ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 1326 รอเสพดราม่า (2)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 1326 รอเสพดราม่า (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ผมจะรักษาหยวนหยูให้หาย หยวนหยูฟื้นแล้ว ทุกอย่างก็จะกระจ่างเอง ถึงเวลานั้นเธอไม่ยอมรับก็ไม่ได้แล้ว”โจ๋วชิงรู้ว่าโจ๋วอันหนานไม่ยอมรับเองแน่ ทว่าหากหยวนหยูฟื้น โจ๋วอันหนานก็จะถูกเปิดโปงทันที

ตอนนี้ในสายตาโจ๋วชิง โจ๋วอันหนานไม่ใช่พี่สาวแท้ๆของเขาอีกต่อไป แต่เป็นจอมมารตนหนึ่ง ดังนั้นเขาไม่สนใจความผูกพันทางสายเลือดอะทั้งสิ้น

“ได้” เวินลั่วฉิงเข้าใจความหมายของโจ๋วชิง อันที่จริงเวินลั่วฉิงยังคงตั้งความหวังไว้สูง เธอคิดว่าหากการผ่าตัดไม่ใช่ปัญหาร้ายแรง ก็จะจัดการปัญหาอื่นง่ายกว่า

ฝีมือการแพทย์ของโจ๋วชิงนั้นดีเยี่ยม ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกเขายังสามารถหาหมอคนอื่นมาช่วยด้วยอีกแรง ดังนั้นจึงต้องช่วยหยวนหยูให้ฟื้นได้แน่

อย่างที่โจ๋วชิงบอก ขอเพียงหยวนหยูฟื้นแล้ว โจ๋วอันหนานก็ไม่อาจปัดความรับผิดชอบได้อีก

โจ๋วชิงกำลังติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว

“พี่จะโทรหาดอกเตอร์กู่ ให้เขามาช่วยอีกแรง”ถังหลินก็หยิบมือถือขึ้นมาโทร ถึงแม้จะเชิญตัวดอกเตอร์กู่ยาก ทว่าตอนนี้ดอกเตอร์กู่รับจื่อซีเป็นลูกศิษย์ในโอวาทแล้ว ดังนั้น ดอกเตอร์กู่ต้องยินดีช่วยเหลือแน่

ดังคาด ถังหลินโทรติดพลันอธิบายคร่าวๆ ดอกเตอร์กู่ก็รับปากแล้ว

ตอนนี้โจ๋วอันหนานก็อยู่ในห้องคนไข้ด้วย จึงได้ยินถังหลินคุยโทรศัพท์ เมื่อเธอได้ยินว่าดอกเตอร์กู่รับปากจะมาช่วยก็รู้สึกตกลึง ดอกเตอร์กู่เชิญง่ายตั้งแต่เมื่อไหร่

หากดอกเตอร์กู่มาช่วยด้วยอีกแรง เกรงว่าไม่นานก็จะตรวจพบปัญหา แล้วจะช่วยหยวนหยูให้ฟื้นขึ้นมาได้จริงๆหรือไม่

ถึงแม้เธอไม่เคยเจอหน้าดอกเตอร์กู่มาก่อน ทว่าเธอก็เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของดอกเตอร์กู่ในวงการแพทย์ไม่น้อย ครอบครัวของดอกเตอร์กู่เป็นตระกูลที่สืบทอดการแพทย์มายาวนาน เป็นต้นตำรับและนานกว่าตระกูลโจ๋วของพวกเขามาก

ส่วนตระกูลโจ๋วของพวกเธอพึ่งเข้าวงการแพทย์สมัยคุณปู่ ซึ่งคุณปู่ของเธอเป็นหมอที่ไม่ได้เล่าเรียนตรงสาย ส่วนคุณพ่อของเธอนั้นมีเทคนิคการรักษาไม่เลวเลย จากนั้นจึงสร้างโรงพยาบาลขึ้น และต่อมาเป็นเพราะผลงานของเธอ ชื่อเสียงตระกูลโจ๋วร่ำลือไปไกลโพ้น

ทว่าตระกูลกู่ไม่เหมือนกัน ตระกูลกู่นั่นสืบทอดวิชาแพทย์รุ่นสู่รุ่น เท่าที่รู้มาคือถ่ายทอดวิชาแพทย์มายาวนานกว่าพันปีแล้ว

ได้ยินว่าตระกูลกู่มีเคล็ดวิชาที่ไม่เปิดเผยสู่ภายนอกด้วย

ลูกหลานเกือบทุกคนของตระกูลกู่ล้วนมีพรสวรรค์ด้านการแพทย์มาก ซึ่งคนตระกูลกู่จดจ่อกับการวิจัยและศึกษาวิชาแพทย์อย่างเดียว ไม่เคยล้มเลิกกลางคัน หรือไปทำอาชีพอื่นเลย

กู่หยูมีพรสวรรค์ทางด้านการแพทย์มาก ได้ยินว่าตอนเขาอายุหนึ่งขวบก็สามารถแยกแยะสมุนไพรได้ยี่สิบกว่าชนิด ตอนอายุสามขวบก็รู้วิธีจับชีพจรแล้ว ตอนกู่หยูอายุหกขวบก็สามารถออกใบสั่งยาได้แล้ว

ตอนนี้อายุกู่หยูใกล้จะย่างเข้าห้าสิบปีแล้ว พรสวรรค์ที่เกินมนุษย์ บวกกับการศึกษาเกือบห้าสิบปี แถมกู่หยูยังไปศึกษาที่เมืองนอกมาอีกด้วย มีคนบอกว่าตอนนี้เทคนิคการแพทย์ของกู่หยูถึงขั้นเทพเซียนแล้ว ไม่ว่าจะโรคอะไร กู่หยูก็รักษาได้ทั้งนั้น

ดังนั้นเวลานี้โจ๋วอันหนานรู้สึกกลัวเล็กน้อย ถึงแม้เธอจะปกปิดได้ดี ถึงแม้เธอจะเชื่อมั่นในความสามารถของตน ทว่าเธอก็ยังคงกังวลว่ากู่หยูจะช่วยให้หยวนหยูฟื้นขึ้นมาได้

เมื่อวานเธอติดต่อกับหยวนหยูด้วยตัวเอง ดังนั้นหยวนหยูต้องรู้เรื่องทั้งหมดแน่ ดังนั้นหากหยวนหยูฟื้นขึ้นมา เธอก็จะโดนเปิดโปงแน่นอน

ทว่า โจ๋วอันหนานปรับอารมณ์ของตัวเองให้ใจเย็นลงอย่างรวดเร็ว ไปเป็นไม่ได้หรอก พวกเขาช่วยหยวนหยูให้ฟื้นไม่ได้ ยาที่เธอฉีดให้หยวนหยูคือต้องนอนเป็นเจ้าหญิงนิทราทั้งชีวิต ไม่มีใครช่วยหยวนหยูให้ฟื้นได้ แม้แต่เธอก็ช่วยไม่ได้

อาการของหยวนหยูในตอนนี้ ไม่มีใครช่วยได้เด็ดขาด ถึงแม้กู่หยูมาก็ช่วยไม่ได้เช่นกัน

นึกถึงจุดนี้ โจ๋วอันหนานก็โล่งอก หัวใจที่หวาดระแวงจนยกสูงขึ้นก็ค่อยๆทิ้งตัวลงมา จากนั้นก็กลับมาเรียบเฉยและยโสเช่นเดิม

เธอมองโจ๋วชิงที่กำลังติดต่อประสานงานอยู่ เห็นใบหน้าที่ร้อนรนของโจ๋วชิง เธอก็อดหัวเราะเยาะในใจไม่ได้ โจ๋วชิงรีบร้อนก็ไม่มีประโยชน์ เพราะทุกอย่างกลายเป็นสิ่งตายตัวแล้ว

หยวนหยูไม่มีทางฟื้นขึ้นมาแน่นอน ขอเพียงหยวนหยูไม่ฟื้นก็ไม่มีใครชี้ตัวเอาผิดเธอได้ ถึงเวินลั่วฉิงจะสงสัยเธอก็ไม่มีประโยชน์ เพราะพวกเขาไม่มีหลักฐาน

บัดนี้โจ๋วชิงกำลังยุ่งหัวหมุน ไม่ได้สังเกตโจ๋วอันหนาน ทว่าเวินลั่วฉิงกลับพบความกระหยิ่มใจของโจ๋วอันหนาน

เวินลั่วฉิงรู้สึกหมดคำจะพูดกับอีกฝ่าย โจ๋วอันหนานทำเรื่องโหดร้ายมากมายขนาดนั้น โจ๋วอันหนานทำให้หยวนหยูสลบไสลเช่นนี้ ตอนนี้มองโจ๋วชิงร้อนใจราวกับมดในหม้อเดือด ทว่าเธอก็ยังได้ใจอีก?

โจ๋วอันหนานกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?

หรือว่าโจ๋วอันหนานเป็นโรคจิตจริงๆ?

เวินลั่วฉิงปฏิเสธความคิดนี้ในเวลาต่อมา สภาพจิตใจของโจ๋วอันหนานแข็งแกร่งมาก ดังนั้นไม่มีสิ่งใดกระตุ้นสภาพจิตใจของเธอจนเสียสติได้

ดังนั้นมีเพียงคำอธิบายเพียงอย่างเดียวก็คือ ส่วนลึกของหัวใจโจ๋วอันหนานมืดมนเหลือคณานับ

“รถโรงพยาบาลที่นี่ไม่อยู่พอดี ผมติดต่อไปยังรถโรงพยาบาลในโรงพยาบาลตระกูลโจ๋วแล้ว คงต้องรอสักพัก ผมสั่งการในโรงพยาบาลแล้ว พอพวกเราไปถึงก็สามารถทำการตรวจได้เลย”โจ๋วชิงติดต่อทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว เพราะไม่รู้ว่าโจ๋วอันหนานทำอะไรกับหยวนหยูไว้ ดังนั้นจึงต้องใช้รถโรงพยาบาลถึงจะสะดวกกว่า

“ดอกเตอร์กู่บอกว่าจะมาเดี๋ยวนี้ เขาอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ พี่บอกให้เขารีบมาแล้ว เขาจะได้ให้คำแนะนำพวกเราด้วย”ถังหลินนำมือถือออกมาโทรหากู่หยูอีกครั้ง

แน่นอน ถังหลินไม่ได้ตั้งความหวังทั้งหมดไว้กับกู่หยู ถังหลินอยากให้กู่หยูช่วยเตือนในสิ่งที่โจ๋วชิงอาจจะไม่ได้สังเกต

ตอนที่ถังหลินโทรหากู่หยู กู่หยูอยู่บริเวณใกล้เคียงโรงพยาบาลแห่งนี้พอดี

“ได้ ผมจะไปเดี๋ยวนี้ นายอย่าพึ่งเคลื่อนย้ายคนไข้นะ ผมตรวจดูก่อนแล้วค่อยว่ากัน”กู่หยูอยู่ระหว่างเดินทางมา ซึ่งเวลากู่หยูตรวจอาการจะไม่ค่อยใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ เขาใช้ฝีมือตัวเองล้วนๆ

ตอนนี้ดอกเตอร์กู่ไม่รู้อาการของคนไข้ ดังนั้นเขาเสนอไม่ให้เคลื่อนย้ายคนไข้

“ครับ” ถังหลินเชื่อมั่นในตัวดอกเตอร์กู่เต็มร้อย ดังนั้นไม่ได้ถามความคิดเห็นจากโจ๋วชิงก็ตอบตกลงทันที

“ดอกเตอร์กู่บอกว่าอย่าพึ่งเคลื่อนย้ายคนไข้ รอให้เขามาตรวจก่อน”ถังหลินวางสายก็บอกเจตนาของดอกเตอร์กู่ทันที

“แต่อุปกรณ์ที่นี่ไม่ได้ดีเท่าอุปกรณ์ในโรงพยาบาลตระกูลโจ๋ว ผมเกรงว่าจะตรวจอาการไม่ ……”ตอนที่โจ๋วชิงพูดก็มองไปยังโจ๋วอันหนานอีกครั้ง โจ๋วชิงรู้ว่าฝีมือระดับโจ๋วอันหนานแล้ว จึงตรวจไม่เจอง่ายๆแน่

อุปกรณ์ทางนี้คงทำไม่ได้แน่ ตอนนี้โจ๋วชิงกังวลว่ากระทั่งอุปกรณ์ของตระกูลโจ๋วก็อาจจะทำไม่ได้เหมือนกัน

“รอดูก่อน ดอกเตอร์กู่ไม่ค่อยใช้อุปกรณ์อะไรในการตรวจเลย รอให้เขามาถึงก่อนค่อยว่ากัน”ถังหลินรู้จักกู่หยูอยู่บ้าง ทว่าอันที่จริงถังหลินก็ไม่ได้ตั้งความหวังไว้สูงมากนัก ถังหลินก็รู้ดีว่าการเล่นตุกติกของโจ๋วอันหนานนั้น ไม่สามารถตรวจพบง่ายๆแน่

โจ๋วอันหนานได้ยินคำพูดของถังหลินก็อดหัวเราะในใจไม่ได้ ไม่ใช้อุปกรณ์งั้นหรือ?

ไม่ใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ก็อยากตรวจอาการของหยวนหยูงั้นหรือ?

กลอุบายที่เธอใช้ ไม่ใช้อุปกรณ์ก็คิดอยากจะตรวจเจอเหรอ?

โจ๋วอันหนานรู้สึกว่าเป็นคำพูดที่ตลกที่สุด

เดิมทีโจ๋วอันหนานได้ยินกู่หยูจะมาก็รู้สึกหวาดระแวง แต่พอเธอได้ยินถังหลินพูดเช่นนี้ก็รู้สึกวางใจ

“ครับ ผมฟังพี่ใหญ่”โจ๋วชิงไม่ได้คิดอะไรมากก็ตอบทันที เขาเชื่อในการตัดสินใจของถังหลิน เขารู้ว่าถังหลินหวังดีกับเขาเสมอ ดังนั้นสิ่งที่ถังหลินเสนอมา เขาย่อมรับฟังอยู่แล้ว

โจ๋วอันหนานไม่ได้รีบไป เธอยืนมองด้านข้างด้วยท่าทีรอชมความคึกคัก เธอจะดูว่ากู่หยูไม่ใช้อุปกรณ์แล้วจะตรวจอะไรเจอบ้าง

เธอรู้สึกว่าข่าวลือที่เคยพูดถึงกู่หยูนั้นเกินความจริงมาก ลือกระฉ่อนจนเหมือนกู่หยูเป็นหมอเซียนเทวดาเสียอย่างนั้น วันนี้เธอจะดูว่ากู่หยูมีฝีมือขนาดไหนกันเชียว

ไม่ใช่อุปกรณ์ตรวจอาการ ยังคิดจะหาสาเหตุการป่วยเจออีก?

โจ๋วอันหนานรู้สึกว่ากู่หยูก็แค่วางมาดเฉยๆ!!กู่หยูอยากขยายฝีมือการแพทย์ของตัวเองให้สูงส่ง จึงจงใจแสร้งทำเช่นนี้ จงใจให้คนอื่นลือในลักษณะนี้

ไอ้ลาโง่อย่างโจ๋วชิงกลับเชื่อฟังคำพูดของถังหลินซะงั้น ตลกชะมัด ตลกเหลือเกิน!!

นึกถึงสิ่งนี้ มุมปากโจ๋วอันหนานอดยกโค้งขึ้นไม่ได้ ต่อจากนี้ เธอจะรอดูความสนุกหรรษา รอดูดอกเตอร์กู่จะตบหน้าตัวเองยังไง!!คาดว่าคงจะมีสีสันหนักมาก!!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 1326 รอเสพดราม่า (2)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 1326 รอเสพดราม่า (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ผมจะรักษาหยวนหยูให้หาย หยวนหยูฟื้นแล้ว ทุกอย่างก็จะกระจ่างเอง ถึงเวลานั้นเธอไม่ยอมรับก็ไม่ได้แล้ว”โจ๋วชิงรู้ว่าโจ๋วอันหนานไม่ยอมรับเองแน่ ทว่าหากหยวนหยูฟื้น โจ๋วอันหนานก็จะถูกเปิดโปงทันที

ตอนนี้ในสายตาโจ๋วชิง โจ๋วอันหนานไม่ใช่พี่สาวแท้ๆของเขาอีกต่อไป แต่เป็นจอมมารตนหนึ่ง ดังนั้นเขาไม่สนใจความผูกพันทางสายเลือดอะทั้งสิ้น

“ได้” เวินลั่วฉิงเข้าใจความหมายของโจ๋วชิง อันที่จริงเวินลั่วฉิงยังคงตั้งความหวังไว้สูง เธอคิดว่าหากการผ่าตัดไม่ใช่ปัญหาร้ายแรง ก็จะจัดการปัญหาอื่นง่ายกว่า

ฝีมือการแพทย์ของโจ๋วชิงนั้นดีเยี่ยม ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกเขายังสามารถหาหมอคนอื่นมาช่วยด้วยอีกแรง ดังนั้นจึงต้องช่วยหยวนหยูให้ฟื้นได้แน่

อย่างที่โจ๋วชิงบอก ขอเพียงหยวนหยูฟื้นแล้ว โจ๋วอันหนานก็ไม่อาจปัดความรับผิดชอบได้อีก

โจ๋วชิงกำลังติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว

“พี่จะโทรหาดอกเตอร์กู่ ให้เขามาช่วยอีกแรง”ถังหลินก็หยิบมือถือขึ้นมาโทร ถึงแม้จะเชิญตัวดอกเตอร์กู่ยาก ทว่าตอนนี้ดอกเตอร์กู่รับจื่อซีเป็นลูกศิษย์ในโอวาทแล้ว ดังนั้น ดอกเตอร์กู่ต้องยินดีช่วยเหลือแน่

ดังคาด ถังหลินโทรติดพลันอธิบายคร่าวๆ ดอกเตอร์กู่ก็รับปากแล้ว

ตอนนี้โจ๋วอันหนานก็อยู่ในห้องคนไข้ด้วย จึงได้ยินถังหลินคุยโทรศัพท์ เมื่อเธอได้ยินว่าดอกเตอร์กู่รับปากจะมาช่วยก็รู้สึกตกลึง ดอกเตอร์กู่เชิญง่ายตั้งแต่เมื่อไหร่

หากดอกเตอร์กู่มาช่วยด้วยอีกแรง เกรงว่าไม่นานก็จะตรวจพบปัญหา แล้วจะช่วยหยวนหยูให้ฟื้นขึ้นมาได้จริงๆหรือไม่

ถึงแม้เธอไม่เคยเจอหน้าดอกเตอร์กู่มาก่อน ทว่าเธอก็เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของดอกเตอร์กู่ในวงการแพทย์ไม่น้อย ครอบครัวของดอกเตอร์กู่เป็นตระกูลที่สืบทอดการแพทย์มายาวนาน เป็นต้นตำรับและนานกว่าตระกูลโจ๋วของพวกเขามาก

ส่วนตระกูลโจ๋วของพวกเธอพึ่งเข้าวงการแพทย์สมัยคุณปู่ ซึ่งคุณปู่ของเธอเป็นหมอที่ไม่ได้เล่าเรียนตรงสาย ส่วนคุณพ่อของเธอนั้นมีเทคนิคการรักษาไม่เลวเลย จากนั้นจึงสร้างโรงพยาบาลขึ้น และต่อมาเป็นเพราะผลงานของเธอ ชื่อเสียงตระกูลโจ๋วร่ำลือไปไกลโพ้น

ทว่าตระกูลกู่ไม่เหมือนกัน ตระกูลกู่นั่นสืบทอดวิชาแพทย์รุ่นสู่รุ่น เท่าที่รู้มาคือถ่ายทอดวิชาแพทย์มายาวนานกว่าพันปีแล้ว

ได้ยินว่าตระกูลกู่มีเคล็ดวิชาที่ไม่เปิดเผยสู่ภายนอกด้วย

ลูกหลานเกือบทุกคนของตระกูลกู่ล้วนมีพรสวรรค์ด้านการแพทย์มาก ซึ่งคนตระกูลกู่จดจ่อกับการวิจัยและศึกษาวิชาแพทย์อย่างเดียว ไม่เคยล้มเลิกกลางคัน หรือไปทำอาชีพอื่นเลย

กู่หยูมีพรสวรรค์ทางด้านการแพทย์มาก ได้ยินว่าตอนเขาอายุหนึ่งขวบก็สามารถแยกแยะสมุนไพรได้ยี่สิบกว่าชนิด ตอนอายุสามขวบก็รู้วิธีจับชีพจรแล้ว ตอนกู่หยูอายุหกขวบก็สามารถออกใบสั่งยาได้แล้ว

ตอนนี้อายุกู่หยูใกล้จะย่างเข้าห้าสิบปีแล้ว พรสวรรค์ที่เกินมนุษย์ บวกกับการศึกษาเกือบห้าสิบปี แถมกู่หยูยังไปศึกษาที่เมืองนอกมาอีกด้วย มีคนบอกว่าตอนนี้เทคนิคการแพทย์ของกู่หยูถึงขั้นเทพเซียนแล้ว ไม่ว่าจะโรคอะไร กู่หยูก็รักษาได้ทั้งนั้น

ดังนั้นเวลานี้โจ๋วอันหนานรู้สึกกลัวเล็กน้อย ถึงแม้เธอจะปกปิดได้ดี ถึงแม้เธอจะเชื่อมั่นในความสามารถของตน ทว่าเธอก็ยังคงกังวลว่ากู่หยูจะช่วยให้หยวนหยูฟื้นขึ้นมาได้

เมื่อวานเธอติดต่อกับหยวนหยูด้วยตัวเอง ดังนั้นหยวนหยูต้องรู้เรื่องทั้งหมดแน่ ดังนั้นหากหยวนหยูฟื้นขึ้นมา เธอก็จะโดนเปิดโปงแน่นอน

ทว่า โจ๋วอันหนานปรับอารมณ์ของตัวเองให้ใจเย็นลงอย่างรวดเร็ว ไปเป็นไม่ได้หรอก พวกเขาช่วยหยวนหยูให้ฟื้นไม่ได้ ยาที่เธอฉีดให้หยวนหยูคือต้องนอนเป็นเจ้าหญิงนิทราทั้งชีวิต ไม่มีใครช่วยหยวนหยูให้ฟื้นได้ แม้แต่เธอก็ช่วยไม่ได้

อาการของหยวนหยูในตอนนี้ ไม่มีใครช่วยได้เด็ดขาด ถึงแม้กู่หยูมาก็ช่วยไม่ได้เช่นกัน

นึกถึงจุดนี้ โจ๋วอันหนานก็โล่งอก หัวใจที่หวาดระแวงจนยกสูงขึ้นก็ค่อยๆทิ้งตัวลงมา จากนั้นก็กลับมาเรียบเฉยและยโสเช่นเดิม

เธอมองโจ๋วชิงที่กำลังติดต่อประสานงานอยู่ เห็นใบหน้าที่ร้อนรนของโจ๋วชิง เธอก็อดหัวเราะเยาะในใจไม่ได้ โจ๋วชิงรีบร้อนก็ไม่มีประโยชน์ เพราะทุกอย่างกลายเป็นสิ่งตายตัวแล้ว

หยวนหยูไม่มีทางฟื้นขึ้นมาแน่นอน ขอเพียงหยวนหยูไม่ฟื้นก็ไม่มีใครชี้ตัวเอาผิดเธอได้ ถึงเวินลั่วฉิงจะสงสัยเธอก็ไม่มีประโยชน์ เพราะพวกเขาไม่มีหลักฐาน

บัดนี้โจ๋วชิงกำลังยุ่งหัวหมุน ไม่ได้สังเกตโจ๋วอันหนาน ทว่าเวินลั่วฉิงกลับพบความกระหยิ่มใจของโจ๋วอันหนาน

เวินลั่วฉิงรู้สึกหมดคำจะพูดกับอีกฝ่าย โจ๋วอันหนานทำเรื่องโหดร้ายมากมายขนาดนั้น โจ๋วอันหนานทำให้หยวนหยูสลบไสลเช่นนี้ ตอนนี้มองโจ๋วชิงร้อนใจราวกับมดในหม้อเดือด ทว่าเธอก็ยังได้ใจอีก?

โจ๋วอันหนานกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?

หรือว่าโจ๋วอันหนานเป็นโรคจิตจริงๆ?

เวินลั่วฉิงปฏิเสธความคิดนี้ในเวลาต่อมา สภาพจิตใจของโจ๋วอันหนานแข็งแกร่งมาก ดังนั้นไม่มีสิ่งใดกระตุ้นสภาพจิตใจของเธอจนเสียสติได้

ดังนั้นมีเพียงคำอธิบายเพียงอย่างเดียวก็คือ ส่วนลึกของหัวใจโจ๋วอันหนานมืดมนเหลือคณานับ

“รถโรงพยาบาลที่นี่ไม่อยู่พอดี ผมติดต่อไปยังรถโรงพยาบาลในโรงพยาบาลตระกูลโจ๋วแล้ว คงต้องรอสักพัก ผมสั่งการในโรงพยาบาลแล้ว พอพวกเราไปถึงก็สามารถทำการตรวจได้เลย”โจ๋วชิงติดต่อทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว เพราะไม่รู้ว่าโจ๋วอันหนานทำอะไรกับหยวนหยูไว้ ดังนั้นจึงต้องใช้รถโรงพยาบาลถึงจะสะดวกกว่า

“ดอกเตอร์กู่บอกว่าจะมาเดี๋ยวนี้ เขาอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ พี่บอกให้เขารีบมาแล้ว เขาจะได้ให้คำแนะนำพวกเราด้วย”ถังหลินนำมือถือออกมาโทรหากู่หยูอีกครั้ง

แน่นอน ถังหลินไม่ได้ตั้งความหวังทั้งหมดไว้กับกู่หยู ถังหลินอยากให้กู่หยูช่วยเตือนในสิ่งที่โจ๋วชิงอาจจะไม่ได้สังเกต

ตอนที่ถังหลินโทรหากู่หยู กู่หยูอยู่บริเวณใกล้เคียงโรงพยาบาลแห่งนี้พอดี

“ได้ ผมจะไปเดี๋ยวนี้ นายอย่าพึ่งเคลื่อนย้ายคนไข้นะ ผมตรวจดูก่อนแล้วค่อยว่ากัน”กู่หยูอยู่ระหว่างเดินทางมา ซึ่งเวลากู่หยูตรวจอาการจะไม่ค่อยใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ เขาใช้ฝีมือตัวเองล้วนๆ

ตอนนี้ดอกเตอร์กู่ไม่รู้อาการของคนไข้ ดังนั้นเขาเสนอไม่ให้เคลื่อนย้ายคนไข้

“ครับ” ถังหลินเชื่อมั่นในตัวดอกเตอร์กู่เต็มร้อย ดังนั้นไม่ได้ถามความคิดเห็นจากโจ๋วชิงก็ตอบตกลงทันที

“ดอกเตอร์กู่บอกว่าอย่าพึ่งเคลื่อนย้ายคนไข้ รอให้เขามาตรวจก่อน”ถังหลินวางสายก็บอกเจตนาของดอกเตอร์กู่ทันที

“แต่อุปกรณ์ที่นี่ไม่ได้ดีเท่าอุปกรณ์ในโรงพยาบาลตระกูลโจ๋ว ผมเกรงว่าจะตรวจอาการไม่ ……”ตอนที่โจ๋วชิงพูดก็มองไปยังโจ๋วอันหนานอีกครั้ง โจ๋วชิงรู้ว่าฝีมือระดับโจ๋วอันหนานแล้ว จึงตรวจไม่เจอง่ายๆแน่

อุปกรณ์ทางนี้คงทำไม่ได้แน่ ตอนนี้โจ๋วชิงกังวลว่ากระทั่งอุปกรณ์ของตระกูลโจ๋วก็อาจจะทำไม่ได้เหมือนกัน

“รอดูก่อน ดอกเตอร์กู่ไม่ค่อยใช้อุปกรณ์อะไรในการตรวจเลย รอให้เขามาถึงก่อนค่อยว่ากัน”ถังหลินรู้จักกู่หยูอยู่บ้าง ทว่าอันที่จริงถังหลินก็ไม่ได้ตั้งความหวังไว้สูงมากนัก ถังหลินก็รู้ดีว่าการเล่นตุกติกของโจ๋วอันหนานนั้น ไม่สามารถตรวจพบง่ายๆแน่

โจ๋วอันหนานได้ยินคำพูดของถังหลินก็อดหัวเราะในใจไม่ได้ ไม่ใช้อุปกรณ์งั้นหรือ?

ไม่ใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ก็อยากตรวจอาการของหยวนหยูงั้นหรือ?

กลอุบายที่เธอใช้ ไม่ใช้อุปกรณ์ก็คิดอยากจะตรวจเจอเหรอ?

โจ๋วอันหนานรู้สึกว่าเป็นคำพูดที่ตลกที่สุด

เดิมทีโจ๋วอันหนานได้ยินกู่หยูจะมาก็รู้สึกหวาดระแวง แต่พอเธอได้ยินถังหลินพูดเช่นนี้ก็รู้สึกวางใจ

“ครับ ผมฟังพี่ใหญ่”โจ๋วชิงไม่ได้คิดอะไรมากก็ตอบทันที เขาเชื่อในการตัดสินใจของถังหลิน เขารู้ว่าถังหลินหวังดีกับเขาเสมอ ดังนั้นสิ่งที่ถังหลินเสนอมา เขาย่อมรับฟังอยู่แล้ว

โจ๋วอันหนานไม่ได้รีบไป เธอยืนมองด้านข้างด้วยท่าทีรอชมความคึกคัก เธอจะดูว่ากู่หยูไม่ใช้อุปกรณ์แล้วจะตรวจอะไรเจอบ้าง

เธอรู้สึกว่าข่าวลือที่เคยพูดถึงกู่หยูนั้นเกินความจริงมาก ลือกระฉ่อนจนเหมือนกู่หยูเป็นหมอเซียนเทวดาเสียอย่างนั้น วันนี้เธอจะดูว่ากู่หยูมีฝีมือขนาดไหนกันเชียว

ไม่ใช่อุปกรณ์ตรวจอาการ ยังคิดจะหาสาเหตุการป่วยเจออีก?

โจ๋วอันหนานรู้สึกว่ากู่หยูก็แค่วางมาดเฉยๆ!!กู่หยูอยากขยายฝีมือการแพทย์ของตัวเองให้สูงส่ง จึงจงใจแสร้งทำเช่นนี้ จงใจให้คนอื่นลือในลักษณะนี้

ไอ้ลาโง่อย่างโจ๋วชิงกลับเชื่อฟังคำพูดของถังหลินซะงั้น ตลกชะมัด ตลกเหลือเกิน!!

นึกถึงสิ่งนี้ มุมปากโจ๋วอันหนานอดยกโค้งขึ้นไม่ได้ ต่อจากนี้ เธอจะรอดูความสนุกหรรษา รอดูดอกเตอร์กู่จะตบหน้าตัวเองยังไง!!คาดว่าคงจะมีสีสันหนักมาก!!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+