การต่อสู้ชิงบัลลังก์ในเงามืดของเจ้าชายไร้ค่าสุดแกร่ง (Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi ) 72

Now you are reading การต่อสู้ชิงบัลลังก์ในเงามืดของเจ้าชายไร้ค่าสุดแกร่ง (Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi ) Chapter 72 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ, หัวหน้าหมู่บ้าน ข้าเจ้าชายลำดับแปด, ลีโอนาร์ด เลคส์ แอดเลอร์”

 

“พอพูดจบลีโอก็โค้งคำนับหญิงชราผมหงอกที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่สุดของหมู่บ้าน”

 

หญิงชราที่ถูกเรียกว่าหัวหน้าหมู่บ้านคนนี้ก้มศรีษะตอบอย่างกระท่อนกระแท่น

 

“ข้าชื่อเหมา….เป็นหัวหน้าหมู่บ้านของหมู่บ้านฮีน่าแห่งนี้ ข้าขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งสำหรับความช่วยเหลือของท่านที่ทำเพื่อพวกเราถึงขนาดนี้”

 

“ไม่หรอกครับ, ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านแบบไหนก็ยังถือเป็นหมู่บ้านของจักรวรรดิครับ ในฐานะราชวงศ์ของจักรวรรดินั้น, มันถือเป็นหน้าที่ของข้าในการให้ความช่วยเหลือประชาชนทุกคน”

 

ลีโอตอบกลับด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยน

 

พอได้ฟังคำพูดของลีโอ, อีกคนที่อยู่ในบ้านก็ผิวปาก

 

“น่าประหลาดใจจริงๆนะเนี่ย ใครจะไปคิดหล่ะว่าฝาแฝดจะแตกต่างกันได้ขนาดนี้”

 

“แล้วเจ้าคิดว่าพี่ชายของข้าเป็นคนแบบไหนหล่ะ?”

 

“เขาดูหยิ่งผยอง”

 

มีชายผมแดงคนนึงยืนพิงกำแพงอยู่

 

ตามคำขอของอัล, อาเบลได้นำทีมนักผจญภัยมาที่หมู่บ้านแห่งนี้เพื่อทำหน้าที่เป็นคนคุ้มกัน

 

ตัวตนที่แสดงถึงความเป็นนักผจญภัยและความตรงไปตรงมาของเขานั้นได้ทิ้งความประทับใจให้ลีโออย่างมาก

 

“งั้นหรอ เจ้าอาจจะประหลาดใจก็ได้นะถ้าได้เห็นเขาตอนเวลาปกติ”

 

“ก็ไม่รู้สินะ เจ้าชายนั่นเสนอรางวัลให้เราแบบสุดโต่งเพื่อให้พวกเรามาปกป้องหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลนี้ เจ้ารู้รึเปล่าตอนแรกข้าหน่ะกลัวจนขี้หดตดหายเลยหล่ะในตอนที่พยายามจินตนาการถึงมอนส์เตอร์ที่มาก่อความวุ่นวายแถวนี้?”

 

“แล้วเจ้าเจออะไรไหมหล่ะ?”

 

“มันไม่มีมอนส์เตอร์อยู่แถวนี้เลยหน่ะสิ หมู่บ้านแห่งนี้สงบสุขมาก แต่มันเหมือนกับที่ข้าได้ยินมาจริงๆ, มีพวกโจรที่ดูเหมือนกับโจรลักพาตัวมาด้อมๆมองๆแถวนี้อยู่จำนวนนึง พอเห็นว่าพวกเราเสริมการป้องกันของหมู่บ้านจนมั่นคงแล้ว, จนถึงตอนนี้พวกมันก็ไม่ได้ทำอะไรกับชาวบ้านจริงๆแต่ข้าก็ยังเห็นพวกมันอยู่แถวนี้นะ คงต้องพูดเลยว่า, งานนี้มันยังไม่เหมาะกับจำนวนเงินขนาดนั้นหรอก ถึงยังไงเรื่องแบบนี้มันก็เป็นแค่คำของ่ายๆเท่านั้นเอง”

 

นี่น่าจะเป็นเรื่องดีสำหรับนักผจญภัยอย่างอาเบลแต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่พอใจ

 

เนื่องจากเขาไม่ใช่คนที่อยู่ในวงการนี้, ลีโอจึงทำได้แค่ยิ้มเจื่อนๆ

 

ถ้ารางวัลถูกเกินไป, พวกเขาก็จะโกรธและถ้ามันสูงเกินไป, พวกเขาก็จะไม่พอใจ นักผจญภัยนี่เป็นพวกเอาใจยากจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้น, ลีโอก็ยังรู้สึกว่าพวกเขาใช้ชีวิตอย่างอิสระ

 

“ส่วนที่ยากจะมาถึงในเร็วๆนี้แหล่ะ ข้าจะตามสืบองค์กรที่อยู่เบื้องหลังคดีลักพาตัวและมันก็มีวี่แววว่าลอร์ดที่บริหารพื้นที่แห่งนี้จะเกี่ยวข้องด้วย”

 

 

“โฮ่? ทำไมถึงคิดเช่นนั้นหล่ะ?”

 

“ข้าไปเยี่ยมเมืองของลอร์ดคนนั้นก่อนที่จะมาที่นี่และข้าก็เห็นท่าทีที่น่าสงสัยของพวกเขา ตัวลอร์ดเองดูเหมือนจะดูลนๆและมีพวกคนที่น่าสงสัยเคลื่อนไหวอยู่แถวนั้นด้วย ถ้าเขาไม่รู้เรื่องของหมู่บ้านชายแดนและละเลยคำขอของพวกเขาโดยตั้งใจปล่อยผ่านไปจริงๆเขาก็น่าจะแค่ให้การต้อนรับข้าตามปกติก็พอ แต่ลอร์ดคนนี้เหมือนพยายามจะติดต่อใครบางคน แค่การกระทำนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ข้าสงสัย”

 

“เขาอาจจะแค่รู้สึกเกร็งเพราะท่านมาเยี่ยมก็ได้ไม่ใช่หรอ?”

 

“ก็อาจจะใช่แต่ขุนนางทางใต้น่าจะได้รับแจ้งถึงจุดประสงค์การมาของข้าแล้ว ถ้าพวกเขาไม่รู้เรื่องของหมู่บ้านเหล่านี้หรือมันเป็นเพราะการละเลยจากส่วนของพวกเขา, พวกเขาก็น่าจะแสดงความพยายามในเรื่องนี้ให้ข้าเห็นบ้าง อันที่จริง, ลอร์ดคนอื่นๆที่อยู่ใกล้พื้นที่ชายแดนก็เริ่มออกเคลื่อนไหวเพื่อหมู่บ้านผู้ลี้ภัยในพื้นที่ของพวกเขาแต่ลอร์ดที่ตกเป็นที่ต้องสงสัยยังไม่เคลื่อนไหวอะไรเลย”

 

“ข้าคิดว่าท่านแค่แวะระหว่างทางเฉยๆ, นึกไม่ถึงเลยว่าท่านจะสืบไปได้ขนาดนี้แล้ว ท่านนี่เป็นคนที่มีความสามารถเหมือนที่ข่าวลือบอกเลยนะ”

 

“ก็ไม่รู้สินะ เอาจริงๆข้าก็ยังไม่ได้ทำอะไรหรอก”

 

พอพูดจบ, ลีโอก็ก้มหน้าลง

 

นี่คือความรู้สึกที่แท้จริงของลีโอ

 

เทศกาลล่าของอัศวิน, เขาได้ชักนำอัศวินไปกอบกู้เมืองแต่ก็จะให้พิจารณาว่าเป็นคนจบเรื่องก็คงจะไม่ได้ ในฐานะทูตที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเอง, เขาก็ไม่ใช่คนที่ซื้อใจของทั้งสองประเทศแต่เป็นอัลที่ปลอมเป็นลีโอต่างหาก

 

ตั้งแต่เข้าร่วมสงครามผู้สืบทอดมาเขายังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย

 

นี่คือสาเหตุที่เขาจริงจังกับคดีนี้

 

เขาจะยอมให้ตัวเองกลายเป็นคนที่ถูกดันขึ้นเป็นจักรพรรดิไม่ได้ เขาต้องแสดงความตั้งใจที่จะกลายเป็นจักรพรรดิและลงมือทำจริงๆ พวกที่ไม่สามารถลงมือทำได้ด้วยตัวเองนั้นไม่คู่ควรที่จะกลายเป็นจักรพรรดิ

 

ถ้าเขาคลี่คลายคดีนี้ไม่ได้การเป็นจักรพรรดิก็คงจะเป็นแค่เรื่องที่อยู่ในความฝันของเขา

 

คำพูดของเขาออกมาจากความคิดนี้

 

“เอาเถอะ, ถ้าท่านว่าอย่างนั้นก็คงจะเป็นแบบนั้นแหล่ะนะ มันเป็นเรื่องดีที่ท่านไม่อวดดี แต่ถ้าท่านจะรีบคลี่คลายคดีนี้หล่ะก็ระวังให้ดีหล่ะอย่าให้พลาดจุดสำคัญไปซะหล่ะ”

 

“แน่นอนอยู่แล้ว สิ่งแรกที่ข้ากำลังพิจารณาอยู่ก็คือความเป็นอยู่ของหมู่บ้านและคนที่ถูกลักพาตัว”

 

“…..ลินเป็นเด็กใจดี…..เธอน่าจะเป็นคนที่ทุ่มเทหนักที่สุดแต่เธอก็เก็บเงียบเอาไว้และทำเพื่อหมู่บ้าน, เพื่อพวกเรา”

 

“…..ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องพวกนั้นจากลินเฟียเลยแต่ข้าคิดว่าน่าจะมีต้องมีเรื่องเลวร้ายบางอย่างเกิดขึ้นกับเธอ, เธอก็เลยตัดสินใจออกเดินทางจากหมู่บ้านและได้มาเจอพวกเรา”

 

“ค่ะ…..คดีลักพาตัวครั้งแรกสุดคือเด็กสาวอายุสิบเอ็ดปี เด็กคนนั้นเป็นพี่สาวของลินที่มีอายุมากกว่าสามปี ตอนนั้นลินพึ่งจะแค่ห้าขวบ และเด็กคนล่าสุดที่ถูกลักพาตัวไปก็เป็นน้องสาวที่เด็กกว่าเธอหกปี วันนั้นเป็นวันที่ลินนอนหลับอยู่เพราะเธอล้มป่วย……..”

 

“พวกมันลักพาตัวไปทั้งพี่สาวและน้องสาวของเธอเลยสินะ…….”

 

“ในกลุ่มพี่น้อง, ลินเป็นคนเดียวที่ไม่ได้มีตาสองสี ซึ่งก็ต้องขอบคุณเรื่องนั้น, เธอถึงไม่ได้ถูกลักพาตัวไปด้วย โจรลักพาตัวนั้นเล็งเด็กที่มีตาสองสี เมื่อสิบเอ็ดปีก่อนมีคนแคระหลายคนอพยพเข้ามาในจักรวรรดิและการล่ากึ่งมนุษย์กับเด็กที่มีความสามารถพิเศษก็ได้ราคาดี อัตราการเกิดคดีพวกนั้นเริ่มลดลงตั้งแต่ตอนที่จักรพรรดิประกาศกร้าวว่าผู้อพยพทุกคนเป็นประชากรของจักรวรรดิแต่หมู่บ้านของข้าก็ยังคงถูกเพ่งเล็งต่อไป ไม่มีใครเข้ามาช่วยพวกเราเพียงเพราะพวกเราทุกคนเป็นผู้อพยพ

 

หัวหน้าหมู่บ้านพูดแบบนั้นแล้วถอนหายใจออกมา

 

มันไม่ใช่ว่าที่พวกเขาเป็นผู้อพยพเพราะพวกเขาเลือกที่จะเป็น

 

พวกที่อพยพมาจักรวรรดินั้นคือคนที่สูญเสียบ้านของตัวเองให้กับความขัดแย้งทางใต้ในยุคสงครามหรือไม่ก็พวกที่ได้รับความบอบช้ำจากการกดขี่กึ่งมนุษย์ของจักรวรรดิโซคัลที่ขับไล่กึ่งมนุษย์ทั้งหมดออกจากประเทศของพวกเขา

 

จักวรรดิใจกว้างกับผู้อพยพแต่นี่ก็เพื่อรวมกึ่งมนุษย์ที่มีความสามารถมาอยู่ฝั่งพวกเขา, ถึงยังไงจักวรรดิก็ดำเนินต่อไปไม่ได้ถ้ามีแค่มนุษย์อย่างเดียว กึ่งมนุษย์ที่มีทักษะพิเศษนั้นมีประโยชน์ในหลายๆสถานที่แต่พวกที่ไม่ได้มีทักษะแบบนั้นก็ยังต้องใช้ชีวิตภายใต้การถูกเลือกปฏิบัติอยู่ดี

 

เมื่อสิบเอ็ดปีก่อน, พวกเขาถูกปฏิบัติเหมือนกับว่าพวกเขาไม่มีตัวตนอยู่ อย่างไรก็ตาม, เพราะคำประกาศของจักรพรรดิ, สถานการณ์ของพวกเขาจึงเริ่มเปลี่ยนไป

 

ผู้อพยพมีความสุขกับการเปลี่ยนแปลงนี้แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนไป

 

ในช่วงที่จักรพรรดิประกาศออกมานั้น, ผู้อพยพที่ได้รับการยอมรับเป็นประชาชนของจักรวรรดิจะได้รับการยกเว้นภาษีเป็นเวลาห้าปี มันคือภาระสำหรับลอร์ดแต่ในความเป็นจริง, ผู้อพยพในตอนนั้นก็จ่ายภาษีไม่ไหวอยู่แล้ว นี่คือสาเหตุที่พวกเขาได้รับเวลาห้าปีเพื่อก่อตั้งสังคม, เริ่มการค้าขาย, หรือปรับปรุงดินแดน นี่คือคำสั่งของจักรพรรดิแต่ลอร์ดบางคนก็ตั้งใจมองข้ามมัน

 

ถึงยังไงเรื่องพวกนี้ก็ไม่ได้ทำประโยชน์ให้พวกเขาอยู่แล้ว

 

ลีโอเข้าใจตรงจุดนี้ดี เขาคิดว่าถ้ามันเป็นแบบนั้นก็ยังพอมีพื้นที่ให้อภัยพวกเขาอยู่ เพราะมุมมองของพวกลอร์ดเองก็ฟังดูมีเหตุผล

 

อย่างไรก็ตาม, ครั้งนี้มันไม่ใช่แบบนั้น

 

หมู่บ้านแห่งนี้มีความพิเศษอยู่ คนที่มีดวงตาสองสีมักจะเกิดที่นี่, และที่นี่ก็ยังให้กำเนิดคนที่มีความสามารถอย่างลินเฟีย, และมีนักล่าเก่งๆอีกหลายคนในหมู่บ้านแห่งนี้ ถ้าพวกเขารวมเข้ากับอาณาเขตของลอร์ดท้องถิ่น, พวกเขาก็จะสร้างผลประโยชน์ให้ลอร์ดคนนั้นได้อย่างมากมายเป็นแน่แท้ และถึงยังไงมันก็คือสิ่งที่สามารถพบได้ในทันทีถ้าพวกเขาทำการสืบค้น

 

อย่างไรก็ตาม

 

ถ้าพวกเขาทำแบบนั้น, การมีอยู่ของหมู่บ้านนี้ก็จะรู้ไปถึงส่วนกลางของจักรวรรดิ พวกเขาต้องมีอะไรบางอย่างที่พวกเขาอยากซ่อนเอาไว้ในที่แห่งนี้แน่ๆ

 

“นี่คือเหตุผลที่ลินเฟียมาหาพวกเรา การละเลยเรื่องนี้มาจนถึงตอนนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของพวกเราซึ่งอยู่ส่วนกลางของจักรวรรดิ ได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วยนะครับ”

 

“ม, ไม่หรอกค่ะ! ไม่มีปัญหาเลย! ได้โปรดอย่าพูดแบบนั้นเลยนะคะ! แล้วก็ช่วยเงยหน้าขึ้นเถอะค่ะ!”

 

“ไม่ว่าข้าจะขอโทษยังไง, มันก็คงไม่เพียงพอที่จะรักษาบาดแผลของท่าน…… ข้าให้สัญญาไม่ได้ว่าข้าสามารถพาทุกคนกลับมาบ้านได้แต่ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อค้นหาชาวบ้านทุกคนที่ถูกลักพาตัว, ข้าจะเอาพวกคนบาปทั้งหมดมาเปิดโปง และจักรพรรดิจะเป็นคนให้คำตัดสินที่ยุติธรรมกับพวกเจ้าทุกคน”

 

“ขอบคุณมากเลยค่ะ…..! ขอบคุณจริงๆ….!”

 

หัวหน้าหมู่บ้านก้มหัวขอบคุณเขาซ้ำไปซ้ำมา

 

การพูดคุยกันของพวกเขาจบลงไปด้วยประการฉะนี้และลีโอก็ออกไปด้วยกันกับอาเบล

 

“ที่พูดนั่นเอาจริงหรอ, ข้าคิดว่ามันคงไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกนะ”

 

“ข้าเองก็คิดแบบนั้น”

 

“จากท่าทีและอุปกรณ์ของพวกมัน, คนที่แอบซุ่มอยู่ในหมู่บ้านนี้เป็นมืออาชีพ ข้าคิดว่าพวกโจรทั่วๆไปก็ทำการลักพาตัวแบบนี้อยู่เหมือนกันแต่ข้าไม่เคยเห็นกลุ่มที่จริงจังเหมือนไอ้พวกนี้มาก่อนเลย พวกมันทำธุรกิจที่นี่อย่างครบครัน”

 

“เข้าใจหล่ะ แบบนี้ก็แสดงว่าองค์กรที่หนุนหลังพวกมันอยู่คงไม่ใช่เล่นๆแน่ ลอร์ดที่ปกครองพื้นที่นี้ไม่ได้มีอิทธิพลขนาดนั้น บางที, ตัวลอร์ดเองก็อาจจะเป็นแค่เบี้ยเหมือนกัน”

 

“มีความเป็นไปได้ด้วยนะว่าลอร์ดทางใต้ทุกคนจะเกี่ยวข้องกับคดีนี้ ถ้าท่านจัดการเรื่องนี้ได้ไม่ดีมันอาจจะกลายเป็นชนวนกบฎก็ได้นะรู้รึเปล่า?”

 

“ฟังดูเป็นปัญหาใหญ่จังเลยนะ”

 

พอพูดจบ, ลีโอก็หัวเราะแห้ง

 

ปัญหาชายแดนใต้คือโอกาสที่เหมาะสมที่สุดในการที่เขาจะชนะใจจักรพรรดิแต่ถ้าขุนนางทางใต้ก่อกบฎขึ้นมา, ความรับผิดชอบทั้งหมดก็อาจจะถูกย้ายมาที่ลีโอ

 

นี่คือภารกิจที่อันตราย

 

มันคือการสืบสวนพวกเขาโดยไม่ขุดให้ลึกจนเกินไปและรวบตัวพวกเขา

 

นี่คือกลยุทธ์ที่เหมาะสม

 

อย่างไรก็ตาม,

 

“แต่พอมาฟังเรื่องจากปากของพวกเขาแล้ว, ข้าก็รู้สึกอยากจะช่วยพวกเขาจริงๆ เจ้าคิดว่าคนที่ไม่สามารถช่วยพวกที่เขาอยากช่วยได้จะกลายเป็นจักรพรรดิได้รึเปล่า?”

 

“ข้าไม่รู้เรื่องนั้นหรอก แต่ถ้าข้าต้องเลือกคนที่จะมาเป็นจักรพรรดิของข้า, ข้าคิดว่าข้าก็คงอยากได้คนที่ทำแบบนั้นได้หล่ะนะ”

 

“นั่นสินะ นี่คือเหตุผลที่ข้ามาที่นี่ ขอโทษนะแต่ในเมื่อเจ้าได้รับเงินเยอะขนาดนั้น, ข้าก็คงต้องขอให้เจ้าทำงานให้คุ้มเงินหน่อยหล่ะโอเคไหม?”

 

“ได้เลยได้เลย, ตามประสงค์เลยครับ…..”

 

สัญชาตญาณนักผจญภัยของเขาบอกว่าเขาพึ่งจะรับคำขอที่โหดร้ายมาซะแล้ว

 

แต่ในเมื่อเขารับเงินมาแล้ว, ในฐานะนักผจญภัย, เขาก็คงไม่สามารถบอกปัดคำขอที่เขารับมาแล้วได้

 

ไม่มีอะไรที่อาเบลทำได้นอกจากยักไหล่และขานรับลีโอ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด