การต่อสู้ชิงบัลลังก์ในเงามืดของเจ้าชายไร้ค่าสุดแกร่ง (Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi ) 37

Now you are reading การต่อสู้ชิงบัลลังก์ในเงามืดของเจ้าชายไร้ค่าสุดแกร่ง (Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi ) Chapter 37 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เฮ้อ—…..”

 

ฉันถอนหายใจออกมาจนสุดปอด, ในขณะที่อยู่ในห้องที่ปราสาทอันบราโทรตัวคนเดียว

 

ฉันถูกขังอยู่ ตั้งแต่ที่ฉันสลับตัวกับลีโอ, ฉันต้องผ่านเรื่องเลวร้ายมามากมาย

 

พูดตามตรง, ฉันเหนื่อยแล้ว การฝืนตัวเองเพื่อทำเรื่องบางอย่างมันเป็นภาระกับฉันมากเกินไป

 

“สงสัยจังว่าตอนนี้ลีโอกำลังทำอะไรอยู่….”

 

ฉันเป็นห่วงฝั่งนั้น

 

เนื่องจากมีเอลน่าอยู่ที่นั่นด้วยฉันจึงพยายามจะเชื่อว่าเขาสามารถทำสิ่งต่างๆเหมือนอัลได้อย่างเหมาะสม

 

ตราบใดที่ฉันต้องแกล้งทำตัวเหมือนลีโอ, ฝ่ายนั้นเองก็ต้องแสดงเหมือนกัน

 

อย่างไรก็ตาม, ฉันรู้ว่าเขาคงจะลำบากกว่าฉัน ลีโอไม่สามารถทำตัวเหมือนคนไร้ประโยชน์ได้จริงๆ, เขาไม่มีเศษเสี้ยวของความขี้เกียจอยู่ในตัวเลยด้วยซ้ำ

 

ถึงยังไง, การทำเรื่องที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนมันก็เป็นสิ่งที่ยากลำบากอยู่แล้ว

 

“เอาเถอะ, เป็นห่วงไปมันก็ไม่ได้อะไรหล่ะนะ….”

 

ฉันทำอะไรไม่ได้นอกจากเชื่อในตัวพวกเขาว่ามันจะผ่านไปด้วยดี

 

และที่สำคัญกว่านั้น, ฉันมีอีกเรื่องนึงที่ต้องกังวล

 

มังกรทะเลลิเวียธาน

 

มันเป็นมอนส์เตอร์ที่เกินกว่าคลาส S อย่างไม่ต้องสงสัย มีอยู่สองวิธีที่จะกำจัดมันได้อย่างรวดเร็วซึ่งฉันก็กำลังพิจารณาอยู่ในตอนนี้

 

ตัวเลือกที่มีอยู่นั้นมีทั้งให้ฉันออกไปสู้กับมันในฐานะซิลเวอร์หรือไม่ก็ให้ฝั่งจักรวรรดิขอองค์จักพรรดิเพื่อให้พระองค์ทรงอนุญาตให้เอลน่าใช้ดาบศักดิ์สิทธิ

 

ว่าแต่ฉันจะเลือกทางไหนดีหล่ะ?

 

มันไม่มีเหตุผลที่ซิลเวอร์จะเดินทางลงมาอยู่ทางภาคใต้ แล้วพวกเราก็ยังไม่ได้ส่งคำร้องให้กิลด์นักผจญภัยเลยด้วย

 

ในอีกด้านนึง, การส่งคำร้องขออนุญาตจากองค์จักรพรรดิและรอให้การตอบกลับมาถึงเองก็ค่อนข้างจะใช้เวลาอยู่พอสมควร

 

ไม่ว่าจะวิธีไหนมันก็อยู่ห่างไกลจากอุดมคติที่อยากให้เป็น

 

“จะเอายังไงดีนะ”

 

ในระหว่างที่ฉันกำลังพิจารณาตัวเลือกที่มีอยู่, ก็มีคนมาเคาะประตู

 

ขออยู่คนเดียวอย่างสงบๆไม่ได้รึไงนะ, ในขณะที่กำลังคิดเช่นนี้, ฉันก็จัดเสื้อผ้าที่หลุดรุ่ยพร้อมกับเซ็ทผมให้เข้าที่แล้วขานรับ

 

“เข้ามาได้ครับ”

 

“ขออนุญาตค่ะ เอวาเองค่ะ, ข้าอยากจะมาขอบคุณท่านสำหรับเหตุการณ์ที่พึ่งผ่านมา”

 

คนที่เข้ามาในห้องก็คือเอวาที่กำลังสวมชุดเดรส

 

เธอฟื้นแล้วสินะ ถ้าเป็นไปได้ฉันอยากให้ฟื้นเร็วกว่านี้นะเนี่ย ถ้าเธอทำแบบนั้นได้, ฉันคงไม่ต้องฝืนทำเรื่องพวกนี้หรอก, ด้วยความคิดนี้ในหัว, ฉันก็ซ่อนความคิดที่แท้จริงเอาไว้แล้วเผยรอยยิ้มหวานให้เธอ

 

“สิ่งที่สำคัญก็คือความปลอดภัยของท่านครับ, องค์หญิงเอวา นี่ท่านฟื้นตัวพอจนออกมาเดินข้างนอกคนเดียวได้แล้วหรอครับ?”

 

“ชะ, ใช่ค่ะ…เอ่อ…ขอบคุณมากเลยนะคะที่ช่วยข้าเอาไว้ ทุกคนบอกข้าว่าที่พวกเราปลอดภัยทั้งหมดต้องขอบคุณองค์ชายลีโอนาร์ด แล้วพวกเขาก็บอกข้าด้วยว่าท่านทั้งใจดีและกล้าหาญมาก”

 

“นั่นก็ชมเกินไปแล้วครับ คนที่พยายามช่วยเหลือผู้รอดชีวิตอย่างสุดความสามารถรวมทั้งตัวท่านด้วยก็คือลูกเรือของข้าต่างหาก ถ้าท่านอยากจะสรรเสริญใครซักคนพวกเขาคือคนที่สมควรได้รับครับ”

 

“ถ้างั้น….ในฐานะพี่สาวของจูลิโอข้าขออนุญาตแสดงความขอบคุณจะได้ไหมคะ ข้าได้ยินมาว่าท่านกระโดดลงไปในทะเลเพื่อช่วยเขาโดยไม่ลังเลเลย การดำลงไปในที่ที่อาจจะมีมังกรทะเลแอบซุ่มอยู่นั้นไม่ใช่สิ่งที่ใครที่ไหนก็ทำได้แน่นอนค่ะ ท่านเป็นคนที่กล้าหาญมากถึงทำเรื่องแบบนั้นได้”

 

“ไม่หรอกครับ, ข้าก็แค่ทำไปตามสถานการณ์”

 

เอวายิ้มให้กับคำตอบของฉันอย่างอ่อนโยน

 

และเพราะเหตุนี้เอง, แก้มของฉันก็เริ่มเกร็ง

 

สถานการณ์แบบนี้มัน, นี่มันฉากที่ฉันเคยเห็นอยู่บ่อยๆนี้ แต่เห็นจากฝั่งคนดูนะ

 

มันคือสีหน้ากระสับกระส่ายที่ขุนนางสาวๆชอบทำในตอนที่ลีโอทำเรื่องที่เยี่ยมยอด การตอบสนองของเอวาใกล้เคียงกับสิ่งนั้นมาก หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ, เธอกำลังเขิน เขินเพราะลีโอได้ทำเรื่องที่กล้าหาญอย่างการช่วยเหลือผู้คนของเธอโดยไร้ซึ่งความหวาดกลัวแม้ว่าจะมีมังกรทะเลอยู่ก็ตาม

 

อย่าใช้สายตาที่เร่าร้อนแบบนั้นจ้องมาที่ฉันนะ

 

จริงๆแล้วฉันคืออัลต่างหากหล่ะเพราะฉะนั้นถ้ามองฉันแบบนั้นฉันจะมีปัญหาเอาได้นะ แถมไม่ใช่ปัญหาเล็กๆด้วย

 

“พอพูดถึงจูลิโอแล้ว, เขาเป็นยังไงบ้างครับ?”

 

“เขาพึ่งได้สติค่ะ เขาอยากให้ข้ามาขอบคุณท่านที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ เขาบอกว่าท่านคือเจ้าชายในอุดมคติและอยากเป็นเหมือนท่านให้ได้ในซักวันนึง”

 

“งะ, งั้นหรอครับ…..”

 

ฝั่งพี่สาวหลงไหลจนเคลิบเคลิ้มในขณะที่น้องชายเทิดทูนลีโออย่างสุดโต่ง

 

นี่มันไม่ดีแล้ว ถ้าพวกเราสลับตัวกลับหล่ะก็นี่มันจะต้องเป็นปัญหาอย่างแน่นอน

 

จะเอายังไงดีนะ? ฉันควรทำให้เธอเกลียดดีไหม?

 

ไม่สิ, แบบนั้นไม่ได้หรอก ฉันไม่สามารถทำเรื่องที่ดูออกได้ง่ายเกินไปกับเจ้าหญิงหรือเจ้าชายในเขตแดนของอัลบราโทร มันมีความเป็นไปได้ว่าพวกเขาจะมองออกเรื่องการสลับตัวถ้าฉันทำสิ่งที่มันรุนแรงเกินไป

 

แต่ถ้าฉันทำตัวเหมือนลีโอต่อไปหล่ะก็, เธอก็จะหลงไหลหนักขึ้นและสุดท้ายแล้วมันก็จะแปรเปลี่ยนเป็นความรัก ฉันเคยเห็นเรื่องแบบนั้นมาหลายครั้งแล้ว

 

สายตาของเอวาได้จับจ้องมาที่เจ้าชายสุดเท่จากประเทศมหาอำนาจแล้ว

 

มันไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร เด็กสาววัยนี้มักจะชอบเพ้อฝันและตกหลุมรักได้ง่ายๆ ซึ่งลีโอนาร์ด เลคส์ แอดเลอร์ มีคุณสมบัติที่ตรงกับสเป็คของเด็กสาววัยนี้

 

เขาเป็นเจ้าชาย, เขาหล่อ , เขาอ่อนโยนและที่สำคัญที่สุด, เขาสามารถทำอะไรก็ได้

 

ฉันคงไม่แพ้เขาในส่วนของสามข้อแรกแต่ข้อสุดท้ายมันเป็นจุดที่แตกต่างจากตัวฉันมากเกินไป

 

แต่ก็นะถึงฉันจะมีใบหน้าเหมือนหมอนั่นแต่ก็ไม่มีใครเคยบอกว่าฉันหล่อหรอก

 

“องค์ชายลีโอนาร์ดคะ พวกเราก็ยืนคุยกันมาซักพักแล้วเอาเป็นว่าเราเข้าไปนั่งคุยต่อกันข้างในดีไหมคะ?”

 

“อ้ะ, นั่นสินะครับ…..”

 

ไม่คิดว่าใจกล้าเกินไปหน่อยรึไง เด็กสาวคนนี้, เธออาจจะเป็นประเภทที่ฉันรับมือไม่ค่อยไหวก็ได้

 

ฉันไม่ถนัดรับมือกับผู้หญิงสายรุกเพราะบาดแผลทางใจที่เอลน่าสร้างให้ฉันตั้งแต่ยังเด็ก แน่นอนว่า, ฉันรับมือกับเอลน่าได้แย่มากเหมือนกัน แต่เธอเป็นเพื่อนสมัยเด็กและฉันสามารถเข้าใจความคิดของเธอได้ดังนั้นฉันเลยยังพอคิดมาตรการตอบโต้เธอได้บ้าง

 

แต่สำหรับกรณีเด็กสาวไม่สนิทที่เข้าหาฉันอย่างใจกล้าแบบนี้, ฉันไม่รู้เลยว่าจะจัดการกับเธอยังไงดี

 

“อ้ะ, นี่ข้ารบกวนท่านรึเปล่า…..?”

 

“ไม่หรอกครับ, แต่ว่า….ตอนนี้ข้ากำลังเขียนรายงานให้จักรวรรดิอยู่ ข้าต้องเขียนต่ออีกสักพักเพราะฉะนั้นข้าก็เลยกังวลว่าท่านอาจจะเบื่อได้หน่ะครับ, องค์หญิงเอวา”

 

“อย่างงั้นหรอคะ….”

 

ใบหน้าของเอวาถูกย้อมด้วยสีแดงในขณะที่เธอปิดมันเอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้างของเธอ

 

อ้ากกก…..ฉันควรทำยังไงกับเธอดีนะ?

 

ฉันมักจะออกไปเที่ยวเล่นในเมืองอยู่บ่อยๆ, ฉันเคยเล่นสนุกกับพวกผู้หญิงด้วยซ้ำ แต่ฉันไม่เคยถูกเข้าหาแบบบังคับขนาดนี้มาก่อน ไม่เคยเลยซักครั้งด้วย

 

ฉันไม่รู้ว่าจะปฏิเสธกับเธอยังไงดีให้ดูสุภาพและตราบใดที่ฉันต้องแกล้งเป็นลีโอ, ฉันก็ไม่สามารถทำอะไรที่จะทำลายชื่อเสียงของเขาได้ด้วย”

 

“ขอโทษที่มารบกวนค่ะ ถ้างั้นเอาไว้เจอกันคราวหน้านะคะ เอาแบบนี้เป็นไงคะครั้งหน้าเราไปรับประทานอาหารด้วยกันจะดีไหมคะ?”

 

“ถ้ามีเวลา, ข้าก็ยินดีครับ”

 

ฉันเลี่ยงการตอบรับตรงๆด้วยรอยยิ้ม, จากนั้นในตอนที่เอวาจากไปแล้ว, ฉันก็รีบไปปิดประตู

 

“ซวยแล้ว, ซวยแล้ว, ซวยสุดๆ…..แบบนี้ไม่ดีเลย….”

 

ฉันจะอธิบายกับลีโอยังไงหล่ะเนี่ย?

 

ขอโทษนะ, เจ้าหญิงกำลังตกหลุมรักนายอยู่ แบบนี้หรอ?

 

ไม่ ไม่, นี่มันไม่ดีเลยซักนิด

 

ฉันต้องหาทางหยุดเธอให้ได้ เธอแค่กำลังรู้สึกชื่นชมเจ้าชายที่ช่วยชีวิตของเธอและน้องชายของเธอเอาไว้ ถ้าฉันไม่ทำเรื่องที่ไม่จำเป็น, ความรู้สึกนั้นก็น่าจะสงบลงไปบ้าง

 

“ใจเย็นนะ, ตัวฉัน ไม่เป็นไรหรอกหน่า แทนที่จะห่วงเรื่องนี้, มาสนใจปัญหาที่ใหญ่กว่าไม่ดีกว่าหรอ มาลุยกันต่อดีกว่า”

 

ด้วยความมุ่งมั่น, ฉันก็ตรงไปที่โต๊ะทำงาน

 

ไม่ว่ายังไง, ตอนนี้ฉันก็ยังเป็นลีโออยู่ ฉันต้องส่งจดหมายไปให้จักรวรรดิเพื่อรายงานสถานการณ์ของพวกเรา

 

แต่ฉันจะเขียนรายงานนี้ยังไงดี?

 

ฉันควรบอกพวกเขาว่าพวกเรากำลังสลับตัวกันอยู่รึเปล่า? ไม่ได้สิ, ถ้าฉันทำแบบนั้นพวกระดับสูงของจักรวรรดิก็จะรู้ว่าสิ่งที่ลีโอกำลังทำอยู่ในตอนนี้จริงๆแล้วเป็นฝีมือของฉัน และนั่นก็หมายความว่าพวกเขาจะรู้ว่าฉันมีความสามารถมากพอที่จะทำแบบลีโอด้วย

 

แบบนั้นคงแย่แน่ แย่สุดๆเลยหล่ะ

 

ฉันอยากให้พวกเขาดูถูกฉันต่อไปนานกว่านี้อีกสักหน่อย

 

ดูเหมือนจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเขียนรายงานตามแบบฉบับลีโอสินะ

 

“ว่าแต่ถ้าฉันเป็นลีโอ, ฉันจะเขียนรายงานนี้ยังไงหล่ะ”

 

ถึงยังไงกว่ารายงานนี้จะไปถึงพวกเขาสถานการณ์ก็คงจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามเวลาอย่างแน่นอน

 

ฉันควรเขียนรายงานสถานการณ์ปัจจุบัน, และเขียนการคาดการณ์ในอนาคตของฉันไปด้วยสินะ

 

มีโอกาสสูงมากที่การปรากฎตัวของมังกรทะเลจะสร้างความเสียหายให้กับจักรวรรดิด้วย

 

นี่ฉันควรเขียนรายงานให้ดูเหมือนกับว่ากำลังขออนุญาตพ่อเพื่อใช้ดาบศักดิ์สิทธิ์ในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับอัลบราโทรในฐานะทูตที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จรึเปล่านะ?

 

ในตอนที่รายงานนี้ไปถึง อย่างเลวร้ายที่สุด, หนึ่งในประเทศทางใต้อาจจะหายไปแล้วก็ได้, นี่มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่ากลัว

 

“มันคงจะเยี่ยมไปเลยถ้าพวกเขาเร่งรีบและส่งคำร้องให้กิลด์นักผจญภัย….ถึงแม้ว่ามันอาจจะเป็นไปไม่ได้ก็เถอะ”

 

ราชรัฐอัลบราโทรมีเครื่อข่ายการค้าทางทะเลที่เฟื่องฟู, ทหารเรือของพวกเขาแข็งแกร่งแต่กองทัพภาคพื้นดินนั้นค่อนข้างไม่มั่นคง ในอีกด้านนึง, ราชรัฐรอนดิเน่คือขั้วตรงข้าม กองทัพภาคพื้นดินของพวกเขาแข็งแกร่งในขณะที่กองทัพเรือค่อนข้างด้อย

 

ซึ่งนี่ก็เป็นสาเหตุที่ทุกๆครั้งที่รอนดิเน่โจมตี, พวกเขามักจะใช้เส้นทางบกอยู่ตลอด

 

และเพื่อเป็นการต่อสู้กับกองทัพของรอนดิเน่นั้น, อัลบรามักจะหยิบยืมทหารกับอาวุธมาจากประเทศอื่นที่พวกเขาสนิทด้วย เพราะเหตุนี้เอง, ถึงแม้ว่าอัลบราโทรจะดูเหมือนกับประเทศที่ร่ำรวย, แต่จริงๆแล้วพวกเขาไม่ได้รวยขนาดนั้น

 

แน่นอนว่า, พวกเขาไม่ได้จนด้วยแต่ถ้าพวกเขาขอให้กิลด์นักผจญภัยทำการกำจัดมังกรทะเลเพื่อพวกเขา, พวกเขาก็จะมีปัญหาเอาได้ในตอนที่ต้องขอยืมทหารและอาวุธจากประเทศอื่น

 

ซึ่งนี่คือสาเหตุที่อัลบราโทรไม่ได้พึ่งพากิลด์นักผจญภัยตั้งแต่แรก

 

วิธีเดียวที่จะช่วยกู้สถานการณ์ให้พวกเขาได้ก็คือการทำอะไรซักอย่างกับรอนดิเน่

 

ตอนนี้ราชรัฐอัลบราโทรกำลังถูกขนาบด้วยปัญหาทั้งสองด้านระหว่างมังกรทะเลกับรอนดิเน่ ถ้าพวกเขาสามารถทำอะไรซักอย่างกับรอนดิเน่ได้พวกเขาก็จะสามารถทุ่มความสนใจมาที่มังกรทะเลได้

 

“สำหรับตอนนี้ฉันต้องทำอะไรซักอย่างกับรอนดิเน่”

 

ด้วยเหตุนี้เอง, แนวทางการเคลื่อนไหวจึงได้รับการตัดสินใจแล้ว

 

ด้วยการคาดเดาเหตุการณ์ในอนาคต, ฉันก็เริ่มเขียนรายงานให้จักรวรรดิ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด