ลวงเล่ห์ร้ายชายาร้อยพิษ 271 อำลา (2)

Now you are reading ลวงเล่ห์ร้ายชายาร้อยพิษ Chapter 271 อำลา (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

และเก้าอี้โป๊ยเซียนที่อยู่ข้างๆ มีคุณชายสำอางในชุดสีกลีบบัวนั่งอยู่ ในมือถือถ้วยชาหยกขาวใบหนึ่งกำลังมองดูแคร่ประหารเงียบๆ องครักษ์คนหนึ่งกางร่มอยู่ด้านข้าง หญิงรับใช้หน้าตาดีอีกคนถือพัดแพรพัดโบกให้เขาเบาๆ

กลิ่นอายเขาหนักแน่นเยือกเย็น แสงตะวันที่แผดจ้าดูเหมือนไม่มีผลต่อเขาเลย

“คุณชายใหญ่เหมย เจ้าทำอะไร พวกเรากองคั่นเฟิงแม้จะใช้ไม่ได้แต่ก็เป็นคนของราชสำนักนะ และมีชื่อในบัญชีของหลี่ปู้ เจ้าจู่ๆ จะฆ่าคนโดยไม่พิจารณา ถึงกับไม่กลัวอวี้สื่อปลดออกและราชสำนักเอาเรื่องหรือ!” ต้าสู่ตวาดใส่เหมยซู

เหมยซูแลดูเขาอย่างเฉยเมยแวบหนึ่ง “อวี้สื่อหรือ ข้ามิได้สังกัดลี่ปู้ย่อมไม่มีชื่อข้า ส่วนที่ว่าราชสำนักจะสืบสาวราวเรื่อง ต่อให้ราชสำนักจะเอาเรื่อง ก็คงแค่พวกองครักษ์ที่บุ่มบ่ามไม่ได้ความถูกโจรสลัดแขวนคอตายกระมัง!”

เขาหยุดลงแล้วกล่าวเสริมเบาๆ คำหนึ่ง “สมัยนี้ อันธพาลนักเลงอะไรก็เรียกว่าองครักษ์ได้หมด เจิ้งจวินคงเป็นข้าหลวงใหญ่ได้ไม่นานแล้ว”

ต้าสู่สะดุ้ง นั่นนะสิ เหมยซูไม่มีชื่อลำดับในลี่ปู้นี่นา อวี้สื่อก็เอาเรื่องเขาไม่ได้ และตระกูลเหมยก็เป็นคนของไทเฮา เหมยซูผู้นี้หูตายิ่งใหญ่ในแถบไหวหนาน จะให้พวกเขาตายในเงื้อมมือของ ‘โจรสลัด’ ย่อมง่ายดายอย่างยิ่ง!

ชิงเหลียนมองดูพวกเขาอย่างเหยียดหยาม “ไม่รู้เป็นไม่รู้ตายจริงๆ เลย หรือพวกเจ้ายังคิดว่าราชสำนักยังอยากเลี้ยงพวกขยะที่เปลืองข้าวสุกเช่นพวกเจ้าหรือ”

บรรดาคนหยิบหย่งอื่นๆ ย่อมได้ยินกันทั่ว พากันตวาดอย่างโกรธแค้นตามสัญชาตญาณ “พวกเรามิใช่ขยะ!”

ชิงเหลียนป้องปากหัวร่ออย่างอดมิได้ แววเหยียดหยามเกลื่อนหน้า “อ้อ พวกเจ้ามิใช่ขยะ แล้วทำไมคนเบื้องสูงเบื้องต่ำทั่วราชธานีจึงต่างว่าพวกเจ้าเป็นขยะ ตาบอดกันหมดทุกคนหรือ ฮิๆ”

บรรดาคนหยิบหย่งต่างมีโทสะพากันเขม้นใส่ซิงเหลียนอย่างขุ่นแค้น แต่…ไม่กล้าส่งเสียง

องครักษ์คนหนึ่งเข้ามากระซิบข้างหูเหมยซูอย่างรีบร้อน ดวงตาเหมยซูฉายแววเย็นเยียบวูบหนึ่ง เขาพลันลุกขึ้นยืนชะเง้อมองไกลออกไป

ทหารทุกคนต่างพากันมองไปตามเขา ก็เห็นฝุ่นดำหอบหนึ่งม้วนมาจากที่ไม่ไกลนัก

จนกระทั่งเสียงฝีเท้าม้าดังยิ่งขึ้น พวกเขาจึงรู้ว่านั่นมิใช่ฝุ่น แต่เป็นคนชุดดำกลุ่มหนึ่งกำลังห้อม้าเข้ามา ฝีเท้าอีกฝ่ายเร็วมาก ครู่เดียวพวกเขาก็เห็นบนเสื้อพวกเขาปักคำว่า ‘โจร’ ตัวใหญ่อย่างถนัดตา

บรรดาทหารทางการงงงันในพริบตา…มีอย่างที่ไหนที่โจรร้ายประกาศต่อคนทั่วหล้าว่าตนเองเป็นโจร

แต่เห็นอานุภาพของอีกฝ่ายแล้วพวกเขาก็ตึงเครียด กุมทวนยาวในมือแน่นตามสัญชาตญาณ!

เจิ้งหยางก้าวออกมากันเหมยซูไว้ข้างหลัง มองไปข้างหน้าอย่างตื่นตัว

คนที่กล้าหาญชาญชัยประกาศตัวโทนโท่ว่าเป็นโจร เขาคิดว่านอกจากชิวเยี่ยไป๋แล้วยังนึกไม่ออกว่ายังจะมีใครอีก

องครักษ์นายหนึ่งพลิกตัวขึ้นม้าทันทีพุ่งใส่ฝ่ายตรงข้าม ใช้กำลังภายในส่งเสียงดังลั่น “คนข้างหน้าหยุดไว้ ไม่เช่นนั้นอย่าโทษว่าพวกเรามิเกรงใจ”

เขาขับม้าไปขวางหน้าพวกคนเสื้อดำ ระยะห่างย่นลงเรื่อยๆ เขาแทบจะเห็นแววตาเย็นเยียบใต้หน้ากากปีศาจของคนชุดดำแถวหน้า แววตานั้นเหมือนน้ำแข็งในน้ำค้างเดือนสองทำเอาเขาสยิวกาย พลันรั้งบังเหียนไม่กล้าไปต่อ ได้แต่ยืนตะโกนอยู่กับที่ “พวกเจ้ายังไม่หยุด พวกเราจะแขวนคอคนของพวกเจ้า!”

ยังไม่ทันสิ้นเสียง พลันประกายเย็นเยียบวาบขึ้นข้างหน้า พริบตานั้นเขารู้สึกมีพลังแหลมคมปะทะใบหน้า แล้วก็ถูกคนขี่ม้าที่นำหน้าปะทะอย่างแรงจนกระเด็นไป

โครม!

องครักษ์ผู้นั้นร้องโหยหวน กลิ้งตกจากหลังม้าฟาดกับพื้นจนศีรษะแตกเลือดอาบ แล้วเงียบเสียงไปโดยไม่ครางสักแอะ

แต่ฉากนี้มิอาจขัดขวางการถาโถมเข้าใส่ของบรรดาคนขี่ม้าชุดดำ พวกเขาม้วนเข้าใส่เหมือนวายุสีดำ ราวกับคำพูดข่มขู่พวกนั้นไม่มีผลต่อพวกเขาแม้แต่น้อย พวกเขาเหมือนไม่ได้มาช่วยใคร เพียงแต่เตะหินเล็กๆ ก้อนหนึ่งที่ขวางทางออกไปเท่านั้นเอง

แต่พฤติกรรมของพวกเขาก็มีผลต่อคนทางฝั่งเหมยซูอย่างเห็นได้ชัด

“คุณชาย พวกมันแค่ผ่านมาเท่านั้นหรือ” ชิงเหลียนข้องใจและกริ่งเกรงอยู่บ้าง ฝีมือและอานุภาพของอีกฝ่ายเหี้ยมเกรียมเย็นชา ทำเอาผู้คนรู้สึกหวาดกลัว

แม้แต่พวกหยิบหย่งที่โดนแขวนไว้ก็ยังคิดเช่นนี้ ดวงตาฉายแววผิดหวังและยอมรับชะตากรรม

เดิมทีพวกเขาหวังว่าเป็นพี่น้องภายใต้การนำของพี่ใหญ่ที่มาช่วยพวกเขา แต่ดูอานุภาพและฝีมือการขับขี่ของพวกคนสวมหน้ากากชุดดำแล้ว มิใช่ฝีมือของพรรคพวกที่ดีแต่ขโมยไก่เตะหมาแน่

ยิ่งไปกว่านั้นการลงมือยังเหี้ยมเกรียมและไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของพวกเขาแม้แต่น้อย

เหมยซูหรี่ตาลง แลดูพายุดำที่ใกล้เข้ามาทุกที เขาลังเลเพียงเล็กน้อยแล้วส่ายหน้ากล่าวว่า “ไม่ ผู้มาย่อมไม่มีเจตนาดี มีเจตนาดีย่อมไม่มา เป็นพวกมันแน่!”

ชิงเหลียนงงงัน “แล้ว…”

เหมยซูโบกมือ ยามนี้ในใจของเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าชิวเยี่ยไป๋กับพวกประดานี้จะทำอะไร ซ้ำยังไม่แน่ใจว่านกเหยี่ยวดุร้ายชิวเยี่ยไป๋อยู่ในคนกลุ่มนี้ด้วยหรือไม่

ความเงียบของเหมยซูบวกกับเสียงกุบกับที่ใกล้เข้ามาทุกที ทำเอาพวกทหารระส่ำ

จนกระทั่ง…

ขณะกลุ่มคนชุดดำพุ่งเข้าใส่พวกเขาห่างไปไม่ถึงร้อยจั้ง อีกฝ่ายพลันชักดาบออกพร้อมกัน

พวกทหารที่เดิมทียังสงสัยอยู่ตื่นตกใจในพริบตา บางคนที่มีประสบการณ์ถึงกับร้องเสียงหลง… “แย่แล้ว เป็นดาบฟันม้า!”

นี่เรียกว่าดาบฟันม้าเป็นดาบชนิดใช้ฟันที่ใช้กันบ่อยในสนามรบ ดาบชนิดนี้คมและเรียวยาวกว่าดาบทั่วไป สร้างด้วยเหล็กกล้าชั้นดี ด้ามดาบมีโกร่งป้องกันมือ เป็นดาบประจำกายตามมาตรฐานของทหารม้า ใช้สำหรับคนบนม้าบุกทะลวงฆ่าฟันศัตรู ถ้าพละกำลังดีพอดาบนี้สามารถฟันหัวม้าขาดเลย ทรงอานุภาพเป็นที่สุด จึงเรียกว่าดาบฟันม้า!

แม้เหมยซูจะไม่เคยเข้าสนามรบ แต่ยามนี้เห็นสีหน้าแตกตื่นของพวกทหารก็รับรู้อย่างฉับไวถึง

…อันตรายร้ายแรง

เนื่องจากอีกฝ่ายไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลย นักรบหน้ากากผีที่ขี่ม้านำหน้าพลันเงื้อดาบใหญ่ในมือ เป่าปากเสียงแหลมราวเสียงกู่ร้องของพญาเหยี่ยว

คนเสื้อดำบนหลังม้าทุกคนก้มตัวลงพร้อมกัน ตั้งท่าเตรียมบุกทะลวงแบบทัพม้า!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ลวงเล่ห์ร้ายชายาร้อยพิษ 271 อำลา (2)

Now you are reading ลวงเล่ห์ร้ายชายาร้อยพิษ Chapter 271 อำลา (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

และเก้าอี้โป๊ยเซียนที่อยู่ข้างๆ มีคุณชายสำอางในชุดสีกลีบบัวนั่งอยู่ ในมือถือถ้วยชาหยกขาวใบหนึ่งกำลังมองดูแคร่ประหารเงียบๆ องครักษ์คนหนึ่งกางร่มอยู่ด้านข้าง หญิงรับใช้หน้าตาดีอีกคนถือพัดแพรพัดโบกให้เขาเบาๆ

กลิ่นอายเขาหนักแน่นเยือกเย็น แสงตะวันที่แผดจ้าดูเหมือนไม่มีผลต่อเขาเลย

“คุณชายใหญ่เหมย เจ้าทำอะไร พวกเรากองคั่นเฟิงแม้จะใช้ไม่ได้แต่ก็เป็นคนของราชสำนักนะ และมีชื่อในบัญชีของหลี่ปู้ เจ้าจู่ๆ จะฆ่าคนโดยไม่พิจารณา ถึงกับไม่กลัวอวี้สื่อปลดออกและราชสำนักเอาเรื่องหรือ!” ต้าสู่ตวาดใส่เหมยซู

เหมยซูแลดูเขาอย่างเฉยเมยแวบหนึ่ง “อวี้สื่อหรือ ข้ามิได้สังกัดลี่ปู้ย่อมไม่มีชื่อข้า ส่วนที่ว่าราชสำนักจะสืบสาวราวเรื่อง ต่อให้ราชสำนักจะเอาเรื่อง ก็คงแค่พวกองครักษ์ที่บุ่มบ่ามไม่ได้ความถูกโจรสลัดแขวนคอตายกระมัง!”

เขาหยุดลงแล้วกล่าวเสริมเบาๆ คำหนึ่ง “สมัยนี้ อันธพาลนักเลงอะไรก็เรียกว่าองครักษ์ได้หมด เจิ้งจวินคงเป็นข้าหลวงใหญ่ได้ไม่นานแล้ว”

ต้าสู่สะดุ้ง นั่นนะสิ เหมยซูไม่มีชื่อลำดับในลี่ปู้นี่นา อวี้สื่อก็เอาเรื่องเขาไม่ได้ และตระกูลเหมยก็เป็นคนของไทเฮา เหมยซูผู้นี้หูตายิ่งใหญ่ในแถบไหวหนาน จะให้พวกเขาตายในเงื้อมมือของ ‘โจรสลัด’ ย่อมง่ายดายอย่างยิ่ง!

ชิงเหลียนมองดูพวกเขาอย่างเหยียดหยาม “ไม่รู้เป็นไม่รู้ตายจริงๆ เลย หรือพวกเจ้ายังคิดว่าราชสำนักยังอยากเลี้ยงพวกขยะที่เปลืองข้าวสุกเช่นพวกเจ้าหรือ”

บรรดาคนหยิบหย่งอื่นๆ ย่อมได้ยินกันทั่ว พากันตวาดอย่างโกรธแค้นตามสัญชาตญาณ “พวกเรามิใช่ขยะ!”

ชิงเหลียนป้องปากหัวร่ออย่างอดมิได้ แววเหยียดหยามเกลื่อนหน้า “อ้อ พวกเจ้ามิใช่ขยะ แล้วทำไมคนเบื้องสูงเบื้องต่ำทั่วราชธานีจึงต่างว่าพวกเจ้าเป็นขยะ ตาบอดกันหมดทุกคนหรือ ฮิๆ”

บรรดาคนหยิบหย่งต่างมีโทสะพากันเขม้นใส่ซิงเหลียนอย่างขุ่นแค้น แต่…ไม่กล้าส่งเสียง

องครักษ์คนหนึ่งเข้ามากระซิบข้างหูเหมยซูอย่างรีบร้อน ดวงตาเหมยซูฉายแววเย็นเยียบวูบหนึ่ง เขาพลันลุกขึ้นยืนชะเง้อมองไกลออกไป

ทหารทุกคนต่างพากันมองไปตามเขา ก็เห็นฝุ่นดำหอบหนึ่งม้วนมาจากที่ไม่ไกลนัก

จนกระทั่งเสียงฝีเท้าม้าดังยิ่งขึ้น พวกเขาจึงรู้ว่านั่นมิใช่ฝุ่น แต่เป็นคนชุดดำกลุ่มหนึ่งกำลังห้อม้าเข้ามา ฝีเท้าอีกฝ่ายเร็วมาก ครู่เดียวพวกเขาก็เห็นบนเสื้อพวกเขาปักคำว่า ‘โจร’ ตัวใหญ่อย่างถนัดตา

บรรดาทหารทางการงงงันในพริบตา…มีอย่างที่ไหนที่โจรร้ายประกาศต่อคนทั่วหล้าว่าตนเองเป็นโจร

แต่เห็นอานุภาพของอีกฝ่ายแล้วพวกเขาก็ตึงเครียด กุมทวนยาวในมือแน่นตามสัญชาตญาณ!

เจิ้งหยางก้าวออกมากันเหมยซูไว้ข้างหลัง มองไปข้างหน้าอย่างตื่นตัว

คนที่กล้าหาญชาญชัยประกาศตัวโทนโท่ว่าเป็นโจร เขาคิดว่านอกจากชิวเยี่ยไป๋แล้วยังนึกไม่ออกว่ายังจะมีใครอีก

องครักษ์นายหนึ่งพลิกตัวขึ้นม้าทันทีพุ่งใส่ฝ่ายตรงข้าม ใช้กำลังภายในส่งเสียงดังลั่น “คนข้างหน้าหยุดไว้ ไม่เช่นนั้นอย่าโทษว่าพวกเรามิเกรงใจ”

เขาขับม้าไปขวางหน้าพวกคนเสื้อดำ ระยะห่างย่นลงเรื่อยๆ เขาแทบจะเห็นแววตาเย็นเยียบใต้หน้ากากปีศาจของคนชุดดำแถวหน้า แววตานั้นเหมือนน้ำแข็งในน้ำค้างเดือนสองทำเอาเขาสยิวกาย พลันรั้งบังเหียนไม่กล้าไปต่อ ได้แต่ยืนตะโกนอยู่กับที่ “พวกเจ้ายังไม่หยุด พวกเราจะแขวนคอคนของพวกเจ้า!”

ยังไม่ทันสิ้นเสียง พลันประกายเย็นเยียบวาบขึ้นข้างหน้า พริบตานั้นเขารู้สึกมีพลังแหลมคมปะทะใบหน้า แล้วก็ถูกคนขี่ม้าที่นำหน้าปะทะอย่างแรงจนกระเด็นไป

โครม!

องครักษ์ผู้นั้นร้องโหยหวน กลิ้งตกจากหลังม้าฟาดกับพื้นจนศีรษะแตกเลือดอาบ แล้วเงียบเสียงไปโดยไม่ครางสักแอะ

แต่ฉากนี้มิอาจขัดขวางการถาโถมเข้าใส่ของบรรดาคนขี่ม้าชุดดำ พวกเขาม้วนเข้าใส่เหมือนวายุสีดำ ราวกับคำพูดข่มขู่พวกนั้นไม่มีผลต่อพวกเขาแม้แต่น้อย พวกเขาเหมือนไม่ได้มาช่วยใคร เพียงแต่เตะหินเล็กๆ ก้อนหนึ่งที่ขวางทางออกไปเท่านั้นเอง

แต่พฤติกรรมของพวกเขาก็มีผลต่อคนทางฝั่งเหมยซูอย่างเห็นได้ชัด

“คุณชาย พวกมันแค่ผ่านมาเท่านั้นหรือ” ชิงเหลียนข้องใจและกริ่งเกรงอยู่บ้าง ฝีมือและอานุภาพของอีกฝ่ายเหี้ยมเกรียมเย็นชา ทำเอาผู้คนรู้สึกหวาดกลัว

แม้แต่พวกหยิบหย่งที่โดนแขวนไว้ก็ยังคิดเช่นนี้ ดวงตาฉายแววผิดหวังและยอมรับชะตากรรม

เดิมทีพวกเขาหวังว่าเป็นพี่น้องภายใต้การนำของพี่ใหญ่ที่มาช่วยพวกเขา แต่ดูอานุภาพและฝีมือการขับขี่ของพวกคนสวมหน้ากากชุดดำแล้ว มิใช่ฝีมือของพรรคพวกที่ดีแต่ขโมยไก่เตะหมาแน่

ยิ่งไปกว่านั้นการลงมือยังเหี้ยมเกรียมและไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของพวกเขาแม้แต่น้อย

เหมยซูหรี่ตาลง แลดูพายุดำที่ใกล้เข้ามาทุกที เขาลังเลเพียงเล็กน้อยแล้วส่ายหน้ากล่าวว่า “ไม่ ผู้มาย่อมไม่มีเจตนาดี มีเจตนาดีย่อมไม่มา เป็นพวกมันแน่!”

ชิงเหลียนงงงัน “แล้ว…”

เหมยซูโบกมือ ยามนี้ในใจของเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าชิวเยี่ยไป๋กับพวกประดานี้จะทำอะไร ซ้ำยังไม่แน่ใจว่านกเหยี่ยวดุร้ายชิวเยี่ยไป๋อยู่ในคนกลุ่มนี้ด้วยหรือไม่

ความเงียบของเหมยซูบวกกับเสียงกุบกับที่ใกล้เข้ามาทุกที ทำเอาพวกทหารระส่ำ

จนกระทั่ง…

ขณะกลุ่มคนชุดดำพุ่งเข้าใส่พวกเขาห่างไปไม่ถึงร้อยจั้ง อีกฝ่ายพลันชักดาบออกพร้อมกัน

พวกทหารที่เดิมทียังสงสัยอยู่ตื่นตกใจในพริบตา บางคนที่มีประสบการณ์ถึงกับร้องเสียงหลง… “แย่แล้ว เป็นดาบฟันม้า!”

นี่เรียกว่าดาบฟันม้าเป็นดาบชนิดใช้ฟันที่ใช้กันบ่อยในสนามรบ ดาบชนิดนี้คมและเรียวยาวกว่าดาบทั่วไป สร้างด้วยเหล็กกล้าชั้นดี ด้ามดาบมีโกร่งป้องกันมือ เป็นดาบประจำกายตามมาตรฐานของทหารม้า ใช้สำหรับคนบนม้าบุกทะลวงฆ่าฟันศัตรู ถ้าพละกำลังดีพอดาบนี้สามารถฟันหัวม้าขาดเลย ทรงอานุภาพเป็นที่สุด จึงเรียกว่าดาบฟันม้า!

แม้เหมยซูจะไม่เคยเข้าสนามรบ แต่ยามนี้เห็นสีหน้าแตกตื่นของพวกทหารก็รับรู้อย่างฉับไวถึง

…อันตรายร้ายแรง

เนื่องจากอีกฝ่ายไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลย นักรบหน้ากากผีที่ขี่ม้านำหน้าพลันเงื้อดาบใหญ่ในมือ เป่าปากเสียงแหลมราวเสียงกู่ร้องของพญาเหยี่ยว

คนเสื้อดำบนหลังม้าทุกคนก้มตัวลงพร้อมกัน ตั้งท่าเตรียมบุกทะลวงแบบทัพม้า!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+