Armipotent จักรวรรดิคลั่ง จักรพรรดิอมตะ 45 [ อัญเชิญวิญญาณ – เลเวล 2 ]

Now you are reading Armipotent จักรวรรดิคลั่ง จักรพรรดิอมตะ Chapter 45 [ อัญเชิญวิญญาณ – เลเวล 2 ] at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 45  [ อัญเชิญวิญญาณ – เลเวล 2 ]

 

ถังเส้าหยางขมวดคิ้ว หน้าจอค่าสถานะนี้เป็นของผู้ใต้บังคับบัญชาคนใหม่ของเขา ไพลด์

เขาไม่รู้ว่าทำไม แต่มันก็มีบางอย่างเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน มันควรจะเป็นราชาวานรเมฆา ไม่ใช่ราชาวานรอสูร

ในแถบวิวัฒนาการของหน้าต่างค่าสถานะ มันก็ระบุว่าลิงตัวนี้มีวิวัฒนาการกลายพันธุ์

‘ เป็นเพราะฉันเหรอ? หรือเพราะชื่อที่ฉันมอบให้? หรืออาจเป็นเพราะตอนนี้มันเป็นลูกน้องของฉันแล้ว?’

แน่นอนว่ามันเป็นเพียงการเดาสุ่มๆของเขาเท่านั้น มันอาจจะเป็นเพราะอย่างอื่นก็ได้ใครจะไปรู้?

ถังเส้าหยางทิ้งความคิดที่ซับซ้อนและมองไปที่ลิงหน้าตาประหลาดที่สูงห้าเมตร

“ เอาล่ะ ฉันจะมอบหมายงานแรกให้นาย”

“ เป็นเกียรติที่ได้รับคำสั่งจากท่าน ฝ่าบาท!” ไพลด์คุกเข่าลงข้างหนึ่ง

ถังเส้าหยางมองไพลด์อย่างงุนงง เช่นเดียวกับจางเหมิงเหยาและลู่อัน

ปฏิกิริยาของจางเหมิงเหยาและลู่อันดูเกินจริงไปเล็กน้อย พวกเขากระโดดถอยหลังไปหลายก้าวและมองดูไพลด์ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง

ถังเส้าหยางยังคงสงบ แต่มันก็เห็นได้ชัดว่ามันมีแวบหนึ่งนี่แววตาของเขาดูเปลี่ยนไป

“ นายพูดได้แล้วหรอ?”

“ ใช่แล้ว ฝ่าบาท! ในทันทีที่ท่านได้ประทานชื่อให้แก่ข้า ข้าก็ได้เรียนรู้ภาษาของท่านด้วย!” ไพรด์ตอบด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว

“ ดี! ดีมาก” ถังเส้าหยางพยักหน้าอย่างมีความสุขและกล่าวต่อว่า “ แบบนี้ฉันก็จะไม่จำเป็นต้องทนฟังเสียงคำรามของนายแล้ว”

ดวงตาของไพลด์กระตุกเล็กน้อย แต่มันก็ไม่ได้พูดอะไร

“ โปรดประทานคำสั่งแก่ข้า ฝ่าบาท!”

“ อ๋อใช่ ฉันเกือบลืมไปเลย งานแรกของนายคือพาศพของราชาองค์ก่อนออกไปข้างนอก ฉันต้องการซากศพสำหรับสกิลของฉัน”

ถังเส้าหยางชี้ไปที่ร่างกายที่ถูกตัดศีรษะ

คำสั่งนี้ทำให้ไพลด์พูดไม่ออก กระนั้นมันก็ยังงทำตามคำสั่งอย่างไม่ขัดขืน

“ โอ้ แล้วก็เอาอีกสามศพมาด้วย ฉันจะโชว์พลังให้นายดู!”

หลังจากนั้นเขาเดินกลับไปที่ถนนสายหลัก หลังจากเก็บรวบรวมร่างแล้ว มันก็ถึงเวลาเรียกวิญญาณดวงใหม่

ใช่แล้ว เหตุผลที่ถังเส้าหยางรวบรวมศพของวานรเมฆาก็เพื่อเอาไว้ใช้กับสกิลของเขา  [อัญเชิญวิญญาณ]

เขาต้องการลองเรียกวิญญาณออกมาโดยใช้เครื่องเซ่นสังเวยต่างๆ เมื่อตอนที่เขาเรียกคารานออกมา เขาก็ใช้ซอมบี้ไปเป็นจำนวนมาก และตอนี้เขาก็กำลังจะใช้ซากวานรเมฆาแทน

เขาคิดว่าข้อเสนอที่แตกต่างนั้นจะทำให้วิญญาณที่อัญเชิญออกมานั้นแตกต่างกันด้วย ด้วยเหตุนี้เอง ครั้งนี้เขาจึงลองทดสอบโดยใช้ซากของวานรเมฆาเป็นเครื่องเซ่นสังเวยแทน

ระหว่างทาง เขาก็จำได้ว่าเขาได้เลเวลอัพขึ้นมา 3 เลเวล และเขาก็มีคะแนนค่าคุณสมบัติที่ยังไม่ได้ใช้

“ อ๋อใช่ ฉันยังมีคะแนนสกิลอีกด้วยนี่นา ฉันสงสัยจริงๆว่าคะแนนสกิลจะมีประโยชน์ยังไง?”

ถังเส้าหยางเปิดหน้าจอค่าสถานะของเขา

—————————————–

ชื่อ: ถังเส้าหยาง

คลาส: ผู้ทำสัญญาวิญญาณ

อายุ: 26

สังกัด: จักรวรรดิถัง

เลเวล: 48

พรสวรรค์: ร่างกายศักดิ์สิทธิ์

คะแนนค่าคุณสมบัติ: 6

ความแข็งแกร่ง: 175

ความว่องไว: 57

พลังชีวิต: 108

สตามิน่า: 53

พลังเวทย์: 49

ประสาทสัมผัส: 8

คะแนนสกิล: 10

สกิล: [ การตรวจสอบขั้นพื้นฐาน ] ,  [ อัญเชิญวิญญาณ – เลเวล 1 ] ,  [ สัญญาวิญญาณ –  เลเวล 1 ], [ ผสานวิญญาณ – เลเวล 1 ]

วิญญาณที่ทำสัญญา (1/3): [ คาราน – นักรบผู้ยิ่งใหญ่ ]

สกิลวิญญาณ:

[สกิลคาราน]: [สงครามร่ำไห้] [ขวานคลั่ง] [แยกปฐพี]

————————————–

ถังเส้าหยางจัดสรรสามคะแนนให้กับค่าความแข็งแกร่งและอีกสามคะแนนที่เหลือกับค่าพลังชีวิต

หลังจากนั้นเขาก็กดดูคะแนนสกิล

[ คุณสามารถใช้คะแนนสกิลเพื่อเพิ่มเลเวลสกิลของคุณได้! โปรดใช้อย่างชาญฉลาดและรอบคอบ สกิลของคุณจะเป็นสิ่งที่กำหนดความอยู่รอดของคุณ!]

“ เตือนคนอื่นเขาเป็นด้วยหรอ?” ถังเส้าหยางแสดงความคิดเห็นกับการเตือนความจำของเสียงหุ่นยนต์

มันเป็นเรื่องยากที่เสียงหุ่นยนต์จะเตือนเขาถึงบางสิ่ง แต่แน่นอนว่ามันก็ไม่มีคำตอบจากเสียงหุ่นยนต์เหมือนเช่นเคย

“ โฮะโฮะ… มาดูกันหน่อยสิ…”

ถังเส้าหยางกดไปที่หนึ่งในสกิลของเขา

[ อัญเชิญวิญญาณ – เลเวล 1 (0/10) ]

“ นี่มันหมายความว่าฉันจะต้องใน 10 คะแนนเพื่อเพิ่มมันให้กลายเป็นเลเวล 2 สินะ”

จากนั้นเขาก็มองไปที่อีกสองสกิล เขาตรวจสอบว่ามันเหมือนกันหรือไม่

[ สัญญาวิญญาณ – เลเวล 1 (0/10)]

[ ผสานวิญญาณ – เลเวล 1 (0/10)]

สกิลทั้งหมดต้องใช้คะแนนสกิลเท่ากันเพื่อไปให้ถึงเลเวล 2

“ ฉันจะใช้  [อัญเชิญวิญญาณ] ดังนั้นฉันก็จะอัพเลเวลสกิลนี้ก่อน”

เขาใช้คะแนนสกิลทั้งหมดที่มีไปกับ [อัญเชิญวิญญาณ] มันไม่มีปรากฏการณ์พิเศษใดๆจากการอัพเลเวลสกิล

หลังจากนั้นเขาก็กดดูสกิลที่เขาเพิ่งอัพเลเวลไป เขาอยากรู้ว่ามันจะต้องใช้คะแนนสกิลกี่คะแนนในการอัพเลเวลสกิลของเขาให้เป็นเลเวล 3

[ อัญเชิญวิญญาณ – เลเวล 2 (0/40) ]

คะแนนสกิลที่จำเป็นเพิ่มขึ้นเป็นสี่เท่า มันเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ แต่มันก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

“ สี่ดินแดน ฉันจะต้องไปยึดครองอีกสี่ดินแดน…”

หลังจากเดินไปไม่กี่นาที ถังเส้าหยางและกลุ่มก็มาถึงถนนสายหลัก ขณะที่ทั้งสามออกมาจากสวนที่มีหมอกหนาอย่างง่ายดาย ฝูงลิงก็หยุดอยู่ที่แนวเขต

“ นายทำอะไรอยู่ มานี่สิ ฉันต้องการศพ!” ถังเส้าหยางกระตุ้นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา

อย่างไรก็ตาม การตอบสนองของไพลด์และวานรเมฆาตัวอื่นๆก็ค่อนข้างคาดไม่ถึง พวกเขาลังเลที่จะออกจากดินแดนแห่งหมอก

“ ราขาคนก่อนของเราบอกเราว่าอย่าออกไปจากดินแดนแห่งหมอก” หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ไพลด์ก็พูดขึ้น

“ และคำสั่งนั่นก็คือคำสั่งที่ทำให้ราชาองค์ก่อนตาย! นายต้องการที่จะทำตามคำสั่งของราชาองค์ก่อนหรือทำตามคำสั่งของฉัน!?”

คำพูดของถังเส้าหยางตรงไปตรงมา แตหากไม่มีกฎนั้น เขาก็รู้ดีว่าเขาคงจะไม่สามารถเอาชีวิตรอดมาจนถึงปัจจุบันได้

“ เราจะปฏิบัติตามคำสั่งของท่าน ฝ่าบาท!” เหล่าวานรเมฆาคุกเข่าลงและประกาศพร้อมกัน โดยไม่ต้องสงสัย ลิงเหล่านี้มีระเบียบวินัยที่ดี

“ เอาล่ะ ฉันไม่ต้องการคำพูดของพวกนาย แต่ฉันต้องการการกระทำของนาย! มาที่นี่และเอาศพมาไว้ที่นี่เดียวนี้!” เขาสั่งเหล่าวานรเมฆาให้รวบรวมร่างของพวกมันซึ่งเริ่มเน่ามาไว้ข้างนอก

โดยไม่ลังเลอีกต่อไป เผ่าวานรเมฆาก็ก้าวออกมาจากอาณาเขตของพวกมัน โดยมีไพลด์เป็นตัวแรกที่เดินนำออกมา

เมื่อมันมาหยุดอยู่ที่ข้างหลังของถังเส้าหยาง ไพลด์ก็แสดงความคิดเห็นด้วยความเสียดายว่า “ น่าเสียดายที่เนื้อมันเสียแล้ว”

ถังเส้าหยางรู้สึกประหลาดใจที่ได้ยินสิ่งนี้ จากคำพูดของไพลด์ มันก็ดุเหมือนว่าพวกมันจะกินพวกเดียวกันเองจริงๆ

“ เผ่าของนายขาดแคลนอาหารหรอ?” มันเป็นหน้าที่ของเขาที่จะเติมเต็มท้องของผู้คนของเขา ถ้าเขาปล่อยให้คนของเขาอดตาย เขาก็นับล้มเหลวในฐานะเจ้านายของพวกมัน

“ ขอบคุณฝ่าบาทที่ทรงเป็นห่วง เราไม่ได้อาหารขาดแคลนอีกต่อไปแล้ว เดิมทีอาหารนั้นน่าจะพอแค่เพียงสองสัปดาห์ แต่เนื่องจากท่านได้ฆ่าพวกเราไปหลายตัว ดังนั้นตอนนี้เราจึงมีอาหารเหลือเฟือแล้ว” ไพลด์ตอบตามความจริง

“ แต่ว่าการมีอาหารมากขึ้นก็ไม่ได้เป็นอันตรายอะไร!”

‘ มันตั้งใจประชดฉันหรือมันพูดจริงกันแน่ว่ะ’ นั่นคือสิ่งที่ถังเส้าหยางสงสัย

เผ่าวานรเมฆาได้ย้ายศพทั้งหมดไปยังที่สถานที่แห่งหนึ่ง ซากศพก่อตัวเป็นภูเขาสูง

“ อยู่นี่นะ ฉันจะไปคนเดียว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกนายทำแค่ดูก็พอ!” ถังเส้าหยางสั่งไพลด์

“ รับทราบ ฝ่าบาท!” ไพลด์ก้มศีรษะลง แม้ว่ามันจะอยู่สูงกว่าเจ้านายของมันก็ตาม

ถังเส้าหยางเดินไปที่ด้านหน้าภูเขาซากศพ

[ อัญเชิญวิญญาณ ]

ว้าว!

พายุทอร์นาโดสีดำพุ่งขึ้นจากด้านล่าง พายุทอร์นาโดสีดำกลืนกินซากศพในภูเขาในทันที

เปรี้ยง!

สายฟ้าสีน้ำเงินส่งเสียงดังก้องในพายุทอร์นาโดสีดำขณะที่ท้องฟ้ารอบตัวพวกเขาก็มืดลง มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับตอนที่ถังเส้าหยางอัญเชิญคาราน

ปรากฏการณ์นี้กินเวลาสิบนาทีก่อนที่พายุทอร์นาโดแห่งความมืดจะดับลงและแสดงให้เห็นร่างที่อยู่เหนือพายุทอร์นาโดสีดำ

“ ขอบคุณสำหรับอาหาร” เสียงแหบแห้งเล็ดลอดออกมาจากร่างในทอร์นาโดที่มืดมิด

ในเวลาเดียวกัน เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัวของถังเส้าหยาง

[ คุณได้อัญเชิญวิญญาณระดับสูง ซาเนียส นักดาบอสูร! ]

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Armipotent จักรวรรดิคลั่ง จักรพรรดิอมตะ 45 [ อัญเชิญวิญญาณ – เลเวล 2 ]

Now you are reading Armipotent จักรวรรดิคลั่ง จักรพรรดิอมตะ Chapter 45 [ อัญเชิญวิญญาณ – เลเวล 2 ] at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 45  [ อัญเชิญวิญญาณ – เลเวล 2 ]

 

ถังเส้าหยางขมวดคิ้ว หน้าจอค่าสถานะนี้เป็นของผู้ใต้บังคับบัญชาคนใหม่ของเขา ไพลด์

เขาไม่รู้ว่าทำไม แต่มันก็มีบางอย่างเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน มันควรจะเป็นราชาวานรเมฆา ไม่ใช่ราชาวานรอสูร

ในแถบวิวัฒนาการของหน้าต่างค่าสถานะ มันก็ระบุว่าลิงตัวนี้มีวิวัฒนาการกลายพันธุ์

‘ เป็นเพราะฉันเหรอ? หรือเพราะชื่อที่ฉันมอบให้? หรืออาจเป็นเพราะตอนนี้มันเป็นลูกน้องของฉันแล้ว?’

แน่นอนว่ามันเป็นเพียงการเดาสุ่มๆของเขาเท่านั้น มันอาจจะเป็นเพราะอย่างอื่นก็ได้ใครจะไปรู้?

ถังเส้าหยางทิ้งความคิดที่ซับซ้อนและมองไปที่ลิงหน้าตาประหลาดที่สูงห้าเมตร

“ เอาล่ะ ฉันจะมอบหมายงานแรกให้นาย”

“ เป็นเกียรติที่ได้รับคำสั่งจากท่าน ฝ่าบาท!” ไพลด์คุกเข่าลงข้างหนึ่ง

ถังเส้าหยางมองไพลด์อย่างงุนงง เช่นเดียวกับจางเหมิงเหยาและลู่อัน

ปฏิกิริยาของจางเหมิงเหยาและลู่อันดูเกินจริงไปเล็กน้อย พวกเขากระโดดถอยหลังไปหลายก้าวและมองดูไพลด์ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง

ถังเส้าหยางยังคงสงบ แต่มันก็เห็นได้ชัดว่ามันมีแวบหนึ่งนี่แววตาของเขาดูเปลี่ยนไป

“ นายพูดได้แล้วหรอ?”

“ ใช่แล้ว ฝ่าบาท! ในทันทีที่ท่านได้ประทานชื่อให้แก่ข้า ข้าก็ได้เรียนรู้ภาษาของท่านด้วย!” ไพรด์ตอบด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว

“ ดี! ดีมาก” ถังเส้าหยางพยักหน้าอย่างมีความสุขและกล่าวต่อว่า “ แบบนี้ฉันก็จะไม่จำเป็นต้องทนฟังเสียงคำรามของนายแล้ว”

ดวงตาของไพลด์กระตุกเล็กน้อย แต่มันก็ไม่ได้พูดอะไร

“ โปรดประทานคำสั่งแก่ข้า ฝ่าบาท!”

“ อ๋อใช่ ฉันเกือบลืมไปเลย งานแรกของนายคือพาศพของราชาองค์ก่อนออกไปข้างนอก ฉันต้องการซากศพสำหรับสกิลของฉัน”

ถังเส้าหยางชี้ไปที่ร่างกายที่ถูกตัดศีรษะ

คำสั่งนี้ทำให้ไพลด์พูดไม่ออก กระนั้นมันก็ยังงทำตามคำสั่งอย่างไม่ขัดขืน

“ โอ้ แล้วก็เอาอีกสามศพมาด้วย ฉันจะโชว์พลังให้นายดู!”

หลังจากนั้นเขาเดินกลับไปที่ถนนสายหลัก หลังจากเก็บรวบรวมร่างแล้ว มันก็ถึงเวลาเรียกวิญญาณดวงใหม่

ใช่แล้ว เหตุผลที่ถังเส้าหยางรวบรวมศพของวานรเมฆาก็เพื่อเอาไว้ใช้กับสกิลของเขา  [อัญเชิญวิญญาณ]

เขาต้องการลองเรียกวิญญาณออกมาโดยใช้เครื่องเซ่นสังเวยต่างๆ เมื่อตอนที่เขาเรียกคารานออกมา เขาก็ใช้ซอมบี้ไปเป็นจำนวนมาก และตอนี้เขาก็กำลังจะใช้ซากวานรเมฆาแทน

เขาคิดว่าข้อเสนอที่แตกต่างนั้นจะทำให้วิญญาณที่อัญเชิญออกมานั้นแตกต่างกันด้วย ด้วยเหตุนี้เอง ครั้งนี้เขาจึงลองทดสอบโดยใช้ซากของวานรเมฆาเป็นเครื่องเซ่นสังเวยแทน

ระหว่างทาง เขาก็จำได้ว่าเขาได้เลเวลอัพขึ้นมา 3 เลเวล และเขาก็มีคะแนนค่าคุณสมบัติที่ยังไม่ได้ใช้

“ อ๋อใช่ ฉันยังมีคะแนนสกิลอีกด้วยนี่นา ฉันสงสัยจริงๆว่าคะแนนสกิลจะมีประโยชน์ยังไง?”

ถังเส้าหยางเปิดหน้าจอค่าสถานะของเขา

—————————————–

ชื่อ: ถังเส้าหยาง

คลาส: ผู้ทำสัญญาวิญญาณ

อายุ: 26

สังกัด: จักรวรรดิถัง

เลเวล: 48

พรสวรรค์: ร่างกายศักดิ์สิทธิ์

คะแนนค่าคุณสมบัติ: 6

ความแข็งแกร่ง: 175

ความว่องไว: 57

พลังชีวิต: 108

สตามิน่า: 53

พลังเวทย์: 49

ประสาทสัมผัส: 8

คะแนนสกิล: 10

สกิล: [ การตรวจสอบขั้นพื้นฐาน ] ,  [ อัญเชิญวิญญาณ – เลเวล 1 ] ,  [ สัญญาวิญญาณ –  เลเวล 1 ], [ ผสานวิญญาณ – เลเวล 1 ]

วิญญาณที่ทำสัญญา (1/3): [ คาราน – นักรบผู้ยิ่งใหญ่ ]

สกิลวิญญาณ:

[สกิลคาราน]: [สงครามร่ำไห้] [ขวานคลั่ง] [แยกปฐพี]

————————————–

ถังเส้าหยางจัดสรรสามคะแนนให้กับค่าความแข็งแกร่งและอีกสามคะแนนที่เหลือกับค่าพลังชีวิต

หลังจากนั้นเขาก็กดดูคะแนนสกิล

[ คุณสามารถใช้คะแนนสกิลเพื่อเพิ่มเลเวลสกิลของคุณได้! โปรดใช้อย่างชาญฉลาดและรอบคอบ สกิลของคุณจะเป็นสิ่งที่กำหนดความอยู่รอดของคุณ!]

“ เตือนคนอื่นเขาเป็นด้วยหรอ?” ถังเส้าหยางแสดงความคิดเห็นกับการเตือนความจำของเสียงหุ่นยนต์

มันเป็นเรื่องยากที่เสียงหุ่นยนต์จะเตือนเขาถึงบางสิ่ง แต่แน่นอนว่ามันก็ไม่มีคำตอบจากเสียงหุ่นยนต์เหมือนเช่นเคย

“ โฮะโฮะ… มาดูกันหน่อยสิ…”

ถังเส้าหยางกดไปที่หนึ่งในสกิลของเขา

[ อัญเชิญวิญญาณ – เลเวล 1 (0/10) ]

“ นี่มันหมายความว่าฉันจะต้องใน 10 คะแนนเพื่อเพิ่มมันให้กลายเป็นเลเวล 2 สินะ”

จากนั้นเขาก็มองไปที่อีกสองสกิล เขาตรวจสอบว่ามันเหมือนกันหรือไม่

[ สัญญาวิญญาณ – เลเวล 1 (0/10)]

[ ผสานวิญญาณ – เลเวล 1 (0/10)]

สกิลทั้งหมดต้องใช้คะแนนสกิลเท่ากันเพื่อไปให้ถึงเลเวล 2

“ ฉันจะใช้  [อัญเชิญวิญญาณ] ดังนั้นฉันก็จะอัพเลเวลสกิลนี้ก่อน”

เขาใช้คะแนนสกิลทั้งหมดที่มีไปกับ [อัญเชิญวิญญาณ] มันไม่มีปรากฏการณ์พิเศษใดๆจากการอัพเลเวลสกิล

หลังจากนั้นเขาก็กดดูสกิลที่เขาเพิ่งอัพเลเวลไป เขาอยากรู้ว่ามันจะต้องใช้คะแนนสกิลกี่คะแนนในการอัพเลเวลสกิลของเขาให้เป็นเลเวล 3

[ อัญเชิญวิญญาณ – เลเวล 2 (0/40) ]

คะแนนสกิลที่จำเป็นเพิ่มขึ้นเป็นสี่เท่า มันเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ แต่มันก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

“ สี่ดินแดน ฉันจะต้องไปยึดครองอีกสี่ดินแดน…”

หลังจากเดินไปไม่กี่นาที ถังเส้าหยางและกลุ่มก็มาถึงถนนสายหลัก ขณะที่ทั้งสามออกมาจากสวนที่มีหมอกหนาอย่างง่ายดาย ฝูงลิงก็หยุดอยู่ที่แนวเขต

“ นายทำอะไรอยู่ มานี่สิ ฉันต้องการศพ!” ถังเส้าหยางกระตุ้นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา

อย่างไรก็ตาม การตอบสนองของไพลด์และวานรเมฆาตัวอื่นๆก็ค่อนข้างคาดไม่ถึง พวกเขาลังเลที่จะออกจากดินแดนแห่งหมอก

“ ราขาคนก่อนของเราบอกเราว่าอย่าออกไปจากดินแดนแห่งหมอก” หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ไพลด์ก็พูดขึ้น

“ และคำสั่งนั่นก็คือคำสั่งที่ทำให้ราชาองค์ก่อนตาย! นายต้องการที่จะทำตามคำสั่งของราชาองค์ก่อนหรือทำตามคำสั่งของฉัน!?”

คำพูดของถังเส้าหยางตรงไปตรงมา แตหากไม่มีกฎนั้น เขาก็รู้ดีว่าเขาคงจะไม่สามารถเอาชีวิตรอดมาจนถึงปัจจุบันได้

“ เราจะปฏิบัติตามคำสั่งของท่าน ฝ่าบาท!” เหล่าวานรเมฆาคุกเข่าลงและประกาศพร้อมกัน โดยไม่ต้องสงสัย ลิงเหล่านี้มีระเบียบวินัยที่ดี

“ เอาล่ะ ฉันไม่ต้องการคำพูดของพวกนาย แต่ฉันต้องการการกระทำของนาย! มาที่นี่และเอาศพมาไว้ที่นี่เดียวนี้!” เขาสั่งเหล่าวานรเมฆาให้รวบรวมร่างของพวกมันซึ่งเริ่มเน่ามาไว้ข้างนอก

โดยไม่ลังเลอีกต่อไป เผ่าวานรเมฆาก็ก้าวออกมาจากอาณาเขตของพวกมัน โดยมีไพลด์เป็นตัวแรกที่เดินนำออกมา

เมื่อมันมาหยุดอยู่ที่ข้างหลังของถังเส้าหยาง ไพลด์ก็แสดงความคิดเห็นด้วยความเสียดายว่า “ น่าเสียดายที่เนื้อมันเสียแล้ว”

ถังเส้าหยางรู้สึกประหลาดใจที่ได้ยินสิ่งนี้ จากคำพูดของไพลด์ มันก็ดุเหมือนว่าพวกมันจะกินพวกเดียวกันเองจริงๆ

“ เผ่าของนายขาดแคลนอาหารหรอ?” มันเป็นหน้าที่ของเขาที่จะเติมเต็มท้องของผู้คนของเขา ถ้าเขาปล่อยให้คนของเขาอดตาย เขาก็นับล้มเหลวในฐานะเจ้านายของพวกมัน

“ ขอบคุณฝ่าบาทที่ทรงเป็นห่วง เราไม่ได้อาหารขาดแคลนอีกต่อไปแล้ว เดิมทีอาหารนั้นน่าจะพอแค่เพียงสองสัปดาห์ แต่เนื่องจากท่านได้ฆ่าพวกเราไปหลายตัว ดังนั้นตอนนี้เราจึงมีอาหารเหลือเฟือแล้ว” ไพลด์ตอบตามความจริง

“ แต่ว่าการมีอาหารมากขึ้นก็ไม่ได้เป็นอันตรายอะไร!”

‘ มันตั้งใจประชดฉันหรือมันพูดจริงกันแน่ว่ะ’ นั่นคือสิ่งที่ถังเส้าหยางสงสัย

เผ่าวานรเมฆาได้ย้ายศพทั้งหมดไปยังที่สถานที่แห่งหนึ่ง ซากศพก่อตัวเป็นภูเขาสูง

“ อยู่นี่นะ ฉันจะไปคนเดียว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกนายทำแค่ดูก็พอ!” ถังเส้าหยางสั่งไพลด์

“ รับทราบ ฝ่าบาท!” ไพลด์ก้มศีรษะลง แม้ว่ามันจะอยู่สูงกว่าเจ้านายของมันก็ตาม

ถังเส้าหยางเดินไปที่ด้านหน้าภูเขาซากศพ

[ อัญเชิญวิญญาณ ]

ว้าว!

พายุทอร์นาโดสีดำพุ่งขึ้นจากด้านล่าง พายุทอร์นาโดสีดำกลืนกินซากศพในภูเขาในทันที

เปรี้ยง!

สายฟ้าสีน้ำเงินส่งเสียงดังก้องในพายุทอร์นาโดสีดำขณะที่ท้องฟ้ารอบตัวพวกเขาก็มืดลง มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับตอนที่ถังเส้าหยางอัญเชิญคาราน

ปรากฏการณ์นี้กินเวลาสิบนาทีก่อนที่พายุทอร์นาโดแห่งความมืดจะดับลงและแสดงให้เห็นร่างที่อยู่เหนือพายุทอร์นาโดสีดำ

“ ขอบคุณสำหรับอาหาร” เสียงแหบแห้งเล็ดลอดออกมาจากร่างในทอร์นาโดที่มืดมิด

ในเวลาเดียวกัน เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัวของถังเส้าหยาง

[ คุณได้อัญเชิญวิญญาณระดับสูง ซาเนียส นักดาบอสูร! ]

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+