เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!! 323

Now you are reading เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!! Chapter 323 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

< < 201 Sec2 > >

“–คุณอลิซาเบธ”

ผมร้องเรียกชื่อของเธอด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง คุณอลิซาเบธกระโดดเข้ามาข้างใน และวิ่งเข้าหาผมพร้อมกับ ‘บาคุนาว่า’ ที่ส่องแสงสีเลือดอย่างน่าสยดสยอง

“เรื่องอะไรกัน—เข้ามาได้ยังไงกัน!!?”

“ขอผ่าทางไปก่อนนะคะ เจ้าชายลำดับที่หนึ่ง”

คุณลีออนยื่นมือหมายจะร่ายเวทย์ แต่ไม่ทันที่จะได้ทำอะไร แขนก็ถูกผ่าออกจากกันด้วยคมส่วนปลายของบาคุนาว่า อลิซาเบธถีบร่างของเจ้าชายปลิวกระเด็นไปกับพื้น ก่อนจะลงมาหยุดอยู่ที่เบื้องหน้าผมซึ่งถูกตรึงไว้ด้วยอุปกรณ์เวทมนตร์

“เหมือนว่าจะยังปลอดภัยดีนะคะ คุณยูจิ”

เธอถอนหายใจโล่งอก จากนั้นก็เดินเข้ามาหาผมด้วยรอยยิ้ม โดยที่ข้างหลังของเธอมีชายคนหนึ่งเดินเกาะหลังตามมาด้วย

“มะ มาช่วยแล้วนะ! ยูจิ!”

“..แม้แต่คุณแจ็คสันก็”

คุณอลิซาเบธยิ้มอย่างพึงพอใจและเข้ามาหมายจะปลดพันธนาการให้ผม แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะดึงอุปกรณ์เวทมนตร์ชิ้นโตให้หลุดไปได้

“คุณอลิซาเบธโดนจับตัวไปแล้วไม่ใช่หรือไงครับ ทำไมถึงโผล่มาได้ ..ไม่สิ ทำไมถึงต้องมาช่วยผมกันครับ ทั้งๆที่คุณน่าจะหาทางหนีเองได้ไม่ยากแท้ๆ ทำไมต้อง ..ทำถึงขนาดนี้”

“มาดราม่าอะไรกันคะเนี่ย”

“ผมแค่ไม่เข้าใจครับว่าทำไมต้องลำบากมาช่วยคนไร้ค่าอย่างผมด้วย!”

คุณอลิซาเบธทำหน้างงๆเหมือนไม่เข้าใจเรื่องที่ผมพูด

“ช่วยบอกผมด้วยเถอะครับ ..ตอนนี้ผมไม่เข้าใจอะไรเลยสักอย่าง”

“คุณยูจิไม่ได้ไร้ค่าค่ะ ฉันจึงมาเพื่อช่วย”

“อย่าด้อยค่าตัวเองสิ ยูจิ ถ้าระดับเธอคือไร้ค่า ผมคงเป็นได้แค่เศษขยะข้างทางแล้วละ ฮ่าๆๆๆๆ”

…พูดแบบนี้มันไม่ต่างกับกำลังด้อยค่าตัวเองเลยไม่ใช่หรือไงครับ 

แต่ว่าทำไมกันนะ ทำไมผมถึง ..รู้สึกดีใจขนาดนี้กัน

“อุปกรณ์เวทมนตร์พวกนี้เป็นปัญหาจริงๆค่ะ—ขอโทษนะคะ คุณยูจิ”

กล่าวจบ คุณอลิซาเบธก็เหวี่ยงบาคุนาว่าทำลายอุปกรณ์เวทมนตร์ทิ้งดื้อๆซะเลย การกระทำชวนให้ตั้งคำถามว่าทำไมถึงไม่ใช้ตั้งแต่แรก และผมก็ได้รับคำตอบในทันทีที่ถาม

“กลัวว่าจะฟันโดนคุณยูจิเข้าน่ะค่ะ”

“เรื่องนั้นไม่เห็นต้องเป็นห่วงเลยครับ ยังไงๆผมก็คืนชีพกลับมาได้ตลอดอยู่แล้ว”

“มันไม่ดีต่อความรู้สึกน่ะค่ะ”

….

ร่างของผมที่อ่อนแรงอย่างไม่ทราบสาเหตุได้ถูกคุณอลิซาเบธ และคุณแจ็คสันถือแขนไว้คนละข้าง

การถูกช่วยเหลือมันรู้สึกอย่างนี้นี่เอง

นี่คือความรู้สึกของการตอบรับการช่วยเหลือจากใครสักคนสินะ ..ถ้าหาก ถ้าหากผมรู้เรื่องนี้ให้เร็วกว่านี้มันคงจะดีไม่ใช่น้อย

‘ไม่จำเป็นต้องแบกรับไว้คนเดียว’ คำพูดเหล่านั้นของคุณเรเซอร์ที่กล่าวกับผม มันไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันอีกต่อไปแล้ว คนที่โง่เขลามาตลอดคือตัวผมต่างหาก วินาทีที่ถูกช่วยเอาไว้จากห้วงลึกของความสิ้นหวังมันกำลังบอกความจริงที่แสนอบอุ่นให้ผมทราบ

ใช่แล้วละ ยูจิ ผมบอกกับตัวเองอย่างนั้นและ

ผมลุกขึ้นยืนอีกครั้ง และหลุดยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

“ขอบคุณนะครับ ทั้งสองคน”

“ไม่มีปัญหาค่ะ”

คุณแจ็คสันยกแขนข้างขวาของผมมาไว้บนบ่า และเดินนำทางพาผมที่อ่อนล้าออกจากที่แห่งนี้ ทว่าอะไรๆมันก็คงไม่ง่ายดาย

“ประมาทไปจริงๆด้วย ..เกรล”

“โทษที คัลเซเรมตอนนี้วุ่นวายสุดๆ”

มหามังกรปฐพี ‘เกรล’ โผล่มาจากบนดิน ในสภาพที่เสื้อกาวน์ตัวเต็มไปด้วยรอยเปื้อนเลือดปริศนา ใบหน้าของเธอดูตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด ผิดกับปกติที่จะดูสบายๆ

“..เกิดอะไรขึ้นที่คัลเซเรมเหรอครับ?”

“การจลาจลภายในคัลเซเรมค่ะ ให้อธิบายมันอาจจะยาว แต่ตอนนี้นักโทษทุกคนกำลังทำการณ์ใหญ่คิดแหกคุกหลังจากที่ปลดเครื่องระเบิดข้างในได้หมดแล้ว”

“นั่นฟังดูเลวร้ายสุดๆไปเลยนะครับ”

“ไม่เป็นไรค่ะ หลังจบเรื่องพวกเราค่อยช่วยกันเก็บกวาดก็พอ”

เก็บกวาดที่ว่า ผมหวังว่าจะหมายถึงช่วยพาพวกเขากลับเข้าคุกนะ แม้จะคิดอย่างนั้น แต่ผมไม่ได้พูดออกไป

“ลีออน ศัตรู?”

“มือขวาของภัยพิบัติ”

“เข้าใจแล้ว ไม่ใช่ปัญหา”

เกรลมาร์คหัวของคุณอลิซาเบธไว้ ก่อนจะเคลื่อนที่เข้าหาเธอด้วยความรวดเร็วสมกับเป็นมหามังกรที่ทรงพลัง โดยไม่ต้องรีรออะไร การต่อสู้ของทั้งสองคนก็ได้เริ่มขึ้น 

“จะเป็นคู่มือให้เอง”

“คิดว่าไม่จำเป็นนะคะ แต่ก็ขอขอบคุณค่ะ”

คุณอลิซาเบธใช้บาคุนาว่ารับการโจมตีนั้น หมายจะเหวี่ยงวิถีการต่อสู้ไปยังทางอื่นที่ห่างไกลจากผม และเธอก็ทำสำเร็จ เพียงพริบตาเดียวทั้งสองก็พุ่งทะลุตึกของคัลเซเรม และเข้าห้ำหั่นกันในที่ไหนสักแห่ง

ทันทีที่มหามังกรเกรลพ้นจากระยะแล้ว คุณแจ็คสันก็ออกแรงแบกผมหนี ทั้งๆที่คุณลีออนยืนอยู่ใกล้ๆ แน่นอนว่าคงถูกหมายหัวเอาไว้ คุณลีออนได้ดีดนิ้วพร้อมกับวิชาเล่นแร่แปรธาตุที่ปรากฏขึ้นบนพื้น

ทว่า ไม่มีสิ่งใดปรากฏ นอกจากเสียงร้องของคุณแจ็คสันที่เร่งฝีเท้าออกแรงสุดชีวิต

“ย๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!”

แล้วก็ ‘ทะเลสีรุ้ง’ ที่พัดเข้ามาจากด้านข้าง ทันทีที่เห็นปรากฏการณ์นี้ คุณลีออนก็เบิกตาโพงกว้าง และโพล่งออกมาอย่างหงุดหงิด

“ทะเลสีรุ้ง!!!!”

คุณมาเจลเดินสวนกลับผมเข้ามา เขาไม่แม้แต่จะเหลียวมองผมด้วยซ้ำ คนๆนี้ทำเพียงเดินเข้ามาขวางทางระหว่างผมกับลีออนเอาไว้ด้วยท่าทางกอดอกเชิดหน้าสุดหยิ่งยโส

“มาเจล ..แม้แต่นายก็ด้วยเหรอ?”

“ไม่พอใจอะไร เจ้าน้องชาย”

น้องชาย? แม้ผมจะสนใจเรื่องที่พูดเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหนีไปกับคุณแจ็คสันก่อน

 

****

ขณะนี้ ปัญญาพระเจ้า ‘มาเจล’ และองค์ชายลำดับที่ 1 แห่งอาณาจักรเกรล ‘ลีออน’ ได้เผชิญหน้ากัน ณ บนจุดที่สูงที่สุดของคุกนรก ‘คัลเซเรม’

“บอกได้รอบแล้วไงครับว่าอย่าพูดเรื่องพวกนั้นออกมาในที่สาธารณะ”

“คัลเซเรมเนี่ยนะที่สถานะ?”

“พูดให้ถูกอย่าพูดให้คนภายนอกฟังต่างหากจึงจะถูก คนอย่างท่านพี่ถ้าหากไม่พูดอะไรไปตรงๆก็คงไม่เข้าใจ สำหรับเรื่องนั้นสร้างความลำบากใจให้ผมไม่น้อยเลยนะครับที่มีพี่ชายสติปัญญาต่ำถึงเพียงนี้”

“สติปัญญาต่ำ? พูดถึงพี่ชายตัวไหนไม่ทราบ ไม่ใช่ว่าพ่อของแกมันเพาะพันธุ์ไปทั่วหรือยังไง?”

“เรื่องนั้นก็ไม่รู้สิครับ แต่ที่รู้ๆลูกชู้ที่หลุดมาจากคอกตรงหน้าผมกำลังสร้างความรำคาญใจให้อย่างยิ่งอยู่”

มาเจลได้ยินดังนั้นก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ก่อนจะทำการดีดนิ้วเรียกเอา ‘ทะเลสีรุ้ง’ เข้าซัดใส่บนยอดสุดของคัลเซเรม ลีออนเห็นก็มีหรือจะยอมให้ทำตามใจชอบ

“ [เนโครแรนซ์] ”

“ [ทะเลสีรุ้ง] ”

เสียงดีดนิ้วสองจังหวะดังสนั่นทั่วท้องฟ้า ทะเลสีรุ้ง และการเล่นแร่แปรธาตุที่ผิดแปลกไปจากปกติปรากฏขึ้นบนคัลเซเรม

ยอดตึกที่ตั้งตรง แปรเปลี่ยนเป็นวงกลมที่มีขนาดใหญ่พอจะให้คนนั่งอยู่หลายสิบคนได้ จากผลของ ‘เนโครแรนซ์’ การเล่นแร่แปรธาตุรูปแบบพิเศษอันเลื่องชื่อของลีออน

มาเจลเดินวนไปมาด้วยท่าทางเวียนหัวคล้ายจะเป็นลม

“การเล่นแร่แปรธาตุนอกรีต ‘เนโครแรนซ์’ ยังใช้เจ้าวิชาไร้ศิลปะนี่อยู่อีกรึเนี่ย งี่เง่าจริงๆเลยนะ เจ้าน้องชายหน้าโง่”

“คนที่พึ่งพลังของบุคคลในอดีตไม่ต้องมาพูดเลยครับ”

ลีออนดีดนิ้ว พื้นทางฝั่งมาเจลบิดขึ้นมาคลุมร่างของมาเจลไว้ แต่พริบตาเดียว มาเจลก็หลุดออกมาได้ด้วยออร่าสีรุ้งที่ปกคลุมทั่วทั้งร่างกาย ทว่าก็ไม่พ้นที่จะได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

“ชิ”

“ ‘ทะเลสีรุ้ง’ จะมีผลกับแค่ผลลัพธ์ที่ท่านพี่สร้างเท่านั้น หมายความว่าสิ่งที่ผมสร้างขึ้นมา ทะเลสีรุ้งจะไม่สามารถมีส่วนร่วมด้วยได้”

“ก็แค่เรื่องทั่วไปนี่ เจ้าน้องชายหน้าโง่ที่ไร้ทางสู้ถึงขนาดต้องเล่นงานจุดอ่อน เรื่องมันก็แค่นั้น แล้วจะบอกอะไรให้นะ กะอีแค่โดนจำกัดขอบเขตุการทำงาน ทะเลสีรุ้งแห่งการพิชิตของฉันคนนี้ก็ไม่มีวันจะดับสูญไปง่ายๆหรอก รู้รึเปล่าว่าทำไม? ก็เพราะว่าทะเลสีรุ้งไม่ใช่พลัง หากแต่เป็นจิตใจที่ไร้ซึ่งจุดสิ้นสุดของฉันคนนี้ยังไงละ เสมือนท้องทะเลที่กว้างขวาง เสมือนทะเลสีรุ้งของฉันที่แสนกว้างขวาง ชะตาได้ลิขิตให้แกแพ้ฉันมาตั้งแต่แรกแล้ว เจ้าน้องชายหน้าโง่”

“..ว่าแล้วเชียวว่าต้องพล่ามยาว”

มาเจลแคะหู และเป่าโชว์

“บ่นอะไร”

“–มันคำถามของทางนี้ต่างหาก มาเจล!!!”

ไม่ไกลนัก บนพื้นดินของคัลเซเรมซึ่งนักโทษทุกคนกำลังเข้าต่อสู้กับผู้คุมขัง บ้างก็วิ่งหนีตายจากการต่อสู้ บ้างก็วิ่งหนีออกจากอาณาเขตุของคัลเซเรม เพื่อที่จะหลุดพ้นจากคุกนรกที่ไม่มีอะไรดีเลยแห่งนี้

ชีวิตหลายชีวิตต้องจบลงจากการต่อสู้กันเอง จากการโดนสังหารโดนคู่อริบ้าง หรือการโดนเล่นงานจากผู้คุมขังบ้าง แต่นอกเหนือจากเรื่องพวกนั้นก็คงจะเป็นลูกหลงจากการต่อสู้ระหว่างสัตว์ประหลาด

“ฮึย!!!”

“บาคุนาว่า น่าหยะแหยง”

การปะทะกันระหว่าง ‘มือขวาของภัยพิบัติ’ และ ‘มหามังกรปฐพี’ สร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตโดยรอบเป็นอย่างมาก

ทุกจังหวะการแลกหมัดและเคียวจะเป็นความเสียหายวงกว้าง ที่คร่าชีวิตคนไปกว่าสิบชีวิตในคราเดียว นอกจากต้องสู้กันเอง และหลบหนีจากผู้คุมขังแล้ว สิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือการเอาตัวรอดจากการต่อสู้ของตัวประหลาดสองตัวนี้ให้ได้

“หนีเร็ว!!!!!!!!!!!!!!!”

“เจ้าพวกนั้นมันบ้าอะไรวะเนี่ย ตัวบ้าอะไรวะเนี่ย!!!!”

“ไม่เอาแล้ว ไม่เอาแล้ว!!!!”

ราวกับวันสิ้นโลกอย่างไรอย่างนั้น กี่ร้อยปีแล้วกันนะที่คัลเซเรมแห่งนี้ไร้ซึ่งความสงบสุข

“แวมไพร์ เกะกะ”

เกรลพึมพำอย่างหน่ายใจ พร้อมกับใช้แรงขาที่มหาศาลซัดอลิซาเบธจนร่างแทบจะแหลก แขนกับขาของอลิซาเบธบิดไปคนละฝั่งกับที่ควรจะเป็น แต่เพียงพริบตาเดียว ด้วยพลังที่ซ่อนเก็บไว้ในบาคุนาว่าก็ทำให้แขนขากลับมาดีเหมือนเก่า จากนั้นอลิซาเบธก็ไม่รอช้าเข้าไปโหมโจมตีใส่เกรลตรงๆโดยไม่หวั่นเกรงกับคู่ต่อสู้ระดับมหามังกร

จังหวะการเหวี่ยงบาคุนาว่าเป็นไปอย่างรวดเร็ว และทรงประสิทธิภาพก็จริง แต่คู่ต่อสู้คืมหามังกรผู้ถูกขนานนามว่าเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดบนโลก กับอีแค่การโจมตีที่เร็วนิดหน่อยไม่อาจฝ่าด่านได้ง่ายๆ ใช้เวลาปรับตัวเพียงครู่เดียว เกรลก็หลบหลีกทุกการโจมตี และหาช่องสวนกลับได้ง่ายๆ

หมัดขวาตรงเข้าที่หน้าท้องของอลิซาเบธ

“อั้ก!!!”

เธอปลิวไปกับพื้นหลายสิบตลบ ก่อนจะหยุดลงแน่นิ่งกับพื้น

“… [บาคุนาว่า] ..”

เคียวแห่งการสูญสิ้นบิดไปมาอย่างน่าหยะแหยง ร่างกายที่แหลกสลายได้รับการรักษากลับคืนตามเดิมอีกครา เกรลยกมือชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า

…..

“สมกับเป็นมหามังกร”

อลิซาเบธวิ่งเข้าใส่เกรลด้วยความเร็วสูงสุด พลางโบกสะบัดเคียวไปมาบนท้องฟ้าเพื่อปัดป้องการจู่โจมจากบนฟ้าของเกรล—กระสุนหินหยดลงมาจากท้องฟ้า ห่าฝนหินโหมกระหน่ำลงพื้น ประหนึ่งระเบิด ทุกสิ่งที่ถูกกระสุนแห่งนี้พุ่งเข้าใส่จะถูกทำลาย ทันทีที่สัมผัสกับกระสุนหินเหล่านี้มันจะทำการระเบิดความเสียหายที่มหาศาลทัดเทียมกับเวทมนตร์ระดับสูง ซึ่งมากพอจะทำให้คนๆหนึ่งตายทั้งตัว หายทั้งร่าง

เหล่านักโทษ และผู้คุมขังพากันส่งเสียงร้องดังลั่นกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกการต่อสู้หยุดลงอย่างกระทันหัน ทุกคนพากันหนีตาย เว้นแต่สองตัวตนที่พิเศษกว่าคนอื่นๆ

“[บาคุนาว่า]”

เคียวแห่งการสูญสิ้นบิดรูปอย่างสยอง และ–อลิซาเบธได้หายไปกับทิวทัศน์เบื้องหน้าของเกรล

“..การสูญสิ้น—”

รู้สึกตัวแล้ว แต่สายไป

เกรลเอียงตัวหลบสุดกดตัว แต่ก็ไม่ทัน แขนของเธอถูกแยกออกจากร่างด้วยการโจมตีที่เฉียบคมของอลิซาเบธจากข้างหลัง

“เทเลพอร์ต?” เกรลกระโดดหลบไปทิศอื่น พลางพึมพำเบาหวิว วิเคราะห์บาคุนาว่า “มอบความสูญสิ้นให้แก่สิ่งใดสิ่งหนึ่ง แล้วก็ชิงสิ่งๆนั้นมาเป็นของตัวเอง”

เกรลอ้าปาก และพ่นลำแสงของมหามังกรใส่อลิซาเบธ เคียวแห่งการสูญสิ้นบิดรูปของตนเองอย่างน่าสยอง ก่อนที่ร่างของอลิซาเบธจะมาโผล่อยู่ข้างหลังของเกรล

“วิธีเดิม”

เกรลใช้ศอกกระแทกไปข้างหลัง แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะว่าบาคุนาว่าได้เปลี่ยนรูปเข้ากลืนกินแขนของเกรล

“—อึก!?”

อำนาจของหนึ่งในทวยเทพทั้งสิบผู้สร้างโลก เทพแห่งการสูญสิ้น ‘บาคุนาว่า’ มีพลังในการมอบความสูญสิ้นให้แก่สิ่งใดสิ่งหนึ่ง และชิงสิ่งๆนั้นมาเป็นของตัวเอง เพราะอย่างนั้นมันจึงไม่ได้มีแค่ความสามารถเดียว ในตลอดเวลาหลายพันปีที่เคียวนี้อยู่ในมือของอลิซาเบธ เธอและเรนได้มอบความสูญสิ้นให้แก่หลายๆสิ่งและชิงทุกอย่างมาจากโลกใบนี้

หนึ่งในความสามารถทั้งหมดก็คือ ‘เทเลพอร์ต’ แล้วก็– ‘ตะกละ’ พลังที่สามารถกลืนกินก้อนมานานั้นแล้วเปลี่ยนมาเป็นพลังให้แก่ตัวเองได้

แรงกายของอลิซาเบธเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล พร้อมกับแขนทั้งสองข้างของเกรลที่ถูกตัดทิ้ง อลิซาเบธเหวี่ยงเคียวเข้าใส่เกรล–เกรลตอบกลับโดนการเอียงตัวหลบ และใช้ปากกัดเข้าที่ด้ามจับของเคียวและเหวี่ยงขึ้นฟ้า

อลิซาเบธลอยขึ้นไปบนฟ้านับสิบๆเมตร ร่างของบาคุนาว่าบิดอีกครา ความสามารถ ‘ทำให้อากาศแข็งตัว’ ถูกเปิดใช้งาน อากาศที่แข็งนั้นหยุดไม่ให้อลิซาเบธลอยไปไกลกว่านั้น เธอใช้แทนเหยียบอากาศเป็นที่ถีบตัวเองลงสู่พื้น

พริบตาเดียวกับที่ถูกเกรลเหวี่ยง อลิซาเบธก็พุ่งดิ่งลงสู่พื้นเข้าหาเกรล

เกรลรวบรวมมานา รักษาแขนทั้งสองข้างของตัวเอง และยิงกระสุนหินที่มีอาณุภาพการทำลายสูงเข้าใส่ อลิซาเบธเปลี่ยนร่างของบาคุนาว่า สร้างเป็นโล่ปัดป้องการโจมตีตรงหน้าอย่างง่ายดาย พริบตาเดียว ร่างของบาคุนาว่าก็เปลี่ยนอีกครั้ง

ออร่าสีขาวเข้าปกคลุมร่างของอลิซาเบธ พลังปริศนานั้นช่วยยกระดับพลังกายของเธอขึ้นอย่างทวีคูณ

ความเร็วพุ่งขึ้นสูง พลังกายพุ่งขึ้นสูง ผลลัพธ์ทำให้เกรลปรับตัวไม่ทัน

“พลังนั่นมัน—”

“ฮึย.!!”

เคียวเหวี่ยงเข้าที่หน้าท้องของเกรล และยกร่างของเกรลขึ้นฟ้า ก่อนที่อลิซาเบธจะเหวี่ยงร่างๆนั้นให้ปลิวไปชนกับตึกคัลเซเรม

ตู้ม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ตึกหลายตึกของคัลเซเรมล่วงลงสู่พื้นจากแรงเหวี่ยงที่ทวีคูณขึ้นไม่รู้กี่เท่าตัว ร่างของเกรลปลิวไปไกลจนแทบจะลับสายตา

กระสุนหินหยุดทำงานประหนึ่งโดนถอดปลั๊ก อลิซาเบธทิ้งตัวลงคุกเข่ากับพื้น และหายใจหอบอย่างรุนแรง

“แฮก ..แฮก ..พลังของ ‘ปีศาจสีขาว’ ‘เซบาสเตียน’ ค่อนข้างน่าสะพรึงกลัวเลยนะคะ”

บาคุนาว่าครั้งหนึ่งเคยกลืนกินแขนข้างถนัดของยอดอัศวินแห่งฟัฟนิร์นาม ‘เซบาสเตียน’ และนั่นทำให้เธอได้ทำการช่วงชิงพลังส่วนหนึ่งของคนๆนั้นมา

ปกคลุมตัวเองด้วยออร่าสีขาว ยกระดับร่างกายขึ้นชั่วขณะหนึ่งหลายเท่าตัว โดยแลกกับพลังและอายุขัยในอนาคตของตัวเอง เพื่อที่ช่วงเวลาหนึ่งตนจะได้รับพลังที่เหนือยิ่งกว่าขีดจำกัดมาครอง ….

อลิซาเบธจับหน้าอกของตัวเอง ใช้ดวงตาคู่นั้นหรี่มองฝ่ามือของตัวเอง

“มานาเหลือแค่ครึ่งเดียว ..กลับกัน”

บนท้องฟ้าเกิดปรากฏการณ์ประหลาดขึ้น พื้นดินถูกยกขึ้นสู่ท้องฟ้า ท้องฟ้าแยกออกจากกันเป็นวงรี ก้อนเมฆหมุนเป็นเกลียว และมีแสงสาดส่องลงมาสู่พื้น ณ ฝั่งตรงข้ามกับที่อลิซาเบธนั่งคุกเข่าอยู่ เธอไม่รีรอ ลุกขึ้นยืนพร้อมกับตั้งท่าถือบาคุนาว่าอย่างใจเย็น

สิ้นสุดปรากฏการณ์ สิ่งมีชีวิตตนหนึ่งก็ลอยอยู่บนท้องฟ้าในร่างที่คลุมด้วยอาภรณ์แสนสวยงาม ความงดงามนี้ประหนึ่งทวยเทพในภาพวาดของจิตกรชื่อดัง

มันคือ ‘อาภรณ์เทพมังกร’ ‘อิชิกามิ(เทพหิน)’ การวิวัฒนาการณ์สูงสุดของมหามังกร ร่างที่ทรงพลังที่สุดของเหล่ามหามังกร อลิซาเบธรู้จักมันดี เพราะครั้งหนึ่งเรนเคยทำการทดลองเพื่อที่จะให้เด็กของตัวเองไปสู่จุดๆนั้นให้ได้

เกรลในอาภรณ์เทพมังกรได้ถือขวานหินยักษ์ที่ดูสวยงามเอาไว้ เธอยกมันขึ้นฟ้า และเหวี่ยงใส่อลิซาเบธ

เร็วมาก

รู้ตัวอีกที แขนของอลิซาเบธก็ถูกตัดทิ้ง

อลิซาเบธรีบเคลื่อนตัวออกจากที่แห่งนั้น ทว่าพริบตาเดียวเกรลก็มาโผล่อยู่ข้างหลังแล้ว

“อยู่เฉยๆดีกว่านะ”

ไม่ใช่การเทเลพอร์ตหรือเร็วจนเหมือนเทเลพอร์ต ก็แค่สร้างร่างตัวเองขึ้นมาใหม่ในจุดที่มีพื้นดินอยู่เท่านั้น โดยปกติการทำแบบนี้มันใช้เวลามหาศาล แต่ภายใต้ร่างอาภรณ์เทพมังกรที่กลายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับมานาบนโลกของจริงก็ทำให้สามารถทำเรื่องยากๆเหล่านี้ได้ในวิเดียว

เกรลใช้ความเร็วที่เหนือกว่าอัดอลิซาเบธจนปลิวไปไกลนับสิบเมตร เธอลอยเข้าไปภายในคัลเซเรมท กลิ้งอยู่ในโรงอาหารหลายตลบ และเกรลก็โผล่มาซ้ำเธอพร้อมกับขวานยักษ์บนมือ

“ย๊ากกก!!!!”

อลิซาเบธโบกสะบัดเคียวเข้าปะทะกับขวานยักษ์ แรงปะทะนั่นทำให้ทุกอย่างในโรงอาหารถูกทำลาย

พอจะเข้าใจอยู่ว่าอาภรณ์เทพมังกรคือพลังที่น่ามหัศจรรย์มากๆ เพราะเห็นมานับครั้งไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเมอันหรือว่าสโนว์ก็ล้วนแสดงประสิทธิภาพที่น่าเหลือเชื่อออกมาได้ ภายใต้อาภรณ์เทพมังกร แต่ว่า ..ของจริงยังไงก็สุดยอดกว่าหลายขุมอยู่ดี

กับอาภรณ์เทพมังกรของจริงมันต่างกัน–

แลกเคียวและขวานกันได้แค่ไม่กี่จังหวะ อลิซาเบธก็ถูกฟาดด้วยปลายขวาน เธอปลิวไปชนกับกำแพง และกระอั้กเลือดออกมาอย่างดูไม่ได้ อลิซาเบธไอออกมาเป็นเลือด ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยบาดแผลหลายจุด เลือดไหลออกจากร่างเป็นลิตรๆ

อาภรณ์เทพมังกรของจริงไม่ได้มีเพียงแค่พลัง อย่างที่มหามังกรเทียมมีกัน แต่มันยังมีการฟื้นฟูที่แทบจะไร้ขีดจำกัดอยู่ การต่อกรณ์กับมหามังกรตัวเป็นๆที่ใช้อาภรณ์เทพมังกรได้อย่างไร้ข้อกำหนด มันก็เหมือนกับการเข้าต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตที่มีทั้งพลังกาย และพลังทำลายล้างมากที่สุดบนโลก โดยที่อีกฝ่ายแรงไม่มีวันหมด

มือไม้สั่นไปหมด ร่างกายใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้วหลังจากต้องรับมือกับมหามังกร ….แต่ว่า

อลิซาเบธลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เธอตั้งท่าเตรียมรับแรงกระแทกโดยไร้ซึ่งความหวั่นเกรง

“ทำไมต้องพยายามขนาดนี้ด้วยเหรอ?”

“….”

“คิดว่าทุกคนล้วนหวาดกลัวความเจ็บปวด ไม่มีใครที่อยากจะเจ็บตัว ฉันรู้เรื่องนี้ก็ตอนที่ถูกยูนาฆ่ามานับครั้งไม่ถ้วน ..เลยสงสัยว่าอะไรที่ทำให้มนุษย์ไม่หวาดกลัวความเจ็บปวดนั้นเหรอ?”

“..มีคนที่อยากช่วยอยู่ค่ะ”

“อาชญากรอย่างเธอมีคนที่อยากช่วยนอกเหนือจากเรนด้วยเหรอ?”

เป็นคำถามที่จี้ใจดำไม่ใช่น้อย แต่ก็นั่นสินะ

แค่ช่วงเวลาสั้นๆ เวลาเพียงไม่กี่วัน อลิซาเบธที่สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างได้ถูกช่วยเอาไว้ แม้จะเล็กน้อย แต่เธอไม่ได้ถูกใครทอดทิ้งเหมือนกับเมื่อร้อยปีก่อนที่เธอถูกทิ้งไว้ให้อยู่คนเดียวในห้วงลึกของดันเจี้ยน เธอหวาดกลัวว่าหลังจากที่เรนตายไป เธอจะต้องกลับไปอยู่ในจุดๆเดิม คนบาปที่ไร้ข้อแก้ตัวอย่างเธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธนรกขุมนั้น …แต่ว่าก็มีคนที่ยอมเป็นที่พึ่งให้เธอ และไม่ยอมให้เธอไปอยู่ในจุดๆเดิมอยู่ รู้ทั้งรู้ว่าเธอทำเรื่องเลวร้ายมามากแค่ไหน

ตัวตนของคนๆนั้นในเวลานี้ อาจจะขึ้นมาแทนที่ ‘เรน’ ได้เลยก็ไม่ผิดไป …

“ฉันแค่อยากจะช่วยคนที่ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนมีที่พึ่งเท่านั้นค่ะ มันอธิบายยาก แต่ว่า–ความตายมันน่ากลัวน้อยกว่าการไม่มีที่พึ่งค่ะ”

เกรลได้ยินก็ยิ้มออกมา

“มนุษย์นี่เข้าใจยากจังเลยนะ ไว้จบเรื่องแล้วไปถามลีออนเพิ่มดีกว่า”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด