ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 1400 การค้นพบ (2)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 1400 การค้นพบ (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เจ้าเก้ามองดูคุณชายหาน กะพริบตา มีความไม่เข้าใจเล็กน้อย และสับสนเล็กน้อย แต่ว่าเจ้าเก้าก็ยังทำตามความหมายของคุณชายหาน “ช่วงนี้หัวหน้าไม่อยู่ที่เมืองA เหมือนจะไปที่ประเทศR ไปจัดการเรื่องด้วยตัวเองแล้ว”

“เธอหมายความว่าหัวหน้าไปจัดการเรื่องของฉันที่ประเทศRด้วยตัวเองแล้ว?” เฉิงโหรวโหรวอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นก็ตะโกนร้องออกเสียง เจ้าเก้าสามารถฟังออกถึงความดีใจและแปลกใจจากน้ำเสียงของเฉิงโหรวโหรวผ่านโทรศัพท์

ทว่าเจ้าเก้าก็ยังมึนงงอยู่ ถึงแม้ว่าหัวหน้าจะไปจัดการงานที่ประเทศR เรื่องที่จัดการก็เป็นเรื่องขององค์กรโกสต์ซิตี้ ทำไมถึงกลายเป็นปัดการเรื่องของเฉิงโหรวโหรวแล้วล่ะ?

สมองของเฉิงโหรวโหรวใส่อะไรไว้อยู่?

“งั้นไม่ได้ ไม่ได้ หัวหน้าไปจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง งั้นเย่ซือเฉินต้องถูกโจมตีโดยไม่สามารถสวนกลับได้แน่นอน ฉันจะขอร้องแทนเย่ซือเฉิน ดังนั้นฉันจะพบหัวหน้า” เฉิงโหรวโหรวนึกถึงผลที่ตามมาของเรื่องนี้ น้อยมาสมองของเธอจะหมุนแล่นเร็วขนาดนี้ แต่น่าเสียดายที่เธอทำตามความเห็นของตัวเอง เข้าใจความหมายผิดไปทั้งหมด

เจ้าเก้าหมดคำพูดไปเลย ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร

“หรือว่าแม่นางเฉิงก็ไปประเทศRเถอะ” เจ้าเก้าไม่อยากตอบ ทว่าคุณชายหานเขียนประโยคหนึ่งมาไว้ตรงหน้าของเจ้าเก้า เจ้าเก้าจึงอ่านตาม

“ไปประเทศR?” อีกทางหนึ่งของโทรศัพท์เฉิงโหรวโหรวตะลึงงันไปเลย “ได้ข่าวว่าทางนั้นวุ่นวายมาก สู้รบทุกวัน อันตรายมาก”

เฉิงโหรวโหรวไม่มีความเจ้าเล่ห์ใดๆ คิดอะไรออกก็พูดอะไรออกมา

ถึงแม้เธออยากช่วยเย่ซือเฉินขอร้อง ทว่ากลับไม่อยากพาตัวเองไปเสี่ยง

ไป๋หยิงเบิกตากว้างจ้องไปทางเธอ ยัยเฉิงโหรวโหรวนี่โง่จนไม่มียาสามารถช่วยได้แล้ว

ไป๋หยิงโมโหส่วนโมโห แต่ก็ยังพูดพึมพำอยู่ข้างหูของเฉิงโหรวโหรวไปกี่ประโยค

“ฉัน ฉันเกรงว่าจะไปสร้างความลำบากให้หัวหน้า พอถึงเวลาหัวหน้าต้องจัดการเรื่องต่างๆ ยังต้องว่อกแว่กมาดูแลฉันอีก” เฉิงโหรวโหรวพูดตามสิ่งที่ไป๋หยิงพูดให้เธอไปอย่างสมบูรณ์

แต่ว่าเจ้าเก้าไม่ได้โง่ อีกอย่าเฉิงโหรวโหรวก็พูดได้แข็งทื่อเกินไปแล้ว

เจ้าเก้าอดหัวเราะในใจไม่ได้เลย ตัวเองกลัวอันตรายก็กลัวสิ จะมาพูดว่ากลัวหัวหน้าว่อกแว่กอีก?

เมื่อก่อนหัวหน้าไม่สนใจเฉิงโหรวโหรวเลย เจ้าเก้ารู้สึกไม่ค่อยเข้าใจมาโดยตลอด ทว่าพอได้ยินคำพูดของเฉิงโหรวโหรวแล้ว เจ้าเก้าก็รู้สึกไม่คุ้นค่าแทนหัวหน้าเลย

เฉิงโหรวโหรวรู้อยู่แล้วว่าประเทศRอันตรายมาก เมื่อกี้เธอบอกว่าหัวหน้าไปที่ประเทศRแล้ว เฉิงโหรวโหรวไม่ได้พูดคำพูดที่เป็นห่วงหัวหน้าเลยแม้แต่น้อย เฉิงโหรวโหรวนึกถึงแต่เรื่องของตัวเอง มีเพียงแต่ความปลอดภัยของตัวเอง

“ในเมื่อเธอไม่อยากไปประเทศR งั้นก็ต้องรอให้หัวหน้ากลับมาแล้ว” ครั้งนี้น้ำเสียงของเจ้าเก้าเย็นชาลงเล็กน้อย สำหรับภาพลักษณ์ที่มีต่อเฉิงโหรวโหรวยิ่งแย่ไปใหญ่ ถึงว่าล่ะหัวหน้าไม่ชอบเฉิงโหรวโหรว สภาพอย่างเฉิงโหรวโหรว ไม่ว่าใครก็ชอบไม่ขึ้นหรอก

“งั้นถ้าหัวหน้ากลับมาจากประเทศRแล้วเธอช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหม พอถึงเวลาฉันค่อยไปพบหัวหน้า” เฉิงโหรวโหรวฟังไม่ออกถึงความผิดปกติในน้ำเสียงของเจ้าเก้าเลย เฉิงโหรวโหรวคิดถึงแต่เรื่องของตัวเองจริงๆ

“อืม” เจ้าเก้าตอบกลับไปด้วยความคลุมเครือ ไม่ว่ายังไงหัวหน้าก็ไม่ได้ไปประเทศRอยู่แล้ว

“นายหมายความว่าอะไร? ทำไมให้ฉันพูดแบบนั้นกับเฉิงโหรวโหรว” เจ้าเก้าวางสายแล้ว ก็มองไปทางคุณชายหาน บนใบหน้ามีความสงสัยแฝงอยู่

“สนุกไง” คุณชายหานไม่ได้อธิบาย และไม่ได้พูดอะไรมาก หันหลังแล้วจากไปเลย

เจ้าเก้าสีหน้างงไปหมด!!

อีกทางหนึ่ง เฉิงโหรวโหรววางสายแล้วก็ดีใจยิ่งไปใหญ่ “เจ้าเก้าบอกว่าหัวหน้าไปจัดการเรื่องของฉันที่ประเทศRด้วยตัวเองแล้ว”

ตอนแรกไป๋หยิงฟังคำพูดของเจ้าเก้าแล้วมีความสงสัยเล็กน้อย ทว่าหลังจากนั้นได้ยินว่าหัวหน้าไปเมืองRด้วยตัวเองแล้ว จุดนี้ทำให้ไป๋หยิงตกใจมากๆ

เธอเองก็รู้ว่าหัวหน้าไม่ได้ยุ่งเรื่องในเมืองมานานมากแล้ว ครั้งนี้หัวหน้ากลับไปที่ประเทศRด้วยตัวเอง

จะบอกว่าประเทศRมีเรื่องใหญ่อะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าก็ไม่ใช่ ไม่จำเป็นต้องให้หัวหน้าออกหน้าเองอยู่แล้ว

แต่ว่าหัวหน้าที่ไม่ได้ยุ่งเรื่องขององค์กรโกสต์ซิตี้มานานหลายปีครั้งนี้กลับไปด้วยตัวเองแล้ว?

ไป๋หยิงคิดเหตุผลอื่นไม่ออกแล้ว ราวกับว่าเหลือเพียงแต่เหตุผลเดียวของเฉิงโหรวโหรวแล้ว

หากเป็นแบบนี้จริงๆ งั้นหัวหน้าก็เหมือนว่าให้ความสำคัญกับเฉิงโหรวโหรวแล้ว พอนึกถึงเรื่องพวกนี้ ไป๋หยิงทั้งดีใจและกังวล

ดีใจเพราะแผนการของเธอสำเร็จแล้ว สำเร็จมากๆ

กังวลเพราะกลัวว่าหัวหน้าให้ความสำคัญและดีกับเฉิงโหรวโหรวมากเกินไป เฉิงโหรวโหรวจะหลุดออกจากการควบคุมของเธอ

คำพูดพวกนั้นที่เธอพูดกับเฉิงโหรวโหรวต่างก็เพื่อหลอกเฉิงโหรวโหรว หากหัวหน้าให้ความสำคัญกับเฉิงโหรวโหรวจริงๆ เธอไม่กล้าทำอะไรพวกนั้นลับๆ หรอก

ในใจของเฉิงโหรวโหรวเก็บคำพูดไม่อยู่แน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นคือเธอตั้งใจที่จะโอ้อวดอยู่แล้ว ในไม่ช้าเจิ้งฉงก็ต้องรู้ว่าหัวหน้าไปประเทศRเพื่อเรื่องของเฉิงโหรวโหรว

เจิ้งฉงรู้เรื่องขององค์กรโกสต์ซิตี้มากกว่าไป๋หยิง ดังนั้นในใจของเจิ้งฉงต้องตกใจยิ่งกว่าไป๋หยิงแน่นอน

เจิ้งฉงคิดเยอะกว่าไป๋หยิง เจิ้งฉงรู้สึกว่าครั้งนี้ จำต้องร่ำรวยแล้วแน่ๆ

และในขณะนี้ ซ่างกวนหงยังอยู่ที่ในราชวงศ์ของตัวเอง

ผู้ดูแลจ้งยืนอยู่ข้างๆ รายงานสิ่งที่เขาสืบมาให้หัวหน้าตนเองฟังทั้งหมด

“ตอนนั้น เวินจือฝางพาถังฉิ้นเอ๋อที่ที่กำลังท้องอยู่กลับบ้านเวิน……” คำพูดของผู้ดูแลจ้งอยู่ไปสักพัก จากนั้นก็ทำการอธิบาย “ถังฉิ้นเอ๋อคือชื่อของคุณแม่เวินลั่วฉิงครับ หลังจากเวินลั่วฉิงกลับบ้านถังแล้วก็ใช้ชื่อของคุณแม่เธอ”

“แต่ว่าคุณย่าเวินไม่ยอมรับ ไม่ให้ถังฉิ้นเอ๋อที่ท้องแล้วเข้าบ้าน เวินจือฝางก็เป็นคนที่คลั่งรัก กลับพาถังฉิ้นเอ๋อออกจากบ้านเวินไป” คำพูดนี้ของผู้ดูแลจ้งล้วนแต่เป็นการรายงานที่เป็นความจริง

แต่ว่าดวงตาของซ่างกวนหงกลับหรี่ตาลง!!

ขณะนี้ผู้ดูแลจ้งยืนอยู่ข้างกายของซ่างกวนหง ดังนั้นจึงไม่ได้เห็น ผู้ดูแลจ้งพูดต่อ “เวินจือฝางพาถังฉิ้นเอ๋อจากไปได้ไม่นานก็เกิดอุบัติเหตุทางรถ สำหรับเรื่องอุบัติเหตุทางรถผมก็สืบมาแล้ว เวินจีหยันน้องชายของเวินจือฝางเป็นคนจัดการครับ”

“แต่ว่า ตอนนั้นเวินจือฝางไม่ได้เสียชีวิต แต่ว่ากลายเป็นคนอัมพาต ต่อมา ถังฉิ้นเอ๋อคลอดลูกสาวคนหนึ่งออกมา หลังจากที่เวินจือฝางเสียชีวิตแล้ว ถังฉิ้นเอ๋อก็พาลูกสาวจากไป แปดปีก่อน ถังฉิ้นเอ๋อป่วยหนัก ไม่สามารถดูแลลูกสาวต่อได้ ดังนั้นเธอจึงอยากให้ลูกสาวกลับไปที่บ้านเวินต่อ” ผู้ดูแลจ้งออกหน้าเอง สืบได้ชัดเจนละเอียดมาก

“แน่นอนว่าประตูของบ้านเวินไม่ได้เข้าง่ายขนาดนั้น ไม่สามารถมั่นใจได้ว่าเป็นลูกของบ้านเวินหรือเปล่านั้นไม่สามารถเข้าบ้านเวินแน่นอน ดังนั้นตอนนั้นเวินลั่วฉิงจึงทำการตรวจดีเอ็นเอกับคุณปู่เวิน ดีเอ็นเอรับรองว่าเวินลั่วฉิงเป็นลูกของเวินจือฝาง” ในขณะที่ผู้ดูแลจ้งพูดประโยคนี้ นัยน์ตาคู่หนึ่งมองไปทางหัวหน้าตัวเองด้วยความระมัดระวัง เขาเป็นห่วงว่าหัวหน้าตัวเองจะได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้อีกจริงๆ

“ใช่ว่าผลตรวจดีเอ็นเอจะเป็นของจริงซะหน่อย” ซ่างกวนหงมองไปทางข้างหน้า ไม่ได้มองผู้ดูแลจ้ง ประโยคนี้ไม่รู้ว่าบอกกับผู้ดูแลจ้ง หรือกับตัวเขาเอง

“นี่คือผลตรวจดีเอ็นเอในตอนนั้นครับ” ผู้ดูแลจ้งหยิบใบผลตรวจดีเอ็นเอออกมา เห็นหัวหน้าบ้านตัวเองไม่มีความหมายที่จะดู ผู้ดูแลจ้างจึงเก็บกลับไป

“หัวหน้าครับ” ผู้ดูแลจ้งเห็นหัวหน้าบ้านตัวเองจ้องเหม่อลอยจ้องอยู่แต่ข้างหน้า ก็อดไม่ได้เรียกไปประโยคหนึ่งว่า

“ผลตรวจดีเอ็นเอของฉันกับเฉิงโหรวโหรวออกมาว่าฉันกับเฉิงโหรวโหรวเป็นพ่อลูกกัน แต่ว่านั่นเป็นของปลอม” ในที่สุดซ่างกวนหงก็เงยหน้าขึ้น มองไปทางผู้ดูแลจ้ง น้ำเสียงของซ่างกวนหงพูดอย่างแน่วแน่มาก

ถึงแม้ว่าผลตรวจจะออกมาว่าเฉิงโหรวโหรวเป็นลูกสาวของเขาถึงสองครั้ง ทว่าเขาไม่เคยเชื่อเลยว่าเฉิงโหรวโหรวเป็นลูกสาวของเขา

เขารู้ว่านั่นเป็นเรื่องปลอม

ผู้ดูแลจ้งตะลึงไปเล็กน้อย แอบสูดหายใจ “น่าจะท่านยิงแอบก่อเรื่องขึ้นมา”

หัวหน้าให้หัวหน้าน้อยไปสืบเรื่องนี้อีกครั้ง ทางหัวหน้าเองก็ค้นพบอะไรบางอย่างแล้ว บวกกับเรื่องครั้งนี้ที่ประเทศR สามารถมั่นใจได้เลยว่าท่านยิงแอบก่อเรื่องอยู่เบื้องหลัง

นี่เป็นการแย่งชิงบางอย่างภายในองค์กรโกสต์ซิตี้พวกเขา ท่านยิงเองก็มีความสามารถแบบนั้น

ทว่าสถานการณ์ของบ้านเวินไม่เหมือนกับพวกเขา บ้านเวินนั้นมีคุณปู่เวินเป็นผู้ตัดสินใจ ในตอนนั้นที่คุณปู่เวินรับเวินลั่วฉิงกลับมา เขาได้ป้องกันคนอื่นๆ ในบ้านเวินที่คิดจะทำอะไรร้ายๆ ไว้แน่นอน

ดังนั้นผลตรวจดีเอ็นเอของเวินลั่วฉิงมีความเป็นไปได้ไม่มากที่จะเป็นเรื่องปลอม

หัวหน้าไม่สามารถสงสัยได้ว่ามีปัญหากับผลตรวจดีเอ็นเอของคนอื่นของคนอื่นเพียงเพราะมีปัญหากับการตรวจดีเอ็นเอเฉิงโหรวโหรว

“ตอนนั้น ถังฉิ้นเอ๋อไปหาคุณปู่เวินโดยตรงเลยไหม?” จู่ๆ ซ่างกวนหงก็ถามประโยคนี้ขึ้นมา

ผู้ดูแลจ้งตะลึงงันไปเลย คำถามนี้ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้นึกถึง เขารีบเปิดเอกสาร ในเอกสารเป็นคนเบื้องล่างส่งมา เขาดูเพียงส่วนที่รู้สึกสำคัญ

ตอนนี้ฟังจากคำพูดของหัวหน้าแล้ว ผู้ดูแลจ้งรีบไปสืบรายละเอียดต่างๆ ต่อ จากนั้นก็เจออีกชื่อหนึ่งขึ้นมา เป็นชื่อที่ทำให้ให้เขาแปลกใจมาก และตกใจมาก ผู้ดูแลจ้งถึงขั้นอดพูดออกมาไม่ได้ว่า “เย่โป๋เหวิน!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 1400 การค้นพบ (2)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 1400 การค้นพบ (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เจ้าเก้ามองดูคุณชายหาน กะพริบตา มีความไม่เข้าใจเล็กน้อย และสับสนเล็กน้อย แต่ว่าเจ้าเก้าก็ยังทำตามความหมายของคุณชายหาน “ช่วงนี้หัวหน้าไม่อยู่ที่เมืองA เหมือนจะไปที่ประเทศR ไปจัดการเรื่องด้วยตัวเองแล้ว”

“เธอหมายความว่าหัวหน้าไปจัดการเรื่องของฉันที่ประเทศRด้วยตัวเองแล้ว?” เฉิงโหรวโหรวอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นก็ตะโกนร้องออกเสียง เจ้าเก้าสามารถฟังออกถึงความดีใจและแปลกใจจากน้ำเสียงของเฉิงโหรวโหรวผ่านโทรศัพท์

ทว่าเจ้าเก้าก็ยังมึนงงอยู่ ถึงแม้ว่าหัวหน้าจะไปจัดการงานที่ประเทศR เรื่องที่จัดการก็เป็นเรื่องขององค์กรโกสต์ซิตี้ ทำไมถึงกลายเป็นปัดการเรื่องของเฉิงโหรวโหรวแล้วล่ะ?

สมองของเฉิงโหรวโหรวใส่อะไรไว้อยู่?

“งั้นไม่ได้ ไม่ได้ หัวหน้าไปจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง งั้นเย่ซือเฉินต้องถูกโจมตีโดยไม่สามารถสวนกลับได้แน่นอน ฉันจะขอร้องแทนเย่ซือเฉิน ดังนั้นฉันจะพบหัวหน้า” เฉิงโหรวโหรวนึกถึงผลที่ตามมาของเรื่องนี้ น้อยมาสมองของเธอจะหมุนแล่นเร็วขนาดนี้ แต่น่าเสียดายที่เธอทำตามความเห็นของตัวเอง เข้าใจความหมายผิดไปทั้งหมด

เจ้าเก้าหมดคำพูดไปเลย ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร

“หรือว่าแม่นางเฉิงก็ไปประเทศRเถอะ” เจ้าเก้าไม่อยากตอบ ทว่าคุณชายหานเขียนประโยคหนึ่งมาไว้ตรงหน้าของเจ้าเก้า เจ้าเก้าจึงอ่านตาม

“ไปประเทศR?” อีกทางหนึ่งของโทรศัพท์เฉิงโหรวโหรวตะลึงงันไปเลย “ได้ข่าวว่าทางนั้นวุ่นวายมาก สู้รบทุกวัน อันตรายมาก”

เฉิงโหรวโหรวไม่มีความเจ้าเล่ห์ใดๆ คิดอะไรออกก็พูดอะไรออกมา

ถึงแม้เธออยากช่วยเย่ซือเฉินขอร้อง ทว่ากลับไม่อยากพาตัวเองไปเสี่ยง

ไป๋หยิงเบิกตากว้างจ้องไปทางเธอ ยัยเฉิงโหรวโหรวนี่โง่จนไม่มียาสามารถช่วยได้แล้ว

ไป๋หยิงโมโหส่วนโมโห แต่ก็ยังพูดพึมพำอยู่ข้างหูของเฉิงโหรวโหรวไปกี่ประโยค

“ฉัน ฉันเกรงว่าจะไปสร้างความลำบากให้หัวหน้า พอถึงเวลาหัวหน้าต้องจัดการเรื่องต่างๆ ยังต้องว่อกแว่กมาดูแลฉันอีก” เฉิงโหรวโหรวพูดตามสิ่งที่ไป๋หยิงพูดให้เธอไปอย่างสมบูรณ์

แต่ว่าเจ้าเก้าไม่ได้โง่ อีกอย่าเฉิงโหรวโหรวก็พูดได้แข็งทื่อเกินไปแล้ว

เจ้าเก้าอดหัวเราะในใจไม่ได้เลย ตัวเองกลัวอันตรายก็กลัวสิ จะมาพูดว่ากลัวหัวหน้าว่อกแว่กอีก?

เมื่อก่อนหัวหน้าไม่สนใจเฉิงโหรวโหรวเลย เจ้าเก้ารู้สึกไม่ค่อยเข้าใจมาโดยตลอด ทว่าพอได้ยินคำพูดของเฉิงโหรวโหรวแล้ว เจ้าเก้าก็รู้สึกไม่คุ้นค่าแทนหัวหน้าเลย

เฉิงโหรวโหรวรู้อยู่แล้วว่าประเทศRอันตรายมาก เมื่อกี้เธอบอกว่าหัวหน้าไปที่ประเทศRแล้ว เฉิงโหรวโหรวไม่ได้พูดคำพูดที่เป็นห่วงหัวหน้าเลยแม้แต่น้อย เฉิงโหรวโหรวนึกถึงแต่เรื่องของตัวเอง มีเพียงแต่ความปลอดภัยของตัวเอง

“ในเมื่อเธอไม่อยากไปประเทศR งั้นก็ต้องรอให้หัวหน้ากลับมาแล้ว” ครั้งนี้น้ำเสียงของเจ้าเก้าเย็นชาลงเล็กน้อย สำหรับภาพลักษณ์ที่มีต่อเฉิงโหรวโหรวยิ่งแย่ไปใหญ่ ถึงว่าล่ะหัวหน้าไม่ชอบเฉิงโหรวโหรว สภาพอย่างเฉิงโหรวโหรว ไม่ว่าใครก็ชอบไม่ขึ้นหรอก

“งั้นถ้าหัวหน้ากลับมาจากประเทศRแล้วเธอช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหม พอถึงเวลาฉันค่อยไปพบหัวหน้า” เฉิงโหรวโหรวฟังไม่ออกถึงความผิดปกติในน้ำเสียงของเจ้าเก้าเลย เฉิงโหรวโหรวคิดถึงแต่เรื่องของตัวเองจริงๆ

“อืม” เจ้าเก้าตอบกลับไปด้วยความคลุมเครือ ไม่ว่ายังไงหัวหน้าก็ไม่ได้ไปประเทศRอยู่แล้ว

“นายหมายความว่าอะไร? ทำไมให้ฉันพูดแบบนั้นกับเฉิงโหรวโหรว” เจ้าเก้าวางสายแล้ว ก็มองไปทางคุณชายหาน บนใบหน้ามีความสงสัยแฝงอยู่

“สนุกไง” คุณชายหานไม่ได้อธิบาย และไม่ได้พูดอะไรมาก หันหลังแล้วจากไปเลย

เจ้าเก้าสีหน้างงไปหมด!!

อีกทางหนึ่ง เฉิงโหรวโหรววางสายแล้วก็ดีใจยิ่งไปใหญ่ “เจ้าเก้าบอกว่าหัวหน้าไปจัดการเรื่องของฉันที่ประเทศRด้วยตัวเองแล้ว”

ตอนแรกไป๋หยิงฟังคำพูดของเจ้าเก้าแล้วมีความสงสัยเล็กน้อย ทว่าหลังจากนั้นได้ยินว่าหัวหน้าไปเมืองRด้วยตัวเองแล้ว จุดนี้ทำให้ไป๋หยิงตกใจมากๆ

เธอเองก็รู้ว่าหัวหน้าไม่ได้ยุ่งเรื่องในเมืองมานานมากแล้ว ครั้งนี้หัวหน้ากลับไปที่ประเทศRด้วยตัวเอง

จะบอกว่าประเทศRมีเรื่องใหญ่อะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าก็ไม่ใช่ ไม่จำเป็นต้องให้หัวหน้าออกหน้าเองอยู่แล้ว

แต่ว่าหัวหน้าที่ไม่ได้ยุ่งเรื่องขององค์กรโกสต์ซิตี้มานานหลายปีครั้งนี้กลับไปด้วยตัวเองแล้ว?

ไป๋หยิงคิดเหตุผลอื่นไม่ออกแล้ว ราวกับว่าเหลือเพียงแต่เหตุผลเดียวของเฉิงโหรวโหรวแล้ว

หากเป็นแบบนี้จริงๆ งั้นหัวหน้าก็เหมือนว่าให้ความสำคัญกับเฉิงโหรวโหรวแล้ว พอนึกถึงเรื่องพวกนี้ ไป๋หยิงทั้งดีใจและกังวล

ดีใจเพราะแผนการของเธอสำเร็จแล้ว สำเร็จมากๆ

กังวลเพราะกลัวว่าหัวหน้าให้ความสำคัญและดีกับเฉิงโหรวโหรวมากเกินไป เฉิงโหรวโหรวจะหลุดออกจากการควบคุมของเธอ

คำพูดพวกนั้นที่เธอพูดกับเฉิงโหรวโหรวต่างก็เพื่อหลอกเฉิงโหรวโหรว หากหัวหน้าให้ความสำคัญกับเฉิงโหรวโหรวจริงๆ เธอไม่กล้าทำอะไรพวกนั้นลับๆ หรอก

ในใจของเฉิงโหรวโหรวเก็บคำพูดไม่อยู่แน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นคือเธอตั้งใจที่จะโอ้อวดอยู่แล้ว ในไม่ช้าเจิ้งฉงก็ต้องรู้ว่าหัวหน้าไปประเทศRเพื่อเรื่องของเฉิงโหรวโหรว

เจิ้งฉงรู้เรื่องขององค์กรโกสต์ซิตี้มากกว่าไป๋หยิง ดังนั้นในใจของเจิ้งฉงต้องตกใจยิ่งกว่าไป๋หยิงแน่นอน

เจิ้งฉงคิดเยอะกว่าไป๋หยิง เจิ้งฉงรู้สึกว่าครั้งนี้ จำต้องร่ำรวยแล้วแน่ๆ

และในขณะนี้ ซ่างกวนหงยังอยู่ที่ในราชวงศ์ของตัวเอง

ผู้ดูแลจ้งยืนอยู่ข้างๆ รายงานสิ่งที่เขาสืบมาให้หัวหน้าตนเองฟังทั้งหมด

“ตอนนั้น เวินจือฝางพาถังฉิ้นเอ๋อที่ที่กำลังท้องอยู่กลับบ้านเวิน……” คำพูดของผู้ดูแลจ้งอยู่ไปสักพัก จากนั้นก็ทำการอธิบาย “ถังฉิ้นเอ๋อคือชื่อของคุณแม่เวินลั่วฉิงครับ หลังจากเวินลั่วฉิงกลับบ้านถังแล้วก็ใช้ชื่อของคุณแม่เธอ”

“แต่ว่าคุณย่าเวินไม่ยอมรับ ไม่ให้ถังฉิ้นเอ๋อที่ท้องแล้วเข้าบ้าน เวินจือฝางก็เป็นคนที่คลั่งรัก กลับพาถังฉิ้นเอ๋อออกจากบ้านเวินไป” คำพูดนี้ของผู้ดูแลจ้งล้วนแต่เป็นการรายงานที่เป็นความจริง

แต่ว่าดวงตาของซ่างกวนหงกลับหรี่ตาลง!!

ขณะนี้ผู้ดูแลจ้งยืนอยู่ข้างกายของซ่างกวนหง ดังนั้นจึงไม่ได้เห็น ผู้ดูแลจ้งพูดต่อ “เวินจือฝางพาถังฉิ้นเอ๋อจากไปได้ไม่นานก็เกิดอุบัติเหตุทางรถ สำหรับเรื่องอุบัติเหตุทางรถผมก็สืบมาแล้ว เวินจีหยันน้องชายของเวินจือฝางเป็นคนจัดการครับ”

“แต่ว่า ตอนนั้นเวินจือฝางไม่ได้เสียชีวิต แต่ว่ากลายเป็นคนอัมพาต ต่อมา ถังฉิ้นเอ๋อคลอดลูกสาวคนหนึ่งออกมา หลังจากที่เวินจือฝางเสียชีวิตแล้ว ถังฉิ้นเอ๋อก็พาลูกสาวจากไป แปดปีก่อน ถังฉิ้นเอ๋อป่วยหนัก ไม่สามารถดูแลลูกสาวต่อได้ ดังนั้นเธอจึงอยากให้ลูกสาวกลับไปที่บ้านเวินต่อ” ผู้ดูแลจ้งออกหน้าเอง สืบได้ชัดเจนละเอียดมาก

“แน่นอนว่าประตูของบ้านเวินไม่ได้เข้าง่ายขนาดนั้น ไม่สามารถมั่นใจได้ว่าเป็นลูกของบ้านเวินหรือเปล่านั้นไม่สามารถเข้าบ้านเวินแน่นอน ดังนั้นตอนนั้นเวินลั่วฉิงจึงทำการตรวจดีเอ็นเอกับคุณปู่เวิน ดีเอ็นเอรับรองว่าเวินลั่วฉิงเป็นลูกของเวินจือฝาง” ในขณะที่ผู้ดูแลจ้งพูดประโยคนี้ นัยน์ตาคู่หนึ่งมองไปทางหัวหน้าตัวเองด้วยความระมัดระวัง เขาเป็นห่วงว่าหัวหน้าตัวเองจะได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้อีกจริงๆ

“ใช่ว่าผลตรวจดีเอ็นเอจะเป็นของจริงซะหน่อย” ซ่างกวนหงมองไปทางข้างหน้า ไม่ได้มองผู้ดูแลจ้ง ประโยคนี้ไม่รู้ว่าบอกกับผู้ดูแลจ้ง หรือกับตัวเขาเอง

“นี่คือผลตรวจดีเอ็นเอในตอนนั้นครับ” ผู้ดูแลจ้งหยิบใบผลตรวจดีเอ็นเอออกมา เห็นหัวหน้าบ้านตัวเองไม่มีความหมายที่จะดู ผู้ดูแลจ้างจึงเก็บกลับไป

“หัวหน้าครับ” ผู้ดูแลจ้งเห็นหัวหน้าบ้านตัวเองจ้องเหม่อลอยจ้องอยู่แต่ข้างหน้า ก็อดไม่ได้เรียกไปประโยคหนึ่งว่า

“ผลตรวจดีเอ็นเอของฉันกับเฉิงโหรวโหรวออกมาว่าฉันกับเฉิงโหรวโหรวเป็นพ่อลูกกัน แต่ว่านั่นเป็นของปลอม” ในที่สุดซ่างกวนหงก็เงยหน้าขึ้น มองไปทางผู้ดูแลจ้ง น้ำเสียงของซ่างกวนหงพูดอย่างแน่วแน่มาก

ถึงแม้ว่าผลตรวจจะออกมาว่าเฉิงโหรวโหรวเป็นลูกสาวของเขาถึงสองครั้ง ทว่าเขาไม่เคยเชื่อเลยว่าเฉิงโหรวโหรวเป็นลูกสาวของเขา

เขารู้ว่านั่นเป็นเรื่องปลอม

ผู้ดูแลจ้งตะลึงไปเล็กน้อย แอบสูดหายใจ “น่าจะท่านยิงแอบก่อเรื่องขึ้นมา”

หัวหน้าให้หัวหน้าน้อยไปสืบเรื่องนี้อีกครั้ง ทางหัวหน้าเองก็ค้นพบอะไรบางอย่างแล้ว บวกกับเรื่องครั้งนี้ที่ประเทศR สามารถมั่นใจได้เลยว่าท่านยิงแอบก่อเรื่องอยู่เบื้องหลัง

นี่เป็นการแย่งชิงบางอย่างภายในองค์กรโกสต์ซิตี้พวกเขา ท่านยิงเองก็มีความสามารถแบบนั้น

ทว่าสถานการณ์ของบ้านเวินไม่เหมือนกับพวกเขา บ้านเวินนั้นมีคุณปู่เวินเป็นผู้ตัดสินใจ ในตอนนั้นที่คุณปู่เวินรับเวินลั่วฉิงกลับมา เขาได้ป้องกันคนอื่นๆ ในบ้านเวินที่คิดจะทำอะไรร้ายๆ ไว้แน่นอน

ดังนั้นผลตรวจดีเอ็นเอของเวินลั่วฉิงมีความเป็นไปได้ไม่มากที่จะเป็นเรื่องปลอม

หัวหน้าไม่สามารถสงสัยได้ว่ามีปัญหากับผลตรวจดีเอ็นเอของคนอื่นของคนอื่นเพียงเพราะมีปัญหากับการตรวจดีเอ็นเอเฉิงโหรวโหรว

“ตอนนั้น ถังฉิ้นเอ๋อไปหาคุณปู่เวินโดยตรงเลยไหม?” จู่ๆ ซ่างกวนหงก็ถามประโยคนี้ขึ้นมา

ผู้ดูแลจ้งตะลึงงันไปเลย คำถามนี้ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้นึกถึง เขารีบเปิดเอกสาร ในเอกสารเป็นคนเบื้องล่างส่งมา เขาดูเพียงส่วนที่รู้สึกสำคัญ

ตอนนี้ฟังจากคำพูดของหัวหน้าแล้ว ผู้ดูแลจ้งรีบไปสืบรายละเอียดต่างๆ ต่อ จากนั้นก็เจออีกชื่อหนึ่งขึ้นมา เป็นชื่อที่ทำให้ให้เขาแปลกใจมาก และตกใจมาก ผู้ดูแลจ้งถึงขั้นอดพูดออกมาไม่ได้ว่า “เย่โป๋เหวิน!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+