Almighty Game Designerบทที่ 6 เสพติดเกมนี้

Now you are reading Almighty Game Designer Chapter บทที่ 6 เสพติดเกมนี้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 6 เสพติดเกมนี้

ในการลองเล่นเกมครั้งแรกเขาได้ศูนย์คะแนน และนี่เป็นครั้งแรกที่ชิวเหิงหยางพบเจอกับสถานการณ์เช่นนี้

หลังจากนกตายจอภาพก็ขึ้นคำว่า game over ขึ้นมาซึ่งคะแนนในครั้งนี้และคะแนนที่ดีที่สุดได้ถูกบันทึกเป็นศูนย์ นอกจากนี้ยังมีการจัดอันดับคะแนนโดยแสดงให้เห็นว่าอันดับปัจจุบันของชิวเหิงหยางคือ “…” เห็นได้ชัดว่าคะแนนต่ำเกินไปที่จะรวมอยู่ในอันดับ

นอกจากนี้ชิวเหิงหยางยังสังเกตเห็นว่าที่ด้านบนของจอภาพมีหนึ่งในสี่ส่วนของหน้าจอว่างเปล่า โดยบนนั้นเขียนคำว่า ‘พื้นที่โฆษณา’

ชิวเหิงหยางพยักหน้าคำนี้เปลี่ยนความประทับใจของเขาที่มีต่อนักออกแบบเกมหมายเลขเจ็ดเล็กน้อย

ชิวเหิงหยางเป็นผู้ก่อตั้ง Hengyou.com และยังมีบทบาทในแนวหน้าของการพัฒนาเกม ดังนั้นเขาจึงให้ความสนใจเป็นพิเศษกับรูปแบบการทำกำไร และความสามารถในการทำกำไรของเกม

นักออกแบบเกมมือใหม่หลายคนมักมีปัญหานั่นก็คือในขณะที่ออกแบบเกมนั้นพวกเขาไม่ได้คำนึงถึงวิธีการทำเงินเลย

ในความเป็นจริงวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างรายได้จากเกมคืออะไร นักออกแบบเกมควรคิดให้ชัดเจนตั้งแต่ต้น

สำหรับเกมทั่วไปประเภทนี้การดาวน์โหลดต้องเสียเงินไหม มีติดตั้งโฆษณาในตัวไหม กลยุทธ์ค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันมีผลอย่างมากต่อตัวเกม

นักออกแบบเกมคนนี้รู้จักที่จะเว้น ‘พื้นที่โฆษณา’ ไว้ที่นี่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีความตระหนักด้านนี้ ดูแข็งแกร่งกว่านักออกแบบเกมที่มัวเสียเวลาทำเรื่องไม่เกิดประโยชน์แล้วยังมาคุยจ้ออีก

เขาแตะที่หน้าจอและเริ่มเกมอีกครั้ง

ครั้งนี้ชิวเหิงหยางเตรียมพร้อมแล้วเขาจิ้มที่หน้าจอไม่หยุด เป็นผลให้วิถีการบินของเจ้านกโง่ตัวนี้ควบคุมยากเกินไป ชิวเหิงหยางบินข้ามท่อน้ำสองท่อด้วยความโชคดี แต่แล้วก็มาตกหัวทิ่มบนท่อน้ำที่สาม

“แม่งเอ้ย!” ชิวเหิงหยางไม่ยอมแพ้ เขาต้องการเล่นอีกครั้ง

ห้านาทีต่อมา ชิวเหิงหยางตายไปแล้วหลายสิบครั้ง ไม่มีทางเลือก เกมนี้ตายง่ายเกินไป ต่อให้จะเล่นอย่างมีสมาธิเต็มที่ แต่ก็มีโอกาสมากที่จะล้มเหลวในสามสี่วินาที

หลังจากตายไปเขาก็คลิกเพื่อเริ่มเกมใหม่อีกครั้งโดยไม่จำเป็นต้องใช้เวลาคิดเลย เขาไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าตัวเองเล่นไปหลายครั้งแล้ว

คะแนนที่ดีที่สุดของชิวเหิงเหยางคือสิบสองซึ่งเป็นคะแนนที่ต้องพยายามอย่างเต็มที่เท่านั้นถึงจะคว้ามาได้

หลังจากพยายามมากกว่าสิบครั้ง ในที่สุดชิวเหิงหยางก็ได้ถึงสิบสี่คะแนน และรู้สึกว่าเขาสับสนเล็กน้อย

ชิวเหิงหยางสังเกตเห็นว่าในการจัดลำดับบนหน้าจอหลังจบเกม เขากลายเป็นอันดับที่หก

ชิวเหิงหยางลองคลิกเข้าไปดูแล้วพบว่ามีรายการจัดอันดับปรากฏขึ้น โดยเรียงคะแนนจากสูงไปต่ำ

แน่นอนว่าชื่อในการจัดลำดับทั้งหมดอยู่ในรูปแบบ VisitorXXXX

อย่างไรเฉินโม่ก็ไม่สามารถให้ผู้เล่นทุกคนกรอกชื่อ username ได้ตั้งแต่ต้นอยู่แล้วเพราะจะส่งผลต่อประสบการณ์การเล่นเกมอย่างมาก แต่สามารถแก้ไขชื่อของตนเองบนหน้าจอการจัดลำดับได้อย่างอิสระ

ชิวเหิงหยางเลื่อนลงมา และเขาอดตกใจไม่ได้ เพราะในการจัดอันดับมีทั้งสิ้นห้าร้อยสี่สิบสามคน!

มีผู้เล่นทั้งหมดเจ็ดร้อยคน โดยมีผู้เล่นมากกว่าห้าร้อยคนเล่นเกมเล็กๆ เกมนี้ นี่มันเหลือเชื่อจริงๆ! เป็นไปได้ยังไง

เดิมทีชิวเหิงหยางคิดว่าคนส่วนใหญ่คงไม่สนใจเกมนี้ แต่ไม่คาดคิดว่าจะมีคนชอบเกมแผลงๆ นี่มากกว่าที่คิด

ชิวเหิงหยางอดพอใจไม่ได้ผู้คนมากกว่าห้าร้อยคนอยู่ในอันดับที่หก ผลลัพธ์นี้ค่อนข้างคุ้มค่าที่จะอวด!

ชิวเหิงหยางคลิกที่ username ของเขาแล้วเปลี่ยนเป็นชื่อจริงของตน

เขาลองเลื่อนลงมา และพบว่าการจัดลำดับนี้มีการเปลี่ยนแปลงไม่หยุด ดูเหมือนว่าจะรีเฟรชทุกๆ 5-10 วินาที ซึ่งค่อนข้างบ่อยเลยทีเดียว

เมื่อเห็นชื่อของผู้คนเปลี่ยนอันดับขึ้นลงไม่หยุดหย่อน ชิวเหิงหยางมีความรู้สึกว่า ‘เกมนี้มีชีวิตชีวามาก’

พอเลื่อนกลับขึ้นไปชิวเหิงหยางก็ต้องตกตะลึงเพราะอันดับที่หนึ่งของการจัดอันดับนั้นมีคะแนนสูงถึงสี่สิบเจ็ดคะแนน!

เชี่ยเอ้ย ชิวเหิงหยางอยากตาย เขาทำได้ยังไง ไอเกมโรคจิตนี่สามารถทำคะแนนได้ถึงสี่สิบเจ็ดคะแนนเลยเหรอ โกงกันหรือเปล่า

พวกอันดับแรกๆ ไม่ได้เปลี่ยนชื่อของตนเอง คงยังไม่ค้นพบฟังก์ชันนี้

ชิวเหิงหยางไม่ยอมแพ้ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เขามีเพียงสิบสี่คะแนนซึ่งอยู่ในอันดับที่หกชั่วคราวเท่านั้น และเขาอาจถูกแซงได้ทุกเมื่อ

“เล่นต่ออีกห้านาที แล้วลองเกมอื่นแล้วกัน”

ชิวเหิงหยางปิดหน้าจอการจัดอันดับและเริ่มต่อสู้อีกครั้ง

………………………

สิบนาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผลลัพธ์ของ Super focuser ก็หมดลง

“เป็นเกมที่อธิบายไม่ได้จริงๆ…นี่ฉันเล่นมานานขนาดนี้เลยเหรอ แม่งเอ้ย”

ชายวัยกลางคนสวมแว่นกดออกจากเกม ‘flappybird’ จากนั้นก็มีกล่องข้อความเด้งขึ้นมาว่า ‘คุณอยากแนะนำเกมนี้ให้คนอื่นไหม’

ชายวัยกลางคนลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วกดเลือกปุ่ม ‘แนะนำ’ ส่วนเป็นเพราะอะไรนั้นเขาไม่อยากพูดเท่าไรนัก อาจเป็นเพราะมีความคิดที่ว่า ‘จะไม่ยอมให้ตัวเองถูกทรมานอยู่คนเดียว’ ละมั้งนะ

จนถึงตอนนี้การจัดอันดับของเกม ‘flappybird’ มีจำนวนถึง 589 คน และยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้น เป็นเพราะทุกคนมีพฤติกรรมที่คล้อยตาม

ผู้เล่นบางคนรู้จักกันเป็นการส่วนตัวเลยมีการเปรียบเทียบกันว่าใครจะได้คะแนนสูงกว่า อีกอย่างผู้เล่นยังสามารถดูหน้าจอของคนอื่นได้ หลังจากที่ได้เห็นผู้คนมากมายเล่นเกมนกนี้ทำให้ผู้เล่นบางคนที่ไม่ได้รับผลกระทบจาก Super Focuser ก็ถูกดึงดูดเช่นกัน

หลังจากประสิทธิภาพของ Super Focuser หมดลง ผู้เล่นมากกว่าครึ่งออกจากเกม แต่มีผู้เล่นจำนวนน้อยเท่านั้นที่เลือก ‘ไม่แนะนำ’ ส่วนผู้เล่นที่เหลือเลือก ‘แนะนำ’

สำหรับผู้เล่นที่เหลือ… แน่นอนว่าพวกเขายังคงทำคะแนนอย่างบ้าคลั่ง

หลินไห่สังเกตเห็นว่าฉื่อหัวเจ๋อนั่งอยู่ข้างๆ เขาสีหน้าดูไม่ค่อยดีนักจึงถามว่า “เป็นอะไร คุณไม่สบายหรือเปล่า”

ฉื่อหัวเจ๋อส่ายหน้า “อ้อ ไม่เป็นไร”

หลินไห่รู้สึกว่าสายตาของฉื่อหัวเจ๋อเป็นประกายวาววับ แต่พยายามซ่อนมันเอาไว้ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะสงสัยเล็กน้อย และนั่นทำให้เขาเหลือบมองไปที่หน้าจอของฉื่อหัวเจ๋อโดยไม่ได้ตั้งใจ สุดท้ายเขาก็พบว่ามันเป็นแผงคะแนนของเกม ‘flappybird’ : ‘คะแนนครั้งนี้ : 4 , คะแนนที่ดีที่สุด : 4 ’

หลินไห่รีบหันหน้าหนี เขาเกือบหัวเราะออกมาเสียงดังที่แท้ฉื่อหัวเจ๋อก็โกรธเรื่องนี้นี่เอง หลังจากเล่นไปสิบนาทีเต็ม คะแนนที่ดีที่สุดคือสี่คะแนน เขาไม่สามารถแม้แต่จะติดสองร้อยอันดับแรกในรายการการจัดอันดับด้วยซ้ำเป็นใครก็โกรธกันทั้งนั้น

หลินไห่ไม่ได้ถามอะไรอีก

ช่วงสัมผัสประสบการณ์เกมยังคงดำเนินต่อไปช่วงนี้กินเวลาทั้งหมดหนึ่งชั่วโมง และนี่เพิ่งผ่านไปเพียงสิบกว่านาที

ในบรรดาผู้ชมเจ็ดร้อยคนเกือบหกร้อยคนเคยเล่น ‘flappybird’ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ยังคงเล่นเกมนี้อยู่ และคนที่เหลือกำลังเล่นเกมอื่นๆ

เฉินโม่ไม่ได้รู้สึกกังวลในตอนที่พิธีกรแนะนำเกมก่อนหน้านี้เขามีความเข้าใจในระดับของเกมอื่นที่เข้าร่วมแข่งขันพอประมาณ ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วไม่อาจทนดูต่อไปได้

มีหนึ่งถึงสองเกมที่มีคุณภาพเหมาะสม ส่วนเกมอื่นๆ เฉินโม่รู้สึกไม่เข้าตาเลย ยังต้องมาเปรียบเทียบกับ ‘flappybird’ อยู่อีกเหรอ

อืม เอาแบบนี้แล้วกัน หน้าจอภาพ ทรัพยากร และความสมบูรณ์ของเนื้อหาของเกมเหล่านี้อยู่เหนือ ‘flappybird’ ทั้งหมด แต่มันสำคัญกว่าระยะเวลาของเกม และความเร็วของการแพร่กระจายจริงหรือ

ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ใคร แต่เขาหมายความว่าทุกคนที่นั่งอยู่ล้วนเป็นคนไม่มีความสามารถ

แน่นอนว่าหลังจากได้สัมผัสกับเกมอื่นๆ ผู้ชมส่วนใหญ่รีบปิดและเปิด ‘flappybird’ อีกครั้ง

เกมนี้ไม่เกี่ยวกับความสนุก แต่เน้นการทำคะแนนเป็นหลัก!

จะบอกว่าเสพติดเกมนี้ยังไง หลังจากเล่นไปสักระยะหนึ่งก็รู้สึกเบื่อแล้วยังรู้สึกทรมานอีกด้วย แต่ตราบใดที่ปิดมันเป็นเวลาห้านาทีคุณก็ต้องเปิดมันขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

เมื่อเห็นปฏิกิริยาของผู้ชมเฉินโม่ก็รู้สึกมั่นใจสิ่งเดียวที่เขากังวลในตอนนี้คือความเห็นของกรรมการตัดสินทั้งสามคน

หากกรรมการทั้งสามคนมีความเห็นเป็นเอกฉันท์แล้วเขาจะปฏิเสธอะไรได้ เช่นนั้นคงหมดหวังแล้ว!

อย่างไรก็ตามตราบใดที่มีกรรมการตัดสินหนึ่งคนเห็นชอบกับเกมของเขา อันดับหนึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเขาเอง!

……………………………..

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *