ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 1441 ความจริงกระจ่าง (1)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 1441 ความจริงกระจ่าง (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เฟิ่งเหมียวเหมียวเป็นใคร?อยากให้เธออ่อนโยนก็ได้ แข็งกระด้างก็ไม่มีปัญหา หากคิดจะมาปะทะฝีปากกับเธอ คงคิดผิดไปถนัด แน่นอน ส่วนของพลานุภาพและรัศมีก็ไม่มีใครเทียบเฟิ่งเหมียวเหมียวได้

และที่สำคัญ เฟิ่งเหมียวเหมียวเคียงบ่าเคียงไหล่ถังหยุนเฉิง เป็นคุณนายถังมาหลายปี จึงเคยเจอทุกสถานการณ์ คนอย่างเฉิงโหรวโหรวจะเป็นคู่ต่อสู้เธอได้อย่างไร?

เฟิ่งเหมียวเหมียวพูดอย่างเงียบขรึม ทว่ากลับแฝงนัยยะหลายประการ

ประการที่หนึ่ง เฟิ่งเหมียวเหมียวเน้นย้ำว่าคุณหนูใหญ่ถังเป็นที่โปรดปรานของตระกูลถัง สามารถเปรียบเทียบข่าวลือขององค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้อย่างลงตัว

ประการที่สอง องค์หญิงคนนี้ไม่มีฐานะใดๆในตระกูลเย่ ทว่าก็มาเฝ้าศพไว้อาลัยเย่โป๋เหวินในฐานะเจ้าบ้าน เรื่องนี้ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ถึงแม้จะทำให้ทุกคนคิดว่าคุณชายสามเย่จะแต่งงานกับองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ ทว่าคนส่วนมากก็รู้สึกเอือมระอากับการกระทำขององค์หญิงคนนี้

ลูกสาวบ้านไหนเที่ยวไปเฝ้าศพไว้อาลัยโดยที่ไม่มีสถานะอะไร!

คำพูดของเฟิ่งเหมียวเหมียวเจือความแดกดันอย่างฉายชัด

ถึงเฉิงโหรวโหรวจะโง่เง่าเต่าตุ่น ทว่าก็ฟังออก

เฉิงโหรวโหรวโดนเฟิ่งเหมียวเหมียวสวนกลับจนรู้สึกฉุนเฉียว เธอที่ไร้สมองพูดออกมาว่า “คุณหนูใหญ่ถังกับเย่ซือเฉินมีความสัมพันธ์ไม่เลวไม่ใช่เหรอ?ทำไมถึงไม่มาล่ะ?”

เฟิ่งเหมียวเหมียวเบิกตากว้าง มององค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้อย่างตกตะลึง เธอกล้ำกลืนวาจาหยาบคายลง

โอ้โห สมององค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้มีปัญหาหรือเปล่า?!

ถึงได้กล้าพูดอย่างนี้ตรงนี้?

หากวันนี้เป็นงานมงคลของตระกูลเย่ก็แล้วไป ทว่าวันนี้เป็นงานศพของเย่โป๋เหวินนะ

คนที่มาร่วมงานศพคือเคารพในตัวผู้ตาย ซึ่งถังหยุนเฉิงกับเฟิ่งเหมียวเหมียวเป็นตัวแทนตระกูลถังเข้ามางาน ถือว่าเป็นการเคารพเย่โป๋เหวินสูงสุด

งานศพไม่ใช่งานแต่งงาน หากไม่สนิทชิดเชื้อกันจริง ผู้ใหญ่ไม่มีทางพาเด็กมาเดินเพ่นพ่านงานแบบนี้หรอก

หากถังหลินมาก็ถือว่าปกติ เพราะถังหลินกับเย่ซือเฉินเป็นสหายรักต่อกัน ทว่าหากถังหยุนเฉิงพาคุณหนูใหญ่ถังมาก็ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าใดนัก

“คุณเฉิงใช่ไหมคะ?” เฟิ่งเหมียวเหมียวมองเฉิงโหรวโหรวด้วยรอยยิ้ม เฟิ่งเหมียวเหมียวไม่เรียกว่าองค์หญิงอีก เพราะฟังแล้วช่างกระดากนัก เป็นองค์หญิงภาษาอะไรเนี่ย?เหมาะจะเป็นหมูมากกว่า

เฉิงโหรวโหรวได้ยินเฟิ่งเหมียวเหมียวเรียก สีหน้าพลันเปลี่ยนไป ตอนนี้หัวหน้าไม่ให้เธอเปลี่ยนแซ่ เธอยังคงแซ่เฉิงเหมือนเดิม

ซึ่งเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้เธอขุ่นเคืองใจ

“ใครๆก็รู้ว่าคุณหนูถังของพวกเราเป็นคนฉลาด มีมารยาท รู้จักกาลเทศ ดังนั้นเรื่องที่คุณหนูใหญ่ถังทำจึงไม่มีใครหาข้อบกพร่องได้ คุณเฉิงกำลังอยากปรักปรำคนของตระกูลถังอยู่หรือ” ตอนแรกเฟิ่งเหมียวเหมียวไม่ได้พูดแทงใจดำขนาดนี้ ทว่าเฉิงโหรวโหรวเกินไปจริงๆ น้ำเสียงเฟิ่งเหมียวเหมียวจึงเปลี่ยนไป

“ไม่ใช่ค่ะ ฉันแต่รู้สึกว่าคุณหนูถังสนิทกับเย่ซือเฉินแล้วก็ควรมาเคารพคุณลุงสักหน่อยค่ะ” เฉิงโหรวโหรวเห็นบารมีจัดเต็มของเฟิ่งเหมียวเหมียว ร่างกายก็หดแกร่ง และเสียงเบาลงหลายส่วน

“คุณเฉิงรู้มาจากไหนคะว่าคุณหนูใหญ่ของพวกเราสนิทกับคุณชายสามเย่?แล้วคุณเฉิงมีสิทธิ์อะไรมาถามเรื่องนี้?”เวลานี้เฟิ่งเหมียเหมียวหน้าตาบึ้งตึง เสียงเย็นเยียบเพิ่มขึ้นหลายส่วน

มีคนรู้เรื่องเย่ซือเฉินกับฉิงฉิงไม่มาก คนที่รู้ก็ล้วนเป็นคนใกล้ชิดทั้งนั้น

กระทั่งคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ยังไม่รู้เรื่องนี้อย่างละเอียดเลย แล้วเฉิงโหรวโหรวคนนี้รู้ได้ยังไง?

เฟิ่งเหมียวเหมียวฟังออกว่าน้ำเสียงเฉิงโหรวโหรวไม่เป็นมิตร เดิมทีเฟิ่งเหมียวเหมียวคิดว่าเฉิงโหรวโหรวชอบเย่ซือเฉิน ทว่าตอนนี้เห็นทีคงไม่ง่ายอย่างที่คิด

ถังหยุนเฉิงที่ยืนอยู่ด้านข้างไม่พูดอะไรมาตลอด เวลานี้แววตาก็เริ่มมืดครึ้มหลายส่วน

“ในบ้านตระกูลเย่ งานศพของคุณเย่ คุณเฉิงใช้สถานะอะไร?คิดว่าตัวเองเป็นใคร?”เฟ่งเหมียวเหมียวพูดอย่างบีบเค้นหลายส่วน

“ฉัน……ฉัน……” เฉิงโหรวโหรวเป็นใบ้ไปเลย ไม่รู้จะตอบเฟิ่งเหมียวเหมียวยังไง เธอก็รู้ว่าตอนนี้ตัวเองยังไม่ได้แต่งงานกับเย่ซือเฉิน ยังไม่มีฐานะอะไรในบ้านนี้

คนที่รายล้อมอยู่นั้นมองเฉิงโหรวโหรวด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป องค์หญิงคนนี้สมองมีปัญหาจริงๆหรือนี่?

“คุณนายถัง เธอเป็นแค่เด็ก อย่าโกรธเธอเลย” คุณย่าเย่แอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก ถึงแม้ท่านจะไม่ชอบใจกับการกระทำของเฉิงโหรวโหรว ทว่าท่านก็ไม่กู้สถานการณ์ไม่ได้

“ฉันไม่ถือสาเธออยู่แล้วค่ะ แต่ฉันเห็นคุณย่าเย่พาเธออยู่ข้างกายตลอดเวลา ฉันยังคิดว่าตระกูลเย่มีสมาชิกเพิ่มขึ้นเสียอีกค่ะ ฉันรู้สึกสงสัย เลยถามดูค่ะ วันหน้าจะได้ไม่มีคนว่าตระกูลถังไม่รู้ความค่ะ” เฟิ่งเหมียวเหมียวไม่อยากมีเรื่อง ทว่าเธออคติกับคุณย่าเย่มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว น้ำเสียงจึงไม่มีความเกรงอกเกรงใจเลยสักนิด

“ขอถามหน่อยค่ะ คุณเฉิงท่านนี้มีสถานะอะไรในบ้านตระกูลเย่คะ?” เฟิ่งเหมียวเหมียวรู้ตั้งนานแล้วว่าคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่คิดจะทำอะไร คนตระกูลถังก็รู้ด้วย แต่เป็นงานศพของเย่โป๋เหวิน จึงไม่อยากสร้างความวุ่นวาย ทว่าเฟิ่งเหมียวเหมียวก็รู้สึกคับอกคับใจ วิธีการของคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ทำให้สะอิดสะเอียนมาก มันเหลืออดจริงๆ

ถึงแม้ฉิงฉิงจะเข้าใจเย่ซือเฉิน ทว่าคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ทำถึงขั้นนี้ ฉิงฉิงก็ต้องไม่สบายใจบ้างแหละ ตอนแรกเธอก็อยากอดทนไว้ ทว่าดันมีคนไม่มีแววตาเสนอหน้ามา

เฟิ่งเหมียวเหมียวลั่นวาจานี้ออกมา คนรอบข้างก็รีบแคะขี้หูฟัง ล้วนอยากรู้ว่าคุณย่าเย่จะตอบเช่นไรกันทั่วหน้า

เพราะองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้มาเฝ้าไว้อาลัยเย่โป๋เหวินที่บ้านตระกูลเย่ ทั้งยังรับผิดชอบงานเลี้ยงวันนี้ด้วย เรื่องพวกนี้ล้วนเป็นการแจ้งข่าวให้ทุกคนรู้ ซึ่งก็คือข่าวที่ว่าคุณชายสามเย่อาจจะแต่งงานกับองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้

ทว่าถึงเรื่องจะครึกโครมเพียงใด คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ก็ไม่ยืนออกมาพูดเสียที และไม่เคยช่วยองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้พูดอะไร

“วันนี้เป็นงานศพของเย่โป๋เหวิน เรื่องอื่นค่อยว่ากันนะ” คุณย่าเย่ไม่ได้ตอบคำถามของเฟิ่งเหมียวเหมียวโดยตรง ถึงแม้เย่ซือเฉินจะกลับมาแล้ว ทว่าเย่ซือเฉินก็ไม่มองพวกท่านดีๆเลย และไม่เคยพูดคุยกับพวกท่านด้วย คุณย่าเย่จึงไม่กล้าพูดอะไรเกินควร

“ดูจากความหมายของคุณย่าเย่แล้ว คุณเฉิงไม่ใช่คนของตระกูลเย่ใช่ไหมคะ?แล้วเมื่อกี้คุณเฉิงมีสิทธิ์อะไรมาถามฉัน?” เฟิ่งเหมียวเหมียวได้ยินคำพูดของคุณย่าเย่ก็อดแอบหัวเราะเย้ยหยันไม่ได้

คุณย่าเย่คนนี้น่าสนใจจริงๆ อยากให้เย่ซือเฉินแต่งงานกับองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ ทว่ากลับไม่กล้ายอมรับ

องค์หญิงคนนี้ไม่รู้สึกเนื้อใจหรือ?!

อันที่จริงเฟิ่งเหมียวเหมียวพูดให้เฉิงโหรวโหรวฟังต่างหาก ขอเพียงเฉิงโหรวโหรวมีสมองก็จะดูท่าทางของคุณย่าเย่ออก น่าจะรู้สึกเสียใจและเนื้อใจบ้าง?

ทว่าสิ่งที่ทำให้เฟิ่งเหมียวเหมียวแปลกใจก็คือ เฉิงโหรวโหรวไม่ได้ถือสาคุณย่าเย่ ทางกลับกัน กลับมองเธอด้วยใบหน้าโกรธเคือง “ฉันกับเย่ซือเฉินหมั้นกันแล้ว พวกเราจะแต่งงานกัน”

เฟิ่งเหมียวเหมียวตะลึงตะไลอีกครั้ง สมององค์หญิงคนนี้มีปัญหาจริงๆ

เย่ซือเฉินไม่เคยพูดอะไรเลย เมื่อกี้คุณย่าเย่ก็กำลังหลีกเลี่ยงคำถามนี้อย่างเห็นได้ชัด แต่องค์หญิงกลับขึ้นเขียงซะงั้น

ไม่รู้จักสำรวมเลยสักนิด ประเด็นสำคัญคือหน้าไม่อายมาก!!

ตอนนี้คนองค์กรโกสต์ซิตี้กลายเป็นคนหน้าไม่อายกันหมดแล้วเหรอ?!

องค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ทำตัวอย่างนี้ หัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้คล้อยตามหรือไม่?!

“โอเค งั้นก็ขอแสดงความยินดีกับคุณเฉิงด้วยนะคะ” เฟิ่งเหมียวเหมียวหัวเราะกะทันหัน เธอคิดว่าคนนี้ยังกล้ามาแย่งชิงกับฉิงฉิงของเธออีกหรือ?ไม่ให้เกียรติฉิงฉิงเลย!!

เพราะคนแบบนี้จะมีคุณสมบัติเป็นคู่ต่อสู้ฉิงฉิงได้ยังไง?!

เฟิ่งเหมียวเหมียวรู้สึกว่าเมื่อครู่ตัวเองไม่จำเป็นต้องโกรธอะไรเลย

“ยินดีคุณย่าเย่ด้วยค่ะ ดูเหมือนตระกูลเย่ใกล้จะจัดงานมงคลแล้วนะคะ” เฟิ่งเหมียวเหมียวมองไปยังคุณย่าเย่ด้วยรอยยิ้มที่เต็มใบหน้า เพียงแต่ใครก็ฟังออกว่าเฟิ่งเหมียวเหมียวพูดประชดประชัน

คุณย่าเย่รู้สึกหงุดหงิดในใจ ทว่าสถานการณ์เช่นนี้ ท่านก็พูดอะไรมากไม่ได้

ถ้าจะโทษก็ต้องโทษเฉิงโหรวโหรวที่ไม่มีสมอง พูดจาเรื่อยเปื่อย ถ้ารู้แต่แรก ท่านก็ไม่ให้เฉิงโหรวโหรวอยู่ข้างๆแล้วละ

ทว่าเมื่อให้เฉิงโหรวโหรวอยู่ข้างๆก็ได้ผลลัพธ์ที่ท่านต้องการแล้ว ตอนนี้ท่านพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้

ตอนนี้ทุกคนกำลังส่งข่าวบอกต่อว่าเย่ซือเฉินจะแต่งงานกับองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ หากสถานการณ์เช่นนี้เย่ซือเฉินยังปฏิเสธอีก ถึงเวลานั้นหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้คงไม่ยอม และท้ายที่สุดเย่ซือเฉินก็ต้องสมัครใจแต่งงานกับเฉิงโหรวโหรว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 1441 ความจริงกระจ่าง (1)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 1441 ความจริงกระจ่าง (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เฟิ่งเหมียวเหมียวเป็นใคร?อยากให้เธออ่อนโยนก็ได้ แข็งกระด้างก็ไม่มีปัญหา หากคิดจะมาปะทะฝีปากกับเธอ คงคิดผิดไปถนัด แน่นอน ส่วนของพลานุภาพและรัศมีก็ไม่มีใครเทียบเฟิ่งเหมียวเหมียวได้

และที่สำคัญ เฟิ่งเหมียวเหมียวเคียงบ่าเคียงไหล่ถังหยุนเฉิง เป็นคุณนายถังมาหลายปี จึงเคยเจอทุกสถานการณ์ คนอย่างเฉิงโหรวโหรวจะเป็นคู่ต่อสู้เธอได้อย่างไร?

เฟิ่งเหมียวเหมียวพูดอย่างเงียบขรึม ทว่ากลับแฝงนัยยะหลายประการ

ประการที่หนึ่ง เฟิ่งเหมียวเหมียวเน้นย้ำว่าคุณหนูใหญ่ถังเป็นที่โปรดปรานของตระกูลถัง สามารถเปรียบเทียบข่าวลือขององค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้อย่างลงตัว

ประการที่สอง องค์หญิงคนนี้ไม่มีฐานะใดๆในตระกูลเย่ ทว่าก็มาเฝ้าศพไว้อาลัยเย่โป๋เหวินในฐานะเจ้าบ้าน เรื่องนี้ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ถึงแม้จะทำให้ทุกคนคิดว่าคุณชายสามเย่จะแต่งงานกับองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ ทว่าคนส่วนมากก็รู้สึกเอือมระอากับการกระทำขององค์หญิงคนนี้

ลูกสาวบ้านไหนเที่ยวไปเฝ้าศพไว้อาลัยโดยที่ไม่มีสถานะอะไร!

คำพูดของเฟิ่งเหมียวเหมียวเจือความแดกดันอย่างฉายชัด

ถึงเฉิงโหรวโหรวจะโง่เง่าเต่าตุ่น ทว่าก็ฟังออก

เฉิงโหรวโหรวโดนเฟิ่งเหมียวเหมียวสวนกลับจนรู้สึกฉุนเฉียว เธอที่ไร้สมองพูดออกมาว่า “คุณหนูใหญ่ถังกับเย่ซือเฉินมีความสัมพันธ์ไม่เลวไม่ใช่เหรอ?ทำไมถึงไม่มาล่ะ?”

เฟิ่งเหมียวเหมียวเบิกตากว้าง มององค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้อย่างตกตะลึง เธอกล้ำกลืนวาจาหยาบคายลง

โอ้โห สมององค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้มีปัญหาหรือเปล่า?!

ถึงได้กล้าพูดอย่างนี้ตรงนี้?

หากวันนี้เป็นงานมงคลของตระกูลเย่ก็แล้วไป ทว่าวันนี้เป็นงานศพของเย่โป๋เหวินนะ

คนที่มาร่วมงานศพคือเคารพในตัวผู้ตาย ซึ่งถังหยุนเฉิงกับเฟิ่งเหมียวเหมียวเป็นตัวแทนตระกูลถังเข้ามางาน ถือว่าเป็นการเคารพเย่โป๋เหวินสูงสุด

งานศพไม่ใช่งานแต่งงาน หากไม่สนิทชิดเชื้อกันจริง ผู้ใหญ่ไม่มีทางพาเด็กมาเดินเพ่นพ่านงานแบบนี้หรอก

หากถังหลินมาก็ถือว่าปกติ เพราะถังหลินกับเย่ซือเฉินเป็นสหายรักต่อกัน ทว่าหากถังหยุนเฉิงพาคุณหนูใหญ่ถังมาก็ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าใดนัก

“คุณเฉิงใช่ไหมคะ?” เฟิ่งเหมียวเหมียวมองเฉิงโหรวโหรวด้วยรอยยิ้ม เฟิ่งเหมียวเหมียวไม่เรียกว่าองค์หญิงอีก เพราะฟังแล้วช่างกระดากนัก เป็นองค์หญิงภาษาอะไรเนี่ย?เหมาะจะเป็นหมูมากกว่า

เฉิงโหรวโหรวได้ยินเฟิ่งเหมียวเหมียวเรียก สีหน้าพลันเปลี่ยนไป ตอนนี้หัวหน้าไม่ให้เธอเปลี่ยนแซ่ เธอยังคงแซ่เฉิงเหมือนเดิม

ซึ่งเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้เธอขุ่นเคืองใจ

“ใครๆก็รู้ว่าคุณหนูถังของพวกเราเป็นคนฉลาด มีมารยาท รู้จักกาลเทศ ดังนั้นเรื่องที่คุณหนูใหญ่ถังทำจึงไม่มีใครหาข้อบกพร่องได้ คุณเฉิงกำลังอยากปรักปรำคนของตระกูลถังอยู่หรือ” ตอนแรกเฟิ่งเหมียวเหมียวไม่ได้พูดแทงใจดำขนาดนี้ ทว่าเฉิงโหรวโหรวเกินไปจริงๆ น้ำเสียงเฟิ่งเหมียวเหมียวจึงเปลี่ยนไป

“ไม่ใช่ค่ะ ฉันแต่รู้สึกว่าคุณหนูถังสนิทกับเย่ซือเฉินแล้วก็ควรมาเคารพคุณลุงสักหน่อยค่ะ” เฉิงโหรวโหรวเห็นบารมีจัดเต็มของเฟิ่งเหมียวเหมียว ร่างกายก็หดแกร่ง และเสียงเบาลงหลายส่วน

“คุณเฉิงรู้มาจากไหนคะว่าคุณหนูใหญ่ของพวกเราสนิทกับคุณชายสามเย่?แล้วคุณเฉิงมีสิทธิ์อะไรมาถามเรื่องนี้?”เวลานี้เฟิ่งเหมียเหมียวหน้าตาบึ้งตึง เสียงเย็นเยียบเพิ่มขึ้นหลายส่วน

มีคนรู้เรื่องเย่ซือเฉินกับฉิงฉิงไม่มาก คนที่รู้ก็ล้วนเป็นคนใกล้ชิดทั้งนั้น

กระทั่งคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ยังไม่รู้เรื่องนี้อย่างละเอียดเลย แล้วเฉิงโหรวโหรวคนนี้รู้ได้ยังไง?

เฟิ่งเหมียวเหมียวฟังออกว่าน้ำเสียงเฉิงโหรวโหรวไม่เป็นมิตร เดิมทีเฟิ่งเหมียวเหมียวคิดว่าเฉิงโหรวโหรวชอบเย่ซือเฉิน ทว่าตอนนี้เห็นทีคงไม่ง่ายอย่างที่คิด

ถังหยุนเฉิงที่ยืนอยู่ด้านข้างไม่พูดอะไรมาตลอด เวลานี้แววตาก็เริ่มมืดครึ้มหลายส่วน

“ในบ้านตระกูลเย่ งานศพของคุณเย่ คุณเฉิงใช้สถานะอะไร?คิดว่าตัวเองเป็นใคร?”เฟ่งเหมียวเหมียวพูดอย่างบีบเค้นหลายส่วน

“ฉัน……ฉัน……” เฉิงโหรวโหรวเป็นใบ้ไปเลย ไม่รู้จะตอบเฟิ่งเหมียวเหมียวยังไง เธอก็รู้ว่าตอนนี้ตัวเองยังไม่ได้แต่งงานกับเย่ซือเฉิน ยังไม่มีฐานะอะไรในบ้านนี้

คนที่รายล้อมอยู่นั้นมองเฉิงโหรวโหรวด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป องค์หญิงคนนี้สมองมีปัญหาจริงๆหรือนี่?

“คุณนายถัง เธอเป็นแค่เด็ก อย่าโกรธเธอเลย” คุณย่าเย่แอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก ถึงแม้ท่านจะไม่ชอบใจกับการกระทำของเฉิงโหรวโหรว ทว่าท่านก็ไม่กู้สถานการณ์ไม่ได้

“ฉันไม่ถือสาเธออยู่แล้วค่ะ แต่ฉันเห็นคุณย่าเย่พาเธออยู่ข้างกายตลอดเวลา ฉันยังคิดว่าตระกูลเย่มีสมาชิกเพิ่มขึ้นเสียอีกค่ะ ฉันรู้สึกสงสัย เลยถามดูค่ะ วันหน้าจะได้ไม่มีคนว่าตระกูลถังไม่รู้ความค่ะ” เฟิ่งเหมียวเหมียวไม่อยากมีเรื่อง ทว่าเธออคติกับคุณย่าเย่มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว น้ำเสียงจึงไม่มีความเกรงอกเกรงใจเลยสักนิด

“ขอถามหน่อยค่ะ คุณเฉิงท่านนี้มีสถานะอะไรในบ้านตระกูลเย่คะ?” เฟิ่งเหมียวเหมียวรู้ตั้งนานแล้วว่าคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่คิดจะทำอะไร คนตระกูลถังก็รู้ด้วย แต่เป็นงานศพของเย่โป๋เหวิน จึงไม่อยากสร้างความวุ่นวาย ทว่าเฟิ่งเหมียวเหมียวก็รู้สึกคับอกคับใจ วิธีการของคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ทำให้สะอิดสะเอียนมาก มันเหลืออดจริงๆ

ถึงแม้ฉิงฉิงจะเข้าใจเย่ซือเฉิน ทว่าคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ทำถึงขั้นนี้ ฉิงฉิงก็ต้องไม่สบายใจบ้างแหละ ตอนแรกเธอก็อยากอดทนไว้ ทว่าดันมีคนไม่มีแววตาเสนอหน้ามา

เฟิ่งเหมียวเหมียวลั่นวาจานี้ออกมา คนรอบข้างก็รีบแคะขี้หูฟัง ล้วนอยากรู้ว่าคุณย่าเย่จะตอบเช่นไรกันทั่วหน้า

เพราะองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้มาเฝ้าไว้อาลัยเย่โป๋เหวินที่บ้านตระกูลเย่ ทั้งยังรับผิดชอบงานเลี้ยงวันนี้ด้วย เรื่องพวกนี้ล้วนเป็นการแจ้งข่าวให้ทุกคนรู้ ซึ่งก็คือข่าวที่ว่าคุณชายสามเย่อาจจะแต่งงานกับองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้

ทว่าถึงเรื่องจะครึกโครมเพียงใด คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ก็ไม่ยืนออกมาพูดเสียที และไม่เคยช่วยองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้พูดอะไร

“วันนี้เป็นงานศพของเย่โป๋เหวิน เรื่องอื่นค่อยว่ากันนะ” คุณย่าเย่ไม่ได้ตอบคำถามของเฟิ่งเหมียวเหมียวโดยตรง ถึงแม้เย่ซือเฉินจะกลับมาแล้ว ทว่าเย่ซือเฉินก็ไม่มองพวกท่านดีๆเลย และไม่เคยพูดคุยกับพวกท่านด้วย คุณย่าเย่จึงไม่กล้าพูดอะไรเกินควร

“ดูจากความหมายของคุณย่าเย่แล้ว คุณเฉิงไม่ใช่คนของตระกูลเย่ใช่ไหมคะ?แล้วเมื่อกี้คุณเฉิงมีสิทธิ์อะไรมาถามฉัน?” เฟิ่งเหมียวเหมียวได้ยินคำพูดของคุณย่าเย่ก็อดแอบหัวเราะเย้ยหยันไม่ได้

คุณย่าเย่คนนี้น่าสนใจจริงๆ อยากให้เย่ซือเฉินแต่งงานกับองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ ทว่ากลับไม่กล้ายอมรับ

องค์หญิงคนนี้ไม่รู้สึกเนื้อใจหรือ?!

อันที่จริงเฟิ่งเหมียวเหมียวพูดให้เฉิงโหรวโหรวฟังต่างหาก ขอเพียงเฉิงโหรวโหรวมีสมองก็จะดูท่าทางของคุณย่าเย่ออก น่าจะรู้สึกเสียใจและเนื้อใจบ้าง?

ทว่าสิ่งที่ทำให้เฟิ่งเหมียวเหมียวแปลกใจก็คือ เฉิงโหรวโหรวไม่ได้ถือสาคุณย่าเย่ ทางกลับกัน กลับมองเธอด้วยใบหน้าโกรธเคือง “ฉันกับเย่ซือเฉินหมั้นกันแล้ว พวกเราจะแต่งงานกัน”

เฟิ่งเหมียวเหมียวตะลึงตะไลอีกครั้ง สมององค์หญิงคนนี้มีปัญหาจริงๆ

เย่ซือเฉินไม่เคยพูดอะไรเลย เมื่อกี้คุณย่าเย่ก็กำลังหลีกเลี่ยงคำถามนี้อย่างเห็นได้ชัด แต่องค์หญิงกลับขึ้นเขียงซะงั้น

ไม่รู้จักสำรวมเลยสักนิด ประเด็นสำคัญคือหน้าไม่อายมาก!!

ตอนนี้คนองค์กรโกสต์ซิตี้กลายเป็นคนหน้าไม่อายกันหมดแล้วเหรอ?!

องค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ทำตัวอย่างนี้ หัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้คล้อยตามหรือไม่?!

“โอเค งั้นก็ขอแสดงความยินดีกับคุณเฉิงด้วยนะคะ” เฟิ่งเหมียวเหมียวหัวเราะกะทันหัน เธอคิดว่าคนนี้ยังกล้ามาแย่งชิงกับฉิงฉิงของเธออีกหรือ?ไม่ให้เกียรติฉิงฉิงเลย!!

เพราะคนแบบนี้จะมีคุณสมบัติเป็นคู่ต่อสู้ฉิงฉิงได้ยังไง?!

เฟิ่งเหมียวเหมียวรู้สึกว่าเมื่อครู่ตัวเองไม่จำเป็นต้องโกรธอะไรเลย

“ยินดีคุณย่าเย่ด้วยค่ะ ดูเหมือนตระกูลเย่ใกล้จะจัดงานมงคลแล้วนะคะ” เฟิ่งเหมียวเหมียวมองไปยังคุณย่าเย่ด้วยรอยยิ้มที่เต็มใบหน้า เพียงแต่ใครก็ฟังออกว่าเฟิ่งเหมียวเหมียวพูดประชดประชัน

คุณย่าเย่รู้สึกหงุดหงิดในใจ ทว่าสถานการณ์เช่นนี้ ท่านก็พูดอะไรมากไม่ได้

ถ้าจะโทษก็ต้องโทษเฉิงโหรวโหรวที่ไม่มีสมอง พูดจาเรื่อยเปื่อย ถ้ารู้แต่แรก ท่านก็ไม่ให้เฉิงโหรวโหรวอยู่ข้างๆแล้วละ

ทว่าเมื่อให้เฉิงโหรวโหรวอยู่ข้างๆก็ได้ผลลัพธ์ที่ท่านต้องการแล้ว ตอนนี้ท่านพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้

ตอนนี้ทุกคนกำลังส่งข่าวบอกต่อว่าเย่ซือเฉินจะแต่งงานกับองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ หากสถานการณ์เช่นนี้เย่ซือเฉินยังปฏิเสธอีก ถึงเวลานั้นหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้คงไม่ยอม และท้ายที่สุดเย่ซือเฉินก็ต้องสมัครใจแต่งงานกับเฉิงโหรวโหรว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+