บทที่ 231 รูปแบบการเล่นเพิ่มเติม

สำหรับเกม ‘Minecraft’ ความสนุกหลักอยู่ที่การสร้างสรรค์ ดังนั้นรูปแบบการเล่นเพิ่มเติมที่เฉินโม่เพิ่มเข้ามาสร้างขึ้นจากแนวคิดของ ‘การสร้างสรรค์’

ประการแรก โหมดเกม

มีสี่โหมด ได้แก่ ‘โลกของฉัน’ (โหมดเล่นคนเดียว) ‘โลกของผู้อื่น’ (โหมดออนไลน์) ‘โลกของทุกคน’ (โหมดเครือข่าย) และ ‘โลกของเฉินโม่’ (โหมดผู้สังเกตการณ์)

โหมดผู้เล่นคนเดียวจะเหมือนกับชีวิตก่อน แบ่งออกเป็นโหมดเอาชีวิตรอด โหมดผจญภัย และโหมดสร้างสรรค์ ผู้เล่นสามารถสัมผัสความสนุกของเกมนี้ได้อย่างอิสระ

เช่นเดียวกับ ‘Diablo’ ผู้เล่นสามารถตั้งค่าเกมส่วนตัวเป็นสาธารณะได้ทุกเมื่อ และผู้เล่นอื่นสามารถเข้าร่วมผ่านการจับคู่แบบสุ่มหรือคำเชิญเฉพาะ

ในโหมดออนไลน์ เจ้าของ (เจ้าของห้อง) มีสิทธิ์ที่จะเตะและปิดเสียงผู้เล่นและมีสิทธิ์บางอย่างในการกู้คืนการดำเนินการบางอย่างที่ทำโดยผู้เล่นรายอื่น

ในโหมดเครือข่าย เฉินโม่พิจารณาเซิร์ฟเวอร์หลายชุด ซึ่งแต่ละชุดสามารถรองรับผู้เล่นได้หนึ่งหมื่นคนในพื้นที่สำรวจหนึ่งหมื่นกิโลเมตร

โลกนี้ไม่ใช่ดาวเคราะห์ แต่เป็นกาแล็กซี

เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดเริ่มต้นเหมือนกันด้วยแผนที่ที่เหมือนกัน แต่ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ตามต้องการ เซิร์ฟเวอร์จบลงอย่างไรขึ้นอยู่กับผู้เล่น

คาดว่าจะมีโลกที่ไม่เหมือนใครมากพอๆ กับชุดของเซิร์ฟเวอร์และมันจะแตกต่างกันมากจากโลกหนึ่งไปอีกโลกหนึ่ง

ผู้เล่นสามารถสร้างกลุ่มในเซิร์ฟเวอร์ได้ และความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มสามารถกำหนดให้เป็นศัตรูหรือเป็นมิตรได้ สามารถแอบโจมตีสมาชิกของกลุ่มที่เป็นศัตรู และแม้แต่ทำลายสิ่งก่อสร้างทั้งหมดของฝ่ายตรงข้ามด้วยวิธีการพิเศษได้

สรุปแล้วบางเซิร์ฟเวอร์สามารถร่วมแรงร่วมใจกันและเติบโต แล้วยังสามารถตะลุมบอนสร้างความยุ่งเหยิงได้อีกด้วย

สำหรับ ‘โลกของเฉินโม่’ ซึ่งเป็นโหมดผู้สังเกตการณ์ ผู้เล่นสามารถเข้าสู่โลกที่เฉินโม่สร้างขึ้นได้อย่างอิสระเพื่อเยี่ยมชม แต่พวกเขาไม่มีสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงใดๆ

ประการที่สอง สร้างระบบการซื้อขาย

เฉินโม่พิจารณาที่จะสร้างระบบการซื้อขายสิ่งก่อสร้างอย่างง่ายในเกม ในแง่หนึ่งก็เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เล่นที่เล่นไม่ค่อยเก่ง และอีกแง่หนึ่งก็เป็นการสร้างแต้มกำไรเพิ่มเติมให้กับเกม

ใน ‘โลกของเฉินโม่’ เฉินโม่จะสร้างสิ่งก่อสร้างที่มีเอกลักษณ์มากมาย เช่น ‘พระราชวังต้องห้าม’ ‘หอนาฬิกา’ ‘วิหาร’ ‘เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์’ หรือแม้กระทั่งสิ่งต่างๆ จากโลกแฟนตาซี เช่น ‘Stormwind City’ ‘Bastion’s Keep’ หรือสิ่งอื่นๆ ในแนววิทยาศาสตร์อย่าง ‘Space Stations’ ‘ Space elevators’

พิมพ์เขียวของสิ่งก่อสร้างเหล่านี้สามารถจ่ายเงินซื้อได้ หลังจากซื้อ ผู้เล่นจะเชี่ยวชาญวิธีการสร้างสิ่งปลูกสร้างประเภทนี้อย่างถาวร หลังจากกลับสู่โหมดผู้เล่นเดี่ยวหรือโหมดเครือข่าย ตราบใดที่มีการรวบรวมทรัพยากรเพียงพอ ก็จะสามารถสร้างสิ่งก่อสร้างที่เกี่ยวข้องได้

แน่นอนว่าผู้เล่นยังสามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้อย่างเต็มที่

ผู้เล่นสามารถเผยแพร่พิมพ์เขียวของสิ่งก่อสร้างที่พวกเขาสร้างขึ้น และผู้เล่นคนอื่นสามารถซื้อได้จากเขา (ถ้าใครเต็มใจที่จะซื้อ)

ประการที่สาม Technology tree

ในต้นฉบับของ ‘Minecraft’ Technology tree ค่อนข้างเรียบง่าย แม้ว่าคอมพิวเตอร์จะสามารถสร้างผ่านระบบ Redstone ได้ แต่ยานพาหนะ เครื่องบิน ยานอวกาศ และยานพาหนะอื่นๆ ไม่สามารถสร้างได้

เฉินโม่พิจารณาขยาย Technology tree สำหรับ ‘Minecraft’ ทำให้ผู้เล่นสามารถสร้างจรวดเพื่ออพยพไปยังอวกาศได้

(ดังนั้นโลกของโหมดเครือข่ายจึงเป็นกาแลคซีทั้งหมด)

แน่นอนว่า Technology tree แตกต่างจาก Technology tree ที่มีอยู่ในตอนนี้ ยกตัวอย่างง่ายๆ ยานพาหนะพิเศษทั้งหมดประกอบด้วยเชื้อเพลิง เครื่องปั่นไฟ หน่วยควบคุม วัสดุหลัก วัสดุเสริมแรง และส่วนประกอบอื่นๆ

เครื่องปั่นไฟถือได้ว่าเป็นเครื่องยนต์ หน่วยควบคุมคือศูนย์ควบคุม วัสดุหลักคือวัสดุหลักของยานพาหนะ วัสดุเสริมแรงช่วยให้แน่ใจว่ายานพาหนะจะไม่ขาดออกจากกันระหว่างการบินด้วยความเร็วสูง

ตราบใดที่มีองค์ประกอบเหล่านี้รวมถึงการวาดแบบพิเศษก็สามารถสร้างยานพาหนะที่ต้องการได้

(ผู้เล่นยังสามารถออกแบบยานพาหนะได้อย่างอิสระ แต่สามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ได้โดยการซ้อนตัวต่อเท่านั้น)

แน่นอนว่าชุดควบคุม เชื้อเพลิงและอื่นๆ ล้วนทำจากวัสดุพิเศษ ผู้เล่นจะค่อยๆ ปลดล็อกตารางอุปกรณ์และสร้างกระบวนการ Technology tree ขึ้นมาใหม่ เปลี่ยนโลกให้กลายเป็นโลกที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี

นอกจากนี้ Technology tree นี้ยังรวมถึงระบบเล่นแร่แปรธาตุใหม่ด้วย ยาที่ทำจากวัสดุพิเศษสามารถทำให้ผู้เล่นมีเอฟเฟ็กต์พิเศษต่างๆ เช่น การเอาชีวิตรอดในอวกาศ เป็นต้น

แน่นอนว่า Technology tree และโลกทั้งใบจะค่อยๆ ปลดล็อก ผู้เล่นต้องทำตามเงื่อนไขบางอย่างเพื่อปลดล็อกระดับต่อไปของ Technology tree ค่อยๆ ออกจากดาวเคราะห์ไปสู่กาแล็กซี

ด้วยรูปแบบการเล่นพิเศษเหล่านี้ ควบคู่กับคู่มือมือใหม่ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เฉินโม่เชื่อว่า ‘Minecraft’ เวอร์ชัน VR จะน่าดึงดูดกว่า ‘Minecraft’ รุ่นก่อน!

………………

แผนการพัฒนาสำหรับเวอร์ชันสุดท้ายของ ‘Minecraft’ ถูกเสนอขึ้นในวาระการประชุม ตราบเท่าที่มีการพัฒนารูปแบบการเล่นต่อเนื่อง เกมจะถือเป็นที่สิ้นสุด

เวอร์ชันทดสอบของ ‘The Thousand Jails’ เสร็จสมบูรณ์แล้วและเริ่มมีการทดสอบครั้งแรก

ท้ายที่สุด เนื้อหาของ ‘The Thousand Jails’ นั้นสมบูรณ์กว่าของ ‘Minecraft’ มาก จำเป็นต้องได้รับการทดสอบและแก้ไขตั้งแต่เนิ่นๆ ทักษะของแต่ละอาชีพ ระดับความยาก และรูปแบบการเล่นที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องได้รับการปรับแต่งอย่างละเอียดเพื่อให้มีสภาพสมบูรณ์ที่สุด

ในโลกของ ‘The Thousand Jails’

นี่คือเมืองโบราณที่อยู่ในความมืดตลอดกาล มีทั้งวัด ศาลเจ้า และอาคารโบราณต่างๆ เมืองต่างๆ เมืองนี้เต็มไปด้วยนักพรต ขอทานที่เป็นโรคร้าย และประชาชนที่ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ทั้งเมืองตกอยู่ในความสิ้นหวัง

ตัวละครในเกมของเฉินโม่คือมนุษยภูมิ(ผู้ชาย) ซึ่งดูเหมือนมนุษย์ทั่วไป แต่คันธนูยาวที่หลังและกริชที่เอวบ่งบอกว่าเขาเป็นตัวละครที่อันตรายอย่างยิ่ง

เขามองไปรอบๆ เหมือนมองหาใครสักคน

“ผู้จัดการ” เสียงหนึ่งดังขึ้น

เฉินโม่หันกลับไป และเทวภูมิ(ผู้หญิง) ของหลินเสวี่ยก็ปรากฏตัวขึ้นข้างหลังเขา

ตัวละครของหลินเสวี่ยนั้นค่อนข้างคล้ายกับเผ่าเซียน มีอาวุธวิเศษมากมายลอยอยู่รอบตัวเธอ ชุดสีขาวบริสุทธิ์ทำให้ดูล่องลอยขึ้นไปอย่างสง่าผ่าเผยราวกับสำเร็จเป็นเซียน

“มาแล้วเหรอ” เฉินโม่พูด

หลินเสวี่ยพูด “อืม แต่ฉันอยากรู้ว่าผู้จัดการได้รับคุณสมบัติสำหรับการทดสอบภายในมาจากไหน ไม่ใช่ว่ามีเพียงผู้เล่นระดับสูงของ Dichao Entertainment เท่านั้นที่มีโอกาสจับฉลากหรอกเหรอ”

เฉินโม่พูด “แน่นอนว่าซื้อมา ถึงผมจะไปขอจากหลินเจาซู่เขาก็ไม่ให้ผมมาหรอก”

หลินเสวี่ย “…ก็จริง”

เฉินโม่พูด “เอาละ มาลองเล่นเกมนี้กันสักหน่อยว่าสนุกจริงไหม”

แล้วทั้งสองก็เดินไปที่ประตูนรกขนาดใหญ่ใจกลางเมือง

………………………