บทที่ 297 พวกฉวยโอกาส

แน่นอนว่า Garen ยกดาบใหญ่ในมือขึ้นแล้วรีบวิ่งไปพร้อมตะโกนเสียงดัง “Demacia!”

“แม่ง!”

เจี่ยเผิงตกตะลึงเพราะเขาเพิ่งมาถึงตำแหน่ง BUFF สีน้ำเงินและยังอยู่ห่างจาก Top Laner อีกมาก Garen อยู่ในสภาพย่ำแย่ เหลือพลังชีวิตเพียงครึ่งเดียว

แน่นอนว่าหลังจากที่ Garen เห็นสัญญาณ เขาก็รีบวิ่งไปโดยไม่ดูว่า Blademaster อยู่ที่ไหนด้วยซ้ำ

“พี่ชาย รอผมไปก่อน!”

เจี่ยเผิงไม่มีเวลาพิมพ์ หลังจากที่ Garen พุ่งขึ้นมา เขาก็ถูกกระแทกขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ และจากนั้นเขาก็ถูก Blademaster ของคู่ต่อสู้โจมตีอย่างบ้าคลั่ง แม้จะมีทักษะ W ของเขา แต่เขาก็ยังไม่สามารถต้านทานมันได้

เมื่อเจี่ยเผิงมาถึง Garen ก็กลายเป็นศพไปแล้ว

โชคดีที่ฮีโร่ฝ่ายตรงข้ามทั้งสองไม่มีทักษะเหลืออยู่ ปริมาณเลือดของพวกเขาก็น้อยมาก Blademaster ของเจี่ยเผิงเปิดใช้งาน Highlander และรีบวิ่งไปพร้อมยกดาบยาวในมือของเขาขึ้น

Alpha Strike!

ร่างของ Blademaster กลายเป็นลำแสงตัด The Thing เลือดต่ำได้โดยตรง แม้ว่า Blademaster จะไม่มี BUFF สีแดงและเอฟเฟ็กต์ลดความเร็วอีกต่อไป แต่ Blademaster เคลื่อนที่เร็วมาก ฮีโร่ฝ่ายตรงข้ามทั้งสองยังอยู่ห่างจากหอคอยป้องกันมาก ดังนั้น The Thing จึงตกลงอย่างรวดเร็ว

หลังจากเปิดการเคลื่อนไหวขั้นสูงสุดของ Highlander ทักษะของ Blademaster จะติดตั้งทักษะใหม่ ดังนั้น Blademaster จึงใช้ Alpha Strike อีกครั้งและสังหาร Blademaster ฝั่งศัตรูด้วยการฟันเพียงไม่กี่ครั้ง

The Wuji Bladesman ที่เปิดใช้งาน Highlander กำลังวิ่งไปรอบๆ เหมือนสุนัขบ้าโดยทิ้งภาพติดตาไว้ข้างหลังเขา ดูเท่มาก

เสียงของระบบดังก้องไปทั่วเวที “ฟันไม่ยั้ง!”

Garen “Blademaster ทำไมคุณไม่รีบขึ้นมาละ”

The Wuji Bladesman “…”

เจี่ยเผิงไม่รู้จะอธิบายยังไง ปล่อยไปแบบนี้แล้วกัน ยังไงก็ฉวยโอกาสมาแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ก็ดี

………………

การฆ่าสี่ครั้งแต่ไม่ตายคือ ‘ฟันไม่ยั้ง’ แต่ฆ่าแปดครั้งแล้วไม่ตายเรียกว่า ‘เทพสังหารหมู่’

เฉินโม่ยังต้องดิ้นรนกับเสียงของระบบที่เกี่ยวข้องอยู่พักหนึ่ง เหตุผลหลักก็คือมีคำบางคำเช่น ‘หยดเลือดหยดแรก’ ซึ่งฟังดูไม่ค่อยน่าประทับใจในภาษาจีน ดังนั้นในชีวิตก่อนของเฉินโม่ แม้แต่เกมสไตล์จีนอย่าง ‘League of King’ ก็ยังมีการออกเสียงภาษาอังกฤษเช่น ’FIRST BLOOD‘ และ ’PENTA KILL‘

อย่างไรก็ตาม เฉินโม่ยังถือว่าในชีวิตก่อนของเขา เกม MOBA ประเภทนี้เป็นเกมที่นำเข้ามาและผู้เล่นก็คุ้นเคยกับเสียงภาษาอังกฤษแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงเก็บเอฟเฟ็กต์เสียงภาษาอังกฤษไว้

อย่างไรก็ตาม ‘League of Legends’ ที่เฉินโม่พัฒนามุ่งเป้าไปที่ผู้เล่นในประเทศที่ไม่เคยเล่นเกม MOBA มาก่อน หากมีการออกเสียงภาษาอังกฤษมากเกินไป ผู้เล่นจะสับสน

หลังจากไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว เฉินโม่ก็ตัดสินใจเก็บเฉพาะ ’FIRST BLOOD‘ ’DOUBLE KILL‘ ’TRIPLE KILL‘ ’QUADRA KILL‘ และ ’PENTA KILL‘ เท่านั้น และแทนที่เสียงอื่นๆ ทั้งหมดด้วยภาษาจีน

เอฟเฟ็กต์เสียงสังหารเปลี่ยนเป็น ‘ฟันไม่ยั้ง’ ‘หยุดไม่ได้’ ‘คุมเกม’ ‘สังหารหมู่ขั้นเทพ’ และ ‘เทพสังหารหมู่’

หลังจากที่นักพากย์ตะโกนคำเหล่านี้เป็นภาษาจีนด้วยอารมณ์อันแรงกล้าก็ให้ความรู้สึกค่อนข้างสมจริงและไม่รู้สึกผิดแปลกเกินไป

แน่นอนว่าเฉินโม่พิจารณาว่าจะมีเวอร์ชันต่างประเทศในอนาคตและบางคนอาจมีความชอบอย่างอื่น ดังนั้นเขาจึงสร้างชุดเสียงภาษาอังกฤษเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้เล่นสามารถสลับระหว่างเสียงเหล่านั้นได้อย่างอิสระ

………………

เหวินหลิงเวยอยู่ที่ Mid Laner กับ Twisted Fate ของคู่ต่อสู้ ทั้งสองคนไม่สามารถฆ่าอีกฝ่ายได้ พวกเขาเดินกลับฝั่งตัวเองด้วยพลังชีวิตที่ต่ำ หลังจากเล่นมาสิบนาทีแล้วไม่มีฝั่งไหนตาย

ไม่มีใครอยู่ทั้ง Top และ Bot Laner มีแต่ฝ่ายหนุนจำนวนมาก ซึ่งทั้งหมดถูกยึดครองโดย Blademaster ของเจี่ยเผิง

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อจำนวนการฆ่าของ Blademaster มากขึ้นเรื่อยๆ อุปกรณ์ของเขาก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ในไม่ช้าเขาก็บดขยี้อุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็ว

ในท้ายที่สุด ตราบใดที่เจี่ยเผิงเห็นคอมพิวเตอร์ เขาก็เปิด Highlander ของเขาทันทีและรีบเร่งสังหารด้วยการฟันเพียงไม่กี่ครั้ง

Blademaster ไม่เพียงแต่ฆ่าคนได้เร็วเท่านั้น แต่เขายังเร็วในการทำลายหอคอยอีกด้วย อีกสี่คนติดตามเขาไปตลอดทางระเบิด Nexus ของคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็ว และได้รับชัยชนะ

ในท้ายที่สุด คะแนนของ Blademaster อยู่ที่ 13/0/4 จำนวนคนส่วนใหญ่ถูกเขาสังหารจนหมด

ฉางซิ่วหย่าพูดด้วยอารมณ์ “ว้าว เจี่ยเผิง นายน่าทึ่งมาก!”

เจี่ยเผิงเกาหัวเล็กน้อยด้วยความเขิน “ไม่หรอก แค่โชคดีน่ะ”

เหวินหลิงเวยพูด “ก็แค่ผู้เล่นที่ไม่ให้ความร่วมมือคนหนึ่ง”

เจี่ยเผิงกระแอม “อะแฮ่ม ฉันไม่ชอบฟังคำพูดนี้เลย ผู้เล่นที่ไม่ให้ความร่วมมือคืออะไร คนที่อาศัยทักษะจะเป็นผู้เล่นที่ไม่ให้ความร่วมมือได้ยังไง…”

ในตอนท้ายของการต่อสู้ เจี่ยเผิงมองไปที่ข้อมูลของเขาเองอย่างมีความสุข

ใน ‘Warcraft’ จะมีอินเทอร์เฟซการคำนวณหลังการต่อสู้ ซึ่งสามารถตรวจสอบการเปรียบเทียบทางเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองฝ่ายได้

แต่ใน ‘League of Legends’ การแสดงข้อมูลต่างๆ มีมากกว่า

บนอินเทอร์เฟซทั้งหมด มีสามตัวเลือก ‘กระดานคะแนน’ ‘แผนภาพ’ และ ‘ภาพรวม’

ในกระดานคะแนน คุณสามารถตรวจสอบอุปกรณ์ ผลการต่อสู้ ทักษะ Summoner ของฮีโร่ทั้งหมดได้

ใน ‘แผนภาพ’ คุณสามารถดูข้อมูลโดยละเอียดต่างๆ ของฮีโร่รวมถึงความเสียหายของเอาต์พุต จำนวนการรักษา ความเสียหายที่ได้รับ จำนวน Minion หรือมอนสเตอร์ที่ถูกฆ่าและอื่นๆ ความเสียหายยังสามารถแบ่งย่อยได้ รวมถึงความเสียหาย (กายภาพ/เวทมนตร์/จริง) ความเสียหาย และความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ในความเสียหายทั้งหมด ยังมีความเสียหายต่อหอคอยป้องกันและจุดยุทธศาสตร์ด้วย (หอคอยป้องกัน มังกรฯลฯ)

นอกจากนี้ ข้อมูลทั้งหมดสามารถแสดงในรูปแบบของแผนภาพและสามารถดูข้อดีข้อเสียได้อย่างชัดเจนในทันที

ใน ‘ภาพรวม’ สามารถดูเส้นโค้งเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่ายได้ สามารถเห็นพื้นที่กระจายการสังหารของฮีโร่ได้บนแผนที่ หลังจากเลือกฮีโร่แล้ว ยังสามารถดูตำแหน่งการฆ่าและการตายของเขาบนแผนที่ได้อีกด้วย

ด้วยอินเทอร์เฟซการคำนวณขั้นสุดท้าย จะเห็นได้ชัดเจนทันทีว่าใครเป็นคนแบกและใครติดขัด

หลังการต่อสู้ ผู้เล่นต้องการตัดสินว่าจุด carry เล่นได้ดีหรือไม่ โดยพื้นฐานแล้ว พวกเขาจำเป็นต้องดูข้อมูลสองรายการเท่านั้นจึงจะเข้าใจ หนึ่งคือผลการต่อสู้และสองคือจำนวนความเสียหาย แน่นอนว่าข้อมูลเช่นความเสียหายที่ได้รับและจำนวนกำลังเสริมสามารถใช้เป็นเกณฑ์สำคัญในการวัดประสิทธิภาพได้

แม้แต่คนที่ไม่เคยสัมผัสกับเกมนี้ก็สามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อคาดเดากระบวนการทั้งหมดของการต่อสู้โดยประมาณจากข้อมูล และเห็นประเด็นสำคัญในการชนะหรือแพ้โดยประมาณ

ในบางเกมสถิติประเภทนี้มีรายละเอียดไม่เพียงพอ

ในทางกลับกัน บางเกมจงใจทำให้สถิติมีรายละเอียดน้อยลงเพื่อเห็นแก่ความรู้สึกของผู้เล่น

แต่นี่จะมีผลตรงกันข้าม

สำหรับผู้เล่นที่เล่นติดขัด พวกเขาไม่เห็นข้อมูลเหล่านี้ พวกเขาไม่รู้ว่าจุดไหนที่พวกเขาเล่นได้ไม่ดีและไม่รู้ว่าจะปรับปรุงยังไง พัฒนาตรงไหน พวกเขาจะไม่มีวันเติบโตและพัฒนาเลย

ผลลัพธ์สุดท้ายมีแนวโน้มว่าทุกคนจะรู้สึกว่าตนเล่นได้ดี จากนั้นเข้าสู่ขั้นแห่งการด่าไปเรื่อยกันและกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งจะทำให้สภาพแวดล้อมทั้งเกมแย่ลง

แน่นอนว่าด้วยข้อมูลเหล่านี้ ผู้ที่เล่นติดขัดก็สามารถปฏิเสธที่จะยอมรับความผิดพลาดของเขาได้เช่นกัน แต่อย่างน้อยก็ทำให้ผู้ที่แบกรู้สึกดีขึ้นได้ เขายังสามารถโพสต์ผลการต่อสู้ลงใน Moments ได้อีกด้วย และเพิ่มประโยคว่า “ชี้นำกลุ่มงั่งนี้ไม่ไหว!”

…………………