ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 1376 หมดอาลัยตายอยาก(2)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 1376 หมดอาลัยตายอยาก(2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ไม่รีบ พอถึงเวลาก็จะพากลับไปเอง” มุมปากของถังหลินยกขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ครั้งนี้ เขามาที่ประเทศR ท่าทีของหลินเป้ยเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด เขารู้สึกว่าเส้นทางไล่ตามภรรยาของเขาได้มองเห็นแสงสว่างแล้ว อย่างน้อยปัญหาของทางหลินเป้ยเขาจะต้องช่วยหลินเป้ยจัดการให้เรียบร้อยทั้งหมดอย่างแน่นอน

“ได้ ได้ ฉันจะรอนะคะ” เวินลั่วฉิงหัวเราะเสียงดังออกมา ระยะนี้ได้เกิดเรื่องขึ้นมากมาย อยากนักที่จะมีเรื่องดี ๆ แบบนี้ เป็นเรื่องที่ดีมากจริง ๆ

เดิมทีเวินลั่วฉิงจะออกไปข้างนอก เมื่อนึกถึงท่าทางหมดอาลัยตายอยากเมื่อก่อนหน้านี้ของท่านปู่ถังและท่านย่าถัง เลยตัดสินใจที่จะบอกเรื่องนี้กับพวกเขา ให้พวกเขาได้ดีใจด้วย

ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเพราะอะไรทั้งสองท่านถึงได้เป็นแบบนั้น แต่เวินลั่วฉิงคิดว่าเมื่อทั้งสองท่านได้ทราบข่าวนี้จะต้องดีใจมากแน่ ไม่แน่อาจจะลืมเรื่องเศร้าใจเมื่อก่อนหน้านี้ไปเลยก็ได้

เวินลั่วฉิงกลับไปที่ห้องโถง เห็นว่าท่านปู่ถังและท่านย่าถังยังคงนั่งอยู่ที่ห้องโถงเหมือนเดิม ยังคงมีท่าทางเหม่อลอย หมดอาลัยตายอยากเหมือนเดิม เวินลั่วฉิงไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าพวกท่านได้เผชิญกับเรื่องอะไรกันแน่ เวินลั่วฉิงเดินเข้าไป และกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “คุณตาคะ คุณยายคะ พี่ชายมีแฟนแล้วค่ะ พี่บอกว่าอีกสักระยะก็จะพาพี่สะใภ้กลับมาบ้านด้วย”

เดิมทีเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดี เรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างมาก เวินลั่วฉิงนึกว่าหลังจากที่ทั้งสองท่านได้ยินข่าวนี้จะต้องดีใจมาก แต่ทว่าแววตาที่เต็มไปด้วยความหมดอาลัยตายอยากของทั้งสองท่านกลับถลำลึกขึ้นมากว่าเดิม ถึงขั้นมีความสิ้นหวังอยู่เล็กน้อย

ทั้งสองคนคิดว่าถังหลินถึงขั้นตัดสินใจที่จะพาคนกลับมาบ้านแล้ว เช่นนั้นจะต้องจริงจังแน่ จะต้องตกลงปลงใจแล้วว่าเป็นผู้ชายคนนั้น ดูเหมือนว่าเรื่องนี้ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนแปลงแล้ว

ท่านปู่ถังพิงอยู่บนโซฟา หดตัวลง และทอดถอนใจอย่างไร้เรี่ยวแรง

ริมฝีปากของท่านย่าถังสั่นเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่จู่ ๆ ดวงตาก็แดงขึ้นมา ดูแล้วเหมือนกำลังจะร้องไห้อีกครั้ง

เวินลั่วฉิงงงงัน นี่มันอะไรกัน? นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

ทำไมเมื่อได้ยินข่าวที่ว่าถังหลินมีแฟน ทั้งสองท่านไม่ดีใจเลยสักนิด?

ไม่เพียงไม่ดีใจ แล้วยังทอดถอนใจอีก แถมยังหนักกว่าเดิม ถึงขั้นที่บนใบหน้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง นี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่

“คุณตาคะ คุณยายคะ” เวินลั่วฉิงลองถามเบา ๆ : “พี่ชายของหนูมีแฟนแล้วพวกท่านไม่ดีใจเหรอคะ?”

“มีอะไร……” ท่านย่าถังเงยหน้าขึ้นมา มองดูเวินลั่วฉิง พึ่งพูดออกมาได้ครึ่งหนึ่งก็หยุดลงอีกครั้ง: “ยายปวดหัว ยายนอนพักสักหน่อย”

ท่านย่าถังกล่าวไป ก็ค่อย ๆ นอนลงไปบนโซฟา ขดตัวเล็กน้อย ดูแล้ว ค่อนข้าง……น่าสงสาร

“คุณตาคะ นี่มันอะไรกันเหรอคะ?” ตอนนี้เวินลั่วฉิงงงงันจนหาทิศทางไม่เจอ นี่มันปฏิกิริยาอะไรกัน? มีปฏิกิริยาแบบนี้ปกติไหม?

เห็นได้ชัดว่าไม่ปกติ

“แล้วแต่เขาเถอะ?” ท่านปู่ถังถอนหายใจอีกครั้ง แล้วโบกมือ ดูแล้วทั้งจนปัญญาทั้งหมดแรง

“เดี๋ยวนะคะ พี่ชายหนูมีแฟนแล้ว พี่ชายหนูจะพาพี่สะใภ้กลับมา พวกท่านควรที่จะต้อนรับด้วยความดีอกดีใจไม่ใช่เหรอคะ? หนูก็ควรที่จะจัดเตรียมงานแต่งด้วยความดีอกดีใจไม่ใช่เหรอ?” เวินลั่วฉิงดูท่าทางของท่านปู่ถัง ภายในใจรู้สึกแปลกประหลาดมากเป็นพิเศษ

จากนั้น เวินลั่วฉิงก็เห็นว่าท่านย่าถังที่นอนอยู่บนโซฟามองเธอด้วยความขุ่นเคือง จริง ๆ นะ สายตานั่นขุ่นเคืองมากจริง ๆ

เวินลั่วฉิงเผชิญหน้ากับสายตาขุ่นเคืองแบบนั้นของท่านย่าถัง ก็ตะลึงไปทันที เดี๋ยวนะ เธอพูดอะไรผิด? เธอทำอะไรผิดเหรอ? ทำไมคุณยายถึงต้องมองเธอแบบนี้?

“ฉิงฉิง ยายเหนื่อยแล้ว หนูให้ยายพักสักหน่อยนะ” ท่านย่าถังสูดลมหายใจเข้าเงียบ ๆ จากนั้นคิดไม่ถึงว่าเธอจะออกปากขับไล่ตรง ๆ

การขับไล่ของคุณย่าถังนั้นแจ่มแจ้งชัดเจนเกินไป เวินลั่วฉิงอยากจะละเลยก็ละเลยไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นปฏิกิริยาก็ตอบรับของเวินลั่วฉิงเร็วมาแต่ไหนแต่ไร เป็นธรรมดาที่เธอจะฟังออก

“อ่อ ก็ได้ค่ะ” เวินลั่วฉิงถูกไล่ ความรู้สึกนั้นซับซ้อนมาก คุณยายรำคาญที่เธอเพูดมากเหรอ?

เมื่อสักครู่เธอพูดมากไปจริง ๆ แต่ที่เธอพูดนั้นเป็นเรื่องดี เป็นเรื่องที่น่ายินดีนี่นา เดิมที่เธออยากจะทำให้ทั้งสองท่านดีใจ ดังนั้นกลับถูกรำคาญงั้นเหรอ?

คนฉลาดอย่างเวินลั่วฉิง ยังคงไม่เข้าใจความคิดของทั้งสองท่านอยู่ดี

แต่ในเมื่อท่านย่าถังพูดถึงขนาดนี้แล้ว เวินลั่วฉิงก็ไม่อาจพูดอะไรได้อีก จึงทำได้เพียงก้าวเท้าเดินจากไป ในตอนที่เธอออกมาจากห้องโถง เวินลั่วฉิงอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ห้องโถงอีกครั้ง เนื่องจากในตอนนี้ท่านย่าถังนอนอยู่บนโซฟาเลยมองไม่เห็น

เวินลั่วฉิงมองเห็นเพียงแผ่นหลังของท่านปู่ถัง เธอพบว่าแผ่นหลังที่เหยียดตรงของคุณตาตอนนี้ได้งอลงอย่างเห็นได้ชัด แผ่นหลังนั้นดูแล้วเหมือนกับคุณยาย……ดูน่าสงสาร

เวินลั่วฉิงยังเห็นอีกว่าเส้นผมสีขาวของท่านปู่ถังได้ค่อย ๆ ลอยร่วงหล่นลงมาหลายเส้น

เวินลั่วฉิงสับสนมึนงงไปหมด นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?

ทั้งสองท่านได้เผชิญกับการกระทบกระเทือนทางจิตใจแบบไหนกันนะ?

แม้กระทั่งเรื่องที่น่ายินดีอย่างเรื่องที่ถังหลินมีแฟนจะแต่งงาน ยังไม่สามารถดึงทั้งสองท่านออกมาจากความกระทบกระเทือนทางจิตใจได้เลยงั้นเหรอ?

แต่ว่าที่บ้านก็ไม่ได้เกิดเรื่องร้ายแรงอะไรนี่นา!!

เวินลั่วฉิงคิดไปว่าจะเรียกเด็ก ๆ สองคนลงมาเล่นกับชายหญิงชราทั้งสองคนหน่อยดีไหม ปกติแล้วชายหญิงชราทั้งสองชอบพวกเด็ก ๆ มาก และเด็ก ๆ ทั้งสองก็สามารถทำให้คนมีความสุขได้ดีมากเลยด้วย

เวินลั่วฉิงกำลังครุ่นคิดอยู่ ก็เห็นถังจื่อซีกระโดดโลดเต้นลงมาจากด้านบน

“ปู่ทวด ย่าทวด” ถังจื่อซีเห็นชายหญิงชราทั้งสองนั่งอยู่ที่ห้องโถง หลังจากที่ลงมาจากบันไดก็วิ่งกระโจนไปทันที

เวินลั่วฉิงหยุดฝีเท้าลง ยืนอยู่ที่ด้านนอกประตู ไม่ได้รีบจากไป

“หนูจื่อซี” ร่างของท่านปู่ถังเอนไปด้านหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็ยื่นมือออกมา และลูบหัวของถังจื่อซีเบา ๆ : “คุณย่าน้อยซื้อของเล่นใหม่มาให้หนู หนูไปเล่นเถอะ”

“อืม ครับ” ยังไงซะถังจื่อซีก็ยังเด็กอยู่ เมื่อได้ยินว่ามีของเล่นก็รีบไปเล่นทันที

เมื่อท่านย่าถังมองเห็นจื่อซี อาจอยากจะลุกขึ้นมา เพียงแต่ว่าเธอพึ่งลุกขึ้นมาได้ครึ่งหนึ่ง ก็เห็นจื่อซีวิ่งออกไปแล้ว ไม่ได้พูดอะไร จากนั้นก็นอนกลับลงไปเหมือนเดิม

เวินลั่วฉิงที่ยืนอยู่ตรงประตูกลับตะลึงงันไม่ขยับเขยื้อนอยู่ครึ่งค่อนวัน

นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ แม้กระทั่งตัวสร้างความสุขของบ้านอย่างจื่อซีก็ยังรักษาไม่ได้?

จื่อซีมองไม่เห็นความผิดปกติอะไร เวินลั่วฉิงกลับมองเห็นได้อย่างชัดเจน ปกติแล้วเวลาที่ท่านปู่ถังและท่านย่าถังเห็นจื่อซีล้วนแทบอยากจะกอดจื่อซีเอาไว้ไม่ปล่อย แทบอยากจะติดจื่อซีเอาไว้ที่ข้างกายของพวกเขาตลอดเวลา วันนี้กลับให้จื่อซีไปเล่นของเล่นคนเดียวแบบนี้

ท่านย่าถังไม่พูดกับจื่อซีเลยสักคำ!!

เวินลั่วฉิงคิดว่าจะต้องมีปัญหาอะไรแน่ แถมยังเป็นปัญหาที่ร้ายแรงมาก

แต่ท่านปู่ถังและท่านย่าถังไม่พูดเลยสักนิด ครั้งนี้เธอเองก็คิดไม่ออกจริง ๆ ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่

เวินลั่วฉิงรู้ว่าจะต้องไม่ใช่เรื่องของเธออย่างแน่นอน เพราะยังไงตอนนี้เรื่องของเธอก็ได้คลี่คลายจนหมดแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นต่อให้เป็นเมื่อวานในตอนที่ท่านปู่ถังและท่านย่าถัง รู้เรื่องที่โจ๋วอันหนานทำกับเธอ ถึงแม้จะโกรธมาก แต่ก็ไม่ได้เป็นเหมือนอย่างในตอนนี้แน่

เวินลั่วฉิงอยู่แสนนาน ท่านปู่ถังที่อยู่ในห้องกลับนั่งอยู่บนโซฟาโดยรักษาท่าเดิมเอาไว้ไม่ ขยับเขยื้อนเลยสักนิด และนอกจากนี้ท่านย่าถังก็นอนอยู่ที่บนโซฟาไม่ได้ลุกขึ้นมา

เวินลั่วฉิงคิดแล้วคิดอีก จากนั้นก็หันหลังเดินจากไป

ณ เมือง A ตอนนี้สาขาองค์กรโกสต์ซิตี้เต็มไปด้วยความสุขความปลื้มปีติยินดี

เจิ้งฉงได้รับข่าวมาว่า ทางประเทศ R องค์กรโกสต์ซิตี้โจมตีเย่ซือเฉินและถังหลินอย่างต่อเนื่อง

“ดังนั้น หัวหน้ายังคงปกป้องเจ้าหญิงมาก เพียงแต่ว่าทางประเทศ Z มีการควบคุมอย่างเข้มงวด จะทำอะไรโดยพลการไม่ได้ ดังนั้นหัวหน้าเลยสั่งให้คนที่อยู่ประเทศ R ลงมือกับเย่ซือเฉินและถังหลิน เห็นได้ชัดว่าหัวหน้ากำลังระบายอารมณ์ให้เจ้าหญิงอยู่” หลังจากที่เจิ้งฉงได้รับข่าวนี้ก็รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่พวกเขาหาตัวเฉิงโหรวโหรวพบ หัวหน้าก็เย็นชากับเฉิงโหรวโหรวเสมอมา หัวหน้าไม่เคยไปพบเฉิงโหรวโหรว แถมยังไม่ไปสนใจเฉิงโหรวโหรวเลยสักครั้ง เจิ้งฉงยังคิดเลยว่าตัวเองเดิมพันผิดไปซะแล้ว

คิดไม่ถึงว่าเขาจะได้รับข่าวดีแบบนี้

“ถ้าเป็นแบบนี้ หลังจากนี้เรื่องของพวกเราก็จะดำเนินการได้ง่ายขึ้น” ไป๋หยิงยิ่งดีใจเป็นพิเศษ: “ขอเพียงหัวหน้าปกป้องเจ้าหญิง พวกเราก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น ไม่ต้องกลัวตระกูลถัง ยิ่งไม่ต้องกลัวคุณหนูใหญ่ตระกูลถังอีกแล้ว”

“แน่นอน ก็แค่ตระกูลถัง ก็แค่คุณหนูใหญ่ตระกูลถังจะเป็นคู่ต่อสู้ขององค์กรโกสต์ซิตี้ได้ยังไง แค่คำพูดประโยคเดียวของหัวหน้า องค์กรโกสต์ซิตี้ทำลายล้างตระกูลถัง กำจัดคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง ก็ไม่ต่างอะไรกับฆ่ามดเล็ก ๆ ตัวหนึ่ง” เจิ้งฉงหัวเราออกมาอย่างอดไม่ได้ บนใบหน้าเต้มไปด้วยความได้ใจ

“ในเมื่อหัวหน้าปกป้องเจ้าหญิงแบบนี้ งั้นงานแต่งระหว่างเจ้าหญิงกับเย่ซือเฉินจะต้องเป็นไปได้แน่ ตอนนี้ฉันมีแผนการที่ดีมากอย่างหนึ่ง” ไป๋หยิงหรี่ตาลง ขอเพียงจัดการเวินลั่วฉิงได้ เธอก็จะดีใจเป็นพิเศษ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 1376 หมดอาลัยตายอยาก(2)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 1376 หมดอาลัยตายอยาก(2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ไม่รีบ พอถึงเวลาก็จะพากลับไปเอง” มุมปากของถังหลินยกขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ครั้งนี้ เขามาที่ประเทศR ท่าทีของหลินเป้ยเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด เขารู้สึกว่าเส้นทางไล่ตามภรรยาของเขาได้มองเห็นแสงสว่างแล้ว อย่างน้อยปัญหาของทางหลินเป้ยเขาจะต้องช่วยหลินเป้ยจัดการให้เรียบร้อยทั้งหมดอย่างแน่นอน

“ได้ ได้ ฉันจะรอนะคะ” เวินลั่วฉิงหัวเราะเสียงดังออกมา ระยะนี้ได้เกิดเรื่องขึ้นมากมาย อยากนักที่จะมีเรื่องดี ๆ แบบนี้ เป็นเรื่องที่ดีมากจริง ๆ

เดิมทีเวินลั่วฉิงจะออกไปข้างนอก เมื่อนึกถึงท่าทางหมดอาลัยตายอยากเมื่อก่อนหน้านี้ของท่านปู่ถังและท่านย่าถัง เลยตัดสินใจที่จะบอกเรื่องนี้กับพวกเขา ให้พวกเขาได้ดีใจด้วย

ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเพราะอะไรทั้งสองท่านถึงได้เป็นแบบนั้น แต่เวินลั่วฉิงคิดว่าเมื่อทั้งสองท่านได้ทราบข่าวนี้จะต้องดีใจมากแน่ ไม่แน่อาจจะลืมเรื่องเศร้าใจเมื่อก่อนหน้านี้ไปเลยก็ได้

เวินลั่วฉิงกลับไปที่ห้องโถง เห็นว่าท่านปู่ถังและท่านย่าถังยังคงนั่งอยู่ที่ห้องโถงเหมือนเดิม ยังคงมีท่าทางเหม่อลอย หมดอาลัยตายอยากเหมือนเดิม เวินลั่วฉิงไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าพวกท่านได้เผชิญกับเรื่องอะไรกันแน่ เวินลั่วฉิงเดินเข้าไป และกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “คุณตาคะ คุณยายคะ พี่ชายมีแฟนแล้วค่ะ พี่บอกว่าอีกสักระยะก็จะพาพี่สะใภ้กลับมาบ้านด้วย”

เดิมทีเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดี เรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างมาก เวินลั่วฉิงนึกว่าหลังจากที่ทั้งสองท่านได้ยินข่าวนี้จะต้องดีใจมาก แต่ทว่าแววตาที่เต็มไปด้วยความหมดอาลัยตายอยากของทั้งสองท่านกลับถลำลึกขึ้นมากว่าเดิม ถึงขั้นมีความสิ้นหวังอยู่เล็กน้อย

ทั้งสองคนคิดว่าถังหลินถึงขั้นตัดสินใจที่จะพาคนกลับมาบ้านแล้ว เช่นนั้นจะต้องจริงจังแน่ จะต้องตกลงปลงใจแล้วว่าเป็นผู้ชายคนนั้น ดูเหมือนว่าเรื่องนี้ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนแปลงแล้ว

ท่านปู่ถังพิงอยู่บนโซฟา หดตัวลง และทอดถอนใจอย่างไร้เรี่ยวแรง

ริมฝีปากของท่านย่าถังสั่นเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่จู่ ๆ ดวงตาก็แดงขึ้นมา ดูแล้วเหมือนกำลังจะร้องไห้อีกครั้ง

เวินลั่วฉิงงงงัน นี่มันอะไรกัน? นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

ทำไมเมื่อได้ยินข่าวที่ว่าถังหลินมีแฟน ทั้งสองท่านไม่ดีใจเลยสักนิด?

ไม่เพียงไม่ดีใจ แล้วยังทอดถอนใจอีก แถมยังหนักกว่าเดิม ถึงขั้นที่บนใบหน้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง นี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่

“คุณตาคะ คุณยายคะ” เวินลั่วฉิงลองถามเบา ๆ : “พี่ชายของหนูมีแฟนแล้วพวกท่านไม่ดีใจเหรอคะ?”

“มีอะไร……” ท่านย่าถังเงยหน้าขึ้นมา มองดูเวินลั่วฉิง พึ่งพูดออกมาได้ครึ่งหนึ่งก็หยุดลงอีกครั้ง: “ยายปวดหัว ยายนอนพักสักหน่อย”

ท่านย่าถังกล่าวไป ก็ค่อย ๆ นอนลงไปบนโซฟา ขดตัวเล็กน้อย ดูแล้ว ค่อนข้าง……น่าสงสาร

“คุณตาคะ นี่มันอะไรกันเหรอคะ?” ตอนนี้เวินลั่วฉิงงงงันจนหาทิศทางไม่เจอ นี่มันปฏิกิริยาอะไรกัน? มีปฏิกิริยาแบบนี้ปกติไหม?

เห็นได้ชัดว่าไม่ปกติ

“แล้วแต่เขาเถอะ?” ท่านปู่ถังถอนหายใจอีกครั้ง แล้วโบกมือ ดูแล้วทั้งจนปัญญาทั้งหมดแรง

“เดี๋ยวนะคะ พี่ชายหนูมีแฟนแล้ว พี่ชายหนูจะพาพี่สะใภ้กลับมา พวกท่านควรที่จะต้อนรับด้วยความดีอกดีใจไม่ใช่เหรอคะ? หนูก็ควรที่จะจัดเตรียมงานแต่งด้วยความดีอกดีใจไม่ใช่เหรอ?” เวินลั่วฉิงดูท่าทางของท่านปู่ถัง ภายในใจรู้สึกแปลกประหลาดมากเป็นพิเศษ

จากนั้น เวินลั่วฉิงก็เห็นว่าท่านย่าถังที่นอนอยู่บนโซฟามองเธอด้วยความขุ่นเคือง จริง ๆ นะ สายตานั่นขุ่นเคืองมากจริง ๆ

เวินลั่วฉิงเผชิญหน้ากับสายตาขุ่นเคืองแบบนั้นของท่านย่าถัง ก็ตะลึงไปทันที เดี๋ยวนะ เธอพูดอะไรผิด? เธอทำอะไรผิดเหรอ? ทำไมคุณยายถึงต้องมองเธอแบบนี้?

“ฉิงฉิง ยายเหนื่อยแล้ว หนูให้ยายพักสักหน่อยนะ” ท่านย่าถังสูดลมหายใจเข้าเงียบ ๆ จากนั้นคิดไม่ถึงว่าเธอจะออกปากขับไล่ตรง ๆ

การขับไล่ของคุณย่าถังนั้นแจ่มแจ้งชัดเจนเกินไป เวินลั่วฉิงอยากจะละเลยก็ละเลยไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นปฏิกิริยาก็ตอบรับของเวินลั่วฉิงเร็วมาแต่ไหนแต่ไร เป็นธรรมดาที่เธอจะฟังออก

“อ่อ ก็ได้ค่ะ” เวินลั่วฉิงถูกไล่ ความรู้สึกนั้นซับซ้อนมาก คุณยายรำคาญที่เธอเพูดมากเหรอ?

เมื่อสักครู่เธอพูดมากไปจริง ๆ แต่ที่เธอพูดนั้นเป็นเรื่องดี เป็นเรื่องที่น่ายินดีนี่นา เดิมที่เธออยากจะทำให้ทั้งสองท่านดีใจ ดังนั้นกลับถูกรำคาญงั้นเหรอ?

คนฉลาดอย่างเวินลั่วฉิง ยังคงไม่เข้าใจความคิดของทั้งสองท่านอยู่ดี

แต่ในเมื่อท่านย่าถังพูดถึงขนาดนี้แล้ว เวินลั่วฉิงก็ไม่อาจพูดอะไรได้อีก จึงทำได้เพียงก้าวเท้าเดินจากไป ในตอนที่เธอออกมาจากห้องโถง เวินลั่วฉิงอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ห้องโถงอีกครั้ง เนื่องจากในตอนนี้ท่านย่าถังนอนอยู่บนโซฟาเลยมองไม่เห็น

เวินลั่วฉิงมองเห็นเพียงแผ่นหลังของท่านปู่ถัง เธอพบว่าแผ่นหลังที่เหยียดตรงของคุณตาตอนนี้ได้งอลงอย่างเห็นได้ชัด แผ่นหลังนั้นดูแล้วเหมือนกับคุณยาย……ดูน่าสงสาร

เวินลั่วฉิงยังเห็นอีกว่าเส้นผมสีขาวของท่านปู่ถังได้ค่อย ๆ ลอยร่วงหล่นลงมาหลายเส้น

เวินลั่วฉิงสับสนมึนงงไปหมด นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?

ทั้งสองท่านได้เผชิญกับการกระทบกระเทือนทางจิตใจแบบไหนกันนะ?

แม้กระทั่งเรื่องที่น่ายินดีอย่างเรื่องที่ถังหลินมีแฟนจะแต่งงาน ยังไม่สามารถดึงทั้งสองท่านออกมาจากความกระทบกระเทือนทางจิตใจได้เลยงั้นเหรอ?

แต่ว่าที่บ้านก็ไม่ได้เกิดเรื่องร้ายแรงอะไรนี่นา!!

เวินลั่วฉิงคิดไปว่าจะเรียกเด็ก ๆ สองคนลงมาเล่นกับชายหญิงชราทั้งสองคนหน่อยดีไหม ปกติแล้วชายหญิงชราทั้งสองชอบพวกเด็ก ๆ มาก และเด็ก ๆ ทั้งสองก็สามารถทำให้คนมีความสุขได้ดีมากเลยด้วย

เวินลั่วฉิงกำลังครุ่นคิดอยู่ ก็เห็นถังจื่อซีกระโดดโลดเต้นลงมาจากด้านบน

“ปู่ทวด ย่าทวด” ถังจื่อซีเห็นชายหญิงชราทั้งสองนั่งอยู่ที่ห้องโถง หลังจากที่ลงมาจากบันไดก็วิ่งกระโจนไปทันที

เวินลั่วฉิงหยุดฝีเท้าลง ยืนอยู่ที่ด้านนอกประตู ไม่ได้รีบจากไป

“หนูจื่อซี” ร่างของท่านปู่ถังเอนไปด้านหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็ยื่นมือออกมา และลูบหัวของถังจื่อซีเบา ๆ : “คุณย่าน้อยซื้อของเล่นใหม่มาให้หนู หนูไปเล่นเถอะ”

“อืม ครับ” ยังไงซะถังจื่อซีก็ยังเด็กอยู่ เมื่อได้ยินว่ามีของเล่นก็รีบไปเล่นทันที

เมื่อท่านย่าถังมองเห็นจื่อซี อาจอยากจะลุกขึ้นมา เพียงแต่ว่าเธอพึ่งลุกขึ้นมาได้ครึ่งหนึ่ง ก็เห็นจื่อซีวิ่งออกไปแล้ว ไม่ได้พูดอะไร จากนั้นก็นอนกลับลงไปเหมือนเดิม

เวินลั่วฉิงที่ยืนอยู่ตรงประตูกลับตะลึงงันไม่ขยับเขยื้อนอยู่ครึ่งค่อนวัน

นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ แม้กระทั่งตัวสร้างความสุขของบ้านอย่างจื่อซีก็ยังรักษาไม่ได้?

จื่อซีมองไม่เห็นความผิดปกติอะไร เวินลั่วฉิงกลับมองเห็นได้อย่างชัดเจน ปกติแล้วเวลาที่ท่านปู่ถังและท่านย่าถังเห็นจื่อซีล้วนแทบอยากจะกอดจื่อซีเอาไว้ไม่ปล่อย แทบอยากจะติดจื่อซีเอาไว้ที่ข้างกายของพวกเขาตลอดเวลา วันนี้กลับให้จื่อซีไปเล่นของเล่นคนเดียวแบบนี้

ท่านย่าถังไม่พูดกับจื่อซีเลยสักคำ!!

เวินลั่วฉิงคิดว่าจะต้องมีปัญหาอะไรแน่ แถมยังเป็นปัญหาที่ร้ายแรงมาก

แต่ท่านปู่ถังและท่านย่าถังไม่พูดเลยสักนิด ครั้งนี้เธอเองก็คิดไม่ออกจริง ๆ ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่

เวินลั่วฉิงรู้ว่าจะต้องไม่ใช่เรื่องของเธออย่างแน่นอน เพราะยังไงตอนนี้เรื่องของเธอก็ได้คลี่คลายจนหมดแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นต่อให้เป็นเมื่อวานในตอนที่ท่านปู่ถังและท่านย่าถัง รู้เรื่องที่โจ๋วอันหนานทำกับเธอ ถึงแม้จะโกรธมาก แต่ก็ไม่ได้เป็นเหมือนอย่างในตอนนี้แน่

เวินลั่วฉิงอยู่แสนนาน ท่านปู่ถังที่อยู่ในห้องกลับนั่งอยู่บนโซฟาโดยรักษาท่าเดิมเอาไว้ไม่ ขยับเขยื้อนเลยสักนิด และนอกจากนี้ท่านย่าถังก็นอนอยู่ที่บนโซฟาไม่ได้ลุกขึ้นมา

เวินลั่วฉิงคิดแล้วคิดอีก จากนั้นก็หันหลังเดินจากไป

ณ เมือง A ตอนนี้สาขาองค์กรโกสต์ซิตี้เต็มไปด้วยความสุขความปลื้มปีติยินดี

เจิ้งฉงได้รับข่าวมาว่า ทางประเทศ R องค์กรโกสต์ซิตี้โจมตีเย่ซือเฉินและถังหลินอย่างต่อเนื่อง

“ดังนั้น หัวหน้ายังคงปกป้องเจ้าหญิงมาก เพียงแต่ว่าทางประเทศ Z มีการควบคุมอย่างเข้มงวด จะทำอะไรโดยพลการไม่ได้ ดังนั้นหัวหน้าเลยสั่งให้คนที่อยู่ประเทศ R ลงมือกับเย่ซือเฉินและถังหลิน เห็นได้ชัดว่าหัวหน้ากำลังระบายอารมณ์ให้เจ้าหญิงอยู่” หลังจากที่เจิ้งฉงได้รับข่าวนี้ก็รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่พวกเขาหาตัวเฉิงโหรวโหรวพบ หัวหน้าก็เย็นชากับเฉิงโหรวโหรวเสมอมา หัวหน้าไม่เคยไปพบเฉิงโหรวโหรว แถมยังไม่ไปสนใจเฉิงโหรวโหรวเลยสักครั้ง เจิ้งฉงยังคิดเลยว่าตัวเองเดิมพันผิดไปซะแล้ว

คิดไม่ถึงว่าเขาจะได้รับข่าวดีแบบนี้

“ถ้าเป็นแบบนี้ หลังจากนี้เรื่องของพวกเราก็จะดำเนินการได้ง่ายขึ้น” ไป๋หยิงยิ่งดีใจเป็นพิเศษ: “ขอเพียงหัวหน้าปกป้องเจ้าหญิง พวกเราก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น ไม่ต้องกลัวตระกูลถัง ยิ่งไม่ต้องกลัวคุณหนูใหญ่ตระกูลถังอีกแล้ว”

“แน่นอน ก็แค่ตระกูลถัง ก็แค่คุณหนูใหญ่ตระกูลถังจะเป็นคู่ต่อสู้ขององค์กรโกสต์ซิตี้ได้ยังไง แค่คำพูดประโยคเดียวของหัวหน้า องค์กรโกสต์ซิตี้ทำลายล้างตระกูลถัง กำจัดคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง ก็ไม่ต่างอะไรกับฆ่ามดเล็ก ๆ ตัวหนึ่ง” เจิ้งฉงหัวเราออกมาอย่างอดไม่ได้ บนใบหน้าเต้มไปด้วยความได้ใจ

“ในเมื่อหัวหน้าปกป้องเจ้าหญิงแบบนี้ งั้นงานแต่งระหว่างเจ้าหญิงกับเย่ซือเฉินจะต้องเป็นไปได้แน่ ตอนนี้ฉันมีแผนการที่ดีมากอย่างหนึ่ง” ไป๋หยิงหรี่ตาลง ขอเพียงจัดการเวินลั่วฉิงได้ เธอก็จะดีใจเป็นพิเศษ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+