การต่อสู้ชิงบัลลังก์ในเงามืดของเจ้าชายไร้ค่าสุดแกร่ง (Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi ) 88

Now you are reading การต่อสู้ชิงบัลลังก์ในเงามืดของเจ้าชายไร้ค่าสุดแกร่ง (Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi ) Chapter 88 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ท่านพี่อัล!”

 

ที่งานเลี้ยงในปราสาท

 

ฉันกำลังยืนรออยู่ที่ทางเข้า

 

ที่นั่น, คริสต้าตรงมาหาฉันด้วยก้าวน้อยๆของเธอ

 

“คริสต้า”

 

ฉันปล่อยให้คริสต้ากอดอยู่พักนึง

 

เธอต้องรู้สึกค่อนข้างกังวลในช่วงที่ฉันไม่อยู่แน่ๆ

 

ในตอนที่ฉันลูบศรีษะของเธอ, คริสต้าก็กอดฉันแน่นขึ้นอีก

 

“กลัวรึเปล่า?”

 

“อื้ม….แต่ว่า….เอลน่าปกป้องข้า….”

 

“เห็นไหมหล่ะ…..”

 

“ท, ท่านพี่อัล……เอลน่าหน่ะ……”

 

“ไม่เป็นไร, ข้ารู้เรื่องแล้วหล่ะ ไม่ต้องห่วงนะ, ข้าจะหาทางทำอะไรซักอย่างเอง เจ้าไม่ต้องห่วงเรื่องของเธอหรอก สนุกกับงานเลี้ยงคืนนี้เถอะ”

 

พอได้ยินเช่นนั้น, สีหน้าของคริสต้าก็สดใสขึ้นเล็กน้อย

 

เมื่อเห็นแบบนี้, ฉันก็เริ่มพูดเรื่องอื่นกับคริสต้า

 

“แล้วได้เจอลีโอกับท่านพี่ลีเซรึยัง?”

 

“อื้ม! ท่านพี่ลีเซเป็นคนเลือกชุดให้ข้า!”

 

คริสต้าหมุนตัวเพื่อโชว์ชุดเดรสสีม่วงตัวใหม่ของเธอ

 

ดูเหมือนเธอจะมีความสุขมากที่ท่านพี่ลีเซเลือกให้เธอ

 

แม้ว่าพวกเราจะเป็นราชวงศ์เหมือนกัน, แต่ดาวเด่นของงานเลี้ยงวันนี้ก็คือลีโอกับท่านพี่ลีเซดังนั้นฉันจะมุ่งหน้าเข้าไปในงานด้วยกันกับคริสต้าก่อน

 

“งั้นหรอ ถ้างั้นเจ้าก็ควรเอาไปอวดทุกคนนะ ริต้าเองก็น่าจะอยู่ข้างในงานแล้วเหมือนกัน”

 

“อื้ม!”

 

พอพูดจบ, ฉันก็เดินเข้าไปในงานเลี้ยงกับคริสต้า

 

ในตอนที่อัศวินที่ประตูประกาศการมาถึงของฉันกับคริสต้า, เสียงตบมือและสายตาก็ตรงมาที่พวกเรา อย่างไรก็ตาม, มันคือคริสต้าที่เป็นศูนย์กลางความสนใจของพวกเขา

 

องค์หญิงที่ถูกลักพาตัว, และน้องสาวของท่านพี่ลีเซ

 

ไม่เหมือนกับองค์หญิงคนอื่นๆที่มีปัญหาต่างๆติดมากับพวกเธอ, มีขุนนางหลายคนที่อยากให้ลูกชายของพวกเขาได้แต่งงานกับคริสต้าในอนาคต

 

ในขณะที่คอยกันขุนนางพวกนั้น, ฉันก็มุ่งหน้าไปหาริต้าด้วยกันกับคริสต้า

 

“อ้ะ, พี่อัล! คูจัง!”

 

ริต้ากำลังโบกมือให้พวกเราอย่างเริงร่าแต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ทันสังเกตเห็นครูฝึกของเธอที่กำลังจ้องเธออย่างเหนื่อยใจ

 

สมกับเป็นริต้าจริงๆ

 

“ริต้า…..ชุดพวกนี้, ดูเหมาะกับเธอดีนะ”

 

ริต้ากำลังสวมชุดพิธีการสำหรับอัศวินฝึกหัดพร้อมกับดาบที่เหน็บอยู่ตรงเอวของเธอ

 

เสื้อผ้าของเธอเนี้ยบมากจนดูไม่เหมือนกับริต้าในตอนแรกแต่ดูเหมือนว่าเธอจะชอบมันมากๆ

 

“หรอ!? จริงนะ!?”

 

“อื้ม”

 

“ขอบใจนะ! คูจัง! ชุดของคูจังก็ดูสวยมากๆเหมือนกัน!”

 

“ท่านพี่ลีเซเป็นคนเลือกให้ข้า”

 

“องค์หญิงแม่ทัพคนนั้นหน่ะหรอ!? ข้าจะได้เจอรึเปล่านะ!?”

 

“อื้ม, เจ้าจะได้เจอแน่ๆ”

 

“เย้!”

 

ในขณะที่กำลังเฝ้ามองทั้งสองคนคุยเล่นกันอย่างสนุกสนาน, ฝูงชนก็เริ่มส่งเสียงที่ทางเข้าของงาน

 

ในตอนนั้นเอง, ชื่อของลีโอกับท่านพี่ลีเซก็ถูกประกาศ

 

งานเลี้ยงเต็มไปด้วยเสียงตบมือที่เทียบกับของฉันและคริสต้าไม่ได้เลย

 

“องค์ชายลีโอนาร์ด! ขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จครั้งใหญ่ของท่านด้วยครับ!”

 

“จอมพลลีเซล็อตต์! การต่อสู้ของท่านโดดเด่นเสมอเลยนะครับ! ดูเหมือนท่านจะไม่เคยมือตกเลยนะครับ”

 

ทั้งสองถูกคนห้อมล้อมในทันที

 

ตอนนี้น่าจะมีพวกที่ถูกผู้ใหญ่ในตระกูลบอกมาว่านี่เป็นโอกาสที่ดีในการเข้าหาพวกเขาด้วย

 

มีเด็กที่อายุพอๆกับคริสต้าอยู่รอบๆเธอด้วยแต่พอมีริต้าอยู่ที่นี่, เด็กพวกนี้ก็เลยเข้ามาหาเธอซี้ซั้วไม่ได้

 

ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอนี่ดีจังเลยนะ

 

ในขณะที่กำลังคิดเช่นนี้, ฉันก็ออกมาจากที่ตรงนั้นอย่างเงียบๆแล้วมายืนพิงกำแพง

 

ในทิศตรงข้าม, ลีโอ, ท่านพี่ลีเซ, แล้วก็ฟีเน่ถูกพวกขุนนางห้อมล้อมอีกครั้ง

 

เครื่องประดับนกนางนวลสีน้ำเงินนั้นน่าจะมีความพิเศษบางอย่างแต่เธอดูดีมากๆในชุดเดรสสีน้ำเงินในวันนี้, ดูเหมือนว่าตอนนี้ฉันคงเรียกเธอไม่ได้สินะ

 

ฉันมองเห็นเยอร์เกนจากตรงนี้ด้วยแต่เนื่องจากเส้นสายทางสังคมของเขา, เขาจึงถูกห้อมล้อมด้วยเหล่าคนรู้จักในเมืองหลวงจักรวรรดิ

 

ถ้าฉันไปหาเขาตอนนี้, คนที่อยู่รอบตัวเขาก็จะตีตัวออกห่างอย่างแน่นอน

 

“นี่มันเป็นปัญหาจังเลยนะ…..”

 

งานเลี้ยงที่ไม่มีใครคุยด้วยก็คืองานเลี้ยงที่น่าเบื่อดีๆนี่เอง

 

เพราะทำได้แค่ดูคนอื่นกำลังสนุกมันก็เป็นธรรมดาหล่ะนะ

 

หลังจากนั้นซักพัก, ท่านพ่อก็มาถึงและงานเลี้ยงก็เริ่มจริงจัง

 

หลายคนเริ่มเต้นรำไปตามเสียงเพลงพร้อมกับเสียงหัวเราะแห่งความสุขที่ดังก้องไปทั่วงาน

 

ทุกครั้งที่มีคนพยายามจะมาชวนท่านพี่ลีเซเต้นเธอก็จะแกว่งดาบที่ห้อยตรงเอวของเครื่องแบบทหาร ถ้ามีคนเข้ามาพูดชวนเธอจริงๆเธอก็น่าจะบอกว่า ‘ถ้าเจ้าอยากเต้นกับข้าก็ประลองกับข้าให้ชนะก่อนสิ’

 

ในอีกด้านนึง, ฟีเน่กับลีโอกำลังยิ้มแย้มในขณะที่คอยรับกับขุนนางทั้งหลาย ถึงยังไงนี่ก็เป็นงานของพวกเขา ตอนนี้คือโอกาสดีที่พวกเราจะได้พันธมิตรเพิ่ม

 

ส่วนเยอร์เกนนั้น, เขาเองก็ปฏิเสธคำเชิญของผู้หญิงทุกคนอย่างสุภาพ เหมือนเช่นเคย, เขาเป็นคนที่สุภาพจริงๆ

 

ทางด้านของคริสต้ากับริต้าเองก็ยังคงถูกเด็กๆห้อมล้อม

 

ที่นี่ไม่มีที่อยู่สำหรับฉัน

 

ด้วยความรู้สึกเช่นนี้, ฉันก็หัวเราะเยาะตัวเอง

 

คนที่ต้องการจุดยืนแบบนี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจากฉัน แต่ว่า, ฉันเองก็อยากใช้ช่วงเวลาที่สนุกสนานกับใครซักคนเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม, การอิจฉาพวกเขาเพราะเรื่องนี้มันคงจะเกินไปหน่อย

 

มันยังมีหนทางที่ฉันสามารถเดินบนเส้นทางเหมือนกับลีโอได้แต่ฉันไม่เลือกมัน

 

ถ้าเส้นทางของลีโอเต็มไปด้วยแสงสว่างของฉันก็คงเต็มไปด้วยเงามืด

 

มันไม่มีความจำเป็นที่ฉันจะต้องมาถูกคนอื่นสรรเสริญ มันไม่มีความจำเป็นที่ต้องมีคนมาสังเกตเห็นฉัน

 

ฉันเลือกเส้นทางนี้ด้วยความรู้สึกแบบนั้น

 

ฉันคิดว่ามันคือสิ่งที่ดีที่สุด

 

“ไง, อาร์โนลด์”

 

มีคนน่ารำคาญคนนึงโผล่มาขัดความคิดของฉัน

 

ซึ่งก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจากกีโด้และผู้ติดตามของเขา

 

แม้ว่าเขาจะสวมชุดพิธีการ, แต่มันก็ไม่ได้ดูเป็นพิธีการเลยเพราะดูเหมือนว่าเขาจะจัดมันตามเซ้นส์แฟชันของตัวเอง

 

เขาชอบแต่งตัวแบบนี้จริงๆสินะ ว่าแล้วเชียว, ไอ้หมอนี้เซ้นส์ห่วยชะมัด

 

“กีโด้หรอ”

 

“หืม? อะไรกัน? ข้าอุตส่าห์ออกมาคุยกับเจ้าชายไร้ค่าอย่างเจ้าแต่นี้คือสิ่งที่เจ้าพูดกับข้าหรอ? ตอนนี้เจ้าควรจะร้องไห้ดีใจซักหน่อยไม่ใช่รึไง?”

 

“เห้อ….ก็ได้, ก็ได้, ขอบใจมากนะ”

 

“ข้าไม่ชอบน้ำเสียงของเจ้าเลย, ช่วงนี้ชอบทำตัวหยิ่งหรอ? ความสำเร็จของลีโอนาร์ดมันไม่ใช่ของเจ้าเลยซักนิด ยิ่งลีโอนาร์ดเติบโตมากเท่าไหร่, เจ้าก็ยิ่งดูไร้ค่าขึ้นเท่านั้น มันมีข่าวลือด้วยนะว่าซักวันนึงเจ้าจะถูกเขี่ยออกจากขุมอำนาจของลีโอนาร์ด”

 

“ก็ไม่รู้สินะ….”

 

ฉันไม่ชอบคนที่คิดได้แค่แบบนี้

 

ฉันอยากได้ใครสักคนที่มีความรู้สึกอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเข้าร่วมกับขุมอำนาจของเรา

 

ลีโอต้องการพันธมิตรแบบนั้น

 

สงครามผู้สืบทอดไม่ใช่แค่การต่อสู้ระหว่างผู้เข้าชิงแต่ยังรวมถึงขุมอำนาจของพวกเขาด้วย ไม่ว่าลีโอจะสามารถแข่งกับอีกสามคนที่เหลือได้ดีแค่ไหน, แต่ถ้าขุมอำนาจของเขาด้อยกว่าเขาก็จะไม่มีวันกลายเป็นจักรพรรดิได้

 

“อะไร? ตอนนี้รู้สึกเสียใจขึ้นมารึไง? แม้แต่เจ้าก็อยากยืนอยู่กลางแสงไฟเหมือนกันใช่ไหมหล่ะ? แต่คงรู้ตัวสินะ, คนไร้ค่าอย่างเจ้ามันเป็นไปไม่ได้หรอก

 

พอพูดจบ, กีโด้กับคนติดตามของเขาก็หัวเราะลั่น

 

ให้ตายเถอะ, คนพวกนี้นี่ว่างกันจังเลยนะ อยากรู้จังว่าท่านพ่อใกล้จะกลับที่พำนักรึยัง ฉันไม่สามารถออกจากที่นี่ก่อนเขาได้ แถมฉันมีที่ต้องไปหลังจากนี้ด้วย

 

ในขณะที่สีหน้าของฉันเริ่มดูเหนื่อยใจ, กีโด้ก็แสยะยิ้ม

 

“ข้ามีข่าวดีมาให้เจ้าอาร์โนลด์ พาข้าเข้าขุมอำนาจของลีโอนาร์ดสิ ข้าจะยอมเข้าร่วมฝั่งเดียวกับเจ้าเอง”

 

“……ว่าไงนะ?”

 

“ไม่ได้ยินหรอ? เอาเถอะ, ก็เข้าใจได้อยู่ ข้าเป็นถึงลูกชายคนโตของดยุคฮอร์วาธที่ยิ่งใหญ่นี่นะ คงไม่มีคนอื่นที่เจ้าอยากให้มาเป็นพวกแล้วใช่ไหมหล่ะ”

 

กีโด้เสยผมขึ้นอย่างเริงร่า

 

แต่ฉันไม่สนใจเรื่องนั้น

 

คนอย่างกีโด้จะวิ่งโด่งเข้ามาในการต่อสู้แย่งชิงอำนาจเนี่ยนะ? นี่เป็นคำสั่งของพ่อเขา, ดยุคฮอร์วาธอย่างไม่ต้องสงสัย

 

แน่นอนว่า, ตัวดยุคฮอร์วาธเองนั้นกำลังเข้าหากอร์ดอนในขณะที่ลูกชายคนที่สองของเขาถูกส่งไปฝั่งเอริค และถ้ากีโด้เข้าใกล้ลีโอนาร์ดได้ที่นี้เขาก็จะสามารถสร้างความดีความชอบได้ไม่ว่าสุดท้ายแล้วใครจะชนะก็ตาม

 

ส่วนเหตุผลที่ดยุคฮอร์วาธไม่เข้าหาซานดร้าก็เพราะว่าเขาไม่ถูกกับขุนนางทางใต้มาตั้งนานแล้ว

 

ตัดสิดจากจุดนี้, ดูเหมือนว่าดยุคจะยอมรับลีโอแล้วสินะ

 

การพลาดโอกาสนี้ไปคงจะเป็นเรื่องที่เจ็บปวดแต่ว่า….พูดตามตรง, ฉันไม่อยากได้กีโด้ กีโด้เป็นลูกชายคนโตของดยุคฮอร์วาธจริงๆแต่ลูกชายลำดับสองของเขานั้นเป็นที่ยอมรับและเก่งกว่า หลักฐานที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนก็คือความจริงที่ว่าดยุคส่งเขาไปเข้าร่วมกับเอริค, ผู้เข้าชิงที่มีโอกาสชนะสูงที่สุด

 

ถ้าพวกเราดึงกีโด้มาเข้าพวกตอนนี้, ขุมอำนาจของพวกเราอาจจะล่มสลายได้

 

“อ้อแล้วก็, เจ้าจะได้สร้างผลงานจากการเชิญข้าเข้าพวกได้ด้วยนะ สนไหมหล่ะ? อาร์โนลด์”

 

“ขอโทษนะ, แต่ข้าขอผ่านละกัน ถ้าเจ้าอยากเข้าร่วมกับเขาก็ไปถามลีโอเองเถอะ”

 

“หา?”

 

ฉันคิดว่าเขาคงนึกไม่ถึงว่าฉันจะปฏิเสธ แก้มของเขากระตุก

 

กีโด้ไม่สามารถไปขอลีโอโดยตรงได้ จนถึงตอนนี้, กีโด้แสร้งทำดีต่อหน้าลีโอก็จริงอยู่แต่ในตอนที่ฟีเน่กับฉันออกไปเดินเล่นในเมืองด้วยกัน, กีโด้ได้อัดฉันและตอนนั้นฉันก็แกล้งทำตัวเป็นลีโอ

 

พูดอีกนัยนึงก็คือ, จากมุมมองของกีโด้, เขาคิดว่าลีโอรู้ถึงเรื่องไม่ดีของเขาแล้ว เอาเถอะ, จริงๆแล้วเรื่องแบบนี้, ลีโอน่าจะรู้ตั้งนานแล้วแหล่ะ

 

นี่ต้องเป็นสาเหตุที่เขาเลือกเข้าหาฉันแน่ๆ

 

ช่างโง่จริงๆ

 

“อย่ามาทำตัวอวดดีกับข้า คงรู้สินะว่านี่ไม่ใช่คำขอ”

 

“ไม่ว่าเจ้าจะพูดยังไง, ข้าก็จะไม่แนะนำเจ้ากับขุมอำนาจของลีโอ”

 

“ไอ้หมอนี่! กล้าดียังไง! ในเมื่อยัยล้มเหลวเอลน่าถูกกักบริเวณในบ้าน, เธอก็คงไม่สามารถปกป้องเจ้าได้แล้ว! ไม่มีใครมาช่วยเจ้าหรอกนะ, รู้ไหม!”

 

เขาพึ่งพูดสิ่งที่ไม่ควรพูดออกมาซะแล้ว

 

ฉันรู้ว่าฉันควรจะปล่อยผ่านมันไป ตัวฉันที่อยู่ข้างในกำลังพร่ำบอกกับตัวเองให้ใจเย็นลง

 

อย่างไรก็ตาม, สุดท้ายแล้วฉันก็ได้สลัดการควบคุมตัวเองทิ้งไป

 

“เมื่อกี้….พูดว่ายังไงนะ?”

 

“อะไร? ไม่มีใครช่วยเจ้ายังไงหล่ะ”

 

“ก่อนหน้านั้น….ที่เจ้าบอกว่าล้มเหลว?”

 

“หืม? ใช่ไง, ข้าพูด! เอลน่าหน่ะล้มเหล—!!????”

 

ฉันจ้องกีโด้ตาเขม็ง

 

ตอนนี้ฉันอยากจะเป่าเขาทิ้งไปด้วยลำแสงเงิน มันจะสดชื่นแค่ไหนกันนะถ้าฉันสามารถลบคนแบบนี้ออกไปจากโลกได้

 

พอถูกจ้องด้วยสายตาที่รุนแรงเช่นนี้, กีโด้ก็ถูกครอบงำด้วยความกลัวและหายใจไม่ออก เขาถอยไปสองสามก้าวแล้วล้มก้นจ้ำเบ้า

 

“อ, โอ้ย……”

 

“ถอนคำพูดซะ….กีโด้”

 

ด้วยน้ำเสียงนิ่งๆฉันก็ได้ถ่ายทอดความรู้สึกของฉันออกไป

 

อย่างไรก็ตาม, กีโด้ไม่ได้แสดงท่าที่ว่าเขาจะตอบรับเลย

 

คนติดตามของเขาเองก็ตัวแข็งทื่อไม่มีใครพยายามเข้ามาขัดฉันกับกีโด้เลย ความสัมพันธ์ของพวกเขานี่มันราคาถูกจังเลยนะ

 

“เอลน่าช่วยชีวิตของคริสต้า ความจริงนี้ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงได้ การดูถูกเอลน่าต่อหน้าฉันทั้งๆที่รู้เรื่องนั้นดี, กีโด้, ฟ็อน ฮอร์วาธ, เจ้าอยากตายรึไง?”

 

“อา, นั่นมัน, นั่นมัน, ข้าไม่ได้….”

 

“พูดมาสิ”

 

“ข้า, ข้า, ข้าถอนคำพูด….”

 

“มีอะไรจะพูดอีกไหม?”

 

“ขอ, ขอโท….”

 

“ขอโทษหรอ?”

 

“ข, ข้า, ข้าขอโทษ……!”

 

หลังจากที่ฉันให้กีโด้ถอนคำดูถูกของเขาและขอโทษ, ฉันก็ออกจากงานในทันที

 

ท่านพ่อยังไม่ออกจากงานแต่ฉันรู้สึกขยะแขยงที่ต้องมาหายใจด้วยอากาศเดียวกับกีโด้และเนื่องจากพวกเราเริ่มตกเป็นที่สนใจแล้ว, ฉันก็เลยตัดสินใจออกไปจากที่แห่งนี้

 

ตอนนี้มันคงจะเป็นเรื่องได้ถ้าฉันเอาตัวไปยุ่งเกี่ยวกับปัญหา

 

ตัวฉันในตอนนี้ไม่ได้อยู่ในสภาพใจเย็นแล้ว

 

ในขณะที่คิดเช่นนั้น, ฉันก็คว้าสุราขวดนึงที่อยู่บนโต๊ะแล้วออกจากงานไป

 

“….เห้อ”

 

“ถ้ามันมาทำให้เหนื่อยใจแบบนี้, สู้อดทนไว้ไม่ดีกว่ารึไงนะ?”

 

ในขณะที่นึกถึงความโง่ของตัวเอง, ฉันก็ถอนหายใจอีกครั้งแล้วออกไปจากงาน แม้ว่าฉันพึ่งตัดสินใจว่าจะทำตัวไร้ค่าต่อ, แต่มันก็จบลงที่ฉันทำเรื่องที่มันทรยศสิ่งที่ทำมาทั้งหมดจนถึงตอนนี้ ไม่มีอะไรที่น่าสมเพชไปมากกว่านี้แล้ว

 

ในขณะที่ฉันกำลังหมกมุ่นอยู่กับเรื่องทั้งหมดนี้, เซบาสก็เรียกฉันจากข้างหลังราวกับจะมาเทศน์ฉัน

 

กรอดดดด ตอนนี้ฉันไม่อยากโดนเทศน์นะ

 

ถึงยังไง, คนที่เข้าใจดีที่สุดว่าสิ่งที่ฉันทำมันโง่แค่ไหนก็คือฉัน

 

“ข้าทำไปเพราะอดไม่ได้ ตอนนี้ข้าใจเย็นลงแล้ว และกำลังคิดว่าตัวเองทำตัวโง่ๆอยู่โอเคไหม ข้าพึ่งจะเผยไต๋ตัวเองไปทั้งๆที่ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย”

 

“ทำให้คนเงียบด้วยการจ้องมองเฉยๆ, ไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันง่ายๆครับ จากมุมมองของคนที่อยู่รอบๆท่าน, พวกเขาต้องคิดแน่ๆว่าเขาพึ่งจะทำอะไรที่เป็นการเหยียบกับระเบิดท่านไป”

 

“อา, อา ข้าบอกแล้วไงว่าเข้าใจแล้ว”

 

“ถ้าแบบนั้นก็ไม่เป็นไรครับ ถึงยังไงท่านเอลน่าก็เป็นคนสำคัญสำหรับท่านอาร์โนลด์, มันคงช่วยไม่ได้นั่นแหล่ะครับ เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ดูแล้ว, คนที่ไม่ค่อยโกรธนั้นเวลาโกรธมักจะโกรธแรง, เพราะงั้นไม่ต้องกังวลหรอกครับ”

 

พอพูดจบ, เซบาสก็เดินตามหลังฉัน

 

ฉันโกรธเพราะเธอเป็นคนสำคัญ ด้วยเหตุนี้เอง, มันจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะบอกว่าช่วยไม่ได้แต่ถ้าฉันโกรธเพราะเรื่องนี้จริงๆ, จากนี้ไปฉันก็ต้องโกรธบ่อยขึ้นไม่ใช่รึไง?”

 

“วันนี้เป็นวันที่ข้ารู้สึกอนาถใจที่สุดเท่าที่เคยรู้สึกมาเลย…..”

 

“วันแบบนี้มันต้องมีกันบ้างแหล่ะครับ ถึงยังไงมันก็ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบไปซะทุกอย่าง ไม่มีใครที่เก็บอารมณ์เอาไว้ได้ตลอดทุกครั้งหรอกครับ เอาเป็นว่า, ปล่อยวางเรื่องนั้นเถอะนะครับ, ข้าได้เตรียมรถม้าให้ท่านแล้ว”

 

“….เจ้านั่นแหล่ะที่สมบูรณ์แบบตลอดเวลา ข้ายังไม่ได้พูดอะไรเลยไม่ใช่รึไง?”

 

“ก็ข้าเป็นพ่อบ้านนี่ครับ”

 

“งั้นหรอ….ถ้างั้นพวกเราไปกันเลยไหม”

 

พอพูดจบ, ฉันก็เข้าไปในรถม้า

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด