The Great Geneticist in Apocalypse 72 สลายฝูงสัตว์อสูรแล้วสิ

Now you are reading The Great Geneticist in Apocalypse Chapter 72 สลายฝูงสัตว์อสูรแล้วสิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 72 สลายฝูงสัตว์อสูรแล้วสิ

เบลซมองลงไปข้างล่างเขาเห็นฝูงหนูกลายพันธ์รวมกลุ่มกันสองสามตัวซึ่งถึงสิบตัวฝูงพวกนี้ไม่มีตัวที่มีธาตุแม้แต่ตัวเดียว และขนาดของมันเล็ก เขาก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่ว่าเมื่อเขามองไปอีกทางไกลๆ เขาเห็นฝูงหนูกลายพันธ์ประมาณร้อยตัว ในนั้นมีตัวที่มีธาตุไฟหนึ่งตัว ธาตุลมอีกหนึ่งตัว

“ตรงนั้น!” เบลซชี้นิ้วไปทางฝูงหนูกลายพันธ์ร้อยตัวทันที

“โกร็วววว” ซีฟอสคํารามก่อนจะบินลงไป

“จ๊ดดดดดดดด

“จี๊ดดดดดด”

“จี๊ดดดดด”

ฝูงหนูกลายพันธ์ร้องระงมและเริ่มกระจายตัวออกไปเนื่องจากพวกมันรู้สึกได้ถึงรังสีของสัตว์อสูรที่วิวัฒนาการเหนือกว่าพวกมันกําลังมุ่งหน้ามาหา

“ฟูววววว” แต่ว่าแน่นอนว่าไม่ทัน ทันทีที่ซีฟอสบินลงมามันเปิดปากพ่นเพลิงอเวจีกว้างๆเผาหนูกลายพันธ์ไปสามสิบสี่สิบตัวในทันที

“ฉีก ฉีก” เบลซโบกมือ เถาพิษโลหิตจัดการตัวที่มีธาตุทั้งสองในทันที เบลซยื่นคริสตัลธาตุลมให้เอลลี่แล้วบอกเธอว่า “ดูดซับมันซะ”

“ขอบใจนะ” เธอตอบก่อนจะยื่นมือออกมาดูดซับมัน

หลังจากการสลายฝูงมีหนูกลายพันธ์หลายตัวที่หนีกระจายออกไป แต่ว่าเป้าหมายของเบลซก็ลุล่วงแล้ว ตัวที่มีพลังธาตุถูกกําจัดและพวกมันไม่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ ถึงพวกมันมีแนวโน้มว่าจะกลับมารวมกันแต่ก็คงอีกนานเพราะขาดตัวที่เป็นผู้จ่าฝูงไป

“เธอมีแต้มวิวัฒนาการเท่าไหร่แล้ว”

เบลซถาม

“ดูเอาเองสิ” เอลลี่ตอบก่อนจะยื่นหน้า จอระบบให้
ชื่อ เอลลี่ ชาล็อตเต้ เหรียญชีวิต85เหรียญ

ระดับ12

สิ่งมีชีวิตระดับ ขาว(25/100) พลังธา ตุ <ลม น้ําแข็ง>
อาชีพนักดาบฝึกหัด

อาชีพเสริม ไม่มี

ฉายา ไม่มี

Strength(แรงกาย) : 13

Agility(ความว่องไว) : 18

Vitality(พละกําลัง) : 12

Stamina(ความทรหด) : 13

Spirituality(จิตวิญญาณ) : 12ทักษะ

<เชี่ยวชาญดาบขั้น1(ขาว)> <ร้อยคมเหมันต์(เขียวอ่อน)>

“พึ่ง25เองหรอเนี่ย”

“ก็ใครให้มันไม่เจอคริสตัลธาตุลมบ่อยๆกันเล่า!” เอลลี่เถียงทําท่าแก้มป่อง

“เฮ้ออ เธอเนี่ยน่ะป่านนี้คนอื่นไปถึงไหนกันหมดแล้วมั้ง เธอน่าจะล่าเองได้นะ”

“ก็ใครใช้ให้ฉันอยากอยู่กับนายตลอดเวลาเล่า” เอลลี่บ่นอุบอิบ

“อะไรนะ?” เบลซรู้สึกเขินอายเล็กน้อย แต่ตอบทําเป็นเหมือนไม่ได้ยิน

“มะ ไม่มีอะไร” เอลลี่อายม้วนก่อนจะไม่พูดอะไรอีก

“ป้าป๋าคุยอะไรกันนะ?” ซีฟอสคิดในใจ แต่ก็ยังบินต่อไปเรื่อยๆภายใต้การกําหนดทิศทางของเบลซ

“จ็บๆ จิบๆ จิบๆ” เสียงของนกหลายตัวดังขึ้น เบลซมองไปรอบๆมองลงข้างล่าง ก่อนจะมองขึ้นข้างบน

เบลซเห็นฝูงนกพิราบสีเทาขนาดใหญ่ พวกมันตั้งแต่หัวจรดปลายหางตัวละ ราวๆ5ฟุต(-150ซม.)ประมาณยี่สิบตัว และหนึ่งในพวกมันมีตัวหนึ่งที่ใหญ่เป็นสามเท่าจากพวกขนมีสีเขียวศิลานวล

สวยประเมิน

“นกพิราบวายุ(ขาว) ระดับ7-9 ยี่สิบตัว”

“นกพิราบหยกวายุ<ลม>(เขียวอ่อน) ระดับ 12”

“ถ้าปล่อยให้พวกมันมีจํานวนมากกว่านี้คงจะไม่ดี แถมพวกนี้ก็บินได้ด้วย ถ้าโชคร้ายเจอกับพวกมันตอนที่พักบาเรียฐานพอดีน่าจะยุ่ง จัดการพวกมันไปเลยดีกว่า” เบลซคิดก่อนจะตัดสินใจจิตสังหารถูกปล่อยออกมา “ฆ่ามันซะ!”

“กร้าววววว” ซีฟอสคํารามเสียงใหญ่ ก่อนจะบินขึ้นไปหาฝูงนกพิราบวายุทันที

“จิบๆๆๆๆๆๆๆๆ” ฝูงนกพิรายวายุร้องระงมแต่ว่าพวกมันก็บินเข้าหาพวกเบลซเหมือนกัน เนื่องจากหัวหน้าของพวกมันก็ไม่ได้อ่อนแอ

“จิบ!!” นกพิราบหยกวายุสะบัดปีกคมมีดสายลมสองสายซัดมาทางเบลซ

“แครั้ง แครั้ง” ซีฟอสหุบปีกทั้งสองข้างบังร่างของตัวเองและเบลซกับเอลลี่ที่อยู่บนหลัง

คมวายุปะทะเข้ากับปีกสีแดงไม่เกิดแม้แต่รอยขีดข่วน

“ดูจากความแรงแล้วเหมือนจะเป็น ทักษะระดับขาวแต่ก็ไม่แน่ว่ามันจะไม่มี” เบลซคิดในใจก่อนจะพูดว่า “เอลลี่ เธอจัดการนกพิราบธรรมดาที่เข้ามาใกล้ๆหละ เจ้าดาบน้อยนายยื่อจ่าฝูงไว้ซะ”

“อื้อ!”

“โกรัว”

“เถาโลหิต” เบลซสะบัดมือเรียกเถาพิษโลหิตคู่ใจทั้งเจ็ดออกมา ก่อนจะสะบัดไปจัดการกับนกพิราบวายุตัวอื่น ขณะที่ซีฟอสกําลังต่อสู้อย่างดุเดือดกับนกพิราบหยกวายุ

“แครงๆๆ” กรงเล็บของสัตว์อสูรทั้งสองตัวปะทะกันก่อนะผละออกจากกันอีกครั้ง

“ควัน ควับ” ซีฟอสกางปีกออกปีกของมันเต็มไปด้วยออร่าสีเขียวดาบสายลมสีเขียวอ่อนยาวสองคมซัดไปทางนกพิราบหยกวายุ

“ปีกสายลม!”

“จิ๊บ! จิ๊บ!” คมสายลมฟันเข้าไปที่ลําตัวของนกพิราบหยกวายุแผลรูปกากบาทยาว60เซนติเมตรอยู่บนลําตัวของมันเปลี่ยนขนสีเขียวหยกรอบๆให้กลายเป็นสีแดง

“จ็บ!!!” นกพิราบหยกวายุร้องเสียงดัง ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว มันพุ่งเข้าหาไวเวิร์นสีแดงด้วความเร็วสูง ตอนนั้นเองจะงอยปากของมันเปลี่ยนเป็นสีขาวพุ่งเข้าไปที่กลายลําตัวของซีฟอส

“แครก!! โกร็วววว!” จะงอยปากชนเข้าไปที่ข้างลําตัวของซีฟอสเกล็ดของมันร้าวเล็กน้อยสองสามเกล็ดเลือดไหลออกมาระหว่างรอยร้าวเล็กน้อย ส่วนนกพิราบหยกวายุก็กระเด็นออกไปจะแรงที่พุ่งชน

“คาดว่าน่าจะเป็นทักษะระดับเขียวอ่อนบางอย่าง” เบลซพึมพัมพลางสั่ง “ใช้ท่าไม้ตายไปเลย! ไม่ต้องออมพลังงานแล้วสู้ยืดเยื้อไปนานๆจะบาดเจ็บเปล่าๆ”

“โกร็วววววว!” ซีฟอสคํารามลั่นร่างของมันห่อหุ้มไปด้วยออร่าสีเขียว สายลมสีเขียวออ่อนพัดไปรอบๆ ก่อนจะรวมกันเป็นไวเวิร์นสีเขียวอ่อนสูงสามเมตร

“โกร็วววว!” ไวเวิร์นที่เกิดจากสายลมนั้นคํารามก่อนจะพุ่งเข้าหานพิราบหยกวายุ

“จิบบ!” นกพิราบหยกวายุรู้สึกได้ถึงอันตรายจากทักษะนี้แต่ว่ามันหลบไปทัน

“โกร็ววว” ซีฟอสฟนเพลิงออกมา กลายเป็นไวเวิร์นสีส้มแดงตัวเล็กหนึ่งเมตรมันพุ่งเข้าหาไวเวิร์นที่สร้างจากลมในตอนแรก

“ฟรีบ” ด้วยวายุเสริมเพลิงไวเวิร์นที่ถูกสร้างจากลม กลายเป็นไวเวิร์นเพลิงขนาดยักษ์ใหญ่กว่าสิบเมตร พุ่งเข้าใส่นกพิราบหยกวายุ

มังกรวายุผงาดโลกันต์!

“ตู้มมมม!” เปลวเพลิงระเบิดอย่างรุนแรงลุกท่วมนกพิราบหยกวายุจนมองไม่เห็นร่างของมัน

“ฉีก ฉีก ฉีก ฉีก หมดพอดี” เบลซพูด หลังจากกําจัดนกพิราบวายุทั้งหมดแล้ว รอบนี้เขาได้คริสตัลไร้ธาตุมาจํานวนไม่น้อยเลยทีเดียว

ซักพักร่างไหม้เกรียมก็ร่วงหล่นเป็นนกพิราบสีดําแต่ยังคงมีบางส่วนที่ยังเห็นเป็นสีเขียว เป็นร่างของนกพิราบหยกวายุ!

“พรึบ พรึบ” เบลซสั่งให้ซีฟอสบินตามลงไปมันกระพือปีกค่อยๆลดระดับจนลงมาถึงพื้น

แน่นอนว่าการต่อสู้ในครั้งนี้มีหลายคนที่เห็นการต่อสู้ครั้งนี้!

หลังจากถึงพื้นเบลซลงมาจากหลังของเจ้าดาบน้อยก่อนจะลงมาดูนกพิราบ หยกวายุที่หายใจรวยริน

“ไม่ต้องห่วงนะฉันจะส่งนายไปสบายเอง” เบลซพูดเถาพิษโลหิตแทงไปที่หัวของมันก่อนจะดึงคริสตัลธาตุลมที่มีประกายสีเขียวอ่อนออกมา

“นกพิราบหยกวายุ<ลม>(เขียวอ่อน) ถูกสังหาร ได้รับเหรียญชีวิต 20 เหรียญ และดรอปทักษะ ดาบวายุ(ขาว)ไว้ในคริสตัลของมัน

เบลซมองไปที่ซากของมันเมื่อเห็นขนที่ไหม้เกรียมไปเกือบหมดแล้วคงจะเอาไปทําอะไรไม่ได้ เลยจําใจทิ้งมันไปด้วยความรู้สึกเสียดาย

เบลซักรีดปลายนิ้วตัวเองเล็กน้อยพิษ หัวใจขาวซิมออกมาผ่านเลือดเบลซลูบปลายนิ้วไปที่รอยร้าวเกล็ดของซีฟอสเกล็ดของมันปิดสนิทอีกครั้ง

“งับ งับ งับ” ซีฟอสฉีกร่างของมันกัน เนื้อสุกสีขาวที่อยู่ข้างในด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย

“กรือววว”ซีฟอสร้องออกมาด้วยท่าทางน่าเอ็นดูมันเอาหัวสีไปมาที่หน้าของเบลซ

“ขี้อ้อนจังนะ ไปกันต่อเถอะ” เบลซพูดก่อนจะอุ้มเอลลี่ขึ้นและขี้หลังเจ้าดาบน้อยไปยังที่ต่อไปอีกด้านหนึ่งที่อยู่ไกลๆ

“นะ นั้นมันตัวอะไรหนะ?” ชายคนหนึ่งพูดด้วยเสียงสั้นๆหน้ายังเงยค้างมองท้องฟ้าที่อยู่ไกล ถ้ามองดีๆจะเห็นว่า พวกเขามีกันหลายคนและท่าทางเหมือนกับกําลังช็อคในสิ่งที่ตัวเองเห็น

“ที่แน่ๆ พาวนาไว้ว่าอย่าได้เจอมันเลย ดีกว่าเจ้าตัวสีแดงนั้นถ้าใครเจอเข้าหละ ก็ไม่เหลือซากแน่ๆ” ชายอีกคนหนึ่งพูด ถ้ามองรอบๆหละก็จะเห็นว่าคนกลุ่มนี้ ต่างมีอาวุธในมีและรอบๆมีซากของสัตว์อสูรประมาณสามสี่ตัวอีกมุมหนึ่งของเมือง

“คิร่า นะ- นั้นมันตัวอะไรหนะไม่เห็นจะจําเลยว่ามีฝูงสัตว์อสูรที่มีจ่าฝูงตัวสีแดงอยู่ในละแวกนี้” หญิงสาวคนนึ่งตามด้วยความสั่นกลัว

“ฉันไม่รู้ แต่รู้แค่ว่ามันน่าจะแกร่งกว่าพวกหัวหน้าฝูงอีก แถมน่าจะไม่ใช่จ่าฝูงด้วย!มันไม่มีสมาชิกเลยแม้แต่ตัวเดียว ถ้าเจอมันก็ให้หนีทันที! ส่วนจะรอดไหมก็ขึ้นอยู่กับโชคแล้ว”

“อีกอย่างฝั่งนั้นเริ่มจะขอเจรจาแล้ว จะเอาไงดี?”

“ก็ต้องลองไปดูแต่ว่าระวังตัวไว้ด้วยหละ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

The Great Geneticist in Apocalypse 72 สลายฝูงสัตว์อสูรแล้วสิ

Now you are reading The Great Geneticist in Apocalypse Chapter 72 สลายฝูงสัตว์อสูรแล้วสิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 72 สลายฝูงสัตว์อสูรแล้วสิ

เบลซมองลงไปข้างล่างเขาเห็นฝูงหนูกลายพันธ์รวมกลุ่มกันสองสามตัวซึ่งถึงสิบตัวฝูงพวกนี้ไม่มีตัวที่มีธาตุแม้แต่ตัวเดียว และขนาดของมันเล็ก เขาก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่ว่าเมื่อเขามองไปอีกทางไกลๆ เขาเห็นฝูงหนูกลายพันธ์ประมาณร้อยตัว ในนั้นมีตัวที่มีธาตุไฟหนึ่งตัว ธาตุลมอีกหนึ่งตัว

“ตรงนั้น!” เบลซชี้นิ้วไปทางฝูงหนูกลายพันธ์ร้อยตัวทันที

“โกร็วววว” ซีฟอสคํารามก่อนจะบินลงไป

“จ๊ดดดดดดดด

“จี๊ดดดดดด”

“จี๊ดดดดด”

ฝูงหนูกลายพันธ์ร้องระงมและเริ่มกระจายตัวออกไปเนื่องจากพวกมันรู้สึกได้ถึงรังสีของสัตว์อสูรที่วิวัฒนาการเหนือกว่าพวกมันกําลังมุ่งหน้ามาหา

“ฟูววววว” แต่ว่าแน่นอนว่าไม่ทัน ทันทีที่ซีฟอสบินลงมามันเปิดปากพ่นเพลิงอเวจีกว้างๆเผาหนูกลายพันธ์ไปสามสิบสี่สิบตัวในทันที

“ฉีก ฉีก” เบลซโบกมือ เถาพิษโลหิตจัดการตัวที่มีธาตุทั้งสองในทันที เบลซยื่นคริสตัลธาตุลมให้เอลลี่แล้วบอกเธอว่า “ดูดซับมันซะ”

“ขอบใจนะ” เธอตอบก่อนจะยื่นมือออกมาดูดซับมัน

หลังจากการสลายฝูงมีหนูกลายพันธ์หลายตัวที่หนีกระจายออกไป แต่ว่าเป้าหมายของเบลซก็ลุล่วงแล้ว ตัวที่มีพลังธาตุถูกกําจัดและพวกมันไม่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ ถึงพวกมันมีแนวโน้มว่าจะกลับมารวมกันแต่ก็คงอีกนานเพราะขาดตัวที่เป็นผู้จ่าฝูงไป

“เธอมีแต้มวิวัฒนาการเท่าไหร่แล้ว”

เบลซถาม

“ดูเอาเองสิ” เอลลี่ตอบก่อนจะยื่นหน้า จอระบบให้
ชื่อ เอลลี่ ชาล็อตเต้ เหรียญชีวิต85เหรียญ

ระดับ12

สิ่งมีชีวิตระดับ ขาว(25/100) พลังธา ตุ <ลม น้ําแข็ง>
อาชีพนักดาบฝึกหัด

อาชีพเสริม ไม่มี

ฉายา ไม่มี

Strength(แรงกาย) : 13

Agility(ความว่องไว) : 18

Vitality(พละกําลัง) : 12

Stamina(ความทรหด) : 13

Spirituality(จิตวิญญาณ) : 12ทักษะ

<เชี่ยวชาญดาบขั้น1(ขาว)> <ร้อยคมเหมันต์(เขียวอ่อน)>

“พึ่ง25เองหรอเนี่ย”

“ก็ใครให้มันไม่เจอคริสตัลธาตุลมบ่อยๆกันเล่า!” เอลลี่เถียงทําท่าแก้มป่อง

“เฮ้ออ เธอเนี่ยน่ะป่านนี้คนอื่นไปถึงไหนกันหมดแล้วมั้ง เธอน่าจะล่าเองได้นะ”

“ก็ใครใช้ให้ฉันอยากอยู่กับนายตลอดเวลาเล่า” เอลลี่บ่นอุบอิบ

“อะไรนะ?” เบลซรู้สึกเขินอายเล็กน้อย แต่ตอบทําเป็นเหมือนไม่ได้ยิน

“มะ ไม่มีอะไร” เอลลี่อายม้วนก่อนจะไม่พูดอะไรอีก

“ป้าป๋าคุยอะไรกันนะ?” ซีฟอสคิดในใจ แต่ก็ยังบินต่อไปเรื่อยๆภายใต้การกําหนดทิศทางของเบลซ

“จ็บๆ จิบๆ จิบๆ” เสียงของนกหลายตัวดังขึ้น เบลซมองไปรอบๆมองลงข้างล่าง ก่อนจะมองขึ้นข้างบน

เบลซเห็นฝูงนกพิราบสีเทาขนาดใหญ่ พวกมันตั้งแต่หัวจรดปลายหางตัวละ ราวๆ5ฟุต(-150ซม.)ประมาณยี่สิบตัว และหนึ่งในพวกมันมีตัวหนึ่งที่ใหญ่เป็นสามเท่าจากพวกขนมีสีเขียวศิลานวล

สวยประเมิน

“นกพิราบวายุ(ขาว) ระดับ7-9 ยี่สิบตัว”

“นกพิราบหยกวายุ<ลม>(เขียวอ่อน) ระดับ 12”

“ถ้าปล่อยให้พวกมันมีจํานวนมากกว่านี้คงจะไม่ดี แถมพวกนี้ก็บินได้ด้วย ถ้าโชคร้ายเจอกับพวกมันตอนที่พักบาเรียฐานพอดีน่าจะยุ่ง จัดการพวกมันไปเลยดีกว่า” เบลซคิดก่อนจะตัดสินใจจิตสังหารถูกปล่อยออกมา “ฆ่ามันซะ!”

“กร้าววววว” ซีฟอสคํารามเสียงใหญ่ ก่อนจะบินขึ้นไปหาฝูงนกพิราบวายุทันที

“จิบๆๆๆๆๆๆๆๆ” ฝูงนกพิรายวายุร้องระงมแต่ว่าพวกมันก็บินเข้าหาพวกเบลซเหมือนกัน เนื่องจากหัวหน้าของพวกมันก็ไม่ได้อ่อนแอ

“จิบ!!” นกพิราบหยกวายุสะบัดปีกคมมีดสายลมสองสายซัดมาทางเบลซ

“แครั้ง แครั้ง” ซีฟอสหุบปีกทั้งสองข้างบังร่างของตัวเองและเบลซกับเอลลี่ที่อยู่บนหลัง

คมวายุปะทะเข้ากับปีกสีแดงไม่เกิดแม้แต่รอยขีดข่วน

“ดูจากความแรงแล้วเหมือนจะเป็น ทักษะระดับขาวแต่ก็ไม่แน่ว่ามันจะไม่มี” เบลซคิดในใจก่อนจะพูดว่า “เอลลี่ เธอจัดการนกพิราบธรรมดาที่เข้ามาใกล้ๆหละ เจ้าดาบน้อยนายยื่อจ่าฝูงไว้ซะ”

“อื้อ!”

“โกรัว”

“เถาโลหิต” เบลซสะบัดมือเรียกเถาพิษโลหิตคู่ใจทั้งเจ็ดออกมา ก่อนจะสะบัดไปจัดการกับนกพิราบวายุตัวอื่น ขณะที่ซีฟอสกําลังต่อสู้อย่างดุเดือดกับนกพิราบหยกวายุ

“แครงๆๆ” กรงเล็บของสัตว์อสูรทั้งสองตัวปะทะกันก่อนะผละออกจากกันอีกครั้ง

“ควัน ควับ” ซีฟอสกางปีกออกปีกของมันเต็มไปด้วยออร่าสีเขียวดาบสายลมสีเขียวอ่อนยาวสองคมซัดไปทางนกพิราบหยกวายุ

“ปีกสายลม!”

“จิ๊บ! จิ๊บ!” คมสายลมฟันเข้าไปที่ลําตัวของนกพิราบหยกวายุแผลรูปกากบาทยาว60เซนติเมตรอยู่บนลําตัวของมันเปลี่ยนขนสีเขียวหยกรอบๆให้กลายเป็นสีแดง

“จ็บ!!!” นกพิราบหยกวายุร้องเสียงดัง ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว มันพุ่งเข้าหาไวเวิร์นสีแดงด้วความเร็วสูง ตอนนั้นเองจะงอยปากของมันเปลี่ยนเป็นสีขาวพุ่งเข้าไปที่กลายลําตัวของซีฟอส

“แครก!! โกร็วววว!” จะงอยปากชนเข้าไปที่ข้างลําตัวของซีฟอสเกล็ดของมันร้าวเล็กน้อยสองสามเกล็ดเลือดไหลออกมาระหว่างรอยร้าวเล็กน้อย ส่วนนกพิราบหยกวายุก็กระเด็นออกไปจะแรงที่พุ่งชน

“คาดว่าน่าจะเป็นทักษะระดับเขียวอ่อนบางอย่าง” เบลซพึมพัมพลางสั่ง “ใช้ท่าไม้ตายไปเลย! ไม่ต้องออมพลังงานแล้วสู้ยืดเยื้อไปนานๆจะบาดเจ็บเปล่าๆ”

“โกร็วววววว!” ซีฟอสคํารามลั่นร่างของมันห่อหุ้มไปด้วยออร่าสีเขียว สายลมสีเขียวออ่อนพัดไปรอบๆ ก่อนจะรวมกันเป็นไวเวิร์นสีเขียวอ่อนสูงสามเมตร

“โกร็วววว!” ไวเวิร์นที่เกิดจากสายลมนั้นคํารามก่อนจะพุ่งเข้าหานพิราบหยกวายุ

“จิบบ!” นกพิราบหยกวายุรู้สึกได้ถึงอันตรายจากทักษะนี้แต่ว่ามันหลบไปทัน

“โกร็ววว” ซีฟอสฟนเพลิงออกมา กลายเป็นไวเวิร์นสีส้มแดงตัวเล็กหนึ่งเมตรมันพุ่งเข้าหาไวเวิร์นที่สร้างจากลมในตอนแรก

“ฟรีบ” ด้วยวายุเสริมเพลิงไวเวิร์นที่ถูกสร้างจากลม กลายเป็นไวเวิร์นเพลิงขนาดยักษ์ใหญ่กว่าสิบเมตร พุ่งเข้าใส่นกพิราบหยกวายุ

มังกรวายุผงาดโลกันต์!

“ตู้มมมม!” เปลวเพลิงระเบิดอย่างรุนแรงลุกท่วมนกพิราบหยกวายุจนมองไม่เห็นร่างของมัน

“ฉีก ฉีก ฉีก ฉีก หมดพอดี” เบลซพูด หลังจากกําจัดนกพิราบวายุทั้งหมดแล้ว รอบนี้เขาได้คริสตัลไร้ธาตุมาจํานวนไม่น้อยเลยทีเดียว

ซักพักร่างไหม้เกรียมก็ร่วงหล่นเป็นนกพิราบสีดําแต่ยังคงมีบางส่วนที่ยังเห็นเป็นสีเขียว เป็นร่างของนกพิราบหยกวายุ!

“พรึบ พรึบ” เบลซสั่งให้ซีฟอสบินตามลงไปมันกระพือปีกค่อยๆลดระดับจนลงมาถึงพื้น

แน่นอนว่าการต่อสู้ในครั้งนี้มีหลายคนที่เห็นการต่อสู้ครั้งนี้!

หลังจากถึงพื้นเบลซลงมาจากหลังของเจ้าดาบน้อยก่อนจะลงมาดูนกพิราบ หยกวายุที่หายใจรวยริน

“ไม่ต้องห่วงนะฉันจะส่งนายไปสบายเอง” เบลซพูดเถาพิษโลหิตแทงไปที่หัวของมันก่อนจะดึงคริสตัลธาตุลมที่มีประกายสีเขียวอ่อนออกมา

“นกพิราบหยกวายุ<ลม>(เขียวอ่อน) ถูกสังหาร ได้รับเหรียญชีวิต 20 เหรียญ และดรอปทักษะ ดาบวายุ(ขาว)ไว้ในคริสตัลของมัน

เบลซมองไปที่ซากของมันเมื่อเห็นขนที่ไหม้เกรียมไปเกือบหมดแล้วคงจะเอาไปทําอะไรไม่ได้ เลยจําใจทิ้งมันไปด้วยความรู้สึกเสียดาย

เบลซักรีดปลายนิ้วตัวเองเล็กน้อยพิษ หัวใจขาวซิมออกมาผ่านเลือดเบลซลูบปลายนิ้วไปที่รอยร้าวเกล็ดของซีฟอสเกล็ดของมันปิดสนิทอีกครั้ง

“งับ งับ งับ” ซีฟอสฉีกร่างของมันกัน เนื้อสุกสีขาวที่อยู่ข้างในด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย

“กรือววว”ซีฟอสร้องออกมาด้วยท่าทางน่าเอ็นดูมันเอาหัวสีไปมาที่หน้าของเบลซ

“ขี้อ้อนจังนะ ไปกันต่อเถอะ” เบลซพูดก่อนจะอุ้มเอลลี่ขึ้นและขี้หลังเจ้าดาบน้อยไปยังที่ต่อไปอีกด้านหนึ่งที่อยู่ไกลๆ

“นะ นั้นมันตัวอะไรหนะ?” ชายคนหนึ่งพูดด้วยเสียงสั้นๆหน้ายังเงยค้างมองท้องฟ้าที่อยู่ไกล ถ้ามองดีๆจะเห็นว่า พวกเขามีกันหลายคนและท่าทางเหมือนกับกําลังช็อคในสิ่งที่ตัวเองเห็น

“ที่แน่ๆ พาวนาไว้ว่าอย่าได้เจอมันเลย ดีกว่าเจ้าตัวสีแดงนั้นถ้าใครเจอเข้าหละ ก็ไม่เหลือซากแน่ๆ” ชายอีกคนหนึ่งพูด ถ้ามองรอบๆหละก็จะเห็นว่าคนกลุ่มนี้ ต่างมีอาวุธในมีและรอบๆมีซากของสัตว์อสูรประมาณสามสี่ตัวอีกมุมหนึ่งของเมือง

“คิร่า นะ- นั้นมันตัวอะไรหนะไม่เห็นจะจําเลยว่ามีฝูงสัตว์อสูรที่มีจ่าฝูงตัวสีแดงอยู่ในละแวกนี้” หญิงสาวคนนึ่งตามด้วยความสั่นกลัว

“ฉันไม่รู้ แต่รู้แค่ว่ามันน่าจะแกร่งกว่าพวกหัวหน้าฝูงอีก แถมน่าจะไม่ใช่จ่าฝูงด้วย!มันไม่มีสมาชิกเลยแม้แต่ตัวเดียว ถ้าเจอมันก็ให้หนีทันที! ส่วนจะรอดไหมก็ขึ้นอยู่กับโชคแล้ว”

“อีกอย่างฝั่งนั้นเริ่มจะขอเจรจาแล้ว จะเอาไงดี?”

“ก็ต้องลองไปดูแต่ว่าระวังตัวไว้ด้วยหละ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+