บทที่ 179 เฉินโม่เริ่มบรรยาย

ทันทีที่พนักงานพูดจบ ทุกคนในห้องบรรยายก็เริ่มเดือด

“อะไรนะ ชิวปินไม่มาเหรอ”

“ทำไมถึงไม่มาล่ะ”

“ได้ยินมาว่ามันเป็นเหตุผลส่วนตัว”

“ให้ตายเถอะ ฉันอยากฟังบรรยายนี้ ทำไมเขาถึงไม่มา”

“พนักงานที่นี่ก็ตลกนะ ทราบเรื่องนี้มาก่อนแล้วแต่เพิ่งมาแจ้งเอาตอนนี้เนี่ยนะ”

“ช่างเถอะ เห็นว่าห้องข้างๆ บรรยายเรื่องเกม VR พวกเราไปฟังกันเถอะ”

“เฮ้อ พอเห็นว่าปีนี้เกมการ์ดมือถือทำกำไรได้มากมายแค่ไหนฉันเลยอยากเรียนรู้วิธีสร้างเกมการ์ดมือถือ น่าเสียดาย”

หลายคนลุกขึ้นเตรียมจะจากไป

ในตอนนั้นเองชิวเจียงเดินไปที่เวทีและคว้าไมโครโฟน “ชิวปินไม่มา แต่เฉินโม่อยู่ที่นี่แล้ว พวกนายลองโน้มน้าวให้เขาบรรยายให้ฟังดูสิ เขาน่าจะพูดได้ดีว่าชิวปินนะ ว่าไหม”

หลายคนต้องการจากไปในตอนแรก แต่หลังจากได้ยินคำพูดของชิวเจียงก็เปลี่ยนใจไม่ไปไหน

“เฉินโม่เหรอ เฉินโม่ที่ออกแบบเกม ‘Onmyoji’”

“ให้ตายเถอะ ‘Onmyoji’ ของเฉินโม่โค่นล้ม ‘Demon Slayer 2’ ของชิวปินจนจมดินเลย ถ้าเขามาบรรยายต้องดีกว่าชิวปินแน่!”

“ใช่แล้ว ‘My name is MT’ เฉินโม่ก็เป็นคนสร้าง พูดถึงเกมการ์ดบนมือถือ เขานั่นแหละคือผู้ริเริ่ม”

“เฉินโม่อยู่ที่ไหน คนไหนคือเฉินโม่”

“ฉันไม่ไป เฉินโม่อยู่ที่ไหน เฉินโม่ช่วยออกมาบรรยายหน่อย!”

ชิวเจียงเดินลงจากแท่นบรรยายอย่างอารมณ์ดี จากนั้นดึงเฉินโม่ให้ลุกออกจากที่นั่ง “ไปเถอะ”

เฉินโม่พูดไม่ออก ให้ไปไหน เขามาเพื่อฟังการบรรยายไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงเอาเขาไปขายในพริบตาได้ละ

แค่ล้อเล่นเรื่องอายุของเธอถึงกับแค้นเคืองกันขนาดนี้เลยเหรอ

แต่เมื่อเฉินโม่ยืนขึ้น ผู้ชมด้านล่างก็ตื่นเต้นทันที ทุกคนกระตือรือร้นและปรบมืออย่างดุเดือด

“นี่เฉินโม่จริงๆ เหรอ ให้ตายเถอะ ปรบมือ!”

“ฉันอยากฟัง ให้เขาขึ้นไปพูดสิ!”

เฉินโม่พูดไม่ออกเล็กน้อย เดิมทีเขาไม่ได้คิดจะขึ้นบรรยาย แต่ผู้ชมก็กระตือรือร้นมาก หากเขาขึ้นไปพูดว่า ‘ขอโทษนะ ผมบรรยายไม่ได้’ คงไม่มีประโยชน์

นอกจากนี้ถ้าจะให้ขึ้นไปบรรยายเขาก็ไม่ได้อะไรนักหรอก คนอื่นๆ กลัวที่จะถูกลอกเลียนแบบ แต่เฉินโม่ไม่กลัว

เฉินโม่ขึ้นไปบนเวทีโดยไม่เต็มใจและพูดว่า “เอาละ ในเมื่อพวกคุณอยากฟัง ถ้างั้นผมจะบรรยายให้”

มีเสียงปรบมือดังขึ้นอีกครั้ง

ผู้ชมต่างพูดคุยกัน

“นี่คือเฉินโม่เหรอ เขายังดูเด็กมากอยู่เลย”

“ดูเหมือนว่าเขาจะอายุเพียงยี่สิบสี่ยี่สิบห้าปีเอง เรียนจบมหาลัยก็เข้าสู่วงการนี้ทันที นี่เข้าเพิ่งเข้าวงการเกมมาได้สองปีเองนะ”

“วัยนี้ก็เป็นนักออกแบบเกมระดับ A แล้ว หาที่เปรียบไม่ได้จริงๆ!”

“และเกมของเขาทำเงินได้มากกว่าสองร้อยล้านหยวนต่อเดือน!”

“มากกว่าสองล้านเหรอ นั่นเป็นข้อมูลของเดือนที่แล้วและคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในเดือนนี้ กระแสของ ‘Onmyoji’ ในตอนนี้ มันอาจจะครองอันดับต่อไปในอีกสามถึงห้าเดือนเลย”

“พระเจ้า นี่มันอัจฉริยะชัดๆ”

“ขอบคุณพระเจ้าที่ฉันมาวันนี้ ฉันจะตั้งใจฟังเลย”

ทุกคนที่วางแผนจะออกไปก็นั่งรอฟังการบรรยายของเฉินโม่

การบรรยายนี้ถูกจัดเตรียมไว้นานแล้วเนื่องจากประสิทธิภาพของเกมการ์ดบนมือถือในปีนี้ดีมาก ดังนั้นคณะกรรมการเกมจึงพิจารณาจัดการบรรยายเกี่ยวกับเกมการ์ดบนมือถือและเลือกให้ชิวปินเป็นคนบรรยายหัวข้อนี้

อย่างไร ‘Demon Slayer’ ก็ได้ครองตำแหน่งสูงสุดในรายการเกมมือถือที่ขายดีที่สุดมาอย่างยาวนานในปีนี้ ในแง่ของจำนวนผู้เล่น ความนิยม และรายได้ ชิวปินถือว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะจัดการบรรยายนี้

แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าเฉินโม่ที่ทำเกมฝั่งคอมพิวเตอร์มาตลอดจู่ๆ ก็กลับมาทำเกมมือถืออีกครั้ง และเกม ‘Onmyoji’ ก็ได้เอาชนะเกมการ์ดมือถืออื่นๆ อีกทั้งยังกวาดตำแหน่งเกมมือถือขายดีทั้งหมดมาได้

อย่างไรก็ตาม เนื้อหาของการบรรยายสำหรับพิธีมอบรางวัลนี้ได้ถูกจัดเตรียมไว้แล้ว และชิวปินก็ได้ส่งร่างสำหรับการบรรยายมาแล้วด้วย อีกอย่างเฉินโม่ถือว่าเป็นคนใหม่และทางผู้จัดงานก็ได้พิจารณาชิวปินมานานแล้ว มันคงไม่เหมาะสมนักหากตัดเขาทิ้งไป ดังนั้นการจัดการบรรยายแบบเดิมจึงยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

แต่ชิวปินไม่มีความสุข ‘Demon Slayer 2’ ถูก ‘Onmyoji’ บดขยี้จนเป็นแบบนี้ แล้วเขายังจะยินดีมาบรรยายให้อยู่เหรอ มันน่าละอายเกินไป

เขาเลยคิดหาเหตุผลที่จะไม่มา

ฝั่งพนักงานก็เข้าใจและวางแผนที่จะยกเลิกการบรรยายนี้ แต่เพราะการสื่อสารที่ผิดพลาดเลยเกิดเรื่องไม่คาดคิดหลังจากนั้น

เฉินโม่มองไปที่เวลา มันก็เกือบถึงเวลาเริ่มแล้ว

คอมพิวเตอร์บนโต๊ะเชื่อมต่อกับโปรเจกเตอร์ PPT การบรรยายของชิวปินถูกส่งมาเรียบร้อยแล้ว เฉินโม่คิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาไม่สามารถพูดเปล่าๆ ได้เพราะมีโอกาสที่จะพูดนอกเรื่อง ในเมื่อมี PPT แล้วก็ขอยืมหน่อยก็แล้วกัน

เฉินโม่เปิด PPT ของชิวปิน และชื่อหัวข้อ PPT ‘การวิเคราะห์รูปแบบกำไรของเกมการ์ดบนมือถือ’ ผู้บรรยาย : ชิวปิน ก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอขนาดใหญ่

เฉินโม่เพิ่มคำสองสามคำหลังจาก ‘ผู้บรรยาย : ชิวปิน’

‘ผู้บรรยาย : ชิวปิน(ขีดฆ่า) เฉินโม่’

เฉินโม่กระแอมในลำคอ “ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มายืนที่นี่และได้แบ่งปันประสบการณ์การสร้างเกมการ์ดมือถือกับทุกท่าน”

“อาจจะบรรยายแบบสบายๆ ไปหน่อย แต่ทุกท่านไม่ต้องห่วง ไม่ใช่ว่าไม่อยากพูดตามสคริปต์ ปัญหาคือผมไม่มีสคริปต์จริงๆ”

มีคนหัวเราะ

เฉินโม่พูดต่อว่า “งั้นผมจะพูดคร่าวๆ ตามแผนของ PPT นี้ อันที่จริง แกนหลักของเกมการ์ดบนมือถือนั้นค่อนข้างเรียบง่าย นักออกแบบเกมส่วนใหญ่สามารถเข้าใจมันได้หากพวกเขาศึกษาอย่างรอบคอบ ในประเด็นนี้ความเข้าใจของผมกับคุณชิวปินไม่ต่างกันมากนัก”

เฉินโม่ไปที่สไลด์ถัดไป

หน้าแรกเป็นโครงร่างทั่วไป ชิวปินเตรียมไว้สี่ประเด็นหลักในหัวข้อ ‘ความลับในการทำกำไรของเกมการ์ดบนมือถือ’

1. สร้างการรับรู้ของผู้เล่นเกี่ยวกับมูลค่าของการ์ด

2. ใช้ประโยชน์จากเกมมือถือและใช้เวลาที่กระจัดกระจายให้เป็นประโยชน์

3. ลดต้นทุนและเพิ่มการปรับปรุงให้สอดคล้องกับตลาด

4. ลำดับความสำคัญของ IP ใช้อิทธิพลของ IP ขนาดใหญ่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

หน้าถัดไปคือรายละเอียดเกี่ยวกับประเด็นของ ‘สร้างการรับรู้ของผู้เล่นเกี่ยวกับมูลค่าของการ์ด’ ตัวอย่างเช่น อธิบายว่า ‘มูลค่าของการ์ด’ คืออะไร และจะทำให้ผู้เล่นจดจำได้ยังไง

เฉินโม่พูดว่า “เรามาพูดถึงประเด็นแรกกันก่อน วิธีสร้างมูลค่าของการ์ด”

“ในความเป็นจริง สิ่งที่เรียกว่า ‘มูลค่าการ์ด’ หมายถึงจำนวนเงินที่ผู้เล่นยินดีจ่ายสำหรับการ์ดเสมือน ในประเด็นนี้ มูลค่าการ์ดในใจของผู้เล่นแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน ผู้เล่นอาจใช้จ่ายหลายพันหยวนสำหรับ SSR หนึ่งใบ ในขณะที่ผู้เล่นบางคนแค่สิบหยวนก็ไม่ยอมที่จะจ่าย…”

PPT ของชิวปินได้รับการจัดเตรียมมาอย่างดี ดังนั้นเฉินโม่จึงพูดถึงเรื่องนี้โดยตรง แม้ว่าสิ่งที่เขาพูดจะเป็นสิ่งที่นักออกแบบเกมการ์ดส่วนใหญ่เข้าใจอยู่แล้ว แต่ท้ายที่สุดแล้ว ความเข้าใจของเฉินโม่นั้นลึกซึ้งกว่าและชี้แจงในบางประเด็นที่ไม่ชัดเจน ทำให้นักออกแบบเกมหลายคนเข้าใจได้ในที่สุด

“เรื่องก็เป็นอย่างนี้”

“แบบจำลองตัวเลขนี้น่าสนใจ ก่อนหน้านี้ฉันรู้สึกเหมือนขาดอะไรไป ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง”

“ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้เหมือนเป็นพวกตาบอดคลำช้าง[1] ทำได้เพียงจับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แต่หลังจากที่เฉินโม่พูดทำให้ฉันเข้าใจเคล็ดลับบางอย่าง”

ชิวเจียงให้ความสนใจค่อนข้างมาก เธอทำงานในเกม VR ดังนั้นเธอจึงไม่ค่อยสนใจเกี่ยวกับเกมไพ่บนมือถือ แต่หลังจากได้ยินสิ่งที่เฉินโม่พูด เธอก็คิดว่าเทคนิคนี้น่าสนใจมากเช่นกัน!

ไม่นานประเด็นแรกก็จบลง เฉินโม่ไปที่สไลด์ถัดไปซึ่งเป็นหัวข้อในประเด็นที่สอง ‘ใช้ประโยชน์จากเกมมือถือและใช้เวลาที่กระจัดกระจายให้เป็นประโยชน์’

เฉินโม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และเพิ่มคำต่อท้ายอีกสองสามคำ

‘ใช้ประโยชน์จากเกมมือถือและ (ไม่จำเป็นต้อง) ใช้เวลาที่กระจัดกระจายให้เป็นประโยชน์’

…………………………

[1] ตาบอดคลำช้าง : คนที่รู้อะไรด้านเดียวแล้วเข้าใจว่าสิ่งนั้นเป็นอย่างนั้น