ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 1472 โอกาสที่ได้มาอย่างไม่คาดคิด (1)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 1472 โอกาสที่ได้มาอย่างไม่คาดคิด (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เสียงระดับนั้นมีเพียงแค่เจ้าเก่าคนเดียวเท่านั้นที่สามารถได้ยิน แม้แต่เสี่ยวซินที่ยืนอยู่ทางอีกฝั่งหนึ่งของเขาก็ไม่สามารถได้ยินได้โดยเด็ดขาดเช่นกัน!!

“เกี่ยวอะไรกับพวกเรา?” เจ้าเก้ากรอกตามองบนใส่เขา : “พวกเราได้รับมีเพียงแค่แผนAเท่านั้น แผนอื่นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกเราซะหน่อย พวกเราตามไปมีแต่จะกลัวว่าทำให้แผนของหัวหน้าน้อยพังนะ”

“จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง? ถึงตอนนั้นพวกเราก็สามารถจะให้ความร่วมมือกับหัวหน้าน้อยได้ต่างหาก” คุณชายหานตอบกลับออกมาอย่างเต็มที่ สรุปแล้วก็คือเขาไม่อยากจากไปต่างหาก

“ฮึ่ย”เจ้าเก้าอดที่จะส่งเสียงเยาะเย้ยออกมาไม่ได้ : “คุณไม่มีแม้แต่แผนการของหัวหน้าน้อย แล้วคุณจะไปร่วมมือได้ยังไง ถ้าไม่อย่างนั้นคุณก็บอกมาตรงๆว่าอยากจะอยู่รอดูความวุ่นวายเลยดีจะดีกว่า”

เจ้าเก้าจะมองความคิดเล็กๆของเขาไม่ออกได้อย่างไรกัน

“ทางที่ดีคือคุณคิดให้ดีจะดีกว่านะ ถ้าหากคุณทำแผนของหัวหน้าน้อยพัง หัวหน้าน้อยไม่ยกโทษให้คุณแน่” เจ้าเก้านึกถึงความสนิทสนมที่มีต่อกันหลายปีขนาดนี้จึงยังคิดที่จะเตือนเขาเอาไว้

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็แค่ดู ไม่ต้องร่วมมือ ก็เป็นไม่ได้ทำพังแล้วนี่” เวลานี้คุณชายหานก็ไม่ได้ปกปิดจุดประสงค์ของตัวเองอีกต่อไปแล้วเช่นกัน ใช่ เขาอยากจะอยู่ดูความตื่นเต้นนั่นเอง

เขาอยากจะดู แผนAของเขาสมบูรณ์แบบขนาดนั้น ไม่มีข้อบกพร่อง ก็ล้วนแต่ล้มเหลวไปแล้ว

เขาอยากจะดูว่าแผนBของหัวหน้าน้อยจะยอดเยี่ยมซักขนาดไหน? จะสามารถประสบความสำเร็จได้หรือเปล่า?

เจ้าเก้าไม่มีอะไรจะพูด วันนี้คนๆนี้เชื่อถือไม่ได้เลยจริงๆ เขาก็ไม่กลัวว่าร่างกายจะทรุดโทรมเลยหรือ?!

แต่ เจ้าเก้าเองก็สามารถเข้าใจถึงสาเหตุที่สำคัญที่สุดที่เขาทำแบบนี้ก็เป็นเพราะเรื่องนี้ไม่มีอันตรายใดๆ ไม่ว่าเขาจะเล่นอย่างไร จะก่อเรื่องอย่างไร ก็จะไม่มีอันตราย

อีกทั้งเจ้าเก้ารู้ว่าเวลานี้คุณชายหานคงจะหวังว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังก็คือเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้

ก่อนหน้านี้การที่เจ้าชายหานถือปืนแล้วจะยิงไปที่คุณหนูใหญ่ตระกูลถัง คุณหนูใหญ่ตระกูลถังไม่ได้ตื่นตระหนกเลยแม้แต่นิดเดียว แต่กลับยิ้มให้กับคุณชายหานเสียด้วยซ้ำ

ช่วงเวลานั้น เจ้าเก้าเห็นความหวั่นไหวของคุณชายหานอย่างชัดเจน เป็นเรื่องเหลือเชื่อ และยังมีการชื่นชมที่ปกปิดไม่มิดแบบนั้นอีก แม้กระทั่งยังมีความเคารพและยำเกรงอีกด้วย

เธอติดตามคุณชายหานก็นับว่าเติบโตมาด้วยกัน นั่นเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นอาการแบบนั้นบนใบหน้าของเขา

ดังนั้น เจ้าเก้าสามารถมั่นใจได้ ว่าตั้งแต่ตอนนั้น ก้นบึ้งในใจของคุณชายหานก็หวังว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังก็คือเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเขา

ก็เหมือนกันกับเธอ ตอนที่คุณหนูใหญ่ตระกูลถังจับตัวเธอได้ ตอนที่มองถึงสถานะของเธอออก ก้นบึ้งในใจของเธอเองก็หวังว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังก็คือเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ด้วยเช่นกัน

คุณชายหานต้องการที่จะอยู่ดูความตื่นเต้น ก็เป็นเพียงแค่อยากจะรีบแน่ใจถึงสถานะของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังด้วยเพียงเท่านั้น

ความจริงแล้วเธอเองก็เหมือนกัน!!

ดังนั้นเจ้าเก้าจึงไม่ได้เอ่ยพูดอะไรอีก และไม่ได้เกลี้ยกล่อมให้คุณชายหานจากไปด้วย

ออกมาจากห้องโถงใหญ่ เวินลั่วฉิงกับเฟิ่งเหมียวเหมียวเดินไปยังตำแหน่งที่จอดรถของพวกเธอโดยตรง ด้านหลังทั้งสามคนก็ยังคงติดตามมาด้วยเช่นเดิม

“พวกคุณนี่ยังไงกัน? วางแผนที่จะตามพวกเรากลับบ้านด้วยอย่างนั้นหรือ?”เฟิ่งเหมียวเหมียวชะงักเท้าแล้วหันกลับมามองพวกเขา เวลานี้เฟิ่งเหมียวเหมียวขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย สามคนนี้แปลกมากจริงๆ

ถึงแม้ว่าพวกเขาไม่ได้ทำร้ายฉิงฉิง แต่ก็เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเข้าใกล้ฉิงฉิงเพราะมีจุดประสงค์ ในใจของเฟิ่งเหมียวเหมียวนั้นยังคงมีการระวังป้องกันเอาไว้อยู่บ้าง

“ก่อนหน้านี้คุณหนูใหญ่ตระกูลถังไม่ได้บอกว่าจะขังพวกเราเอาไว้หรอกหรือ? เพราะฉะนั้นพวกเราจะไปแบบนี้เลยไม่ได้สิ” คุณชายหานไม่ได้รู้สึกอายเลยซักนิดเดียว ตอบกลับไปอย่างมั่นใจ

เฟิ่งเหมียวเหมียวรู้สึกอึ้งไป ไม่คิดว่าที่เขาพูดนั้นจะดีมีเหตุผลอยู่ด้วย

“พวกคุณไปได้แล้ว”ถึงแม้ว่าเวลานี้เวินลั่วฉิงยังเดาไม่ออกถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของพวกเขา แต่เวินลั่วฉิงมั่นใจในข่าวสารบางอย่างแล้ว เวินลั่วฉิงรู้ว่าในเมื่อขังทั้งสามคนเอาไว้แล้วสอบสวนอีก ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะถามข้อมูลออกมาได้มากกว่าตอนนี้ที่เธอรู้อยู่

เสี่ยวซินอายุยังน้อย คาดว่ายังสามารถมีคำพูดได้อีก แต่เวินลั่วฉิงมองออกว่าเกี่ยวกับเรื่องนี้เสี่ยวซินรู้ไม่มากนัก คาดว่ายังไม่เข้าใจมากเท่าเธอในตอนนี้

ส่วนอีกสองคนนั้น กลัวว่าต่อให้มีการลงโทษที่โหดร้าย พวกเขาก็จะไม่พูดออกมาให้มากกว่าเดิมอยู่แล้ว ดังนั้นเธอจึงขี้เกียจจะมาเสียเวลากับพวกเขา

เพราะถึงอย่างไรฟังจากความหมายของพวกเขาแล้ว พวกเขายังมีแผนการอื่นๆอีก ถ้าอย่างนั้นก็ค่อยหาเบาะแสจากแผนการต่อไปของพวกเขา แบบนี้ก็จะเร็วกว่าและตรงไปตรงมามากกว่าการมาสอบสวนพวกเขาอย่างแน่นอน

“อย่าเลย ไม่ใช่ว่าคุณอยากจะถามพวกเราอีกหรอกหรือ? พวกเราไปแบบนี้ แล้วคุณจะถามใคร?”เวลานี้คุณชายหานคิดหาวิธีที่จะอยู่ข้างๆเวินลั่วฉิงแบบนี้ จะพูดอะไรก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้น

เวินลั่วฉิงเหลือบมองเขาด้วยสายตาที่นิ่งๆ คนๆนี้ยังจะให้เธอถามเขาอีกอย่างนั้นหรือ?

ก่อนหน้านี้เขาไม่ตอบคำถามเธอเลยแม้แต่คำถามเดียว เบาะแสทั้งหมดล้วนแต่เป็นสิ่งที่เธอเดาจากคำพูดของพวกเขาทั้งสิ้น

“เหอๆ……”คุณชายหานสบตาเวินลั่วฉิง เห็นได้ชัดว่าเข้าใจความหมายของเวินลั่วฉิง เสียงหัวเราะของเขาในที่สุดก็มีความเคอะเขินแบบทำตัวไม่ถูกเพิ่มเข้ามาด้วย

แต่ต่อให้คุณชายหานจะทำตัวไม่ถูก ก็ไม่จากไปแบบนี้อยู่แล้ว อาศัยเขาก็ต้องให้เขาอยู่ต่อเช่นกัน!!

เวินลั่วฉิงพบว่า คนๆนี้หน้าหนาอยู่พอสมควรเลยจริงๆ เขาอยากจะตาม เวินลั่วฉิงรู้ว่าพูดอะไรไปก็คงไม่มีประโยชน์

ตรงหน้าไม่ไกลนักก็เป็นสถานที่ที่เธอจอดรถเอาไว้แล้ว เวินลั่วฉิงไม่เชื่อว่าพวกเขาทั้งสามคนจะยังสามารถขึ้นไปนั่งบนรถเธอได้อีก?

เวินลั่วฉิงไม่ได้สนใจพวกเขาอีก แล้วเดินไปทางด้านหน้าต่อ เลี้ยวตรงทางข้างหน้าแล้ว ก็จะถึงที่จอดรถเธอแล้ว

ตอนที่เวินลั่วฉิงเลี้ยวตรงข้างหน้านั้น ก็เห็นรถของเธอแล้ว แต่……เวินลั่วฉิงพบว่ารถของตัวเองทางด้านหน้านั้นถูกชนเป็นรอยใหญ่มากรอยหนึ่ง…..

รถของเธอจอดอยู่ตรงนั้นดีๆ ไม่คิดว่าจะถูกชนได้ อีกทั้งยังถูกชนแรงขนาดนี้ นี่อยู่ในโรงพยาบาลเชียวนะ ในที่จอดรถของโรงพยาบาล รถของเธอเป็นประเภทที่แข็งแรงแบบนั้น ทางฝ่ายนั้นขับรถแบบไหนกันแน่ ขับด้วยความเร็วแบบไหน ถึงได้สามารถชนรถของเธอให้กลายเป็นแบบนี้ได้?

เวินลั่วฉิงแอบพ่นลมหายใจออกมา ตีเธอให้ตายเธอก็ไม่เชื่อว่านี่จะเป็นเพียงแค่ความบังเอิญ

“นั่นรถของพวกเราใช่ไหม? ทำไมถูกชนจนกลายเป็นแบบนี้กัน?” เฟิ่งเหมียวเหมียวรู้สึกตกตะลึงไป : “นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ไม่คิดว่าจะสามารถชนรถพวกเราจนกลายเป็นแบบนี้ได้?”

เห็นได้ชัดว่าเฟิ่งเหมียวเหมียวก็ไม่สามารถเข้าใจได้ด้วยเช่นกัน

เวินลั่วฉิงไม่ได้พูดออกมา เพียงแต่ดวงตาคู่นั้นมองไปยังคุณชายหานที่อยู่ข้างๆเธออย่างนิ่งๆ

“ไม่ได้เกี่ยวกับผมนะ? ผมไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น จริงๆ ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริงๆ” คุณชายหานโบกมืออธิบายแทนตัวเองติดๆกัน เรื่องนี้เขาไม่รู้เรื่องจริงๆ เขาได้รับความไม่เป็นธรรมจริงๆ

แต่ในใจของคุณชายหานกำลังแอบคิดว่าหรือนี่จะเป็นแผนBของหัวหน้าน้อยอย่างนั้นหรือ?

ตรงๆแบบนี้ บุ่มบ่ามขนาดนี้เลยหรือ?!

ทำแบบนี้กับคุณหนูใหญ่ตระกูลถังจะดีจริงๆหรือ?!

คุณชายหานมองไปยังคุณหนูใหญ่ตระกูลถังอย่างระวัง พบว่าสีหน้าของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังนั้นดูเหมือนจะไม่ค่อยดีนัก

อืม ไม่ว่าจะเป็นใครมาเห็นสถานการณ์แบบนี้ก็คงจะอารมณ์ไม่ดีกันทั้งนั้น

คุณชายหานรู้สึกว่าวิธีนี้ของหัวหน้าน้อยไม่ค่อยดีซักเท่าไรนัก ดูจะเกินไปเสียหน่อย

แต่ เกินไปหรือเปล่านั้นยังคงเป็นประเด็นรองลงมา ที่สำคัญที่สุดนั้นคือจะใช้ได้หรือเปล่า จะสำเร็จหรือเปล่านั่นเอง?

ในใจของคุณชายหานรู้สึกรอคอยมาก ถึงแม้ว่าเวลานี้เขาจะพยายามสะกดอารมณ์เอาไว้ แต่ก็ยังคงไม่สามารถปกปิดความตื่นเต้นนี้เอาไว้ได้เลย

เวินลั่วฉิงมองเจ้าเก้า เจ้าเก่าไม่ได้เอ่ยพูดออกมา เพียงแต่ก้มหน้าลงช้าๆ เป็นการปฏิเสธในการตอบคำถาม และเป็นการปฏิเสธที่จะสบตากับเวินลั่วฉิงด้วยเช่นกัน เนื่องจากเจ้าเก้ารู้ดีว่าสายตาของเธออาจจะสามารถทำให้คุณหนูใหญ่ตระกูลถังมองเห็นข้อมูลที่มากเกินไปได้

เจ้าเก้าเองก็อยากจะพูดว่าไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอเช่นกัน แต่เจ้าเก้าก็กำลังคิดว่าจะเป็นแผนของหัวหน้าน้อยหรือเปล่า หน้าของเจ้าเก้าไม่ได้หนาเหมือนกับคุณชายหาน ดังนั้นจึงไม่สามารถจะบอกว่าไม่เกี่ยวได้อย่างมั่นใจเหมือนกับคุณชายหาน

เวินลั่วฉิงแอบพ่นลมหายใจออกมา ปฏิกิริยาแบบนี้อีกแล้ว ถามไปก็สูญเปล่า เวินลั่วฉิงเดินมาตรงข้างๆรถของตัวเอง ผู้หญิงคนหนึ่งหลังจากที่เห็นเธอแล้ว ก็เดินเข้ามา

“นี่คือรถของคุณใช่ไหมคะ? ต้องขอโทษจริงๆนะคะ เมื่อครู่นี้ฉันไม่ได้ระวังเลยชนรถของคุณเข้า” หญิงสาวมีใบหน้าที่รู้สึกเสียใจ และยอมรับผิดอย่างจริงใจ

“แม่หนู เธอขับรถถังอย่างนั้นหรือ? ขับชนรถพวกเราให้กลายเป็นแบบนี้ได้ในที่จอดรถของโรงพยาบาลเนี่ย?” เฟิ่งเหมียวเหมียวอดที่จะกระตุกมุมปากขึ้นมาไม่ได้ ถึงแม้ว่าแม่หนูคนนี้จะมีท่าทางยอมรับความผิดอย่างจริงใจ แต่เฟิ่งเหมียวเหมียวก็ไม่สามารถเข้าใจได้เลยจริงๆ

หญิงสาวชี้ไปยังรถที่อยู่ทางด้านข้าง เป็นรถวอลโว่คันหนึ่ง ด้านหน้ารถก็มีรอยหนึ่งอยู่ด้วยเช่นกัน เทียบกับรอยที่อยู่ตรงหัวรถของเวินลั่วฉิงได้พอดี

“แม่หนู นี่เธอขับมาชนแรงขนาดไหนกันเนี่ย?” เฟิ่งเหมียวเหมียวอดที่จะกระตุกมุมปากขึ้นมาไม่ได้ รถของฉิงฉิงแข็งมาก รถของหญิงสาวคนนี้ก็แข็งพอด้วยเช่นกัน รถสองคันแบบนี้ คันหนึ่งจอดอยู่ และยังจอดอยู่ในที่จอดรถอีกด้วย ยังสามารถถูกหญิงสาวคนนี้ชนได้แบบนี้ หญิงสาวคนนี้นี่เก่งจริงๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน 1472 โอกาสที่ได้มาอย่างไม่คาดคิด (1)

Now you are reading ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน Chapter 1472 โอกาสที่ได้มาอย่างไม่คาดคิด (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เสียงระดับนั้นมีเพียงแค่เจ้าเก่าคนเดียวเท่านั้นที่สามารถได้ยิน แม้แต่เสี่ยวซินที่ยืนอยู่ทางอีกฝั่งหนึ่งของเขาก็ไม่สามารถได้ยินได้โดยเด็ดขาดเช่นกัน!!

“เกี่ยวอะไรกับพวกเรา?” เจ้าเก้ากรอกตามองบนใส่เขา : “พวกเราได้รับมีเพียงแค่แผนAเท่านั้น แผนอื่นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกเราซะหน่อย พวกเราตามไปมีแต่จะกลัวว่าทำให้แผนของหัวหน้าน้อยพังนะ”

“จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง? ถึงตอนนั้นพวกเราก็สามารถจะให้ความร่วมมือกับหัวหน้าน้อยได้ต่างหาก” คุณชายหานตอบกลับออกมาอย่างเต็มที่ สรุปแล้วก็คือเขาไม่อยากจากไปต่างหาก

“ฮึ่ย”เจ้าเก้าอดที่จะส่งเสียงเยาะเย้ยออกมาไม่ได้ : “คุณไม่มีแม้แต่แผนการของหัวหน้าน้อย แล้วคุณจะไปร่วมมือได้ยังไง ถ้าไม่อย่างนั้นคุณก็บอกมาตรงๆว่าอยากจะอยู่รอดูความวุ่นวายเลยดีจะดีกว่า”

เจ้าเก้าจะมองความคิดเล็กๆของเขาไม่ออกได้อย่างไรกัน

“ทางที่ดีคือคุณคิดให้ดีจะดีกว่านะ ถ้าหากคุณทำแผนของหัวหน้าน้อยพัง หัวหน้าน้อยไม่ยกโทษให้คุณแน่” เจ้าเก้านึกถึงความสนิทสนมที่มีต่อกันหลายปีขนาดนี้จึงยังคิดที่จะเตือนเขาเอาไว้

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็แค่ดู ไม่ต้องร่วมมือ ก็เป็นไม่ได้ทำพังแล้วนี่” เวลานี้คุณชายหานก็ไม่ได้ปกปิดจุดประสงค์ของตัวเองอีกต่อไปแล้วเช่นกัน ใช่ เขาอยากจะอยู่ดูความตื่นเต้นนั่นเอง

เขาอยากจะดู แผนAของเขาสมบูรณ์แบบขนาดนั้น ไม่มีข้อบกพร่อง ก็ล้วนแต่ล้มเหลวไปแล้ว

เขาอยากจะดูว่าแผนBของหัวหน้าน้อยจะยอดเยี่ยมซักขนาดไหน? จะสามารถประสบความสำเร็จได้หรือเปล่า?

เจ้าเก้าไม่มีอะไรจะพูด วันนี้คนๆนี้เชื่อถือไม่ได้เลยจริงๆ เขาก็ไม่กลัวว่าร่างกายจะทรุดโทรมเลยหรือ?!

แต่ เจ้าเก้าเองก็สามารถเข้าใจถึงสาเหตุที่สำคัญที่สุดที่เขาทำแบบนี้ก็เป็นเพราะเรื่องนี้ไม่มีอันตรายใดๆ ไม่ว่าเขาจะเล่นอย่างไร จะก่อเรื่องอย่างไร ก็จะไม่มีอันตราย

อีกทั้งเจ้าเก้ารู้ว่าเวลานี้คุณชายหานคงจะหวังว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังก็คือเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้

ก่อนหน้านี้การที่เจ้าชายหานถือปืนแล้วจะยิงไปที่คุณหนูใหญ่ตระกูลถัง คุณหนูใหญ่ตระกูลถังไม่ได้ตื่นตระหนกเลยแม้แต่นิดเดียว แต่กลับยิ้มให้กับคุณชายหานเสียด้วยซ้ำ

ช่วงเวลานั้น เจ้าเก้าเห็นความหวั่นไหวของคุณชายหานอย่างชัดเจน เป็นเรื่องเหลือเชื่อ และยังมีการชื่นชมที่ปกปิดไม่มิดแบบนั้นอีก แม้กระทั่งยังมีความเคารพและยำเกรงอีกด้วย

เธอติดตามคุณชายหานก็นับว่าเติบโตมาด้วยกัน นั่นเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นอาการแบบนั้นบนใบหน้าของเขา

ดังนั้น เจ้าเก้าสามารถมั่นใจได้ ว่าตั้งแต่ตอนนั้น ก้นบึ้งในใจของคุณชายหานก็หวังว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังก็คือเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเขา

ก็เหมือนกันกับเธอ ตอนที่คุณหนูใหญ่ตระกูลถังจับตัวเธอได้ ตอนที่มองถึงสถานะของเธอออก ก้นบึ้งในใจของเธอเองก็หวังว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังก็คือเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ด้วยเช่นกัน

คุณชายหานต้องการที่จะอยู่ดูความตื่นเต้น ก็เป็นเพียงแค่อยากจะรีบแน่ใจถึงสถานะของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังด้วยเพียงเท่านั้น

ความจริงแล้วเธอเองก็เหมือนกัน!!

ดังนั้นเจ้าเก้าจึงไม่ได้เอ่ยพูดอะไรอีก และไม่ได้เกลี้ยกล่อมให้คุณชายหานจากไปด้วย

ออกมาจากห้องโถงใหญ่ เวินลั่วฉิงกับเฟิ่งเหมียวเหมียวเดินไปยังตำแหน่งที่จอดรถของพวกเธอโดยตรง ด้านหลังทั้งสามคนก็ยังคงติดตามมาด้วยเช่นเดิม

“พวกคุณนี่ยังไงกัน? วางแผนที่จะตามพวกเรากลับบ้านด้วยอย่างนั้นหรือ?”เฟิ่งเหมียวเหมียวชะงักเท้าแล้วหันกลับมามองพวกเขา เวลานี้เฟิ่งเหมียวเหมียวขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย สามคนนี้แปลกมากจริงๆ

ถึงแม้ว่าพวกเขาไม่ได้ทำร้ายฉิงฉิง แต่ก็เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเข้าใกล้ฉิงฉิงเพราะมีจุดประสงค์ ในใจของเฟิ่งเหมียวเหมียวนั้นยังคงมีการระวังป้องกันเอาไว้อยู่บ้าง

“ก่อนหน้านี้คุณหนูใหญ่ตระกูลถังไม่ได้บอกว่าจะขังพวกเราเอาไว้หรอกหรือ? เพราะฉะนั้นพวกเราจะไปแบบนี้เลยไม่ได้สิ” คุณชายหานไม่ได้รู้สึกอายเลยซักนิดเดียว ตอบกลับไปอย่างมั่นใจ

เฟิ่งเหมียวเหมียวรู้สึกอึ้งไป ไม่คิดว่าที่เขาพูดนั้นจะดีมีเหตุผลอยู่ด้วย

“พวกคุณไปได้แล้ว”ถึงแม้ว่าเวลานี้เวินลั่วฉิงยังเดาไม่ออกถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของพวกเขา แต่เวินลั่วฉิงมั่นใจในข่าวสารบางอย่างแล้ว เวินลั่วฉิงรู้ว่าในเมื่อขังทั้งสามคนเอาไว้แล้วสอบสวนอีก ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะถามข้อมูลออกมาได้มากกว่าตอนนี้ที่เธอรู้อยู่

เสี่ยวซินอายุยังน้อย คาดว่ายังสามารถมีคำพูดได้อีก แต่เวินลั่วฉิงมองออกว่าเกี่ยวกับเรื่องนี้เสี่ยวซินรู้ไม่มากนัก คาดว่ายังไม่เข้าใจมากเท่าเธอในตอนนี้

ส่วนอีกสองคนนั้น กลัวว่าต่อให้มีการลงโทษที่โหดร้าย พวกเขาก็จะไม่พูดออกมาให้มากกว่าเดิมอยู่แล้ว ดังนั้นเธอจึงขี้เกียจจะมาเสียเวลากับพวกเขา

เพราะถึงอย่างไรฟังจากความหมายของพวกเขาแล้ว พวกเขายังมีแผนการอื่นๆอีก ถ้าอย่างนั้นก็ค่อยหาเบาะแสจากแผนการต่อไปของพวกเขา แบบนี้ก็จะเร็วกว่าและตรงไปตรงมามากกว่าการมาสอบสวนพวกเขาอย่างแน่นอน

“อย่าเลย ไม่ใช่ว่าคุณอยากจะถามพวกเราอีกหรอกหรือ? พวกเราไปแบบนี้ แล้วคุณจะถามใคร?”เวลานี้คุณชายหานคิดหาวิธีที่จะอยู่ข้างๆเวินลั่วฉิงแบบนี้ จะพูดอะไรก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้น

เวินลั่วฉิงเหลือบมองเขาด้วยสายตาที่นิ่งๆ คนๆนี้ยังจะให้เธอถามเขาอีกอย่างนั้นหรือ?

ก่อนหน้านี้เขาไม่ตอบคำถามเธอเลยแม้แต่คำถามเดียว เบาะแสทั้งหมดล้วนแต่เป็นสิ่งที่เธอเดาจากคำพูดของพวกเขาทั้งสิ้น

“เหอๆ……”คุณชายหานสบตาเวินลั่วฉิง เห็นได้ชัดว่าเข้าใจความหมายของเวินลั่วฉิง เสียงหัวเราะของเขาในที่สุดก็มีความเคอะเขินแบบทำตัวไม่ถูกเพิ่มเข้ามาด้วย

แต่ต่อให้คุณชายหานจะทำตัวไม่ถูก ก็ไม่จากไปแบบนี้อยู่แล้ว อาศัยเขาก็ต้องให้เขาอยู่ต่อเช่นกัน!!

เวินลั่วฉิงพบว่า คนๆนี้หน้าหนาอยู่พอสมควรเลยจริงๆ เขาอยากจะตาม เวินลั่วฉิงรู้ว่าพูดอะไรไปก็คงไม่มีประโยชน์

ตรงหน้าไม่ไกลนักก็เป็นสถานที่ที่เธอจอดรถเอาไว้แล้ว เวินลั่วฉิงไม่เชื่อว่าพวกเขาทั้งสามคนจะยังสามารถขึ้นไปนั่งบนรถเธอได้อีก?

เวินลั่วฉิงไม่ได้สนใจพวกเขาอีก แล้วเดินไปทางด้านหน้าต่อ เลี้ยวตรงทางข้างหน้าแล้ว ก็จะถึงที่จอดรถเธอแล้ว

ตอนที่เวินลั่วฉิงเลี้ยวตรงข้างหน้านั้น ก็เห็นรถของเธอแล้ว แต่……เวินลั่วฉิงพบว่ารถของตัวเองทางด้านหน้านั้นถูกชนเป็นรอยใหญ่มากรอยหนึ่ง…..

รถของเธอจอดอยู่ตรงนั้นดีๆ ไม่คิดว่าจะถูกชนได้ อีกทั้งยังถูกชนแรงขนาดนี้ นี่อยู่ในโรงพยาบาลเชียวนะ ในที่จอดรถของโรงพยาบาล รถของเธอเป็นประเภทที่แข็งแรงแบบนั้น ทางฝ่ายนั้นขับรถแบบไหนกันแน่ ขับด้วยความเร็วแบบไหน ถึงได้สามารถชนรถของเธอให้กลายเป็นแบบนี้ได้?

เวินลั่วฉิงแอบพ่นลมหายใจออกมา ตีเธอให้ตายเธอก็ไม่เชื่อว่านี่จะเป็นเพียงแค่ความบังเอิญ

“นั่นรถของพวกเราใช่ไหม? ทำไมถูกชนจนกลายเป็นแบบนี้กัน?” เฟิ่งเหมียวเหมียวรู้สึกตกตะลึงไป : “นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ไม่คิดว่าจะสามารถชนรถพวกเราจนกลายเป็นแบบนี้ได้?”

เห็นได้ชัดว่าเฟิ่งเหมียวเหมียวก็ไม่สามารถเข้าใจได้ด้วยเช่นกัน

เวินลั่วฉิงไม่ได้พูดออกมา เพียงแต่ดวงตาคู่นั้นมองไปยังคุณชายหานที่อยู่ข้างๆเธออย่างนิ่งๆ

“ไม่ได้เกี่ยวกับผมนะ? ผมไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น จริงๆ ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริงๆ” คุณชายหานโบกมืออธิบายแทนตัวเองติดๆกัน เรื่องนี้เขาไม่รู้เรื่องจริงๆ เขาได้รับความไม่เป็นธรรมจริงๆ

แต่ในใจของคุณชายหานกำลังแอบคิดว่าหรือนี่จะเป็นแผนBของหัวหน้าน้อยอย่างนั้นหรือ?

ตรงๆแบบนี้ บุ่มบ่ามขนาดนี้เลยหรือ?!

ทำแบบนี้กับคุณหนูใหญ่ตระกูลถังจะดีจริงๆหรือ?!

คุณชายหานมองไปยังคุณหนูใหญ่ตระกูลถังอย่างระวัง พบว่าสีหน้าของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังนั้นดูเหมือนจะไม่ค่อยดีนัก

อืม ไม่ว่าจะเป็นใครมาเห็นสถานการณ์แบบนี้ก็คงจะอารมณ์ไม่ดีกันทั้งนั้น

คุณชายหานรู้สึกว่าวิธีนี้ของหัวหน้าน้อยไม่ค่อยดีซักเท่าไรนัก ดูจะเกินไปเสียหน่อย

แต่ เกินไปหรือเปล่านั้นยังคงเป็นประเด็นรองลงมา ที่สำคัญที่สุดนั้นคือจะใช้ได้หรือเปล่า จะสำเร็จหรือเปล่านั่นเอง?

ในใจของคุณชายหานรู้สึกรอคอยมาก ถึงแม้ว่าเวลานี้เขาจะพยายามสะกดอารมณ์เอาไว้ แต่ก็ยังคงไม่สามารถปกปิดความตื่นเต้นนี้เอาไว้ได้เลย

เวินลั่วฉิงมองเจ้าเก้า เจ้าเก่าไม่ได้เอ่ยพูดออกมา เพียงแต่ก้มหน้าลงช้าๆ เป็นการปฏิเสธในการตอบคำถาม และเป็นการปฏิเสธที่จะสบตากับเวินลั่วฉิงด้วยเช่นกัน เนื่องจากเจ้าเก้ารู้ดีว่าสายตาของเธออาจจะสามารถทำให้คุณหนูใหญ่ตระกูลถังมองเห็นข้อมูลที่มากเกินไปได้

เจ้าเก้าเองก็อยากจะพูดว่าไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอเช่นกัน แต่เจ้าเก้าก็กำลังคิดว่าจะเป็นแผนของหัวหน้าน้อยหรือเปล่า หน้าของเจ้าเก้าไม่ได้หนาเหมือนกับคุณชายหาน ดังนั้นจึงไม่สามารถจะบอกว่าไม่เกี่ยวได้อย่างมั่นใจเหมือนกับคุณชายหาน

เวินลั่วฉิงแอบพ่นลมหายใจออกมา ปฏิกิริยาแบบนี้อีกแล้ว ถามไปก็สูญเปล่า เวินลั่วฉิงเดินมาตรงข้างๆรถของตัวเอง ผู้หญิงคนหนึ่งหลังจากที่เห็นเธอแล้ว ก็เดินเข้ามา

“นี่คือรถของคุณใช่ไหมคะ? ต้องขอโทษจริงๆนะคะ เมื่อครู่นี้ฉันไม่ได้ระวังเลยชนรถของคุณเข้า” หญิงสาวมีใบหน้าที่รู้สึกเสียใจ และยอมรับผิดอย่างจริงใจ

“แม่หนู เธอขับรถถังอย่างนั้นหรือ? ขับชนรถพวกเราให้กลายเป็นแบบนี้ได้ในที่จอดรถของโรงพยาบาลเนี่ย?” เฟิ่งเหมียวเหมียวอดที่จะกระตุกมุมปากขึ้นมาไม่ได้ ถึงแม้ว่าแม่หนูคนนี้จะมีท่าทางยอมรับความผิดอย่างจริงใจ แต่เฟิ่งเหมียวเหมียวก็ไม่สามารถเข้าใจได้เลยจริงๆ

หญิงสาวชี้ไปยังรถที่อยู่ทางด้านข้าง เป็นรถวอลโว่คันหนึ่ง ด้านหน้ารถก็มีรอยหนึ่งอยู่ด้วยเช่นกัน เทียบกับรอยที่อยู่ตรงหัวรถของเวินลั่วฉิงได้พอดี

“แม่หนู นี่เธอขับมาชนแรงขนาดไหนกันเนี่ย?” เฟิ่งเหมียวเหมียวอดที่จะกระตุกมุมปากขึ้นมาไม่ได้ รถของฉิงฉิงแข็งมาก รถของหญิงสาวคนนี้ก็แข็งพอด้วยเช่นกัน รถสองคันแบบนี้ คันหนึ่งจอดอยู่ และยังจอดอยู่ในที่จอดรถอีกด้วย ยังสามารถถูกหญิงสาวคนนี้ชนได้แบบนี้ หญิงสาวคนนี้นี่เก่งจริงๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+