Armipotent จักรวรรดิคลั่ง จักรพรรดิอมตะ 11 ไร้ความปราณี

Now you are reading Armipotent จักรวรรดิคลั่ง จักรพรรดิอมตะ Chapter 11 ไร้ความปราณี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 11 ไร้ความปราณี

 

ถังเส้าหยางไม่ได้กอดมันกลับ เขาเลือกที่จะผลักไสการกอดของลู่กัง เขาถอยหลังสองก้าวและพูดด้วยน้ำเสียงที่ไร้อารมณ์ว่า “ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ลู่กัง ฉันอยากรู้จังวาทำไมนายถึงมาขวางทางรถของเรา?”

การเรียกชื่อลู่กังเฉยๆนั้นเป็นสิ่งที่พิสูจน์แล้วว่าเขาไม่ได้อยู่ภายใต้ปีกของมันอีกต่อไป

ตอนนี้เขากำลังคิดอยู่ว่าทำไมลู่กังถึงรอดมาได้ และทำไมมันถึงมาที่นี่ได้

ย้อนไปในคืนนั้น คืนที่เกมประหลาดนี้ได้เริ่มต้นขึ้น กลุ่มปีกมังกรก็ได้กวาดล้างอาณาเขตของคู่แข่ง  พื้นที่ส่วนใหญ่ในระแวกนี้เป็นอาณาเขตของกลุ่มกรงเล็บเหยี่ยว และในคืนนั้น ลู่กังและลูกน้องของมันก็เลือกที่จะไปจัดการเรื่องอาณาเขตของพวกกลุ่มกรงเล็บเหยี่ยวกันเองโดยไม่มีถังเส้าหยาง ดังนั้นนี่ก็คงจะเป็นสาเหตุที่ทำให้มันมาติดอยู่ที่นี่

“ ถังเส้าหยาง นายเปลี่ยนไป…”  ลู่กังรู้สึกประหลาดใจกับทัศนคติที่เฉยเมยของถังเส้าหยาง

มันมีระยะห่างประมาณเจ็ดเมตรแยกระหว่างทั้งสอง มันทำให้บรรยากาศดูตึงเครียดขึ้นเล็กน้อย และลูกน้องของลู่กังก็เริ่มมองถังเส้าหยางอย่างระมัดระวัง

เว่ยเผิงรู้สึกโล่งใจ อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังประหม่าไปด้วยในเวลาเดียวกัน เขารู้สึกโล่งใจที่ถังเส้าหยางไม่ได้อยู่ข้างลู่กัง  แต่เขาก็รู้สึกประหม่าเพราะดูเหมือนว่าพวกเขากำลังจำได้ปะทะกับพวกลู่กัง

“ นายเองก็เปลี่ยนไปเช่นกัน นายกลายเป็นคนที่ไร้ระเบียบยิ่งไปกว่าเดิมเยอะเลย” ถังเส้าหยางตอบกลับอย่างเฉยเมย

ลู่กังไม่แปลกใจที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้น เขาเดาว่าเว่ยเผิงคงจะบอกถังเส้าหยางหมดแล้วเกี่ยวกับเรื่องที่มันทำไว้ที่โรงแรม อย่างไรก็ตาม สิ่งเดียวที่ทำให้มันแปลกใจเกี่ยวกับเว่ยเผิงก็คือ มันรอดมาได้อย่ารไร?

ไม่ใช่ว่าโรงแรมนั้นควรจะถูกล้อมรอบไปด้วยซอมบี้หรอ? พวกเขาออกจากโรงแรมได้อย่างไรกัน?  เว่ยเผิงและกลุ่มของเขาเป็นคนขี้ขลาดและอ่อนแอไม่ใช่หรอ? พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะเผชิญหน้ากับซอมบี้ด้วยซ้ำ อย่างนี้แล้วเขาจะรอดออกมาได้อย่างไรกัน?

และเมื่อมาถึงจึดนี้แล้ว มันก็มีข้อสรุปเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ ถังเส้าหยาง  ถังเส้าหยางจะต้องเป็นคนฆ่าซอมบี้ทั้งหมดและช่วยชีวิตผู้รอดชีวิตเอาไว้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ผู้ชายเพียงคนเดียวจะไปเคลียซอมบี้ที่มีจำนวนเป็นพันๆได้ยังไงกัน?

มันมองไปรอบๆและพยายามมองหาเร่องรอยต่างๆ อย่างไรก็ตาม บริเวณโดยรอบก็ไม่มีวี่แววของสิ่งมีชีวิตเลย พวกมันไม่พบอะไรเลยแม้กระทั่งซอมบี้

“ โลกเปลี่ยนไปแล้ว และเราชาวโลกก็ต้องเปลี่ยนไปเช่นกัน คนเข้มแข็งปกครองผู้อ่อนแอ กฎนี้ไม่เคยเปลี่ยนแม้แต่ตอนก่อนโลกจะล่มสลาย”

ลู่กังตอบด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย แม้ว่ามันจะประหลาดใจกับความแข็งแกร่งของถังเส้าหยาง แต่ตอนนี้มันก็แตกต่างออกไป มันมีปืนอยู่ในกระเป๋าของมัน  ดังนั้นมันจึงไม่กลัวเบอร์เซิร์กถังแห่งหยูหยูหลิวคุน

“  นายพูดถูก ผู้แข็งแกร่งปกครองผู้อ่อนแอ กฎนี้มันไม่เคยเปลี่ยน…”  ถังเส้าหยางพยักหน้าและไม่แสดงความคิดเห็นอะไรเพิ่มเติมอีกเกี่ยวกับเรื่องนั้น  “   เพราะงั้นแล้วก็ได้โปรดหลีกทางด้วย เราจะได้ไปตามทางของเรา”

ถังเส้าหยางไม่ต้องการต่อสู้กับลู่กังและลูกน้องของมัน หรืออย่างน้อยๆก็ยังไม่ใช่ตอนนี้  เว่ยเผิงและคนอื่นๆจะเป็นภาระของเขา และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้เขาต้องการที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะโดยตรงกับลู่กังและลูกน้องของมัน

อย่างไรก็ตาม หากการต่อสู้ล้มเหลว ถังเส้าหยางก็จะละทิ้งเว่ยเผิงและอีกฝ่ายโดยไม่ลังเล

รอยยิ้มของลู่กังกว้างขึ้นเมื่อได้ยินเรื่องนี้ มันตีความเจตนาของถังเส้าหยางผิดและคิดว่าถังเส้าหยางกลัวมัน

ขณะที่ริมฝีปากของมันมีรอยยิ้มแห่งชัยชนะปรากฎขึ้นมา ลู่กังก็ได้ประกาศอย่างกล้าหาญด้วยเสียงอันดังก้องว่า  “ นายออกไปได้ แต่เสบียงในรถและคนเหล่านี้จะต้องอยู่ที่นี่ พวกมันเป็นคนของฉัน!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เว่ยเผิงก็หน้าซีดและเหลือบมองไปที่ถังเส้าหยางโดยไม่รู้ตัว เช่นเดียวกับคนอื่นๆ พวกเขาเองก็ยังสูญเสียความมีชีวิตชีวาไปขณะที่มองไปที่ถังเส้าหยางโดยไม่รู้ตัว

มันไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่ต้องการจะอยู่ใต้ปีกของลู่กัง พวกเขาชอบที่จะได้อยู่กับถังเส้าหยาง และถังเส้าหยางก็เป็นความหวังเดียวของพวกเขา

“ นายทิ้งพวกเขาไว้เป็นเหยื่อล่อซอมบี้ และฉันก็ช่วยชีวิตพวกเขา ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงเป็นคนของฉัน และเสบียงในรถก็เป็นของฉัน! นายสามารถไปเอาเสบียงอาหารในห้างสรรพสินค้าเองได้ถ้านายต้องการ”

ลู่กังหัวเราะคิกคักและยิ้มกว้างขึ้น ” น้องถัง นายลืมกฎไปแล้วหรอ เหอะๆ …  กฎที่ผู้แข็งแกร่งปกครองผู้อ่อนแอไง นายเข้าใจใช่ไหม?”

หลังจากนั้นลู่กังก็ส่งสัญญาณให้ลูกน้องของมันในขณะที่มันหยิบปืนออกมาจากเอวของมัน เขาแสดงให้ถังเส้าหยางเห็นว่ามันมีปืน

ลูกน้องอีกเจ็ดคนของลู่กังเองก็หยิบปืนพกออกมาเช่นกัน พวกมันเล็กปากกระบอกปืนไปที่ถังเส้าหยาง

ในสถานการณ์เช่นนี้ ลู่กังก็คิดว่ามันเป็นฝ่ายชนะแล้ว ตราบใดที่มันไม่มีคนอยู่ข้างถังเส้าหยาง มันก็เชื่อว่าสถานการณ์จะอยู่ภายใต้การควบคุมของมัน

อย่างไรก็ตาม ลู่กังก็ต้องประหลาดใจของ ไม่เพียงแต่ถังเส้าหยางจะไม่สั่นคลอนเท่านั้น  แต่มันยังเห็นถังเส้าหยางยิ้มกว้าง มันรู้สึกได้ลางไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้  อย่างไรก็ตาม มัน็ยังคงเชื่อว่าถังเส้าหยางจะไม่สามารถชนะมันที่มีปืนได้

รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของถังเส้าหยางทำให้มันรู้สึกไม่สบายใจ อย่างไรก็ตาม มันก็มั่นใจในกลุ่มของมัน พวกมันมีปืนทั้งหมดแปดกระบอก และมันก็เพียงพอแล้วที่จะฆ่าถังเส้าหยา  อย่างน้อยนี่ก็เป็นสิ่งที่มันคิด

ประหม่า? แน่นอนว่าถังเส้าหยางรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับปืนแปดกระบอกที่เล็กมาที่เขาในเวลาเดียวกัน อย่างไรกก็ตาม เขาก็ได้ตัดสินใจแล้วที่จะไม่อยู่ภายใต้ผู้อื่นแล้วจะไม่ก้มหัวให้ใคร

“ งั้นก็มาดูกันว่าใครกันแน่ที่แข็งแกร่งและใครกันแน่ที่อ่อนแอ…” หลังจากพูดคำเหล่านั้นเสร็จ ถังเส้าหยางก็พูดกับเว่ยเผิงด้วยเสียงต่ำ “ ออกไปจากที่นี่ ฉันจะจัดการคนเหล่านี้เอง…”

“ แต่…” เว่ยเผิงรู้สึกอึดอัดอยู่ภายใน มันไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้ถังเส้าหยางต้องเผชญหน้ากับล่กังและกลุ่มเพียงลำพัง

“ ออกไป ฉันจะไม่ปกป้องพวกนายหรอกนะ!”  ถังเส้าหยางสั่งอย่างเด็ดขาด เขาจะไม่ปกป้องพวกเขาแน่นอนหากการต่อสู้ออกมาล้มเหลว

“ น้องถัง ฉันให้โอกาสนายไปแล้ว แต่นายไม่เห็นค่ามัน ดังนั้นก็อย่าโทษฉันเลยที่จะใช้วิธีการที่โหดเหี้ยม!”  ลู่กังรับรู้ได้ทันทีว่าถังเส้าหยางนั้นมีความตั้งใจที่จะต่อสู้กับมัน

อันที่จริงมันก็ต้องการบังคับให้ถังเส้าหยางกลับมาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของมันอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม มันก็ตระหนักได้ว่ามันไม่ได้มีภูมิหลังที่แข็งแกร่งเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ดังนั้นมันจึงไม่สามารถบังคับถังเส้าหยางให้มาทำงานภายใต้คำสั่งของมันได้อีก

ด้วยเหตุนี้เอง มันจึงเป็นการดีกว่าที่จะฆ่าถังเส้าหยาง  ไม่อย่างงั้นถังเส้าหยางก็อาจจะสร้างปัญหาให้กับมันได้ในอนาคต เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้ว มันก็ยกปืนขึ้นแล้วเล็งไปที่ถังเส้าหยาง

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่มันจะทันได้เหนี่ยวไก มันก็มีขวานขนาดใหญ่บินตรงมาที่ใบหน้าของมันแล้ว สิ่งนี้ทำให้ลู่กังตกใจ แต่ด้วยประสบการณ์การต่อสู้บนท้องถนนของมันที่โชกโชน สิ่งนี้จึงช่วยชีวิตมันเอาไว้ได้ มันสามารถเคลื่อนที่หลบไปด้านข้างได้ทัน

ลู่กังพยายามอย่างมากเพื่อที่จะหลบการโจมตี อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ใช่ว่ามันจะสามารถหลบได้พ้นอย่างปลอดภัย การหลบการโจมตีครั้งนี้มันต้องแลกมาด้วยราคามหาศาล มันสูญเสียแขนขวาไปและเลือดก็ไหลทะลักออกมาจากแขนข้างที่ขาดไปของมัน

อว้ากกกกกกก!

ความเจ็บปวดเฉียบพลันได้ทำลายสตินึกคิดของลู่กัง มันล้มลงกับพื้นและทรุดตัวลงบนพื้นด้วยความเจ็บปวดในขณะที่มันเปล่งเสียงคร่ำครวญอย่างเจ็บปวดออกมา

สิ่งนี้ทำให้ทุกคน เห็นเหตุการณ์รู้สึกตกตะลึงไปตามๆกัน สิ่งนี้เกิดขึ้นเร็วมาก และก่อนที่พวกเขาจะทันได้สติ มันก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมาอีกครั้ง

“ อ๊ากกก-”

อยู่ๆเสียงกรีดร้องก็หยุดไปครึ่งทางและทุกคนก็มองไปยังทิศทางของเสียง พวกเขาเห็นถังเส้าหยางกำลังบีบคอและยกลูกน้องคนหนึ่งของลู่กังขึ้นด้วยมือข้างเดียว  อย่างไรก็ตาม ชายที่อยู่ในมือของหวังเต็งก็ได้หยุดเคลื่อนไหวไปแล้ว ชายคนนั้นเสียชีวิตแล้ว

ก่อนหน้านี้ ความสนใจของพวกเขาก็กำลังจดจ่ออยู่ที่ลู่กัง   ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ว่าถังเส้าหยางได้เริ่มเคลื่อนไหวไปตั้งแต่เมื่อใด

ทุกคนจ้องไปที่ถังเส้าหยางด้วยความตกใจอีกครั้ง จากนั้นพวกเขาก็สังเกตเห็นถังเส้าหยางเก็บปืนขึ้นมาจากชายที่เขาฆ่า ในวินาทีถัดมา ถังเส้าหยางก็เล็งปืนไปที่ลูกน้องของลู่กังอีกคน

เห็นได้ชัดว่าเขาตั้งใจที่จะฆ่าทุกคนที่ถือปืน ถังเส้าหยางเหนี่ยวไกโดยไม่ลังเล

ปัง ปัง ปัง ปัง

ระยะห่างระหว่างเขากับเป้าหมายคือเจ็ดเมตร และด้วยระยะทางสั้นๆนี้เอง  เขาจึงสามารถเจาะรูบนตัวเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ลูกน้องของลู่กังล้มลงไปกับพื้นในทันทีพร้อมกับลูกตะดั่วที่ฝังอยู่ในร่างของมัน

สิ่งนี้ทำให้ทุกคนตกใจมาก ภายในระยะเวลาไม่ถึงสิบวินาที ถังเส้าหยางก็ได้ฆ่าคนไปแล้วสองคน แถมเขายังตัดแขนหัวหน้าใหญ่อย่างลู่กังลงได้อีก  ต่อมาในวินาทีที่ทุกคนได้สติอีกครั้งหนึ่ง หนึ่งในนั้นก็หันกลับไปในทันทีและเริ่มวิ่งหนีไปพร้อมกับตะโกนว่า “ วิ่ง!”

เมือมีคนหนึ่งเริ่มวิ่งหนี อีกคนก็เริ่มวิ่งตาม อย่างไรก็ตาม ถังเส้าหยางก็ไม่ได้วางแผนที่จะปล่อยให้คนเหล่านี้ออกไปได้ เขาไล่ตามชายคนหนึ่งที่มีปืนอยู่ในมือ

เขาไล่ตามชายที่เขามุ่งหมายได้อย่างง่ายดาย มือของเขาเหมือนกรงเล็บนกอินทรี มันเร็วและอันตรายถึงตาย เมื่อถึงคราวที่เขาสามารถจับคอเหยื่อของเขาได้ เขาก็บีบมันและหักมันด้วยมือเปล่า

แคร็ก!

เสียงกระดูกแตกดังก้องและชายที่ถังเส้าหยางจับเอาไว้ได้ก็ชักไปหนึ่งครั้ง ชายคนนั้นเสียชีวิตแล้ว เลือดไหลออกมาจากปากหูจมูกของมันและดวงตาของมันก็ราวกับจะถลนออกมาจากเบ้า

การกระทำของถังเส้าหยางไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ เขาหยิบปืนขึ้นมาอีกครั้งและเล็งไปที่ชายอีกคนที่ถึอปืน เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้ง ลูกน้องของลู่กังตายไปอีกสอง

ปัง ปัง ปัง ปัง

เสียงยิงปืนปลุกลู่กังที่ยังคงนอนสั่นอยู่บนพื้นให้ตื่น มันเงยหน้าขึ้นและพบว่าลูกน้องห้าคนของมันได้ล้มลงไปกองกับพื้นแล้ว สิ่งนี้ทำให้มันสั่นกลัว นี่มันเร็วเกินไป นี่มันยังไม่ถึงนาทีเลย แต่ถังเส้าหยางก็ได้ฆ่าลูกน้องของมันไปทั้งหมดห้าคนเล้ว

“ ไอ้โครตควาย!  พวกมึงจะวิ่งหนีทำเหี้ยอะไร!!!!!??? ยิงมันสิ! มันมีแค่ตัวคนเดียว! อย่าวิ่งหนี อย่าโง่!!!! ยิงมัน! ยิงมันให้ตาย!”

ลู่กังตะโกนอย่างโกรธจัดเมื่อมันตระหนักได้ว่าชีวิตของมันกำลังตกอยู่ในอันตราย หากลูกน้องของมันล้มเหลวในการจัดการถังเส้าหยาง มันก็จะต้องตายแน่นอน

เสียงตะโกนของลู่กังได้ผล ลูกน้องของมันหยุดวิ่ง พวกมันหันกลับมาตั้งหลักแต่มันก็สายเกินไปแล้ว มันเหลือเพียงชายที่มีปืนแค่สองคนเท่านั้น  นอกนั้นที่เหลือก็มีเพียงท่อนไม้ ท่อเหล็ก และขวานฉุกเฉิน

ถังเส้าหยางหยิบปืนมาจากชายที่เขาเพิ่งฆ่าไปและเล็งไปที่ชายสองคนที่มีปืน

ปัง ปัง ปัง ปัง

สามมือปืนสมัครเล่นแลกกระสุรนกัน สิ่งนี้ทำให้ถังเส้าหยางไม่กล้าที่จะอยู่เฉยๆให้ตกเป็นเป้านิ่ง เขาวิ่งออกไปด้วยและยิงปืนไปด้วยขณะย่อหัวหลบ

ลูกน้องสองคนของลู่กังไม่สามารถยิงถังเส้าหยางโดนได้ กลับกัน ถังเส้าหยางก็ไม่สามารถยิงพวกมันโดนได้เช่นกัน

คริก! คริก! คริก!

กระสุนหมด เช่นเดียวกับลูกน้องของลู่กัง ในขณะที่ถังเส้าหยางไม่มีกระสุนให้บรรจุกระสุนอีก ลูกน้องทั้งสองคนของลู่กังก็บรรจุกระสุนใหม่

แน่นอนว่า ถังเส้าหยางจะไม่ยอมปล่อยให้พวกมันได้บรรจุลูกกระสุนใหม่ เขารีบพุ่งเข้าไปที่ชายทั้งสองคนที่กำลังบรรจุลูกกระสุนด้วยความเร็วที่น่ากลัว ระยะห่างระหว่างพวกเขาประมาณสิบห้าเมตร

ปัง ปัง ปัง

อย่างไรก็ตาม เมื่อถังเส้าหยางมาถึง เสียงปืนสามนัดก็ดังขึ้น หลังจากเสียงปืนจบลง เขาก็ชกไปที่ชายที่อยู่ทางขวา และเขาก็รีบหันไปที่อีกคน เขาหักคอของชายคนที่สองและทำให้ชายคนนั้นตายลงไปในทันที

ชายผู้ถูกถังเส้าหยางต่อยยังคงนอนราบลงกับพื้นขณะกุมท้องด้วยความเจ็บปวด จากนั้นชายคนนั้นก็สัมผัสได้ว่ามันกำลังมีเงาปกคลุมร่างมันอยู่ มันเงยหน้าขึ้นและพบถังเส้าหยาง

ถังเส้าหยางมีปืนอยู่ในมือ และมันก็กำลังจ่ออยู่ที่กลางหน้าผากของชายคนนั้น

“ ไม่ อย่าฆ่าฉัน… ฉันแค่ทำตามคำสั่งของลู่กัง… ยะ- อย่าฆ่าฉัน ฉันจะเป็นลูกน้องของนายก็ได้…”

ปัง!

ถังเส้าหยางเหนี่ยวไก เด็ดขาดและไม่แยแส เขาฆ่าลูกน้องคนที่ถือปืนคนสุดท้ายของลู่กังเรียบร้อยแล้ว อีกเก้าคนที่เหลือแสดงท่าทีหวาดกลัวขณะที่ร่างกายของพวกมันสั่นเทา

“ วิ่ง!” อีกครั้ง ลูกน้องของลู่กังตัดสินใจที่จะวิ่งหนีขณะที่พวกมันหันหลังให้กับลู่กัง

แม้ว่าลูกน้องของลู่กังจะตัดสินใจที่จะวิ่งหนีโดยไม่มีการต่อสู้ แต่ถังเส้าหยางก็ยังไม่ปล่อยให้พวกมันได้หนีไป เขารีบไล่ตามลูกน้องของลู่กังที่เหลืออยู่ไปพร้อกับเดสทรายเยอร์ที่อยู่ในมือ

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปคือการสังหารหมู่ฝ่ายเดียว เว่ยเผิงสามารถเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจนว่าหนึ่งในลูกน้องของลู่กังนั้นได้ถูกผ่าแยกออกเป็นสองส่วนจากหัวลงล่าง ในขณะที่ลูกน้องคนอื่นๆนั้นโดนตัดหัวขาด

การไล่ล่ากินเวลาไม่ถึงสิบนาที หลังจากนั้นถังเส้าหยางก็เดินกลับไปหาลู่กังพร้อมกับเดสทรอยเยอร์ที่พาดอยู่บนไหล่ของเขา เลือดสดยังคงหยดลงมาจากบาดแผลของลู่กังขณะที่มันมองดูศพที่ไร้หัวของลูกน้องของมัน

“ ฉั-” ลู่กังต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ถังเส้าหยางก็ไม่ได้ปล่อยให้มันพูด เขาเหวี่ยงเดสทรอบเยอร์ไปที่คอของลู่กังในทันที

ปุป!

เลือดพุ่งออกมาจากคอของลู่กัง มันเหมือนกับน้ำพุ แต่เปลี่ยนจากน้ำเป็นเลือดสดๆที่พ่นออกจากร่างกายมนุษย์แทน  ลู่กังและกลุ่มของมันถูกฆ่าตายโดยคนๆเดียว ถังเส้าหยางไม่ได้แสดงความเมตตาต่อศัตรูของเขาเลยแม้แต่น้อย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Armipotent จักรวรรดิคลั่ง จักรพรรดิอมตะ 11 ไร้ความปราณี

Now you are reading Armipotent จักรวรรดิคลั่ง จักรพรรดิอมตะ Chapter 11 ไร้ความปราณี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 11 ไร้ความปราณี

 

ถังเส้าหยางไม่ได้กอดมันกลับ เขาเลือกที่จะผลักไสการกอดของลู่กัง เขาถอยหลังสองก้าวและพูดด้วยน้ำเสียงที่ไร้อารมณ์ว่า “ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ลู่กัง ฉันอยากรู้จังวาทำไมนายถึงมาขวางทางรถของเรา?”

การเรียกชื่อลู่กังเฉยๆนั้นเป็นสิ่งที่พิสูจน์แล้วว่าเขาไม่ได้อยู่ภายใต้ปีกของมันอีกต่อไป

ตอนนี้เขากำลังคิดอยู่ว่าทำไมลู่กังถึงรอดมาได้ และทำไมมันถึงมาที่นี่ได้

ย้อนไปในคืนนั้น คืนที่เกมประหลาดนี้ได้เริ่มต้นขึ้น กลุ่มปีกมังกรก็ได้กวาดล้างอาณาเขตของคู่แข่ง  พื้นที่ส่วนใหญ่ในระแวกนี้เป็นอาณาเขตของกลุ่มกรงเล็บเหยี่ยว และในคืนนั้น ลู่กังและลูกน้องของมันก็เลือกที่จะไปจัดการเรื่องอาณาเขตของพวกกลุ่มกรงเล็บเหยี่ยวกันเองโดยไม่มีถังเส้าหยาง ดังนั้นนี่ก็คงจะเป็นสาเหตุที่ทำให้มันมาติดอยู่ที่นี่

“ ถังเส้าหยาง นายเปลี่ยนไป…”  ลู่กังรู้สึกประหลาดใจกับทัศนคติที่เฉยเมยของถังเส้าหยาง

มันมีระยะห่างประมาณเจ็ดเมตรแยกระหว่างทั้งสอง มันทำให้บรรยากาศดูตึงเครียดขึ้นเล็กน้อย และลูกน้องของลู่กังก็เริ่มมองถังเส้าหยางอย่างระมัดระวัง

เว่ยเผิงรู้สึกโล่งใจ อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังประหม่าไปด้วยในเวลาเดียวกัน เขารู้สึกโล่งใจที่ถังเส้าหยางไม่ได้อยู่ข้างลู่กัง  แต่เขาก็รู้สึกประหม่าเพราะดูเหมือนว่าพวกเขากำลังจำได้ปะทะกับพวกลู่กัง

“ นายเองก็เปลี่ยนไปเช่นกัน นายกลายเป็นคนที่ไร้ระเบียบยิ่งไปกว่าเดิมเยอะเลย” ถังเส้าหยางตอบกลับอย่างเฉยเมย

ลู่กังไม่แปลกใจที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้น เขาเดาว่าเว่ยเผิงคงจะบอกถังเส้าหยางหมดแล้วเกี่ยวกับเรื่องที่มันทำไว้ที่โรงแรม อย่างไรก็ตาม สิ่งเดียวที่ทำให้มันแปลกใจเกี่ยวกับเว่ยเผิงก็คือ มันรอดมาได้อย่ารไร?

ไม่ใช่ว่าโรงแรมนั้นควรจะถูกล้อมรอบไปด้วยซอมบี้หรอ? พวกเขาออกจากโรงแรมได้อย่างไรกัน?  เว่ยเผิงและกลุ่มของเขาเป็นคนขี้ขลาดและอ่อนแอไม่ใช่หรอ? พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะเผชิญหน้ากับซอมบี้ด้วยซ้ำ อย่างนี้แล้วเขาจะรอดออกมาได้อย่างไรกัน?

และเมื่อมาถึงจึดนี้แล้ว มันก็มีข้อสรุปเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ ถังเส้าหยาง  ถังเส้าหยางจะต้องเป็นคนฆ่าซอมบี้ทั้งหมดและช่วยชีวิตผู้รอดชีวิตเอาไว้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ผู้ชายเพียงคนเดียวจะไปเคลียซอมบี้ที่มีจำนวนเป็นพันๆได้ยังไงกัน?

มันมองไปรอบๆและพยายามมองหาเร่องรอยต่างๆ อย่างไรก็ตาม บริเวณโดยรอบก็ไม่มีวี่แววของสิ่งมีชีวิตเลย พวกมันไม่พบอะไรเลยแม้กระทั่งซอมบี้

“ โลกเปลี่ยนไปแล้ว และเราชาวโลกก็ต้องเปลี่ยนไปเช่นกัน คนเข้มแข็งปกครองผู้อ่อนแอ กฎนี้ไม่เคยเปลี่ยนแม้แต่ตอนก่อนโลกจะล่มสลาย”

ลู่กังตอบด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย แม้ว่ามันจะประหลาดใจกับความแข็งแกร่งของถังเส้าหยาง แต่ตอนนี้มันก็แตกต่างออกไป มันมีปืนอยู่ในกระเป๋าของมัน  ดังนั้นมันจึงไม่กลัวเบอร์เซิร์กถังแห่งหยูหยูหลิวคุน

“  นายพูดถูก ผู้แข็งแกร่งปกครองผู้อ่อนแอ กฎนี้มันไม่เคยเปลี่ยน…”  ถังเส้าหยางพยักหน้าและไม่แสดงความคิดเห็นอะไรเพิ่มเติมอีกเกี่ยวกับเรื่องนั้น  “   เพราะงั้นแล้วก็ได้โปรดหลีกทางด้วย เราจะได้ไปตามทางของเรา”

ถังเส้าหยางไม่ต้องการต่อสู้กับลู่กังและลูกน้องของมัน หรืออย่างน้อยๆก็ยังไม่ใช่ตอนนี้  เว่ยเผิงและคนอื่นๆจะเป็นภาระของเขา และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้เขาต้องการที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะโดยตรงกับลู่กังและลูกน้องของมัน

อย่างไรก็ตาม หากการต่อสู้ล้มเหลว ถังเส้าหยางก็จะละทิ้งเว่ยเผิงและอีกฝ่ายโดยไม่ลังเล

รอยยิ้มของลู่กังกว้างขึ้นเมื่อได้ยินเรื่องนี้ มันตีความเจตนาของถังเส้าหยางผิดและคิดว่าถังเส้าหยางกลัวมัน

ขณะที่ริมฝีปากของมันมีรอยยิ้มแห่งชัยชนะปรากฎขึ้นมา ลู่กังก็ได้ประกาศอย่างกล้าหาญด้วยเสียงอันดังก้องว่า  “ นายออกไปได้ แต่เสบียงในรถและคนเหล่านี้จะต้องอยู่ที่นี่ พวกมันเป็นคนของฉัน!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เว่ยเผิงก็หน้าซีดและเหลือบมองไปที่ถังเส้าหยางโดยไม่รู้ตัว เช่นเดียวกับคนอื่นๆ พวกเขาเองก็ยังสูญเสียความมีชีวิตชีวาไปขณะที่มองไปที่ถังเส้าหยางโดยไม่รู้ตัว

มันไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่ต้องการจะอยู่ใต้ปีกของลู่กัง พวกเขาชอบที่จะได้อยู่กับถังเส้าหยาง และถังเส้าหยางก็เป็นความหวังเดียวของพวกเขา

“ นายทิ้งพวกเขาไว้เป็นเหยื่อล่อซอมบี้ และฉันก็ช่วยชีวิตพวกเขา ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงเป็นคนของฉัน และเสบียงในรถก็เป็นของฉัน! นายสามารถไปเอาเสบียงอาหารในห้างสรรพสินค้าเองได้ถ้านายต้องการ”

ลู่กังหัวเราะคิกคักและยิ้มกว้างขึ้น ” น้องถัง นายลืมกฎไปแล้วหรอ เหอะๆ …  กฎที่ผู้แข็งแกร่งปกครองผู้อ่อนแอไง นายเข้าใจใช่ไหม?”

หลังจากนั้นลู่กังก็ส่งสัญญาณให้ลูกน้องของมันในขณะที่มันหยิบปืนออกมาจากเอวของมัน เขาแสดงให้ถังเส้าหยางเห็นว่ามันมีปืน

ลูกน้องอีกเจ็ดคนของลู่กังเองก็หยิบปืนพกออกมาเช่นกัน พวกมันเล็กปากกระบอกปืนไปที่ถังเส้าหยาง

ในสถานการณ์เช่นนี้ ลู่กังก็คิดว่ามันเป็นฝ่ายชนะแล้ว ตราบใดที่มันไม่มีคนอยู่ข้างถังเส้าหยาง มันก็เชื่อว่าสถานการณ์จะอยู่ภายใต้การควบคุมของมัน

อย่างไรก็ตาม ลู่กังก็ต้องประหลาดใจของ ไม่เพียงแต่ถังเส้าหยางจะไม่สั่นคลอนเท่านั้น  แต่มันยังเห็นถังเส้าหยางยิ้มกว้าง มันรู้สึกได้ลางไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้  อย่างไรก็ตาม มัน็ยังคงเชื่อว่าถังเส้าหยางจะไม่สามารถชนะมันที่มีปืนได้

รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของถังเส้าหยางทำให้มันรู้สึกไม่สบายใจ อย่างไรก็ตาม มันก็มั่นใจในกลุ่มของมัน พวกมันมีปืนทั้งหมดแปดกระบอก และมันก็เพียงพอแล้วที่จะฆ่าถังเส้าหยา  อย่างน้อยนี่ก็เป็นสิ่งที่มันคิด

ประหม่า? แน่นอนว่าถังเส้าหยางรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับปืนแปดกระบอกที่เล็กมาที่เขาในเวลาเดียวกัน อย่างไรกก็ตาม เขาก็ได้ตัดสินใจแล้วที่จะไม่อยู่ภายใต้ผู้อื่นแล้วจะไม่ก้มหัวให้ใคร

“ งั้นก็มาดูกันว่าใครกันแน่ที่แข็งแกร่งและใครกันแน่ที่อ่อนแอ…” หลังจากพูดคำเหล่านั้นเสร็จ ถังเส้าหยางก็พูดกับเว่ยเผิงด้วยเสียงต่ำ “ ออกไปจากที่นี่ ฉันจะจัดการคนเหล่านี้เอง…”

“ แต่…” เว่ยเผิงรู้สึกอึดอัดอยู่ภายใน มันไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้ถังเส้าหยางต้องเผชญหน้ากับล่กังและกลุ่มเพียงลำพัง

“ ออกไป ฉันจะไม่ปกป้องพวกนายหรอกนะ!”  ถังเส้าหยางสั่งอย่างเด็ดขาด เขาจะไม่ปกป้องพวกเขาแน่นอนหากการต่อสู้ออกมาล้มเหลว

“ น้องถัง ฉันให้โอกาสนายไปแล้ว แต่นายไม่เห็นค่ามัน ดังนั้นก็อย่าโทษฉันเลยที่จะใช้วิธีการที่โหดเหี้ยม!”  ลู่กังรับรู้ได้ทันทีว่าถังเส้าหยางนั้นมีความตั้งใจที่จะต่อสู้กับมัน

อันที่จริงมันก็ต้องการบังคับให้ถังเส้าหยางกลับมาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของมันอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม มันก็ตระหนักได้ว่ามันไม่ได้มีภูมิหลังที่แข็งแกร่งเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ดังนั้นมันจึงไม่สามารถบังคับถังเส้าหยางให้มาทำงานภายใต้คำสั่งของมันได้อีก

ด้วยเหตุนี้เอง มันจึงเป็นการดีกว่าที่จะฆ่าถังเส้าหยาง  ไม่อย่างงั้นถังเส้าหยางก็อาจจะสร้างปัญหาให้กับมันได้ในอนาคต เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้ว มันก็ยกปืนขึ้นแล้วเล็งไปที่ถังเส้าหยาง

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่มันจะทันได้เหนี่ยวไก มันก็มีขวานขนาดใหญ่บินตรงมาที่ใบหน้าของมันแล้ว สิ่งนี้ทำให้ลู่กังตกใจ แต่ด้วยประสบการณ์การต่อสู้บนท้องถนนของมันที่โชกโชน สิ่งนี้จึงช่วยชีวิตมันเอาไว้ได้ มันสามารถเคลื่อนที่หลบไปด้านข้างได้ทัน

ลู่กังพยายามอย่างมากเพื่อที่จะหลบการโจมตี อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ใช่ว่ามันจะสามารถหลบได้พ้นอย่างปลอดภัย การหลบการโจมตีครั้งนี้มันต้องแลกมาด้วยราคามหาศาล มันสูญเสียแขนขวาไปและเลือดก็ไหลทะลักออกมาจากแขนข้างที่ขาดไปของมัน

อว้ากกกกกกก!

ความเจ็บปวดเฉียบพลันได้ทำลายสตินึกคิดของลู่กัง มันล้มลงกับพื้นและทรุดตัวลงบนพื้นด้วยความเจ็บปวดในขณะที่มันเปล่งเสียงคร่ำครวญอย่างเจ็บปวดออกมา

สิ่งนี้ทำให้ทุกคน เห็นเหตุการณ์รู้สึกตกตะลึงไปตามๆกัน สิ่งนี้เกิดขึ้นเร็วมาก และก่อนที่พวกเขาจะทันได้สติ มันก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมาอีกครั้ง

“ อ๊ากกก-”

อยู่ๆเสียงกรีดร้องก็หยุดไปครึ่งทางและทุกคนก็มองไปยังทิศทางของเสียง พวกเขาเห็นถังเส้าหยางกำลังบีบคอและยกลูกน้องคนหนึ่งของลู่กังขึ้นด้วยมือข้างเดียว  อย่างไรก็ตาม ชายที่อยู่ในมือของหวังเต็งก็ได้หยุดเคลื่อนไหวไปแล้ว ชายคนนั้นเสียชีวิตแล้ว

ก่อนหน้านี้ ความสนใจของพวกเขาก็กำลังจดจ่ออยู่ที่ลู่กัง   ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ว่าถังเส้าหยางได้เริ่มเคลื่อนไหวไปตั้งแต่เมื่อใด

ทุกคนจ้องไปที่ถังเส้าหยางด้วยความตกใจอีกครั้ง จากนั้นพวกเขาก็สังเกตเห็นถังเส้าหยางเก็บปืนขึ้นมาจากชายที่เขาฆ่า ในวินาทีถัดมา ถังเส้าหยางก็เล็งปืนไปที่ลูกน้องของลู่กังอีกคน

เห็นได้ชัดว่าเขาตั้งใจที่จะฆ่าทุกคนที่ถือปืน ถังเส้าหยางเหนี่ยวไกโดยไม่ลังเล

ปัง ปัง ปัง ปัง

ระยะห่างระหว่างเขากับเป้าหมายคือเจ็ดเมตร และด้วยระยะทางสั้นๆนี้เอง  เขาจึงสามารถเจาะรูบนตัวเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ลูกน้องของลู่กังล้มลงไปกับพื้นในทันทีพร้อมกับลูกตะดั่วที่ฝังอยู่ในร่างของมัน

สิ่งนี้ทำให้ทุกคนตกใจมาก ภายในระยะเวลาไม่ถึงสิบวินาที ถังเส้าหยางก็ได้ฆ่าคนไปแล้วสองคน แถมเขายังตัดแขนหัวหน้าใหญ่อย่างลู่กังลงได้อีก  ต่อมาในวินาทีที่ทุกคนได้สติอีกครั้งหนึ่ง หนึ่งในนั้นก็หันกลับไปในทันทีและเริ่มวิ่งหนีไปพร้อมกับตะโกนว่า “ วิ่ง!”

เมือมีคนหนึ่งเริ่มวิ่งหนี อีกคนก็เริ่มวิ่งตาม อย่างไรก็ตาม ถังเส้าหยางก็ไม่ได้วางแผนที่จะปล่อยให้คนเหล่านี้ออกไปได้ เขาไล่ตามชายคนหนึ่งที่มีปืนอยู่ในมือ

เขาไล่ตามชายที่เขามุ่งหมายได้อย่างง่ายดาย มือของเขาเหมือนกรงเล็บนกอินทรี มันเร็วและอันตรายถึงตาย เมื่อถึงคราวที่เขาสามารถจับคอเหยื่อของเขาได้ เขาก็บีบมันและหักมันด้วยมือเปล่า

แคร็ก!

เสียงกระดูกแตกดังก้องและชายที่ถังเส้าหยางจับเอาไว้ได้ก็ชักไปหนึ่งครั้ง ชายคนนั้นเสียชีวิตแล้ว เลือดไหลออกมาจากปากหูจมูกของมันและดวงตาของมันก็ราวกับจะถลนออกมาจากเบ้า

การกระทำของถังเส้าหยางไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ เขาหยิบปืนขึ้นมาอีกครั้งและเล็งไปที่ชายอีกคนที่ถึอปืน เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้ง ลูกน้องของลู่กังตายไปอีกสอง

ปัง ปัง ปัง ปัง

เสียงยิงปืนปลุกลู่กังที่ยังคงนอนสั่นอยู่บนพื้นให้ตื่น มันเงยหน้าขึ้นและพบว่าลูกน้องห้าคนของมันได้ล้มลงไปกองกับพื้นแล้ว สิ่งนี้ทำให้มันสั่นกลัว นี่มันเร็วเกินไป นี่มันยังไม่ถึงนาทีเลย แต่ถังเส้าหยางก็ได้ฆ่าลูกน้องของมันไปทั้งหมดห้าคนเล้ว

“ ไอ้โครตควาย!  พวกมึงจะวิ่งหนีทำเหี้ยอะไร!!!!!??? ยิงมันสิ! มันมีแค่ตัวคนเดียว! อย่าวิ่งหนี อย่าโง่!!!! ยิงมัน! ยิงมันให้ตาย!”

ลู่กังตะโกนอย่างโกรธจัดเมื่อมันตระหนักได้ว่าชีวิตของมันกำลังตกอยู่ในอันตราย หากลูกน้องของมันล้มเหลวในการจัดการถังเส้าหยาง มันก็จะต้องตายแน่นอน

เสียงตะโกนของลู่กังได้ผล ลูกน้องของมันหยุดวิ่ง พวกมันหันกลับมาตั้งหลักแต่มันก็สายเกินไปแล้ว มันเหลือเพียงชายที่มีปืนแค่สองคนเท่านั้น  นอกนั้นที่เหลือก็มีเพียงท่อนไม้ ท่อเหล็ก และขวานฉุกเฉิน

ถังเส้าหยางหยิบปืนมาจากชายที่เขาเพิ่งฆ่าไปและเล็งไปที่ชายสองคนที่มีปืน

ปัง ปัง ปัง ปัง

สามมือปืนสมัครเล่นแลกกระสุรนกัน สิ่งนี้ทำให้ถังเส้าหยางไม่กล้าที่จะอยู่เฉยๆให้ตกเป็นเป้านิ่ง เขาวิ่งออกไปด้วยและยิงปืนไปด้วยขณะย่อหัวหลบ

ลูกน้องสองคนของลู่กังไม่สามารถยิงถังเส้าหยางโดนได้ กลับกัน ถังเส้าหยางก็ไม่สามารถยิงพวกมันโดนได้เช่นกัน

คริก! คริก! คริก!

กระสุนหมด เช่นเดียวกับลูกน้องของลู่กัง ในขณะที่ถังเส้าหยางไม่มีกระสุนให้บรรจุกระสุนอีก ลูกน้องทั้งสองคนของลู่กังก็บรรจุกระสุนใหม่

แน่นอนว่า ถังเส้าหยางจะไม่ยอมปล่อยให้พวกมันได้บรรจุลูกกระสุนใหม่ เขารีบพุ่งเข้าไปที่ชายทั้งสองคนที่กำลังบรรจุลูกกระสุนด้วยความเร็วที่น่ากลัว ระยะห่างระหว่างพวกเขาประมาณสิบห้าเมตร

ปัง ปัง ปัง

อย่างไรก็ตาม เมื่อถังเส้าหยางมาถึง เสียงปืนสามนัดก็ดังขึ้น หลังจากเสียงปืนจบลง เขาก็ชกไปที่ชายที่อยู่ทางขวา และเขาก็รีบหันไปที่อีกคน เขาหักคอของชายคนที่สองและทำให้ชายคนนั้นตายลงไปในทันที

ชายผู้ถูกถังเส้าหยางต่อยยังคงนอนราบลงกับพื้นขณะกุมท้องด้วยความเจ็บปวด จากนั้นชายคนนั้นก็สัมผัสได้ว่ามันกำลังมีเงาปกคลุมร่างมันอยู่ มันเงยหน้าขึ้นและพบถังเส้าหยาง

ถังเส้าหยางมีปืนอยู่ในมือ และมันก็กำลังจ่ออยู่ที่กลางหน้าผากของชายคนนั้น

“ ไม่ อย่าฆ่าฉัน… ฉันแค่ทำตามคำสั่งของลู่กัง… ยะ- อย่าฆ่าฉัน ฉันจะเป็นลูกน้องของนายก็ได้…”

ปัง!

ถังเส้าหยางเหนี่ยวไก เด็ดขาดและไม่แยแส เขาฆ่าลูกน้องคนที่ถือปืนคนสุดท้ายของลู่กังเรียบร้อยแล้ว อีกเก้าคนที่เหลือแสดงท่าทีหวาดกลัวขณะที่ร่างกายของพวกมันสั่นเทา

“ วิ่ง!” อีกครั้ง ลูกน้องของลู่กังตัดสินใจที่จะวิ่งหนีขณะที่พวกมันหันหลังให้กับลู่กัง

แม้ว่าลูกน้องของลู่กังจะตัดสินใจที่จะวิ่งหนีโดยไม่มีการต่อสู้ แต่ถังเส้าหยางก็ยังไม่ปล่อยให้พวกมันได้หนีไป เขารีบไล่ตามลูกน้องของลู่กังที่เหลืออยู่ไปพร้อกับเดสทรายเยอร์ที่อยู่ในมือ

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปคือการสังหารหมู่ฝ่ายเดียว เว่ยเผิงสามารถเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจนว่าหนึ่งในลูกน้องของลู่กังนั้นได้ถูกผ่าแยกออกเป็นสองส่วนจากหัวลงล่าง ในขณะที่ลูกน้องคนอื่นๆนั้นโดนตัดหัวขาด

การไล่ล่ากินเวลาไม่ถึงสิบนาที หลังจากนั้นถังเส้าหยางก็เดินกลับไปหาลู่กังพร้อมกับเดสทรอยเยอร์ที่พาดอยู่บนไหล่ของเขา เลือดสดยังคงหยดลงมาจากบาดแผลของลู่กังขณะที่มันมองดูศพที่ไร้หัวของลูกน้องของมัน

“ ฉั-” ลู่กังต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ถังเส้าหยางก็ไม่ได้ปล่อยให้มันพูด เขาเหวี่ยงเดสทรอบเยอร์ไปที่คอของลู่กังในทันที

ปุป!

เลือดพุ่งออกมาจากคอของลู่กัง มันเหมือนกับน้ำพุ แต่เปลี่ยนจากน้ำเป็นเลือดสดๆที่พ่นออกจากร่างกายมนุษย์แทน  ลู่กังและกลุ่มของมันถูกฆ่าตายโดยคนๆเดียว ถังเส้าหยางไม่ได้แสดงความเมตตาต่อศัตรูของเขาเลยแม้แต่น้อย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+