The Great Geneticist in Apocalypse 68 เริ่มสํารวจเมืองแล้วสิ

Now you are reading The Great Geneticist in Apocalypse Chapter 68 เริ่มสํารวจเมืองแล้วสิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย The Great Geneticist in Apocalypse

ตอนที่68 เริ่มสํารวจเมืองแล้วสิ

ยามเที่ยง

“ถึงเวลาแล้วสินะ” หลังจากที่นอนพักไปเบลซก็ได้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับพลังที่เต็มเปี่ยมอีกครั้ง

“ระบบ”

ชื่อ เบลซ แร็คน่าร์ เหรียญชีวิต94เหรียญ

ระดับ14

สิ่งมีชีวิตระดับเขียวอ่อน(61/100) 4ธาตุบวกค่าสถานะ75%
พลังธาตุ <ไฟ น้ํา สายฟ้า โลหิต>

อาชีพ อาชูร่า(เขียวอ่อน)

อาชีพเสริม นักตัดแต่งยีน

ฉายา

<นายแห่งอสูรอเวจี+5> <มนุษย์คนแรกผู้สังหารสัตว์อสูรสองธาตุ+2>

<เจ้าโลหิต> เมื่อใช้ระเบิดพลังธาตุโลหิตจะเพิ่มพลังให้ตัวเอง2เท่าและผสานพลังวิญญาณโดยใช้ธาตุโลหิตเป็นหลักได้+พลังโจมตีธาตุที่ผสานอีกธาตุละ25%

Strength(แรงกาย) : 39.75[(16)+11.5]

Agility(ความว่องไว) : 34.25[(13)+11.5]

Vitality(พละกําลัง) : 30.75[(11)+11.5]

Stamina(ความทรหด) : 36/36[(14)+11.5]

Spirituality(จิตวิญญาณ) : 46.5/46.5[(20)+11.5]

ทักษะ

<อควาคัตเตอร์ (ขาว)> <ประเมิน(ขาว)> <พิษหัวใจขาว/เขียว> <ภูติเงาเพลิง>

<อาชูร่า> ทํางานทุกครั้งที่ใช้พลังของอาชูร่าเมื่อทําร้ายศัตรูจะฟื้นพลังให้ตัวเองตามพลังและบาดแผลที่สร้าง

<บทบรรเลงแห่งโลหิต – บทที่1 มังกรวารีผสานธาตุ[ทักษะมังกร]> ซัดมังกรวารีโลหิตไปข้างหน้าพร้อมอื่นๆ (พลังโจมตีธาตุโลหิต+150%และ<ฉายาเจ้าโลหิต>จะเพิ่มความสามารถเป็น+พลังโจมตีธาตุที่ผสานอีกละ50%) ใช้Spirituality ครั้งละ 5 แต้ม

(ล็อค)(ล็อค)(ล็อค)……..(ล็อคไป เรื่อยๆยาวๆ)

สัตว์อสูรสงคราม

ซีฟอส(เจ้าดาบน้อย)

ไวเวิร์นวายุเพลิงโลกันต์(ลูก) ระดับ124

สิ่งมีชีวิตระดับเขียวอ่อน 2ธาตุบวกค่าสถานะ35%

พลังธาตุ เพลิง ลม

Strength(แรงกาย) : 29.7(22)

Agility(ความว่องไว) : 32.4(24)

Vitality(พละกําลัง) : 48.6(36)

Stamina(ความทรหด) : 29.7/29.7(22)

Spirituality(จิตวิญญาณ) : 10.8/10.8(8)

ทักษะ

<เพลิงอเวจี> <ปีกสายลม(เขียวอ่ อน)>

<มังกรวายุผงาดโลกันต์(เขียวอ่อน) [ทักษะมังกร]>

พืชปรสิตดอกเถาพิษโลหิต ระดับ113694

สิ่งมีชีวิตระดับ เขียวอ่อน (สามธาตุ+ส ถานะ50%)

พลังธาตุ <พืช โลหิต พิษ> ระดับเขียวอ่อน

Strength(แรงกาย) : 1.5(1)

Agility(ความว่องไว) : 1.5(1)

Vitality(พละกําลัง) : 72(48)

Stamina(ความทรหด) : 1.5(1)

Spirituality(จิตวิญญาณ) : 1.5(1)

ทักษะ<พึ่งพาอาศัย> +4.5(3×50%)

<แบ่งพลังธาตุพืช> <ดูดโลหิต> <พิษกัดกร่อน>

“สงสัยจะเป็นเพราะว่าได้ดูดซับเลือดของมังกรโลหิตทําให้ระดับเพิ่มมานิดหน่อยแฮะ” เบลซคิดแล้วก็เดินออกไปที่ห้องกินข้าวรวมของพวกเขา

“ไงบ้าง ได้ข่าวมาว่าเมื่อคืนไม่ได้นอนหนิ แอบอู้ยันเที่ยงเลยนะ” เมิ่งหยิงหยิง แซว

“จะว่าไปโหย่วโหย่วกับอี้หนานเหลือแค่พวกเธอแล้วนะที่ยังไม่ได้ปลุกพลังจะปลุกเลยไหม?” เบลซถาม

“ไม่เป็นไรไว้รอให้เจอคริสตัลธาตุที่พวกเราถูกใจดีกว่า” เนี่ยนโหย่วโหย่วพูด

“งั้นก็ได้ แต่ว่าอย่าทิ้งไว้นานนักหละ เดี๋ยวจะเลื่อนระดับไม่ทันเพื่อนนะ” เบลซเตือน

“ขอบคุณนะที่เตือน” อี้หนานตอบ

“จะว่าไปได้ยินข่าวว่าเมื่อคืนนั้นคุณหายไปไหนกับเอลลี่มาหรอคะ?” เอมิเลียถามอย่างมีนัยยะ

“พรึบ!” เพื่อนๆจ้องไปที่ทั้งสองคนสลับไปมาด้วยท่าทางตกตลึงในขณะที่สาวๆบางท่าทางไม่สบอารมณ์แบบไม่มีสาเหตุ

“ฉ่าาา” เอลลี่ก้มหน้าแดงระเรื่อไม่คุยกับใครขณะที่มองเบลซมาเป็นระยะๆ

“ก็…เออ…เก็ไปหาต้นกุหลาบชําระล้างนั้นแหละ” เบลซตอบอย่างตะกุกตะกัก

“แค่นั้นจริงๆหรอคะ?” เอมิเลียตอบอย่างเชื่องช้าประหนึ่งจะเค้นความจริงออกมาให้ได้ๆ

“เออคือว่า…วันนี้เดี๋ยวเราจะไปสํารวจที่เมืองกันนะรถออกประมาณบ่ายๆ ให้อิฟฟรากับอิโนะเฝ้าฐานใช่แล้วๆฉันลืมง้าวไว้ในห้องนอนหนะไปเอาก่อนนะ” เบลซตัดบทและลุกพรวดออกไปจากห้องกินข้าวทันทีนะ

“หึหึ ฮี่ฮี่ หึหึ” เรย์ลินกับจางมู่และชิ้น หัวเราะอยู่ในลําคออย่างมีนัยยะ ในขณะที่สาวๆบางคนมีปฏิกิริยาที่แตกต่างกันออกไป

“ฮึ!” เอลลี่ทําหน้าน้อยใจก่อนจะก้มหน้าก้มตากินข้าวเที่ยงไม่ยอมคุยกับใคร แต่หงุดงหิดอยู่ในใจ “ฮึยยยะ แค่นี้ก็ไม่กล้ายอมรับ ไอบ้านี้จะขี้อายเกินไปแล้ว แถมยังเดินหนีอีก มันน่าน้อยใจชะมัด”

หลังจากกินข้าวเสร็จพวกผู้ชายก็ออกไปจากห้อง

เอลลี่ก็โดนสาวๆซักถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเบลซทันที

“นี้ๆนายกับเขาความสัมพันธ์ไปถึงขั้นไหนแล้วหรอ” เอมิเลียถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“ใช่ๆ ไปถึงไหนแล้วๆ” เมิ่งหยิงหยิง ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นและกังวลเป็นพิเศษ

“ฉันยินดีรับฟังเลยหละ” รินพูด

“ฉันไม่ยอมแพ้หรอกนะ” เนี่ยนโหย่วโหย่วพูดเชิงท้ารบในขณะที่อี้หนานมองสลับไปมาระหว่างทั้งสองคน

“ฮึ!” เอลลี่มองจิกไปที่เนี่ยนโหย่วโหย่วก่อนที่จะแอ่นอกยิ้มออกมาที่มุมปาก ทําท่าทางประมาณว่า “ฉันได้เปรียบอยู่นะ”

“ฉันจะคอยดูละกัน” เนี่ยนโหย่วโหย่วแก้มป่อง จ้องกลับก่อนจะกลับไปทําหน้าที่ของตน

ขณะเดียวกัน เบลซที่หนีความอายออกมาได้กลับไปที่เลี้ยงอสูรทรายคราม เข้าตักทรายออกมาอีกจํานวนหนึ่งแล้วไปที่ร้านตีเหล็กเพื่อนําไปทําอุปกรณ์ทั่วๆไปอย่างค้อน ขวาน พลั่ว อีเต้อ(พลั่วขุดเหมือง)

“ก็อง แก๊ง ก็อง แก๊ง” เบลซไปยินเสียงตีเหล็กมาแต่ไกลๆเขารู้สึกสนใจขึ้นมาในทันที

“มีใครใช้บริการช่างตีเหล็กนะ” เบลซคิดก่อนที่จะเดินเร็วขึ้นไปที่ร้านตีเหล็ก

เบลซเดินไปที่ใต้ถุนของร้านที่โฮม นครูสช่างตีเหล็กใช้เป็นประจําครั้งนี้มีคนหนึ่งกําลังตีเหล็กอยู่ ส่วนอีกคนกําลังสอนอยู่

แน่นอนว่าคนที่สอนก็คือโฮมุนครูสช่างตีเหล็กและอีกคนที่กําลังฝึกตีเหล็กก็คือ

อิฟฟรา!!

“นายสนใจจะเป็นช่างตีเหล็กหรอ นี่ย?” เบลซถามหลังจากที่อิฟฟราตีดาบเสร็จ ดาบที่เขาดีขึ้นมาได้ทรงแต่ว่ายังดูเบี้ยวๆอยู่และโดนโฮมุนครูสช่างตีเหล็กชี้แนะไปอีกชุดใหญ่

“ก็ใช้หนะสิ เพราะว่าฉันคิดว่าถ้าไม่มีใครสร้างอุปกรณ์เป็นเลยในฐานมันก็ไม่ดีแล้วฉันก็ว่าจะหาอาชีพเสริมอยู่แล้ว” อิฟฟราพูด

“งั้นตั้งใจฝึกหละ ขอให้ได้เป็นช่างตีเหล็กฝึกหัดไวๆก็แล้วกัน” เบลซพูด

“อืม!”

แล้วเบลซก็เดินไปหาช่างตีเหล็กพร้อมกับเอาทรายเหล็กครามไปให้เขาช่วยตีอุปกรณ์ต่างๆ โชคดีที่ว่าเป็นอุปกรณ์ทั่วๆไปเลยทําให้เสียค่าใช้จ่ายเพียงแค่ 45 เหรียญชีวิตเท่านั้น

“พรุ่งนี้นายมารับพวกอุปกรณ์พวกนี้แทนฉันได้เลยนะ นายกับอีฟฟราก็ช่วยๆ กันตัดไม้ ขุดหินด้วยหละ ไม้และหินชุดแรกจะเป็นบ้านของพวกนายก่อนเลย” เบลซพูดในเมื่อเขาขอให้ทั้งสองคนช่วยกันหาทรัพยากรดังนั้นพวกเขาก็ควรจะได้ก่อนส่วนหนึ่ง

“ตกลง” อิฟฟราพยักหน้ารับ

เบลซได้ไปที่รถบัสและเริ่มชาร์จพลังไฟฟ้าเพิ่มอีกครั้ง รอบนี้เค้ามีSpiritualityมากกว่าครั้งก่อนมากดังนั้น เค้าเลยเต็มพลังงานให้รถบัสจนขีดพลังงานเพิ่มไปที่50%

หลังจากผ่านไปไม่นานก็ถึงเวลาบ่าย เบลซ ชิน จางมู่ เอลลี่ เอมิเลีย ได้มารวมตัวกันที่รถบัส ส่วน เรย์ลิน เซลิน ริน เพิ่งหยิ่งหยิ่ง และคนอื่นๆ จะอยู่เฝ้าฐาน

และเก็บระดับจากสัตว์อสูรรอบๆ

“งั้นโชคดีนะ” เรย์ลินพูด

“จะรีบกลับมาหละ” เบลซบอกก่อน เพื่อนๆจะขึ้นรถบัส ส่วนเจ้าดาบน้อยเนื่องจากมันตัวใหญ่เกินไปแต่ว่ามันก็บินเร็วถึง40-50กิโลเมตรต่อชั่วโมงแค่ชั่วโมงเดียวก็ถึงเมืองแล้วดังนั้นให้รถบัสวิ่ง ความเร็วแค่นี้แล้วเข้าจะขี่เจ้าดาบน้อยบินต่ําๆตามไป

“พร้อมนะ?” เอมิเลียถาม

“อืม!” เพื่อนๆบอก

“งั้นไปหละ” เอมิเลียเหยียบคันเร่งร ถบัสได้แล่นสู่ท้องถนนอีกครั้ง

“พรึบบ พรึบบ” ซีฟอสกระพือบินบินต่ําเหนือพื้นเพียง4-5เมตรบินตามรถบัสไป

สภาพของถนนยังดูปกติดีมีเพียงหญ้า และพืชต้นเล็กๆขึ้นแซมตามรอยแยกข้างทางเท่านั้นและมีใบไม้แห้งปกคลุมเล็กน้อยมีบางช่วงที่เจอกับรถไร้เจ้าของจอดขวางถนนเป็นช่วงๆ ซึ่งความจริง เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ง่ายๆเพราะแต่เจ้าดาบน้อยก็เคลียร์รถเหล่านั้นออกอย่างง่ายได้โดยใช้กรงเล็บของมันทั้งสองข้างจิกหลังคารถจนทะลุและยกบินขึ้น ไปทิ้งตามข้างทางหรือกลางป่า ใช้เวลา ซัก5-10นาทีถนนก็โล่งเหมือนเดิม

หลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงกับอีกยี่สิบนาที่รถบัสและไวเวิร์นสีแดงก็มาถึงเมืองออโรร่า

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

The Great Geneticist in Apocalypse 68 เริ่มสํารวจเมืองแล้วสิ

Now you are reading The Great Geneticist in Apocalypse Chapter 68 เริ่มสํารวจเมืองแล้วสิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย The Great Geneticist in Apocalypse

ตอนที่68 เริ่มสํารวจเมืองแล้วสิ

ยามเที่ยง

“ถึงเวลาแล้วสินะ” หลังจากที่นอนพักไปเบลซก็ได้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับพลังที่เต็มเปี่ยมอีกครั้ง

“ระบบ”

ชื่อ เบลซ แร็คน่าร์ เหรียญชีวิต94เหรียญ

ระดับ14

สิ่งมีชีวิตระดับเขียวอ่อน(61/100) 4ธาตุบวกค่าสถานะ75%
พลังธาตุ <ไฟ น้ํา สายฟ้า โลหิต>

อาชีพ อาชูร่า(เขียวอ่อน)

อาชีพเสริม นักตัดแต่งยีน

ฉายา

<นายแห่งอสูรอเวจี+5> <มนุษย์คนแรกผู้สังหารสัตว์อสูรสองธาตุ+2>

<เจ้าโลหิต> เมื่อใช้ระเบิดพลังธาตุโลหิตจะเพิ่มพลังให้ตัวเอง2เท่าและผสานพลังวิญญาณโดยใช้ธาตุโลหิตเป็นหลักได้+พลังโจมตีธาตุที่ผสานอีกธาตุละ25%

Strength(แรงกาย) : 39.75[(16)+11.5]

Agility(ความว่องไว) : 34.25[(13)+11.5]

Vitality(พละกําลัง) : 30.75[(11)+11.5]

Stamina(ความทรหด) : 36/36[(14)+11.5]

Spirituality(จิตวิญญาณ) : 46.5/46.5[(20)+11.5]

ทักษะ

<อควาคัตเตอร์ (ขาว)> <ประเมิน(ขาว)> <พิษหัวใจขาว/เขียว> <ภูติเงาเพลิง>

<อาชูร่า> ทํางานทุกครั้งที่ใช้พลังของอาชูร่าเมื่อทําร้ายศัตรูจะฟื้นพลังให้ตัวเองตามพลังและบาดแผลที่สร้าง

<บทบรรเลงแห่งโลหิต – บทที่1 มังกรวารีผสานธาตุ[ทักษะมังกร]> ซัดมังกรวารีโลหิตไปข้างหน้าพร้อมอื่นๆ (พลังโจมตีธาตุโลหิต+150%และ<ฉายาเจ้าโลหิต>จะเพิ่มความสามารถเป็น+พลังโจมตีธาตุที่ผสานอีกละ50%) ใช้Spirituality ครั้งละ 5 แต้ม

(ล็อค)(ล็อค)(ล็อค)……..(ล็อคไป เรื่อยๆยาวๆ)

สัตว์อสูรสงคราม

ซีฟอส(เจ้าดาบน้อย)

ไวเวิร์นวายุเพลิงโลกันต์(ลูก) ระดับ124

สิ่งมีชีวิตระดับเขียวอ่อน 2ธาตุบวกค่าสถานะ35%

พลังธาตุ เพลิง ลม

Strength(แรงกาย) : 29.7(22)

Agility(ความว่องไว) : 32.4(24)

Vitality(พละกําลัง) : 48.6(36)

Stamina(ความทรหด) : 29.7/29.7(22)

Spirituality(จิตวิญญาณ) : 10.8/10.8(8)

ทักษะ

<เพลิงอเวจี> <ปีกสายลม(เขียวอ่ อน)>

<มังกรวายุผงาดโลกันต์(เขียวอ่อน) [ทักษะมังกร]>

พืชปรสิตดอกเถาพิษโลหิต ระดับ113694

สิ่งมีชีวิตระดับ เขียวอ่อน (สามธาตุ+ส ถานะ50%)

พลังธาตุ <พืช โลหิต พิษ> ระดับเขียวอ่อน

Strength(แรงกาย) : 1.5(1)

Agility(ความว่องไว) : 1.5(1)

Vitality(พละกําลัง) : 72(48)

Stamina(ความทรหด) : 1.5(1)

Spirituality(จิตวิญญาณ) : 1.5(1)

ทักษะ<พึ่งพาอาศัย> +4.5(3×50%)

<แบ่งพลังธาตุพืช> <ดูดโลหิต> <พิษกัดกร่อน>

“สงสัยจะเป็นเพราะว่าได้ดูดซับเลือดของมังกรโลหิตทําให้ระดับเพิ่มมานิดหน่อยแฮะ” เบลซคิดแล้วก็เดินออกไปที่ห้องกินข้าวรวมของพวกเขา

“ไงบ้าง ได้ข่าวมาว่าเมื่อคืนไม่ได้นอนหนิ แอบอู้ยันเที่ยงเลยนะ” เมิ่งหยิงหยิง แซว

“จะว่าไปโหย่วโหย่วกับอี้หนานเหลือแค่พวกเธอแล้วนะที่ยังไม่ได้ปลุกพลังจะปลุกเลยไหม?” เบลซถาม

“ไม่เป็นไรไว้รอให้เจอคริสตัลธาตุที่พวกเราถูกใจดีกว่า” เนี่ยนโหย่วโหย่วพูด

“งั้นก็ได้ แต่ว่าอย่าทิ้งไว้นานนักหละ เดี๋ยวจะเลื่อนระดับไม่ทันเพื่อนนะ” เบลซเตือน

“ขอบคุณนะที่เตือน” อี้หนานตอบ

“จะว่าไปได้ยินข่าวว่าเมื่อคืนนั้นคุณหายไปไหนกับเอลลี่มาหรอคะ?” เอมิเลียถามอย่างมีนัยยะ

“พรึบ!” เพื่อนๆจ้องไปที่ทั้งสองคนสลับไปมาด้วยท่าทางตกตลึงในขณะที่สาวๆบางท่าทางไม่สบอารมณ์แบบไม่มีสาเหตุ

“ฉ่าาา” เอลลี่ก้มหน้าแดงระเรื่อไม่คุยกับใครขณะที่มองเบลซมาเป็นระยะๆ

“ก็…เออ…เก็ไปหาต้นกุหลาบชําระล้างนั้นแหละ” เบลซตอบอย่างตะกุกตะกัก

“แค่นั้นจริงๆหรอคะ?” เอมิเลียตอบอย่างเชื่องช้าประหนึ่งจะเค้นความจริงออกมาให้ได้ๆ

“เออคือว่า…วันนี้เดี๋ยวเราจะไปสํารวจที่เมืองกันนะรถออกประมาณบ่ายๆ ให้อิฟฟรากับอิโนะเฝ้าฐานใช่แล้วๆฉันลืมง้าวไว้ในห้องนอนหนะไปเอาก่อนนะ” เบลซตัดบทและลุกพรวดออกไปจากห้องกินข้าวทันทีนะ

“หึหึ ฮี่ฮี่ หึหึ” เรย์ลินกับจางมู่และชิ้น หัวเราะอยู่ในลําคออย่างมีนัยยะ ในขณะที่สาวๆบางคนมีปฏิกิริยาที่แตกต่างกันออกไป

“ฮึ!” เอลลี่ทําหน้าน้อยใจก่อนจะก้มหน้าก้มตากินข้าวเที่ยงไม่ยอมคุยกับใคร แต่หงุดงหิดอยู่ในใจ “ฮึยยยะ แค่นี้ก็ไม่กล้ายอมรับ ไอบ้านี้จะขี้อายเกินไปแล้ว แถมยังเดินหนีอีก มันน่าน้อยใจชะมัด”

หลังจากกินข้าวเสร็จพวกผู้ชายก็ออกไปจากห้อง

เอลลี่ก็โดนสาวๆซักถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเบลซทันที

“นี้ๆนายกับเขาความสัมพันธ์ไปถึงขั้นไหนแล้วหรอ” เอมิเลียถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“ใช่ๆ ไปถึงไหนแล้วๆ” เมิ่งหยิงหยิง ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นและกังวลเป็นพิเศษ

“ฉันยินดีรับฟังเลยหละ” รินพูด

“ฉันไม่ยอมแพ้หรอกนะ” เนี่ยนโหย่วโหย่วพูดเชิงท้ารบในขณะที่อี้หนานมองสลับไปมาระหว่างทั้งสองคน

“ฮึ!” เอลลี่มองจิกไปที่เนี่ยนโหย่วโหย่วก่อนที่จะแอ่นอกยิ้มออกมาที่มุมปาก ทําท่าทางประมาณว่า “ฉันได้เปรียบอยู่นะ”

“ฉันจะคอยดูละกัน” เนี่ยนโหย่วโหย่วแก้มป่อง จ้องกลับก่อนจะกลับไปทําหน้าที่ของตน

ขณะเดียวกัน เบลซที่หนีความอายออกมาได้กลับไปที่เลี้ยงอสูรทรายคราม เข้าตักทรายออกมาอีกจํานวนหนึ่งแล้วไปที่ร้านตีเหล็กเพื่อนําไปทําอุปกรณ์ทั่วๆไปอย่างค้อน ขวาน พลั่ว อีเต้อ(พลั่วขุดเหมือง)

“ก็อง แก๊ง ก็อง แก๊ง” เบลซไปยินเสียงตีเหล็กมาแต่ไกลๆเขารู้สึกสนใจขึ้นมาในทันที

“มีใครใช้บริการช่างตีเหล็กนะ” เบลซคิดก่อนที่จะเดินเร็วขึ้นไปที่ร้านตีเหล็ก

เบลซเดินไปที่ใต้ถุนของร้านที่โฮม นครูสช่างตีเหล็กใช้เป็นประจําครั้งนี้มีคนหนึ่งกําลังตีเหล็กอยู่ ส่วนอีกคนกําลังสอนอยู่

แน่นอนว่าคนที่สอนก็คือโฮมุนครูสช่างตีเหล็กและอีกคนที่กําลังฝึกตีเหล็กก็คือ

อิฟฟรา!!

“นายสนใจจะเป็นช่างตีเหล็กหรอ นี่ย?” เบลซถามหลังจากที่อิฟฟราตีดาบเสร็จ ดาบที่เขาดีขึ้นมาได้ทรงแต่ว่ายังดูเบี้ยวๆอยู่และโดนโฮมุนครูสช่างตีเหล็กชี้แนะไปอีกชุดใหญ่

“ก็ใช้หนะสิ เพราะว่าฉันคิดว่าถ้าไม่มีใครสร้างอุปกรณ์เป็นเลยในฐานมันก็ไม่ดีแล้วฉันก็ว่าจะหาอาชีพเสริมอยู่แล้ว” อิฟฟราพูด

“งั้นตั้งใจฝึกหละ ขอให้ได้เป็นช่างตีเหล็กฝึกหัดไวๆก็แล้วกัน” เบลซพูด

“อืม!”

แล้วเบลซก็เดินไปหาช่างตีเหล็กพร้อมกับเอาทรายเหล็กครามไปให้เขาช่วยตีอุปกรณ์ต่างๆ โชคดีที่ว่าเป็นอุปกรณ์ทั่วๆไปเลยทําให้เสียค่าใช้จ่ายเพียงแค่ 45 เหรียญชีวิตเท่านั้น

“พรุ่งนี้นายมารับพวกอุปกรณ์พวกนี้แทนฉันได้เลยนะ นายกับอีฟฟราก็ช่วยๆ กันตัดไม้ ขุดหินด้วยหละ ไม้และหินชุดแรกจะเป็นบ้านของพวกนายก่อนเลย” เบลซพูดในเมื่อเขาขอให้ทั้งสองคนช่วยกันหาทรัพยากรดังนั้นพวกเขาก็ควรจะได้ก่อนส่วนหนึ่ง

“ตกลง” อิฟฟราพยักหน้ารับ

เบลซได้ไปที่รถบัสและเริ่มชาร์จพลังไฟฟ้าเพิ่มอีกครั้ง รอบนี้เค้ามีSpiritualityมากกว่าครั้งก่อนมากดังนั้น เค้าเลยเต็มพลังงานให้รถบัสจนขีดพลังงานเพิ่มไปที่50%

หลังจากผ่านไปไม่นานก็ถึงเวลาบ่าย เบลซ ชิน จางมู่ เอลลี่ เอมิเลีย ได้มารวมตัวกันที่รถบัส ส่วน เรย์ลิน เซลิน ริน เพิ่งหยิ่งหยิ่ง และคนอื่นๆ จะอยู่เฝ้าฐาน

และเก็บระดับจากสัตว์อสูรรอบๆ

“งั้นโชคดีนะ” เรย์ลินพูด

“จะรีบกลับมาหละ” เบลซบอกก่อน เพื่อนๆจะขึ้นรถบัส ส่วนเจ้าดาบน้อยเนื่องจากมันตัวใหญ่เกินไปแต่ว่ามันก็บินเร็วถึง40-50กิโลเมตรต่อชั่วโมงแค่ชั่วโมงเดียวก็ถึงเมืองแล้วดังนั้นให้รถบัสวิ่ง ความเร็วแค่นี้แล้วเข้าจะขี่เจ้าดาบน้อยบินต่ําๆตามไป

“พร้อมนะ?” เอมิเลียถาม

“อืม!” เพื่อนๆบอก

“งั้นไปหละ” เอมิเลียเหยียบคันเร่งร ถบัสได้แล่นสู่ท้องถนนอีกครั้ง

“พรึบบ พรึบบ” ซีฟอสกระพือบินบินต่ําเหนือพื้นเพียง4-5เมตรบินตามรถบัสไป

สภาพของถนนยังดูปกติดีมีเพียงหญ้า และพืชต้นเล็กๆขึ้นแซมตามรอยแยกข้างทางเท่านั้นและมีใบไม้แห้งปกคลุมเล็กน้อยมีบางช่วงที่เจอกับรถไร้เจ้าของจอดขวางถนนเป็นช่วงๆ ซึ่งความจริง เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ง่ายๆเพราะแต่เจ้าดาบน้อยก็เคลียร์รถเหล่านั้นออกอย่างง่ายได้โดยใช้กรงเล็บของมันทั้งสองข้างจิกหลังคารถจนทะลุและยกบินขึ้น ไปทิ้งตามข้างทางหรือกลางป่า ใช้เวลา ซัก5-10นาทีถนนก็โล่งเหมือนเดิม

หลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงกับอีกยี่สิบนาที่รถบัสและไวเวิร์นสีแดงก็มาถึงเมืองออโรร่า

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+