจัดการให้เร็วที่สุด ห้ามให้คนขององค์กรโกสต์ซิตี้รู้เด็ดขาด” คุณย่าเย่เห็นสีหน้าของคุณย่าเย่แล้วในที่สุดก็พอใจสักที เป้าหมายสำเร็จแล้ว คุณย่าเย่อารมณ์ดีมาก ทว่าเธอก็ยังไม่ลืมเรื่องที่จะต้องจัดการกับเวินลั่วฉิงและเด็กอีกสองคน

สำหรับคุณย่าเย่แล้ว เวินลั่วฉิงกับเด็กอีกสองคนเป็นสิ่งกีดขวางที่พวกเขาจะพึ่งพาองค์กรโกสต์ซิตี้ จำเป็นจะต้องรีบจัดการ

“ก่อนหน้านี้บอกว่าจะส่งเด็กคนนั้นจากไป ขายเวินลั่วฉิงไปยังเขตบนดอย ตอนนี้มีเด็กผู้ชายเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน เด็กผู้ชายคนนี้จะไม่เหมือนกันกับเด็กผู้หญิงแน่นอน หลังจากนี้จะต้องให้เขากลับมา” คุณปู่เย่ขมวดคิ้วขึ้น เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่ากำลังนึกถึงปัญหานี้อย่างจริงจังอยู่ และฟังจากความหมายของคุณปู่เย่แล้ว ก็คือส่งถังจื่อซีจากไปแล้วก็ตัดสินใจจะไม่ให้ถังจื่อซีกลับมาอีก

“ฉันจะเลือกสถานที่ที่ดีให้กับเด็กผู้ชายคนนั้น เลือกโรงเรียนที่ดี ห้ามสิ้นเปลืองความสามารถของเด็กผู้ชายคนนั้นเด็ดขาด” คุณปู่เย่ชอบเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิงอยู่แล้ว บวกกับเจอความสามารถของถังจื่อโม่อีก ดังนั้นคุณปู่เย่ก็ยังถือว่าเอ็นดูถังจื่อโม่อยู่

“แบบนี้ก็ดี รอให้เขาเรียนจบแล้ว ก็ให้เขากลับมา” ครั้งนี้ คุณย่าเย่ไม่ได้คัดค้านกลับ ยัยเด็กนั่นอายุพึ่งห้าขวบ รอให้เขาเรียนจบอย่างน้อยก็ต้อง20ปี เรื่องหลังจาก20ปีใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ในอนาคตซือเฉินและองค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้แต่งงานกันจะต้องมีลูกของพวกเขาแน่นอน อีกอย่างยังสามารถคลอดได้หลายคน เธอไม่ขาดหลานๆแน่นอน สำหรับลูกของเวินลั่วฉิง ตอนนี้เธอก็เริ่มมีความไม่ชอบแล้ว

“จริงด้วย ให้คนไปหาเด็กผู้หญิงคนนั้นกับเวินลั่วฉิง ตอนนี้พวกเขาเป็นยังไงบ้างแล้ว?” คุณย่าเย่นึกถึงเรื่องในวันนั้นแล้ว สีหน้าก็อึมครึมลง “ยัยเด็กนั่นมาวุ่นวายไปจะครึ่งวัน ทำลายแผนการของเราไปหมด ตอนนี้ไม่มีวิธีไปสนใจสถานการณ์เรื่องนั้นแล้ว”

“ฉันลองโทรถามสถานการณ์ดู” คุณปู่เย่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา โทรเบอร์หนึ่งออกไป

โทรศัพท์ฝ่ายตรงข้ามดังไปหลายรอบมากจึงจะโทรติด

“เรื่องที่ฉันให้พวกนาจัดการเป็นยังไงบ้างแล้ว? หาคนเจอหรือยัง?” พอคุณปู่เย่โทรติดแล้วก็ถามด้วยเสียงเข้มเลย

“ยังครับ พวกเราหากทั่วเมืองAแล้วครับ ยังไม่เจอคนที่ท่านจะตามหาเลยครับ” ฝ่ายตรงข้ามมีเสียงดังผ่านมา ราวกับว่ารู้สึกผิด มีความเชื่องช้าเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะยังหาคนไม่เจอดังนั้นจึงมีความมั่นใจไม่เพียงพอหรือเปล่า?

“พวกนายทำงานกันยังไง? เวลาผ่านมานานขนาดนี้แล้วกลับไม่มีข่าวอะไรเลย?” คุณปู่เย่โมโหแล้ว “ก็แค่ให้นายตามหาคนสองคนไม่ใช่เหรอ? ไม่ได้เก่งอะไร ไม่ได้ลึกลับอะไร หายากขนาดนี้เลยเหรอ?”

“คุณปู่เย่ พวกเราพยายามสุดความสามารถแล้วครับ ตอนนี้หาไม่เจอจริงๆครับ” อีกทางหนึ่งของโทรศัพท์ คนคนนั้นระมัดระวังมาก น้ำเสียงยิ่งเชื่องช้าไปใหญ่ อีกอย่างความเร็วในการพูดก็ช้ามาก ราวกับว่าเหมือนถูกคนอะไรควบคุมอยู่…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 1257 มีคนกระวนกระวายแล้ว (2)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 1257 มีคนกระวนกระวายแล้ว (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ดังนั้นคุณย่าเย่รู้ว่าเรื่องที่คุณปู่เย่ตัดสินใจแล้ว หากพูดตรงๆ ยังไงก็ไม่มีประโยชน์แน่นอน ทว่าตอนนี้สามารถใช่เรื่องงานแต่งขององค์กรโกสต์ซิตี้มาโน้มน้าวคุณปู่เย่ได้แล้ว

คุณปู่เย่ได้ยินคำพูดของคุณย่าเย่แล้ว สีหน้าก็อึมครึมลง ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ตอนนี้เรื่องราววุ่นวายถึงขั้นนี้แล้ว ไม่รู้ว่าทางองค์กรโกสต์ซิตี้จะมีความคิดยังไง?!”

“ทางองค์กรโกสต์ซิตี้ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ องค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ แสดงว่าองค์กรโกสต์ซิตี้ก็ยังอยากแต่งงานกับตระกูลเย่ของเราอยู่ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือให้ซือเฉินกลับบ้านเย่ สำหรับเรื่องของลูกซือเฉิน ห้ามให้คนขององค์กรโกสต์ซิตี้รู้เด็ดขาด” ก่อนหน้านี้ที่คุณย่าเย่สงสัยฐานะของถังจื่อโม่แต่กลับไม่พูดให้กระจ่าง เพราะว่าเหตุผลนี้ เพราะว่าเธอยังคิดถึงเรื่องงานแต่งกับองค์กรโกสต์ซิตี้อยู่

“แต่ว่ายัยเด็กนั้น……” ใบหน้าของคุณปู่เย่มีความลำบากใจเพิ่มขึ้น ยัยเด็กนั่นต้องเป็นคนที่มีความสามารถมากๆ แน่ ในอนาคตจะต้องทำงานใหญ่แน่นอน งั้นหากเป็นลูกของซือเฉิน ก็ต้องกลับบ้านเย่อยู่แล้ว ทำงานให้กับบ้านเย่

เด็กที่ฉลาดไหวพริบดีแบบนี้ก็ไม่ได้เยอะ คุณปู่เย่พอใจในตัวของถังจื่อโม่มากๆ ดังนั้นถึงแม้ว่าถังจื่อโม่จะเปิดโปงการเสแสร้งของเขาแล้ว เขาเองก็ไม่ได้โกรธมาก แต่กลับคิดว่าจะทำยังไงให้ถังจื่อโม่กลับบ้านเย่

คุณปู่เย่สนใจในความสามารถของถังจื่อโม่มากๆ แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญกว่า นั่นก็คือเป็นลูกของซือเฉิน เป็นคนของตระกูลเย่

คนในตระกูลเย่ถึงแม้จะเป็นยังไงก็ต้องคิดเผื่อตระกูลเย่ เหมือนกับซือเฉิน ถึงแม้ว่าจะไม่พอใจในตัวเขามากมาย ถึงขั้นมีความเกลียดแค้นในเรื่องบางอย่างที่ทำกับเขา ทว่าตลอดหลายปีมานี้ซือเฉินก็ยังจัดการบริษัทไว้เป็นอย่างดี เจริญเติบโตอย่างดี

และถึงแม้ว่าตอนนี้ซือเฉินจะตัดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่แล้ว ก็ไม่มีทำเรื่องที่ไม่ดีต่อบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปแน่นอน

นี่ก็คือความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างคนกันเองและคนนอก!

ในด้านนี้ เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าวิสัยทัศน์ของคุณย่าเย่นั้นไกลยิ่งกว่าคุณปู่เย่

“ตอนนี้ซือเฉินสร้างเรื่องวุ่นวายแบบนี้ออกมา ถึงแม้ว่าองค์กรโกสต์ซิตี้จะไม่ทำอะไร แต่ว่าพวกเขาต้องมีความไม่พอใจแน่นอน หากตอนนี้พวกเขารู้เรื่องนี้ที่ซือเฉินมีลูก พอถึงเวลาเกรงว่าจะคุยไม่สำเร็จแล้ว ไม่แน่พวกเราอาจจะสร้างเรื่องบาดหมางกับองค์กรโกสต์ซิตี้ได้ อำนาจขององค์กรโกสต์ซิตี้นายก็รู้ หากองค์กรโกสต์ซิตี้ถือเราเป็นศัตรู ตระกูลเย่ของเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาแน่นอน” คุณย่าเย่แทรกคำพูดของคุณปู่เย่เลย เธอไม่อยากให้เด็กนั้นกลับบ้านเย่ ยิ่งไม่อยากให้เด็กนั้นเข้าบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป

นั่นเป็นลูกของซือเฉิน ทว่าก็เป็นของเวินลั่วฉิง เวินลั่วฉิงเจ้าเล่ห์คดในข้องอในกระดูก หากลูกของเวินลั่วฉิงเข้ามาในบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป พอถึงเวลาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปยังสามารถใช้นามสกุลเย่หรือเปล่า

อีกอย่างคือเธอไม่ชอบเด็กคนนั้นจริงๆ!!

“งั้นเธอมีวิธีอะไร?” คุณปู่เย่ได้ยินคุณย่าเย่พูดจริงจังขนาดนั้น ก็ไม่ได้ยืนหยัดในความคิดเห็นของตัวเอง สำหรับเรื่องงานแต่งขององค์กรโกสต์ซิตี้ แน่นอนว่าเขาเองก็ไม่อยากยอมแพ้แบบนี้ อีกอย่างพวกเขายังเซนต์สัญญางานแต่งอีกด้วย และเปิดเผยกับคนนอกแล้ว ไม่สามารถแล้วไปแบบนี้ได้

“เราจะต้องคิดหาวิธีให้ซือเฉินกลับบ้านเย่ สำหรับเด็กคนนั้น หากนายรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่สามารถพัฒนาให้เก่งได้ พวกเราสามารถส่งเขาไปเรียนที่ต่างประเทศ ไปเรียนรู้ พวกเรายังสามารถหาคนไปสอนเขา อบรมเขา รอเขาเรียนจบประสบความสำเร็จแล้ว ค่อยให้เขากลับมา แล้วให้เขาเข้าบริษัทไป พอถึงเวลานั้น ซือเฉินและองค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ก็เป็นสามีภรรยากันแล้ว ถึงแม้ว่าองค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้จะรู้ฐานะของเด็กแล้ว ก็คงจะไม่มีผลกระทบมากมาย” คุณย่าเย่คือผู้หญิงคนหนึ่ง เข้าใจผู้หญิงด้วยกัน หากก่อนที่ไม่ได้แต่งงาน เรื่องที่ซือเฉินมีลูก อาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตได้

แต่ว่าหากเป็นหลังแต่งงาน โดยเฉพาะหลังแต่งงานหลายปีแล้ว ถึงแม้ว่าองค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้จะรู้เรื่องนี้แล้ว ก็ได้แต่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น

“ฉันอยากจะเก็บเด็กคนนั้นเอาไว้ สอนเขาด้วยตัวเอง เขา……” เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าคุณปู่เย่พอใจในตัวถังจื่อโม่มากๆ อยู่ต่อหน้าผลประโยชน์แบบนี้ ครั้งนี้กลับไม่ได้ตอบตกลงคุณย่าเย่ให้ส่งคนออกไป

“นายน่าจะยังไม่ค่อยชัดเจนในความสามารถขององค์กรโกสต์ซิตี้ หากนายเก็บเด็กไว้ข้างกาย ในไม่ช้าคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ต้องรู้แน่นอน พอถึงเวลาหากทำให้หัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้โมโห งั้นผลที่ตามมาพวกเรารับไม่ไหวจริงๆ ก่อนหน้านี้ที่เกิดเรื่องขึ้นกับถังหลิน เกิดเรื่องขึ้นกับถังหยุนเฉิง ต่างก็มีความเกี่ยวข้องกับองค์กรโกสต์ซิตี้ องค์กรโกสต์ซิตีเข้าร่วมเพียงแค่ส่วนเล็กๆ ส่วนเดียว ก็เกือบจะทำลายถังหลินและถังหยุนเฉิงแล้ว หากไม่ใช่เพราะบ้านถังพึ่งยอมรับคุณหนูใหญ่กลับมาพอดี งั้นบ้านถังคงแย่แน่ บ้านถังตั้งตัวเป็นศัตรูกับองค์กรโกสต์ซิตี้ ก็เหมือนกับเอาไข่มาปาก้อนหิน นายว่าพวกเราบ้านเย่จะสามารถต่อต้านกับองค์กรโกสต์ซิตี้ได้เหรอ?” คำพูดนี้ของคุณย่าเย่ก็ไม่เชิงว่ามีเจตนาพูดให้ผู้อื่นตกใจ มันก็คือความจริง

“เรื่องนี้ฉันเองก็เคยได้ยินมาบ้างแล้ว” สีหน้าของคุณปู่เย่ดูหนักแน่นเพิ่มขึ้น ดูเหมือนว่าจะรู้ถึงความสำคัญของปัญหาแล้ว “ห้ามสร้างเรื่องบาดหมางกับองค์กรโกสต์ซิตี้”

“ถูก เราห้ามสร้างเรื่องบาดหมางกับองค์กรโกสต์ซิตี้เด็ดขาด อีกอย่างพวกเราจะต้องสร้างงานแต่งกับองค์กรโกสต์ซิตี้ รอให้ซือเฉินแต่งงานกับองค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้แล้ว พอถึงเวลาพวกเขาจะต้องมีลูกแน่นอน ซือเฉินฉลาดขนาดนี้ ลูกที่คลอดออกมาแต่ละคนจะต้องฉลาด จะต้องไหวพริบดีแน่นอน นายยังจะกลัวว่าจะไม่มีคนมาสืบสานต่ออีกเหรอ? พอถึงเวลาพวกเราสามารถให้ซือเฉินคลอดหลายๆ คน พอถึงเวลานายก็มาอบรมสั่งสอนด้วยตัวเองเลย” ต้องบอกเลยว่าคุณย่าเย่เข้าใจคุณปู่เย่มากๆ เธอรู้ดีว่าควรจะพูดโน้มน้าวใจคุณปู่เย่ยังไง

“อื้ม คำพูดนี้ของเธอพูดถูกมาก ลูกของซือเฉินแต่ละคนจะต้องเพอร์เฟกต์แน่ๆ รอให้ซือเฉินแต่งงานกับองค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้แล้ว ก็ให้พวกเขาคลอดหลายๆ คน” ในที่สุดคุณปู่เย่ก็โล่งใจ ทำไมเขาถึงต้องมากังวลกับเด็กคนหนึ่งล่ะ ซือเฉินยังสามารถคลอดลูกคนอื่นๆ ได้อีก

“เพื่อที่จะเป็นการป้องกันไว้ก่อน เวินลั่วฉิงและเด็กอีกสองคน พวกเราจะต้องรีบจัดการให้เร็วที่สุด ห้ามให้คนขององค์กรโกสต์ซิตี้รู้เด็ดขาด” คุณย่าเย่เห็นสีหน้าของคุณย่าเย่แล้วในที่สุดก็พอใจสักที เป้าหมายสำเร็จแล้ว คุณย่าเย่อารมณ์ดีมาก ทว่าเธอก็ยังไม่ลืมเรื่องที่จะต้องจัดการกับเวินลั่วฉิงและเด็กอีกสองคน

สำหรับคุณย่าเย่แล้ว เวินลั่วฉิงกับเด็กอีกสองคนเป็นสิ่งกีดขวางที่พวกเขาจะพึ่งพาองค์กรโกสต์ซิตี้ จำเป็นจะต้องรีบจัดการ

“ก่อนหน้านี้บอกว่าจะส่งเด็กคนนั้นจากไป ขายเวินลั่วฉิงไปยังเขตบนดอย ตอนนี้มีเด็กผู้ชายเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน เด็กผู้ชายคนนี้จะไม่เหมือนกันกับเด็กผู้หญิงแน่นอน หลังจากนี้จะต้องให้เขากลับมา” คุณปู่เย่ขมวดคิ้วขึ้น เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่ากำลังนึกถึงปัญหานี้อย่างจริงจังอยู่ และฟังจากความหมายของคุณปู่เย่แล้ว ก็คือส่งถังจื่อซีจากไปแล้วก็ตัดสินใจจะไม่ให้ถังจื่อซีกลับมาอีก

“ฉันจะเลือกสถานที่ที่ดีให้กับเด็กผู้ชายคนนั้น เลือกโรงเรียนที่ดี ห้ามสิ้นเปลืองความสามารถของเด็กผู้ชายคนนั้นเด็ดขาด” คุณปู่เย่ชอบเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิงอยู่แล้ว บวกกับเจอความสามารถของถังจื่อโม่อีก ดังนั้นคุณปู่เย่ก็ยังถือว่าเอ็นดูถังจื่อโม่อยู่

“แบบนี้ก็ดี รอให้เขาเรียนจบแล้ว ก็ให้เขากลับมา” ครั้งนี้ คุณย่าเย่ไม่ได้คัดค้านกลับ ยัยเด็กนั่นอายุพึ่งห้าขวบ รอให้เขาเรียนจบอย่างน้อยก็ต้อง20ปี เรื่องหลังจาก20ปีใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ในอนาคตซือเฉินและองค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้แต่งงานกันจะต้องมีลูกของพวกเขาแน่นอน อีกอย่างยังสามารถคลอดได้หลายคน เธอไม่ขาดหลานๆแน่นอน สำหรับลูกของเวินลั่วฉิง ตอนนี้เธอก็เริ่มมีความไม่ชอบแล้ว

“จริงด้วย ให้คนไปหาเด็กผู้หญิงคนนั้นกับเวินลั่วฉิง ตอนนี้พวกเขาเป็นยังไงบ้างแล้ว?” คุณย่าเย่นึกถึงเรื่องในวันนั้นแล้ว สีหน้าก็อึมครึมลง “ยัยเด็กนั่นมาวุ่นวายไปจะครึ่งวัน ทำลายแผนการของเราไปหมด ตอนนี้ไม่มีวิธีไปสนใจสถานการณ์เรื่องนั้นแล้ว”

“ฉันลองโทรถามสถานการณ์ดู” คุณปู่เย่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา โทรเบอร์หนึ่งออกไป

โทรศัพท์ฝ่ายตรงข้ามดังไปหลายรอบมากจึงจะโทรติด

“เรื่องที่ฉันให้พวกนาจัดการเป็นยังไงบ้างแล้ว? หาคนเจอหรือยัง?” พอคุณปู่เย่โทรติดแล้วก็ถามด้วยเสียงเข้มเลย

“ยังครับ พวกเราหากทั่วเมืองAแล้วครับ ยังไม่เจอคนที่ท่านจะตามหาเลยครับ” ฝ่ายตรงข้ามมีเสียงดังผ่านมา ราวกับว่ารู้สึกผิด มีความเชื่องช้าเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะยังหาคนไม่เจอดังนั้นจึงมีความมั่นใจไม่เพียงพอหรือเปล่า?

“พวกนายทำงานกันยังไง? เวลาผ่านมานานขนาดนี้แล้วกลับไม่มีข่าวอะไรเลย?” คุณปู่เย่โมโหแล้ว “ก็แค่ให้นายตามหาคนสองคนไม่ใช่เหรอ? ไม่ได้เก่งอะไร ไม่ได้ลึกลับอะไร หายากขนาดนี้เลยเหรอ?”

“คุณปู่เย่ พวกเราพยายามสุดความสามารถแล้วครับ ตอนนี้หาไม่เจอจริงๆครับ” อีกทางหนึ่งของโทรศัพท์ คนคนนั้นระมัดระวังมาก น้ำเสียงยิ่งเชื่องช้าไปใหญ่ อีกอย่างความเร็วในการพูดก็ช้ามาก ราวกับว่าเหมือนถูกคนอะไรควบคุมอยู่…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+