ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 1298 ช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน (2)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 1298 ช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เมื่อวานเธอรับตรวจคนไข้ และคุยกับหมอในโรงพยาบาล นอกนั้นก็ไม่ได้เจอหน้าใครอีกเลย หมอที่คุยกับหยวนหยูพี่สืบหมดแล้ว แต่ก็ไม่พบอะไรผิดปกติ เลยให้พวกน้อยมาสืบด้วยกัน”แต่ไหนแต่ไรมาถังหลินเป็นคนไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ทว่าเรื่องนี้ยังไม่พบความผิดปกติใดๆเลยสักนิด

“พี่ใหญ่เจอหน้าหยวนหยูหรือยัง?หยวนหยูพูดว่ายังไงบ้าง?”เย่ซือเฉินได้ยินถังหลินกล่าวก็มีความประหลาดแวบผ่านทางสีหน้า

“พี่ยังไม่ไปเจอหน้าเธอ แต่พี่บอกโจ๋วชิงทันทีว่าหยวนหยูเป็นคนใส่อุปกรณ์ดักฟังให้เขา แล้วโจ๋วชิงบอกว่าจะไปถามหยวนหยู เพราะอุปกรณ์ดักฟังติดตัวโจ๋วชิงเข้าบ้านตระกูลถัง บวกกับความสัมพันธ์พิเศษของโจ๋วชิงกับหยวนหยู พี่คิดว่าโจ๋วชิงต้องถามข้อมูลได้แน่ ประเด็นหลักคือตอนแรกพี่คิดว่าไม่เกี่ยวกับหยวนหยู เลยคิดว่าถามหาคำตอบได้ง่าย แต่……”ถังหลินหยุดพูด พลางลอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก ถังหลินรู้ว่าก่อนหน้านี้เขาคิดตื้นเกินไป

“แต่หยวนหยูไม่ได้พูดอะไรเลย”เวินลั่วฉิงพูดต่อจากถังหลิน“และการโทรของโจ๋วชิงเท่ากับแหวกหญ้าให้งูตื่น”

“ใช่ ตอนนี้พี่ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ชอบมาพากลเรื่อยๆ เมื่อกี้พี่พึ่งคุยโทรศัพท์กับโจ๋วชิงเสร็จ พี่รู้สึกว่าต้องคุยกับหยวนหยู แต่ขนาดโจ๋วชิงยังถามอะไรไม่ได้เลย พี่ยิ่งไม่ได้ใหญ่ พี่ให้พวกน้องมาก็เพื่อให้ฉิงฉิงไปคุยกับหยวนหยูดู เพราะฉิงฉิงถนัดด้านนี้ อาจจะล่อถามอะไรได้บ้าง”ถังหลินรู้ว่าแหวกหญ้าให้งูตื่นแล้ว ดังนั้นจะบุ่มบ่ามไม่ได้ ต้องรอให้เวินลั่วฉิงมาถึงก่อน

อันที่จริงตั้งแต่ที่สืบประวัติของหยวนหยู ถังหลินก็รู้สึกไม่ชอบมาพากลแล้ว จึงโทรหาเวินลั่วฉิงทันที เขาอยากให้เวินลั่วฉิงไปคุยกับหยวนหยูแต่แรกเริ่มแล้ว

และต่อมาเมื่อคุยโทรศัพท์กับโจ๋วชิงเสร็จ รู้ว่าอีกฝ่ายถามข้อมูลอะไรไม่ได้เลย ทั้งยังมีคำถามเพิ่มขึ้นมาอีกมากมาย ถังหลินจึงคิดว่าการไปคุยของเวินลั่วฉิงครั้งนี้จำเป็นมาก

สิ่งสำคัญคือถังหลินคาดไม่ถึงว่าหยวนหยูจะไม่บอกอะไรเลย แถมโจ๋วชิงบอกว่าหยวนหยูรู้อะไรบางอย่าง เมื่ออีกฝ่ายรู้แต่ไม่บอก เรื่องก็จะยิ่งยากเป็นเท่าทวีคูณ

สถานการณ์เช่นนี้ต้องเวินลั่วฉิงออกโรงจึงจะได้

“ตอนนี้หยวนหยูอยู่ไหน?”เวินลั่วฉิงรีบถามหนึ่งประโยค สีหน้าแปรเปลี่ยนเล็กน้อย

“เธอกำลังทำงานในห้องตรวจแพทย์ มีคนไข้เข้าคิวรักษากับเธอมาก เธอกำลังตรวจคนไข้ตลอด น้องวางใจได้ พี่ส่งคนสัเกตการณ์นอกห้องทำงานของเธอแล้ว หากลูกน้องพบความผิดปกติก็จะรีบรายงานพี่ทันที”หลังถังหลินรู้เรื่องก็ส่งคนไปอยู่นอกทำงานของหยวนหยูในเวลาเดียวกันทันที

“พี่ให้แผนกเทคโนโลยีสังเกตมือถือของหยวนหยูแล้ว พวกเราสามารถควบคุมเมื่อมีสายโทรเข้าโทรออก หรือว่ามีข้อความเข้า”เรียกได้ว่าสิ่งที่ถังหลินสามารถสั่งการได้ก็ล้วนทำหมดแล้ว

หลังจากถังหลินเห็นกล้องวงจรปิดจนถึงตอนนี้ เวลาไม่ได้ผ่านไปนานมาก ระยะเวลาสั้นๆอย่างนี้ ถังหลินสามารถสืบประวัติของหยวนหยูอย่างละเอียด และยังสามารถจัดเตรียมทุกอย่างได้ครบครันและรวดเร็วเช่นนี้ เกรงว่าคงมีไม่กี่คนเท่านั้น

“พี่สืบความผิดปกติเรื่องเมื่อวานไม่เจอ เห็นได้ว่าคนนั้นฉลาดแค่ไหน เขาไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้เลย ดังนั้น ถึงจะติดต่อกับหยวนหยู เขาก็คงไม่โทรเข้าเครื่องหยวนหยูหรอก ต้องใช้วิธีอื่นติดต่อแน่”เวินลั่วฉิงเลิกคิ้ว ถังหลินบอกว่าหยวนหยูไม่มีแรงจูงใจทำเรื่องเมื่อวาน เช่นนั้นเมื่อวานต้องมีคนติดต่อหยวนหยูแน่

แต่ตอนนี้ฝีมือระดับถังหลินยังสืบไม่เจอ เห็นได้ชัดว่าคนนั้นไม่ใช้วิธีการติดต่อในยามปกติ

ดังนั้นถังหลินสังเกตความเคลื่อนไหวมือถือของหยวนหยูนั้นไม่มีประโยชน์อะไรเลย

“พี่ก็คิดอย่างนั้น แต่ก็กันไว้ก่อน”ถังหลินเบะปากเล็กน้อย เวลานี้เขาพูดเสียงเบามาก

“พี่มั่นใจว่าเรื่องเมื่อวาน หยวนหยูไม่ได้จงใจทำ เธอถูกใช้เป็นเครื่องมือ โจ๋วชิงก็บอกว่าถึงแม้หยวนหยูไม่ได้บอกอะไร แต่หยวนหยูรู้อะไรบางอย่าง แสดงว่ามีคนให้หยวนหยูทำอย่างนั้น แต่เพราะอะไร พี่ยังสืบไม่เจอ มันยากมาก

คนนั้นจะขึ้นฟ้าลงดินได้?ฉิงฉิง น้องวิเคราะห์สถานการณ์ดูหน่อยสิ?”ถังหลินคลี่คลายปัญหามากมาย แต่เป็นครั้งแรกที่เจอเรื่องแบบนี้ ถังหลินรู้สึกเหมือนเจอผีอย่างไรอย่างนั้นเลย

“น้องไม่รู้ว่าคนนั้นจะขึ้นฟ้าลงดินได้หรือเปล่า แต่น้องรู้ว่าขอเพียงเคยกระทำ ต้องทิ้งร่องรอยไว้แน่ ถึงแม้คนนั้นจะระมัดระวัง รอบคอบสูงขนาดไหนก็ต้องมีรูรั่วแน่ คงไม่แนบเนียนไปหมดหรอก”เวินลั่วฉิงไม่เชื่อเรื่องศัยศารสต์อะไรทั้งนั้น“ไปกันเถอะ ไปที่ห้องทำงานของหยวนหยูก่อน น้องคุยกับหยวนหยู แล้วพวกพี่สังเกตห้องทำงานของเธอ ดูว่าจะพบเบาะแสอะไรหรือเปล่า”

“คนนั้นแนบเนียนอย่างนั้น จะทิ้งพิรุธไว้ที่ห้องทำงานของหยวนหยูได้ยังไง?”ถังหลินชะงัก พลางมองเวินลั่วฉิงด้วยความประหลาดใจ

“พี่ใหญ่ พี่สืบอะไรไม่เจอเลย แสดงว่าเมื่อวานคนนั้นไม่ได้มาด้วยตัวเอง เมื่อเขาไม่มา แสดงว่าต้องควบคุมให้คนอื่นทำแทนเธอ อย่างเช่นเรื่องวางอุปกรณ์ดักฟังไว้ที่ซองเอกสารเป็นต้น คนนั้นไม่กล้าปรากฏตัวเอง งั้นก็ไม่กล้าให้คนมีฝีมือมาปฏิบัติหน้าที่ด้วย ดังนั้นมีร่องรอยทิ้งไว้ในห้องทำงานของหยวนหยูสูง”เวินลั่วฉิงเดินไปพลาง อธิบายให้ถังหลินฟังพลาง

“น้องพูดมีเหตุผล แต่คนที่หยวนหยูเคยเจอหน้าเมื่อวาน พี่สืบมาหมดแล้ว ไม่พบความผิดปกติอะไรเลย”ถังหลินยอมรับว่าเวินลั่วฉิงวิเคราะห์ถูก แต่เรื่องเมื่อวาน ขอเพียงมีข้อสงสัยอันน้อยนิด เขาก็สืบมาหมดแล้ว

“คนที่พี่สืบคือหมอ และมองข้ามคนที่มองข้ามได้ง่าย ซึ่งก็คือ คนไข้”เวินลั่วฉิงไม่ถามก็รู้ว่าถังหลินสืบอะไรไปบ้าง เวินลั่วไม่ยอมรับไม่ได้ว่าคนวางแผนเมื่อวานฉลาดมากๆ

“คนไข้?น้องหมายถึงคนไข้ที่หยวนหยูตรวจเมื่อวานเหรอ?”ถังหลินเข้าใจในสิ่งที่เวินลั่วฉิงพูดขณะนี้

“ใช่ ใช้คนไข้ส่งข่าวจะไม่ตกเป็นที่สนใจมากที่สุด และไม่สังเกตพบง่ายๆ โดยเฉพาะใช้คนไข้ที่มาตรวจอาการจริงๆ ยิ่งไม่มีคนสงสัย”ถึงแม้เวินลั่วฉิงกำลังพูด แต่จังหวะการเดินไม่ได้ช้าลงเลย กลับเร่งฝีเท้าเร็วกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ

“พี่ก็เคยสืบคนไข้ที่หยวนหยูตรวจเมื่อวานแล้ว คนที่เข้าห้องตรวจของหยวนหยูและลงชื่อตรวจกับหยวนหยูเป็นคนคนเดียวกัน พี่ดูกล้องวงจรปิดแล้ว ไม่พบอะไรผิดปกติเลย”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 1298 ช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน (2)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 1298 ช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เมื่อวานเธอรับตรวจคนไข้ และคุยกับหมอในโรงพยาบาล นอกนั้นก็ไม่ได้เจอหน้าใครอีกเลย หมอที่คุยกับหยวนหยูพี่สืบหมดแล้ว แต่ก็ไม่พบอะไรผิดปกติ เลยให้พวกน้อยมาสืบด้วยกัน”แต่ไหนแต่ไรมาถังหลินเป็นคนไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ทว่าเรื่องนี้ยังไม่พบความผิดปกติใดๆเลยสักนิด

“พี่ใหญ่เจอหน้าหยวนหยูหรือยัง?หยวนหยูพูดว่ายังไงบ้าง?”เย่ซือเฉินได้ยินถังหลินกล่าวก็มีความประหลาดแวบผ่านทางสีหน้า

“พี่ยังไม่ไปเจอหน้าเธอ แต่พี่บอกโจ๋วชิงทันทีว่าหยวนหยูเป็นคนใส่อุปกรณ์ดักฟังให้เขา แล้วโจ๋วชิงบอกว่าจะไปถามหยวนหยู เพราะอุปกรณ์ดักฟังติดตัวโจ๋วชิงเข้าบ้านตระกูลถัง บวกกับความสัมพันธ์พิเศษของโจ๋วชิงกับหยวนหยู พี่คิดว่าโจ๋วชิงต้องถามข้อมูลได้แน่ ประเด็นหลักคือตอนแรกพี่คิดว่าไม่เกี่ยวกับหยวนหยู เลยคิดว่าถามหาคำตอบได้ง่าย แต่……”ถังหลินหยุดพูด พลางลอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก ถังหลินรู้ว่าก่อนหน้านี้เขาคิดตื้นเกินไป

“แต่หยวนหยูไม่ได้พูดอะไรเลย”เวินลั่วฉิงพูดต่อจากถังหลิน“และการโทรของโจ๋วชิงเท่ากับแหวกหญ้าให้งูตื่น”

“ใช่ ตอนนี้พี่ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ชอบมาพากลเรื่อยๆ เมื่อกี้พี่พึ่งคุยโทรศัพท์กับโจ๋วชิงเสร็จ พี่รู้สึกว่าต้องคุยกับหยวนหยู แต่ขนาดโจ๋วชิงยังถามอะไรไม่ได้เลย พี่ยิ่งไม่ได้ใหญ่ พี่ให้พวกน้องมาก็เพื่อให้ฉิงฉิงไปคุยกับหยวนหยูดู เพราะฉิงฉิงถนัดด้านนี้ อาจจะล่อถามอะไรได้บ้าง”ถังหลินรู้ว่าแหวกหญ้าให้งูตื่นแล้ว ดังนั้นจะบุ่มบ่ามไม่ได้ ต้องรอให้เวินลั่วฉิงมาถึงก่อน

อันที่จริงตั้งแต่ที่สืบประวัติของหยวนหยู ถังหลินก็รู้สึกไม่ชอบมาพากลแล้ว จึงโทรหาเวินลั่วฉิงทันที เขาอยากให้เวินลั่วฉิงไปคุยกับหยวนหยูแต่แรกเริ่มแล้ว

และต่อมาเมื่อคุยโทรศัพท์กับโจ๋วชิงเสร็จ รู้ว่าอีกฝ่ายถามข้อมูลอะไรไม่ได้เลย ทั้งยังมีคำถามเพิ่มขึ้นมาอีกมากมาย ถังหลินจึงคิดว่าการไปคุยของเวินลั่วฉิงครั้งนี้จำเป็นมาก

สิ่งสำคัญคือถังหลินคาดไม่ถึงว่าหยวนหยูจะไม่บอกอะไรเลย แถมโจ๋วชิงบอกว่าหยวนหยูรู้อะไรบางอย่าง เมื่ออีกฝ่ายรู้แต่ไม่บอก เรื่องก็จะยิ่งยากเป็นเท่าทวีคูณ

สถานการณ์เช่นนี้ต้องเวินลั่วฉิงออกโรงจึงจะได้

“ตอนนี้หยวนหยูอยู่ไหน?”เวินลั่วฉิงรีบถามหนึ่งประโยค สีหน้าแปรเปลี่ยนเล็กน้อย

“เธอกำลังทำงานในห้องตรวจแพทย์ มีคนไข้เข้าคิวรักษากับเธอมาก เธอกำลังตรวจคนไข้ตลอด น้องวางใจได้ พี่ส่งคนสัเกตการณ์นอกห้องทำงานของเธอแล้ว หากลูกน้องพบความผิดปกติก็จะรีบรายงานพี่ทันที”หลังถังหลินรู้เรื่องก็ส่งคนไปอยู่นอกทำงานของหยวนหยูในเวลาเดียวกันทันที

“พี่ให้แผนกเทคโนโลยีสังเกตมือถือของหยวนหยูแล้ว พวกเราสามารถควบคุมเมื่อมีสายโทรเข้าโทรออก หรือว่ามีข้อความเข้า”เรียกได้ว่าสิ่งที่ถังหลินสามารถสั่งการได้ก็ล้วนทำหมดแล้ว

หลังจากถังหลินเห็นกล้องวงจรปิดจนถึงตอนนี้ เวลาไม่ได้ผ่านไปนานมาก ระยะเวลาสั้นๆอย่างนี้ ถังหลินสามารถสืบประวัติของหยวนหยูอย่างละเอียด และยังสามารถจัดเตรียมทุกอย่างได้ครบครันและรวดเร็วเช่นนี้ เกรงว่าคงมีไม่กี่คนเท่านั้น

“พี่สืบความผิดปกติเรื่องเมื่อวานไม่เจอ เห็นได้ว่าคนนั้นฉลาดแค่ไหน เขาไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้เลย ดังนั้น ถึงจะติดต่อกับหยวนหยู เขาก็คงไม่โทรเข้าเครื่องหยวนหยูหรอก ต้องใช้วิธีอื่นติดต่อแน่”เวินลั่วฉิงเลิกคิ้ว ถังหลินบอกว่าหยวนหยูไม่มีแรงจูงใจทำเรื่องเมื่อวาน เช่นนั้นเมื่อวานต้องมีคนติดต่อหยวนหยูแน่

แต่ตอนนี้ฝีมือระดับถังหลินยังสืบไม่เจอ เห็นได้ชัดว่าคนนั้นไม่ใช้วิธีการติดต่อในยามปกติ

ดังนั้นถังหลินสังเกตความเคลื่อนไหวมือถือของหยวนหยูนั้นไม่มีประโยชน์อะไรเลย

“พี่ก็คิดอย่างนั้น แต่ก็กันไว้ก่อน”ถังหลินเบะปากเล็กน้อย เวลานี้เขาพูดเสียงเบามาก

“พี่มั่นใจว่าเรื่องเมื่อวาน หยวนหยูไม่ได้จงใจทำ เธอถูกใช้เป็นเครื่องมือ โจ๋วชิงก็บอกว่าถึงแม้หยวนหยูไม่ได้บอกอะไร แต่หยวนหยูรู้อะไรบางอย่าง แสดงว่ามีคนให้หยวนหยูทำอย่างนั้น แต่เพราะอะไร พี่ยังสืบไม่เจอ มันยากมาก

คนนั้นจะขึ้นฟ้าลงดินได้?ฉิงฉิง น้องวิเคราะห์สถานการณ์ดูหน่อยสิ?”ถังหลินคลี่คลายปัญหามากมาย แต่เป็นครั้งแรกที่เจอเรื่องแบบนี้ ถังหลินรู้สึกเหมือนเจอผีอย่างไรอย่างนั้นเลย

“น้องไม่รู้ว่าคนนั้นจะขึ้นฟ้าลงดินได้หรือเปล่า แต่น้องรู้ว่าขอเพียงเคยกระทำ ต้องทิ้งร่องรอยไว้แน่ ถึงแม้คนนั้นจะระมัดระวัง รอบคอบสูงขนาดไหนก็ต้องมีรูรั่วแน่ คงไม่แนบเนียนไปหมดหรอก”เวินลั่วฉิงไม่เชื่อเรื่องศัยศารสต์อะไรทั้งนั้น“ไปกันเถอะ ไปที่ห้องทำงานของหยวนหยูก่อน น้องคุยกับหยวนหยู แล้วพวกพี่สังเกตห้องทำงานของเธอ ดูว่าจะพบเบาะแสอะไรหรือเปล่า”

“คนนั้นแนบเนียนอย่างนั้น จะทิ้งพิรุธไว้ที่ห้องทำงานของหยวนหยูได้ยังไง?”ถังหลินชะงัก พลางมองเวินลั่วฉิงด้วยความประหลาดใจ

“พี่ใหญ่ พี่สืบอะไรไม่เจอเลย แสดงว่าเมื่อวานคนนั้นไม่ได้มาด้วยตัวเอง เมื่อเขาไม่มา แสดงว่าต้องควบคุมให้คนอื่นทำแทนเธอ อย่างเช่นเรื่องวางอุปกรณ์ดักฟังไว้ที่ซองเอกสารเป็นต้น คนนั้นไม่กล้าปรากฏตัวเอง งั้นก็ไม่กล้าให้คนมีฝีมือมาปฏิบัติหน้าที่ด้วย ดังนั้นมีร่องรอยทิ้งไว้ในห้องทำงานของหยวนหยูสูง”เวินลั่วฉิงเดินไปพลาง อธิบายให้ถังหลินฟังพลาง

“น้องพูดมีเหตุผล แต่คนที่หยวนหยูเคยเจอหน้าเมื่อวาน พี่สืบมาหมดแล้ว ไม่พบความผิดปกติอะไรเลย”ถังหลินยอมรับว่าเวินลั่วฉิงวิเคราะห์ถูก แต่เรื่องเมื่อวาน ขอเพียงมีข้อสงสัยอันน้อยนิด เขาก็สืบมาหมดแล้ว

“คนที่พี่สืบคือหมอ และมองข้ามคนที่มองข้ามได้ง่าย ซึ่งก็คือ คนไข้”เวินลั่วฉิงไม่ถามก็รู้ว่าถังหลินสืบอะไรไปบ้าง เวินลั่วไม่ยอมรับไม่ได้ว่าคนวางแผนเมื่อวานฉลาดมากๆ

“คนไข้?น้องหมายถึงคนไข้ที่หยวนหยูตรวจเมื่อวานเหรอ?”ถังหลินเข้าใจในสิ่งที่เวินลั่วฉิงพูดขณะนี้

“ใช่ ใช้คนไข้ส่งข่าวจะไม่ตกเป็นที่สนใจมากที่สุด และไม่สังเกตพบง่ายๆ โดยเฉพาะใช้คนไข้ที่มาตรวจอาการจริงๆ ยิ่งไม่มีคนสงสัย”ถึงแม้เวินลั่วฉิงกำลังพูด แต่จังหวะการเดินไม่ได้ช้าลงเลย กลับเร่งฝีเท้าเร็วกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ

“พี่ก็เคยสืบคนไข้ที่หยวนหยูตรวจเมื่อวานแล้ว คนที่เข้าห้องตรวจของหยวนหยูและลงชื่อตรวจกับหยวนหยูเป็นคนคนเดียวกัน พี่ดูกล้องวงจรปิดแล้ว ไม่พบอะไรผิดปกติเลย”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+