ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 1373 เข้าใจผิดใหญ่แล้ว(1)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 1373 เข้าใจผิดใหญ่แล้ว(1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลินเป้ยนอนหลับสะลึมสะลืออยู่บนเตียง ถูกคนบีบแก้ม เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจเล็กน้อย เธอขมวดคิ้ว เม้มปากเล็กน้อย จากนั้นก็พลิกตัวไปอีกทาง

ถังหลินมองดูเธอ อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา เสียงเบามาก แต่เสียงหัวเราะค่อนข้างจะชัดเจน!!

อีกฝั่งของสาย ท่านถังได้ยินเสียงหัวเราะของเขา กลับเพียงแค่หายใจเข้าลึก ๆ ด้วยความตกใจ เขาเข้าใจหลานชายของตัวเองดีที่สุด หลานชายยิ่งโตยิ่งสุขุม ยิ่งโตยิ่งเก็บความรู้สึกไว้ในใจ ทุกข์สุขล้วนไม่แสดงออกแต่ไหนแต่ไรมา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินหลานชายหัวเราะแบบนี้ บริสุทธิ์และมีความสุข และยังมีสั่นไหวที่เขาอยากจะมองข้ามแต่ก็มองข้ามไม่ได้

ท่านปู่ถังเม้มปากแน่น ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรไปชั่วขณะ

“คุณปู่ครับ แค่นี้ก่อนนะครับ ผมวางสายแล้วนะ” สายตาที่ถังหลินมองหลินเป้ยแฝงไปด้วยรอยยิ้ม เขาไม่ได้ยินเสียงของท่านปู่หลิน ก็เลยวางสายไป

เขาคิดว่าท่านปู่ถังเพียงแค่ต้องการถามเขาว่าถึงประเทศ R หรือยังเท่านั้นเอง น้อยมากที่เขาและท่านปู่ถังจะคุยเล่นกัน ปกติแล้วท่านปู่ถังก็ไม่ใช่คนที่จะชอบคุยเล่น ถังหลินวางสายไปแบบนี้ก็เป็นเรื่องปกติ

เพียงแต่ว่าท่านปู่ถังที่ถูกตัดสายไปในตอนนี้กลับตะลึงงันไปโดยสิ้นเชิง รีบวางสายแบบนี้ คิดจะทำอะไรกัน?

คิดจะไปทำอะไร?!

ดึกดื่นเที่ยงคืน ผู้ชาย……และผู้ชายอยู่ด้วยกันสองต่อสอง ในโรงแรม จะรีบไปทำอะไร?

ท่านถังที่สุขุมเยือกเย็นแต่ไหนแต่ไรในตอนนี้ใบหน้าถึงกับบิดเบี้ยวไปเล็กน้อย เขาไม่เข้าไปยุ่งเรื่องความรู้สึกของเด็ก ๆ มาโดยตลอด ให้ความอิสระกับพวกเขาตลอดมา ให้พวกเขามีความรักอย่างอิสระ แต่อิสระที่เขาให้ไม่ได้มีให้หลานชายของตัวเองแต่งผู้ชายเข้าบ้านรวมอยู่ด้วย!!

นอกจากนี้ถ้าถังหลินคิดแบบนั้นจริง ๆ

คิดจะแต่งแต่ก็แต่งเข้าบ้านไม่ได้ ประเทศของพวกเขาผู้ชายสองคนแต่งงานกันไม่ได้!!

หรือว่าจะอยู่อย่างลับ ๆ ล่อ ๆ แบบนี้ไปตลอดชีวิตงั้นเหรอ?

“เป็นอะไรไป? เกิดอะไรขึ้นเหรอ? ถังหลินพูดอะไร?” ท่านย่าถังเห็นปฏิกิริยาของเขา หัวใจก็หนักอึ้ง ตระหนักได้ว่าเรื่องราวไม่ค่อยจะดีนัก

ท่านปู่ถังมองดูใบหน้าที่เป็นกังวลของท่านย่าถัง ทำใจไม่ได้ที่จะบอกเธอเล็กน้อย แต่เขารู้ว่าเรื่องแบบนี้ปิดเอาไว้ไม่มิด ยิ่งเขาไม่พูด ภรรยาก็จะยิ่งเป็นกังวล

เพราะเมื่อสักครู่เขาตกใจมากจนเกินไป ลืมที่จะปิดบังไปโดยสิ้นเชิง ภรรยาจะต้องมองออกแล้วแน่

“มีคนอยู่ในห้องของถังหลิน” ท่านปู่ถังอธิบายไปแบบนี้ คำพูดแต่ละคำในประโยคนั้น เขารู้สึกเหมือนกับว่าถูกบีบออกมาตามไรฟัน

ท่านปู่ถังบรรยายถึงเรื่องจริงที่เขาได้รับเมื่อสักครู่ ไม่ได้อธิบายอะไรมาก แต่เมื่อท่านย่าถังเห็นท่าทางของเขาก็เข้าใจขึ้นมาทันที เธอถามเสียงสั่น: “ผู้ชายเหรอ?”

ท่านปู่ถังไม่ได้ตอบ แต่สีหน้าท่าทางเคร่งขรึมขึ้นมากกว่าเดิม

ร่างของท่านย่าถังโอนเอนไปมา แทบจะล้มลงไป เธอพยุงตัวเอาไว้กับเก้าที่อยู่ข้างอย่างรวดเร็ว และยืนนิ่งได้อย่างหวุดหวิด

ถังหลินไปที่ประเทศR เรื่องทางนั้นเมิ่งหลินเป็นคนจัดการด้วยตัวเอง ไม่มีทางที่เมิ่งหลินจะจัดให้ถังหลินอยู่ร่วมห้องกับคนอื่น ยิ่งไปกว่านั้นจากนิสัยของถังหลินก็ไม่มีทางที่จะนอนห้องเดียวกันกับคนอื่น

ดังนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างคนคนนั้นกับถังหลินจะต้องไม่ธรรมดาแน่ ไม่ธรรมดามากด้วย

“อาจจะเข้าใจผิดไปหรือเปล่า บางทีอาจจะเป็นผู้หญิงก็ได้” ท่านย่าถังสูดลมหายใจเข้าอย่างแรง กอดความหวังสุดท้ายเอาไว้แน่น เพราะยังไงก็ได้ยินผ่านทางโทรศัพท์ จะต้องฟังไม่ค่อยชัดแน่ บางทีในห้องถังหลินของเธออาจจะเป็นผู้หญิงก็ได้ใช่ไหมล่ะ?

ถ้าเป็นผู้หญิงจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างมาก ความแตกต่างระหว่างสองอย่างนั้นมันต่างกันมากเลยล่ะ!!

“ผมได้ยินแล้ว เป็นเสียงของผู้ชาย” เป็นธรรมดาที่ท่านปู่ถังจะเข้าใจความหมายของท่านย่าถัง เขาเองก็หวังว่าในห้องของถังหลินนั้นจะเป็นผู้หญิง แต่เมื่อสักครู่เขาได้ยินอย่างชัดเจนมาก นั่นมันเป็นเสียงของผู้ชาย

“หรือว่า คุณจะลองถามเมิ่งหลินดูอีกครั้ง เรื่องของถังหลินเมิ่งหลินเป็นคนจัดการ เมิ่งหลินไปรับถังหลินด้วยตัวเอง และเป็นคนไปส่งถังหลินที่โรงแรมเอง เมิ่งหลินจะต้องรู้ดีแน่” ท่านย่าถังยังคงไม่ตายใจ เธอไม่อยากจะยอมรับเรื่องแบบนั้นจริง ๆ

“ได้ ผมจะลองโทรหาถามเมิ่งหลินอีกครั้ง” ดวงตาของท่านปู่ถังเปล่งประกายขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เขาเองก็คิดว่าควรจะถามให้ชัดเจน บางทีอาจจะเป็นเขาที่ฟังผิดไปจริง ๆ ก็ได้ บางทีในห้องของถังหลินนั้นอาจจะเป็นผู้หญิงจริง ๆ

เพียงแต่ว่า เมื่อท่านปู่ทางนึกถึงคำพูดของเมิ่งหลินเมื่อก่อนหน้านี้ ความหวังที่สว่างไสวขึ้นมาเมื่อสักครู่ก็พลันถูกดับลงไปกว่าครึ่ง ท่านปู่ถังยังคงกดโทรออกไปที่เบอร์ของเมิ่งหลิน

เสียงโทรศัพท์ดังเพียงหนึ่งครั้งเมิ่งหลินก็ได้รับโทรศัพท์แล้ว: “คุณท่านครับ?”

เมิ่งหลินตกใจเล็กน้อยกับสายที่โทรเข้ามาอย่างกะทันหันของท่านปู่ถัง น้ำเสียงฟังแล้วระมัดระวังเป็นอย่างมาก

“นายบอกความจริงกับฉันมา ในห้องของถังหลินมีผู้ชายอยู่คนหนึ่งอยู่ใช่ไหม?” ที่ท่านปู่ถังถามแบบนี้ก็เพราะกลัวว่าเมิ่งหลินจะปิดบังอะไร ที่เขาโทรมาในครั้งนี้ก็เพื่อยืนยันเป็นครั้งสุดท้าย แน่นอนว่าเขาไม่อยากจะฟังคำโกหก

“คุณท่าน?” เมิ่งหลินอุทานออกมาด้วยความตกใจ: “ท่าน? ท่าน……”

เขาติดอยู่ที่คำว่าท่านอยู่ครึ่งค่อนวันก็ไม่สามารถพูดคำพูดอื่นใดออกมาได้อีก เดิมทีเขาเพียงแค่บอกกับท่านปู่ถังทางอ้อมค้อม คิดไม่ถึงว่าท่านปู่ถังจะรู้เรื่องทั้งหมดเร็วขนาดนี้

“งั้นก็หมายความว่าเป็นความจริง ในห้องของเขามีผู้ชายคนหนึ่งอยู่จริง ๆ” เมื่อได้ยินคำตอบของเมิ่งหลิน ท่านปู่ถังก็เข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว ถ้าหากเป็นผู้หญิงจริง ๆ เมิ่งหลินไม่มีทางที่จะมีปฏิกิริยาแบบนี้

ถ้าในห้องของถังหลินเป็นผู้หญิงเมิ่งหลินจะต้องดีใจมากแน่

“ระหว่างเขากับผู้ชายคนนั้นมีความสัมพันธ์ยังไงกันแน่?” ถึงแม้เมื่อสักครู่ท่านปู่ถังได้เดาออกแล้ว แต่ก็ยังอยากจะยืนยันจากปากของเมิ่งหลินอีกครั้ง หรือควรจะบอกว่าท่านปู่ถังอยากได้ยินคำตอบในเชิงปฏิเสธจากปากของเมิ่งหลิน

เมิ่งหลินแอบสูดลมหายใจเข้าหนึ่งครั้ง เขารู้ว่าเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้จะต้องปิดไม่อยู่แน่: “คุณชายถังอุ้มเขาไปที่ห้องครับ”

เมิ่งหลินไม่ได้พูดอะไรมาก แต่คำพูดเพียงประโยคเดียว ก็เพียงพอแล้ว

อุ้มผู้ชายคนหนึ่งกลับไปที่ห้อง งั้นความหมายยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ?

ท่านปู่ถังรู้สึกว่าตัวเองหายใจอย่างยากลำบากไปชั่วขณะ จนแทบจะหายใจไม่ออก เดิมทีก่อนที่จะโทรโทรศัพท์สายนี้เขาได้กอดความหวังอันริบหรี่เอาไว้ แต่คำพูดของเมิ่งหลินได้ทำลายความหวังสุดท้ายเพียงน้อยนิดของเขาอย่างโหดร้าย

อุ้มผู้ชายคนหนึ่งไปที่ห้อง ถังหลินนี่เยี่ยมไปเลย!!

ท่านปู่ถังตัดสายไปเลย

ท่านย่าถังที่ยืนอยู่ด้านข้างเห็นเขามีปฏิกิริยาแบบนี้ พลันไม่กล้าถามอะไรมากไปชั่วขณะ แต่ว่าดูจากปฏิกิริยาแบบนี้ของท่านปู่ถัง ต่อให้ท่านย่าถังไม่ถามก็พอจะเข้าใจอยู่บ้าง

“เวรกรรม เวรกรรมจริง ๆ” ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเพียงใด ในที่สุดท่านปู่ถังก็ได้สติกลับคืนมา เขานั่งลงไปบนโซฟา ท่าทางหมดเรี่ยวหมดแรง เขาคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าหลานชายของเขาจะชอบผู้ชาย

“ตอนนี้จะทำยังไงดีล่ะ? หรือว่า พวกเราคิดหาวิธีแยกพวกเขาออกจากกัน?” ท่านย่าถังออกแรงสูดลมหายใจ แต่ก็ยังคงรู้สึกหายใจยากลำบากเหมือนเดิม เหมือนกับว่าอากาศโดยรอบได้เบาบางลงไปชั่วขณะ

“แยกยังไง? แยกแล้วมีประโยชน์ยังไง? นิสัยของถังหลินก็ไม่ใช่ว่าคุณจะไม่รู้ สิ่งที่เขาตัดสินใจไปแล้ววัวสิบตัวก็ดึงกลับมาได้ เรื่องที่เขาตัดสินใจใครสามารถห้ามเขาได้?” ท่านปู่ถังรู้จักนิสัยหลานชายคนนี้ของตัวเองดี และก็เพราะรู้จักนิสัยของถังหลินถึงรู้ว่าเรื่องนี้มันจัดการยากแค่ไหน

“ถ้าหากเขาชอบผู้ชายจริง ถ้าเขาจริงจัง เขาตัดสินใจแบบนั้นแล้ว เขาสามารถปล่อยวางทุกอย่างก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลง” ในตอนที่ท่านปู่ถังพูดคำพูดประโยคนี้ มีท่าทางที่ค่อนข้างซับซ้อน เมื่อก่อนเขาคิดว่ามันเป็นจุดเด่นของถังหลิน แต่ตอนนี้กลับ……

ร่างของท่านปู่ถังงอลงเล็กน้อย เขาหดตัวเข้าหาโซฟา: “ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเขาจริงจังกับผู้ชายคนนั้นจริง ๆ มันโหดร้ายเกินไปถ้าพวกเราจะบังคับให้พวกเขาแยกจากกันแบบนั้น ถึงแม้เพศจะแตกต่างกัน แต่ความรู้สึกจะต้องเหมือนกันแน่ บังคับให้พวกเขาแยกจากกันผมกลัวว่าถังหลินจะเกิดเรื่อง”

ท่านปู่ถังได้คิดไปมากมายในเวลาแค่ชั่วขณะ ถึงแม้เขาจะรับไม่ได้เป็นอย่างมากที่หลานชายของตัวเองชอบผู้ชาย แต่ท่านปู่ถังก็ไม่ได้ดูถูกความรู้สึกแบบนี้

ท่านย่าถังมองดูเขา มุมปากอดไม่ได้ที่จะกระตุกเล็กน้อย คิดอยากจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็อดเอาไว้ได้

ท่านปู่ถังนั่งอยู่บนโซฟาและถอนหายใจออกมายาว ๆ ผมหงอกสีขาวบนหัวของเขาได้หล่นลงมาตามสองสามเส้น ชีวิตนี้มีอะไรบ้างที่เขาไม่เคยเผชิญมาก่อน แต่เขาไม่เคยคิดหนักแบบนี้มาก่อนเลย เขารู้สึกว่าผมหนา ๆ ที่เขาดูแลมาตั้งแต่ตอนยังเป็นหนุ่มอาจจะร่วงจนหมดเพราะเรื่องนี้ก็ได้

“หรือไม่ ลองหาฉิงฉิงช่วยคิดหาวิธีดู?” ท่านย่าถังเห็นท่าทางของเขาแล้วรู้สึกเป็นห่วงจริง ๆ คิดถึงเรื่องของถังหลิน เธอเองก็ปวดหัว

“หาฉิงฉิงคิดหาวิธี? เรื่องแบบนี้ฉิงฉิงยังจะมีวิธีอะไรอีกล่ะ? อีกอย่างถังหลินปิดบังเรื่องนี้มาโดยตลอด ไม่ได้บอกกับคนอื่น พวกเราจะบอกกับคนอื่นได้ยังไงกัน” ท่านปูถังปฏิเสธความคิดเห็นของท่านย่าถังไปโดยตรง ถึงแม้ตอนนี้เขาจะเป็นกังวลมาก ไม่มีวิธีอะไรทั้งสิ้น แต่เขาก็จะบอกเรื่องนี้กับคนอื่นไม่ได้ แม้แต่ฉิงฉิงก็ไม่ได้ เพราะยังไงซะนั่นก็เป็นเรื่องส่วนตัวของถังหลิน!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 1373 เข้าใจผิดใหญ่แล้ว(1)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 1373 เข้าใจผิดใหญ่แล้ว(1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลินเป้ยนอนหลับสะลึมสะลืออยู่บนเตียง ถูกคนบีบแก้ม เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจเล็กน้อย เธอขมวดคิ้ว เม้มปากเล็กน้อย จากนั้นก็พลิกตัวไปอีกทาง

ถังหลินมองดูเธอ อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา เสียงเบามาก แต่เสียงหัวเราะค่อนข้างจะชัดเจน!!

อีกฝั่งของสาย ท่านถังได้ยินเสียงหัวเราะของเขา กลับเพียงแค่หายใจเข้าลึก ๆ ด้วยความตกใจ เขาเข้าใจหลานชายของตัวเองดีที่สุด หลานชายยิ่งโตยิ่งสุขุม ยิ่งโตยิ่งเก็บความรู้สึกไว้ในใจ ทุกข์สุขล้วนไม่แสดงออกแต่ไหนแต่ไรมา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินหลานชายหัวเราะแบบนี้ บริสุทธิ์และมีความสุข และยังมีสั่นไหวที่เขาอยากจะมองข้ามแต่ก็มองข้ามไม่ได้

ท่านปู่ถังเม้มปากแน่น ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรไปชั่วขณะ

“คุณปู่ครับ แค่นี้ก่อนนะครับ ผมวางสายแล้วนะ” สายตาที่ถังหลินมองหลินเป้ยแฝงไปด้วยรอยยิ้ม เขาไม่ได้ยินเสียงของท่านปู่หลิน ก็เลยวางสายไป

เขาคิดว่าท่านปู่ถังเพียงแค่ต้องการถามเขาว่าถึงประเทศ R หรือยังเท่านั้นเอง น้อยมากที่เขาและท่านปู่ถังจะคุยเล่นกัน ปกติแล้วท่านปู่ถังก็ไม่ใช่คนที่จะชอบคุยเล่น ถังหลินวางสายไปแบบนี้ก็เป็นเรื่องปกติ

เพียงแต่ว่าท่านปู่ถังที่ถูกตัดสายไปในตอนนี้กลับตะลึงงันไปโดยสิ้นเชิง รีบวางสายแบบนี้ คิดจะทำอะไรกัน?

คิดจะไปทำอะไร?!

ดึกดื่นเที่ยงคืน ผู้ชาย……และผู้ชายอยู่ด้วยกันสองต่อสอง ในโรงแรม จะรีบไปทำอะไร?

ท่านถังที่สุขุมเยือกเย็นแต่ไหนแต่ไรในตอนนี้ใบหน้าถึงกับบิดเบี้ยวไปเล็กน้อย เขาไม่เข้าไปยุ่งเรื่องความรู้สึกของเด็ก ๆ มาโดยตลอด ให้ความอิสระกับพวกเขาตลอดมา ให้พวกเขามีความรักอย่างอิสระ แต่อิสระที่เขาให้ไม่ได้มีให้หลานชายของตัวเองแต่งผู้ชายเข้าบ้านรวมอยู่ด้วย!!

นอกจากนี้ถ้าถังหลินคิดแบบนั้นจริง ๆ

คิดจะแต่งแต่ก็แต่งเข้าบ้านไม่ได้ ประเทศของพวกเขาผู้ชายสองคนแต่งงานกันไม่ได้!!

หรือว่าจะอยู่อย่างลับ ๆ ล่อ ๆ แบบนี้ไปตลอดชีวิตงั้นเหรอ?

“เป็นอะไรไป? เกิดอะไรขึ้นเหรอ? ถังหลินพูดอะไร?” ท่านย่าถังเห็นปฏิกิริยาของเขา หัวใจก็หนักอึ้ง ตระหนักได้ว่าเรื่องราวไม่ค่อยจะดีนัก

ท่านปู่ถังมองดูใบหน้าที่เป็นกังวลของท่านย่าถัง ทำใจไม่ได้ที่จะบอกเธอเล็กน้อย แต่เขารู้ว่าเรื่องแบบนี้ปิดเอาไว้ไม่มิด ยิ่งเขาไม่พูด ภรรยาก็จะยิ่งเป็นกังวล

เพราะเมื่อสักครู่เขาตกใจมากจนเกินไป ลืมที่จะปิดบังไปโดยสิ้นเชิง ภรรยาจะต้องมองออกแล้วแน่

“มีคนอยู่ในห้องของถังหลิน” ท่านปู่ถังอธิบายไปแบบนี้ คำพูดแต่ละคำในประโยคนั้น เขารู้สึกเหมือนกับว่าถูกบีบออกมาตามไรฟัน

ท่านปู่ถังบรรยายถึงเรื่องจริงที่เขาได้รับเมื่อสักครู่ ไม่ได้อธิบายอะไรมาก แต่เมื่อท่านย่าถังเห็นท่าทางของเขาก็เข้าใจขึ้นมาทันที เธอถามเสียงสั่น: “ผู้ชายเหรอ?”

ท่านปู่ถังไม่ได้ตอบ แต่สีหน้าท่าทางเคร่งขรึมขึ้นมากกว่าเดิม

ร่างของท่านย่าถังโอนเอนไปมา แทบจะล้มลงไป เธอพยุงตัวเอาไว้กับเก้าที่อยู่ข้างอย่างรวดเร็ว และยืนนิ่งได้อย่างหวุดหวิด

ถังหลินไปที่ประเทศR เรื่องทางนั้นเมิ่งหลินเป็นคนจัดการด้วยตัวเอง ไม่มีทางที่เมิ่งหลินจะจัดให้ถังหลินอยู่ร่วมห้องกับคนอื่น ยิ่งไปกว่านั้นจากนิสัยของถังหลินก็ไม่มีทางที่จะนอนห้องเดียวกันกับคนอื่น

ดังนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างคนคนนั้นกับถังหลินจะต้องไม่ธรรมดาแน่ ไม่ธรรมดามากด้วย

“อาจจะเข้าใจผิดไปหรือเปล่า บางทีอาจจะเป็นผู้หญิงก็ได้” ท่านย่าถังสูดลมหายใจเข้าอย่างแรง กอดความหวังสุดท้ายเอาไว้แน่น เพราะยังไงก็ได้ยินผ่านทางโทรศัพท์ จะต้องฟังไม่ค่อยชัดแน่ บางทีในห้องถังหลินของเธออาจจะเป็นผู้หญิงก็ได้ใช่ไหมล่ะ?

ถ้าเป็นผู้หญิงจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างมาก ความแตกต่างระหว่างสองอย่างนั้นมันต่างกันมากเลยล่ะ!!

“ผมได้ยินแล้ว เป็นเสียงของผู้ชาย” เป็นธรรมดาที่ท่านปู่ถังจะเข้าใจความหมายของท่านย่าถัง เขาเองก็หวังว่าในห้องของถังหลินนั้นจะเป็นผู้หญิง แต่เมื่อสักครู่เขาได้ยินอย่างชัดเจนมาก นั่นมันเป็นเสียงของผู้ชาย

“หรือว่า คุณจะลองถามเมิ่งหลินดูอีกครั้ง เรื่องของถังหลินเมิ่งหลินเป็นคนจัดการ เมิ่งหลินไปรับถังหลินด้วยตัวเอง และเป็นคนไปส่งถังหลินที่โรงแรมเอง เมิ่งหลินจะต้องรู้ดีแน่” ท่านย่าถังยังคงไม่ตายใจ เธอไม่อยากจะยอมรับเรื่องแบบนั้นจริง ๆ

“ได้ ผมจะลองโทรหาถามเมิ่งหลินอีกครั้ง” ดวงตาของท่านปู่ถังเปล่งประกายขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เขาเองก็คิดว่าควรจะถามให้ชัดเจน บางทีอาจจะเป็นเขาที่ฟังผิดไปจริง ๆ ก็ได้ บางทีในห้องของถังหลินนั้นอาจจะเป็นผู้หญิงจริง ๆ

เพียงแต่ว่า เมื่อท่านปู่ทางนึกถึงคำพูดของเมิ่งหลินเมื่อก่อนหน้านี้ ความหวังที่สว่างไสวขึ้นมาเมื่อสักครู่ก็พลันถูกดับลงไปกว่าครึ่ง ท่านปู่ถังยังคงกดโทรออกไปที่เบอร์ของเมิ่งหลิน

เสียงโทรศัพท์ดังเพียงหนึ่งครั้งเมิ่งหลินก็ได้รับโทรศัพท์แล้ว: “คุณท่านครับ?”

เมิ่งหลินตกใจเล็กน้อยกับสายที่โทรเข้ามาอย่างกะทันหันของท่านปู่ถัง น้ำเสียงฟังแล้วระมัดระวังเป็นอย่างมาก

“นายบอกความจริงกับฉันมา ในห้องของถังหลินมีผู้ชายอยู่คนหนึ่งอยู่ใช่ไหม?” ที่ท่านปู่ถังถามแบบนี้ก็เพราะกลัวว่าเมิ่งหลินจะปิดบังอะไร ที่เขาโทรมาในครั้งนี้ก็เพื่อยืนยันเป็นครั้งสุดท้าย แน่นอนว่าเขาไม่อยากจะฟังคำโกหก

“คุณท่าน?” เมิ่งหลินอุทานออกมาด้วยความตกใจ: “ท่าน? ท่าน……”

เขาติดอยู่ที่คำว่าท่านอยู่ครึ่งค่อนวันก็ไม่สามารถพูดคำพูดอื่นใดออกมาได้อีก เดิมทีเขาเพียงแค่บอกกับท่านปู่ถังทางอ้อมค้อม คิดไม่ถึงว่าท่านปู่ถังจะรู้เรื่องทั้งหมดเร็วขนาดนี้

“งั้นก็หมายความว่าเป็นความจริง ในห้องของเขามีผู้ชายคนหนึ่งอยู่จริง ๆ” เมื่อได้ยินคำตอบของเมิ่งหลิน ท่านปู่ถังก็เข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว ถ้าหากเป็นผู้หญิงจริง ๆ เมิ่งหลินไม่มีทางที่จะมีปฏิกิริยาแบบนี้

ถ้าในห้องของถังหลินเป็นผู้หญิงเมิ่งหลินจะต้องดีใจมากแน่

“ระหว่างเขากับผู้ชายคนนั้นมีความสัมพันธ์ยังไงกันแน่?” ถึงแม้เมื่อสักครู่ท่านปู่ถังได้เดาออกแล้ว แต่ก็ยังอยากจะยืนยันจากปากของเมิ่งหลินอีกครั้ง หรือควรจะบอกว่าท่านปู่ถังอยากได้ยินคำตอบในเชิงปฏิเสธจากปากของเมิ่งหลิน

เมิ่งหลินแอบสูดลมหายใจเข้าหนึ่งครั้ง เขารู้ว่าเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้จะต้องปิดไม่อยู่แน่: “คุณชายถังอุ้มเขาไปที่ห้องครับ”

เมิ่งหลินไม่ได้พูดอะไรมาก แต่คำพูดเพียงประโยคเดียว ก็เพียงพอแล้ว

อุ้มผู้ชายคนหนึ่งกลับไปที่ห้อง งั้นความหมายยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ?

ท่านปู่ถังรู้สึกว่าตัวเองหายใจอย่างยากลำบากไปชั่วขณะ จนแทบจะหายใจไม่ออก เดิมทีก่อนที่จะโทรโทรศัพท์สายนี้เขาได้กอดความหวังอันริบหรี่เอาไว้ แต่คำพูดของเมิ่งหลินได้ทำลายความหวังสุดท้ายเพียงน้อยนิดของเขาอย่างโหดร้าย

อุ้มผู้ชายคนหนึ่งไปที่ห้อง ถังหลินนี่เยี่ยมไปเลย!!

ท่านปู่ถังตัดสายไปเลย

ท่านย่าถังที่ยืนอยู่ด้านข้างเห็นเขามีปฏิกิริยาแบบนี้ พลันไม่กล้าถามอะไรมากไปชั่วขณะ แต่ว่าดูจากปฏิกิริยาแบบนี้ของท่านปู่ถัง ต่อให้ท่านย่าถังไม่ถามก็พอจะเข้าใจอยู่บ้าง

“เวรกรรม เวรกรรมจริง ๆ” ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเพียงใด ในที่สุดท่านปู่ถังก็ได้สติกลับคืนมา เขานั่งลงไปบนโซฟา ท่าทางหมดเรี่ยวหมดแรง เขาคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าหลานชายของเขาจะชอบผู้ชาย

“ตอนนี้จะทำยังไงดีล่ะ? หรือว่า พวกเราคิดหาวิธีแยกพวกเขาออกจากกัน?” ท่านย่าถังออกแรงสูดลมหายใจ แต่ก็ยังคงรู้สึกหายใจยากลำบากเหมือนเดิม เหมือนกับว่าอากาศโดยรอบได้เบาบางลงไปชั่วขณะ

“แยกยังไง? แยกแล้วมีประโยชน์ยังไง? นิสัยของถังหลินก็ไม่ใช่ว่าคุณจะไม่รู้ สิ่งที่เขาตัดสินใจไปแล้ววัวสิบตัวก็ดึงกลับมาได้ เรื่องที่เขาตัดสินใจใครสามารถห้ามเขาได้?” ท่านปู่ถังรู้จักนิสัยหลานชายคนนี้ของตัวเองดี และก็เพราะรู้จักนิสัยของถังหลินถึงรู้ว่าเรื่องนี้มันจัดการยากแค่ไหน

“ถ้าหากเขาชอบผู้ชายจริง ถ้าเขาจริงจัง เขาตัดสินใจแบบนั้นแล้ว เขาสามารถปล่อยวางทุกอย่างก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลง” ในตอนที่ท่านปู่ถังพูดคำพูดประโยคนี้ มีท่าทางที่ค่อนข้างซับซ้อน เมื่อก่อนเขาคิดว่ามันเป็นจุดเด่นของถังหลิน แต่ตอนนี้กลับ……

ร่างของท่านปู่ถังงอลงเล็กน้อย เขาหดตัวเข้าหาโซฟา: “ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเขาจริงจังกับผู้ชายคนนั้นจริง ๆ มันโหดร้ายเกินไปถ้าพวกเราจะบังคับให้พวกเขาแยกจากกันแบบนั้น ถึงแม้เพศจะแตกต่างกัน แต่ความรู้สึกจะต้องเหมือนกันแน่ บังคับให้พวกเขาแยกจากกันผมกลัวว่าถังหลินจะเกิดเรื่อง”

ท่านปู่ถังได้คิดไปมากมายในเวลาแค่ชั่วขณะ ถึงแม้เขาจะรับไม่ได้เป็นอย่างมากที่หลานชายของตัวเองชอบผู้ชาย แต่ท่านปู่ถังก็ไม่ได้ดูถูกความรู้สึกแบบนี้

ท่านย่าถังมองดูเขา มุมปากอดไม่ได้ที่จะกระตุกเล็กน้อย คิดอยากจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็อดเอาไว้ได้

ท่านปู่ถังนั่งอยู่บนโซฟาและถอนหายใจออกมายาว ๆ ผมหงอกสีขาวบนหัวของเขาได้หล่นลงมาตามสองสามเส้น ชีวิตนี้มีอะไรบ้างที่เขาไม่เคยเผชิญมาก่อน แต่เขาไม่เคยคิดหนักแบบนี้มาก่อนเลย เขารู้สึกว่าผมหนา ๆ ที่เขาดูแลมาตั้งแต่ตอนยังเป็นหนุ่มอาจจะร่วงจนหมดเพราะเรื่องนี้ก็ได้

“หรือไม่ ลองหาฉิงฉิงช่วยคิดหาวิธีดู?” ท่านย่าถังเห็นท่าทางของเขาแล้วรู้สึกเป็นห่วงจริง ๆ คิดถึงเรื่องของถังหลิน เธอเองก็ปวดหัว

“หาฉิงฉิงคิดหาวิธี? เรื่องแบบนี้ฉิงฉิงยังจะมีวิธีอะไรอีกล่ะ? อีกอย่างถังหลินปิดบังเรื่องนี้มาโดยตลอด ไม่ได้บอกกับคนอื่น พวกเราจะบอกกับคนอื่นได้ยังไงกัน” ท่านปูถังปฏิเสธความคิดเห็นของท่านย่าถังไปโดยตรง ถึงแม้ตอนนี้เขาจะเป็นกังวลมาก ไม่มีวิธีอะไรทั้งสิ้น แต่เขาก็จะบอกเรื่องนี้กับคนอื่นไม่ได้ แม้แต่ฉิงฉิงก็ไม่ได้ เพราะยังไงซะนั่นก็เป็นเรื่องส่วนตัวของถังหลิน!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+