Almighty Game Designerบทที่ 7 นี่ถือว่าเป็นเกมได้ไหม

Now you are reading Almighty Game Designer Chapter บทที่ 7 นี่ถือว่าเป็นเกมได้ไหม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 7 นี่ถือว่าเป็นเกมได้ไหม

หนึ่งชั่วโมงในการสัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมหมดลงแล้ว พิธีกรเดินมาถึงหน้าเวที

“เอาละครับ หมดเวลาเล่นเกมแล้ว! ไม่ทราบว่าทุกท่านได้เกมที่ชอบกันหรือยังครับ”

“เช่นนั้นการแข่งขันดำเนินต่อในช่วงถัดไป ก่อนอื่นพวกเรามาดูคะแนนของทั้งยี่สิบเกมนี้กันดีกว่าครับ เชิญรับชมที่หน้าจอขนาดใหญ่ได้เลย”

เหล่าผู้ชมมองไปที่หน้าจอขนาดใหญ่ที่แสดงเวลาออนไลน์ทั้งหมด รวมทั้งจำนวนแนะนำของทั้งยี่สิบเกมนี้

เหล่าผู้ชมอยู่ในความโกลาหล!

“เชี่ย จริงเหรอเนี่ย”

“เกมนี้ไร้สาระขนาดนั้น บ้าไปแล้ว”

“ทำไมข้อมูลต่างกันขนาดนี้”

“ไม่น่าเชื่อ! คุณพิธีกร มีการโกงกันรึเปล่า!”

บนหน้าจอขนาดใหญ่ข้อมูลของเกม ‘flappybird’ ถูกดึงดูดสายตาของทุกคนซึ่งบนนั้นเขียนไว้ว่า

เวลาเล่นเกมทั้งหมด 349 ชั่วโมง จำนวนแนะนำ 544!

ส่วนเกมอันดับที่สองอย่าง ‘Hunter Island’ มีเวลาเล่นทั้งหมด 92 ชั่วโมง และจำนวนแนะนำเพียง 330 เท่านั้น!

พิธีกรเองก็ตกตะลึงเขาเองก็เพิ่งรู้เรื่องข้อมูลไปพร้อมกับเหล่าผู้เล่น ปฏิกิริยาแรกของเขาคือข้อมูลนั้นผิดพลาด!

กรรมการตัดสินทั้งสามมองหน้ากันด้วยความตกใจไม่กล้าเชื่อในข้อมูลเล็กน้อย ข้อมูลนี้มันอะไรกัน จำนวนผู้เล่นทั้งหมดในตอนนี้คือเจ็ดร้อยคน และบางคนใช้เวลาเล่นเกมนี้เฉลี่ยครึ่งชั่วโมง!

544 จาก 700 คนยินดีที่จะแบ่งปันเกมนี้กับผู้อื่น

ข้อมูลนี้น่าเหลือเชื่อมาก!

เฉินโม่ไม่แปลกใจมากนักข้อมูลนี้อยู่ในความคาดหมายของเขา ความจริงแล้วเกม ‘flappybird’ ไม่ใช่เกมที่น่าสนใจมากนัก ตรงกันข้ามมันเป็นการทรมานตัวเองมาก หากเกมนี้ถูกวางอยู่ใน appstore เพื่อให้ผู้เล่นได้เล่น คนส่วนใหญ่อาจปิดเกมนี้ภายในห้านาที แต่ตอนนี้เหล่าผู้เล่นที่อยู่ในสถานที่แข่งขันกลับเล่นเกมนี้ได้นาน นั่นเพราะว่าคู่แข่งของ ‘flappybird’ ไม่ใช่ผลงานเกมที่ดีอะไรนัก แต่เป็นผลงานเกมระดับเริ่มต้นที่เละเทะ

โดยทั่วไปแล้วผลงานเกมอื่นๆ ไม่สามารถดึงดูดผู้เล่นได้นานนัก…ดังนั้นผู้เล่นส่วนใหญ่ยังคงเลือก ที่จะกลับมาทำคะแนน แม้แต่ผู้เล่นที่ค่อนข้างยึดติดก็ยังคงใช้เวลาทั้งหมดไปกับการให้คะแนน ‘flappybird’

เช่นนี้ก็เป็นเรื่องปกติที่ ‘flappybird’ จะทำเวลาเกมได้มากขนาดนี้

พิธีกรพูดกระซิบใส่หูฟัง หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เงยหน้าขึ้นและบอกกับผู้เล่นว่า “ทุกท่านครับ เมื่อสักครู่ผมได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคที่หลังเวทีว่าข้อมูลนี้ถูกต้องแล้ว นี่เป็นข้อมูล สรุปสุดท้ายของทั้งยี่สิบเกมครับ”

แต่ก็ยังเกิดความวุ่นวายอยู่ดี

ผู้เล่นหลายคนยังไม่เชื่อว่า ‘flappybird’ จะได้รับคะแนนเช่นนี้ โดยเฉพาะผู้เล่นที่ไม่มีความรู้สึกอะไร กับเกมประเภทนี้ และปิดเกมทันทีหลังจากเล่นไปสักระยะหนึ่ง แต่ผู้เล่นส่วนใหญ่ยอมรับข้อเท็จจริงนี้

“เกมนี้มันทรงพลังขนาดนั้นเลยเหรอ ภาพพิกเซลกับวิธีเล่นง่ายๆ แบบนี้ได้เป็นอันดับที่หนึ่ง นี่มันแซงหน้าอันดับสองไปมากเลยนะ!”

“มันแปลกตรงไหน ลองคิดดูว่าคุณใช้เวลากับเกมนี้ไปเท่าไหร่”

“…สี่สิบนาที”

“ฉันใช้เวลาเกือบชั่วโมง! เพราะยุ่งอยู่กับการทำคะแนน ตอนนี้ยังรู้สึกเวียนหัวอยู่เลย”

“ใช่ พอฉันหลับตาก็เห็นนกโง่ๆ กระโดดไปกระโดดมาตรงนั้น นี่ยังอดนึกถึงมันไม่ได้…”

“พวกคุณก็เห็นบนรายการจัดอันดับมีตั้งเกือบหกร้อยคน กับสองร้อยอันดับแรก อันดับแรกมีคะแนนมากกว่ายี่สิบคะแนน ยังมีคนได้มากกว่าสี่สิบห้าสิบคะแนน คุณคิดว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะได้ยี่สิบคะแนน”

“นั่น…ยังไงก็ต้องใช้เวลายี่สิบนาทีอยู่ดี…หากฝีมือไม่ดีก็อาจไม่สำเร็จภายในหนึ่งชั่วโมงก็ได้”

“หมายความว่าข้อมูลนี้เป็นความจริง”

“มันช่าง…เป็นเกมที่เหลือเชื่อจริงๆ…” ตอนนี้เหล่าผู้เล่นที่ไม่เชื่อในตอนแรกก็เริ่มเชื่อครึ่งหนึ่ง สงสัยครึ่งหนึ่ง

พิธีกรกระแอมสองครั้ง “เอาละครับ ในเมื่อเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคยืนยันว่าผลลัพธ์เป็นจริง และถูกต้อง เช่นนั้นอันดับที่หนึ่งในตอนนี้เป็นผลงาน ‘flappybird’ ของนักออกแบบเกมหมายเลขเจ็ดครับ!”

“ช่วงต่อไปจะเป็นความคิดเห็นของกรรมการตัดสิน หลังจากแสดงความคิดเห็นสิ้นสุดลง ผู้เล่นทุกท่านจะได้เลือกอีกครั้งในช่วงแนะนำรอบต่อไป”

พิธีกรชะงักแล้วพูดต่อว่า “มีเรื่องหนึ่งที่ต้องเตือนทุกท่าน เกม ‘flappybird’ แซงหน้าอันดับที่สองในแง่ของ ระยะเวลาเล่นเกม และจำนวนแนะนำ ตามกฎแล้วการแนะนำของผู้เล่นแต่ละคนจะเท่ากับเวลาเล่นเกมสามสิบนาที ขอเพียงเกมอันดับที่สองอย่าง ‘Hunter Island’ มีจำนวนแนะนำมากกว่า ‘flappybird’ เป็นจำนวน 128 ถึงจะสามารถแซงขึ้นมาอยู่อันดับที่หนึ่งได้”

“ถ้าอย่างนั้นเชิญกรรมการตัดสินทั้งสามท่านลงความเห็นได้เลยครับ”

พิธีกรยกมือเป็นสัญญาณให้กรรมการทั้งสามเริ่มพูดได้ กรรมการตัดสินทั้งสามมองหน้ากัน ชิวเหิงหยางบอกกับฉื่อหัวเจ๋อว่า “ให้ผู้อาวุโสพูดก่อนจะดีกว่า”

ทั้งสามคนนี้ล้วนเป็นนักออกแบบระดับ B และพวกเขาไม่ได้ทำงานในบริษัทเดียวกันจึงไม่มีความแตกต่างในสถานะ ฉื่อหัวเจ๋อเป็นคนที่มีอายุมากที่สุด ดังนั้นหลินไห่และชิวเหิงหยางจึงให้ความเคารพเขาและปล่อยให้เขาได้พูดก่อน

ฉื่อหัวเจ๋อหน้าซีดเซียว เขาขยับไมโครโฟนบนโต๊ะให้มาจ่อปากจากนั้นกระแอมเสียงต่ำ

“นี่ถือว่าเป็นเกมด้วยเหรอ! ผมเป็นคนแรกที่ไม่เห็นด้วย! หากสิ่งนี้ถือเป็นเกมได้ เช่นนั้นเกมก็เป็นสิ่งที่ใครๆ ก็พัฒนาได้ไม่ใช่เหรอ!”

“คนที่ร้องเพลงข้างถนนถือเป็นนักร้องได้ไหม!”

“คนที่วาดรูปบนกำแพงถือเป็นจิตรกรได้ไหม!”

“ตอนเขียนบทกวีกด Enter หลายครั้งก็ถือว่าเป็นนักกวีสมัยใหม่ได้หรือเปล่า!”

“ไร้สาระ!” เห็นได้ชัดว่าฉื่อหัวเจ๋อโกรธมากจนใช้มือเคาะโต๊ะอย่างแรง

“อย่างแรกเลย เกมนี้ไม่มีโครงเรื่องมีแต่วิธีเล่นอย่างเดียว ภาพกราฟิกหยาบๆ ให้ความรู้สึกแย่มาก! ดังนั้นผมจึงบอกว่าในฐานะเกม มันล้มเหลวตั้งแต่คุณภาพการผลิตแล้ว!”

“อย่างที่สอง เกมนี้ใช้ประโยชน์จากช่องโหว่อย่างสมบูรณ์ โดยการกระตุ้นให้ผู้เล่นอยากแข่งขันเปรียบเทียบ แล้วยังกระตุ้นให้ผู้เล่นรอจังหวะชนะ มันเป็นการบังคับให้ยืดเวลาเล่นเกมออกไป!”

“ดังนั้นข้อมูลที่ทุกท่านเห็น ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาของการเล่นเกมหรือจำนวนแนะนำ ข้อมูลเหล่านี้ล้วนเป็นเท็จ! เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะมันเป็นเกมที่ไม่สุจริตตรงไปตรงมา!”

“จากมุมมองนี้ทัศนคติของผมชัดเจนมาก ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการที่เกมนี้ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่ง!”

หลังจากที่ฉื่อหัวเจ๋อพูดจบเขาก็ผลักไมโครโฟนออกไปด้านข้างทั้งที่ตนเองยังคงหายใจหอบอยู่

“อาจารย์ฉื่อพูดดีมากครับ!” ไม่รู้หรอกว่าใครตะโกน แต่ก็ทำให้ผู้ชมในที่นี้ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

เสียงนี้คงมาจากผู้เข้าแข่งขันน่าจะเป็นนักออกแบบเกม ‘Hunter Island’

เฉินโม่จิบน้ำแร่บนโต๊ะอย่างใจเย็น ปฏิกิริยาของฉื่อหัวเจ๋อก็อยู่ในความคาดหมายของเขาเช่นกัน

เห็นได้ชัดว่าฉื่อหัวเจ๋อไม่ชอบเกมประเภทนี้มากเพราะว่าเขาเล่นเกมได้ไม่ดีเลยไม่สามารถสนุกไปกับการทำคะแนนได้เลย แต่ Super Focuser ของเฉินโม่บังคับให้ฉื่อหัวเจ๋อถูกทรมานในเกมนี้เป็นเวลาสิบนาที มันก็สมควรแล้วที่เขาจะโกรธ

เห็นได้ชัดว่าพิธีกรไม่คิดว่าฉื่อหัวเจ๋อจะโกรธมากขนาดนี้ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนหัวข้ออย่างรวดเร็ว “เอาละครับ เมื่อครู่อาจารย์ฉื่อหัวเจ๋อได้เสนอความคิดเห็นของตัวเองไปแล้ว ต่อไปขอเชิญอาจารยหลินไห่”

หลินไห่มองฉื่อหัวเจ๋อด้วยความลำบากใจจากนั้นก็หันไปมองเกม ‘flappybird’ เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อน ที่จะเปิดไมโครโฟน

“เกมนี้…ผมเห็นด้วยกับอาจารย์ฉื่ออยู่ประการหนึ่ง รูปแบบการเล่นของมันไม่ได้สมบูรณ์แบบอะไร คุณภาพก็ไม่สูงมาก จากมุมมองในด้านคุณภาพมันก็ไม่คู่ควรกับที่หนึ่งในการแข่งขันนี้”

หลินไห่ชะงักไปครู่หนึ่งแล้วพูดเปลี่ยนเรื่อง “แต่…ผมคิดว่าในเมื่อเกมนี้สามารถเรียกคะแนนได้ ทั้งข้อมูลระยะเวลาของเกม และจำนวนแนะนำก็ไม่เลว ซึ่งหมายความว่าทุกคนให้การยอมรับมัน ดังนั้นผมขอสงวนความคิดเห็น และมอบการตัดสินใจรอบสุดท้ายให้แก่ผู้เล่นครับ”

………………………

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *