การต่อสู้ชิงบัลลังก์ในเงามืดของเจ้าชายไร้ค่าสุดแกร่ง (Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi ) 69

Now you are reading การต่อสู้ชิงบัลลังก์ในเงามืดของเจ้าชายไร้ค่าสุดแกร่ง (Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi ) Chapter 69 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตำหนักใน

 

ข้างในห้องของสนมลำดับห้า, คนใช้ผมสีน้ำตาลกำลังรายงานการติดตามของเธอให้ซานดร้าและซูซาน

 

“แน่ใจนะ?”

 

“ค่ะ, ไม่ผิดแน่ การคุ้มกันของอีกฝ่ายดูมากเกินปกติอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ”

 

“ถ้ามันเป็นรายงานจากเจ้าที่ได้รับการฝึกแบบนักฆ่ามาตั้งแต่เด็กมันก็น่าจะไม่มีข้อผิดพลาดหล่ะนะ”

 

ซูซานพูดกับคนใช้ในขณะที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเชื่อใจ

 

ซานดร้าเองก็ไม่ได้ดูถูกคนใช้คนนี้

 

เพราะเธอรู้ดี ในบรรดาคนใช้ของพวกเธอที่มีอยู่มากมายนั้น, คนที่อยู่เบื้องหน้าเธอคนนี้ถือว่าเป็นคนพิเศษ

 

“ข้าคิดว่าเวทมนตร์แต่กำเนิดที่ทำให้มองเห็นอนาคตได้นั้นมีอยู่แค่ในตำนานซะอีก……ท่านแม่คะ ข้าอยากได้จังเลย”

 

“นั่นสินะ เด็กคนนั้นจะเป็นหนูทดลองที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน เจ้าก็คิดแบบนั้นใช่ไหม? เสี่ยวเม่ย”

 

คนใช้, เสี่ยวเม่ย, เงยหน้าขึ้นมาและเห็นด้วยกับคำพูดของเจ้านาย

 

ด้วยความพึงพอใจกับคำตอบของเธอ, ซูซานก็เริ่มคิด

 

ไม่ว่าพวกเธอจะอยากได้คริสต้ามาเป็นตัวอย่างทดลองมากแค่ไหน, แต่อีกฝ่ายนั้นคือเจ้าหญิงของจักรวรรดิ การลักพาตัวเธอมาโดยตรงมันอันตรายเกินไป ยิ่งไปกว่านั้น, เธอยังเป็นลูกสาวของสนมลำดับสองด้วย ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับคริสต้า, เธอจะตกเป็นเป้าสงสัยแรก

 

“ใช้เสี่ยวเม่ยไปเอาตัวเธอมาให้พวกเราก็คงไม่มีปัญหาอะไรหรอกมั้งคะ?”

 

“ใช้สมองหน่อยสิ ถ้าทำแบบนั้นตรงๆ, พวกเขาได้เริ่มสงสัยข้าแน่ เอาจริงๆถึงแม้ว่าข้าจะยังไม่ทำอะไรก็ตกเป็นที่ต้องสงสัยอยู่แล้ว มันไม่เป็นไรหรอกถ้าพวกเขาสงสัยข้าแต่ถ้าการสืบสวนของพวกเขาสาวมาถึงข้า, เจ้าก็จะถูกทำลายด้วยเหมือนกันนะ”

 

“การจะให้ข้าหลอกสายตาของท่านหญิงบ้านแอมส์เบิร์กมันค่อนข้างจะหนักเกินไปสำหรับข้าเหมือนกันค่ะ….แต่ว่าข้ามีข้อเสนอดีๆอยู่”

 

“งั้นหรอ? ไหนลองว่ามาซิ”

 

“ใช้พ่อค้าที่คอยส่งของให้ท่านซานดร้าทำการลักพาตัวให้พวกเราค่ะ”

 

“พูดอะไรของเจ้า!? ถ้าพวกนั้นถูกจับได้, ความจริงที่มีคนจัดหาเด็กให้ข้าจะถูกเปิดเผยนะรู้รึเปล่า!?”

 

“ซานดร้า เงียบก่อน”

 

ซูซานพูดให้ซานดร้าใจเย็นลงและกระตุ้นให้เสี่ยวเม่ยพูดต่อ

 

เสี่ยวเม่ยที่เคยชินกับความฉุนเฉียวของซานดร้าพยักหน้าและพูดต่อโดยไม่มีความกลัวเลยซักนิด

 

“ในเมื่อองค์ชายลีโอนาร์ดถูกส่งไปเขตใต้, มันก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นก่อนที่พ่อค้าจะถูกเชื่อมโยงกับคดีลักพาตัว”

 

“เรื่องนั้นไม่จำเป็นหรอก! ท่านลุงไม่ปล่อยให้ลีโอนาร์ดใช้ประโยชน์ได้หรอก!”

 

“แต่มันก็ยังเสี่ยงอยู่, ข้าพูดถูกไหม?”

 

“ใช่ค่ะ เพราะฉะนั้นพวกเราควรรีบใช้พวกนั้นซะตั้งแต่ตอนนี้ ถ้าพวกนั้นทำสำเร็จ, พวกเราก็จะได้ตัวองค์หญิงคริสต้ามาและในกรณีที่ล้มเหลว, พวกเราก็แค่กำจัดเจ้าพวกนั้นทิ้งซะก็พอแล้ว”

 

“แล้วถ้ามีคนหนีรอดไปได้หล่ะ?”

 

“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นกังวลไปค่ะ เพราะข้าจะเป็นคนรับหน้าที่เก็บกวาดเอง”

 

พอพูดจบ, เสี่ยวเม่ยก็เผยรอยยิ้มออกมา

 

รอยยิ้มของเธอนั้นดูน่าขนลุกแม้กระทั่งจากมุมมองของซูซานและซานดร้า

 

แต่ถึงอย่างนั้น, ซูซานกับกับซานดร้าก็ไม่ได้ปล่อยเธอไป เธอมีความโดดเด่นอย่างท่วมท้นและเหมือนกับคนใช้คนอื่นๆ, เสี่ยวเม่ยเองก็มีคำสาปติดตัวเธอ

 

เธอคือนักฆ่าสุดแกร่งพร้อมกับปลอกคอที่ไม่สามารถถอดออกได้

 

นี่คือสาเหตุที่เธอเป็นที่ชื่นชอบของทั้งซานดร้าและซูซาน

 

และด้วยเหตุนี้เองพวกเธอถึงยอมรับข้อเสนอของเสี่ยวเม่ย

 

ซานดร้ากับซูซานยิ้ม ซานดร้ารู้สึกตื่นเต้นกับเวทมนตร์แต่กำเนิดที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อนในขณะที่ซูซานกำลังเพลิดเพลินกับอนาคตที่ลูกสาวของสนมลำดับสองที่เธอเกลียดจะถูกนำมาทดลอง

 

และด้วยประการฉะนี้เองแผนการของพวกเธอก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้น

 

 

“สนมลำดับห้าส่งคำเชิญมาให้องค์หญิงคริสต้ากับท่านเอลน่าครับ, เธอบอกว่าเธอมีเรื่องจะคุยกับทั้งสองคน”

 

พอได้ยินคนใช้ถ่ายทอดข้อความมาแบบนี้, เอลน่าก็ขมวดคิ้ว

 

เอลน่าเคยฟังเรื่องระหว่างสนมลำดับสองกับซูซานมาก่อนแล้ว

 

การพาลูกสาวของสนมลำดับสองอย่างคริสต้าไปยังที่ที่ซูซานอยู่นั้นก็เหมือนกับการพาสัตว์ตัวเล็กๆไปที่รังของสัตว์ร้าย มันไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเธอจะทำอะไรบ้าง

 

อย่างไรก็ตาม, ในตำหนักในนั้น, คำพูดของสนมคือคำขาด เริ่มตั้งแต่มเหสี, ยิ่งมีตำแหน่งสูงเท่าไหร่, ก็จะยิ่งมีอิทธิพลมากเท่านั้น สนมลำดับสามกับลำดับห้าที่เข้าร่วมสงครามผู้สืบทอดจะมีอำนาจเป็นพิเศษ อิทธิพลของมิทสึบะเทียบกับพวกเธอไม่ได้เลยเพราะเธอไม่ได้ข้องเกี่ยวกับสงครามผู้สืบทอดโดยตรง

 

“พอดีวันนี้ท่านมิทสึบะไม่อยู่พวกเราค่อยรับคำเชิญวันหลังแล้วกันนะคะ”

 

“สนมเชิญทั้งสองคนโดยที่รู้เรื่องนี้อยู่แล้วค่ะ”

 

มันคงพอมีทางปฏิเสธอยู่ถ้ามิทสึบะอยู่ที่นี่แต่โชคไม่ดีที่มิทสึบะถูกจักรพรรดิเรียกตัว

 

 

เนื่องจากเขาส่งทั้งอัลและลีโอไปทำภารกิจ, จักรพรรดิก็เลยต้องดูแลมิทสึบะ

 

เอลน่ามองดูคริสต้าที่กำลังหลบอยู่หลังเธอ

 

ถ้าพาเธอไปที่นั่นมันคงนรกแน่ และต่อให้เราไปคนเดียวก็คงไม่ต่างกัน

 

การปฏิเสธก็ไม่ใช่ตัวเลือกสำหรับที่นี่ด้วย ถ้าทำแบบนั้น, อีกฝ่ายก็จะใช้เรื่องนี้เป็นเหตุผลในการโจมตีมิทสึบะ

 

อย่างไรก็ตาม, การพาคริสต้าไปหาผู้หญิงที่อาจจะเป็นศัตรูของแม่เธอนั้นมันไม่ยุติธรรมเลย

 

แถมไม่ว่ายังไง, มันก็มีเรื่องอนาคตนั่นมาเป็นหัวข้อพิจารณาด้วย ดังนั้นการทิ้งเธอไว้ก็เป็นตัวเลือกที่อันตรายเกินไปเหมือนกัน

 

“ช่วยบอกสนมลำดับห้าให้หน่อยนะคะว่าพวกเราขอเวลาสักพัก”

 

“เข้าใจแล้วค่ะ”

 

พอพูดจบ, คนใช้ก็ออกจากห้องไป

 

อย่างไรก็ตาม, นี่มันก็ทำได้แค่ยื้อเวลาออกไปเท่านั้น

 

“ไหวไหมคะ? องค์หญิง”

 

“เอลน่า….ข้าไม่อยากไป….”

 

“นั่นสินะคะ องค์หญิงอยู่ที่นี่เถอะค่ะเดี๋ยวข้าจะไปเองคนเดียว”

 

“เองน่าจะไปหรอ…..?”

 

“ถ้าข้าไม่ไปท่านมิทสึบะจะตกที่นั่งลำบากได้ เพราะฉะนั้นองค์หญิงห้ามออกจากห้องนี้เด็ดขาดเลยนะคะ พวกเจ้าก็เข้าใจตรงกันใช่ไหม?”

 

หลังจากที่เธอบอกคริสต้า, เอลน่าก็ออกคำสั่งการ์ดที่ถูกมอบหมายมาให้มิทสึบะ

 

การ์ดตำหนักในนั้นมีแค่ผู้หญิงและทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยในตำหนักใน กองนึงจะถูกแต่งตั้งให้กับสนมแต่ละคนและถึงแม้จะมีสนมที่ตำแหน่งสูงกว่ามายืนอยู่ตรงหน้า, พวกเธอก็ไม่ได้รับอนุญาตให้พูดคุยกับสนมหรือการ์ดของสนมคนอื่น พวกเธอนั้นเหมือนกับทหารประจำตัวของเหล่าสนม

 

ข้อยกเว้นเดียวสำหรับกฏนี้ก็คือมเหสีที่ใหญ่สุดในตำหนักในแต่เนื่องจากมเหสีองค์ปัจจุบันไม่ค่อยเข้ามาแทรกแซงเท่าไหร่เว้นเสียแต่ว่าจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น, ตอนนี้พวกเธอก็เลยทำหน้าที่เหมือนทหารส่วนตัวของสนมมากกว่า

 

“ไว้ใจพวกเราได้เลยค่ะ”

 

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น, ต่อให้องค์หญิงพูดเองว่าอยากออกไปข้างนอก, พวกเจ้าก็ห้ามปล่อยให้องค์หญิงออกจากห้องนี้โดยเด็ดขาดเข้าใจไหม”

 

“ค่ะ!”

 

ภายใต้สถานการณ์พิเศษนี้, เอลน่าได้รับอำนาจบัญชาการที่สูงกว่ามิทสึบะและการ์ดของคริสต้า

 

อย่างไรก็ตาม, เอลน่ายังคงกังวลอยู่เพราะเธอไม่สามารถใช้ลูกน้องสายตรงของเธอได้

 

มันมีกำลังคนไม่พอ

 

สถานการณ์คงจะต่างออกไปถ้าเธอสามารถพามาร์คมาด้วยได้แต่ตำหนักในคือสถานที่สำหรับผู้หญิงเท่านั้น ไม่มีผู้ชายคนไหนเข้ามาที่นี่ได้ถ้าไม่ได้รับอนุญาต

 

“ฟังให้ดีนะคะ, องค์หญิง ช่วยสัญญากับข้าได้ไหมว่าท่านจะไม่ออกจากห้องนี้”

 

“โอเค…..ข้าจะไม่ออกจากห้องนี้……”

 

“ขอบคุณมากค่ะ ต่อให้พวกเขาใช้ชื่อของข้า, ท่านก็ต้องไม่ออกไปนะคะ”

 

พอพูดจบ, เอลน่าก็ลูบศรีษะของคริสต้าแล้วออกจากห้องไป

 

การหายไปอย่างกระทันหันของเอลน่าทำให้คริสต้ารู้สึกกังวล

 

ดังนั้นคริสต้าก็เลยเข้าไปขลุกอยู่ในฟูกบนเตียงของเธอแล้วกอดตุ๊กตากระต่ายตัวโปรด

 

อย่างไรก็ตาม, มีรายงานนึงเข้ามาและมันก็สั่นคลอนจิตใจของคริสต้า

 

“อ, องค์หญิง! แย่แล้วค่ะ! คือว่า, องค์ชายอาร์โนลด์!

 

“ท่านพี่อัลหรอ!? เขากลับมาแล้วหรอ!?”

 

คริสต้าตอบสนองต่อรายงานนี้ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลและสังเกตเห็นว่าคนใช้ที่เข้ามารายงานนั้นเนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด เนื่องจากคนใช้ดูแข็งแรงดี, เธอจึงเข้าใจว่าไม่ใช่เลือดของคนใช้

 

มีบางอย่างเกิดขึ้น

 

ร่างของคริสต้าสั่นตามสันชาตญาณ

 

“นะ, นี่มัน……”

 

“พวกเขาเจอมอนส์เตอร์ในระหว่างทางมาที่นี่ ดูเหมือนว่าองค์ชายจะได้รับบาดเจ็บในขณะที่ปกป้องดยุคไรน์เฟลด์จากการโจมตีของมอนส์เตอร์ค่ะ….แถมบาดแผลค่อนข้างสาหัสด้วย”

 

“ไม่นะ……”

 

“เขากำลังพึมพำเรียกหาองค์หญิงคริสต้าข้าก็เลยมาที่นี่เพื่อถ่ายทอดข้อความ….ช่วยรีบเข้าเถอะค่ะ”

 

น้ำเสียงที่เย็นชาของคนใช้สั่นคลอนคริสต้า

 

คริสต้าพยายมจะออกไปในทันทีแต่การ์ดก็หยุดเธอเอาไว้

 

“ช่วยหยุดเถอะค่ะองค์หญิง!”

 

“ปล่อยข้านะ! ท่านพี่อัลหน่ะ!”

 

“ท่านเอลน่าบอกพวกเราว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ห้ามออกจากห้องค่ะ!”

 

“ท่านพี่อัลกำลังตกอยู่ในอันตราย! ช่วยปล่อยข้าไปเถอะนะ!”

 

“ท่านมิทสึบะไปถึงที่เกิดเหตุแล้วค่ะ! ช่วยรีบด้วย!”

 

พอได้ยินแบบนี้, คริสต้าก็สลัดแขนของการ์ดออกแล้วเริ่มวิ่งตามคนใช้ไป

 

ตอนนี้การ์ดไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตามเธอไป

 

คนใช้ที่เปื้อนเลือดกำลังนำทางไปอยู่

 

“นี่! ตั้งใจจะไปถึงไหน!? นี่มันทางเข้าของพ่อค้าไม่ใช่หรอ!?”

 

“ข้าใช้ทางนี้เพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวายค่ะ! เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เพราะฉะนั้นพวกเราก็เลยต้องรักษาเขาตรงนั้นเลย!”

 

“เร็วเข้าเถอะ!”

 

คริสต้าวิ่งเร็วแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน

 

เธอเป็นห่วงเขามากถึงขั้นโยนตุ๊กตากระต่ายของเธอทิ้งเหมือนกับว่ามันเป็นตัวถ่วงความเร็วของเธอ

 

ในตอนที่คริสต้าเลี้ยวตรงมุม, เธอก็เห็นคนนอนซมที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดอยู่ข้างๆรถม้ากำลังได้รับการรักษาอยู่

 

“ท่านพี่!!”

 

คริสต้ารีบวิ่งไปหาคนเจ็บ

 

อย่างไรก็ตาม, ในตอนที่เธอไปถึง, มันกลับเป็นคนละคนที่มีผมสีดำเหมือนกับอัล

 

“นี่มัน…..ไม่ใช่ท่านพี่หรอ….?”

 

“ก็มันเป็นกับดักนี่ครับ”

 

พอพูดจบ, ชายรูปร่างอ้วนท้วมที่อยู่ข้างๆคนเจ็บก็เอาผ้ามาปิดปากของเธอ

 

“อู้อื้อออออ!!?? อื้อ….”

 

คริสต้าพยายามจะส่งเสียงแต่เธอก็ไม่สามารถทำได้เพราะสู้แรงของผู้ใหญ่ไม่ไหว

 

กลิ่นของยาที่ชะโลมเอาไว้ในเนื้อผ้าค่อยๆพรากสติของคริสต้าไป

 

ในตอนที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น, มันก็ตามมาด้วยเสียงคนกำลังล้ม

 

การ์ดสามคนที่ตามหลังคริสต้ามานั้นมีเลือดไหลที่คอและล้มลงไป

 

“ทำงานได้ดีเหมือนเคยเลยนะ, กุนเธอร์”

 

“ไม่ต้องชมหรอก, รีบเข้าเถอะ”

 

กุนเธอร์เป็นนักฆ่าวัยกลางคนที่เคยพยายามลอบโจมตีอัล

 

เขามักจะใช้เวทมนตร์ในตอนที่ทำการลอบสังหารแต่ครั้งนี้เขาเลือกใช้มีดธรรมดา

 

เพราะเขาจะทำให้อาชญากรรมนี้เชื่อมโยงมาถึงเขาไม่ได้

 

“ถ้างั้นขอรับตัวเธอไปเลยนะ”

 

“อา, ข้าคิดว่าเจ้าคงจะเข้าใจดีแล้วใช่ไหม”

 

“แน่นอน ข้าจะไม่ทำอะไรเธอ, รับรองเลย”

 

พอเห็นรอยยิ้มหยาบช้าของชายร่างท้วม, กุนเธอร์ก็มองเขาอย่างไม่ไว้ใจ

 

กุนเธอร์รู้ว่าชายคนนี้คือหนึ่งในพ่อค้ามือดีของเมืองหลวงจักรวรรดิแต่หลังฉากนั้น, เขาคือพ่อค้าทาสผู้รักเด็กที่แอบลักพาตัวและขายเด็กจากทั่วทั้งประเทศ

 

เด็กสาวที่อายุไร่เลี่ยกับคริสต้านั้นคือของชอบของเขา

 

“ถ้าเจ้าทำเป็นเล่นพวกเราจะไม่ทนแน่ เข้าใจดีใช่ไหม?”

 

“ค, ครับ ข้าเข้าใจแล้ว”

 

พอมองตาของกุนเธอร์, ก็เห็นว่าพ่อค้าอ้วนคนนี้กำลังกลัวอยู่

 

หลังจากนั้นเขาก็ให้ลูกน้องพาตัวคริสต้าขึ้นรถม้า

 

สถานที่ที่พวกเขาซ่อนคริสต้าที่กำลังหลับเอาไว้ก็คือช่องเก็บของลับในรถม้าของพวกเขา มันคือพื้นสองชั้นที่พวกเขาทำเอาไว้สำหรับส่งของผิดกฏหมายมาที่ปราสาท

 

มีผู้ตรวจสอบอยู่ไม่กี่คนในตอนที่พวกเขาจะออกไปแต่ว่าครั้งนี้พวกเขากำลังขนองค์หญิงของจักวรรดิอยู่ดังนั้นต้องระวังตัวเป็นพิเศษ

 

พ่อค้าไม่ได้รู้สึกผิดเลย แน่นอนว่า, มันเป็นครั้งแรกที่พวกเขาลักพาตัวเจ้าหญิงแต่พวกเขาก็มักจะลักพาตัวขุนนางผู้หญิงและเปลี่ยนให้พวกเธอเป็นทาสอยู่แล้ว

 

แต่ก็แน่นอนว่า, พวกเขาเองก็กลัวอยู่, ถึงยังไงศัตรูในครั้งนี้ก็เป็นตัวเบ้งของจริง อย่างไรก็ตาม, ในเมื่อคนที่ส่งคำขอในครั้งนี้มานั้นเป็นใครไปไม่ได้นอกจากซินดร้า, พ่อค้าก็เลยคิดว่าน่าจะยังเอาอยู่

 

ตราบใดที่พวกเขาไม่ยอมรับความผิด, มันก็จะไม่เป็นอะไร

 

หลังจากที่เห็นพ่อข้าขึ้นรถม้าไปด้วยรอยยิ้ม, กุนเธอร์ก็สั่งให้คนของเขาเก็บกวาดศพของการ์ด

 

จากนั้นรถม้าก็เริ่มขับออกไปอย่างช้าๆ

 

อย่างไรก็ตาม, มีเด็กคนนึงกำลังวิ่งไล่ตามรถม้าคันนั้นอยู่

 

ซึ่งเด็กคนนั้นก็คือริต้า

 

ในมือของริต้าคือตุ๊กตากระต่ายที่เป็นของคริสต้า ริต้าสามารถไล่ตามและขึ้นไปที่ส่วนเก็บของของรถม้าได้แล้วเธอก็ยัดตุ๊กตาเข้าไปจากด้านนอก

 

“เดี๋ยวริต้าจะช่วยเองนะ…..คูจัง”

 

หลังจากผ่านไปช่วงสั้นๆ, การหายตัวไปของคริสต้าก็กลายเป็นที่รู้กันทั้งปราสาท, และถูกกำหนดให้เป็นการเตือนภัยระดับสูงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

 

แต่ว่ากว่าจะรู้ตัวรถม้าก็ออกจากปราสาทไปนานแล้ว

 

ด้วยเหตุนี้เอง, เมืองหลวงของจักรวรรดิจึงกำลังเข้าใกล้อนาคตที่คริสต้าเห็นอย่างช้าๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด