Almighty Game Designerบทที่ 37 เยี่ยมร้าน

Now you are reading Almighty Game Designer Chapter บทที่ 37 เยี่ยมร้าน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 37 เยี่ยมร้าน

เฉินโม่เลื่อนอ่านคอมเมนต์และฟอรั่มหัวข้อฮอตของ ‘Plants vs Zombies’

หากต้องการอัปเดตเวอร์ชัน สิ่งสำคัญคือการดูว่าผู้เล่นชอบและต้องการอะไร ถ้าเวอร์ชันใหม่ไม่ได้แก้ปัญหาความต้องการหลักๆ ของผู้เล่นแล้วมันจะไปมีประโยชน์อะไรกัน

ในตอนนั้นเอง เฉินโม่สังเกตเห็นหญิงสาวคนหนึ่งแต่งตัวเรียบร้อย สวมกางเกงยีนส์ และไว้ผมทรงหางม้ายาวสลวยยืนอยู่หน้าประตู Experience Store

“จัวเหยาหรอ” เฉินโม่จำชื่อของเธอได้

หญิงสาวคนนี้เป็นเจ้าของร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ที่อยู่ใกล้ๆ เธอเคยมาที่นี่แล้วในตอนที่ Experience Store ของเฉินโม่เพิ่งเปิด

จัวเหยามองไปที่ชั้นแรกของ Experience Store ด้วยความประหลาดใจ “ว้าว ฉันไม่ได้มาที่นี่นานกว่าหนึ่งเดือน Experience Store ของคุณมีชีวิตชีวามาก! ฉันจำได้ว่าครั้งล่าสุดที่ฉันมาไม่มีใครเลยสักคน”

เฉินโม่พูด “แน่นอน เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีใครมา ถ้าเป็นร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ของคุณที่เปิดมาหนึ่งเดือนแล้ว ก็ไม่แน่ว่าจะมีคนมาใช่ไหมล่ะ”

จัวเหยาพูดไม่ออก “นายไม่พูดก็ไม่มีใครว่าหรอก Experience Store ของนายเหมือนร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ตรงไหน เอ้ะ ดูเหมือนว่าเกมของนายทำได้ดีนี่ มีคนเล่นอยู่ตั้งเยอะแยะเลย”

จัวเหยาเอนหลังพิงโซฟา เฉินโม่รินน้ำให้เธอ

“ครั้งก่อนคุณบอกว่าจะมาวันหลัง แต่คุณผลัดวันไปเป็นเดือน” เฉินโม่พูดติดตลก

“เอ้ อย่าพูดอย่างนั้นสิ ที่ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่มีเรื่องให้จัดการเยอะแยะจนฉันปลีกตัวออกมาไม่ได้” จัวเหยาพูด

“อีกอย่างช่วงนี้ฉันเพิ่งมาติดเกมเล็กๆ อยู่เกมหนึ่ง”

เฉินโม่ถามว่า “ติดเกมเล็กๆ งั้นเหรอ”

จัวเหยาพยักหน้า “ใช่ เกม ‘Plants vs Zombies’ ที่เพิ่งนิยมขึ้นมาเร็วๆ นี้ นายไม่ได้เล่นมันเหรอ นายเป็นนักออกแบบเกม ไม่มีทางไม่ให้ความสนใจกับการจัดอันดับเกมใหม่หรอกนะ”

เฉินโม่พูด “อ้อ…เล่นแล้ว”

จัวเหยาหัวเราะ “ฉันรู้อยู่! มาๆ ในโหมดไม่รู้จบนายเล่นถึงด่านไหนแล้ว ฉันถึงด่านที่เก้าสิบเจ็ด อีกเดี๋ยวกำลังจะขึ้นด่านที่ร้อย!”

เฉินโม่ “…”

จัวเหยาสังเกตเห็นว่าสีหน้าของเฉินโม่แปลกประหลาดเล็กน้อย จึงคิดว่าเขาอึดอัดเกินกว่าที่จะพูด “ไม่เป็นไร ฉันสอนนายได้นะ กลยุทธ์ของฉันเจ๋งมาก มันช่วยให้นายเคลียร์ไปถึงด่านที่ห้าสิบได้เลย!”

เฉินโม่ชี้ไปที่คอมพิวเตอร์ที่หญิงสาวคนหนึ่งกำลังเล่นซึ่งอยู่ห่างออกไป “เธอเล่นไป 174 ด่านแล้ว”

“ฮะ!” จัวเหยาตกตะลึง หมายความว่ายังไง

เธอลุกขึ้นแล้วมองไปที่หญิงสาวคนนั้น หญิงสาวรูปร่างหน้าตาดี และน่าจะเป็นเด็กนักศึกษาจากมหาลัยละแวกนี้ เป็นไปได้ยังไงที่จะเล่นได้ดีกว่าเธอในเมื่อเธอเล่นจนดึกดื่นทุกคืน

เดี๋ยวนะ!

ในตอนที่จัวเหยาเพิ่งเข้ามาในร้าน เธอไม่ได้ให้ความสนใจว่าคนเหล่านี้กำลังเล่นเกมอะไรอยู่ แต่ตอนนี้เธอเห็นคอมพิวเตอร์หลายเครื่องแล้วจู่ๆ ก็สังเกตเห็นสิ่งหนึ่ง

ดูเหมือนว่าทุกคนในชั้นนี้กำลังเล่นเกม ‘Plants vs Zombies’

นี่เป็น Experience Store ซึ่งภายในร้านอนุญาตให้เล่นได้แค่เกมของนักออกแบบเกมเองเท่านั้น

หรือว่า…

จัวเหยาหันไปมองเฉินโม่ “หรือว่าคนที่สร้างเกม ‘Plants vs Zombies’ คือ…”

เฉินโม่พยักหน้า “ใช่ ผมเอง”

จัวเหยาตะลึงงันไปสามวิแล้วเข้าใจขึ้นมาทันที “พระเจ้า! เกมนี้นายเป็นคนสร้าง! ฉันกำลังคิดเลยว่าโลโก้ของเกมนี้ทำไมคุ้นๆ ที่แท้ฉันเคยเห็นมันที่หน้าประตูของร้านนายนี่เอง!”

เฉินโม่พูดไม่ออก “คุณลืมถึงขนาดนี้เลยเหรอ ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ของคุณอยู่แค่หัวมุมถนน แต่คุณจำโลโก้ของผมไม่ได้”

จัวเหยารู้สึกเขินอายเล็กน้อย เธอกระแอมไอสองครั้งแล้วพูดว่า “นายก็รู้ว่าฉันอาศัยอยู่ในร้านตลอดทั้งปี งั้น..เอ่อ”

เฉินโม่พยักหน้าและตอบ “อืม คงงั้นแหละ”

จัวเหยายิ้มอย่างมีเลศนัย “ก็ตามนั้น เราอย่ามาพูดเรื่องสัพเพเหระกันเลย รีบๆ สอนเคล็ดลับของ ‘Plants vs Zombies’ ทีสิ!”

เฉินโม่พูดไม่ออก “ทำไมทุกคนถึงเป็นแบบนี้กันหมดเลย เห็นหน้าผมทีไรก็อยากรู้แต่เคล็ดลับ ในชุมชนผู้เล่นเห็นโพสต์กันเยอะแยะลองไปหาดูสิ”

จัวเหยากลอกตา “ขี้งก”

เฉินโม่ “…”

มันเกี่ยวกับเรื่องขี้งกตรงไหนกัน มันไม่ใช่เพราะเขาขี้งกเสียหน่อย เห็นชัดๆ ว่าเธอก็แค่ขี้เกียจ!

จัวเหยาพูด “เฮ้อ แต่ต้องบอกว่าคิดไม่ถึงจริงๆ เลยว่านักออกแบบเกมหน้าใหม่จะสร้างเกมที่นิยมเจ๋งๆ อย่างนี้ได้ น่าทึ่งมาก น่าเสียดายที่เกมมือถือไม่เหมาะกับการโฆษณาในร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ของฉัน”

เฉินโม่พูด “ไม่เป็นไร ในอนาคตผมวางแผนจะทำเกมคอมพิวเตอร์อยู่ จริงสิ ว่าจะถาม แต่ไม่เคยได้ถามสักที คือว่าร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ของคุณหลักๆ แล้วเป็นเกมคอมพิวเตอร์หรือเกม VR เหรอ”

จัวเหยาพูด “คอมพิวเตอร์ ฉันเองก็อยากเปลี่ยนมันเป็นร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ VR อยู่หรอก แต่ไม่มีเงินทุนมากขนาดนั้น ตอนนี้สถานะของร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่คอมพิวเตอร์ค่อนข้างเขี้ยวลากดินจริงๆ ทำเอาฉันยุ่งเหยิงกับเรื่องนี้อยู่นานเลย”

เฉินโม่พูด “อืม ผมพอรู้อยู่ว่าเกมคอมพิวเตอร์กำลังถูกเกม VR บีบจนตกต่ำลงเล็กน้อย”

“ก็นั่นแหละ” จัวเหยาไม่มีทางเลือก “ในอนาคตร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ VR จะเป็นกระแสหลัก ซึ่งร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่คอมพิวเตอร์พอเดาได้ว่าจะค่อยๆ ตกต่ำลง”

เฉินโม่ส่ายหน้า “ไม่แน่เสมอไป”

จัวเหยาตกตะลึง “ทำไมล่ะ”

เฉินโม่พูด “ง่ายมาก ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่คอมพิวเตอร์ในตอนนี้ตกต่ำเพราะไม่มีเกมยอดฮิตอะไรเลย แต่อะไรจะเกิดขึ้นถ้าเกิดมีเกมยอดฮิตที่สามารถบดขยี้เกม VR โผล่ขึ้นมาบนคอมพิวเตอร์ในอนาคตล่ะ”

จัวเหยาเบิกตากว้าง “ไม่…ไม่มีวันเป็นไปได้”

เฉินโม่พูด “มันไม่ปรากฏขึ้นตอนนี้ แต่ไม่ได้แปลว่ามันจะไม่ปรากฏขึ้นในอนาคต ก่อนที่ ‘Plants vs Zombies’ จะออกมา ใครจะคิดว่าจะมีตลาดเกมปริศนาขนาดใหญ่แบบนี้ ถูกไหม”

จัวเหยาครุ่นคิดอยู่สามวินาที “นายกำลังอวดเกี่ยวกับตัวเองงั้นสิ”

เฉินโม่พยักหน้า “ใช่”

จัวเหยา “…”

เฉินโม่พูด “มันเป็นความจริง ผมคิดว่าคุณควรตั้งเป้าไปที่ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่คอมพิวเตอร์ต่อไป กลุ่มเป้าหมายไม่ได้มองในแง่ร้ายอย่างที่คุณคิดหรอก คุณก็เห็นแล้วว่าคอมพิวเตอร์บดขยี้มือถือในเรื่องของประสิทธิภาพทุกด้าน แต่เกมมือถือกลับยังคงอยู่ดี ตู้เกม VR บดขยี้คอมพิวเตอร์ในเรื่องประสิทธิภาพอย่างสมบูรณ์ แต่ไม่ได้แปลว่าเกมคอมพิวเตอร์กำลังจะตายสักหน่อย”

จัวเหยาพยักหน้า “ฟังดูมีเหตุผล ฉันเองก็หวังจะเป็นอย่างงั้น หวังว่าถึงตอนนั้นนายจะสามารถพัฒนาเกมยอดฮิตสำหรับคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ของฉันได้ แล้วนายจะเริ่มพัฒนาเมื่อไรงั้นเหรอ”

เฉินโม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ประมาณ… ภายในสองปี”

จัวเหยากลอกตา “ลาละ”

เฉินโม่หัวเราะ “ผมจริงจังนะ”

จัวเหยา “ลาละ”

เหมือนเธอยังคงคิดว่าเฉินโม่กำลังล้อเล่น เธอจึงไม่ได้เชื่อเขาเลย

คำพูดของเฉินโม่ไม่ได้จะปลอบใจจัวเหยา แต่เขาคิดอย่างนั้นจริงๆ ถึงเกม VR จะเป็นกระแสหลักในโลกนี้ แต่เขากลับไม่ได้รู้สึกว่าเกมคอมพิวเตอร์จะถูกแทนที่แต่อย่างใด

เกม VR ไม่จำเป็นต้องเป็นเกมที่สุดยอดเสมอไป

ยกตัวอย่างง่ายๆ ทำไมเกม MOBA[1] ถึงสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ในมุมสูง ไม่ใช่มุมมองของบุคคลที่หนึ่ง[2]

อันที่จริงก็มีบริษัทเกมที่พยายามสร้าง MOBA ให้เป็นมุมมองบุคคลที่หนึ่งแบบ full 3D แล้วพวกเขาก็สร้างมันขึ้นมาได้จริงๆ และผลก็ออกมาดีด้วย แม้กระทั่งกิมมิค[3]ของถนนทั้งห้าสาย(มีถนนสองสายด้านบนและด้านล่างของแผนที่) แต่สุดท้ายผลลัพธ์กลับน่าผิดหวัง เพราะความสามารถในการเล่นก็ด้อยกว่า moba มาก

เกมนี้ไม่ได้สร้างกระแสมากมากมายอะไร จึงมีผู้เล่นแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้ยินเกี่ยวกับมัน

เหตุผลนั้นง่ายมาก ในมุมมองของ 3D วิธีการคัดกรองและการใช้ทักษะหลายอย่างเปลี่ยนไปอย่างมาก โหมดการทำงานก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ทำให้ความสามารถของผู้เล่นในการควบคุมสถานการณ์โดยรวมลดลงอย่างมาก ยังมีหลายๆ ปัญหาที่รวมกันจนทำให้เกมสูญเสียแก่นความสนุกของเกม MOBA ไปในทันที ส่งผลให้มันกลายเป็นเกมที่ไร้มูลค่าและถูกโยนทิ้งไป

นี่เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่นำไปสู่ความล้มเหลวของ ‘Fill 3D MOBA’ ทั้งหมด

……………………………

[1] เกม MOBA(Multiplayer Online Battle Arena) : เกมต่อสู้กันระหว่างผู้เล่นสองฝ่าย โดยผู้เล่นจะสามารถเลือกตัวละครในการเล่นเกมได้ ซึ่งตัวละครในเกมแต่ละตัวนั้นจะมีความสามารถที่แตกต่างกันออกไป หรือที่เรียกว่า มีสกิลที่ไม่เหมือนกันนั่นเอง สำหรับการเล่น เกม moba ผู้เล่นทุกคนที่เข้ามาเล่นจะต้องมีเทคนิคการเล่นและทักษะการเล่นเฉพาะตัวด้วย เพื่อจะได้เอาชนะการเล่นได้ง่ายขึ้น ส่วนในการต่อสู้ในเกมนั้นก็จะสามารถเลือกซื้อไอเทมต่าง ๆ เพื่อที่จะได้ช่วยให้ตัวละครมีความสามารถที่เก่งขึ้นนั่นเอง

[2] มุมมองของบุคคลที่หนึ่ง : บุคลที่หนึ่งหมายถึงในระดับสายตาของตัวละครหรือตัวที่เป็นเรา มุมกล้องจะทำให้เหมือนตัวเราเองลงไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นๆด้วยตัวเอง มุมมองในระดับสายตาของเรา จะมองเห็นได้เพียงด้านหน้า และก็ในระดับสายตาที่เราจะมองเห็นเท่านั้น

[3] กิมมิค : อะไรก็ตามที่ใส่เข้าไปในการประชาสัมพันธ์หรือการโฆษณาใดแล้ว ทำให้เกิดจุดช่วยจำขึ้นมาและจุดนี้จะโยงให้ผู้ที่รับชมนั้นนึกไปถึงการประชาสัมพันธ์หรือการโฆษณานั้น

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *