The Great Geneticist in Apocalypse 70 กําจัดอันธพาลแล้วสิ

Now you are reading The Great Geneticist in Apocalypse Chapter 70 กําจัดอันธพาลแล้วสิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่70 กําจัดอันธพาลแล้วสิ

เบลซมองไปที่เอมิเลียอย่างเงียบๆ แล้วใส่อาวุธของพวกเขาลงในกระเป๋าเป้สะพายหลังของพวกเขา

เพื่อนๆก็รู้สึกงงๆแต่ก็ยังทําตามเบลซ

สมาชิกแก๊งเด็กแว้นหลายสิบคนล้อมรอบกลุ่มของเบลซทั้ง 5 คนไว้

กลุ่มอันธพาลเหล่านั้นพร้อมทั้งมองไปที่กลุ่มของเบลซขณะที่หัวเราะ

“ผู้หญิงคนนั้นน่าจะใช้การได้ดีอยู่นะ!”

“เธอต้องสร้างความสําราญใจให้ผมได้แน่ๆ”

“ดูเหมือนว่าเราต้องสร้างช่วงเวลาดีๆด้วยกันซักหลายชั่วโมงซะแล้ว”

“พวกคุณต้องชอบของเล่นผมแน่ๆ”

“นั่นแม่สาวน้อย! โอ้ว! ผิวเธอช่างบอบบางจริงๆเนื้อในคงนุ่มมากแน่ๆมาเล่ นกับพี่ไหมล่ะ!”

“อยากได้น้ําขาวๆขุ่นๆไหม? แฮกแฮก
แฮก”

พวกนักเลงยังคงสํารวจ 2 สาวโดยไม่ยับยั้งคําพูดพวกเขาเสียดแทงเข้าไปในใจเอมิเลียและเอลลี่รู้สึกถึงการปองร้ายในสายตาของพวกเด็กนรกเหล่านี้

เบลซเพียงแค่ยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆยืนมองสถานการณ์เท่านั้น ในขณะที่เพื่อนๆของเขากําลังสีหน้าน่าเกลียดและจะชักอาวุธแล้วแต่ก็ยังไม่ทําและมองมาที่เบลซด้วยความสงสัย

“พะ พวกคุณต้องการอะไร?” เบลซและเพื่อนๆไม่ได้พูดอะไรความกดดันจากความเงียบสงบนี้ทําให้เอมิเลียรู้สึกไม่สบายใจแต่ไม่ได้พูดออกมาดังๆเธอจึงเริ่มพูดกับพวกเขา

นักเลงหัวเราะอย่างมากตัณหาแล้วพูดว่า“อยากให้เลียพี่ชายใหญ่”

“ฮ่า!”

“ฮ่า!”

คําพูดนักเลงได้จางหายไปแทบจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะอย่าง อด้าน

เอมิเลียใบหน้าแดงก๋จากนั้นก็ด่าเสียงดังว่า “พวกชั่ว”

“เรามีความชั่วร้าย! รอสักครู่พี่ชายจะช่วยให้คุณรู้ถึงประโยชน์ของพี่ชายใหญ่!เดี๋ยวเราก็จะรู้ว่าคุณจะเห็นด้วยไหม!”หนึ่งในนักเลงหัวเราะออกมาดังๆ

“ใช่! พี่ชายจะผลัดกันที่จะให้ทําคุณได้ลิ้มรสความสุข!หรือจะทําร่วมซัก 4 คนดีฮ่า!”

นักเลงเหล่านั้นยังคงพูดหยาบคายกับเฉินเหยาหลังจากที่มีการล่มสลายของโลกใบนี้ก็ไม่มีตํารวจจับกุมพวกเขาและพวกเขาสามารถทําตามใจในด้านมืดภายในใจของพวกเขาได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องเกรงกลัวกฎหมายหรือศีลธรรมใดๆ

เบลซจองอย่างเย็นชามาที่เอมิเลีย “คนพวกนี้เป็นคนที่คุณต้องการที่จะปกป้อง?”

ความผิดของเอมิเลียถูกตอกย้ําจากคําพูดของเค้าดวงตาเธอแดงก่ําเต็มไปด้วยน้ําตาก้มลงไปร้องไห้กับพื้นช้าๆ

แววตาของพวกนักเลงเต็มไปด้วยไปด้วยแววลามกสัปดนเขาร้องออกมาด้วยเสียงดังว่า “สาวๆทั้ง 3 คน! ตอนนี้ถอดเสื้อผ้าออกซะ!”

“ถอดมันออก!”

“ถอดมันออก!”

บรรดาอันธพาลสายตาของพวกเขาถูกปกคลุมไปด้วยความบ้าคลั่งร้องออกมาด้วยเสียงอันดัง

“คุณจะถอดมันออกหรือไม่!ถ้าไม่ถอดพวกเราจะตัดมือและเท้าของคุณเลี้ยงพวกสัตว์ประหลาด!”เป็นคนหนุ่มที่มีดวงตาสีแดงเข้มใบหน้ากดขี่ที่เป็นคนพูดออกมา

“เบลซลงมือเถอะ!” เอลลี่ที่หมดความอดทนสุดๆแล้วตะโกนออกมา

เบลซตบหลังของเธอเบาๆแล้วพูดว่า“ไม่ต้องกลัวกับเรื่องแค่นี้ยังไงพวกเขาไม่สามารถที่จะแตะแม้แต่ปลายเส้นผมของพวกเราแม้แต่เส้นเดียวแต่ว่าเราจําเป็นต้องให้เพื่อนสนิทของเธอรู้จักระวัง คนที่ไม่รู้จักบ้างและไม่ควรจะใจดีเกินไปไม่งั้นมันจะทําร้ายตัวของเธอเอง”

“ฉันขอโทษ” มองไปที่อันธพาลเหล่านั้นที่เป็นเหมือนสัตว์ป่าเอมิเลียน้ําตานองหน้าทั้งสํานึกผิดโกรธและขยะแขยงในเวลาเดียวกัน

หัวหน้าแก๊งเหลือบมองไปที่เอมิเลียขมวดคิ้วแล้วตะโกนอย่างมาดร้ายใส่พวกเบลซ“พวกแกทั้งหมดโยนกระเป๋าเป้สะพายหลังของพวกแกมาที่นี่ไม่งั้นข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆเลี้ยงพวกสัตว์ประหลาดซะ”

หัวหน้าแก๊งสั่งอันธพาลเหล่านั้นชี้มีดพร้าและไม้เบสบอลของพวกเขามาที่กลุ่มของเบลซในทันทีสถานการณ์ตอนนี้ดูตึงเครียดมาก มากกว่าสิบคนที่ติดอาวุธด้วยมีดพร้าและไม้เบสบอลยืนล้อมรอบคนทั้ง 5 ไว้ให้ความรู้สึกที่หนักหน่วงของการกดขี่

แต่มันกลับไม่ส่งผลอะไรต่อกลุ่มของเบลซเลยและยังสงบนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เบลซส่งความด้วยน้ําเสียงหนาวเย็นหนาวของเขาออกมาว่า“ทิ้งอาวุธของพวกแกลงตอนนี้แล้วรีบออกไปจากที่นี้ให้เร็วที่สุดแล้วฉันจะทําเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น”

“F**k! ไอ้พวกบัดซบ!”เจตนาฆ่าฟันปรากฎในสายตาหัวหน้าอันธพาลเขาตะโกนเสียงดังพวกของเขาถืออาวุธมีด พร้าวิ่งเข้าใส่เบลซและพวก

ภายใต้การนําของหัวหน้ากลุ่มอันธพาลวิ่งเข้ามาโจมตีกลุ่มของเบลซเหมือนคนคลั่งกับดวงตาสีแดงเข้ม

“รนหาที่ตาย!” เอลลี่ดึงดาบจากด้านหลังวิ่งไปข้างหน้าด้วยการเฉือนที่เหมือนสายลมพุ่งเข้าใส่ร่างของหัวหน้าแก๊ง

ความคล่องตัวและพลังงานในปัจจุบันของเอลลี่ห่างไกลเกินกว่าคนทั่วไปมากคนธรรมดาไม่ได้มีโอกาสที่จะตอบสนองได้ทันหัวของเขาถูกดึงขึ้นสู่ท้องฟ้าเลือดสาดไปทุกที่ร่างที่ไม่มีหัวยังคง ก้าวไปข้างหน้าแต่ก้าวไปได้อีกไม่กี่ก้าวก็ล้มลงกับพื้น

เลือดของมนุษย์สาดใส่ร่างกายของเธอ เธอได้ฆ่ามนุษย์คนแรกในชีวิตแล้ว!

เวลาดูเหมือนจะหยุดกลุ่มอันธพาลที่เห็นฉากนี้ไม่อยากจะเชื่อว่ามันเกิดขึ้นจริงหัวหน้าอันธพาลมีความสามารถในการเป็นผู้นําของกลุ่มอันธพาลเหล่านี้เขาปราศจากความกลัวและเหี้ยมโหดมาก พวกเขาไม่เคยคิดว่าหัวหน้าจะตายด้วยน้ํามือของผู้หญิงจากการโจมตีเพียงครั้งเดียว

หลังจากจัดการหัวหน้าอันธพาลแล้วเธอก้าวไปข้างหน้าตัดแขนของอันธพาล 2 คนน้ําพ่นออกจากแขนที่โดนแยกส่วนออกจากกัน

“ไฟเออร์ บอล”

ในเวลาเดียวกัน เอมิเลียชูมือขึ้นบอลเพลิงปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของเธอมันพุ่งไปข้างหน้าย่างสดนักเลงไปอีกสองสามคน

“อ๊าก!”

“พวกมันไม่ใช่คนแล้ว!”

“เหวอ!!หนีเร็วพวกเรา!”

เห็นหญิงสาวลุกขึ้นสู้พร้อมทั้งฆ่าพวกแกนนําในกลุ่มได้อย่างง่ายดายพวกเด็กแว้นอันธพาลรีบกลับหลังวิ่งหลบหนีพวกเขาเป็นฝูงชนที่ยุ่งเหยิง เมื่อผู้นําตายลงก็หมดกําลังใจการต่อสู้

“อย่าวิ่งหนี! ทั้งหมดรวมตัวกันฆ่ามันเพื่อแก้แค้นให้หัวหน้า!” เด็กแว้นหน้าตาเหี้ยมดวงตาสีแดงเข้มตะโกนเสียงดัง

เบลซส่งประกายแสงของความหนาวเย็นใน

สายตาของเขาสะบัดมือไปข้างหน้าและประหารชีวิตอันธพาลหน้าเหี้ยมด้วยเถาพิษโลหิตเลือดสาดทุกที่มันตัวอ่อนปวกเปียกทรุดตัวลงบนพื้นดิน

อันธพาลหน้าเหี้ยมตายและส่วนที่เหลือของพวกอันธพาลวิ่งหนีไม่เต็มใจที่จะต่อสู้กับพวกเบลซ์ต่อ

“F**k! ไปตายซะ!” สองอันธพาลที่ซื่อสัตย์กับหัวหน้าแก๊งได้วิ่งกลับมาและพยายามที่จะโจมตีพวกเธอ

เมื่อเห็นคนเสียสติสองคนพยายามจะเข้ามาโจมตีเธอเอลลี่พุ่งเข้าไปอย่างไร้ความปราณีสังหารอันธพาลไปอีกสอง
คน

ในด้านอื่นๆ อารมณ์ที่เก็บกดมาพอควรจางมู่และชินรีบวิ่งเข้ามาควง กระบองและง้างธนูของพวกเขาไปที่อันธพาลที่กําลังวิ่งหนี ทุบเข้ากลางลํา ตัวของพวกเขาเลือดและไส้หกรั่วไหลไปทั่วพื้น ในขณะที่บางคนถูกยิงทะลุเป็นรูที่กลางอก

“อ๊ากก” อันธพาลที่โดนทุบกลางลําตัวยังคงมีชีวิตอยู่และในขณะที่ร่างกายท่อนบนของเขาล้มลงกับพื้นพร้อมทั้งร้องไห้ออกมาอย่างเศร้าหมองและตายในเวลาต่อมา

เห็นพวกอันธพาลโดนหวดจนร่างแยกนักเลงไม่กล้ายุ่งกับเบลซและพวกของเขาอีกทั้งหมดรีบวิ่งหนีด้วยสองขาของ
พวกเขาในใจพลางคิดว่าอยากจะมีขาเพิ่มมาอีกซักสองขาเพื่อให้วิ่งหนีเร็วขึ้นอีกซักนิดและหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

“ไปตามเก็บคนพวกนี้จะสร้างปัญหาให้กับผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ” เบลซสั่งด้วยน้ำเสียงเลือดเย็น

“โกร็ววว” ซีฟอสพยักหน้าก่อนจะไต่ไปตามกําแพงผลัดกับบินต่ําๆไปไม่นานก็ไม่เหลืออันธพาลที่ยังมีชีวิตอยู่แม้แต่คนเดียว

ในขณะที่ไลล่าได้ดูฉากที่น่ากลัวนี้ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวและเริ่มอาเจียนออกมาแม้ว่าเธอจะได้ฉายาว่าเป็นภูตน้อยแสนซนแต่ที่เธอจะได้เห็นความน่าสะพรึงกลัวดังกล่าวการฆ่าสัตว์อสูรไม่ได้ทําให้เธอรู้สึกกลัวที่ได้เห็นมันซักเท่าไหร่แต่ตอนนี้เป็นการฆ่าคนที่มีชีวิต จริงๆและเป็นการฆ่าที่สยดสยองซะด้วยมันจึงทําให้เธอกลัวขึ้นมา

จางมู่มองไปที่เกิดเหตุนองเลือดที่เขามีส่วนร่วมใบหน้าของเขาเป็นซีดเล็กน้อยแต่เขาเป็นคนที่มีจิตใจเข้มแข็งจึงไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรมากนัก

เอมิเลียยังคนสะอึกสะอื้นอยู่เล็กน้อยเบลซเลยให้เวลาเธอทําใจอีกซักพัก

แต่หลังจากเธอขึ้นรถเธอก็ร้องไห้ออกมากระโดดเข้ากอดเอลลี่เพื่อนสนิทของเธอ

เห็นเอมิเลีย เอลลี่จึงจับมือปลอบขวัญเอมิเลียส่งสายตานุ่มนวลปลอบใจเธอ

เบลซเดินเข้ามาและพูดว่า “เอมิเลียคุณช่วยเงียบลงหน่อยได้ไหม ผมมีบางสิ่งอยากจะพูดกับเอลลี่”

เอมิเลียหยุดร้องไห้ทันทีแต่ยังคงกอดเอลลี่ไว้ในขณะที่เหมียนเหมียนกระโดดเข้าไปกอดเธออีกคน(ตัว)

“เอาหละพวกเราไปสํารวจที่อื่นกันเถอะพวกเธอมีคนรู้จักที่พอจะไว้ใจได้ไหม?พวกเราลองไปดูกัน”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

The Great Geneticist in Apocalypse 70 กําจัดอันธพาลแล้วสิ

Now you are reading The Great Geneticist in Apocalypse Chapter 70 กําจัดอันธพาลแล้วสิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่70 กําจัดอันธพาลแล้วสิ

เบลซมองไปที่เอมิเลียอย่างเงียบๆ แล้วใส่อาวุธของพวกเขาลงในกระเป๋าเป้สะพายหลังของพวกเขา

เพื่อนๆก็รู้สึกงงๆแต่ก็ยังทําตามเบลซ

สมาชิกแก๊งเด็กแว้นหลายสิบคนล้อมรอบกลุ่มของเบลซทั้ง 5 คนไว้

กลุ่มอันธพาลเหล่านั้นพร้อมทั้งมองไปที่กลุ่มของเบลซขณะที่หัวเราะ

“ผู้หญิงคนนั้นน่าจะใช้การได้ดีอยู่นะ!”

“เธอต้องสร้างความสําราญใจให้ผมได้แน่ๆ”

“ดูเหมือนว่าเราต้องสร้างช่วงเวลาดีๆด้วยกันซักหลายชั่วโมงซะแล้ว”

“พวกคุณต้องชอบของเล่นผมแน่ๆ”

“นั่นแม่สาวน้อย! โอ้ว! ผิวเธอช่างบอบบางจริงๆเนื้อในคงนุ่มมากแน่ๆมาเล่ นกับพี่ไหมล่ะ!”

“อยากได้น้ําขาวๆขุ่นๆไหม? แฮกแฮก
แฮก”

พวกนักเลงยังคงสํารวจ 2 สาวโดยไม่ยับยั้งคําพูดพวกเขาเสียดแทงเข้าไปในใจเอมิเลียและเอลลี่รู้สึกถึงการปองร้ายในสายตาของพวกเด็กนรกเหล่านี้

เบลซเพียงแค่ยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆยืนมองสถานการณ์เท่านั้น ในขณะที่เพื่อนๆของเขากําลังสีหน้าน่าเกลียดและจะชักอาวุธแล้วแต่ก็ยังไม่ทําและมองมาที่เบลซด้วยความสงสัย

“พะ พวกคุณต้องการอะไร?” เบลซและเพื่อนๆไม่ได้พูดอะไรความกดดันจากความเงียบสงบนี้ทําให้เอมิเลียรู้สึกไม่สบายใจแต่ไม่ได้พูดออกมาดังๆเธอจึงเริ่มพูดกับพวกเขา

นักเลงหัวเราะอย่างมากตัณหาแล้วพูดว่า“อยากให้เลียพี่ชายใหญ่”

“ฮ่า!”

“ฮ่า!”

คําพูดนักเลงได้จางหายไปแทบจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะอย่าง อด้าน

เอมิเลียใบหน้าแดงก๋จากนั้นก็ด่าเสียงดังว่า “พวกชั่ว”

“เรามีความชั่วร้าย! รอสักครู่พี่ชายจะช่วยให้คุณรู้ถึงประโยชน์ของพี่ชายใหญ่!เดี๋ยวเราก็จะรู้ว่าคุณจะเห็นด้วยไหม!”หนึ่งในนักเลงหัวเราะออกมาดังๆ

“ใช่! พี่ชายจะผลัดกันที่จะให้ทําคุณได้ลิ้มรสความสุข!หรือจะทําร่วมซัก 4 คนดีฮ่า!”

นักเลงเหล่านั้นยังคงพูดหยาบคายกับเฉินเหยาหลังจากที่มีการล่มสลายของโลกใบนี้ก็ไม่มีตํารวจจับกุมพวกเขาและพวกเขาสามารถทําตามใจในด้านมืดภายในใจของพวกเขาได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องเกรงกลัวกฎหมายหรือศีลธรรมใดๆ

เบลซจองอย่างเย็นชามาที่เอมิเลีย “คนพวกนี้เป็นคนที่คุณต้องการที่จะปกป้อง?”

ความผิดของเอมิเลียถูกตอกย้ําจากคําพูดของเค้าดวงตาเธอแดงก่ําเต็มไปด้วยน้ําตาก้มลงไปร้องไห้กับพื้นช้าๆ

แววตาของพวกนักเลงเต็มไปด้วยไปด้วยแววลามกสัปดนเขาร้องออกมาด้วยเสียงดังว่า “สาวๆทั้ง 3 คน! ตอนนี้ถอดเสื้อผ้าออกซะ!”

“ถอดมันออก!”

“ถอดมันออก!”

บรรดาอันธพาลสายตาของพวกเขาถูกปกคลุมไปด้วยความบ้าคลั่งร้องออกมาด้วยเสียงอันดัง

“คุณจะถอดมันออกหรือไม่!ถ้าไม่ถอดพวกเราจะตัดมือและเท้าของคุณเลี้ยงพวกสัตว์ประหลาด!”เป็นคนหนุ่มที่มีดวงตาสีแดงเข้มใบหน้ากดขี่ที่เป็นคนพูดออกมา

“เบลซลงมือเถอะ!” เอลลี่ที่หมดความอดทนสุดๆแล้วตะโกนออกมา

เบลซตบหลังของเธอเบาๆแล้วพูดว่า“ไม่ต้องกลัวกับเรื่องแค่นี้ยังไงพวกเขาไม่สามารถที่จะแตะแม้แต่ปลายเส้นผมของพวกเราแม้แต่เส้นเดียวแต่ว่าเราจําเป็นต้องให้เพื่อนสนิทของเธอรู้จักระวัง คนที่ไม่รู้จักบ้างและไม่ควรจะใจดีเกินไปไม่งั้นมันจะทําร้ายตัวของเธอเอง”

“ฉันขอโทษ” มองไปที่อันธพาลเหล่านั้นที่เป็นเหมือนสัตว์ป่าเอมิเลียน้ําตานองหน้าทั้งสํานึกผิดโกรธและขยะแขยงในเวลาเดียวกัน

หัวหน้าแก๊งเหลือบมองไปที่เอมิเลียขมวดคิ้วแล้วตะโกนอย่างมาดร้ายใส่พวกเบลซ“พวกแกทั้งหมดโยนกระเป๋าเป้สะพายหลังของพวกแกมาที่นี่ไม่งั้นข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆเลี้ยงพวกสัตว์ประหลาดซะ”

หัวหน้าแก๊งสั่งอันธพาลเหล่านั้นชี้มีดพร้าและไม้เบสบอลของพวกเขามาที่กลุ่มของเบลซในทันทีสถานการณ์ตอนนี้ดูตึงเครียดมาก มากกว่าสิบคนที่ติดอาวุธด้วยมีดพร้าและไม้เบสบอลยืนล้อมรอบคนทั้ง 5 ไว้ให้ความรู้สึกที่หนักหน่วงของการกดขี่

แต่มันกลับไม่ส่งผลอะไรต่อกลุ่มของเบลซเลยและยังสงบนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เบลซส่งความด้วยน้ําเสียงหนาวเย็นหนาวของเขาออกมาว่า“ทิ้งอาวุธของพวกแกลงตอนนี้แล้วรีบออกไปจากที่นี้ให้เร็วที่สุดแล้วฉันจะทําเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น”

“F**k! ไอ้พวกบัดซบ!”เจตนาฆ่าฟันปรากฎในสายตาหัวหน้าอันธพาลเขาตะโกนเสียงดังพวกของเขาถืออาวุธมีด พร้าวิ่งเข้าใส่เบลซและพวก

ภายใต้การนําของหัวหน้ากลุ่มอันธพาลวิ่งเข้ามาโจมตีกลุ่มของเบลซเหมือนคนคลั่งกับดวงตาสีแดงเข้ม

“รนหาที่ตาย!” เอลลี่ดึงดาบจากด้านหลังวิ่งไปข้างหน้าด้วยการเฉือนที่เหมือนสายลมพุ่งเข้าใส่ร่างของหัวหน้าแก๊ง

ความคล่องตัวและพลังงานในปัจจุบันของเอลลี่ห่างไกลเกินกว่าคนทั่วไปมากคนธรรมดาไม่ได้มีโอกาสที่จะตอบสนองได้ทันหัวของเขาถูกดึงขึ้นสู่ท้องฟ้าเลือดสาดไปทุกที่ร่างที่ไม่มีหัวยังคง ก้าวไปข้างหน้าแต่ก้าวไปได้อีกไม่กี่ก้าวก็ล้มลงกับพื้น

เลือดของมนุษย์สาดใส่ร่างกายของเธอ เธอได้ฆ่ามนุษย์คนแรกในชีวิตแล้ว!

เวลาดูเหมือนจะหยุดกลุ่มอันธพาลที่เห็นฉากนี้ไม่อยากจะเชื่อว่ามันเกิดขึ้นจริงหัวหน้าอันธพาลมีความสามารถในการเป็นผู้นําของกลุ่มอันธพาลเหล่านี้เขาปราศจากความกลัวและเหี้ยมโหดมาก พวกเขาไม่เคยคิดว่าหัวหน้าจะตายด้วยน้ํามือของผู้หญิงจากการโจมตีเพียงครั้งเดียว

หลังจากจัดการหัวหน้าอันธพาลแล้วเธอก้าวไปข้างหน้าตัดแขนของอันธพาล 2 คนน้ําพ่นออกจากแขนที่โดนแยกส่วนออกจากกัน

“ไฟเออร์ บอล”

ในเวลาเดียวกัน เอมิเลียชูมือขึ้นบอลเพลิงปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของเธอมันพุ่งไปข้างหน้าย่างสดนักเลงไปอีกสองสามคน

“อ๊าก!”

“พวกมันไม่ใช่คนแล้ว!”

“เหวอ!!หนีเร็วพวกเรา!”

เห็นหญิงสาวลุกขึ้นสู้พร้อมทั้งฆ่าพวกแกนนําในกลุ่มได้อย่างง่ายดายพวกเด็กแว้นอันธพาลรีบกลับหลังวิ่งหลบหนีพวกเขาเป็นฝูงชนที่ยุ่งเหยิง เมื่อผู้นําตายลงก็หมดกําลังใจการต่อสู้

“อย่าวิ่งหนี! ทั้งหมดรวมตัวกันฆ่ามันเพื่อแก้แค้นให้หัวหน้า!” เด็กแว้นหน้าตาเหี้ยมดวงตาสีแดงเข้มตะโกนเสียงดัง

เบลซส่งประกายแสงของความหนาวเย็นใน

สายตาของเขาสะบัดมือไปข้างหน้าและประหารชีวิตอันธพาลหน้าเหี้ยมด้วยเถาพิษโลหิตเลือดสาดทุกที่มันตัวอ่อนปวกเปียกทรุดตัวลงบนพื้นดิน

อันธพาลหน้าเหี้ยมตายและส่วนที่เหลือของพวกอันธพาลวิ่งหนีไม่เต็มใจที่จะต่อสู้กับพวกเบลซ์ต่อ

“F**k! ไปตายซะ!” สองอันธพาลที่ซื่อสัตย์กับหัวหน้าแก๊งได้วิ่งกลับมาและพยายามที่จะโจมตีพวกเธอ

เมื่อเห็นคนเสียสติสองคนพยายามจะเข้ามาโจมตีเธอเอลลี่พุ่งเข้าไปอย่างไร้ความปราณีสังหารอันธพาลไปอีกสอง
คน

ในด้านอื่นๆ อารมณ์ที่เก็บกดมาพอควรจางมู่และชินรีบวิ่งเข้ามาควง กระบองและง้างธนูของพวกเขาไปที่อันธพาลที่กําลังวิ่งหนี ทุบเข้ากลางลํา ตัวของพวกเขาเลือดและไส้หกรั่วไหลไปทั่วพื้น ในขณะที่บางคนถูกยิงทะลุเป็นรูที่กลางอก

“อ๊ากก” อันธพาลที่โดนทุบกลางลําตัวยังคงมีชีวิตอยู่และในขณะที่ร่างกายท่อนบนของเขาล้มลงกับพื้นพร้อมทั้งร้องไห้ออกมาอย่างเศร้าหมองและตายในเวลาต่อมา

เห็นพวกอันธพาลโดนหวดจนร่างแยกนักเลงไม่กล้ายุ่งกับเบลซและพวกของเขาอีกทั้งหมดรีบวิ่งหนีด้วยสองขาของ
พวกเขาในใจพลางคิดว่าอยากจะมีขาเพิ่มมาอีกซักสองขาเพื่อให้วิ่งหนีเร็วขึ้นอีกซักนิดและหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

“ไปตามเก็บคนพวกนี้จะสร้างปัญหาให้กับผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ” เบลซสั่งด้วยน้ำเสียงเลือดเย็น

“โกร็ววว” ซีฟอสพยักหน้าก่อนจะไต่ไปตามกําแพงผลัดกับบินต่ําๆไปไม่นานก็ไม่เหลืออันธพาลที่ยังมีชีวิตอยู่แม้แต่คนเดียว

ในขณะที่ไลล่าได้ดูฉากที่น่ากลัวนี้ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวและเริ่มอาเจียนออกมาแม้ว่าเธอจะได้ฉายาว่าเป็นภูตน้อยแสนซนแต่ที่เธอจะได้เห็นความน่าสะพรึงกลัวดังกล่าวการฆ่าสัตว์อสูรไม่ได้ทําให้เธอรู้สึกกลัวที่ได้เห็นมันซักเท่าไหร่แต่ตอนนี้เป็นการฆ่าคนที่มีชีวิต จริงๆและเป็นการฆ่าที่สยดสยองซะด้วยมันจึงทําให้เธอกลัวขึ้นมา

จางมู่มองไปที่เกิดเหตุนองเลือดที่เขามีส่วนร่วมใบหน้าของเขาเป็นซีดเล็กน้อยแต่เขาเป็นคนที่มีจิตใจเข้มแข็งจึงไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรมากนัก

เอมิเลียยังคนสะอึกสะอื้นอยู่เล็กน้อยเบลซเลยให้เวลาเธอทําใจอีกซักพัก

แต่หลังจากเธอขึ้นรถเธอก็ร้องไห้ออกมากระโดดเข้ากอดเอลลี่เพื่อนสนิทของเธอ

เห็นเอมิเลีย เอลลี่จึงจับมือปลอบขวัญเอมิเลียส่งสายตานุ่มนวลปลอบใจเธอ

เบลซเดินเข้ามาและพูดว่า “เอมิเลียคุณช่วยเงียบลงหน่อยได้ไหม ผมมีบางสิ่งอยากจะพูดกับเอลลี่”

เอมิเลียหยุดร้องไห้ทันทีแต่ยังคงกอดเอลลี่ไว้ในขณะที่เหมียนเหมียนกระโดดเข้าไปกอดเธออีกคน(ตัว)

“เอาหละพวกเราไปสํารวจที่อื่นกันเถอะพวกเธอมีคนรู้จักที่พอจะไว้ใจได้ไหม?พวกเราลองไปดูกัน”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+