ลวงเล่ห์ร้ายชายาร้อยพิษ 246 ของฝากรัก (1)

Now you are reading ลวงเล่ห์ร้ายชายาร้อยพิษ Chapter 246 ของฝากรัก (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

งามแท้ เป็นคนงามจริงแท้แน่นอน!

 

 

แม้อีกฝ่ายจะมีผ้าคลุมปิดหน้า แต่ดวงตาที่เผยให้เห็นท่าทางก็เพียงพอให้ผู้คนลุ่มหลงแล้ว

 

 

ไป๋หลี่ชูเห็นขอทานสารรูปทุเรศทุรังสองคนจ้องมองตน พริบตานั้นก็ขมวดคิ้ว

 

 

แต่เพราะแววเย็นเยียบอันตรายในเบื้องลึกของดวงตานั่น ทำเอาเฝยหลงกับตาจ้วงขนลุกตั้งชันเหงื่อออกเต็มหลัง คล้ายกับลมยะเยือกที่พัดมาจากด่านประตูผียามกลางดึกอย่างไรอย่างนั้น

 

 

ทว่าอาการสยิวกายครั้งนี้ ทำให้พวกเขาพลันนึกได้ว่าตนเองต้องทำอะไร ต้าจ้วงพลันตาแดง เอ่ยขึ้นเสียงสั่นเครือ “คุณหนูใหญ่ พี่น้องชิวผู้นั้นเป็นชู้ของท่านใช่หรือไม่”

 

 

“ชู้…” ผู้คนในที่นั้นพลันเอ่ยทวนพร้อมกัน

 

 

ต้าจ้วงพลันยกมืออุดปาดตัวเอง แล้วเปลี่ยนคำพูดว่า “ข้าน้อยถามว่าพี่น้องชิวผู้นั้นใช่คนรู้จักของท่านใช่หรือไม่ หากว่ารู้จัก ท่านต้องช่วยเขา!”

 

 

เขาว่าพลางน้ำตาไหลพราก กระโดดเข้าไปหาไป๋หลี่ชู “ท่านไม่รู้ ไอ้สารเลวที่จับพี่น้องชิวไปบอกว่าจะปอกลอกจนหมดตัว”

 

 

ไป๋หลี่ชูใจลอยไปชั่วขณะ ได้ยินเพียงคำว่าปอกลอกสองพยางค์หลัง

 

 

ยามนี้จะเบี่ยงกายหลบก็ช้าไปเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าเพียงพริบตาร่างที่กระโดดเข้ามาของต้าจ้วงก็ชนเข้ากับแขนเสื้อแล้ว คนรักสะอาดเช่นเขา จะยอมให้ผู้อื่นมาชนโดนกายได้อย่างไร พลันถอยไปก้าวหนึ่งตามจิตใต้สำนึก ร่างของต้าจ้วงจึงไถลล้มลงไปกับพื้น มือกลับคว้าเอาชายเสื้อไว้ได้พอดี เสียง แควก พลันดังขึ้นเสียงหนึ่ง

 

 

ไป๋หลี่ชูนิ่งค้าง เมื่อได้สติกลับมาพลันตื่นตะลึง

 

 

ชิวเยี่ยไป๋บนหอสุราเห็นภาพฉากนี้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง พลันหัวร่อรวนจนตัวสั่นไปร่างอย่างอดไม่ได้

 

 

นางมองพวกสมบัติเหล่านี้ไม่ผิดดังคาด!

 

 

ชิวเยี่ยไป๋หัวร่อจนพอ หันไปเห็นต้าสู่ที่อยู่ข้างๆ กำลังมองตนอย่างข้องใจ นางโบกมือแล้วส่องกล้องในมือดูที่หอน้อยต่อ

 

 

ไป๋หลี่ชูถูกคนฉุดชายเสื้อ เขาตัวแข็งแล้วก็ยุดไหล่เสื้อไว้ กวาดมองต้าจ้วงบนพื้นด้วยแววตารังเกียจแล้วมองดูอีไป๋กับซวงไป๋และองครักษ์ค่งเฮ่อเจียนที่ยืนตะลึงงันอยู่ข้างๆ เผยรอยยิ้มน่าสะพรึงกลัวที่ทำเอาผู้คนขนลุก “ข้ารู้สึกว่าพักนี้วิทยายุทธ์ของพวกเจ้าถดถอยนะ หืม”

 

 

เมื่อครู่ต้าจ้วงถูกแววตาของไป๋หลี่ชูกวาดใส่ พริบตานั้นเขารู้สึกว่าตนเองเหมือนมดปลวกบนพื้นที่อยู่ต่อหน้าเทพเบื้องสูง จะเหยียบเขาให้ตายตามอำเภอใจก็ย่อมได้ แต่เห็นได้ชัดว่าองค์เทพไม่อยากให้เปื้อนเท้าของตน จึงพาลระบายโทสะใส่พวกองครักษ์ที่บกพร่องต่อการคุ้มกัน

 

 

แน่นอน ในฐานะผู้ทำให้องค์เทพขยะแขยง…ต้าจ้วงรู้สึกถึงกลิ่นอายอันตรายอย่างน่าประหลาด

 

 

และแล้วสังหรณ์ของต้าจ้วงก็เป็นจริง ที่อีไป๋กับซวงไป๋งงงัน ก็เพราะพวกเขามองปราดเดียวก็รู้ว่าวิทยายุทธ์ของ ‘ขอทาน’ สองคนนี้ธรรมดามาก ไม่มีใครเห็นพวกเขาอยู่ในสายตา จึงนึกไม่ถึงว่าคนที่พลังฝีมือไม่ได้เรื่องประดานี้ถึงกับแตะต้องถูกตัวเจ้านายของพวกตนได้!

 

 

และเพราะพวกเขาสะเพร่าเกินไป คุ้มกันเจ้านายได้ไม่ดี ถ้าอีกฝ่ายเป็นยอดฝีมือยังพอว่า ดันเป็นแค่ ‘ขอทาน’ สองคน สำหรับองครักษ์ค่งเฮ่อเจียนแล้ว นี่เป็นความอัปยศอดสูอย่างใหญ่หลวง!

 

 

คราวนี้ถูกสายตาของไป๋หลี่ชูทำเอารู้ตัว ใบหน้าอีไป๋ที่อยู่หลังแพรคลุมเขียวคล้ำ องครักษ์ค่งเฮ่อเจียนรอบข้างรีบคุกเข่าข้างเดียวทันที ส่วนอีไป๋หลังคุกเข่าข้างเดียวให้ผู้เป็นนายแล้วก็รีบลุกขึ้น ไม่ส่งเสียงแม้แต่คำเดียว ถีบโครมเข้าใส่ต้าจ้วงอย่างดุร้าย

 

 

แม้ต้าจ้วงจะเตรียมพร้อมไว้ก่อนและบิดเอวหลบอย่างรวดเร็ว แต่ลูกถีบของอีไป๋ใช่ว่าเขาจะหลบพ้น จึงถูกถีบจนตัวลอย

 

 

เขาร้องเสียงหลงแล้วหล่น โครม ลงในดงกุหลาบข้างๆ หนามกุหลาบและแคร่ดอกไม้ทิ่มแทงจนเขาร้องโหยหวน

 

 

ไป๋หลี่ชูขมวดคิ้ว กล่าวเสียงเย็นชาอย่างไม่พอใจว่า “อย่าทำให้ตาย!”

 

 

ซวงไป๋เหลือกตาใส่อีไป๋อย่างอดมิได้แล้วเดินไปที่แปลงดอกไม้ คว้าก้านดอกไม้ตวัดฟาดใส่ศีรษะอีกฝ่ายไม่ยั้ง “ไอ้สารเลว หล่นตรงไหนไม่หล่น ดันหล่นใส่ดอกไม้ที่ข้าดูแลให้เจ้านาย ดูสิเจ้าทำจนเละเทะเช่นนี้ น่าตายจริงๆ!”

 

 

เจ้านายไม่ต้องการให้เขาทำให้ตาย คิดว่าคงอยากสอบปากคำ แต่เจ้านายมิได้สั่งห้ามทรมานไอ้พวกงี่เง่าที่ทำให้พวกองครักษ์ค่งเฮ่อเจียนเสียหน้านี่!

 

 

ต้าจ้วงโดนหวดจนเลือดเต็มศีรษะ เอาแต่หลบหลีกเป็นพัลวัน แต่ยังคงหลบไม่พ้นการลงทัณฑ์ด้วยกิ่งดอกไม้ในมืออีไป๋ และแล้วเสียงร้องโหยหวนจึงดังอย่างต่อเนื่อง

 

 

สภาพเช่นนั้นทำเอาเฝยหลงที่แกล้งตายนอนกับม้านั่งดูแล้วขนลุก ได้แต่ลอบกุมถุงเงินไว้แน่น ขณะเดียวกันก็ปลอบใจตนเองว่า การลอบลวนลามคนงามย่อมต้องโดนทุบตี ดูต้าจ้วงสิ มิใช่เห็นไหล่เปลือยของคุณหนูใหญ่แล้วหรอกหรือ

 

 

สุดท้ายต้าจ้วงก็พ้นคราวเคราะห์ ยังคงเพราะซวงไป๋เห็นต้าจ้วงทุรนทุรายอยู่ในแปลงไม้ดอก ทำเอาแปลงกุหลาบที่เขาเฝ้าฟูมฟักมาหลายวันป่นปี้หมดจึงรามือ ตั้งใจว่าไว้เอาตัวต้าจ้วงออกมาก่อนค่อยบริการต่อด้วยแส้หวาย

 

 

แต่ซวงไป๋เพิ่งรามือเตรียมจะเอาตัวต้าจ้วงออกมา เจ้าคนที่ร่อแร่รวยรินในแปลงไม้ดอกจู่ๆ ก็เหมือนได้ยาชูกำลัง ม้วนตัวฝ่ากลีบดอกไม้ที่ยับเยินและหนามกุหลาบเต็มตัวกระโจนออกมา แล้วหมุนตัวเหมือนลูกข่างขดตัวซ่อนหลังแปลงดอกไม้ แผดร้องอย่างโกรธแค้น “ก็แค่ไหล่ของคุณหนูใหญ่บ้านเจ้าเท่านั้น เจ้าคิดว่าข้าอยากดูนักหรือ ขาวน่ะขาวอยู่ แต่กล้ามเยอะอย่างนี้ ยกให้ข้า ข้ายังไม่เอาเลย มีแต่ใต้เท้าบ้านข้านั่นแหละที่จะคบชู้เช่นคุณหนูบ้านเจ้า!”

 

 

ไป๋หลี่ชูเป็นคนร่างงามซ่อนรูปประเภทสวมเสื้อผ้าแล้วดูผอม แต่เปลื้องผ้าแล้วเจ้าเนื้อ สำหรับบุรุษแล้วจัดว่ายอดเยี่ยมมาก เพราะกล้ามเนื้อเป็นมัดลายเส้นงดงาม แต่ถ้าเป็นสตรี…กล้ามเนื้อไหล่ที่นูนขึ้นยังคงดูแล้วกำยำเกินเหตุอยู่

 

 

ซวงไป๋นึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเหมือนแมลงสาปที่ถูกเหยียบจนดูน่าจะบี้แบนแล้ว พอยกเท้าออกกลับกระโดดเหยงด้วยร่างพิกลพิการจนน่าขยะแขยง

 

 

ครั้งนี้ดูผิดไป ซวงไป๋ฉายแววโทสะ เขาโยนกิ่งไม้ในมือทิ้งสะบัดแขนเสื้อ แส้ยาวสีดำเส้นหนึ่งตวัดแหวกอากาศดัง พึ่บ ราวกับลิ้นอสรพิษ

 

 

เมื่อคืนต้าจ้วงเพิ่งโดนหวดไปสามแส้ จนบัดนี้ยังเจ็บก้นไม่หาย พอเห็นแส้เข้าก็ตกใจจนน่องเป็นตะคริว

 

 

แต่ขณะซวงไป๋ลงมือ ไป๋หลี่ชูพลันกล่าวเสียงเย็นชาว่า “เดี๋ยวก่อน ลากมันมา!”

 

 

ซวงไป๋ได้ยินก็ลดมือลง แส้ที่เตรียมฟาดใส่ใบหน้าอีกฝ่ายเปลี่ยนเป็นพันลำคอของต้าจ้วงแล้วตวัด

 

 

ต้าจ้วงรู้สึกเหมือนอสรพิษร้ายรัดใส่คอตน จากนั้นเขาก็ถูกตวัดขึ้นสู่กลางอากาศแล้วฟาดโครมกับพื้น การฟาดกับพื้นซ้ำสองเช่นนี้ เขารู้สึกเหมือนขวัญวิญญาณหลุดจากร่างไปหมด ได้แต่กุมเอวร้องครวญคราง แม้แต่เรี่ยวแรงจะกรีดร้องก็ไม่มีแล้ว

 

 

และยามนี้ เบื้องหน้าเขากลับปรากฏชายเสื้อคลุมหรูหราแดงฉาน เสียงเย็นเยือกดังขึ้นเหนือศีรษะ “เมื่อครู่เจ้าว่าอันใด”

 

 

พวกนักเลงหัวไม้เช่นต้าจ้วง แม้ปกติจะกร่างอยู่บ้างก็ใช่ว่าจะทระนงแต่อย่างใด แต่คราวนี้ถูกตีแทบตายกลับทำเอาฮึดขึ้นมา เขาตวาดอย่างเกรี้ยวกราดว่า “บอกว่ามารดาเจ้าทั้งล่ำทั้งเปรี้ยว สมน้ำหน้าที่แปดชาติยังขายไม่ออก!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ลวงเล่ห์ร้ายชายาร้อยพิษ 246 ของฝากรัก (1)

Now you are reading ลวงเล่ห์ร้ายชายาร้อยพิษ Chapter 246 ของฝากรัก (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

งามแท้ เป็นคนงามจริงแท้แน่นอน!

 

 

แม้อีกฝ่ายจะมีผ้าคลุมปิดหน้า แต่ดวงตาที่เผยให้เห็นท่าทางก็เพียงพอให้ผู้คนลุ่มหลงแล้ว

 

 

ไป๋หลี่ชูเห็นขอทานสารรูปทุเรศทุรังสองคนจ้องมองตน พริบตานั้นก็ขมวดคิ้ว

 

 

แต่เพราะแววเย็นเยียบอันตรายในเบื้องลึกของดวงตานั่น ทำเอาเฝยหลงกับตาจ้วงขนลุกตั้งชันเหงื่อออกเต็มหลัง คล้ายกับลมยะเยือกที่พัดมาจากด่านประตูผียามกลางดึกอย่างไรอย่างนั้น

 

 

ทว่าอาการสยิวกายครั้งนี้ ทำให้พวกเขาพลันนึกได้ว่าตนเองต้องทำอะไร ต้าจ้วงพลันตาแดง เอ่ยขึ้นเสียงสั่นเครือ “คุณหนูใหญ่ พี่น้องชิวผู้นั้นเป็นชู้ของท่านใช่หรือไม่”

 

 

“ชู้…” ผู้คนในที่นั้นพลันเอ่ยทวนพร้อมกัน

 

 

ต้าจ้วงพลันยกมืออุดปาดตัวเอง แล้วเปลี่ยนคำพูดว่า “ข้าน้อยถามว่าพี่น้องชิวผู้นั้นใช่คนรู้จักของท่านใช่หรือไม่ หากว่ารู้จัก ท่านต้องช่วยเขา!”

 

 

เขาว่าพลางน้ำตาไหลพราก กระโดดเข้าไปหาไป๋หลี่ชู “ท่านไม่รู้ ไอ้สารเลวที่จับพี่น้องชิวไปบอกว่าจะปอกลอกจนหมดตัว”

 

 

ไป๋หลี่ชูใจลอยไปชั่วขณะ ได้ยินเพียงคำว่าปอกลอกสองพยางค์หลัง

 

 

ยามนี้จะเบี่ยงกายหลบก็ช้าไปเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าเพียงพริบตาร่างที่กระโดดเข้ามาของต้าจ้วงก็ชนเข้ากับแขนเสื้อแล้ว คนรักสะอาดเช่นเขา จะยอมให้ผู้อื่นมาชนโดนกายได้อย่างไร พลันถอยไปก้าวหนึ่งตามจิตใต้สำนึก ร่างของต้าจ้วงจึงไถลล้มลงไปกับพื้น มือกลับคว้าเอาชายเสื้อไว้ได้พอดี เสียง แควก พลันดังขึ้นเสียงหนึ่ง

 

 

ไป๋หลี่ชูนิ่งค้าง เมื่อได้สติกลับมาพลันตื่นตะลึง

 

 

ชิวเยี่ยไป๋บนหอสุราเห็นภาพฉากนี้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง พลันหัวร่อรวนจนตัวสั่นไปร่างอย่างอดไม่ได้

 

 

นางมองพวกสมบัติเหล่านี้ไม่ผิดดังคาด!

 

 

ชิวเยี่ยไป๋หัวร่อจนพอ หันไปเห็นต้าสู่ที่อยู่ข้างๆ กำลังมองตนอย่างข้องใจ นางโบกมือแล้วส่องกล้องในมือดูที่หอน้อยต่อ

 

 

ไป๋หลี่ชูถูกคนฉุดชายเสื้อ เขาตัวแข็งแล้วก็ยุดไหล่เสื้อไว้ กวาดมองต้าจ้วงบนพื้นด้วยแววตารังเกียจแล้วมองดูอีไป๋กับซวงไป๋และองครักษ์ค่งเฮ่อเจียนที่ยืนตะลึงงันอยู่ข้างๆ เผยรอยยิ้มน่าสะพรึงกลัวที่ทำเอาผู้คนขนลุก “ข้ารู้สึกว่าพักนี้วิทยายุทธ์ของพวกเจ้าถดถอยนะ หืม”

 

 

เมื่อครู่ต้าจ้วงถูกแววตาของไป๋หลี่ชูกวาดใส่ พริบตานั้นเขารู้สึกว่าตนเองเหมือนมดปลวกบนพื้นที่อยู่ต่อหน้าเทพเบื้องสูง จะเหยียบเขาให้ตายตามอำเภอใจก็ย่อมได้ แต่เห็นได้ชัดว่าองค์เทพไม่อยากให้เปื้อนเท้าของตน จึงพาลระบายโทสะใส่พวกองครักษ์ที่บกพร่องต่อการคุ้มกัน

 

 

แน่นอน ในฐานะผู้ทำให้องค์เทพขยะแขยง…ต้าจ้วงรู้สึกถึงกลิ่นอายอันตรายอย่างน่าประหลาด

 

 

และแล้วสังหรณ์ของต้าจ้วงก็เป็นจริง ที่อีไป๋กับซวงไป๋งงงัน ก็เพราะพวกเขามองปราดเดียวก็รู้ว่าวิทยายุทธ์ของ ‘ขอทาน’ สองคนนี้ธรรมดามาก ไม่มีใครเห็นพวกเขาอยู่ในสายตา จึงนึกไม่ถึงว่าคนที่พลังฝีมือไม่ได้เรื่องประดานี้ถึงกับแตะต้องถูกตัวเจ้านายของพวกตนได้!

 

 

และเพราะพวกเขาสะเพร่าเกินไป คุ้มกันเจ้านายได้ไม่ดี ถ้าอีกฝ่ายเป็นยอดฝีมือยังพอว่า ดันเป็นแค่ ‘ขอทาน’ สองคน สำหรับองครักษ์ค่งเฮ่อเจียนแล้ว นี่เป็นความอัปยศอดสูอย่างใหญ่หลวง!

 

 

คราวนี้ถูกสายตาของไป๋หลี่ชูทำเอารู้ตัว ใบหน้าอีไป๋ที่อยู่หลังแพรคลุมเขียวคล้ำ องครักษ์ค่งเฮ่อเจียนรอบข้างรีบคุกเข่าข้างเดียวทันที ส่วนอีไป๋หลังคุกเข่าข้างเดียวให้ผู้เป็นนายแล้วก็รีบลุกขึ้น ไม่ส่งเสียงแม้แต่คำเดียว ถีบโครมเข้าใส่ต้าจ้วงอย่างดุร้าย

 

 

แม้ต้าจ้วงจะเตรียมพร้อมไว้ก่อนและบิดเอวหลบอย่างรวดเร็ว แต่ลูกถีบของอีไป๋ใช่ว่าเขาจะหลบพ้น จึงถูกถีบจนตัวลอย

 

 

เขาร้องเสียงหลงแล้วหล่น โครม ลงในดงกุหลาบข้างๆ หนามกุหลาบและแคร่ดอกไม้ทิ่มแทงจนเขาร้องโหยหวน

 

 

ไป๋หลี่ชูขมวดคิ้ว กล่าวเสียงเย็นชาอย่างไม่พอใจว่า “อย่าทำให้ตาย!”

 

 

ซวงไป๋เหลือกตาใส่อีไป๋อย่างอดมิได้แล้วเดินไปที่แปลงดอกไม้ คว้าก้านดอกไม้ตวัดฟาดใส่ศีรษะอีกฝ่ายไม่ยั้ง “ไอ้สารเลว หล่นตรงไหนไม่หล่น ดันหล่นใส่ดอกไม้ที่ข้าดูแลให้เจ้านาย ดูสิเจ้าทำจนเละเทะเช่นนี้ น่าตายจริงๆ!”

 

 

เจ้านายไม่ต้องการให้เขาทำให้ตาย คิดว่าคงอยากสอบปากคำ แต่เจ้านายมิได้สั่งห้ามทรมานไอ้พวกงี่เง่าที่ทำให้พวกองครักษ์ค่งเฮ่อเจียนเสียหน้านี่!

 

 

ต้าจ้วงโดนหวดจนเลือดเต็มศีรษะ เอาแต่หลบหลีกเป็นพัลวัน แต่ยังคงหลบไม่พ้นการลงทัณฑ์ด้วยกิ่งดอกไม้ในมืออีไป๋ และแล้วเสียงร้องโหยหวนจึงดังอย่างต่อเนื่อง

 

 

สภาพเช่นนั้นทำเอาเฝยหลงที่แกล้งตายนอนกับม้านั่งดูแล้วขนลุก ได้แต่ลอบกุมถุงเงินไว้แน่น ขณะเดียวกันก็ปลอบใจตนเองว่า การลอบลวนลามคนงามย่อมต้องโดนทุบตี ดูต้าจ้วงสิ มิใช่เห็นไหล่เปลือยของคุณหนูใหญ่แล้วหรอกหรือ

 

 

สุดท้ายต้าจ้วงก็พ้นคราวเคราะห์ ยังคงเพราะซวงไป๋เห็นต้าจ้วงทุรนทุรายอยู่ในแปลงไม้ดอก ทำเอาแปลงกุหลาบที่เขาเฝ้าฟูมฟักมาหลายวันป่นปี้หมดจึงรามือ ตั้งใจว่าไว้เอาตัวต้าจ้วงออกมาก่อนค่อยบริการต่อด้วยแส้หวาย

 

 

แต่ซวงไป๋เพิ่งรามือเตรียมจะเอาตัวต้าจ้วงออกมา เจ้าคนที่ร่อแร่รวยรินในแปลงไม้ดอกจู่ๆ ก็เหมือนได้ยาชูกำลัง ม้วนตัวฝ่ากลีบดอกไม้ที่ยับเยินและหนามกุหลาบเต็มตัวกระโจนออกมา แล้วหมุนตัวเหมือนลูกข่างขดตัวซ่อนหลังแปลงดอกไม้ แผดร้องอย่างโกรธแค้น “ก็แค่ไหล่ของคุณหนูใหญ่บ้านเจ้าเท่านั้น เจ้าคิดว่าข้าอยากดูนักหรือ ขาวน่ะขาวอยู่ แต่กล้ามเยอะอย่างนี้ ยกให้ข้า ข้ายังไม่เอาเลย มีแต่ใต้เท้าบ้านข้านั่นแหละที่จะคบชู้เช่นคุณหนูบ้านเจ้า!”

 

 

ไป๋หลี่ชูเป็นคนร่างงามซ่อนรูปประเภทสวมเสื้อผ้าแล้วดูผอม แต่เปลื้องผ้าแล้วเจ้าเนื้อ สำหรับบุรุษแล้วจัดว่ายอดเยี่ยมมาก เพราะกล้ามเนื้อเป็นมัดลายเส้นงดงาม แต่ถ้าเป็นสตรี…กล้ามเนื้อไหล่ที่นูนขึ้นยังคงดูแล้วกำยำเกินเหตุอยู่

 

 

ซวงไป๋นึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเหมือนแมลงสาปที่ถูกเหยียบจนดูน่าจะบี้แบนแล้ว พอยกเท้าออกกลับกระโดดเหยงด้วยร่างพิกลพิการจนน่าขยะแขยง

 

 

ครั้งนี้ดูผิดไป ซวงไป๋ฉายแววโทสะ เขาโยนกิ่งไม้ในมือทิ้งสะบัดแขนเสื้อ แส้ยาวสีดำเส้นหนึ่งตวัดแหวกอากาศดัง พึ่บ ราวกับลิ้นอสรพิษ

 

 

เมื่อคืนต้าจ้วงเพิ่งโดนหวดไปสามแส้ จนบัดนี้ยังเจ็บก้นไม่หาย พอเห็นแส้เข้าก็ตกใจจนน่องเป็นตะคริว

 

 

แต่ขณะซวงไป๋ลงมือ ไป๋หลี่ชูพลันกล่าวเสียงเย็นชาว่า “เดี๋ยวก่อน ลากมันมา!”

 

 

ซวงไป๋ได้ยินก็ลดมือลง แส้ที่เตรียมฟาดใส่ใบหน้าอีกฝ่ายเปลี่ยนเป็นพันลำคอของต้าจ้วงแล้วตวัด

 

 

ต้าจ้วงรู้สึกเหมือนอสรพิษร้ายรัดใส่คอตน จากนั้นเขาก็ถูกตวัดขึ้นสู่กลางอากาศแล้วฟาดโครมกับพื้น การฟาดกับพื้นซ้ำสองเช่นนี้ เขารู้สึกเหมือนขวัญวิญญาณหลุดจากร่างไปหมด ได้แต่กุมเอวร้องครวญคราง แม้แต่เรี่ยวแรงจะกรีดร้องก็ไม่มีแล้ว

 

 

และยามนี้ เบื้องหน้าเขากลับปรากฏชายเสื้อคลุมหรูหราแดงฉาน เสียงเย็นเยือกดังขึ้นเหนือศีรษะ “เมื่อครู่เจ้าว่าอันใด”

 

 

พวกนักเลงหัวไม้เช่นต้าจ้วง แม้ปกติจะกร่างอยู่บ้างก็ใช่ว่าจะทระนงแต่อย่างใด แต่คราวนี้ถูกตีแทบตายกลับทำเอาฮึดขึ้นมา เขาตวาดอย่างเกรี้ยวกราดว่า “บอกว่ามารดาเจ้าทั้งล่ำทั้งเปรี้ยว สมน้ำหน้าที่แปดชาติยังขายไม่ออก!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+