แม่ครัวยอดเซียน 268 ออกจะไร้ยางอายไปหน่อย

Now you are reading แม่ครัวยอดเซียน Chapter 268 ออกจะไร้ยางอายไปหน่อย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ข้าสอนหนังสือสังฆราชจริงๆ” เยี่ยชิงขวงหัวเราะเยาะตัวเองแล้วพูดขึ้น อีกทั้งยังดูเหมือนว่านังหนูคนนี้ยังมีท่าไม้ตายที่ยังไม่ได้ใช้ น่าจะเป็นเพลิงเซียนที่สุดยอดมากกว่านี้ แต่ทำไมเขาถึงได้รู้สึกว่านังหนูคนนี้มีความคิดจะทำลายตนเอง เขารู้สึกว่าตนเองคิดมากไป

“เจ้ารู้ก็ดีแล้ว” หลิวหลีไม่มีความเกรงใจเลยแม้แต่น้อย มองดูเพลิงเซียนที่ถูกขังไว้ในกรงเพลิงเซียน เพลิงสุวรรณพรางอยากจะพุ่งออกมาจากภายในร่างกายของนาง น่าเสียดายที่นางเป็นคนมีคุณธรรม สิ่งนี้เป็นของเยี่ยชิงขวงไปแล้ว นางจะไปช่วงชิงของรักของคนอื่นมาได้อย่างไร

“ดูท่าหลิวหลีจากวังนภาเพลิงจะชนะแล้ว ยินดีกับวังนภาเพลิงด้วย สถานที่ในการจัดงานรอบหน้าเจ้าจะได้เป็นคนเลือก ระยะเวลาที่จะจัดการแข่งขันในรอบต่อไปก็ให้เจ้าตัดสินใจ พวกข้าจะให้ความร่วมมือกับเจ้าอย่างแน่นอน” จักรพรรดินีนภาพฤกษาทรงรับปาก

“ข้าจะปฏิบัติตามนั้นแล้วกัน” จักรพรรดินภาเพลิงนึกไม่ถึงว่าหลิวหลีจะสุดยอดขนาดนี้ เขารู้ว่าหลิวหลีไม่ธรรมดา แต่อันดับ 1 ก็ถือว่าเหนือความคาดหมาย อีกทั้งเคล็ดวิชาที่นังหนูฝึกฝนก็มีความพิเศษ ถึงแม้เขาจะไม่เคยเห็นเคล็ดวิชานี้มาก่อน แต่ฟังแล้วก็พอรู้ว่าน่าจะต้องเผชิญความยากลำบากไม่น้อยทีเดียว เป็นนังหนูที่โหดเหี้ยมกับตนเองเหลือเกิน

“จักรพรรดินีนภาพฤกษา ประกาศผลเถอะ” จักรพรรดินภาสุวรรณไม่รู้จะทำอย่างไร เขานึกว่าตัวเองได้ซ่อนม้ามืดที่แข็งแกร่งที่สุดไว้แล้ว แต่ไม่ได้รู้เลยว่าคนอื่นได้ซ่อนราชาเอาไว้ แถมเป็นราชาที่โหดเหี้ยมเสียด้วย

“ได้ เอาล่ะ ครั้งนี้หลิวหลีแห่งวังนภาเพลิงเป็นผู้ชนะ” เสียงของจักรพรรดินีนภาพฤกษาลอยเข้าหูของทุกคน

“นังหนูชนะแล้ว คนที่จะสามารถเอาชนะนังหนูได้ จะต้องเป็นคนสมบูรณ์ในทุกด้าน” เอ๋าเลี่ยพูดขึ้นอย่างหมดหนทาง ความสามารถ วาสนา จะขาดอะไรไปไม่ได้

“เจ้าตำหนักหลิวหลีชนะแล้ว วังนภาเพลิงจะได้จัดการการประลองในครั้งต่อไป ดีจริงๆ” อวิ๋นเฟยตื่นเต้นน้อยๆ เจ้าตำหนักของพวกเขาไม่ธรรมดาเลย คิดไม่ถึงว่าจะได้อันดับ 1 ที่ทุกคนต่อสู้มานานก็ยังไม่ได้มาครองได้อย่างง่ายดาย

“หลิวหลีแห่งวังนภาเพลิงเก่งสมคำร่ำลือจริงๆ” หลายคนพูดขึ้นด้วยความชื่นชม

แต่หนานกงเวิ่นเทียนสัมผัสได้มากกว่านั้น ดูเหมือนนังหนูจะครองอันดับ 1 มาตลอด ไม่เคยเห็นนางสูญเสียตำแหน่งอันดับ 1 มาก่อนเลย

เพลิงสุวรรณพรางภายในร่างกายของหลิวหลีออกมาจากร่างกายของนางทันที มุดเข้าไปในกรงเพลิงเซียน กลืนกินเพลิงเซียนที่อยู่ด้านใน เยี่ยชิงขวงหน้าเปลี่ยนสีทันที กระอักเลือดออกมา หลิวหลีมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก ตนเองทำเรื่องที่ไม่สมควรจริงๆ

หลิวหลีรีบเก็บกรงแล้วยัดยาเซียนศักดิ์สิทธิ์ให้เยี่ยชิงขวงทันที จากนั้นจึงส่งพลังเพลิงเซียนธาตุไม้ที่บริสุทธิ์ของตัวเองเข้าไปในร่างกายเยี่ยชิงขวง

“เรื่องนั้น ข้าไม่ได้ตั้งใจ ตั้งแต่บรรลุเป็นเซียน เพลิงอัคคีในร่างกายของข้าก็ไม่เชื่อฟังอีกต่อไป” หลิวหลีเองก็ไม่พอใจ ทำไมเพลิงอัคคีในร่างกายของนางกลายเป็นหมาป่าที่หิวโหย ปล้นของคนอื่นแบบนี้ นางเป็นคนที่มีชื่อเสียง นางบอกว่านางไม่ได้ตั้งใจ จะมีคนเชื่อหรือ หลิวหลีกระพริบตาอย่างใสซื่อ

“เกิดอะไรขึ้นกับเยี่ยชิงขวง จู่ๆก็ดูไม่ค่อยสู้ดีนัก”

“มักรู้สึกเหมือนจะมีเรื่องคาดไม่ถึงเกิดขึ้น”

“ดูแล้วพลังในการควบคุมของนังหนูไม่แข็งแกร่งเท่าไหร่นัก” จักรพรรดินภาสุวรรณจะดูไม่ออกได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้น

แต่เป็นการพูดแทงใจดำนาง ถึงขนาดฉีกหน้านางต่อหน้าทุกคน ทำให้นางโมโหอย่างยิ่ง เพลิงเซียนในร่างกายทะลักหลั่งไหล กักเพลิงสุวรรณพรางที่กำลังอิ่มเอมกับอาหารรสเลิศ

แล้วจึงนำเพลิงเซียนที่อ่อนแอมาถือไว้ในมือ เอ่อ วิญญาณเซียนอ่อนแอมากแล้ว มิน่าเยี่ยชิงขวงถึงดูไม่ค่อยดีนัก บาปกรรม หลิวหลีนำพลังเซียนของตัวเองใส่เข้าไปในเพลิงเซียน พลังเซียนของนางเป็นของบำรุงของเพลิงเซียนทุกชนิด ย่อมต้องได้ผล เมื่อเพลิงเซียนแข็งแกร่งขึ้น เยี่ยชิงขวงก็อาการดีขึ้นมาก

“นังหนูช่างมีหลักการเหลือเกิน” จักรพรรดินีนภาพฤกษาชื่นชม ทำไมพวกเขาจะดูไม่ออกว่าหลิวหลีควบคุมเพลิงเซียนพวกนั้นไม่ได้ นังหนูยังมีเพลิงอีกหลายชนิดที่จำเป็นจะต้องบรรลุขั้นเป็นเพลิงเซียน อีกอย่างเพลิงเซียนพวกนี้ก็สามารถเลือกดูดซึมแต่สิ่งที่ตัวเองต้องการ ดูท่าแล้วเพลิงที่จะบรรลุขั้นในครั้งนี้ของนังหนูน่าจะเกี่ยวข้องกับธาตุทอง อัคคีผสมนั้นเป็นอย่างไรกันแน่ แกนวิญญาณอัคคีผสมหรือ อยากจะเห็นเหลือเกินว่าหลังจากที่เพลิงอัคคีทั้งหมดที่นังหนูมีบรรลุขั้นแล้ว แล้วนางจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตอย่างไร

“ช่างเป็นเด็กที่แน่วแน่กับความตั้งใจเดิมของตนเอง” จักรพรรดินภาพสุธาชื่นชม เด็กแบบนี้มีน้อย ทำให้คนอดชื่นชอบไม่ได้

เมื่อเยี่ยชิงขวงฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในที่พักชั่วคราวของวังนภาสุวรรณ สัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของเพลิงเซียนในร่างกายของตัวเอง ไม่ได้ถูกขโมยไปหรือ เป็นไปได้อย่างไร ทั้งๆที่ตอนแรกตัวเองเกือบจะไม่รู้สึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับเพลิงเซียนแล้ว ทำไมอยู่ดีๆจึงกลับมามีสายสัมพันธ์เช่นเดิม

“ฟื้นแล้วหรือ”

“จักรพรรดิ” เยี่ยชิงขวงเพิ่งสังเกตเห็นว่าจักรพรรดินภาสุวรรณอยู่ข้างๆเขา

“ข้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร” ความทรงจำของเยี่ยชิงขวงยังอยู่ที่ลานประลอง

“การประลองสิ้นสุดลงแล้ว ย่อมต้องกลับจากที่นั่นสิ เจ้าถูกแบกกลับมา ถึงแม้นังหนูคนนั้นจะไม่มีเจตนา แต่ก็ทำร้ายเจ้า ดีที่นางไหวตัวทัน ช่วยเจ้าเอาไว้ได้ ไม่เช่นนั้นแล้วเจ้าคงไม่รอดแน่” การแย่งชิงเอาของที่มีเจ้าของแล้ว จะทำให้พลังบำเพ็ญเพียรของคนผู้นั้นถดถอยลง รากฐานเสียหาย แล้วจะทำให้การฝึกบำเพ็ญในอนาคตยากลำบากกว่าคนทั่วไป ดีที่นังหนูตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว รากฐานของเยี่ยชิงหวงยังไม่ได้รับความเสียหาย ร่างกายก็ไม่ได้รับการกระทบกระเทือนใดๆ

“เป็นเช่นนี้เองงั้นหรือ” เยี่ยชิงขวงพูดออกมาเบาๆ

“เจ้าพักผ่อนเถอะ รอเจ้าหายดีแล้วเราค่อยออกเดินทาง” พอจักรพรรดินภาสุวรรณทรงพูดจบก็เดินไป

“หึ หลงหลิวหลี นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเจ้า แล้วก็หนานกงเวิ่นเทียน หลงหลิวหลี หากรู้ว่าความพลาดพลั้งของเจ้าปลุกความทรงจำในอดีตของข้า เจ้าจะคิดอย่างไร นึกไม่ถึงเลยว่าพิษที่ร้ายแรงขนาดนั้นเจ้ายังแก้ได้ แถมยังบรรลุเป็นเซียนได้อย่างราบรื่น” หลังจากที่จักรพรรดิทรงจากไป ท่าทีเยี่ยชิงขวงก็เปลี่ยนไปราวเป็นคนละคนทันที ใช่แล้ว ความทรงจำของเยี่ยชิงขวงในช่วงที่เป็นเยี่ยซิงหวงกลับมา เข้าใจแล้วว่าทำไมพวกหลิวหลีถึงรังเกียจตัวเอง นึกไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าพวกเขาจะมีอดีตร่วมกัน แต่หลงหลิวหลี ข้าอยากจะลองเดิมพันกับเจ้าดูสักตั้ง เดิมพันว่าครั้งนี้เขาจะเป็นฝ่ายชนะ

หลิวหลีย่อมไม่รู้ว่าตัวเองได้ทำเรื่องที่โง่เขลาขนาดไหนลงไป หลังจากเสร็จสิ้นการประลอง หลิวหลีก็อยู่ในสภาพที่ไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก ทำให้คนที่อยากจะมาแสดงความยินดีกับนางต่างพูดไม่ออก น่ากลัวเหลือเกิน หลิวหลีที่สดใสอยู่เสมอของพวกเขาไปไหนแล้ว นี่จะต้องเป็นตัวปลอมอย่างแน่นอน หลิวหลีของพวกเขาหายไปไหนแล้ว

หลังจากกลับไปนางก็เข้าฌาณ ทำให้ทุกคนไม่ไปรบกวน

“ไท่จี๋ ทำไมเจ้าถึงไม่ดึงเพลิงสุวรรณพรางไว้ อย่าบอกข้าว่าเจ้าดึงไว้ไม่อยู่ เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อหรือ” หลิวหลีปล่อยเพลิงเซียนหยินหยางออกมาด้วยใบหน้าหงุดหงิด

“เพลิงสุวรรณพรางต้องการเพลิงเซียนนั่น” ไท่จี๋พูดอธิบาย ในความทรงจำของเขา พวกเขาต้องการเพลิงเซียนอะไร หลิวหลีก็จะไม่ลังเล ทำไมครั้งนี้ถึงได้ดุขนาดนี้ ใช่แล้ว ดุมากเหลือเกิน

“ต้องการแล้วอย่างไร นั่นเป็นของที่มีเจ้าของ เจ้าขโมยของคนอื่นมาอาจจะทำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิตได้ เจ้าไม่รู้หรือ” หลิวหลีระเบิดประโยคสุดท้ายออกมา

“เขาไม่ใช่คนดีอะไร” ไท่จี๋บ่นอุบอิบ

“ไท่จี๋ ยังทำใจกับเรื่องในอดีตไม่ได้งั้นหรือ” หลิวหลีถอนหายใจ รู้แล้วว่าต้องเป็นอย่างนี้ เยี่ยชิงขวง เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้ามีใบหน้าที่ทำให้คนรังเกียจมากขนาดไหนคิดไม่ถึงว่าไท่จี๋จะยังจำได้

“เปล่า” ไท่จี๋เริ่มเหม่อลอย

“ไท่จี๋ นั่นไม่ใช่เยี่ยซิงหวง เจ้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ ถึงแม้จะหน้าตาเหมือนกัน พวกเรายังไม่รู้ว่าพวกเขามีความสัมพันธ์อะไรกัน แต่ว่าหากพวกเราทำผิด มันก็เป็นความผิดของพวกเรา” หลิวหลีถอนหายใจแล้วพูดขึ้น

 ………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

แม่ครัวยอดเซียน 268 ออกจะไร้ยางอายไปหน่อย

Now you are reading แม่ครัวยอดเซียน Chapter 268 ออกจะไร้ยางอายไปหน่อย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ข้าสอนหนังสือสังฆราชจริงๆ” เยี่ยชิงขวงหัวเราะเยาะตัวเองแล้วพูดขึ้น อีกทั้งยังดูเหมือนว่านังหนูคนนี้ยังมีท่าไม้ตายที่ยังไม่ได้ใช้ น่าจะเป็นเพลิงเซียนที่สุดยอดมากกว่านี้ แต่ทำไมเขาถึงได้รู้สึกว่านังหนูคนนี้มีความคิดจะทำลายตนเอง เขารู้สึกว่าตนเองคิดมากไป

“เจ้ารู้ก็ดีแล้ว” หลิวหลีไม่มีความเกรงใจเลยแม้แต่น้อย มองดูเพลิงเซียนที่ถูกขังไว้ในกรงเพลิงเซียน เพลิงสุวรรณพรางอยากจะพุ่งออกมาจากภายในร่างกายของนาง น่าเสียดายที่นางเป็นคนมีคุณธรรม สิ่งนี้เป็นของเยี่ยชิงขวงไปแล้ว นางจะไปช่วงชิงของรักของคนอื่นมาได้อย่างไร

“ดูท่าหลิวหลีจากวังนภาเพลิงจะชนะแล้ว ยินดีกับวังนภาเพลิงด้วย สถานที่ในการจัดงานรอบหน้าเจ้าจะได้เป็นคนเลือก ระยะเวลาที่จะจัดการแข่งขันในรอบต่อไปก็ให้เจ้าตัดสินใจ พวกข้าจะให้ความร่วมมือกับเจ้าอย่างแน่นอน” จักรพรรดินีนภาพฤกษาทรงรับปาก

“ข้าจะปฏิบัติตามนั้นแล้วกัน” จักรพรรดินภาเพลิงนึกไม่ถึงว่าหลิวหลีจะสุดยอดขนาดนี้ เขารู้ว่าหลิวหลีไม่ธรรมดา แต่อันดับ 1 ก็ถือว่าเหนือความคาดหมาย อีกทั้งเคล็ดวิชาที่นังหนูฝึกฝนก็มีความพิเศษ ถึงแม้เขาจะไม่เคยเห็นเคล็ดวิชานี้มาก่อน แต่ฟังแล้วก็พอรู้ว่าน่าจะต้องเผชิญความยากลำบากไม่น้อยทีเดียว เป็นนังหนูที่โหดเหี้ยมกับตนเองเหลือเกิน

“จักรพรรดินีนภาพฤกษา ประกาศผลเถอะ” จักรพรรดินภาสุวรรณไม่รู้จะทำอย่างไร เขานึกว่าตัวเองได้ซ่อนม้ามืดที่แข็งแกร่งที่สุดไว้แล้ว แต่ไม่ได้รู้เลยว่าคนอื่นได้ซ่อนราชาเอาไว้ แถมเป็นราชาที่โหดเหี้ยมเสียด้วย

“ได้ เอาล่ะ ครั้งนี้หลิวหลีแห่งวังนภาเพลิงเป็นผู้ชนะ” เสียงของจักรพรรดินีนภาพฤกษาลอยเข้าหูของทุกคน

“นังหนูชนะแล้ว คนที่จะสามารถเอาชนะนังหนูได้ จะต้องเป็นคนสมบูรณ์ในทุกด้าน” เอ๋าเลี่ยพูดขึ้นอย่างหมดหนทาง ความสามารถ วาสนา จะขาดอะไรไปไม่ได้

“เจ้าตำหนักหลิวหลีชนะแล้ว วังนภาเพลิงจะได้จัดการการประลองในครั้งต่อไป ดีจริงๆ” อวิ๋นเฟยตื่นเต้นน้อยๆ เจ้าตำหนักของพวกเขาไม่ธรรมดาเลย คิดไม่ถึงว่าจะได้อันดับ 1 ที่ทุกคนต่อสู้มานานก็ยังไม่ได้มาครองได้อย่างง่ายดาย

“หลิวหลีแห่งวังนภาเพลิงเก่งสมคำร่ำลือจริงๆ” หลายคนพูดขึ้นด้วยความชื่นชม

แต่หนานกงเวิ่นเทียนสัมผัสได้มากกว่านั้น ดูเหมือนนังหนูจะครองอันดับ 1 มาตลอด ไม่เคยเห็นนางสูญเสียตำแหน่งอันดับ 1 มาก่อนเลย

เพลิงสุวรรณพรางภายในร่างกายของหลิวหลีออกมาจากร่างกายของนางทันที มุดเข้าไปในกรงเพลิงเซียน กลืนกินเพลิงเซียนที่อยู่ด้านใน เยี่ยชิงขวงหน้าเปลี่ยนสีทันที กระอักเลือดออกมา หลิวหลีมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก ตนเองทำเรื่องที่ไม่สมควรจริงๆ

หลิวหลีรีบเก็บกรงแล้วยัดยาเซียนศักดิ์สิทธิ์ให้เยี่ยชิงขวงทันที จากนั้นจึงส่งพลังเพลิงเซียนธาตุไม้ที่บริสุทธิ์ของตัวเองเข้าไปในร่างกายเยี่ยชิงขวง

“เรื่องนั้น ข้าไม่ได้ตั้งใจ ตั้งแต่บรรลุเป็นเซียน เพลิงอัคคีในร่างกายของข้าก็ไม่เชื่อฟังอีกต่อไป” หลิวหลีเองก็ไม่พอใจ ทำไมเพลิงอัคคีในร่างกายของนางกลายเป็นหมาป่าที่หิวโหย ปล้นของคนอื่นแบบนี้ นางเป็นคนที่มีชื่อเสียง นางบอกว่านางไม่ได้ตั้งใจ จะมีคนเชื่อหรือ หลิวหลีกระพริบตาอย่างใสซื่อ

“เกิดอะไรขึ้นกับเยี่ยชิงขวง จู่ๆก็ดูไม่ค่อยสู้ดีนัก”

“มักรู้สึกเหมือนจะมีเรื่องคาดไม่ถึงเกิดขึ้น”

“ดูแล้วพลังในการควบคุมของนังหนูไม่แข็งแกร่งเท่าไหร่นัก” จักรพรรดินภาสุวรรณจะดูไม่ออกได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้น

แต่เป็นการพูดแทงใจดำนาง ถึงขนาดฉีกหน้านางต่อหน้าทุกคน ทำให้นางโมโหอย่างยิ่ง เพลิงเซียนในร่างกายทะลักหลั่งไหล กักเพลิงสุวรรณพรางที่กำลังอิ่มเอมกับอาหารรสเลิศ

แล้วจึงนำเพลิงเซียนที่อ่อนแอมาถือไว้ในมือ เอ่อ วิญญาณเซียนอ่อนแอมากแล้ว มิน่าเยี่ยชิงขวงถึงดูไม่ค่อยดีนัก บาปกรรม หลิวหลีนำพลังเซียนของตัวเองใส่เข้าไปในเพลิงเซียน พลังเซียนของนางเป็นของบำรุงของเพลิงเซียนทุกชนิด ย่อมต้องได้ผล เมื่อเพลิงเซียนแข็งแกร่งขึ้น เยี่ยชิงขวงก็อาการดีขึ้นมาก

“นังหนูช่างมีหลักการเหลือเกิน” จักรพรรดินีนภาพฤกษาชื่นชม ทำไมพวกเขาจะดูไม่ออกว่าหลิวหลีควบคุมเพลิงเซียนพวกนั้นไม่ได้ นังหนูยังมีเพลิงอีกหลายชนิดที่จำเป็นจะต้องบรรลุขั้นเป็นเพลิงเซียน อีกอย่างเพลิงเซียนพวกนี้ก็สามารถเลือกดูดซึมแต่สิ่งที่ตัวเองต้องการ ดูท่าแล้วเพลิงที่จะบรรลุขั้นในครั้งนี้ของนังหนูน่าจะเกี่ยวข้องกับธาตุทอง อัคคีผสมนั้นเป็นอย่างไรกันแน่ แกนวิญญาณอัคคีผสมหรือ อยากจะเห็นเหลือเกินว่าหลังจากที่เพลิงอัคคีทั้งหมดที่นังหนูมีบรรลุขั้นแล้ว แล้วนางจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตอย่างไร

“ช่างเป็นเด็กที่แน่วแน่กับความตั้งใจเดิมของตนเอง” จักรพรรดินภาพสุธาชื่นชม เด็กแบบนี้มีน้อย ทำให้คนอดชื่นชอบไม่ได้

เมื่อเยี่ยชิงขวงฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในที่พักชั่วคราวของวังนภาสุวรรณ สัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของเพลิงเซียนในร่างกายของตัวเอง ไม่ได้ถูกขโมยไปหรือ เป็นไปได้อย่างไร ทั้งๆที่ตอนแรกตัวเองเกือบจะไม่รู้สึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับเพลิงเซียนแล้ว ทำไมอยู่ดีๆจึงกลับมามีสายสัมพันธ์เช่นเดิม

“ฟื้นแล้วหรือ”

“จักรพรรดิ” เยี่ยชิงขวงเพิ่งสังเกตเห็นว่าจักรพรรดินภาสุวรรณอยู่ข้างๆเขา

“ข้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร” ความทรงจำของเยี่ยชิงขวงยังอยู่ที่ลานประลอง

“การประลองสิ้นสุดลงแล้ว ย่อมต้องกลับจากที่นั่นสิ เจ้าถูกแบกกลับมา ถึงแม้นังหนูคนนั้นจะไม่มีเจตนา แต่ก็ทำร้ายเจ้า ดีที่นางไหวตัวทัน ช่วยเจ้าเอาไว้ได้ ไม่เช่นนั้นแล้วเจ้าคงไม่รอดแน่” การแย่งชิงเอาของที่มีเจ้าของแล้ว จะทำให้พลังบำเพ็ญเพียรของคนผู้นั้นถดถอยลง รากฐานเสียหาย แล้วจะทำให้การฝึกบำเพ็ญในอนาคตยากลำบากกว่าคนทั่วไป ดีที่นังหนูตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว รากฐานของเยี่ยชิงหวงยังไม่ได้รับความเสียหาย ร่างกายก็ไม่ได้รับการกระทบกระเทือนใดๆ

“เป็นเช่นนี้เองงั้นหรือ” เยี่ยชิงขวงพูดออกมาเบาๆ

“เจ้าพักผ่อนเถอะ รอเจ้าหายดีแล้วเราค่อยออกเดินทาง” พอจักรพรรดินภาสุวรรณทรงพูดจบก็เดินไป

“หึ หลงหลิวหลี นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเจ้า แล้วก็หนานกงเวิ่นเทียน หลงหลิวหลี หากรู้ว่าความพลาดพลั้งของเจ้าปลุกความทรงจำในอดีตของข้า เจ้าจะคิดอย่างไร นึกไม่ถึงเลยว่าพิษที่ร้ายแรงขนาดนั้นเจ้ายังแก้ได้ แถมยังบรรลุเป็นเซียนได้อย่างราบรื่น” หลังจากที่จักรพรรดิทรงจากไป ท่าทีเยี่ยชิงขวงก็เปลี่ยนไปราวเป็นคนละคนทันที ใช่แล้ว ความทรงจำของเยี่ยชิงขวงในช่วงที่เป็นเยี่ยซิงหวงกลับมา เข้าใจแล้วว่าทำไมพวกหลิวหลีถึงรังเกียจตัวเอง นึกไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าพวกเขาจะมีอดีตร่วมกัน แต่หลงหลิวหลี ข้าอยากจะลองเดิมพันกับเจ้าดูสักตั้ง เดิมพันว่าครั้งนี้เขาจะเป็นฝ่ายชนะ

หลิวหลีย่อมไม่รู้ว่าตัวเองได้ทำเรื่องที่โง่เขลาขนาดไหนลงไป หลังจากเสร็จสิ้นการประลอง หลิวหลีก็อยู่ในสภาพที่ไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก ทำให้คนที่อยากจะมาแสดงความยินดีกับนางต่างพูดไม่ออก น่ากลัวเหลือเกิน หลิวหลีที่สดใสอยู่เสมอของพวกเขาไปไหนแล้ว นี่จะต้องเป็นตัวปลอมอย่างแน่นอน หลิวหลีของพวกเขาหายไปไหนแล้ว

หลังจากกลับไปนางก็เข้าฌาณ ทำให้ทุกคนไม่ไปรบกวน

“ไท่จี๋ ทำไมเจ้าถึงไม่ดึงเพลิงสุวรรณพรางไว้ อย่าบอกข้าว่าเจ้าดึงไว้ไม่อยู่ เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อหรือ” หลิวหลีปล่อยเพลิงเซียนหยินหยางออกมาด้วยใบหน้าหงุดหงิด

“เพลิงสุวรรณพรางต้องการเพลิงเซียนนั่น” ไท่จี๋พูดอธิบาย ในความทรงจำของเขา พวกเขาต้องการเพลิงเซียนอะไร หลิวหลีก็จะไม่ลังเล ทำไมครั้งนี้ถึงได้ดุขนาดนี้ ใช่แล้ว ดุมากเหลือเกิน

“ต้องการแล้วอย่างไร นั่นเป็นของที่มีเจ้าของ เจ้าขโมยของคนอื่นมาอาจจะทำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิตได้ เจ้าไม่รู้หรือ” หลิวหลีระเบิดประโยคสุดท้ายออกมา

“เขาไม่ใช่คนดีอะไร” ไท่จี๋บ่นอุบอิบ

“ไท่จี๋ ยังทำใจกับเรื่องในอดีตไม่ได้งั้นหรือ” หลิวหลีถอนหายใจ รู้แล้วว่าต้องเป็นอย่างนี้ เยี่ยชิงขวง เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้ามีใบหน้าที่ทำให้คนรังเกียจมากขนาดไหนคิดไม่ถึงว่าไท่จี๋จะยังจำได้

“เปล่า” ไท่จี๋เริ่มเหม่อลอย

“ไท่จี๋ นั่นไม่ใช่เยี่ยซิงหวง เจ้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ ถึงแม้จะหน้าตาเหมือนกัน พวกเรายังไม่รู้ว่าพวกเขามีความสัมพันธ์อะไรกัน แต่ว่าหากพวกเราทำผิด มันก็เป็นความผิดของพวกเรา” หลิวหลีถอนหายใจแล้วพูดขึ้น

 ………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+