การต่อสู้ชิงบัลลังก์ในเงามืดของเจ้าชายไร้ค่าสุดแกร่ง (Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi ) 93

Now you are reading การต่อสู้ชิงบัลลังก์ในเงามืดของเจ้าชายไร้ค่าสุดแกร่ง (Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi ) Chapter 93 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ที่เมืองชั้นนอกสุดของเมืองหลวงจักรวรรดิ

 

ฉันมาเยี่ยมที่โรงฝึกของไกด้วยกันกับฟีเน่

 

“ไง, ไก”

 

“อ้าว, อัล ท่านฟีเน่ด้วย, เข้ามาเลยครับ! เชิญเข้ามาเลย!”

 

การดูแลให้การต้อนรับของเขานั้นผิดปกติมากจนแก้มของฉันกระตูกในขณะที่เดินเข้าไปข้างในโรงฝึก

 

วันนี้ไม่มีเด็กอยู่ข้างในโรงฝึกเลย

 

“วันหยยุดหรอ?”

 

“เฮ้อ, ก่อนหน้านี้ข้าได้สอนเด็กไปไม่กี่คนแต่พวกเขาเลิกไปตั้งแต่ช่วงสายๆแล้ว”

 

“ทำไมหล่ะ?”

 

“ช่วงนี้, มีคนเล่นเป็นโจรใจบุญแล้วเอาของมาแจกเยอะแยะ ก็นะ, มันก็ไม่ได้แย่อะไรหรอกแต่ตอนนี้มีคนไม่ดีกำลังมองหาโจรคนนั้นอยู่หน่ะสิข้าก็เลยให้พวกเด็กๆรีบกลับบ้าน ถึงยังไงข้างนอกมันก็อันตรายหล่ะนะ”

 

“เข้าใจหล่ะ ถ้าแบบนั้นก็ไม่เป็นไร พวกเรามาที่นี่เพื่อตามหาโจรใจบุญที่ว่าเนี่ยแหล่ะ พอมีเบาะแสไหมว่าเขาอยู่ที่ไหน?”

 

“ไม่อะ, ไม่มีเลย”

 

ไกพูดในขณะที่หลบตา

 

เขารู้อะไรบางอย่างจริงๆสินะ

 

ด้วยการถอยหายใจออกมาเบาๆ, ฉันก็เล่าแผนการลับของเราให้ไกฟัง

 

“เมื่อคืนเซบาสไปเอาหลักฐานการกระทำผิดจากพวกพ่อค้านิสัยไม่ดีมาได้และพวกเราก็ได้ส่งมันให้กับการ์ดเมืองแล้ว พวกนั้นจะถูกจับกุมในเร็วๆนี้แต่คนต่อไปก็คือตาของโจรคนนั้น การขโมยยังไงก็เป็นการขโมยอยู่ดีไม่ว่าจะขโมยมาจากใครก็ตาม ถ้าเขาไม่มีคนคุ้มครองหล่ะก็เขาโดนจับแน่ๆ”

 

“…..เจ้าไม่ได้จะมาจับเขาใช่ไหม?”

 

“ข้าดูเป็นคนซื่อตรงขนาดนั้นเลยรึไง?”

 

“ก็นะ, ไม่เลยซักนิด”

 

ในตอนที่พูดออกมาแบบนั้นไกก็ยื่นมือออกมาแล้วนั่งลงในท่าขัดสมาท

 

จากนั้นหลังจากที่พึมพำอะไรบางอย่างอยู่ซักพัก, เขาก็หันมามองฉัน

 

“ในช่วงที่เจ้ากับลีโออยู่นอกเมืองหลวงจักรวรรดิ, พวกพ่อค้าขี้โกงก็เริ่มรังแกชาวเมืองชั้นนอกสุด, แล้วขโมยของต่างๆไปมากมาย พวกมันน่าจะมีความคิดที่จะชิงความเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆในระหว่างที่พ่อค้ารายใหญ่ทุกคนกำลังแข่งขันกันในสงครามผู้สืบทอด เพราะแบบนี้แหล่ะโจรผู้นี้ก็เลยไม่เลือกวิธีการแล้วจัดการกับเจ้าพวกนั้นเพื่อเอาของและเงินทั้งหมดที่พรากไปจากพวกเรากลับคืนมา สำหรับชาวเมืองชั้นนอกสุด, เขาก็คือผู้กล้านั่นแหล่ะ”

 

“ข้าเข้าใจ พวกเราไม่ได้คิดจะทำอะไรไม่ดีกับเขาหรอก”

 

“ท่านอัลแค่มีเรื่องที่อยากจะให้คนๆนั้นช่วยหน่ะค่ะ ช่วยบอกพวกเราเถอะนะคะว่าจะไปเจอเขาได้ที่ไหน พ่อจะรู้อะไรบ้างไหมคะ?”

 

“……ข้าก็ไม่รู้ละเอียดหรอกแต่มีที่นึงที่น่าจะเป็นไปได้”

 

“ที่ไหน?”

 

“มันมีบ้านร้างอยู่หลังนึง, ช่วงนี้พวกเด็กๆเริ่มเอาอาหารไปให้ที่นั่น”

 

“งั้นหรอ ช่วยพาข้าไปที่บ้านหลังนั้นได้ไหม?”

 

“ก็ได้อยู่หรอกแต่ชาวเมืองชั้นนอกสุดกำลังปกป้องเขาอยู่ ถ้าไม่ระวังให้ดีคนที่นี่อาจจะก่อม็อบก็ได้นะ, รู้อยู่ใช่ไหม?”

 

“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก”

 

ในขณะที่พูด, ฉันก็มองฟีเน่

 

เมื่อเห็นแบบนี้, ฟีเน่ก็พยักหน้าตอบอย่างกระตือรือร้น

 

ไกที่ไม่เข้าใจว่าพวกเราจะทำอะไรนั่งอึ้งแต่พวกเราก็ไม่ได้บอกอะไร

 

“ทุกคนคะ! พวกเราเอามาเยอะเพราะฉะนั้นไม่ต้องเบียดกันเข้ามานะคะ!!”

 

ฟีเน่พูดในขณะที่ยืนอยู่ข้างหน้าชาวเมืองชั้นนอกสุดด้วยชุดผ้ากันเปื้อน

 

มีพนักงานกับการ์ดของบริษัทอะจินยืนล้อมรอบเธอ แล้วก็มีอัศวินจำนวนนึงคอยยืนคุ้มกันอยู่ใกล้ๆด้วย

 

“เจ้าแจกจ่ายอาหารเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้คนสินะ แล้วก็ทำได้สำเร็จด้วยการใช้เจ้าหญิงนกนางนวลสีน้ำเงินด้วย”

 

“ตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้หรอก”

 

“หืม? จะจริงรึ?”

 

“นี่เป็นการชดเชยให้พวกเขา พวกพ่อค้าขี้โกงได้ทำการลักขโมยและคุกคามคนจนของเมืองหลวงจักรวรรดิ, ด้วยการพรากงานและของมีค่าไปจากพวกเขา ตอนนี้พวกเรารู้สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นแล้ว, พวกเราก็เลยตั้งใจจะชดเชยให้พวกเขา”

 

“ไม่ใช่ประเทศชดเชยแต่เป็นพวกเจ้าไม่ใช่รึไง?”

 

“วางใจเถอะหน่า บริษัทไอจินเป็นคนออกเงินทั้งหมด นี่ถือเป็นการโฆษณาสำหรับพวกเขาและมันก็ยังช่วยเผยแผ่ความใจดีของลีโอด้วย มันเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็น  เอาจริงๆ, ถ้าเจ้าจะเอาเรื่องแบบนี้ไปปรึกษาที่ปราสาทก็ได้นะแต่มันคงต้องใช้เวลาก่อนที่พวกเขาจะเคลื่อนไหวได้”

 

“อย่างนี้นี่เอง ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่ายสินะ”

 

ในตอนที่พูดออกมาเช่นนี้, ฉันกับไกก็มุ่งหน้าไปที่บ้านร้าง, ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ในวันนี้ของพวกเรา

 

หลังจากที่เดินไปได้ซักพัก, บ้านไม้โทรมๆก็เข้ามาในทัศนวิสัย

 

“ข้าจะเข้าไปก่อน”

 

“ระวังด้วยหล่ะ เขาเป็นคนที่สู้กับเอลน่าได้อย่างสูสีเชียวนะ ไม่สิช่างมันเถอะ, ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อเริ่มการต่อสู้กับเขาซักหน่อย”

 

เพื่อไม่ให้ทำให้เขาตื่นตระหนก, ที่นี่จึงมีแค่ฉันกับไก

 

เอลน่าคงบอกว่าข้าเตรียมการมาดีแล้วแต่ถ้าพวกเราทำให้เขาระวังพวกเราขึ้นมาทุกอย่างก็อาจจะสูญเปล่าได้

 

ยิ่งไปกว่านั้น, ฉันมั่นใจว่าพวกเราจะไม่เป็นอะไร

 

“ดูเหมือนเขาจะไม่อยู่นะ”

 

“ไม่อยู่หรอ?”

 

พอได้ยินไก, ฉันก็เข้ามาในบ้าน

 

ที่แห่งนี้ดูเหมือนมีคนอาศัยอยู่จริงๆและมันก็ไม่ผิดที่จะบอกว่าไม่มีคนอยู่ที่นี่ เพราะที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ไม่ใช่มนุษย์มาตั้งแต่แรกแล้ว

 

แต่ว่า, อย่างไรก็ตาม

 

“……”

 

“…….”

 

มีตุ๊กตาหมีตัวเล็กๆนั่งอยู่บนชั้นวางของ

 

ขนสีน้ำตาลและดวงตากลมโต, ไม่ว่าจะมองยังไง, นี่ก็ดูเหมือนตุ๊กตาสัตว์จริงๆ

 

อย่างไรก็ตาม, สิ่งที่เป็นไปไม่ได้เมื่อวานนี้สามารถเป็นไปได้ในวันนี้

 

ฉันเริ่มพูดคุยกับโจร

 

“โดนจับได้เต็มๆเลยนะเลิกทำแบบนี้เถอะ”

 

“…….”

 

“หืม? นี่เจ้าคิดจะแกล้งทำตัวเป็นตุ๊กตาหมีไปเรื่อยๆจริงหรอ?”

 

“น, นี่……..อัล เจ้าไม่เป็นไรนะ? ไหงจู่ๆถึงไปเริ่มคุยกับตุ๊กตาแบบนั้น”

 

ด้วยเหตุผลบางประการ, ไกมองฉันด้วยสายตาแปลกๆ

 

ถ้าเขาไม่เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ก็แสดงว่าเจ้าบ้านี่โง่ใช้ได้เลยหล่ะ

 

“ช่วยเงียบซักพักนึงได้ไหม?”

 

“เอ๊ะ? อา, ได้…..เจ้าแค่อยากคุยกับมันใช่ไหม……”

 

นี่เขากำลังเข้าใจผิดอยู่ใช่ไหม? เอาเถอะ, เอาที่สบายใจแล้วกัน ถึงยังไงตอนฉันรู้ฉันก็รู้สึกประหลาดใจจริงๆ

 

ฉันมองไปรอบๆห้อง ถ้าเจ้านี่คิดจะแกล้งทำตัวเป็นตุ๊กตาฉันก็มีวิธีจัดการอยู่เหมือนกัน

 

“ดูเหมือนว่าเจ้ากำลังเตรียมอาหารกลางวันอยู่สินะ น่าเสียดายข้าว่าข้าขอกินของพวกนี้แทนเจ้าก็แล้วกัน”

 

ฉันคว้าขนมปังชิ้นนึงที่อยู่ทางซ้ายของโต๊ะแล้วกัดมันโชว์ต่อหน้าเขา

 

แม้ว่ามันจะไม่ใช่ขนมปังคุณภาพสูง, แต่การกินให้คนอื่นดูก็ยังคงทำให้มันดูน่าอร่อยมาก

 

ฉันรู้สึกว่าสีหน้าของหมีตัวเล็กๆเปลี่ยนไปเล็กน้อย นี่เขาโกรธกับเรื่องแค่นี้หรอเนี่ย เอาเถอะ, กดดันเขาอีกซักหน่อยแล้วกัน

 

“มาแนะนำตัวกันซักหน่อยไหม ข้าชื่ออัล อาร์โนลด์ เลคส์ แอดเลอร์ เจ้าชายลำดับแปดของประเทศนี้ ข้าแกล้งปลอมตัวเป็นเหยื่อล่อเพื่อจับเจ้าเมื่อวาน”

 

“อ, อัล…..เจ้าไม่เป็นอะไรแน่นะ?”

 

“น่ารำคาญจริง, เงียบไปก่อนเถอะหน่า”

 

“……ก็ได้ ถึงยังไงการแนะนำตัวก็ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเรื่องแบบนี้จริงๆหล่ะนะ”

 

ไกมองมาที่ฉัน, สายตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสาร

 

ไอ้หมอนี่, จริงๆเลย…..

 

ฉันเกือบจะเอาอาหารมากินโชว์ต่อหน้าไกแทนแต่น่าเสียดาย, เป้าหมายของฉันในตอนนี้ไม่ใช่เขา

 

ฉันหันกลับไปมองเจ้าหมีต่อ

 

“คนไม่ดีที่เจ้าจัดการด้วยได้ถูกจับกุมแล้ว ถ้าสืบสวนเรื่องนี้ต่อไปอีกรายถัดไปก็คือเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะขโมยมาจากใคร, แต่ขโมยก็ยังถือว่าเป็นขโมยวันยังค่ำ หรือจะพูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ, ข้ามาที่นี่เพื่อเชื้อเชิญเจ้า มาร่วมมือกับข้าสิ ถ้าทำแบบนั้นเจ้าจะอยู่ภายใต้การคุ้มครองของข้า

 

“อ๋อ,เข้าใจหล่ะ เจ้ากำลังฝึกสิ่งที่จะเอามาพูดกับโจรคนนั้นสินะ ขอโทษที, ข้าคิดว่าเจ้าเพี้ยนไปแล้วก็เลยเริ่มรู้สึกสงสารเจ้า”

 

“เงียบเถอะหน่า ข้ากำลังพูดกับเจ้านี่อยู่”

 

“ขอโทษที…..อืม, ขอโทษจริงๆนะ…..”

 

ฉันไม่สนใจไกที่กำลังมองฉันราวกับว่าฉันหมดทางเยียวยาแล้วและพุ่งความสนใจไปที่หมี

 

คนๆนี้เป็นคนที่บุกโจมตีพวกเราเมื่อวานนี้อย่างไม่ต้องสงสัย มันคงจะยอดเยี่ยมไปเลยถ้าเขาสนใจข้อเสนอของฉันแต่มันยังไม่มีการเคลื่อนไหวจากเขาเลย

 

ฉันไม่เคยได้ยินว่ามีกึ่งมนุษย์ที่ดูเหมือนหมีพูดได้มาก่อนดังนั้นต้องมีเหตุผลอยู่เบื้องหลังรูปลักษณ์ของเขาในตอนนี้แน่ และอาจจะเป็นเหตุผลที่เขาระวังตัวถึงขนาดนี้ด้วย

 

ฉันต้องหาวิธีซื้อใจเขาให้ได้สินะ

 

แล้วฉันควรจะทำยังไงดีหล่ะ? ฉันจะทำให้เขายอมเปิดใจกับฉันได้ยังไง?

 

ในขณะที่กำลังคิดหาวิธีอย่างหนัก, ประตูก็เปิดออก

 

จากนั้น, ฟีเน่ก็โผล่มา

 

“ท่านอัล, ท่านไก คุณโจรอยู่ที่นี่ไหมคะ?”

 

“ไม่อะ, ดูเหมือนตอนนี้เขาจะไม่อยู่นะ”

 

ฉันถูกเบี่ยงเบนความสนใจไปช่วงสั้นๆในระหว่างที่ฟีเน่กับไกกำลังพูดคุยกัน

 

และในตอนที่ฉันหันกลับมามองเจ้าหมีนั้นเอง, เขาก็หายไปจากชั้นวางแล้ว

 

ซวยหล่ะ!? เขาฉวยโอกาสหนีในตอนที่ฟีเน่เปิดประตู!!

 

ฉันคิดแบบนั้น, แต่ในตอนที่ฉันหันไปมองฟีเน่

 

ก็มีภาพที่คาดไม่ถึงอยู่ตรงนั้น

 

“สวัสดีครับ, คุณผู้หญิงผู้เลอโฉม……การที่เราได้มาพบกันวันนี้ต้องเป็นเพราะโชคชะตาแน่ๆ ช่วยบอกชื่อของท่านให้ข้าทราบจะได้ไหมครับ?”

 

“อ้ะ, เป็นคุณหมีที่น่ารักจังเลย ข้าชื่อฟีเน่ ฟ็อน ไคลเนลต์ค่ะ”

 

ฟีเน่บอกชื่อของเธอด้วยรอยยิ้มสดใส

 

แต่ปฏิกิริยาแบบนี้มันไม่แปลกไปหน่อยหรอ?

 

หรือว่าปกติแล้ว,

 

“ม, หมีพึ่งจะพูดออกมาอย่างงั้นหรอ!?”

 

“ข้าก็บอกแล้ว เจ้านี่แหล่ะโจรที่ว่า”

 

“เป็นเรื่องจริงหรอเนี่ย…..ขอโทษนะ, ข้ากำลังคิดจะไปปรึกษากับลีโออยู่เลยว่าพวกเราจะทำอะไรเพื่อเจ้าได้บ้างไหม”

 

“เจ้านี่จริงๆเลย……เอาเถอะ ตอนนี้ข้ามีธุระกับเจ้านี่”

 

“แล้วท่านชื่ออะไรคะ?”

 

“ข้ามีชื่อว่าซิกมันด์ ไอส์เลอร์ เพื่อของข้าเรียกกันว่าซิก เพราะฉะนั้นโปรดเรียกข้าว่าซิกเถอะนะครับ, ท่านฟีเน่”

 

หลังจากได้ฟังชื่อของเขา, สีหน้าของฉันกับไกก็เปลี่ยนไป

 

พวกเราสองคนมองหน้ากัน การที่พวกเราตอบสนองพร้อมกันแบบนี้, แสดงว่านี่ไม่ใช่การเข้าใจผิด

 

“มีนักผจญภัยแรงค์ S ที่ใช้ชื่อเดียวกันอยู่ใช่ไหม?”

 

“อา, ในบรรดานักผจญภัยในทวีปของเรา, ซิกมันด์เป็นที่รู้จักในฐานะมือหอกที่แข็งแกร่งที่สุด”

 

“หืม? รู้จักข้าในฐานะนักผจญภัยงั้นรึ ถ้าเจ้ารู้ว่าข้าทำอะไรได้ก็รีบๆไสหัวไปซะ ข้ามีเรื่องจะคุยกับคุณผู้หญิงผู้งดงามคนนี้”

 

ซิกพูดออกมาเช่นนั้นแล้วหันไปหาฟีเน่ด้วยรอยยิ้ม

 

ฉันเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเขามาก่อน การแทงของเขานั้นถูกขนานนามว่าเร็วขั้นเทพและเป็นที่รู้กันว่าไม่สามารถหลบได้ เขาเป็นนักรบที่ถูกรู้จักในฐานะคนที่แข็งแกร่งมากๆในการต่อสู้ระยะประชิด

 

ถ้านับแค่ทักษะ, เขาคืออันดับท็อปห้าในบรรดานักผจญภัยที่มีทักษะมากที่สุด

 

แต่ว่า, ยังมีอีกข่าวลือเกี่ยวกับเขา

 

“ข้าได้ยินมาว่าซิกมันด์เป็นเสือผู้หญิงตัวพ่อและมีชื่อเสียงในเรื่องชอบควงผู้หญิงพร้อมกันหลายคน แต่ว่า, เมื่อประมาณหกเดือนก่อน, ซิกมันด์ก็หายตัวไป ยิ่งไปกว่านั้น, เขาน่าจะเป็นมนุษย์ไม่ใช่หรอ…….?”

 

“คงจะเกี่ยวข้องกับเรื่องผู้หญิงหล่ะมั้ง”

 

แน่นอนว่า, มนุษย์ไม่สามารถกลายเป็นหมีได้

 

ถ้าเจ้านี่เป็นตัวจริงเขาก็น่าจะเปลี่ยนตัวเองด้วยเวทมนตร์หรือยาบางอย่าง แต่ฉันคิดว่าเขาคงไม่สามารถเปลี่ยนกลับร่างเดิมได้ตามความต้องการของตัวเอง บางทีอาจจะมีอะไรซักอย่างเกี่ยวกับเรื่องผู้หญิงก็ได้

 

ในขณะที่ทำการคาดเดาอยู่, ฉันก็เหยียบซีกที่พยายามจะเข้าไปกอดฟีเน่เอาไว้

 

“อั้ก!?”

 

“นี่, เจ้าเสือผู้หญิง ตอบคำถามของข้ามา”

 

“เจ้าทำอะไรข้า, ไอ้หนู!? นี่เจ้าตำช้าถึงขนาดเหยียบหมีตัวเล็กน่ารักอย่างข้าโดยไม่มีความปราณีเลยงั้นรึ?

 

“แต่เดิมแล้วเจ้าเป็นมนุษย์ไม่ใช่รึไง”

 

“ได้ยินไหมครับ!? ท่านฟีเน่! ไอ้หมอนี่มันกำลังรังแกข้า~”

 

เขาพูดออกมาเช่นนั้นแล้วพยายามเข้าไปกอดฟีเน่อีกแต่ฉันก็เอาปลอกคอที่เตรียมมาไปคล้องคอซีกเอาไว้

 

มันคือหนึ่งในของล้ำค่าของท่านทวด มันไม่สามารถถอดออกได้เว้นเสียแต่ว่ามีกุญแจที่ฉันมี

 

“นี่มันอะไรกันเนี่ย? เจ้าพยายามจะทำลายความน่ารักของข้าหรอ!? เอาไอ้เจ้าสิ่งนี้ออกไปจากข้านะ!!”

 

“มันเป็นอุปกรณ์เวทมนตร์ เจ้าถอดมันไม่ออกหรอกถ้าไม่ใช้กุญแจพิเศษ เอาจริงๆข้าก็ไม่อยากใช้หรอกนะแต่เจ้าทำให้ข้าไม่มีทางเลือก”

 

“หา! อะไรหล่ะนั่น! มันเป็นความล้มเหลวของเจ้าต่างหากหล่ะที่ไม่ยอมล่ามโซ่กับเจ้าสิ่งนี้ด้วย ข้าสามารถวิ่งหนีไปพร้อมกับมันได้อยู่แล้ว!”

 

พอพูดจบ, ซีกก็พยายามหนีออกไปข้างนอก

 

แม้ว่าจะเป็นลูกหมี, แต่การเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วด้วยสองเท้าของเขานั้นเหลือเชื่อจริงๆ

 

ยิ่งไปกว่านั้น, เขาค่อนข้างเร็วด้วย ร่างของเขาค่อยๆห่างออกไปไกล

 

“แล้ว? อุปกรณ์เวทมนตร์นี้มีผลยังไงหล่ะ?”

 

“รอดูไปเดี๋ยวก็เข้าใจเอง”

 

ในขณะที่มองซีกซึ่งกำลังหนีด้วยสองเท้าของเขา, ตอนนี้เขาก็เริ่มเปลี่ยนเป็นวิ่งด้วยสี่เท้าที่มีแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น, การเคลื่อนไหวของเขาก็ช้าลงไปเรื่อยๆจนเข้าขั้นคลาน

 

แม้ว่ามันจะดูน่าขบขันจากมุมมองของคนอื่น, แต่นี่คือพลังของปลอกคอนี้ ยิ่งห่างจากผู้ถือกุญแจไปไกลเท่าไหร่, ร่างกายก็จะยิ่งหนักขึ้นเท่านั้น

 

หลังจากรอไปได้ซักพัก, ซีกก็เดินไหล่ตกกลับมา

 

“ตอนนี้จะยอมร่วมมือกับพวกเราแล้วใช่ไหม? แถมมันก็ดีกว่าถูกจับไม่ใช่รึไง?”

 

“ครับ…..ช่วยอนุญาตให้ข้าได้ร่วมมือกับท่านด้วยเถอะ…..”

 

“แต่ท่านอัลคะ ถ้าให้สวมปลอกคอนี้เอาไว้มันจะไม่สะดวกถ้าให้เขาไปตามหาคนให้พวกเราไม่ใช่หรอคะ? ยิ่งไปกว่านั้น, เขาก็ดูน่าสงสารยังไงไม่รู้สิ”

 

“คนถือกุญแจสามารถปรับแต่งน้ำหนักได้ แล้วเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องไปสงสารหรอก ไอ้หมอนี่มันไม่ได้เป็นคนดีขนาดนั้น”

 

“ทำไมหล่ะคะ!? ตอนนี้เขาอาจจะมีร่างกายแบบนี้แต่เขาก็ทำเพื่อชาวเมืองชั้นนอกอย่างเต็มที่นะคะ!”

 

“นั่นสินะ ถ้างั้นบอกข้ามา, ไอ้นั่นคืออะไรกัน?”

 

ฉันชี้ไปยังของที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าที่อยู่ตรงมุมห้อง

 

ฉันรู้ตั้งแต่ก่อนมาที่นี่แล้ว

 

ของที่เจ้านี่ขโมยมานั้นถูกนำกลับมาให้ชาวเมืองชั้นนอกทุกคนแต่เขาได้ขโมยเงินมาจากพ่อค้าและจำนวนของที่ส่งกลับคืนก็ไม่ตรงกับจำนวนที่เขาขโมยมาด้วย

 

ฉันดึงผ้าออก

 

ที่นั่น, มีเงินจำนวนมากถูกซ่อนเอาไว้ข้างใต้

 

“ถ้าพยายามจะช่วยผู้คนจริงๆก็ควรจะคืนเงินทั้งหมดให้กับเหยื่อไม่ใช่หรอ?”

 

“ก็นะ…….สำหรับเรื่องนี้ การเป็นผู้ผดุงความยุติธรรมแบบฟรีๆมันก็ต้องมีบ้าง……”

 

ฉันมองซีกที่กำลังหลบตาในขณะที่พูดออกมาเช่นนี้

 

ด้วยกันกับไก, ฉันได้ยึดเงินคืนมาทั้งหมด

 

จากนั้น, ซีกก็เข้ามาเกาะขาของฉัน

 

“ยกโทษให้ข้าเถอะ! ข้าจะใช้เงินนี้เพื่อขอให้เจ้าหญิงของประเทศนี้ทำลายคำสาปให้ข้า! ไหว้หล่ะนะ~คิดว่าช่วยคนแก่ก็ได้!”

 

“เจ้าหญิงที่ว่า, หมายถึงซานดร้าหรอ?”

 

“ใช่, ใช่ เจ้าหญิงผมสีเขียวที่แผ่กลิ่นอายที่ทำให้รู้สึกไม่ดีออกมา”

 

“ถ้างั้นก็ตัดใจซะเถอะ เธอชอบศึกษาเวทมนตร์ต้องห้ามจริงๆแต่เธอไม่ช่วยคนหรอกนะ เธอจะใช้การรักษาเป็นข้ออ้างเพื่อทดลองเจ้า”

 

“อย่าพูดเรื่องน่ากลัวแบบนั้นสิ……แต่ว่า, เจ้ารู้เรื่องดีนี่ เจ้าเป็นเจ้าชายจริงๆหรอ?”

 

“อา, ใช่ ก่อนหน้านี้ก็แนะนำตัวไปแล้วไม่ใช่หรอ?”

 

“ก็นะ, คือเจ้าไม่มีกลิ่นอายที่ทำให้รู้สึกแบบนั้นเลยซักนิดข้าก็เลยคิดว่า, ไม่อะ, ไม่มีทางหรอก”

 

ด้วยเหตุผลบางประการ,

 

แม้ว่าฉันจะเคยชินกับเรื่องพวกนี้แล้ว, แต่พอออกมาจากปากของเจ้านี่, มันชวนให้รู้สึกหงุดหงิดอยากบอกไม่ถูก

 

ด้วยความคิดนี้เอง, ฉันก็อุ้มซีกขึ้นมา

 

ฮื่ม, แบบนี้ก็ดูค่อนข้างน่ากอดอยู่ไม่ใช่หรอ?

 

“หยุดเลยนะ! ข้าไม่มีงานอดิเรกถูกผู้ชายกอด!”

 

“ก็ช่วยไม่ได้นี่ มันจะดูแปลกเอาได้ถ้าคนเห็นลูกหมีเดินไปทั่วในขณะที่สวมปลอกคอเพราะฉะนั้นช่วยแกล้งเป็นตุ๊กตาซักพักนึงละกัน พวกเราจะไปคุยรายละเอียดกันที่ปราสาท

 

“ไม่!! อ้ะ! ท่านฟีเน่! ถ้าท่านลูบข้าแบบนั้นหล่ะ—ก็!!”

 

“นุ่มนิ่มจังเลย”

 

“โอ๊ะ! ขนนี่ให้ความรู้สึกดีจริงๆ”

 

“หยุดเลยนะ! ผู้ชายไม่ควรสัมผัสข้าแบบนั้น! ข้าสงวนเอาไว้ให้ผู้หญิงน่ารักๆเท่านั้น! หยุ—!”

 

หลังจากที่ฟีเน่กับไกลูบเขาไปทั่ว, ฉันก็อุ้มซีกที่หมดสภาพกลับไป

 

ความรู้สึกที่สัมผัสได้จากขนของเขานั้นฟินมากๆ ในขณะที่กำลังตัดสินใจว่าจะให้คริสต้ากับริต้าได้มาเล่นกับเขาในภายหลัง, ฉันก็พาซีกขึ้นรถม้าไป

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด