Almighty Game Designerบทที่ 189 ไม่มีทางฮิตได้หรอก

Now you are reading Almighty Game Designer Chapter บทที่ 189 ไม่มีทางฮิตได้หรอก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 189 ไม่มีทางฮิตได้หรอก

หลายคนแท็กเฉินโม่บน Weibo

“แผนที่นี้ชื่อว่า ‘Sacred Realm’ ดีมากเลย ช่วยแนะนำให้มันทางการได้ไหม มันสนุกมากจริงๆ”

“แนะนำแผนที่ ‘Sacred Realm’ เหมือนกัน”

“@เฉินโม่ พ้นตรุษจีนแล้ว ได้เวลาพัฒนาเกมใหม่แล้วนะ! อย่าขี้เกียจ กระเป๋าเงินฉันเริ่มหิวแล้ว!”

“@เฉินโม่ โปรดสร้างเกมดีๆ อย่าง ‘Warcraft’ หน่อย อย่าใช้เกมหลอกลวงรีดกระเป๋าเงินฉันเลย!”

เฉินโม่เลื่อนอ่านคอมเมนต์ที่มีการแท็กเขามาด้วยความประหลาดใจ ไม่คิดว่าเขาจะมีแฟนตัวยงจำนวนมากขนาดนี้

และมีหลายคนที่รอคอยเกมใหม่ที่มีคุณภาพสูง

เฉินโม่ตัดสินใจบอกใบ้เล็กๆ น้อยๆ กับทุกคน

“เกมต่อไปจะเป็นเกม RPG แบบผู้เล่นเดี่ยว ธีมแฟนตาซีตะวันตก”

จากนั้นก็แนบภาพ Concept Map : ภายใต้ท้องฟ้าที่มืดมน แสงเทียนสลัวๆ ในวิหาร Tristram ดูแปลกตามาก นักเดินทางคนหนึ่งมองขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วเขาก็เห็นดาวตกพุ่งตกลงสู่ทิศทางของมหาวิหาร

โพสต์ Weibo ได้รับความสนใจจากหลายๆ คน

“ให้ตายสิ! ฉันเลื่อนเจอโพสต์ใหม่ของเฉินโม่!”

“มาแล้วๆ เฉินโม่กำลังจะสร้างเกมคอมพิวเตอร์อีกครั้ง ฉันเตรียมเงินไว้แล้ว ทุกคนเดาสิว่าคราวนี้เป็นเกมอะไร”

“คอมเมนต์บนโง่รึเปล่า เฉินโม่ก็บอกมาแล้วไม่ใช่เหรอว่าเกม RPG แบบผู้เล่นเดี่ยวที่เป็นธีมแฟนตาซีตะวันตก ละเอียดกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว!”

“ดูจากภาพแล้วมันไม่ดูมืดมนไปหน่อยเหรอ รู้สึกแปลกมาก เป็นวิหารให้ความรู้สึกเหมือนสุสาน…”

“ใช่ ถ้ามองดีๆ ที่ด้านข้างของวิหารจะยังเห็นหลุมฝังศพอยู่ ที่หน้าต่างดูเหมือนจะมีเงาของโครงกระดูกอยู่ด้วย”

“เกี่ยวข้องกับอันเดดใน ‘Warcraft’ ไหม”

“ไม่เหมือนนะ ดูจากสไตล์ศิลปะเหมือนว่าจะมืดมนกว่า ‘Warcraft’ มาก มันให้ความรู้สึกถึงยุคมืด”

“รอคอยเลย ในที่สุดเฉินโม่ก็สร้างเกม RPG!”

“น่าเสียดายที่มันไม่ใช่เกมออนไลน์แต่เป็นเกมเดี่ยว แบบนี้เล่นไปก็ไม่น่าตื่นเต้นสิ”

“ก็ไม่แน่นะ อยากสนุกไปกับเนื้อเรื่องก็ต้องเล่นเกมแบบผู้เล่นเดี่ยวไม่ใช่เหรอ อีกอย่างนักออกแบบเกมทั่วไปก็มักจะทำเกม RPG แบบผู้เล่นเดี่ยวเพื่อสะสมประสบการณ์และความนิยมก่อน แล้วค่อยสร้างเกม RPG ออนไลน์”

“ใช่ๆ ยังไงเกมของเฉินโม่ต้องเป็นเกมคุณภาพสูงแน่ๆ แค่รอคอยก็พอ!”

“เฮ้อ ฉันยังคิดว่าเขาจะสร้าง ‘Warcraft’ เวอร์ชัน RPG เสียอีก แต่กลับไม่ใช่ น่าเสียดาย”

“ใครจะรู้ละ บางทีเขาอาจมีอย่างอื่นอยู่ในใจ ฉันเองก็อยากเล่น ‘Warcraft’ เวอร์ชัน RPG เหมือนกัน!”

ไม่นานข่าวก็แพร่สะพัดในวงการเช่นกัน

“ได้ยินไหม เกมใหม่ของเฉินโม่เป็นเกมคอมพิวเตอร์ เป็น RPG แบบผู้เล่นธีมแฟนตาซีตะวันตก”

“ได้ยินแล้ว โล่งอกมาก”

“ทำไมล่ะ”

“โชคดีที่เขาไม่ทำเกมมือถือแล้ว ให้ทางรอดกับพวกเราบ้าง!”

“แต่ฉันกำลังพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์นะ ใครจะให้ทางรอดกับฉันกัน”

“เอาละ พวกนายก็รู้ว่าเฉินโม่กำลังพัฒนาเกมแบบผู้เล่นเดี่ยว ย้ำว่าเกมแบบผู้เล่นเดี่ยว”

“อ้อ เกมผู้เล่นเดี่ยว ค่อยโล่งใจหน่อย”

“เกมแบบผู้เล่นเดี่ยวมันก็ดี แต่ความสามารถในการทำกำไรมีจำกัด ดูเหมือนว่าเฉินโม่มีความคิดเดียวกันกับตอนสร้าง ‘Warcraft’ เขาต้องการปูทางเพื่อบอกเล่ากันปากต่อปาก ไม่ใช่เพื่อทำเงิน”

“ถึงอย่างนั้นก็ต้องระวังตัว มันคงไม่ดีนักหากเกมของเราวางจำหน่ายในช่วงเวลาเดียวกัน รีบดูว่าเขากำลังทำอะไรอยู่”

“มีรูปภาพใน Weibo! เกมนี้มีชื่อว่า ‘Diablo’ มุมมองนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่มุมมองบุคคลที่หนึ่ง”

นักออกแบบเกมหลายคนให้ความสนใจกับ Weibo ของเฉินโม่ และทันทีที่ Weibo ใหม่ถูกโพสต์ก็รีบทำการศึกษา

โพสต์ Weibo ใหม่ก็ค่อนข้างเรียบง่าย แค่ระบุว่าเกมนี้มีชื่อว่า ‘Diablo’ และมีการแนบรูปภาพไว้ด้านล่างซึ่งเป็นรูปจากมุมมอง 45 องศาจากด้านบน เป็นภาพคนเถื่อนถือขวานคู่กำลังต่อสู้กับโครงกระดูกและปีศาจนับไม่ถ้วน

“ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่มุมมองบุคคลที่หนึ่งจริงๆ เป็นมุมมองบุคคลที่สามหรือเปล่า”

“ก็อาจเป็นไปได้ บุคคลที่สามก็ง่ายกว่าบุคคลที่หนึ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำเกม RPG เป็นเรื่องปกติที่อยากได้อะไรที่มั่นคง”

“อันที่จริงมันก็ดีนะ เกมมุมมองบุคคลที่สามน้อยลงเรื่อยๆ จนไม่เป็นกระแสหลัก เกมนี้อาจจะไม่ทำให้เขาเสียเงิน แต่ก็ไม่น่าจะได้รับความนิยมขนาดนั้น”

“ใช่ ฉันเดาแผนของเฉินโม่ได้คร่าวๆ มันเสี่ยงเกินไปที่จะทำเกมออนไลน์มุมมองบุคคลที่หนึ่ง ดังนั้นถึงได้ทำเกม RPG แบบผู้เล่นเดี่ยวแบบมุมมองบุคคลที่สามเพื่อทำการเปลี่ยนแปลงก่อน ส่วนจุดขายน่าจะอยู่ที่โครงเรื่องและธีม”

“ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน เขากำลังสร้างเกมสำหรับผู้เล่นที่ชอบเล่นธีมแฟนตาซีตะวันตกโดยเฉพาะ โชคดีที่ฐานผู้เล่นของเกมนี้จะมีความเหลื่อมล้ำกับ ‘Warcraft’ ซึ่งรับประกันยอดจำหน่ายได้”

“เรื่องมันเกิดแล้วตื่นตูมไปก็ไม่จำเป็น แต่ฉันคิดว่ามันน่าเสียดาย นี่ไม่ได้หมายความว่าเฉินโม่ยอมแพ้แล้วเหรอ ฉันจำได้ว่าเขามีความมั่นใจแค่ไหนตอนที่สร้าง ‘Warcraft’ เพื่อต่อสู้กับ ‘Legion Conquistador’ ตอนนี้คงกังวลว่าตัวเองความสามารถไม่ถึงก็เลยยอมผ่อนปรน”

“ไม่แน่ใจว่าพวกนายสังเกตเห็นโทนสีของงานศิลปะเหล่านี้หรือเปล่า”

“โทนสีเหรอ”

“อืม โทนสีมันดูมืดมนมาก”

“โอ้ บางทีเขาอาจต้องการสร้างบรรยากาศที่น่ากลัวและแปลกประหลาดแบบนี้”

“ไม่ได้หมายความแบบนั้น มันโอเคที่จะสร้างบรรยากาศ แต่ด้วยโทนสีที่มืดแบบนี้ ประกอบกับฉากสยองขวัญและดนตรี มันให้ความรู้สึกดำดิ่งมาก แบบนี้เล่นไปจะไม่รู้สึกเหนื่อยไปหน่อยเหรอ นายลองดูเกมออนไลน์ยอดนิยมในตอนนี้สิ ไม่มีเกมไหนกล้าสร้างฉากที่มืดมนแบบนี้เลยเพราะพวกเขากลัวว่าพอเล่นไปนานๆ แล้วผู้เล่นจะรู้สึกหดหู่ใจ”

“อย่างนี้นี่เอง ได้บทเรียนดีๆ แล้ว!”

“ฉันคิดว่าเฉินโม่ทำผิดพลาด เขาไปไกลเกินไปที่จะสร้างเกมแฟนตาซีตะวันตกที่ไม่เหมือนใคร แต่เขาไม่เคยคิดว่าผู้เล่นจะยอมรับมันได้ไหม โดยเฉพาะรูปแบบศิลปะนี้มันมีข้อบกพร่องมากเกินไป! ดูอย่าง Dichao หรือ Chanyi Entertainment สิ มีบริษัทใหญ่รายไหนกล้าทำแบบนี้บ้าง”

“น่าทึ่งมาก ฉันได้เรียนรู้มากมายจากการวิเคราะห์ของคุณ!”

“ฉันคิดว่าเกมของเฉินโม่สามารถทำเงินได้แน่นอน แต่ทำเงินได้ไม่มาก อาจจะถึงจุดคุ้มทุน ไม่มีทางที่เกมนี้จะได้รับความนิยมเท่ากับเกมก่อนหน้าของเขา บางทีมันอาจจะได้รับการตอบรับอย่างดีในคนเฉพาะกลุ่ม แต่ไม่มีทางที่เกมนี้จะได้รับความนิยม”

“ก็ดี งั้นฉันสบายใจแล้ว!”

…………………

หลายคนในวงการและกลุ่มผู้เล่นต่างพูดถึงเกมใหม่ของเฉินโม่ แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้คาดหวังจากมันมากนัก

เหตุผลนั้นง่ายมาก พวกเขาคิดว่าเกม RPG แบบผู้เล่นเดี่ยวในมุมมองของบุคคลที่สามโดยพื้นฐานแล้วเป็นหนึ่งในประเภทเกมที่เก่าแก่ที่สุดและใกล้จะสูญพันธุ์ไปแล้ว

นอกจากนี้ ศักยภาพของเกมประเภทนี้ได้รับการสำรวจมาพอสมควรแล้ว เนื่องจากอุตสาหกรรมนี้ถูกครอบงำด้วยเกมมุมมองบุคคลที่หนึ่ง แล้วจำนวนผู้เล่นในเกม RPG แบบผู้เล่นเดี่ยวสไตล์เก่าแบบนี้ยังจะมีกี่คนที่ยังเล่นอยู่ นี่เป็นคำถามที่น่าสงสัย

………………………

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *