Almighty Game Designer 10 ชนะขาดลอย

Now you are reading Almighty Game Designer Chapter 10 ชนะขาดลอย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ซือฮัวเจ๋อไม่พูดอะไร แม้ว่าฉิวเหริงหยางจะเป็นรุ่นเยาว์แต่ทั้งคู่ก็เป็นนักออกแบบระดับ B ฉิวเหริงหยางก็ยังทำงานสาย R&D ด้วยเหมือนกัน ถ้าพวกเขาโต้เถียงกันต่อ ทั้งคู่จะรู้สึกอึดอัดใจกันเปล่าๆ อีกอย่างซือฮัวเจ๋อคิดว่าต่อยตีฉิวเหริงหยางไม่ได้อยู่แล้ว

เขาจึงเงียบไปครู่หนึ่ง

พิธีกรรู้สึกถึงบรรยากาศน่ากังวลท่ามกลางกรรมการ เขาก็รีบพูดออกมาว่า “เอาล่ะครับ ขอขอบคุณอาจารย์ทั้งสามท่านสำหรับความคิดเห็นนะครับ อันที่จริงผมคิดว่าเกมจะสร้างความไม่พอใจให้ทุกคนเสียอีก บางคนชอบแต่บางคนไม่ชอบ นี่เป็นเรื่องปกติครับ ไม่มีถูกหรือผิด อีกทั้งการตัดสินสุดท้ายก็ยังอยู่ในมือของผู้ชมทุกคน แล้วโปรดขอให้ผู้ชมทำการแนะนำครั้งที่สองกันเถอะครับ”

พิธีกรช่วยสร้างหนทางลงให้กรรมการทั้งสองท่าน ใบหน้าซือฮัวเจ๋อก็ค่อยๆ ดีขึ้นเล็กน้อย

ขั้นตอนต่อไป ผู้ชมจะทำการแนะนำเกมอีกครั้งแต่เห็นได้ชัดว่าช่วงเวลานี้โฟกัสของทุกคนต่างก็อยู่ที่เกมทั้งสอง <ฟลับฟี้เบิร์ด> และ <ฮันเตอร์ไอแลนด์> กันแล้ว

เกมอื่นไร้สามารถที่จะก้าวข้าม <ฟลับฟี้เบิร์ด> อีกต่อไป กุญแจสำคัญคือการดูการแนะนำ <ฮันเตอร์ไอแลนด์> นั้นจะได้เท่าไหร่ในรอบสุดท้ายนี้

ทุกคนต่างพากันรู้สึกลังเล

“นายโหวตให้เกมไหนเหรอ?”

“ฉันคิดว่าอาจารย์ซือพูดเข้าท่าน่ะ เกม <ฟลับฟี้เบิร์ด> ง่ายเกินไปไหม? มันได้แชมป์คุ้มค่าแล้วเหรอ?”

“งั้นนายจะโหวต <ฮันเตอร์ไอแลนด์> ?”

“โอ๊ บอกยากอ่ะ ถึงฉันจะรู้สึกว่าฮันเตอร์ไอแลนด์สร้างมาดีกว่า มันก็ไม่สนุกเหมือน <ฟลับฟี้เบิร์ด> หนิ”

“แล้วนายจะลังเลทำเพื่อ? อาจารย์ฉิวเหริงหยางก็พูดมีเหตุผล ฉันจะโหวตให้ <ฟลับฟี้เบิร์ด> เหมือนเดิม”

“ฉันก็จะโหวตให้ <ฟลับฟี้เบิร์ด> เหมือนกัน”

“รีบโหวตกันเถอะ ฉันไม่อยากถูกทรมานคนเดียว”

ไม่นานนักข้อมูลสถิติใหม่ก็ออกมา

<ฟลับฟี้เบิร์ด> ได้รับการแนะนำ 1037 ครั้ง

<ฮันเตอร์ไอแลนด์> ได้รับการแนะนำ 537 ครั้ง

<ฮันเตอร์ไอแลนด์> ต้องการการแนะนำมากกว่า 128 ครั้งถึงจะก้าวข้าม <ฟลับฟี้เบิร์ด> เพื่อชิงตำแหน่งที่หนึ่งได้อย่างสมบรูณ์ เห็นได้ชัดว่าไม่มีหวัง

ยิ่งกว่านั้น <ฟลับฟี้เบิร์ด> ในรอบสองยังเก็บเกี่ยวการแนะนำไปอีกเกือบ 500 ครั้ง ซึ่งเป็นชัยชนะเหนือกว่าเกมทั้งหมด!

พิธีกรพูด “เอาล่ะครับ ผลลัพธ์สุดท้ายก็ได้เผยออกมาแล้ว ตามกฎ <ฟลับฟี้เบิร์ด> ได้พิสูจน์ความรักจากผู้ชมด้วยอันดับที่หนึ่งไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาและจำนวนการแนะนำเกม แต่ก่อนอื่นมาดูกันที่ความคิดเห็นของกรรมการทั้งสามท่านกันก่อน ถ้ากรรมการทั้งสามท่านเห็นพร้อมต้องกันว่ามันไม่คู่ควรกับอันดับที่หนึ่ง แล้วก็น่าเสียดายที่เราต้องยกเลิกคุณสมบัติของมัน”

“กรรมการทั้งสามท่าน ความคิดเห็นของท่านคืออะไรครับ?”

พิธีกรมองไปที่กรรมการทั้งสามคน

ซือฮัวเจ๋อและหลินไห่ไม่พูดอะไร

เพื่อตัดสิทธิ์เกมแล้ว กรรมการทั้งสามคนจะต้องเห็นพร้อมต้องกัน ท่าทีของฉิวเหริงหยางเห็นได้อย่างชัดเจน ต่อให้ซือฮัวเจ๋อและหลินไห่คัดค้านก็ไม่มีผลอะไรอีก ทั้งสองจึงไม่พูดอะไรออกมา

ฉิวเหริงหยางขยับไมค์โครโฟน “ฉันรู้จักเกมนี้ดี ฉันคิดว่ามันสมควรได้รับอันดับที่หนึ่งในการแข่งขันออกแบบเกมครั้งนี้”

พิธีกรพยักหน้า “เอาละครับ! ถ้างั้นตำแหน่งอันดับที่หนึ่งในการแข่งขันออกแบบเกมของเราก็เป็นอันเลือกแล้วนั่นก็คือนักออกแบบหมายเลข 7 นักออกแบบที่ออกแบบ <ฟลับฟี้เบิร์ด> !”

“ต่อไป เราก็ขอเชิญนักออกแบบหมายเลข 7 ก้าวขึ้นมาบนเวทีเพื่อรับรางวัล คุณจะได้รับเงินทุน R&D 300000 หยวน คุณสมบัตินักออกแบบเกมระดับ D และร้านสัมผัสประสบการณ์ส่วนตัวที่จัดหามาจากผู้จัดงาน ขอแสดงความยินดีด้วยครับ!”

เฉินโม่ลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วเดินไปบนเวที

ผู้ชมและผู้เล่นต่างพากันรอดู ทุกคนต้องการเห็นว่าเด็กหนุ่มคนไหนคือนักออกแบบเกมสมองเพี้ยนคนนี้

อาจจะมีผู้ชมถึงครึ่งหนึ่งที่ต้องการกระชากผมของเฉินโม่มาซักถามว่า “นายเป็นพวกต่อต้านสังคมใช่ไหม! ทำไมนายถึงพัฒนาเกมนอกรีตอย่างนั้น! ทำไมห๊า!”

แน่นอนว่าพวกเขาทำได้แค่คิด

ทว่าปฏิกิริยาของเฉินโม่สงบนิ่งอย่างมาก ไม่มีอารมณ์ยินดียินร้ายอะไรราวกับว่าเขาคาดการณ์เรื่องนี้ไว้แล้วว่าจะเกิดขึ้น

ราวกับว่าเขาแค่เพียงเดินผ่านเวทีมาเพื่อรับรางวัลเท่านั้น

“ขอแสดงความยินดีด้วยครับ”

พิธีกรและเฉินโม่จับมือแสดงความยินดีกัน แล้วส่งมอบถ้วยรางวัลเกมให้กับมือเฉินโม่

“การแข่งขันจบแล้วจะมีทีมงานติดต่อคุณแล้วโอนโบนัสไปยังบัญชีของคุณทีหลังน่ะครับ นอกจากนี้ร้านสัมผัสประสบการณ์จะส่งมอบให้โดยเฉพาะซึ่งจะมีการหารือกันอีกทีกับทีมงาน”

เฉินโม่พยักหน้า

พิธีกรพูดขึ้นดังกังวาล “ดังนั้นให้เราปรบมือแสดงความยินดีกับนักออกแบบหมายเลข 7 เฉินโม่!”

ผู้ชมปรบมือดังสนั่น นักข่าวรอบๆ พากันกดแฟลชกันวูบวาบ เขาถือถ้วยรางรัลแล้วยิ้มอย่างสุภาพ

เห็นอย่างนี้เสียงปรบมือก็ดังยิ่งขึ้น

“แค๊กๆ คุณพิธีกร ผมขอพูดอะไรสักสองสามคำได้ไหม?”

พิธีกรตกตะลึงและหันหน้าไปเห็นซือฮัวเจ๋อที่กำลังจะพูด

คุณหมายถึงอะไร?

พิธีกรลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ตามระเบียบการแล้วอันที่จริงการแข่งขันออกแบบเกมทั้งหมดเสร็จสิ้นหมดแล้ว ความคิดเห็นก็พูดไปแล้ว คุณยังจะมีอะไรให้พูดอีก?

แต่ซือฮัวเจ๋อขยับไมค์โครโฟนเตรียมไว้แล้ว จึงไม่มีเหตุผลที่จะห้ามอะไรได้อีก พิธีกรก็พยักหน้า “ได้ครับ ท่านอาจารย์พูดได้เลย”

เสียงปรบมือค่อยๆ เงียบหาย เหล่าผู้ชมต่างพากันสงสัยว่าซือฮัวเจ๋อจะพูดอะไร

ซือฮัวเจ๋อล้างลำคอแล้วพูดกับเฉินโม่ “อย่างแรก ขอแสดงความยินดีกับการได้อันดับที่หนึ่ง”

เฉินโม่พยักหน้า “ขอบคุณครับ”

ซือฮัวเจ๋อพูดต่อ “ฉันอยากแชร์ประสบการณ์บางอย่างกับเธอในฐานะอาวุโส เธออยากฟังไหม?”

เฉินโม่ยิ้มแล้วพยักหน้า “ครับ โปรดพูดมาได้เลย”
ซือฮัวเจ๋อพูด “ฉันคิดว่าในฐานะคนหนุ่มสาว ไอเดียของเธอไม่เหมือนใครจริงๆ ไอเดียของเธอนั้นสร้างเกมที่แตกต่างออกมา สิ่งนี้เก่งกาจเอามากๆ แต่การสร้างเกมใช่ว่าจะเกี่ยวข้องกับไอเดียเสียทีเดียว ต่อให้มีไอเดียเหลือล้นบางครั้งก็อาจจะทำให้เธอร่วงลงมาได้”

“ในการสร้างเกม เธอยังจะต้องฝึกฝนอีกมาก และวางเท้าบนพื้นดินให้มั่นแทนที่จะอาศัยช่องโหว่เพื่อสร้างเกมที่นิยมชั่วคราวที่อยู่ไม่ได้นาน”

“ยกตัวอย่างเกมนี้ จากมุมมองของฉันอันที่จริงเธอไม่ได้นำพาอารมณ์หรือความสุขอะไรมาสู่ผู้ชมเลยแต่กลับอาศัยอารมณ์ด้านลบของพวกเขามาแทน ทำให้ฉันรู้สึกอารมณ์เสียมาก”

“ฉันหวังว่าเธอจะหันกลับมาจากหนทางที่ผิดโดยเร็วน่ะ อย่าดำดิ่งไปเพราะรางวัลนี้มันจะเป็นอันตรายต่อตัวเธอเอง เข้าใจไหม?”

ตอนที่ซือฮัวเจ๋อพูดจบ บรรยากาศในสนามแข่งก็อึมครึมเล็กน้อย

แม้ว่าจะเต็มไปด้วยคำพูดที่ยิ่งใหญ่แต่ความหมายโดยนัยชัดเจน ตามที่พูดนั้นเฉินโม่อาศัยความโชคดี แต่ถ้าใครสร้างเกมที่คล้ายกันแน่นอนเลยว่าตายตก

เห็นได้ชัดว่าซือฮัวเจ๋อยังคงรู้สึกขุ่นเคือง เขาไม่อาจจะเผชิญหน้าโต้เถียงกับฉิวเหริงหยางได้ แต่เขาจะไม่ยอมรับว่าตัวเองที่ผิด เขาจึงพูดอย่างนั้นเพื่อระบายความโกรธใส่เฉินโม่

การหาเรื่องฉิวเหริงหยางมีแต่เสี่ยงอย่างมาก ถ้าฉิวเหริงหยางโกรธขึ้นมาและทั้งคู่โต้เถียงกัน ซือฮัวเจ๋อจะมีแต่เสียเปรียบ อย่างไรก็ตามการหาเรื่องเฉินโม่ไม่มีความเสี่ยง นักออกแบบเกมที่เพิ่งเริ่มต้นอาชีพ อย่างมากเจ้าตัวก็แค่พยักหน้าและพูดอย่างนอบน้อมว่า “ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ” ต่อให้เขามีความเห็นก็ทำได้เพียงเก็บไว้ในใจเท่านั้น

ฉิวเหริงหยางจะไม่เข้าใจความคิดซือฮัวเจ๋อได้ยังไง แต่ซือฮัวเจ๋อไม่ได้มุ่งเป้ามาที่ตัวเอง ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาทำตัวโดดเด่น เขาทำได้แค่มองดูเฉินโม่ถูกตำหนิจนเป็นใบ้เท่านั้น

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Almighty Game Designer 10 ชนะขาดลอย

Now you are reading Almighty Game Designer Chapter 10 ชนะขาดลอย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ซือฮัวเจ๋อไม่พูดอะไร แม้ว่าฉิวเหริงหยางจะเป็นรุ่นเยาว์แต่ทั้งคู่ก็เป็นนักออกแบบระดับ B ฉิวเหริงหยางก็ยังทำงานสาย R&D ด้วยเหมือนกัน ถ้าพวกเขาโต้เถียงกันต่อ ทั้งคู่จะรู้สึกอึดอัดใจกันเปล่าๆ อีกอย่างซือฮัวเจ๋อคิดว่าต่อยตีฉิวเหริงหยางไม่ได้อยู่แล้ว

เขาจึงเงียบไปครู่หนึ่ง

พิธีกรรู้สึกถึงบรรยากาศน่ากังวลท่ามกลางกรรมการ เขาก็รีบพูดออกมาว่า “เอาล่ะครับ ขอขอบคุณอาจารย์ทั้งสามท่านสำหรับความคิดเห็นนะครับ อันที่จริงผมคิดว่าเกมจะสร้างความไม่พอใจให้ทุกคนเสียอีก บางคนชอบแต่บางคนไม่ชอบ นี่เป็นเรื่องปกติครับ ไม่มีถูกหรือผิด อีกทั้งการตัดสินสุดท้ายก็ยังอยู่ในมือของผู้ชมทุกคน แล้วโปรดขอให้ผู้ชมทำการแนะนำครั้งที่สองกันเถอะครับ”

พิธีกรช่วยสร้างหนทางลงให้กรรมการทั้งสองท่าน ใบหน้าซือฮัวเจ๋อก็ค่อยๆ ดีขึ้นเล็กน้อย

ขั้นตอนต่อไป ผู้ชมจะทำการแนะนำเกมอีกครั้งแต่เห็นได้ชัดว่าช่วงเวลานี้โฟกัสของทุกคนต่างก็อยู่ที่เกมทั้งสอง <ฟลับฟี้เบิร์ด> และ <ฮันเตอร์ไอแลนด์> กันแล้ว

เกมอื่นไร้สามารถที่จะก้าวข้าม <ฟลับฟี้เบิร์ด> อีกต่อไป กุญแจสำคัญคือการดูการแนะนำ <ฮันเตอร์ไอแลนด์> นั้นจะได้เท่าไหร่ในรอบสุดท้ายนี้

ทุกคนต่างพากันรู้สึกลังเล

“นายโหวตให้เกมไหนเหรอ?”

“ฉันคิดว่าอาจารย์ซือพูดเข้าท่าน่ะ เกม <ฟลับฟี้เบิร์ด> ง่ายเกินไปไหม? มันได้แชมป์คุ้มค่าแล้วเหรอ?”

“งั้นนายจะโหวต <ฮันเตอร์ไอแลนด์> ?”

“โอ๊ บอกยากอ่ะ ถึงฉันจะรู้สึกว่าฮันเตอร์ไอแลนด์สร้างมาดีกว่า มันก็ไม่สนุกเหมือน <ฟลับฟี้เบิร์ด> หนิ”

“แล้วนายจะลังเลทำเพื่อ? อาจารย์ฉิวเหริงหยางก็พูดมีเหตุผล ฉันจะโหวตให้ <ฟลับฟี้เบิร์ด> เหมือนเดิม”

“ฉันก็จะโหวตให้ <ฟลับฟี้เบิร์ด> เหมือนกัน”

“รีบโหวตกันเถอะ ฉันไม่อยากถูกทรมานคนเดียว”

ไม่นานนักข้อมูลสถิติใหม่ก็ออกมา

<ฟลับฟี้เบิร์ด> ได้รับการแนะนำ 1037 ครั้ง

<ฮันเตอร์ไอแลนด์> ได้รับการแนะนำ 537 ครั้ง

<ฮันเตอร์ไอแลนด์> ต้องการการแนะนำมากกว่า 128 ครั้งถึงจะก้าวข้าม <ฟลับฟี้เบิร์ด> เพื่อชิงตำแหน่งที่หนึ่งได้อย่างสมบรูณ์ เห็นได้ชัดว่าไม่มีหวัง

ยิ่งกว่านั้น <ฟลับฟี้เบิร์ด> ในรอบสองยังเก็บเกี่ยวการแนะนำไปอีกเกือบ 500 ครั้ง ซึ่งเป็นชัยชนะเหนือกว่าเกมทั้งหมด!

พิธีกรพูด “เอาล่ะครับ ผลลัพธ์สุดท้ายก็ได้เผยออกมาแล้ว ตามกฎ <ฟลับฟี้เบิร์ด> ได้พิสูจน์ความรักจากผู้ชมด้วยอันดับที่หนึ่งไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาและจำนวนการแนะนำเกม แต่ก่อนอื่นมาดูกันที่ความคิดเห็นของกรรมการทั้งสามท่านกันก่อน ถ้ากรรมการทั้งสามท่านเห็นพร้อมต้องกันว่ามันไม่คู่ควรกับอันดับที่หนึ่ง แล้วก็น่าเสียดายที่เราต้องยกเลิกคุณสมบัติของมัน”

“กรรมการทั้งสามท่าน ความคิดเห็นของท่านคืออะไรครับ?”

พิธีกรมองไปที่กรรมการทั้งสามคน

ซือฮัวเจ๋อและหลินไห่ไม่พูดอะไร

เพื่อตัดสิทธิ์เกมแล้ว กรรมการทั้งสามคนจะต้องเห็นพร้อมต้องกัน ท่าทีของฉิวเหริงหยางเห็นได้อย่างชัดเจน ต่อให้ซือฮัวเจ๋อและหลินไห่คัดค้านก็ไม่มีผลอะไรอีก ทั้งสองจึงไม่พูดอะไรออกมา

ฉิวเหริงหยางขยับไมค์โครโฟน “ฉันรู้จักเกมนี้ดี ฉันคิดว่ามันสมควรได้รับอันดับที่หนึ่งในการแข่งขันออกแบบเกมครั้งนี้”

พิธีกรพยักหน้า “เอาละครับ! ถ้างั้นตำแหน่งอันดับที่หนึ่งในการแข่งขันออกแบบเกมของเราก็เป็นอันเลือกแล้วนั่นก็คือนักออกแบบหมายเลข 7 นักออกแบบที่ออกแบบ <ฟลับฟี้เบิร์ด> !”

“ต่อไป เราก็ขอเชิญนักออกแบบหมายเลข 7 ก้าวขึ้นมาบนเวทีเพื่อรับรางวัล คุณจะได้รับเงินทุน R&D 300000 หยวน คุณสมบัตินักออกแบบเกมระดับ D และร้านสัมผัสประสบการณ์ส่วนตัวที่จัดหามาจากผู้จัดงาน ขอแสดงความยินดีด้วยครับ!”

เฉินโม่ลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วเดินไปบนเวที

ผู้ชมและผู้เล่นต่างพากันรอดู ทุกคนต้องการเห็นว่าเด็กหนุ่มคนไหนคือนักออกแบบเกมสมองเพี้ยนคนนี้

อาจจะมีผู้ชมถึงครึ่งหนึ่งที่ต้องการกระชากผมของเฉินโม่มาซักถามว่า “นายเป็นพวกต่อต้านสังคมใช่ไหม! ทำไมนายถึงพัฒนาเกมนอกรีตอย่างนั้น! ทำไมห๊า!”

แน่นอนว่าพวกเขาทำได้แค่คิด

ทว่าปฏิกิริยาของเฉินโม่สงบนิ่งอย่างมาก ไม่มีอารมณ์ยินดียินร้ายอะไรราวกับว่าเขาคาดการณ์เรื่องนี้ไว้แล้วว่าจะเกิดขึ้น

ราวกับว่าเขาแค่เพียงเดินผ่านเวทีมาเพื่อรับรางวัลเท่านั้น

“ขอแสดงความยินดีด้วยครับ”

พิธีกรและเฉินโม่จับมือแสดงความยินดีกัน แล้วส่งมอบถ้วยรางวัลเกมให้กับมือเฉินโม่

“การแข่งขันจบแล้วจะมีทีมงานติดต่อคุณแล้วโอนโบนัสไปยังบัญชีของคุณทีหลังน่ะครับ นอกจากนี้ร้านสัมผัสประสบการณ์จะส่งมอบให้โดยเฉพาะซึ่งจะมีการหารือกันอีกทีกับทีมงาน”

เฉินโม่พยักหน้า

พิธีกรพูดขึ้นดังกังวาล “ดังนั้นให้เราปรบมือแสดงความยินดีกับนักออกแบบหมายเลข 7 เฉินโม่!”

ผู้ชมปรบมือดังสนั่น นักข่าวรอบๆ พากันกดแฟลชกันวูบวาบ เขาถือถ้วยรางรัลแล้วยิ้มอย่างสุภาพ

เห็นอย่างนี้เสียงปรบมือก็ดังยิ่งขึ้น

“แค๊กๆ คุณพิธีกร ผมขอพูดอะไรสักสองสามคำได้ไหม?”

พิธีกรตกตะลึงและหันหน้าไปเห็นซือฮัวเจ๋อที่กำลังจะพูด

คุณหมายถึงอะไร?

พิธีกรลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ตามระเบียบการแล้วอันที่จริงการแข่งขันออกแบบเกมทั้งหมดเสร็จสิ้นหมดแล้ว ความคิดเห็นก็พูดไปแล้ว คุณยังจะมีอะไรให้พูดอีก?

แต่ซือฮัวเจ๋อขยับไมค์โครโฟนเตรียมไว้แล้ว จึงไม่มีเหตุผลที่จะห้ามอะไรได้อีก พิธีกรก็พยักหน้า “ได้ครับ ท่านอาจารย์พูดได้เลย”

เสียงปรบมือค่อยๆ เงียบหาย เหล่าผู้ชมต่างพากันสงสัยว่าซือฮัวเจ๋อจะพูดอะไร

ซือฮัวเจ๋อล้างลำคอแล้วพูดกับเฉินโม่ “อย่างแรก ขอแสดงความยินดีกับการได้อันดับที่หนึ่ง”

เฉินโม่พยักหน้า “ขอบคุณครับ”

ซือฮัวเจ๋อพูดต่อ “ฉันอยากแชร์ประสบการณ์บางอย่างกับเธอในฐานะอาวุโส เธออยากฟังไหม?”

เฉินโม่ยิ้มแล้วพยักหน้า “ครับ โปรดพูดมาได้เลย”
ซือฮัวเจ๋อพูด “ฉันคิดว่าในฐานะคนหนุ่มสาว ไอเดียของเธอไม่เหมือนใครจริงๆ ไอเดียของเธอนั้นสร้างเกมที่แตกต่างออกมา สิ่งนี้เก่งกาจเอามากๆ แต่การสร้างเกมใช่ว่าจะเกี่ยวข้องกับไอเดียเสียทีเดียว ต่อให้มีไอเดียเหลือล้นบางครั้งก็อาจจะทำให้เธอร่วงลงมาได้”

“ในการสร้างเกม เธอยังจะต้องฝึกฝนอีกมาก และวางเท้าบนพื้นดินให้มั่นแทนที่จะอาศัยช่องโหว่เพื่อสร้างเกมที่นิยมชั่วคราวที่อยู่ไม่ได้นาน”

“ยกตัวอย่างเกมนี้ จากมุมมองของฉันอันที่จริงเธอไม่ได้นำพาอารมณ์หรือความสุขอะไรมาสู่ผู้ชมเลยแต่กลับอาศัยอารมณ์ด้านลบของพวกเขามาแทน ทำให้ฉันรู้สึกอารมณ์เสียมาก”

“ฉันหวังว่าเธอจะหันกลับมาจากหนทางที่ผิดโดยเร็วน่ะ อย่าดำดิ่งไปเพราะรางวัลนี้มันจะเป็นอันตรายต่อตัวเธอเอง เข้าใจไหม?”

ตอนที่ซือฮัวเจ๋อพูดจบ บรรยากาศในสนามแข่งก็อึมครึมเล็กน้อย

แม้ว่าจะเต็มไปด้วยคำพูดที่ยิ่งใหญ่แต่ความหมายโดยนัยชัดเจน ตามที่พูดนั้นเฉินโม่อาศัยความโชคดี แต่ถ้าใครสร้างเกมที่คล้ายกันแน่นอนเลยว่าตายตก

เห็นได้ชัดว่าซือฮัวเจ๋อยังคงรู้สึกขุ่นเคือง เขาไม่อาจจะเผชิญหน้าโต้เถียงกับฉิวเหริงหยางได้ แต่เขาจะไม่ยอมรับว่าตัวเองที่ผิด เขาจึงพูดอย่างนั้นเพื่อระบายความโกรธใส่เฉินโม่

การหาเรื่องฉิวเหริงหยางมีแต่เสี่ยงอย่างมาก ถ้าฉิวเหริงหยางโกรธขึ้นมาและทั้งคู่โต้เถียงกัน ซือฮัวเจ๋อจะมีแต่เสียเปรียบ อย่างไรก็ตามการหาเรื่องเฉินโม่ไม่มีความเสี่ยง นักออกแบบเกมที่เพิ่งเริ่มต้นอาชีพ อย่างมากเจ้าตัวก็แค่พยักหน้าและพูดอย่างนอบน้อมว่า “ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ” ต่อให้เขามีความเห็นก็ทำได้เพียงเก็บไว้ในใจเท่านั้น

ฉิวเหริงหยางจะไม่เข้าใจความคิดซือฮัวเจ๋อได้ยังไง แต่ซือฮัวเจ๋อไม่ได้มุ่งเป้ามาที่ตัวเอง ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาทำตัวโดดเด่น เขาทำได้แค่มองดูเฉินโม่ถูกตำหนิจนเป็นใบ้เท่านั้น

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+