The Great Geneticist in Apocalypse 81 สร้างหอสังเกตการณ์แล้วสิ

Now you are reading The Great Geneticist in Apocalypse Chapter 81 สร้างหอสังเกตการณ์แล้วสิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

ตอนที่81 สร้างหอสังเกตการณ์แล้วสิ

“งั้นชั้นก่อนละกันนะ” เมิงหยิงหยิงพูดแล้วก็เดินเข้าไปหามันอย่างช้าๆ

“กรร กรร” ลูกกวางตัวน้อยยังคงขู่เหมือนเดิมความจริงมันพยายามยึดขาหน้าจะถีบหยิ่งหยิงด้วยซ้ํา

“ชั้นอนแล้วนะ ปวว!” เมิ่งหยิ่งหยิ่งทําท่างอนแก้มป่องแสนน่ารักแต่มันก็ยังไม่แสดงความเป็นมิตรเลยเกรงว่าถ้าเกิดว่าพวกเขาไม่ได้ล้อมกดดันมันเอาไว้ว่าไม่มีทางที่จะโจมตีสําเร็จมันคงจะระเบิดเพลิงสีฟ้าใส่เธอไปแล้ว

“งั้นต่อไปตาฉันละกันนะ” เซลินพูดแล้วจะเดินเข้าไปหามัน ธอหยิบคริสตัลธาตุไฟออกมาแล้วถามไปว่า “อยากกินมั้ยจ๊ะ?”

เจ้ากวางน้อยกระพริบตาปริบๆ “กรร กร” แต่มันก็ส่ายหัวและยังคงขู่เหมือนเดิมประมาณว่า “คิดว่าแค่นี้จะหลอกฉันได้เรอะ?”

“เฮ่อออ” เซลินถอนหายใจและเดินกลับไป

หลังจากนั้นเพื่อนๆที่เหลือกก็ผลัดกันเข้ามาลอง รินเอลลี่ ชิ้น จางม่ อิฟฟรา อิ โนะ ต่างก็เข้ามาลองด้วยวิธีต่างๆแต่ก็สําเร็จ คนที่แย่สุดคืออฟฟรา มันถึงกับระเบิดเพลิงสีฟ้าทันทีที่เขาเข้าใกล์มัน ส่วนคนที่ใกล้เคียงที่สุดคือจางม่ เขาเกือบจะป้อนคริสตัลไฟให้มันกินได้แต่ในจังหวะสุดท้ายมันก็ยังคงปฏิเสธ

ส่วน เบลซ เรย์ลิน และ เอมิเลีย พวกเค้าตัดสินใจว่าจะไม่ลองดูเพราะว่าตอนนี้มันไม่จะเป็นที่พวกเขาจะต้องมีสัตว์อสูรสงครามสองตัวสู้ให้เป็นของคนที่ยังไม่มีจะดีกว่า

“งั้นให้พวกนายเข้ามาลองต่อคงรู้แล้วนะว่าต้องทํายังไง ทํายังไงก็ได้ที่คิดว่ามันจะเป็นมิตรกับพวกนาย” เบลซปลุกนักสู้ใหม่ทั้ง 8 คนขึ้นมาลองดูแต่ผลลัพธ์ก็ยังเหมือนเดิม

“เอาไงดีหละที่นี่ใครอยากจะลองอีกไหม?” เนื่องจากไม่มีใครแล้วเบลซจึงถามไปยังผู้รอดชีวิตคนอื่นๆถึงจะฟังดูแปลกที่คนธรรมดาจะทําให้สัตว์อสูรเชื่อฟัง แต่ว่ามันไม่ใช่เรื่องของความแข็งแกร่งถ้าเกิดว่า เขาหรือเธอทําให้พวกมันคิดว่าพวกเขาเป็นมิตรและมันยอมทําตามที่คุณบอกมันก็อาจจะเป็นสัตว์อสูรสงครามของคนธรรมดาได้ และถ้ามีใครทําได้หละก็เบลซก็พร้อมที่จะสนับสนุนถึงแม้ว่าคนๆนั้นจะต่อสู้ไม่เก่งก็ตามแต่การมีสัตว์อสูรสงครามจะทําให้เขาหาคริสตัลมาวิวัฒนาการตนเองได้ง่ายกว่า มาก

แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครทําได้ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ลองทุกคน เพราะมีผู้รอดชีวิตบางคนไม่กล้าแม้แต่จะเข้าใกล้มัน ถ้าพวกคุณยังไม่กล้าเข้าใกล้มันแล้วคุณจะเข้ากับมันได้อย่างไร? ความจริงเบลซก็ไม่ได้หวังอะไรมากอยู่แล้วเขาถอนหายใจก่อนจะเรียกง่าวออกมา

“เดี๋ยวๆๆๆๆๆ” เสียงคนตะโกนดังขึ้น

เบลซเก็บง้าวกลับไปเขาหันไปมองเหมือนเขาจะลืมใครบางคนไปซะสนิทเลย…แถมเป็นคนที่ไม่น่าจะลืมด้วย

“นายนี้นะฉันกับอี้หนานยังไม่ได้ลองเลย” เนี่ยนโหยวโหยวจูงมือหนานวิ่งเข้ามาอย่างเหนื่อยหอบและพูดด้วยความเคืองเล็กน้อย

“โทษทีนะฉันลืมไปเลยว่าพวกเธอก่าลังเก็บของอยู่” เบลซหัวเราะแห้งๆแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ

“อี้หนานเรามาลองกันเถอะ” เนี่ยนโหยวโหยวพูด

“อะ-ยืมมมม” อี้หนานพูดด้วยความไม่ค่อยมั่นใจ เธอเดินเข้าไปหามันช้าๆ มือสองเธอสั่นเล็กน้อยแต่ก็ค่อยยืนไปหามัน

“…” เจ้าลูกกวางน้อยกระพริบตาปริบๆด้วยท่าทางอยากรู้อยากเห็น เหมือนมันกําลังสงสัยในท่าทางของเธอ

“ฮือออ” ลูกกวางน้อยหายใจยาวๆแล้วก็เดินออกไปไม่สนใจเธออีก

อี้หนานรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยแล้วก็เดินกลับไป

“ตาฉันหละนะ” อี้หนานพูดแล้วก็เดินเข้าไปเธอจ้องไปที่หน้าของลูกกวางตัวน้อยมันก็จ้องตาเธอกลับ

“กรร กรร” เจ้าตัวน้อยยังคงขู่เหมือนเดิม

“ตุบ” เนี่ยนโหยวโหยวนั่งลงแล้วเธอก็หยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋า ขนมป้อมคอร์นแล้วก็พูดว่า “ฉันรู้นะว่ากวางชอบกินหญ้ากับข้าวโพดแต่ว่านายเคยกินป๊อบคอร์นรึปล่าว อร่อยนะ”

“หง่า ง่า” เนี่ยนโหยวโหยวฉีกซองขนมออกมาแล้วก็นั่งกินต่อหน้ามันอย่างไม่แยแสและทําท่าทางว่ามัน “อร่อยมากๆ”

“…” ลูกกวางเพลิงฟ้ามองไปที่ป๊อบคอร์นสายตาของมันเหมือนจะอยากเขมือบมันเข้าไปทั้งหมดแต่ว่ามันก็ยังสะบัดหน้าหนีไปทางอื่น

“ง่า ง่า ง่”

“………” ลูกกวางตัวน้อยเหลือบมองเล็กน้อย

“ง่า ง่า ง่”

“…”

ลูกกวางหันมามองนิดนึง

“ง่า ง่า ง่า”

“……………..” ลูกกวางน้ําลายไหลเล็กน้อย

“นายไม่อยากลองกินดูหรอ” เนียนโหยวโหยวถาม

“ปริบๆ” ลูกกวางกระพริบตาเล็กน้อย

“นี้” เธอโยนป๊อบคอร์นออกไปสองสามชิ้น

“หม่า หม่า หม่า” ลูกกวางกินป๊อบคอร์นเล็กน้อยตัวตาของมันเป็นประกายหลังจากได้กินเข้าไป แล้วมันก็เดินหนีประมาณว่า “หลอกฉันไปได้หรอก”

“ถ้านายอยากได้เพิ่มมาหาฉันได้นะไปก่อนหละ” เนี่ยนโหยวโหยวกล่าวทิ้งท้ายไว้ก่นจะเดินจากไปโดยไม่สนใจเจ้ากวางตัวน้อยอีกเลย

“.. ” ลูกกวางตัวน้อยรู้สึกสงสัย มันรู้สึกอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อยก่อนจ ะเดินตามเนียนโหยวโหยวไป

“ดูท่าจะไม่พลาดแฮะ” เบลซ์คิดพลางรู้สึกดีใจจนแทบจะกระโดดตัวลอย

สัตว์อสูรสงครามเพิ่มอีกตัวเชียวนะ! หลังจากที่โหยวโหยวสนิทกับมันมากขึ้นก็ควรจะสําเร็จ

หลายคนมีแสดงท่าทางอิจฉาตั้งแต่เล็กน้อยถึงมากๆ แต่เบลซก็บอกไปว่ายังมีโอกาสอีกเยอะ พวกเขาจึงทาใจผิดหวังเล็กน้อยและสัตว์อสูรสงครามกลายเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสําคัญในใจของพวกเขา

“พวกนายกลับไปพักเถอะโทษที่ละกันนะที่รบกวน” เบลซกล่าวแล้วเค้าก็เรียกเพิ่งหยิ่งหยิ่ง ชิน ริน และ อิโนะมา

“โทษที่นะแต่ฉันมีเรื่องอยากรบกวนพวกนายหน่อยนะ” เบลซพูดอย่างเกรงใจ

“นายไม่เห็นต้องเกรงใจขนาดนั้นเลยมีอะไรหละ” ในถาม

“คือว่าฉันลืมส่วนป้องกันสุดท้ายภายในกําแพงหนะ เอาจริงๆคือฉันพึ่งนึกได้เมื่อกี้ต้องขอโทษด้วยนะ” เบลซกล่าวแล้วเค้าก็บอกถึงสิ่งที่เค้าคิด

“เอาหละมันจะต้องออกมาดีมากแน่ๆเลยมาสร้างกันเถอะ” อิโนะตอบด้วยท่าทางกระตือรือร้นพร้อมทํางาน

“งั้นเริ่มกันเถอะ” เบลซพูดก่อนที่ทุกคนจะเริ่มทํางาน

พวกเขาเริ่มจากการย้ายต้นไม้สูงๆมาก่อนเนื่องจากชิ้นและอิโนะให้พลังธาตุดินได้อย่างชํานาญแล้วการขุดดินลึกๆและขุดโดยที่ไม่ทําให้รากเสียหายนั้นเป็นอะไรทําง่ายมาก

หลังจากนั้นพวกเขาย้ายมันมาปลูกข้างๆกําแพง ต้นไม้สูง6เมตรนี้ใครก็ตามที่ปืนขึ้นไปจะสามารถเห็นสิ่งที่อยู่รอบๆฐานได้ไกลหลายร้อยเมตร

หลังจากนั้นเบลซชินสร้างศิลามาหุ้มรอบๆต้นไม้ไว้และให้เพิ่งหยิ่งหยิ่งกับรินให้พ ลังธาตุพืชเร่งการเจริญเติบโตของมัน

“วิ่ง วิ่ง วิ่ง” เนื่องจากกิ่งที่งอกออกมาใหม่ไม่สามารถโตผ่านศิลามาได้จึงถูกบังคับให้งอกออกมาตามช่องว่างที่เบลซบอกให้เหลือเอาไว้กิ่งก้านที่งอกออกมาใหม่กลายเป็นรูปร่างที่เบลซต้องการมันเป็นสี่เหลี่ยมที่มีที่กําบังหลายที่พร้อมหลังคา และมีกิ่งที่งอกออกมาเป็นบันไดทางขึ้นด้วย

หอสังเกตการณ์ต้นไม้ใ นอกจากนี้มันยังประยุกต์ใช้เป็นหอยิงธนูได้อีกด้วย

หลังจากสร้างหอไปสามทิศของกําแพงทิศละหอแล้วเบลซก็ให้หยิ่งหยิงกับรินไปพักและให้อิโนะกับชิ้นสร้างลูกกรงศิลาสูงเท่ากับกําแพงไว้ขนาบสองข้างของประตูทางเข้าของฐาน

“นายจะสร้างเจ้าสิ่งนี้ทําไมหรอ?” ชิ้นถามพร้อมกับอิโนะที่ทําสีหน้าสงสัยเช่นกัน

“ไว้สาหรับฉุกเฉินหนะของยังไม่บอกละกันนะ” เบลซตอบ

“บรู้วววว” ในตอนนั้นเองเสียงหมาป่าหอนก็ดังขึ้นคลื่นพลังงานสีดกวาดไปรอบๆ ครั้งหนึ่งตามมาด้วยความดีใจของทุกคน

สเกี่ยวิวัฒนาการเสร็จแล้ว!

ร่างของมันตัวใหญ่ขึ้นเล็กน้อยขนยังเป็นสีดําล้วนเหมือนเดิมแต่ตรงหน้าฝากของมันมีรูปจันทร์เสี้ยวสีฟ้า เท้าทั้งสี่ของมันยังมีลวดลายสีฟ้าเพิ่มขึ้นมาและผ้าคาดสีฟ้าต รงล่าตัว

“ระบบ” เรย์ลินเรียกระบบมาอย่างตื่นเต้น

ชื่อ เรย์ลิน ยูบีวัท เหรียญชีวิต211เหรียญ

ระดับ13

สิ่งมีชีวิตระดับ ขาว(7/100) พลังธาตุ <น้ํา มืด>

อาชีพ ชาโด้ว แอสซาซิน

อาชีพเสริม ไม่มี

ฉายา ไม่มี

Strength(แรงกาย) : 17

Agility (ความว่องไว) : 22

Vitality(พละกําลัง) : 10

Stamina(ความทรหด) : 8

Spirituality(จิตวิญญาณ) : 10

ทักษะ

<ฉวยโอกาส(ขาว)>

<ดาร์คเรเปียร์> ทําให้มีดยืดออกได้ด้วยพลังแห่งความมืด+พลังโจมตีธาตุมี ด50%หากให้กับธาตุจาพวกความเย็นจะแรงขึ้นอีกธาตุละ25%

สัตว์อสูรสงคราม

สเกีย

หมาป่าครวญจันทร์ทมิฬ ระดับ11

สิ่งมีชีวิตระดับ เขียวอ่อน 1ธาตบวกค่าสภานะ20%

พลังธาตุ <มีด>

Strength(แรงกาย) : 21.6(18)

Agility(ความว่องไว) : 27.6(23)

Vitality(พละกําลัง) : 34.8(29)

Stamina(ความทรหด) : 26.4/26.4(22)

Spirituality(จิตวิญญาณ) : 10.8/10.8(9)

ทักษะ

<ภาพลวงตา>

<จันทร์ทมิฬ(เขียวอ่อน)> ซัดจันทร์ทมิฬออกไป บวกพลังโจมตีธาตุมืด150% ใช้Spiritualityครั้งละ3แต้ม

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

The Great Geneticist in Apocalypse 81 สร้างหอสังเกตการณ์แล้วสิ

Now you are reading The Great Geneticist in Apocalypse Chapter 81 สร้างหอสังเกตการณ์แล้วสิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

ตอนที่81 สร้างหอสังเกตการณ์แล้วสิ

“งั้นชั้นก่อนละกันนะ” เมิงหยิงหยิงพูดแล้วก็เดินเข้าไปหามันอย่างช้าๆ

“กรร กรร” ลูกกวางตัวน้อยยังคงขู่เหมือนเดิมความจริงมันพยายามยึดขาหน้าจะถีบหยิ่งหยิงด้วยซ้ํา

“ชั้นอนแล้วนะ ปวว!” เมิ่งหยิ่งหยิ่งทําท่างอนแก้มป่องแสนน่ารักแต่มันก็ยังไม่แสดงความเป็นมิตรเลยเกรงว่าถ้าเกิดว่าพวกเขาไม่ได้ล้อมกดดันมันเอาไว้ว่าไม่มีทางที่จะโจมตีสําเร็จมันคงจะระเบิดเพลิงสีฟ้าใส่เธอไปแล้ว

“งั้นต่อไปตาฉันละกันนะ” เซลินพูดแล้วจะเดินเข้าไปหามัน ธอหยิบคริสตัลธาตุไฟออกมาแล้วถามไปว่า “อยากกินมั้ยจ๊ะ?”

เจ้ากวางน้อยกระพริบตาปริบๆ “กรร กร” แต่มันก็ส่ายหัวและยังคงขู่เหมือนเดิมประมาณว่า “คิดว่าแค่นี้จะหลอกฉันได้เรอะ?”

“เฮ่อออ” เซลินถอนหายใจและเดินกลับไป

หลังจากนั้นเพื่อนๆที่เหลือกก็ผลัดกันเข้ามาลอง รินเอลลี่ ชิ้น จางม่ อิฟฟรา อิ โนะ ต่างก็เข้ามาลองด้วยวิธีต่างๆแต่ก็สําเร็จ คนที่แย่สุดคืออฟฟรา มันถึงกับระเบิดเพลิงสีฟ้าทันทีที่เขาเข้าใกล์มัน ส่วนคนที่ใกล้เคียงที่สุดคือจางม่ เขาเกือบจะป้อนคริสตัลไฟให้มันกินได้แต่ในจังหวะสุดท้ายมันก็ยังคงปฏิเสธ

ส่วน เบลซ เรย์ลิน และ เอมิเลีย พวกเค้าตัดสินใจว่าจะไม่ลองดูเพราะว่าตอนนี้มันไม่จะเป็นที่พวกเขาจะต้องมีสัตว์อสูรสงครามสองตัวสู้ให้เป็นของคนที่ยังไม่มีจะดีกว่า

“งั้นให้พวกนายเข้ามาลองต่อคงรู้แล้วนะว่าต้องทํายังไง ทํายังไงก็ได้ที่คิดว่ามันจะเป็นมิตรกับพวกนาย” เบลซปลุกนักสู้ใหม่ทั้ง 8 คนขึ้นมาลองดูแต่ผลลัพธ์ก็ยังเหมือนเดิม

“เอาไงดีหละที่นี่ใครอยากจะลองอีกไหม?” เนื่องจากไม่มีใครแล้วเบลซจึงถามไปยังผู้รอดชีวิตคนอื่นๆถึงจะฟังดูแปลกที่คนธรรมดาจะทําให้สัตว์อสูรเชื่อฟัง แต่ว่ามันไม่ใช่เรื่องของความแข็งแกร่งถ้าเกิดว่า เขาหรือเธอทําให้พวกมันคิดว่าพวกเขาเป็นมิตรและมันยอมทําตามที่คุณบอกมันก็อาจจะเป็นสัตว์อสูรสงครามของคนธรรมดาได้ และถ้ามีใครทําได้หละก็เบลซก็พร้อมที่จะสนับสนุนถึงแม้ว่าคนๆนั้นจะต่อสู้ไม่เก่งก็ตามแต่การมีสัตว์อสูรสงครามจะทําให้เขาหาคริสตัลมาวิวัฒนาการตนเองได้ง่ายกว่า มาก

แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครทําได้ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ลองทุกคน เพราะมีผู้รอดชีวิตบางคนไม่กล้าแม้แต่จะเข้าใกล้มัน ถ้าพวกคุณยังไม่กล้าเข้าใกล้มันแล้วคุณจะเข้ากับมันได้อย่างไร? ความจริงเบลซก็ไม่ได้หวังอะไรมากอยู่แล้วเขาถอนหายใจก่อนจะเรียกง่าวออกมา

“เดี๋ยวๆๆๆๆๆ” เสียงคนตะโกนดังขึ้น

เบลซเก็บง้าวกลับไปเขาหันไปมองเหมือนเขาจะลืมใครบางคนไปซะสนิทเลย…แถมเป็นคนที่ไม่น่าจะลืมด้วย

“นายนี้นะฉันกับอี้หนานยังไม่ได้ลองเลย” เนี่ยนโหยวโหยวจูงมือหนานวิ่งเข้ามาอย่างเหนื่อยหอบและพูดด้วยความเคืองเล็กน้อย

“โทษทีนะฉันลืมไปเลยว่าพวกเธอก่าลังเก็บของอยู่” เบลซหัวเราะแห้งๆแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ

“อี้หนานเรามาลองกันเถอะ” เนี่ยนโหยวโหยวพูด

“อะ-ยืมมมม” อี้หนานพูดด้วยความไม่ค่อยมั่นใจ เธอเดินเข้าไปหามันช้าๆ มือสองเธอสั่นเล็กน้อยแต่ก็ค่อยยืนไปหามัน

“…” เจ้าลูกกวางน้อยกระพริบตาปริบๆด้วยท่าทางอยากรู้อยากเห็น เหมือนมันกําลังสงสัยในท่าทางของเธอ

“ฮือออ” ลูกกวางน้อยหายใจยาวๆแล้วก็เดินออกไปไม่สนใจเธออีก

อี้หนานรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยแล้วก็เดินกลับไป

“ตาฉันหละนะ” อี้หนานพูดแล้วก็เดินเข้าไปเธอจ้องไปที่หน้าของลูกกวางตัวน้อยมันก็จ้องตาเธอกลับ

“กรร กรร” เจ้าตัวน้อยยังคงขู่เหมือนเดิม

“ตุบ” เนี่ยนโหยวโหยวนั่งลงแล้วเธอก็หยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋า ขนมป้อมคอร์นแล้วก็พูดว่า “ฉันรู้นะว่ากวางชอบกินหญ้ากับข้าวโพดแต่ว่านายเคยกินป๊อบคอร์นรึปล่าว อร่อยนะ”

“หง่า ง่า” เนี่ยนโหยวโหยวฉีกซองขนมออกมาแล้วก็นั่งกินต่อหน้ามันอย่างไม่แยแสและทําท่าทางว่ามัน “อร่อยมากๆ”

“…” ลูกกวางเพลิงฟ้ามองไปที่ป๊อบคอร์นสายตาของมันเหมือนจะอยากเขมือบมันเข้าไปทั้งหมดแต่ว่ามันก็ยังสะบัดหน้าหนีไปทางอื่น

“ง่า ง่า ง่”

“………” ลูกกวางตัวน้อยเหลือบมองเล็กน้อย

“ง่า ง่า ง่”

“…”

ลูกกวางหันมามองนิดนึง

“ง่า ง่า ง่า”

“……………..” ลูกกวางน้ําลายไหลเล็กน้อย

“นายไม่อยากลองกินดูหรอ” เนียนโหยวโหยวถาม

“ปริบๆ” ลูกกวางกระพริบตาเล็กน้อย

“นี้” เธอโยนป๊อบคอร์นออกไปสองสามชิ้น

“หม่า หม่า หม่า” ลูกกวางกินป๊อบคอร์นเล็กน้อยตัวตาของมันเป็นประกายหลังจากได้กินเข้าไป แล้วมันก็เดินหนีประมาณว่า “หลอกฉันไปได้หรอก”

“ถ้านายอยากได้เพิ่มมาหาฉันได้นะไปก่อนหละ” เนี่ยนโหยวโหยวกล่าวทิ้งท้ายไว้ก่นจะเดินจากไปโดยไม่สนใจเจ้ากวางตัวน้อยอีกเลย

“.. ” ลูกกวางตัวน้อยรู้สึกสงสัย มันรู้สึกอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อยก่อนจ ะเดินตามเนียนโหยวโหยวไป

“ดูท่าจะไม่พลาดแฮะ” เบลซ์คิดพลางรู้สึกดีใจจนแทบจะกระโดดตัวลอย

สัตว์อสูรสงครามเพิ่มอีกตัวเชียวนะ! หลังจากที่โหยวโหยวสนิทกับมันมากขึ้นก็ควรจะสําเร็จ

หลายคนมีแสดงท่าทางอิจฉาตั้งแต่เล็กน้อยถึงมากๆ แต่เบลซก็บอกไปว่ายังมีโอกาสอีกเยอะ พวกเขาจึงทาใจผิดหวังเล็กน้อยและสัตว์อสูรสงครามกลายเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสําคัญในใจของพวกเขา

“พวกนายกลับไปพักเถอะโทษที่ละกันนะที่รบกวน” เบลซกล่าวแล้วเค้าก็เรียกเพิ่งหยิ่งหยิ่ง ชิน ริน และ อิโนะมา

“โทษที่นะแต่ฉันมีเรื่องอยากรบกวนพวกนายหน่อยนะ” เบลซพูดอย่างเกรงใจ

“นายไม่เห็นต้องเกรงใจขนาดนั้นเลยมีอะไรหละ” ในถาม

“คือว่าฉันลืมส่วนป้องกันสุดท้ายภายในกําแพงหนะ เอาจริงๆคือฉันพึ่งนึกได้เมื่อกี้ต้องขอโทษด้วยนะ” เบลซกล่าวแล้วเค้าก็บอกถึงสิ่งที่เค้าคิด

“เอาหละมันจะต้องออกมาดีมากแน่ๆเลยมาสร้างกันเถอะ” อิโนะตอบด้วยท่าทางกระตือรือร้นพร้อมทํางาน

“งั้นเริ่มกันเถอะ” เบลซพูดก่อนที่ทุกคนจะเริ่มทํางาน

พวกเขาเริ่มจากการย้ายต้นไม้สูงๆมาก่อนเนื่องจากชิ้นและอิโนะให้พลังธาตุดินได้อย่างชํานาญแล้วการขุดดินลึกๆและขุดโดยที่ไม่ทําให้รากเสียหายนั้นเป็นอะไรทําง่ายมาก

หลังจากนั้นพวกเขาย้ายมันมาปลูกข้างๆกําแพง ต้นไม้สูง6เมตรนี้ใครก็ตามที่ปืนขึ้นไปจะสามารถเห็นสิ่งที่อยู่รอบๆฐานได้ไกลหลายร้อยเมตร

หลังจากนั้นเบลซชินสร้างศิลามาหุ้มรอบๆต้นไม้ไว้และให้เพิ่งหยิ่งหยิ่งกับรินให้พ ลังธาตุพืชเร่งการเจริญเติบโตของมัน

“วิ่ง วิ่ง วิ่ง” เนื่องจากกิ่งที่งอกออกมาใหม่ไม่สามารถโตผ่านศิลามาได้จึงถูกบังคับให้งอกออกมาตามช่องว่างที่เบลซบอกให้เหลือเอาไว้กิ่งก้านที่งอกออกมาใหม่กลายเป็นรูปร่างที่เบลซต้องการมันเป็นสี่เหลี่ยมที่มีที่กําบังหลายที่พร้อมหลังคา และมีกิ่งที่งอกออกมาเป็นบันไดทางขึ้นด้วย

หอสังเกตการณ์ต้นไม้ใ นอกจากนี้มันยังประยุกต์ใช้เป็นหอยิงธนูได้อีกด้วย

หลังจากสร้างหอไปสามทิศของกําแพงทิศละหอแล้วเบลซก็ให้หยิ่งหยิงกับรินไปพักและให้อิโนะกับชิ้นสร้างลูกกรงศิลาสูงเท่ากับกําแพงไว้ขนาบสองข้างของประตูทางเข้าของฐาน

“นายจะสร้างเจ้าสิ่งนี้ทําไมหรอ?” ชิ้นถามพร้อมกับอิโนะที่ทําสีหน้าสงสัยเช่นกัน

“ไว้สาหรับฉุกเฉินหนะของยังไม่บอกละกันนะ” เบลซตอบ

“บรู้วววว” ในตอนนั้นเองเสียงหมาป่าหอนก็ดังขึ้นคลื่นพลังงานสีดกวาดไปรอบๆ ครั้งหนึ่งตามมาด้วยความดีใจของทุกคน

สเกี่ยวิวัฒนาการเสร็จแล้ว!

ร่างของมันตัวใหญ่ขึ้นเล็กน้อยขนยังเป็นสีดําล้วนเหมือนเดิมแต่ตรงหน้าฝากของมันมีรูปจันทร์เสี้ยวสีฟ้า เท้าทั้งสี่ของมันยังมีลวดลายสีฟ้าเพิ่มขึ้นมาและผ้าคาดสีฟ้าต รงล่าตัว

“ระบบ” เรย์ลินเรียกระบบมาอย่างตื่นเต้น

ชื่อ เรย์ลิน ยูบีวัท เหรียญชีวิต211เหรียญ

ระดับ13

สิ่งมีชีวิตระดับ ขาว(7/100) พลังธาตุ <น้ํา มืด>

อาชีพ ชาโด้ว แอสซาซิน

อาชีพเสริม ไม่มี

ฉายา ไม่มี

Strength(แรงกาย) : 17

Agility (ความว่องไว) : 22

Vitality(พละกําลัง) : 10

Stamina(ความทรหด) : 8

Spirituality(จิตวิญญาณ) : 10

ทักษะ

<ฉวยโอกาส(ขาว)>

<ดาร์คเรเปียร์> ทําให้มีดยืดออกได้ด้วยพลังแห่งความมืด+พลังโจมตีธาตุมี ด50%หากให้กับธาตุจาพวกความเย็นจะแรงขึ้นอีกธาตุละ25%

สัตว์อสูรสงคราม

สเกีย

หมาป่าครวญจันทร์ทมิฬ ระดับ11

สิ่งมีชีวิตระดับ เขียวอ่อน 1ธาตบวกค่าสภานะ20%

พลังธาตุ <มีด>

Strength(แรงกาย) : 21.6(18)

Agility(ความว่องไว) : 27.6(23)

Vitality(พละกําลัง) : 34.8(29)

Stamina(ความทรหด) : 26.4/26.4(22)

Spirituality(จิตวิญญาณ) : 10.8/10.8(9)

ทักษะ

<ภาพลวงตา>

<จันทร์ทมิฬ(เขียวอ่อน)> ซัดจันทร์ทมิฬออกไป บวกพลังโจมตีธาตุมืด150% ใช้Spiritualityครั้งละ3แต้ม

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+